PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : 5 อุบัติเหตุเที่ยวบิน ที่ไม่นา่จะเกิดขึ้น!!



Speedy-K.O.
24th April 2015, 21:58
http://image.ohozaa.com/i/650/rdv9Bq.jpg

1. เที่ยวบิน : Aloha Airlines Flight 243
รุ่น : Boeing 737-297
ผู้รอดชีวิต :94
ผู้เสียชีวิต : 1

On April 28, 1988 เที่ยวบิน 243 เป็นเที่ยวบินปกติจากเกาะไฮโลไปสู่โฮโนลูลู เมืองหลวงของรัฐฮาวาย เครื่องได้ทำการบินขึ้นโดยปรกติ และไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น ระหว่างที่บินอยู่ที่ระดับความสูง 34,000 ฟุต เพดานเครื่องด้านหน้าได้เกิดระเบิดขึ้นและหลุดออกไป ทำให้เกิดรูขนาดใหญ่บนหัวของผู้โดยสารที่นั่งอยู่ตรงส่วนนั้นของเครื่องบิน ประตูห้องนักบินได้หลุดออกมาและทำให้นักบินเห็นท้องฟ้าเปิดได้เมื่อหันหลังดู ท้ายสุดแล้วเครื่องบินสามารถทำการลงจอดฉุกเฉินได้ โดยมีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ถูกแรงของความกดอากาศดูดออกจากตัวเครื่องเมื่อเพดานฉีกออก





http://image.ohozaa.com/i/a4d/mwKQuX.jpg

2. เที่ยวบิน : China Airlines Flight 006
รุ่น : Boeing 747SP-09
ผู้รอดชีวิต :274
ผู้เสียชีวิต : 0

เที่ยวบิน 006 เป็นไฟลท์จากกรุงไทเป ไปยังนครลอสแองเจลิส
หลังจากบินมาได้กว่าสิบชั่วโมง และกำลังเข้าใกล้จุดหมาย พร้อมด้วย 274 ชีวิตบนเครื่อง เครื่องยนต์เครื่องที่ 4 เกิดดับ และเครื่องก็ได้ดิ่งลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว
เครื่องบินหมุนพุ่งลงมา 10,000 ฟุตภายใน20วินาที ก่อนกัปตันจะกู้สถาณการณ์ได้และลงจอดที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโกได้อย่างปลอดภัย





http://image.ohozaa.com/i/4c8/WWprmM.jpg

3. เที่ยวบิน : Air Canada Flight 143
รุ่น : Boeing767-200
ผู้รอดชีวิต :69
ผู้เสียชีวิต : 0

วันที่ 23 กรกฎาคม 1983 เครื่องบินโบอิ้ง 767-233 ของสายการบินแอร์แคนาดา เที่ยวบินที่ 143 บินจากมอนทรีอัลไปยังเมืองเอ็ดมันตัน ขณะที่บินไปได้ครึ่งทาง ที่ความสูง 41,000 ฟิต น้ำมันก็เกิดหมดกลางอากาศ ท่ามความงงงวยของเหล่านักบิน เมื่อเครื่องยนต์ค่อยๆ ดับไปทีละตัว นักบินจึงตัดสินใจว่าจะลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองวินนิเพกซึ่งใกล้ที่สุด โดยหวังว่าเครื่องยนต์ที่เหลืออยู่คงพอช่วยพยุงให้ไปถึงสนามบินได้
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เครื่องยนต์ทั้งหมดเกิดดับสนิท ถึงตอนนี้สนามบินวินนิเพกอยู่ไกลเกินเกินกว่าจะไปถึงเสียแล้ว เวลาก็เหลือน้อยนิด เครื่องบินใหม่เอี่ยมหนัก 120 ตัน ราคา 40 ล้านดอลลาร์ กำลังร่วงลงด้วยความเร็ว 600 เมตร/นาที กัปตันโรเบิร์ต (บ๊อบ) เพียร์สัน และนักบินที่หนึ่ง เมาริซ ควินทอล ต่างพากันหาสถานที่ที่พอจะลงจอดได้ใกล้ที่สุด จนพบสนามบินเก่าแห่งหนึ่งในเมืองกิมลี่ ซึ่งตอนนี้แปลงร่างไปเป็นสนามแข่งรถ ถึงมันจะอยู่ห่างออกไปเป็นร้อยไมล์ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น จำต้องลองเสี่ยงดวงสักครั้ง!

แม้กัปตันเพียร์สันจะเป็นนักเล่นเครื่องร่อนมือฉมัง จึงมีทักษะที่จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ได้ ทว่า ขณะนั้นในสนามแข่งรถกำลังจัดงานวันครอบครัว มวลมหาประชาชนกำลังตั้งโต๊ะปิคนิคกันอย่างสนุกสนาน ชาวบ้านตาดำๆ หารู้ไม่ว่า อีกไม่กี่อึดใจกำลังจะเกิดเรื่องลุ้นระทึกเกิดขึ้นในระยะประชิดตัว
กัปตันเพียร์สันบังคับเครื่องบินที่ตอนนี้กลายสภาพเป็นเครื่องร่อนไร้เครื่องยนต์ ร่อนลงสนามบินกิมลี่อย่างทุลักทุเล ท่ามกลางผู้มาปิคนิคที่แตกฮือหนีตายกันจ้าละหวั่น แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ผลจากการสอบสวนพบว่า เครื่องบินใหม่เอี่ยมนี้เป็นลำแรกของแอร์แคนาดา ที่เปลี่ยนหน่วยเติมน้ำมันจาก “แกลลอน/ปอนด์” มาเป็น “ลิตร/กิโลกรัม” และตอนที่มาตรคำนวณระดับน้ำมันด้วยคอมพิวเตอร์ก็ดันเสีย แถมยังเป็นเครื่องรุ่นรุ่นแรกที่ไม่ต้องมีวิศวกรประจำขึ้นบินไปกับเครื่องด้วย ทำให้นักบินและช่างซ่อมบำรุงต้องช่วยกันจิ้มเครื่องคิดเลขเพื่อคำนวณเปลี่ยนหน่วยน้ำมันกันเอง ด้วยความงงจึงคำนวณผิดด้วยกันทั้งคู่

นี่ยังนับว่าโชคดีมากที่ไม่มีใครต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แต่หลังจากนั้นมา เครื่องบินเครื่องนี้ก็เลยมีชื่อเล่นว่า “เครื่องร่อนกิมลี่” มาจนทุกวันนี้ และยังถูกใช้ต่อมาจนถึงปี 2008 และปีที่แล้วเพิ่งนำออกมาประมูลขาย กัปตันเพียร์สันได้รับการยกย่องในฝีมือร่อนเครื่องบิน เพราะหลังจากนั้น มีนักบินหลายคนลองจำลองสถานการณ์นี้กับคอมพิวเตอร์ฝึกบิน พบว่า ไม่มีใครลงจอดได้อย่างปลอดภัยเหมือนกับที่เขาทำได้เลย





http://image.ohozaa.com/i/eb9/Ua92Fs.jpg

4. เที่ยวบิน : British Airways Flight 5390
รุ่น : BAC 1-11 528FL
ผู้รอดชีวิต : 87
ผู้เสียชีวิต : 0

ริติช แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ 5390 นำผู้โดยสารและลูกเรือจากสนามบินเบอร์มิงแฮม ไปยังปลายทางสนามบินมาลากาของสเปน
เวลา 7.33 น. หลังจากเครื่องเทคออฟขึ้นเรียบร้อย ในระหว่างที่ลูกเรือกำลังเตรียมเสิร์ฟอาหารเช้าอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังออกมาจากห้องนักบิน กระจกกระจกหน้าต่างด้านซ้ายติดที่นั่งของกัปตันหลุดกระเด็นออกจากตัวเครื่อง ทำให้ร่างของกัปตัน ทิม แลนแคสเตอร์ ถูกดูดหลุดออกนอกหน้าต่างไปครึ่งตัว เดชะบุญที่เข่าข้างหนึ่งยังติดอยู่กับแผงควบคุม สภาพในตอนนี้คือท่อนบนอยู่นอกเครื่อง ส่วนท่อนล่างติดแหง็กอยู่ในเครื่อง ท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือกและแรงลม 500 ไมล์/ชม. และด้วยออกซิเจนที่เบาบางทำให้เขาหมดสติกลางอากาศ

ในจังหวะนั้น นักบินผู้ช่วย อลาสแตร์ แอตชิสัน ยังคงควบคุมเครื่องไว้ได้ ส่วนสจ๊วตหนุ่ม ไนเจล อ็อกเดน วิ่งเข้ามาช่วยคว้าขาอีกข้างของลูกพี่ไว้ได้ทัน แต่ความโกลาหลในห้องนักบินก็ยังดำเนินต่อไป เพราะนักบินผู้ช่วยแอตชิสันติดต่อวิทยุกับหอบังคับการบินได้อย่างลำบาก แต่ยังโชคดีที่สามารถกู้ Autopilot กลับคืนมาได้ ส่วนอ็อกเดนเมื่อดึงยื้อร่างกัปตันไว้สักพักก็เริ่มจะหมดแรง ลูกเรือคนอื่นจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วย ตอนนี้หน้าของกัปตันโดนลมแรงพัดกระแทกหน้าต่างจนช้ำไปหมด ตอนนั้นทุกคนต่างคิดว่าลูกพี่ใหญ่ต้องไม่รอดแน่แล้ว ซึ่งแอตชิสันก็ตะโกนสั่งทุกคนว่าห้ามปล่อยร่างกัปตันเด็ดขาดไม่ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะร่างอาจปลิวไปยังเครื่องยนต์ทางซ้ายจนเกิดระเบิดและตายกันยกลำได้
ในที่สุด แอตชิสันก็ได้รับแจ้งจากหอควบคุมให้นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเซาท์แธมตันได้ ในขณะที่ลูกเรือก็สามารถดึงเข่าของกัปตันให้หลุดจากแผงควบคุม เพื่อให้แอตชิสันนำเครื่องลงได้ แต่ลูกเรือที่เข้ามาช่วยก็ยังคงกอดขาลูกพี่ใหญ่ไว้ต่อไป และแล้วในเวลา 7.55 น. เครื่องก็ลงจอดอย่างปลอดภัยบนรันเวย์ 2 โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ยกเว้นกัปตันแลนแคสเตอร์ผู้น่าสงสาร แม้เขาจะเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็สามารถกลับมาบินได้อีกครั้งภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือน ก่อนจะเกษียณแล้วย้ายไปบินให้กับ EasyJet Airline ตั้งแต่ปี 2005

จากการสอบสวนพบว่า มีการซ่อมบำรุงกระจกกันลมก่อนการบิน น็อตยึดกระจกที่มีปัญหาทั้งหมด 90 ตัวนั้น 84 ตัวเล็กไป ส่วนอีก 6 ตัวก็สั้นไป (แม้จะสั้นไม่มากก็เหอะ) แต่เนื่องจากกระจกหน้าต่างของเครื่องบินนั้นเขาติดจากด้านนอก เวลาบินแรงดันอากาศจึงไปกดที่ตัวน็อตโดยตรง เมื่อน็อตไม่ได้มาตรฐานจึงทำให้กระจกหลุดกระเด็น ส่วนสาเหตุที่ใช้น็อตผิดไซส์ก็เพราะ เจ้าช่างซ่อมบำรุงดันใช้น็อตเก่าไปเทียบขนาดกับน็อตในคลังพัสดุ แทนที่จะเช็กกับคู่มือซ่อมบำรุง... กรรมแท้ๆ!





http://image.ohozaa.com/i/433/v8bVBO.jpg

5. เที่ยวบิน : US Airways 1549
รุ่น : Airbus A320-214
ผู้รอดชีวิต :155
ผู้เสียชีวิต : 0

เที่ยวบินจากท่าอากาศยานลากวาร์เดีย ในนิวยอร์กซิตี สู่ สนามบินนานาชาติชาร์ล็อตต์ดักลาส ในชาร์ลอตต์ นอร์ธแคโรไลนา เมื่อวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 2009 เมื่อเครื่องบินร่อนลงสู่แม่น้ำฮัดสัน หลังจากการร่อนขึ้นจากพื้นดินได้เพียง 6 นาที ขณะที่ไต่สู่ระดับความสูงที่ 3,200 ฟุต (980 ม.) หลังจาก 2 นาทีหลังจากร่อนขึ้นจากพื้นดิน ลูกเรือรายงานจากทางวิทยุว่า แอร์บัส เอ 320 เข้าชนกับฝูงนก ก่อให้เกิดเครื่องยนต์ดับทั้ง 2 เครื่อง ลูกเรือและผู้โดยสารรอดทุกคน



Credit : http://board.postjung.com/872600.html http://image.free.in.th/z/iz/zorori04.gif

nakuno
24th April 2015, 22:32
มันก็ไม่ได้เกินขึ้นทุกวันนิเนาะ - -*

Mcarmy
24th April 2015, 22:35
เยี่ยมเลยครับ ผมชอบมาก อ่านอะไรแบบนี้ เหมือนได้ อ่านเหตุการณ์แปลกๆ หรือ อะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีจริงเกิดขึ้นจริง :cool:

AV Fanboy
24th April 2015, 23:05
นักบินเขาเก่งกันจังนะ ผมนี่แค่เล่นว่าวในห้องก็ตายไปหลายล้านละ :p

jjjena1234
26th April 2015, 14:48
อันสุดท้ายนี้ คนยืนในน้ำ economy คนบนเรือ first class สินะ 555555555555555555555

Fairy
26th April 2015, 22:03
คนต่างชาติ : กัปตันนี้สุดยอดจริงๆ ขอบคุณในความสามารถที่ทำให้ไอรอดมาได้

คนไทย : Gu เห็นแม่ย่านางฟ่ะ อ้าวพวกเรา กราบบบบบบบบบบบ

artie
27th April 2015, 00:32
สมัยนี้ไม่มีแล้วละครับ ปรับปรุงอะไรไปหลายๆอย่างแล้วละ ถ้าจะมีก็แต่พวกก่อการร้าย 5555