PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : 10 อันดับ ปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้



007: BloodStone
20th October 2011, 11:34
http://image.dek-d.com/23/1018955/102966253


อันดับ 10 : กะโหลกแก้ว

ปริศนาจากชาวมายัน กุญแจที่จะไขทุกคำตอบในโลกของเรากะโหลกแก้วคริสตัลลึกลับ 5 ใน 13 ทั้งหมดที่ถูกค้นพบ ถูกปลุกฟื้นตำนานเรื่องเล่าความเป็นไปของมนุษย์จากอดีตกาลสู่ภพหน้า แหล่งบรรจุสรรพสิ่งดั่งคำทำนาย บัดนี้ยังคลุมเครือ ท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการ และเทคโนโลยีในอดีตไม่น่าเชื่อว่ากะโหลกแก้วจะสร้างขึ้นเองได้ หากเป็นความจริงอันชวนตะลึง! ดัำงตำสันนิษฐานจากกะโหลกแก้วที่ค้นพบข้อมูลในนั้นจะเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างคนอดีตสู่ คนยุคปัจจุบัน(ไปดูอินเดียน่าก็ได้มีเหมือนกัน)


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966254

อันดับ 9 : ภาพลายเส้นนาซคา

ลายเส้นพิศวงกับปริศนาจากภาพเหล่านี้ คือข้อกังขาของที่มาของเรื่องทั้งหมด รูปภาพสัตว์ขนาดใหญ่ สุนัข แมงมุม ปลาวาฬ ดอกไม้ ลิง เป็ดและนกกางปีกบนชายฝั่งทางใต้ของเปรู เป็นคำถามที่คนพื้นเมืองในอดีตสร้างขึ้นเพื่อผูกปมเร ื่องให้ใคร่คิด บ้างเชื่อเรื่องทางเดินสู่แหล่งน้ำของชนเผ่าต่างๆ บ้างก็เชื่อมนุษย์ต่างดาวใช้สถานที่แห่งนี้ลงจอดยานบินหรือมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของปฏิทินดาราศาสตร์ที่ซับซ้อน แม้จะหาข้อสรุปไม่ได้ สมมติฐานทั้งหมดก็ช่วยให้เราสนใจภาพวาดเหล่านั้นยิ่งขึ้น


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966255

อันดับ 8 : สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า

ความลึกลับ อาถรรพณ์ และเรื่องจริงที่เกิดขึ้นยังคงกล่าวขานถึงสู่หายนะกับสถานที่แห่งนี้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มฤตยูกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหตุการณ์ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ความจริงที่เครื่องบิน เรือ ที่ผ่านบริเวณสามเหลี่ยมมรณะถูกดูดกลืนสูญหายไปอย่าง ไร้ร่องรอย โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่สภาพอากาศ และทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีข้อสรุปคำตอบ หรือข้ออ้างให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแต่ปริศนาที่ยังค้างคาใจผู้คนจนถึงปัจจุบัน


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966257

อันดับ 7 : บทพระบัญญัติศักดิ์สิทธิ์

คำตอบกับการเปิดทางสู่โลกพระเจ้า การค้นคว้าทางศาสนาครั้งยิ่งใหญ่ปริศนาศิลาจารึกที่อยู่ข้างในบพระบัญญัติ คือ เครื่องมือติดต่อถึงพระเจ้าโดยตรง คำสอนศาสนา บทองคำ วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่องค์พระศาสดาตระหนักรู้ อาจรอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเปิดเผย แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966258

อันดับ 6 : โอเรกอน วอร์เท็กซ์

พบกับสถานที่ที่ไม่ลึกลับแต่มันเป็นภาพลวงตาที่หาคำตอบไม่ได้ แนวแม่เหล็กที่ไขว้กันอยู่ใต้พื้นดิน สนามพลังผิดปกติ เมื่อคุณเข้าไปยืนในนั้นจะรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาด จุดที่แม่เหล็กไขว้ทับกัน คุณรู้สึกได้ถึงความกดดัน มันผลักกันและกันและหมุนรอบๆจนคุณทนไม่ไหว การยืด หรือหดตัวอย่างน่าใจหาย ไม่นับสถานที่แห่งนี้ยังมี โรงนาปริศนา ที่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ตัวของคุณจะเอียงลูกกอล์ฟกลิ้งขึ้นเนินเองได้ ไม้กวาดตั้งได้เอง จนคุณอยากออกจากประสบการณ์แปลกประหลาดเหล่านี้สู่โลกแห่งความจริงที่ทุกอย่างพิสูจน์ได้


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966260

อันดับ 5 : นักฆ่ารัดคอแห่งบอสตัน

คดีแห่งปริศนา ฆาตกรรมอำพราง เมื่อหลายปีก่อนถูกคลี่คลาย แต่เร็วๆนี้ถูกนำมาสอบสวนใหม่ ชนวนที่ฆาตกรที่จับได้จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือ ? คดีที่โด่งดังไปทั่วอ่าวแบ็คเบย์ในบอสตัน นักฆ่าใจโหด ข่มขืนและฆ่ารัดคอผู้หญิง 11 คนตายในบ้านตัวเอง คดีนี้ปิดฉากไปโดยตัวผู้รับสารภาพ อัลเบิร์ต เดอซาลโว แต่ต่อมาคดีฆาตกรรมปริศนาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เมื่อครอบครัวของหญิง 1 ในผู้ตายพบหลักฐานที่ส่อพิรุธ การรื้อคดีเป็นได้แค่การบังหน้าของตำรวจไม่มีความรับผิดชอบใดใดเพิ่มมากขึ้น เดอซาลโว จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือเปล่า หรือว่านักฆ่าจอมโหดผู้นี้ยังคงลอยนวลต่อไป จนบัดนี้มันยังคงเป็นปริศนา ???


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966263

อันดับ 4 : สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส

บนโลกนี้มีเรื่องให้พิสูจน์อีกมาก อย่างที่เรากำลังจะพาไปเยี่ยมเยือนสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบล็อกเนสในสก็อตแลนด์ เรื่องเล่าที่โด่งดังเกี่ยวกับ สัตว์รูปร่างประหลาด เนสซี่ ตัวใหญ่ประมาณ 15 – 40 ฟุต มักโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งคราว หลายคนสนใจติดตามจับภาพสัตว์ประหลาดตัวนี้ แล้วบางอย่างก็เป็นจริง มีภาพของวัตถุลึกลับเคลื่อนไหวอยู่ในทะเลสาบชื่อก้อง นี้แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ถึงอย่างไรคนหลายคน ต่างเชื่อว่า เนสซี่ สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ คอยาว มีครีบ นั้นมีอยู่จริง แต่เราจะได้เห็นหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเนสซี่เอง


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966264


อันดับ 3 : คร็อพเซอร์เคิล

วงกลมประหลาด รูปร่างแปลกๆหลายรูป ที่ยังคงต้องการคำตอบเหตุแห่งการเกิด ชาวเมืองเอฟเบอรี่คุ้นเคยกับมันดี วงขนาดใหญ่ ยาวกว่า 200 เมตร กว้างร่วม 40 เมตร เกิดกระจัดกระจายไปทั่วทุ่งนา นำความเสียหายปนความสงสัยให้กับเจ้าของที่นาบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก มีทฤษฎีหลายทฤษฎีถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตอบคำถามของ คร็อพ เซอร์เคิล มันอาจเป็นข้อความ หรือภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างมนุษย์ต่างดาว หรืออาจเป็นแค่วงกลมที่สร้างขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจแค่นั้นเองก็ได้


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966267

อันดับ 2 : ยักษ์แห่งเกาะอีสเตอร์

เดินทางมาสัมผัสเกาะปริศนาที่โดดเดี่ยว เวิ้งว้างกลางมหาสมุทร รูปสลักหินลึกลับขนาดมหึมากว่า 800 รูป เรียงรายเต็มฝั่งทั่วเกาะ ทั้งที่ไม่มีคนอยู่ รูปสลักนี้มาจากไหน ? สร้างขึ้นได้อย่างไร ? อาจเป็นชาวโพลีนีเชียนชนพื้นเมืองที่มาตั้งรกรากเมื่ อ ค.ศ. 400 เป็นผู้สร้างขึ้น แต่ทำไมถึงสร้าง และอยู่บริเวณนี้ได้อย่างไรยังคงเป็นปริศนาดำมืด ด้วยวิวัฒนาการความรู้ของคนในสมัยอดีต เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยกหินที่หนักกว่า 75 ตันมาไว้ตามชายฝั่งได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงกระนั้นรูปปั้นเหล่านี้ก็ยังคงถูกทิ้งไว้เพื่อค้น หาคำตอบต่อไป


http://image.dek-d.com/23/1018955/102966269

อันดับ 1 : แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์

มันคงเป็นปริศนาต่อไป และน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะ ปริศนาอันดับ 1 ที่ยังคงค้างคาใจเรา ฆาตกรต่อเนื่อง แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ อาชญากรระดับโลกที่ยังจับตัวไม่ได้ การสังหารอย่างโหดมของเหยื่อหลายรายติดๆกันถูกก ล่าวขานถึง ย่านอีสต์เอนด์ของลอนดอนสร้างชื่อกระฉ่อนถึงความน่าสะพรึงกลัว ไม่เพียงแต่ไร้วี่แววของฆาตกร การพิสูจน์ หรือทดสอบด้านนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร จึงไม่มีเหตุผล หรือหลักฐานหนักแน่นในการมัดฆาตกร จากคดีฆาตกรรมที่โด่งดัง ทำให้มีผู้ต้องสงสัยเกิดขึ้นมากมายหลักฐานสำคัญต่างๆ ถูกผุดขึ้นมาภายหลัง จะเป็นไปได้มั้ยที่จะสืบสาวหาฆาตกรตัวจริงได้ แม้ฆาตกรคนนั้นคงไม่มีชีวิตอยู่ให้จับแล้วแต่ก็ยังดีที่ได้รู้ว่าฆาตกรตัวจริงผู้นั้นคือใคร ?

suppermama
20th October 2011, 11:40
อันดับที่3ถูกเปิดโปงแล้วครับ ว่าเป็นฝีมือของชาวนาคนนึงครับ
ดูจากสป้อน :)

sarifboy
20th October 2011, 12:06
เอาเข้าแล้ว Jack the ripper เขาเก่งเนอะตำรวจทำอารายไม่ได้เลย

poomzayo98
20th October 2011, 12:09
เฮียเเจ็คเขาน่า "เด้ดซะมอเล่" ไปเเล้วล่ะมั้งครับป่สานนี้เเล้ว

007: BloodStone
20th October 2011, 12:29
เฮียเเจ็คเขาน่า "เด้ดซะมอเล่" ไปเเล้วล่ะมั้งครับป่สานนี้เเล้ว

แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ตายไปแล้วน่ะครับ แต่จับตัวไม่ได้

rockpooh
20th October 2011, 12:53
แจ็ค เดอะ ริปเปอร์


ศพที่ 1 ฆาตกรรมที่ ไวท์แชมเพล
ไวท์แชมเพล เป็นเขต ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 90,000 คนเป็นเด็กและ หญิงสาว 70,000 คน เหยื่อ รายแรกคือ แมรี่ แอนน์ นิคอลส์ เกิดเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 1845 เธอแต่งงาน กับ วิลเลี่ยม นิคอลส์ ในปี 1864 มีลูกด้วยกัน 5 คน เขาและแมรี่ แยกทางกัน แมรี่ จึงไปเป็น โสเภณี เพื่อเลี้ยงดูชีพ ในระหว่างปี 1883-87 เธอไปอยู่กับพ่อของเธอ คืนเกิดเหตุ วันที่ 30 ส.ค. 1888 ฝนตกหนักตลอดทั้งวัน มีผู้พบเห็นแมรี่ เดินอยู่ใน ถนนไวท์แชมเพล เวลา 02.30 น. ขณะแมรี่ กำลังคุยกับเพื่อนร่วมห้องของเธอ อีมีลี่ หล่อนเห็นว่า แมรี่ เมามาก จึงบอกให้แมรี่ กลับไปยังห้องพัก แต่แมรี่ยังไม่กลับ อีกประเดี๋ยวฉันจะกลับ
03.40 น. ขณะที่ พนักงานขับรถกำลังเดินไปตามถนน บั๊คโรว์ เขาเห็นอะไรบางอย่างที่ประตูโรงเก็บม้า ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นผ้ายางวางกองอยู่ จึงเข้าไปดูเผื่อว่ามันจะยังใช้การได้ เมื่อเดินไปถึง เขาเห็นร่างของผู้หญิง นอนหงาย อยู่ จึงเรียกตำรวจ ให้มาดูศพในทันที

ตำรวจและทีมแพทย์ชันสูตร ศพรีบเร่งเข้ามาดู ภาพที่เขาเห็นนั่น ช่างน่ากลัวยิ่งนัก เป็นภาพของหญิงสาวดูฆ่าปาดคอ จากบริเวณ ติ่งหูซ้ายมายังไหล่ขวา สอง รอย และ กระโปรงถูกดึงขึ้นมาเหนือหัวเข่า และ รอยมีดถูกกรีดปากท้องให้อ้าขึ้น แล้วควักตับไต ไส้พุงออกมา กองไว้ ภาพที่สยดสยองนี้ ติดตา ของพวกตำรวจและหมอ ไป ในวันต่อมา ตำรวจได้ถามผู้พบเห็นเหตุการณ์ ไม่มีใครพบเห็นผู้ต้องสงสัย จึงสอบปากคำ พนักงานขับรถผู้พบศพ เขาให้การว่า เขาเห็นเหมือนกองผ้ากองอยู่แต่พอเข้าไปใกล้กลับเป็น ร่างของหญิงสาวนอนหงายอยู่ เขาจึงเรียกตำรวจมายังที่เกิดเหตุ และเขาบอกว่าในบริเวณนั้น ไม่พบเหตุบุคคลน่าสงสัยเลย ทางเจ้าของคอกม้า ที่พบศพ บอกว่า เขาไม่ได้ยินเสียงหรือผู้น่าสงสัยเลย หมอบอก เวลาที่ตายน่าจะก่อนพบศพประมาณ 1 ชม. ขณะตำรวจกำลังมืดแปดด้าน ก็มีชายผู้หนึ่งให้ความช่วยเหลือ บอกว่า จะเป็นชายอันธพาลคนหนึ่งที่มีฉายา ผ้ากันเปื้อนหนัง ที่ชอบรีดไถ โสเภณี และขู่ว่าจะฆ่า หลายต่อหลายครั้ง ตำรวจทราบจึงจะเข้าจับคุม แต่คนร้ายไหวตัวทันหนีไปหลบ ในบ้านญาติ ทำให้ตำรวจไม่สามารถจับตัวได้
ลำดับเหตุ การ

· 31 สิงหาคม ค.ศ.1888 ฆาตกรรมเหยื่อรายแรก
· 8 กันยายน ค.ศ.1888 ฆาตกรรมเหยื่อรายที่สอง
· 25 กันยายน ค.ศ.1888 จดหมายส่งถึงสำนักงานเซ็นทรัล ลงนาม “แจ๊คค เดอะ ริปเปอร์”
· 30 กันยายน ค.ศ.1888 ฆาตกรรมเหยื่อรายที่สามกับสี่ในเวลาไล่เลี่ยกัน
· 1 ตุลาคม ค.ศ.1888 ไปรษณีย์บัตร์ “แจ๊คจอมซ่าส์”ถึงสำนักข่าวเดิม
· 16 ตุลาคม ค.ศ.1888 พัสดุลงชื่อ “จากนรก” ส่งไตครึ่งซีก ไปให้จอร์ชประธานคระกรรมการป้องกันภัยไวท์แซพเพล
· 9 พฤศจิกายน ค.ศ.1888 เหยื่อรายที่ห้าคาดว่าเป็นรายสุดท้าย
· 31 ธันวาคม ค.ศ.1888 พบศพมองตากู จอห์น ดรูอิทท์ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแจ๊คจมน้ำตาย สันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
· ค.ศ.1890 อารอน โคสมินสกี้ ผู้ส่งเข้าโรงพยาบาลโรคจิตและเสียชีวิตในปี ค.ศ.1919
· ค.ศ.1892 ปิดคดีแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ โดยหาผู้กำระทำความผิดไม่เจอ
· ค.ศ.1894 เซอร์เมลวิลล์ แมคนักห์เต็นเขียนบันทึกร่ายยาวแบบลับๆ ว่า เขาสงสัยมองตากู จอห์น ดรูอิทท์
· ค.ศ.1901 มีการสันนิษฐานว่าจดหมายและพัสดุที่ส่งมาเป็นของปลอมทำขึ้นโดยฝีมือของนักข่าว
· ค.ศ.2006 สก็อตแลนด์ยาร์ดเปิดเผยโฉมหน้า แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

และทาง CIA ได้พูดทิ้งท้ายว่า ถ้าเกิดเหตุการนี้อีกไม่ว่าประเทศไหน ทาง CIA ก็จะติดตามสาวถึงตัว

007: BloodStone
20th October 2011, 17:21
แจ็ค เดอะ ริปเปอร์


ลำดับเหตุ การ


และทาง CIA ได้พูดทิ้งท้ายว่า ถ้าเกิดเหตุการนี้อีกไม่ว่าประเทศไหน ทาง CIA ก็จะติดตามสาวถึงตัว

ได้เอามาจาก วิกิป่าวครับ !!

rockpooh
20th October 2011, 17:25
ลืมแล้ว เอามาอยู๋ 2 เว็บ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ วีกีนะ ไม่รู็สิครับ

sillyfools43
20th October 2011, 17:25
ทำไมไม่มี ซีอุยบ้างฟะ:p

emopee
20th October 2011, 17:27
^^ไช่แล้วซีอุยไปไหน

TesTo
20th October 2011, 17:27
ทำไมไม่มี ซีอุยบ้างฟะ:p

นั้นน่ะสิ 555+

007: BloodStone
20th October 2011, 17:30
ทำไมไม่มี ซีอุยบ้างฟะ:p

ซีอุยเขาจับได้ครับ ไม่เป็นปริศนา ลองดูในนี้ลิ้งนี้ก้ได้ครับ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%A2

aa12
20th October 2011, 17:34
แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ถ้าอยู่สมัยนี้คงจับตัวได้ สมัยนั้นเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า

tiktee37
20th October 2011, 17:42
แปลกมากชอบพลังปกติอะ

siabossz1
20th October 2011, 18:39
สามเหลี่ยมเมอร์บิวด้า ถูกคลี่คลายแล้วครับ

รายงานระบุว่า จากการค้นพบของศจ.โจเซฟ โมนาแกน หนึ่งในสองผู้วิจัยงานศึกษาไข ปริศนาดังกล่าว ระบุว่า เขา
พบว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ปรากฎว่ามีก๊าซมีเธนเป็นจำนวนมาก
ขนาดปะทุเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ลอยเหนือบริเวณดังกล่าว
ก๊าซดังกล่าวอยู่ใต้ท้องทะเลในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
โดยเมื่อก๊าซเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ
และขยายตัวเป็นวงกว้างและก่อตัวเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์
เมื่อเรือลำใดผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น ก็จะเข้าไปสู่ฟองก๊าซมีเธนขนาดยักษ์
จนทำให้เรือเหล่านี้สูญเสียการควบคุม และจมลงสู่ห้วงทะเล
และ หากฟองก๊าซดังกล่าวมีขนาดยักษ์มาก ๆ
ที่สามารถครอบคลุมความหนาแน่นระดับสูงบนผืนฟ้าเพียงพอ
มันก็จะทำให้เครื่องบินที่บินอยู่บนน่านฟ้าเหนือสามเหลี่ยมฯ

แต่ก่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่อ่ะครับ
สูญเสียการควบคุม ตกทะเลและจมลงสู่ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว

Andylaw
20th October 2011, 18:45
แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ เขาคลี่คลายแล้วนาเกี่ยวกับคนทำเป็นสัปปะเร่อ เคยเจอในบอร์ดเก่า

moymoy258
20th October 2011, 18:51
อันดับ 2 ก็ไขได้ตั้งนานแล้ว ที่ยกมาตั้งได้ ก็เพราะ เค้ามีวิธีเอาต้นไม้มาทำเป็นเครื่องยก มันเลยยกได้สบายๆเลยหละ

Dr.dog
20th October 2011, 19:14
ตี๋ ใหญ่ เเละ เสือขาว

ของบ้านเราเนี้ยละครับ

ยังคงเป็นปริศนาอยู่เลยว่า

ทั้งสองคนตายจากการ

วิสามัญของตำรวจเเน่เเล้วหรือยัง

เพราะทั้งคู่มีวิชาอาคม มาก

คนเเก่หลายคนก็บอกว่ายังไม่ตาย ไปอยู่ที่โน้นที่นี้

เเต่ก็ไม่รู้จริงหรือเปล่า

007: BloodStone
21st October 2011, 11:32
ตี๋ ใหญ่ เเละ เสือขาว

ของบ้านเราเนี้ยละครับ

ยังคงเป็นปริศนาอยู่เลยว่า

ทั้งสองคนตายจากการ

วิสามัญของตำรวจเเน่เเล้วหรือยัง

เพราะทั้งคู่มีวิชาอาคม มาก

คนเเก่หลายคนก็บอกว่ายังไม่ตาย ไปอยู่ที่โน้นที่นี้

เเต่ก็ไม่รู้จริงหรือเปล่า


ตี๋ใหญ่ตายไปแล้วครับ ถูกเพื่อนตัวเองยิงตาย

RocKST4RJaMes
21st October 2011, 11:50
ขอบคุณความรู้ดีๆครับ :D

TkToU
22nd October 2011, 19:47
อันดับความน่าสนใจ 2 / 3 / 4

mindska1993
22nd October 2011, 21:46
กระโหลกแก้วอ่ะ ที่อยากรู้มากที่สุดด

Phenomenom555
22nd October 2011, 23:02
แต่ละอันดูน่าชวนคิดดีจริงๆ

Guuspy
22nd October 2011, 23:25
ชอบอันดับ 2

Falenhine
22nd October 2011, 23:40
กระโหลกแก้วต้องถามอินเดียวหน้าโจร 5 5 5+