fournarak
14th October 2011, 16:25
http://image.ohozaa.com/t/4b2/KAyka.jpg
หลังจาก ที่พายุ นาลเก ได้สงบลง ก็มีลูกใหม่ เข้ามาชื่อว่า บันยัน..ภาพนี้เป็นภาพแสดงแผนที่อากาศครับ อัพเดทล่าสุด 14 ตุลาคม 2554 เวลา 07.00น.และ มุ่งหน้าขึ้นจีนไปทางฮ่องกงเรียบร้อย
ดูจากภาพหลาย คน อาจจะงง มันเส้นอะไรกันนักกันหนา ( ผมก้อ งงแหล่ะตอนแรก ) งั้นอธิบาย เลยละกัน..
สัญลักษณ์ที่เป็น ตัว H คือแทน ค่าความกดอากาศ สูง (high pressure) ส่วน L คือความกดอากาศต่ำ (low pressure) สังเกตตรงตัว แอล จะมี 2 เส้นคู่ หมายถึง ร่องความกดอากาศ คือทางเดินของลม ที่จะผ่านบริเวณนั้นตลอด
และจุดที่พายุลูกนี้อยู่ คือ สัญลักษณ์ ตัว D แทนคำว่า ดีเปรสชั่น คือ กำลังของพายุลูกนี้ ตัวเลขข้างใต้สัญลักษณ์ 1006-1008 คือ ค่าความกดอากาศ ใช้หน่วยเป็น kpa. หรือ กิโลปาสคาล และถัดลงมา คือพิกัดพายุ และความเร็วของลมพายุ
แนวทางของพายุพาดผ่านฟิลิปปินส์ มาจากทางทิศตะวันออก มาทางตะวันตก และได้ขึ้นไปทางทิศเหนือแล้ว (เหมือนไอ้ นาลเก เลย ชอบเที่ยวเหนือ ^^) สงสัยกันไหม ว่าทำไมมันมาจากทางมหาสมุทรแปซิฟิก..
เพราะว่าแถบเส้นศูนย์สูตรของโลกนั้น เปนพื้นที่ความกดอากาศต่ำ และส่วนใหญ่ เป็นเขตร้อนในมหาสมุทร ซึงเป็นน้ำ ซึ่งคายความร้อนได้ดีกว่าดินมากกว่าหลายเท่า เมื่อความร้อนนั้นได้ลอยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ เจออากาศซึ่งเย็นกว่า..เพราะทุกๆ
1 km.ขึ้นไป อุณหภูมิจะลดลงประมาณ 6.5 องศา...
ทำให้ความกดอากาศแปรปรวน และเกิดลม ซึ่งมากมายแค่ไหนนั้นผมก็ไม่รู้ แต่มากพอที่จะก่อตัวให้เกิดพายุได้..
ซึ่งลมมรสุม เขตร้อนนั้นจะก่อตัวบนพื้นดินหรือน้ำและลมจะหมุนทวนเข็มนาฬิกา ...
http://image.ohozaa.com/t/492/anCbE.jpg
ถ้าพายุเกิดในเขตแรงกดอากาศสูงจะก่อบนอากาศ หมุนตามเข็มนาฬิกา..
http://image.ohozaa.com/t/537/fkUtd.jpg
สาเหตุที่พายุมันมักขึ้นเหนือ (สังเกตุมา 2 ลูกละ) ผมคิดว่าลมจากทางฝั่งทะเลอันดามัน พัดผ่านช่วยให้ เส้นทางพายุเปลี่ยน ....โชคดีจังแห่ะ ^^
หากหมดฤดู มรสุมนี้ไปก็จะเข้าสู้หน้าหนาว ทีนี้ล่ะ ลมจากจีน ก็จะผ่านลงมาทำให้หนาวดึ๋งๆ หนักกันกว่าเก่า... ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันทุกๆคนนะ สงสารคนน้ำท่วม T_T บ้านผมก็ท่วม แต่สูบออกไหว ช่วยๆ กันนะครับ คยไทยหัวใจลูกทุ่ง O_o
(เกี่ยวไรกันฟระ)
credit : http://www.tmd.go.th/index.php
หลังจาก ที่พายุ นาลเก ได้สงบลง ก็มีลูกใหม่ เข้ามาชื่อว่า บันยัน..ภาพนี้เป็นภาพแสดงแผนที่อากาศครับ อัพเดทล่าสุด 14 ตุลาคม 2554 เวลา 07.00น.และ มุ่งหน้าขึ้นจีนไปทางฮ่องกงเรียบร้อย
ดูจากภาพหลาย คน อาจจะงง มันเส้นอะไรกันนักกันหนา ( ผมก้อ งงแหล่ะตอนแรก ) งั้นอธิบาย เลยละกัน..
สัญลักษณ์ที่เป็น ตัว H คือแทน ค่าความกดอากาศ สูง (high pressure) ส่วน L คือความกดอากาศต่ำ (low pressure) สังเกตตรงตัว แอล จะมี 2 เส้นคู่ หมายถึง ร่องความกดอากาศ คือทางเดินของลม ที่จะผ่านบริเวณนั้นตลอด
และจุดที่พายุลูกนี้อยู่ คือ สัญลักษณ์ ตัว D แทนคำว่า ดีเปรสชั่น คือ กำลังของพายุลูกนี้ ตัวเลขข้างใต้สัญลักษณ์ 1006-1008 คือ ค่าความกดอากาศ ใช้หน่วยเป็น kpa. หรือ กิโลปาสคาล และถัดลงมา คือพิกัดพายุ และความเร็วของลมพายุ
แนวทางของพายุพาดผ่านฟิลิปปินส์ มาจากทางทิศตะวันออก มาทางตะวันตก และได้ขึ้นไปทางทิศเหนือแล้ว (เหมือนไอ้ นาลเก เลย ชอบเที่ยวเหนือ ^^) สงสัยกันไหม ว่าทำไมมันมาจากทางมหาสมุทรแปซิฟิก..
เพราะว่าแถบเส้นศูนย์สูตรของโลกนั้น เปนพื้นที่ความกดอากาศต่ำ และส่วนใหญ่ เป็นเขตร้อนในมหาสมุทร ซึงเป็นน้ำ ซึ่งคายความร้อนได้ดีกว่าดินมากกว่าหลายเท่า เมื่อความร้อนนั้นได้ลอยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ เจออากาศซึ่งเย็นกว่า..เพราะทุกๆ
1 km.ขึ้นไป อุณหภูมิจะลดลงประมาณ 6.5 องศา...
ทำให้ความกดอากาศแปรปรวน และเกิดลม ซึ่งมากมายแค่ไหนนั้นผมก็ไม่รู้ แต่มากพอที่จะก่อตัวให้เกิดพายุได้..
ซึ่งลมมรสุม เขตร้อนนั้นจะก่อตัวบนพื้นดินหรือน้ำและลมจะหมุนทวนเข็มนาฬิกา ...
http://image.ohozaa.com/t/492/anCbE.jpg
ถ้าพายุเกิดในเขตแรงกดอากาศสูงจะก่อบนอากาศ หมุนตามเข็มนาฬิกา..
http://image.ohozaa.com/t/537/fkUtd.jpg
สาเหตุที่พายุมันมักขึ้นเหนือ (สังเกตุมา 2 ลูกละ) ผมคิดว่าลมจากทางฝั่งทะเลอันดามัน พัดผ่านช่วยให้ เส้นทางพายุเปลี่ยน ....โชคดีจังแห่ะ ^^
หากหมดฤดู มรสุมนี้ไปก็จะเข้าสู้หน้าหนาว ทีนี้ล่ะ ลมจากจีน ก็จะผ่านลงมาทำให้หนาวดึ๋งๆ หนักกันกว่าเก่า... ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันทุกๆคนนะ สงสารคนน้ำท่วม T_T บ้านผมก็ท่วม แต่สูบออกไหว ช่วยๆ กันนะครับ คยไทยหัวใจลูกทุ่ง O_o
(เกี่ยวไรกันฟระ)
credit : http://www.tmd.go.th/index.php