PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : SSD ดาวรุ่งเขย่า HDD



Runn
15th January 2016, 11:20
https://www.scbeic.com/stocks/product/o0x0/ws/gq/eaybwsgq9i/ThinkstockPhotos-153863706_s.jpg

ความต้องการ HDD ในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง ปัจจุบัน SSD มีแนวโน้มที่จะเข้ามาแทนที่ HDD ในอัตราที่รวดเร็วมากขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ เนื่องจาก SSD มีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถอ่านและบันทึกข้อมูลได้เร็วกว่า ทั้งนี้ ยอดขายของ SSD มีการเติบโตสอดคล้องกับความต้องการใช้งานข้อมูลจำนวนมากและรวดเร็วขึ้น ในขณะที่ยอดขาย HDD ทั่วโลกกลับทรงตัวหรือหดตัวลงเล็กน้อย มีการประมาณการว่ายอดขาย SSD จะมีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 5 ของยอดขาย HDD ในปี 2015 อย่างไรก็ตาม หากมีการนำเอา SSD เข้ามาแทนที่ HDD ในสัดส่วนที่มากขึ้น ก็จะส่งผลกระทบในด้านลบต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทย เพราะไทยมีสัดส่วนการส่งออก HDD และชิ้นส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ของยอดการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด หรือคิดเป็นประมาณ 5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศ

คอมพิวเตอร์และ data center ที่มีความต้องการความเร็วสูงเปลี่ยนมาใช้ SSD มากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่มองว่า SSD ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 5 - 10 ปีจึงจะมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันมีการคาดการณ์ใหม่ว่าอาจเป็นไปได้ภายใน 2 - 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการคาดการณ์จากต้นทุนต่อหน่วยความจำของ SSD ที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ส่วนต่างของต้นทุนต่อหน่วยความจำระหว่าง HDD และ SSD หายไป โดยเฉพาะในส่วนการใช้งานที่มีความต้องการความเร็วสูงในคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะในกลุ่ม ultra book และ hyper scale data center นอกจากนี้ ยังพบว่า การนำ SSD เข้ามาใช้ในคอมพิวเตอร์ขององค์กรยังช่วยลดต้นทุนค่าบำรุงรักษาได้ถึง 20% อีกทั้งความเสียหายจากการใช้งานก็เกิดขึ้นน้อยกว่า HDD เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหวส่งผลให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น ในขณะที่การใช้ SSD ใน data center ก็มีข้อได้เปรียบในเรื่องของการประมวลผลที่รวดเร็วกว่า สามารถตอบสนองการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม hyper scale data center อย่าง Facebook หรือ Amazon ที่ความแตกต่างในหนึ่งวินาทีหมายถึงความแตกต่างในโอกาสการสร้างรายได้ โดยในช่วงปี 2013 - 2014 Amazon มียอดคำสั่งซื้อต่อวินาทีเพิ่มขึ้นจากประมาณ 1,000 รายการเป็น 1,300 รายการ ดังนั้น แม้ว่าในปัจจุบัน SSD ยังคงมีต้นทุนต่อหน่วยความจำที่สูงกว่า HDD แต่เมื่อคิดต้นทุนรวมกับค่าบำรุงรักษา จะเห็นได้ว่าการใช้งาน SSD สามารถให้ต้นทุนที่ต่ำกว่า HDD ได้ในบางกรณี และยิ่งถ้าหากพิจารณาผลได้ผลเสียจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นก็อาจให้ความคุ้มค่ามากกว่าด้วย

ผู้เล่นรายหลักของโลกปรับตัวแล้วเพื่อตอบสนองความต้องการ SSD ที่เพิ่มขึ้น ในอดีตผู้ผลิต HDD มองว่า HDD จะเป็นอุปกรณ์หลักเพียงอย่างเดียวในการจัดเก็บข้อมูลและมองว่า SSD จะถูกใช้เป็นเพียงหน่วยบันทึกข้อมูลระยะสั้นอย่าง thumb drive หรือ RAM เท่านั้น แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตรายใหญ่หลายรายต่างปรับตัวเสนอสินค้าและบริการด้านการจัดเก็บข้อมูลโดยนำเอา SSD มาใช้มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์สำคัญให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูง ยกตัวอย่าง กรณีของ Western Digital เข้าซื้อ SanDisk ซึ่งเป็นผู้ผลิต SSD จนทำให้รายได้รวมของทั้งกลุ่มมีสัดส่วนจาก SSD คิดเป็นกว่า 30% หรือ Toshiba เองก็มีแผนขยายกำลังการผลิต SSD เพื่อจับกลุ่มตลาด data center ส่วน Seagate ก็เพิ่ม SSD เข้ามาในรายการสินค้าและสร้างข้อตกลงร่วมกับ Micron ซึ่งเป็นผู้ผลิต SSD โดยที่ Micron เองก็จับมือกับ Intel เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มความจุของการบันทึกข้อมูลที่มีชื่อเรียกว่า 3D Xpoint ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ Samsung Electronics ก็มีแผนขยายกำลังการผลิต SSD มากขึ้น โดยตั้งเป้าว่ารายได้จาก SSD จะมีสัดส่วนมากกว่ารายได้จากโทรศัพท์มือถือภายในปี 2017 โดยทางบริษัทได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีแบบใหม่ 3D NAND ซึ่งคล้ายกับ 3D Xpoint ของ Micron/Intel โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมาเช่นกัน และถัดมา ในช่วงต้นปีนี้เอง ทาง Samsung Electronics ก็ได้มีการเปิดตัว Portable SSD ที่มีความจุได้สูงถึง 2 TB เทคโนโลยีใหม่ทั้งสองดังกล่าวถูกมองว่าจะช่วยเร่งให้ต้นทุนต่อหน่วยความจำของ SSD ลดลงไปได้รวดเร็วมากขึ้นอีกจากความจุที่เพิ่มขึ้น

ไทยยังไม่มีส่วนร่วมในเครือข่ายการผลิต SSD อย่างไรก็ดีการผลิต NAND ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ SSD ยังคงมีการกระจุกตัวอยู่ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นหลัก เนื่องมาจากมีมูลค่าขั้นต่ำในการลงทุนที่สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยความจำเป็นด้าน economy of scale ทำให้เป็นเรื่องยากที่ไทยจะสามารถดึงดูดการลงทุนใหม่แบบนี้ได้ นอกจากนั้น SSD ก็ไม่ได้ใช้ส่วนประกอบเดิมและมีจำนวนมากเหมือนกับส่วนประกอบของ HDD ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนสำหรับ HDD ในปัจจุบันจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางธุรกิจ หากแนวโน้มความต้องการของ HDD ลดลงหรือถูกแทนที่ด้วย SSD ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่มีข้อจำกัดในการประยุกต์ใช้ร่วมกับสินค้าอื่น

https://www.scbeic.com/stocks/product/o0x0/wl/e4/eaydwle4ev/infographic_HDD_SSD.jpg

ผู้ผลิตชิ้นส่วน HDD ต้องเตรียมมองหาตลาดใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หากมีการใช้ SSD ทดแทน HDD มากขึ้น อีไอซีมองว่าผู้ประกอบการไทยที่ผลิตส่วนประกอบของ HDD ควรเริ่มกระจายโครงสร้างสินค้าเพื่อลดสัดส่วนการพึ่งพาความต้องการจาก HDD โดยวิธีหนึ่งทำได้โดยการต่อยอดทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมที่เป็นสินค้าหรือบริการใหม่ เช่น ผู้ที่เคยผลิตมอเตอร์ขนาดเล็กก็อาจสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับปรุงหรือดัดแปลงเพื่อรองรับการประยุกต์ใช้งานในหุ่นยนต์หรือเครื่องมือทางการแพทย์ได้

manhantun01
15th January 2016, 12:31
ถ้าราคาลงมาอีกซักหน่อยนะ ได้เขย่ากระเป๋า ควักตังค์ซื้อแน่ เหอะๆ

liger0000
15th January 2016, 12:38
มันอยู่ที่ราคา HDD ถูกมากๆ

kengooo
15th January 2016, 12:46
รองมี SSD แล้วชินกับมันถ้าไปเล่นเครื่องอื่นจะรู้สึกว่ามันช้ามากๆ :o สำหรับผมนะ

sattawat1979
15th January 2016, 12:58
ผมดูที่ราคาเป็นหลักครับ อันไหนถูกกว่าก็เอาอันนั้นแหละ 555

tonkaw456
15th January 2016, 13:45
SSD นั้นดีกว่าแต่ ถ้าพูดถึงราคายังไงก็คงแพ้ HDD อีกหน่อยราคาลง ก็จะเปลี่ยนไปใช้ SSD กัน :pleasantry

kaipoppop
15th January 2016, 14:20
SSD ราคาลดลงเรื่อยๆ ปัจจุบันก็มีหลายรุ่นหลายราคาซะเหลือเกิน บางครั้งก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าตัวไหนดีแตกต่างกันยังไง
ผมว่าหลายคนที่อ่านทันยุด 80 นะ :p เล่นเกมส์ไหนที ก็เปลี่ยนแผ่นที มันก็ฟินไปอีกแบบนะ :hehe

eeexx
15th January 2016, 14:21
รอเวลาราคาลงเท่านั้นสำหรับSSD

DevilBoy
15th January 2016, 16:06
ซื้อ120gb ไว้ลงวินโด

gsuhplyf
15th January 2016, 16:16
อยากได้ถูกๆไปดูของทาง Deva ครับ

Hannah
15th January 2016, 16:48
ข้อมูลเก่าแล้ว SSD ตอนนี้ขนาดสูงสุด 12TB ผลิตโดย Samsung

NeungOnePiece999
18th January 2016, 14:02
ผมอยากได้ของที่ถูกๆมีคุณภาพ

Namies123
21st January 2016, 01:16
เดี๋ยวนี้ก็ไม่แพงมากแล้วนะผมว่า ใช้ 120GB ประมาณ 2000 ต้นๆไว้ลงวินโดว์แล้วก็เก็บอะไรได้นิดหน่อย

ส่วนข้อมูลใหญ่ๆหรือเกมก็ยังอยู่ใน HDD เหมือนเดิม เพราะรู้สึกว่าถึงจะลงเกมใน SSD ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกว่ามันจะต่างจากลงใน HDD เท่าไหร่

ONE OK ROCK
21st January 2016, 02:36
แพงและความจุน้อย

ส่วนตัวSSD มัหน้าที่ ไว้บูต windows ไวขึ้น รันโปรแกรมไวขึ้น แต่เพราะความจุน้อยราคาแพง

ถ้ามันเท่า HDD เช่น 500gb 2000บาทสมมุติน่ะ

HDD ก็จะขายไม่ได้อีก กลายเป็นว่า HDD ตกยุคคแทน

เพราะฉนั้นคนทั่วโลกก็ใช้HDDตามปกติอยุ่แล้ว รอช้านิดช้าหน่อย ไม่เกินเสี้ยวนาทีหรอก ส่วนการใช้งานไม่ต่างกันมาก เห็นผลแค่ บูตไวขึ้นรันโปรแกรมไวขึ้น

boycoh
27th January 2016, 18:04
เปลี่ยนมาใช้ SSD โหลดเกม/ปิด/เปิดเครื่อง/เปลี่ยนฉาก ฯลฯ เร็วขึ้นมาก 256Gb ถือว่า มาตรฐานของ notebook สมัยนี้เลย เพราะเพียงพอสำหรับ steam ประมาณ 30-50 เกม ขนาดเกมไม่เกิน 10 Gb ส่วนมากไม่ถึงอยู่แล้ว