PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ปรึกษาปัญฆาชีวิตหน่อยคับทะเลาะกับแม่เรื่องปริญญาตรีใบที่2



liger0000
4th June 2016, 21:23
เนื่องจากผมตกงานมาเป็นเวลานาน จึงตัดสินใจทำป.ตรีใบที่2เพื่อจะได้มีวิชาชีพติดตัวไว้ทำงานบ้างเพราะรัฐศาสตร์เรียนมามันตกงาน เลยเลือกเรียนคณะจิตวิทยา แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียนไหวหรือไม่ เพราะผมเป็นแอสเพอร์เกอรฺหรือออทิสติกอ่อนๆ ซึ่งมีปัญหาร้ายแรงเรื่องการเข้าสังคมกับพฤติกรรมซ้ำๆ(ของผมเล่นเกมเล่นเน็ตได้ทั้งวันทั้งคืน) นอกจากนี้ยังมีปัญหากับแม่เรื่องมหาวิทยา ผมจะเรียนรามแต่แม่ผมให้เรียนที่วิทยาลัยเซนต์หลุย เพราะไม่มีปัญหาเรื่องที่ฝึกงาน+อยู่กับหมอ แต่ต้องอยู่หอ+ต้องเรียนกับเด็ก+ไหนจะต้องรับมือกับระบบรุ่นพี่รุ่นน้องอีก ส่วนผมอยากเรียนรามเพราะใกล้บ้าน+มีคนหลายช่วงอายุเรียนราม+ไม่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง

แม่ผมกลัวไม่จบคับถ้าเรียนราม แถมปัญหาหนักคือวันสอบข้องเขียนเซนหลุยตรงกับวันรับสมัครวันสุดท้ายของรามพอดี ซึ่งเท่ากับว่าผมไปสมัครรามไม่ทัน ผมก็หนักใจเลยคับหรือผมไม่เรียนมันเลยดี

ILoVePaNgYa
5th June 2016, 00:21
เรียนรามดีกว่านะ เพราะเราสามารถเอาวิชาที่เราเคยเรียนแล้วตอนป.ตรีมาเทียบโอนได้ในบางรายวิชา ใจจริงอยากให้ต่อโทไปเลยครับ เพราะเป็นโอกาสให้หางานกับอัพฐานเงินเดือนได้มากกว่าตรีเยอะ ส่วนเรื่องงาน สายรัฐศาสตร์มีเปิดรับสมัครเยอะอยู่นะ

sattawat1979
5th June 2016, 00:53
อย่าให้การเรียนรัฐศาสตร์มานั้นมันเสียเปล่าเลยครับ ลองหางานอีกทีเถอะ อย่างน้อยเราก็มีวุฒิ ป. ตรี เงินเดือนก็คงไม่น่าเกลียดหรอก

เอางานไว้ก่อนครับ ส่วนเรื่องเรียนต่อค่อยมาทีหลัง ส่วนเรียนต่อจิตวิทยา ลองคิดดูอีกทีว่าเหมาะกับเราหรือไม่? เรียนไหวรึป่าว? จบมาแล้วแน่ใจไหมว่าจะไม่ตกงานอีก?

ทำงานไปก่อนแล้วเรียนรามเสริมไปด้วยก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีเรียนต่อโทไปเลยก็ดีครับ แต่อย่าลืมว่างานต้องมาก่อนครับ เรียนมาทีหลัง

sattawat1979
5th June 2016, 01:39
แล้วถ้า จขกท คิดว่าตัวเองมีปัญหาทางด้านบุคลิกภาพและการเข้าสังคมอย่างที่ว่ามา อยากให้มองหางานธุรกิจส่วนตัวทำไว้ด้วย

เพราะงานที่ไหนก็ใช้ทักษะการเข้าสังคมทั้งนั้น ถ้าปรับตัวไม่ได้ ก็ต้องทำงานอิสระเป็นของตัวเองครับ

คืออยากให้ค้นพบงานที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดน่ะครับ ยิ่งเร็วยิ่งดี ไม่อยากให้เสียเวลากับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเราครับ


บางคนเรียนมาตั้งมากมาย แต่สุดท้ายค้นพบว่าตนเองไม่เหมาะกับสายงานนั้นๆ เลยหันไปทำอาชีพอื่นก็มีเยอะแยะ อย่างนี้ผมว่ามันน่าเสียเวลาที่เรียนมาน่ะครับ

kurolykan
5th June 2016, 04:03
ว่าไงดี กรณีนี้ผมว่าไม่น่าไปเรียนใหม่นะ น่าจะหาธุรกิจส่วนตัว หรือออกหาประสบการณ์ชีวิตเอาดูจะคุ้มกว่า

ผมว่าถ้าไม่มีปัญหาเรื่องวุฒิก็หาอะไรที่เราไม่เคยได้ลองดีกว่า มันจะช่วยให้มุมมองของเรากว้างขึ้น นั่นก็หมายความว่าเราจะเห็นโอกาศต่างๆ มากขึ้นด้วย

liger0000
5th June 2016, 08:45
ปัญหาคือทำธุรกิจส่วนตัวก็ไม่รู้จะทำอะไรไง ธุรกิจส่วนตัวนี้มันไม่ใช่คิดจะทำก็ทำได้นะคับต้องมีทุน ต้องมีตลาดหรือต้องต้องSkillอาชีพ ไหนจะการหาสินค้าอีก แล้วสมัยนี้การแข่งขันสูงมาก ด้วย สมัครงานเองบอกตรงๆผมก็ไม่รู้จะไปสมัครงานอะไรคับ จบรัฐศาสตร์ถ้าไม่สอบราชการซึ่งดันสอบแต่วิชาที่ไม่ถนัด ก็ไปเอกชนพวกHRผมเองไม่มีสกิลด้านนี้เลยรัฐศาสตร์ไม่เคยสอนสิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์เลยนะจริงๆสอนแต่ทฤษฎีการปกครอง และที่สำคัญผมไม่ชอบงานเอกสารคับ

Msguzs
5th June 2016, 09:12
ผมจำได้ว่า มีนักจิตวิทยาท่านหนึ่งเคยบอกว่า (นักจิตวิทยาขุนเขา)
การที่เราอดทนอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งเหล่านั้นจะเปลี่ยนเราให้กลายเป็นใครคนหนึ่ง ที่สามารถที่จะรับมือกับปัญหาต่างๆได้


ลองนึกถึงกระดาษสีขาวๆ อะครับ แล้วเราเอาดินสอไปแต้มจุดลงในกระดาษ คุณเอาแต่จะติ๊กจุดที่คุณชอบ มันก็มีแค่จุดที่คุณชอบลงในกระดาษ
แต่ถ้าหากคุณยอมอดทน ติ๊กจุดที่คุณไม่ชอบลงไป คุณจะสามารถลากจุดเหล่านั้นให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างที่สวยงามขึ้นมาได้

การอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบ ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีประโยชน์เลยนะครับ แต่มันจะช่วยเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนที่ดีมากพอที่จะทำอะไรก็แล้วแต่
ให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

liger0000
5th June 2016, 11:02
ผมไม่อยากอยู่กับสิ่งที่ผมไม่ชอบไปตลอดหรอกคับ ถ้าไงก็หนีไม่พ้นลาออกมา แล้วไงต่อกลับไปหาสิ่งที่ไม่ชอบเหมือนเดิมหรอ แทนที่จะทำในสิ่งที่เราชอบรอบเดียวก็ดีกว่าเยอะ อีกอย่างมันจะไม่ผ่านHRด้วยอะดิตอนไปสัมพาร์ทงาน

Msguzs
5th June 2016, 13:44
อาจเพราะว่า ชีวิตของคนเราไม่ได้มีโอกาศที่จะทำในสิ่งที่ตนเองชอบไปเสียทุกคนหรอกมั้งครับ ผมจึงพูดออกไปแบบนั้น

การทนอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบไปตลอดมันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นในกรณีที่คุณไม่สามารถเลือกสิ่งที่ตนเองชอบได้

ผมเลยอยากให้คุณลองเปิดใจ อยู่กับสิ่งที่ตนเองไม่ได้รักดูสักครั้ง หากมันจำเป็นจริงๆ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถเลือกในสิ่งที่ตนเองชอบได้ ก็แล้วแต่คุณนั้นแหละครับ

ผมเนี้ยอยากเข้า วิศวะคอมพ์ มาก แต่ไม่สามารถสอบเข้าได้ ด้วยระยะเวลาและค่าใช้จ่าย + กับผมไม่อยากเป็นภาระพ่อแม่นานนัก ผมจึงเข้าคณะที่ผมพอจะเข้าได้
ถ้าผมตั้งใจว่าจะเรียนเพื่อหวังว่าจะได้ทำงานมีเงินเดือน จะได้มาดูแลชีวิตตัวเองแล้วเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ด้วย ผมว่าเท่านี้ก็ถือว่าดีพอแล้ว (อันนี้ความคิดส่วนตัวผมนะครับ ผม่ไม่สามารถบังคับคุณได้)

BoonTew
5th June 2016, 15:17
เรียนรามก็ดีนะ ต่างคนต่างเรียนไม่ต้องวุ่นวายในการเข้าสังคม

ถ้าไปเรียนในมหาลัยเจอกลุ่มเพื่อน-รุ่นพี่ที่เข้าใจก็ดีไป เพราะอาการมากหรือน้อยคนจะมองเป็นอย่างเดียวคือ ออทิสติกทุกกลุ่ม=เอ๋อ

มีส่วนน้อยที่เข้าใจ ถ้าไปอยู่ในสังคมที่คนขาดความเข้าใจจะถูกมองเป็นคนแปลกแยกเอาได้

winzxcvb00
5th June 2016, 16:49
รามสามารถรับสมัครทางอินเตอร์เน็ตหรือไปรษณีย์ได้นะครับถ้าไม่สามารถไปสมัครได้ที่รามหัวหมากหรือรอเปิดรับสมัครรอบสองก็ได้ครับ

ส่วนรามถ้าเจอเพื่อนรุ่นพี่ดีก็ดีไปครับถ้าเจอแย่ก็แย่ครับ ผมเจอเพื่อนรุ่นพี่ดีเลยรู้สึกโชคดีเหมือนกันช่วยกันเรียนไม่มีว๊ากไม่มีบังคับ5555555

liger0000
5th June 2016, 17:10
แปปนะรามนี้มีรุ่นพี่รุ่นน้องด้วยหรอคับ รามนี้มันไม่ได้ต่างคนต่างเรียนหรอ

sattawat1979
5th June 2016, 19:09
อันที่จริงไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็หนีสังคมไม่พ้นหรอกครับ จะเป็นเรียน หรือ ทำงาน ก็เจอสังคมเหมือนกัน

ในวัยเรียน บางทีเราอาจเลือกที่จะไม่เอาใครก็ได้ ผมก็เคยทำมาแล้ว

อย่างตอนผมเรียน ผมก็ไม่เอารุ่นพี่รุ่นน้อง และไม่ร่วมกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น ยังไม่มีใครมายุ่งกับผมเลย ผมก็ยังเรียนจบมาได้สบายๆครับ :yes


แต่สำหรับวัยทำงานแล้ว เราหนีสังคมไม่พ้นครับ ยังไงก็ต้องเจออยู่ดี ซ้ำร้ายจะยิ่งเลวร้ายกว่าตอนเรียนซะอีก - -''

เรื่องบางอย่าง เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้นะครับ ต้องเผชิญกับมันน่ะครับ ต้องยอมฝืนใจตัวเองบ้าง เพื่อความอยู่รอด ชีวิตจริงมันก็แบบนี้แหละ



อาจเพราะว่า ชีวิตของคนเราไม่ได้มีโอกาศที่จะทำในสิ่งที่ตนเองชอบไปเสียทุกคนหรอกมั้งครับ ผมจึงพูดออกไปแบบนั้น

การทนอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบไปตลอดมันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นในกรณีที่คุณไม่สามารถเลือกสิ่งที่ตนเองชอบได้

ผมเลยอยากให้คุณลองเปิดใจ อยู่กับสิ่งที่ตนเองไม่ได้รักดูสักครั้ง หากมันจำเป็นจริงๆ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถเลือกในสิ่งที่ตนเองชอบได้ ก็แล้วแต่คุณนั้นแหละครับ

ผมเนี้ยอยากเข้า วิศวะคอมพ์ มาก แต่ไม่สามารถสอบเข้าได้ ด้วยระยะเวลาและค่าใช้จ่าย + กับผมไม่อยากเป็นภาระพ่อแม่นานนัก ผมจึงเข้าคณะที่ผมพอจะเข้าได้
ถ้าผมตั้งใจว่าจะเรียนเพื่อหวังว่าจะได้ทำงานมีเงินเดือน จะได้มาดูแลชีวิตตัวเองแล้วเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ด้วย ผมว่าเท่านี้ก็ถือว่าดีพอแล้ว (อันนี้ความคิดส่วนตัวผมนะครับ ผม่ไม่สามารถบังคับคุณได้)


ใช่ครับ :cool: คนที่ผ่านชีวิตมาก็คิดแบบนี้ทั้งนั้น

หลายครั้งที่ต้องทนทำสิ่งที่ไม่ชอบ เพราะมันเลือกไม่ได้ แต่เพื่อความอยู่รอด มันก็ต้องทำ

ลองคิดถึงคนที่มีครอบครัวครับ มีภาระต้องรับผิดชอบหลายอย่าง แต่ก็ต้องทนทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ เมื่อยังไม่เจอทางเลือกอื่นที่ดีกว่า มันก็ต้องทนกันต่อไปครับ

แต่ยังไงก็ตามความทุกข์ไม่อยู่กับเราตลอดไป ต้องมีสักวันที่เป็นของเรา ผมเชื่ออย่างนั้น :)

winzxcvb00
5th June 2016, 20:27
แปปนะรามนี้มีรุ่นพี่รุ่นน้องด้วยหรอคับ รามนี้มันไม่ได้ต่างคนต่างเรียนหรอ
อันนี้แล้วแต่คนครับรุ่นพี่ของผมนี้หมายถึงรุ่นพี่ในชมรมที่ผมเข้าครับ ส่วนต่างคนต่างเรียนอันนี้ก็ทำได้ครับถ้าจะเรียนอย่างเดียวครับ ที่รามไม่มีบังคับครับ