PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : เคล็ดลับการตั้งรหัสผ่านอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่โดนแฮกง่าย ๆ



heidi
21st November 2016, 23:04
http://i.imgur.com/X4cj47a.jpg
(http://www.cmprodev.com/blog/how-to-set-strong-password.html)


ปัจจุบันนี้มีหลายคนที่โดนแฮกเฟสบุ๊ค ซึ่งปัญหานั้นไม่ได้จากระบบของ facebook หรอกครับ แต่มาจากความประมาทของผู้ใช้งานเอง ซึ่งเกิดจากการตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย, ใช้รหัสผ่านเดิมกับทุก ๆ เว็บไซต์ จึงทำให้ง่ายต่อการโดนแฮกนั่นเอง เพราะระบบของเฟสบุ๊คหรืออะไรก็แล้วแต่นั้นไม่สามารถแฮกได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน


หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินข่าวผู้ใช้งาน facebook (https://www.facebook.com/) โดนแฮกเฟส หลาย ๆ เคสที่โดนกันมาจากการใช้รหัสผ่านเดียวกันทุกเว็บไซต์ ซึ่งมันง่ายต่อการโดนแฮกอย่างยิ่ง เช่น ท่านไปเล่นเว็บบอร์ดเว็บนึงแล้วสมัครสมาชิกไว้ และมีการตั้งรหัสเดียวกับรหัสที่ใช้กับเฟสบุ๊คของท่าน และสมมุติว่าเจ้าของเว็บเปิดดูข้อมูลอีเมล์และรหัสผ่านของท่านในฐานข้อมูลเว็บของเขาก็เสร็จเลย โดนแฮกแบบง่าย ๆ มาดูวิธีการตั้งรหัสผ่านอย่างไรให้ปลอดภัยสูงกันเลยดีกว่า

พิมพ์พาสเวิร์ดภาษาอังกฤษด้วยคีย์บอร์ดภาษาไทย


วิธีนี้เราก็เพียงแค่เปลี่ยนภาษาของคีย์บอร์ดเป็นภาษาอังกฤษแต่เราพิมพ์ข้อความด้วยภาษาไทย เหมือนกับว่าเราจะพิมพ์ภาษาไทยแต่ดันลืมเปลี่ยนภาษานั้นเอง ตัวอย่าง เช่น "isylzjko4kKkvy'dAk" ก็คือคำว่า "รหัสผ่านภาษาอังกฤษ" นั่นเอง ลองทำกันดู เป็นวิธีการตั้งรหัสผ่านที่จะทำให้เราได้รหัสผ่านภาษาอังกฤษที่ยากแก่การคาดเดานั่นเอง แต่ต้องระวังอย่างให้ใครรู้คีย์เวิร์ดของเราได้

รหัสผ่านควรเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก, ตัวพิมพ์ใหญ่ และมีตัวเลขผสมด้วย เพื่อยากต่อการคาดเดา

หลาย ๆ เว็บไซต์ในปัจจุบันนี้มีการบังคับให้ผู้ใช้งานตั้งรหัสผ่านโดยการผสมรหัสผ่านด้วยอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็ก ตัวใหญ่ และตัวเลข ถึงแม้ว่าจะดูยุ่งยากแต่การตั้งรหัสผ่านด้วยกฏเกณฑ์นี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกและถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย

รหัสผ่านยิ่งยาวยิ่งปลอดภัย

การตั้งรหัสผ่านยิ่งยาวยิ่งปลอดภัยและยากต่อการคาดเดา รหัสผ่านควรมีความยาวขั้นต่ำ 10 ตัวอักษร ขึ้นไป ยิ่งยาวยิ่งดีเพราะว่าในการแฮกรหัสผ่านนั้นจะมีการใช้โปรแกรมช่วยแฮกรหัสผ่าน ซึ่งใช้โปรแกรมพวกนี้จะใช้วิธีการรันรหัสผ่านไปทีละตัวอักษรจาก a ไปถึง z จาก A ไปถึง Z วนไปเรื่อย ๆ ทีละตำแหน่ง ยิ่งเราตั้งรหัสผ่านยิ่งยาวทำให้โปรแกรมต้องใช้เวลามากขึ้นหลายพันเท่าตัวในการรันเพื่อแฮกรหัสผ่านของเรา ซึ่งหากเว็บไซต์ที่เราใช้งานมีระบบการป้องกันที่ดีก็จะทำให้สามารถปิดกั้นการสุ่มรหัสผ่านโดยโปรแกรมเหล่านี้ได้ทันท่วงที

ไม่ควรใช้โปรแกรมช่วยสร้างรหัสผ่าน

ที่ไม่แนะนำวิธีนี้เพราะว่าผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปนั้นไม่ได้มีความสามารถในการตรวจสอบโปรแกรมนั้น ๆ ว่าโปรแกรมได้มีการแอบส่งรหัสผ่านของเราไปยังฐานข้อมูลของโปรแกรมนั้น ๆ หรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นจะเป็นภัยมหันต์เลยทีเดียวเชียว อีกเหตุผลคือการใช้โปรแกรมช่วยสร้างรหัสผ่านเราจะได้รหัสผ่านที่จำได้ยาก ต้องเซฟก็ไว้เป็นไฟล์ไว้เตือนความจำ ทำให้เสี่ยงต่อการโดนเปิดอ่านจากคนอื่นได้ง่าย




วิธีการตั้งรหัสผ่านอย่างไรให้ปลอดภัยสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://tech.mthai.com/tips-technic/43045.html