PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : สงครามทมิฬ สิ้นสุริยะ ตอนที่ 1 (มือใหม่มาก ติชมได้)



Mozart
8th November 2011, 02:14
สงครามทมิฬ สิ้นสุริยะ
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของสงคราม


เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2020 หรือเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ชาวสหรัฐฯ ทั้งประเทศต่างพากันร่วมเฉลิมฉลอง วันชาติสหรัฐฯ หรือ วันประกาศอิสรภาพสหรัฐฯ ปีที่ 244 กันอย่างคึกคัก ที่บริเวณหน้าทำเนียบขาว ประชาชนนับพันกำลังยืนฟังคำกล่าวสุนทรพจน์ของ นาย โรเจอร์ มิลเลอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่ประธานาธิบดีผิวสีกำลังกล่าวสุนทรพจน์อยู่ ก็มีลำแสงสีแดงพุ่งลงมาจากท้องฟ้า แสงนั้นได้ทอดลงมาที่บริเวณที่ประธานาธิบดี และผู้คนจำนวนมากยืนอยู่ ผู้คนพากันแตกตื่น กรีดร้อง และวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

“ คุ้มกันประธานาธิบดี ” หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยตะโกนขึ้น และเมื่อสิ้นสุดเสียงนั้น มีวัตถุประหลาดพุ่งลงมาบนพื้นตรงตำแหน่งที่แสงสีแดงปรากฏขึ้น พุ่งลงมาเร็วมากราวกับดาวหางที่กำลังจะพุ่งชนโลก และมันก็หยุดลงก่อนจะกระทบกับพื้น ก่อให้เกิดลมพัดจนฝุ่นฟุ้งไปทั่วบริเวณนั้น ทุกคนเงียบ และแทบจะไม่เชื่อเลยว่าสิ่งที่เกิดต่อหน้าเป็นเรื่องจริง วัตถุที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน ซึ่งลอยอยู่เหนือจากพื้นราว 50 เมตร รูปทรงปิระมิดฐานสี่เหลี่ยมสีดำคว่ำหัวลง ตรงปลายแหลมของปิระมิดมีผลึกสีแดงประดับอยู่ มันมีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลสองสนามต่อกัน ปืนทุกกระบอกหันไปที่ปิระมิดนั้นทุกคนยังตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะนั้นเองก็มีวัตถุขนาดเล็กพุ่งออกมาจากปิระมิด

“ ฟิ้ว...ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ” เสียงวัตถุเหล่านั้นพุ่งออกมาและกระทบกับพื้นจนพื้นดินสั่นสะเทือน เมื่อสิ้นเสียงวัตถุที่ตกลงมานั้นคือหุ่นยนตร์ ซึ่งอยู่ในท่าคุกเข่าเพื่อรับแรงกระแทก และค่อยๆยืนขึ้น นัยต์ตาทั้งสองข้างของมันทุกตัว เปล่งแสงสีแดงออกมา ทุกคนกรีดร้อง ปืนทุกกระบอก อาวุธทุกชนิด ได้ยิงเข้ามาที่กองทัพหุ่นยนตร์ราว 20 ตัวเห็นจะได้

“ปัง ปัง ปัง ปัง...เปรี้ยง...ตูม....ตูม” ปืนทุกกระบอกรัวกระสุนอย่างไม่ยั้งจนหมดกระสุน

พระเจ้าช่วย...หุ่นยนตร์พวกนั้นไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน พวกหุ่นยนตร์ยืนเป็นวงกลม จึงปรากฏแสงสีแดงตรงกลางวงกลม ค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆจนแสบตา และหลังจากแสงประหลาดนั้น ทุกคนยังอยู่ และไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่...“ นั้น! ดูตรงกลางพวกหุ่นยนตร์นั้นสิ ” ชายคนนึงตะโกนขึ้นมา ซึ่งภาพที่เห็นคือ มีหุ่นยนตร์สีแดงที่สวมผ้าคุมอยู่ตรงกลางวงหุ่นยนตร์

“มาซุ โนรอค"เสียงดังมาจากหุ่นสีแดง ซึ่งมันไม่ใช่ภาษามนุษย์โลกแน่

“อ้อ...ไม่สินะ ข้าลืมไป” เสียงดังมาจากหุ่นสีแดงนั้น พร้อมหน้ากากที่เปิดออก ใบหน้าที่ปรากฏหลังหน้ากากนั้นเป็นใบหน้าของมนุษย์ ผมสีดำ ม่านตาสีดำ แต่ผิวสีแดง ไม่สิผิวใสมากจนเห็นเนื้อข้างในต่างหากละ

“สวัสดี! ชาวดาวสีฟ้า ไม่นึกเลยนะว่าดาวของเจ้า จะต้อนรับชาวต่างดาวเช่นนี้” หุ่นสีแดงนั้นขยับปากพูด พร้อมอมยิ้ม ในขณะนั้นปากกระบอกปืนทุกกระบอกก็ยังเล็งมายังกลุ่มหุ่นยนตร์นั้นอยู่

“พวกท่านเป็นใคร และต้องการอะไรจากเรา” ผู้นำชาติสหรัฐฯตะโกนถาม

“ข้ามีนามว่า คูโรอ็อก จากดาวเคราะห์แดง ดาวเคราะห์ดวงที่สี่ในระบบสุริยะจักรวาล”

“ดาวเคราะห์ดวงที่สี ดาวอังคารนะหรอ! ฮะ...ฮา พูดเป็นเล่นหนะ” ประธานาธิบดีไม่เชื่อ พร้อมหัวเราะจนลืมสำรวมมารยาท

“พวกเจ้าไม่เชื่ออย่างงั้นหรอ ฮึ! ข้าว่าแล้วว่าพวกชาวดาวสีฟ้า จะต้องกล่าววาจาเยี่ยงนี้” ชาวดาวอังคารพูดพร้อมก้าวไปข้างหน้า เดินมุ่งหน้าไปหาประธานาธิบดี

“พวกเจ้ายิงสิ ยิงมาเลย...ทำไม! ไม่กล้าละสิ” คุโรอ็อกแสดงความกราดเกรี้ยว พร้อมเดินมาจนหยุดอยู่ต่อหน้าประธานาธิบดีที่มีชุดคุ้มกันประธานาธิบดีรายล้อยอยู่หนาแน่น ห่างระยะไม่ถึง 3 เมตร ด้วยซ้ำคุโรอ็อกตะโกนออกมา“บูม!” ทุกคนสะดุ้ง

“ฮะฮ่า...กลัวหรอ ข้าล้อเล่น ข้าเป็นเพียงแค่ผู้นำสารเท่านั้น” คุโรอ็อกกล่าว พร้อมยื่นผลึกสีแดงให้กับประธานาธิบดี “รับไป”

“ทุกคนถอยไป ถ้าชายผู้นี้มาจากดาวอังคารจริงๆ ถ้าพวกเค้าจะมาทำลายเราจริงๆ คงไม่ยืนเฉยอย่างงี้หรอก ทุกอย่างคงจะถูกทำลายอย่างย่อยยับเหมือนในหนังแล้วหละ” ท่านประธานาธิบดีกล่าว พร้อมเดินออกมาจากกลุ่มรักษาความปลอดภัย ยื่นมือรับผลึก

หลังจากที่ประธานาธิปดีจับแท่งผลึก ก็เกิดภาพขึ้น เป็นภาพพร้อมเสียงที่ปรากฏขึ้นบนผิวหน้าของปิระมิดทุกหน้า ภาพนั้นแสดงถึงบุคคลซึ่งแลดูสูงอายุ ลักษณะทางกายภาพเหมือนกันทุกประการกับ คุโรอ็อก ใส่ชุดเกราะสีแดง-ทอง ไม่สิต้องชุดหุ่นยนตร์ จะชุดอะไรก็ช่างเหอะ


“ข้าคือผู้นำดาวแดง นามว่า มาร์คัส ที่ข้าส่งสารนี้ไปให้กับพวกเจ้า เพื่อให้พวกเจ้าได้รู้ว่า เจ้าไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวบนสุริยะจักรวาล และจักรวาลอื่นๆก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา และด้อยปัญญากว่าเจ้า แต่สิ่งที่ข้าจะบอกพวกเจ้านั้นไม่ใช่เรื่องนี้ ข้าจะมาเตือนถึงภัยสงคราม...สงครามระหว่างดวงดาว ที่พวกเจ้ากำลังจะประสบ และพวกข้าจะให้ความช่วยเหลือพวกเจ้าในศึกครั้งนี้เอง จำไว้ว่านี่คือศึกที่พวกเจ้ามิอาจต่อกรได้หากพวกเจ้าไร้ซึ่งพวกข้า”

ภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ และทิ้งท้ายให้ชาวโลกคาใจว่าทำไมเราต้องรวมศึก นี้คือศึกอะไร แล้วภาพนั้นก็ดับไป

“นี้คือสารที่ข้านำมาให้แก่ท่าน หวังว่าท่านคงจะตัดสินใจว่าพวกเจ้าจะร่วมรบกับพวกข้านะ” บุรุษจากดาวอังคารกล่าว

“ไม่มีทาง สงครามครั้งนี้ไม่ใช่สงครามของเราชาวโลก มันเป็นสงครามของพวกท่าน เรายังจะต้องทำสงครามกับอะไรยังไม่รู้เลย” ประธานาธิบดีแสดงสีหน้าไม่สู้ดี และยังสงสัยในสิ่งที่ได้พบ

“ฮา.....ฮะๆๆ น่าขันสิ้นดี เจ้าจะได้รู้แน่ว่าเจ้าจะเจอศึกอันใดและใครคือศัตรูของเจ้า ตรองให้ดีก่อน”

“ศึกครั้งนี้...อาจจะเป็นพวกท่านก็ได้ที่นำศึกสงครามมาแก่เรามวลมนุษยชาติ ข้าขอเชิญท่านกลับไปได้แล้ว ท่านมาจากที่ไหนก็กลับไปจากที่ๆท่านมาเถอะ” ประธานาธิบดียื่นคำขาดและไม่ถามแม้แต่เหตุผล และชี้นิ้วไปที่ปิระมิด

“งั้นข้าคงต้องให้เจ้ารู้เองสินะ ข้าคิดไม่ผิด...พวกดาวสีฟ้ามันขลาดและเขลา ท่านพ่อน่าจะฟังข้านะ ช่างเถอะ! ถ้าเจ้าพร้อมเมื่อไร เจอก็ติดต่อกับดาวของข้าผ่าน “ผลึกแดง” ที่เจ้าถึงก็แล้วกัน” คุโรอ็อกพูดไปยิ้มไปเพราะตนเป็นฑูต ที่เดินทางมาโลกตามบัญชาของมาร์คัสผู้เป็นบิดา ชายผิวแดงสะบัดผ้าคลุมอย่างไม่พอใจ พร้อมหันหลังแล้วเดินออกมา หลังโดนปฏิเสธทั้งคำเชิญ มิหนำซ้ำยังโดนไล่อีก แต่ก็ยิ้ม

แล้วลำแสงสีแดงก็ปรากฏอีกครั้ง แสงนั้นส่องไปยัง คุโรอ็อก กับสมุนหุ่นยนตร์ และทั้งหมดก็หายไปกับแสงพร้อมกับปิระมิด

:bye แค่นี้ก่อนนะครับง่วงนอนมาก

ต่อจากเมื่อวาน

หลังจากเหตุการที่มีมนุษย์ดาวอังคารปรากฏขึ้น ข่าวทุกสำนักในโลก ไม่ว่าจะเป็น CNN , BBC ,NHK , CCTV , อัลจาซีร่า และสำนักข่าวต่างๆ ต่างพากันวิเคราะห์วิจารณ์ และตีความจากเหตุการที่เกิดขึ้น ประชาชานทั่วโลกตื่นตระหนก "บ้างก็หาว่าประเทศมหาอำนาจพยายามจัดฉากขึ้นเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ตนเป็นผู้นำของโลก" "บ้างก็โยงไปใส่เรื่องคำทำนาย" "บ้างก็หาว่าสหรัฐปกปิดเรื่องนี้มาโดยตลอด และมันยอมเปิดเผยต่อสาธารณชนได้รู้" เกิดความขัดแย้งขึ้นอย่างรุนแรงของสังคม มีฝูงชนจำนวนมากรวมตัวและประท้วงทางการสหรัฐที่ได้ทำการปฏิเสธชาวดาวอังคาร และมีอีกกลุ่มที่สนับสนุนการปฏิเสธเกิดการจราจลครั้งใหญ่ ในหน้าสถานฑูตประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกประเทศจะเกิดการปะทะ และนองเลือดของคนสองกลุ่ม

ในขณะนั้นเอง ในที่ประชุมลับ ไม่ระบุสถานที่แน่ชัด มีกลุ่มคนกำลังถกเถียงกันอยู่ มีทั้งคนที่แต่งเครื่องแบบทหาร และใส่ชุดสูท พร้อมเอกสารกองอยู่จำนวนมากบนโต๊ะประชุม

" ไหนใครช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจ ถึงเหตุการที่เกิดขึ้นหน่อย..สิ " น้ำเสียงที่ไม่พอใจและพูดอย่างกระแทกของประธานาธิบดีสหรัฐ

" ผมว่ามันแค่อาจจะมาประกาศตนให้ทราบ " ชายใส่แว่นพูด

" แต่ก็เห็นชัดว่าพวกเค้ามาเตือน " เสียงขึ้นผู้หญิงแทรกขึ้นมา

" งั้นหรอเตือนว่าเราจะเกิดสงครามระหว่างดวงดาว น่าขำผมว่าเราเอาเวลาไปคิดอย่างอื่นดีไหมครับ คุณผู้หญิง " เสียงชองชายในชุดทหารกล่าว

" แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆละเราจะรับมือยังไง " หญิงผู้นั้นแย้งขึ้น

" เราจะถล่มมันทุกอย่างด้วยอาวุธที่เรามีครับท่าน " ทหารชั้นผู้ใหญ่ตอบ

" อาวุธหรอ...เราทุกคนก็เห็นชัดแล้วนิว่าอาวุธที่เรามีทำอะไรมันไม่ได้เลย " หญิงวันกลางคนลุกขึ้นยืนและพูด

" แต่เรายังไม่ได้ใช้นิวเคลียร์ นั้นแหละคือไม้ตายของเรา " ทหารชั้นผู้ใหญ่กล่าวพร้อมอมยิ้ม

" เอาละ เอาละ วันนี้เราอาจจะพลาด เพราะเราไม่ได้ตั้งตัวรับกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมต้องรู้ให้ได้ว่า เจ้าเอเลี่ยนสีแดง ที่พูดต่อหน้าผมมันคือตัวอะไรและมันต้องการอะไรจากเรา เราจะรับมือกับสิ่งมีชิวิตนอกโลกเหล่านี้ได้ไหม หาจุดอ่อนของมัน แล้วเราจะชนะศึกทุกครั้ง" คำพูดที่หยิ่งผยอง คำพูดที่หยิ่งในชาติพันธุ์ ของประธานาธิบดีสหรัฐ

"แปะๆๆ.....แปะๆๆ...แปะๆๆๆ"ทุกคนในที่ประชุมปรบมือ

" แต่ท่านค่ะ...เราอาจสามารถหลีกเลี่ยงสงครามได้นะคะ" หญิงวัยกลางคนกล่าวขึ้น และทุกคนเงียบ

" เราไม่ได้รบชนะทุกครั้ง เราแพ้สงครามเวียดนาม เราต้องสูญเสียกำลังพลที่โซมาเลีย เราสูญงบประมาณทางทหารจำนวนมหาศาลไปกัยสงครามที่อิรก ฉันเสียลูกชายไปค่ะ" หญิงคนนั้นน้ำตาซึม

" เรามองข้ามการฑูต การฑูตที่จะไม่ทำให้ต้องเสียเลือดเนื้อ คิดดูก่อนเถอะคะท่านประธานาธิบดี " หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับนั้งลง และหยิบน้ำกระดาษชำระมาซับน้ำตา

" ผมเสียใจด้วย โอเคงั้น ทุกคน! รวบรวมนักิทยาศาสตร์ที่รู้ และสิ่งที่เรารู้กับพวกเอเลี่ยนต่างดาวทั้งหมดมาให้ผม อีกสามวันเราจะสรุปผลและดำเนินการ " เมื่อโดนติง ประธานาธิบดีจึงฉุดคิดและเลื่อนการสรุปการประชุมต่อไป

" ปิดการประชุม "


เช้าวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 แถวเกาะแมนฮัตตัน บริเวณหน้าเทพีเสรีภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ชายแก่สองคนนั้นตกปลาอยู่บนเรือ ทั้งสองคนรู้สึกได้ถึงลมที่แรงมาก พัดลงมาจากบนหัวของพวกเค้า ทั้งสองคนเงยหน้ามองหาแหล่งกำเนิดของลมนั้น " โอ้...พระเจ้า " ชายแก่ทั้งสองคนอุทานพร้อมกันหลังที่ทั้งสองคนเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า สองเฒ่าแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามันเป็นสิ่งที่เค้าสองคนไม่เคยพบเจอมาก่อน ยานอวกาศลำใหญ่มีลักษณะเป็นวงกลมแบน คล้ายจาน ลอยอยู่บนหัวของพวกเขานับสิบลำ ขนาดของมันพอๆกับ เครื่องบินรบ F35 เลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานมันก็พุ่งออกไป ตรงไปที่ทำเนียบขาว ชายแก่สองคนจับหมวกแก๊ป แล้วตะโกนบอกว่า "โชคดี ไอ้ลูกชาย" แล้วทั้งสองคนก็ตกปลาต่อ

"เรียกศูนย์...เรียกศูยน์ พบวัตถุบินไร้สัญชาติกำลัง บินตรงไปที่ทำเนียบขาว มีจำนวน 11 ลำ...ย่ำมีจำนวน 11 ลำ" เสียงของนักบินเครื่องบินขับไล่ของกองทัพสหรัฐตรวจพบวัตถุประหลาด

"เอาละนักบิน ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร สอยมันลงมาซะ" เสียงตอบกลับจากศูยน์ " รับทราบ "นักบินตอบทันที

"ฟ้าว.........ววว" เสียงเครื่องบินขับไล่ ที่กำลังบินเพื่อทำลายวัตถุประหลาดนั้น เครื่องบินขับไล่จำนวน 10 ลำและ วัตถุลึกลับต่อสู้กันบนกลางเวหา เหนือกรุงวอซิงตัน ดี.ซี. ผู้คนในเมืองต่างหยุดดูราวกับต้องมนต์สะกด บ้างก็ถ่ายคลิปวีดีโอไว้

"วี๊ด....ดดด" เกิดเสียงดังขึ้นพร้อมมีแสงสีม่วงพุ่งไปที่เครื่องบินขับไล่ลำหนึ่ง " ตูม...มมม " เสียงระเบิดดังสนั่น เครื่องบินขับไล่ระเบิดแลัวร่วงลงมาจากท้องฟ้า ผู้คนในเมืองเห็นดังนั้นต่างพากันตกใจ และแตกตื่น ความโกลาหลเกิดขึ้นในช่วงพริบตา ต่างคนต่างวิ่งเข้าหาที่กำบัง อย่างไม่คิดชีวิต เสียงกรีดร้อง ดังขึ้นไปทั่วถนนเมืองกรุงในยามเช้า ที่แออัด

"ล๊อคเป้าหมาย ล๊อกเป้าหมาย....ยิง" นักบินขับไล่กำลังจะสอยจานผีด้วย มิชไชน์ "ไสหัวโตๆพร้อมกับยานกระป๋องของแกไปจากดาวของกูซะ ไอ้พวกเอเลี่ยนระยำ" เสียงเอ่ยของนักบินที่โกรธแค้น จรวดมิซไซน์พุ่งออกไปจากเครื่องบิน พุ่งตรงไปยังจานบินลำหนึ่ง จานบินลำนั้นหลบได้ แต่ " ฟิ้ว...ตูม...บูมมม ครื้นนนน " จานบินลำนั้นกลับพุ่งชนตกสูงอย่างเต็มแรงและตกในที่สุด " เย้! ไงละเจ้าพวกบ้า ฮะ..ฮา เห็นฝืมือของชาวโลกรึยัง" นักบินมองไปยังจุดที่เครื่องบินตก แต่พอหันกลับมาก็เห็นแสงสีม่วง พุ่งเข้ามาที่เครื่องบินของตน "บรึม...มมม" เครื่องบินขับไล่ที่เหลือก็ต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต แต่ก็ล้วนพ่ายแพ้ยานต่างดาวเหล่านั้น เครื่องบินขับไล่ถูกทำลายทั้งหมด

"กริก....กริก.... กริก.... กริก.... กริก.... กริก" เสียงรถถัง รถลำเลียงพลส่งเข้ามาที่กลางเมือง " ทุกคนกระจายกำลัง เล็งเป็นหมายไปที่ยานผี รอสัญญาน" เมื่อรถทุกคันจอดหยุดนิ่ง ประตูรถลำเลียงพลเปิดออก

" เร็ว เร็ว เร็ว... ไป ไปไป" ทหารจำนวน หนึ่งกองร้อยที่ลงมาจาก ยานลำเลียงพลที่พวกเค้านั่งมา กำลังประทับเล็ง ไปบนท่องฟ้า เมื่อยานบินโผล่ มีเสียงคำสั่ง " ยิง...ง "

ปังๆๆๆๆๆ ... พรึดๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆ เป็นเสียงที่อาวุธทุกชนิดยิง เข้าไปที่จานบิน เสียงอาวุธเหล่านั้นยากจะอธิบายเป็นภาษาเขียนได้ ดังสนั่นกึกก้อง และเงียบสงบ เกิดกลุ่มควันปืน แรงระเบิด เป็นจำนวนมาก

เฮ้....เย้....! พวกทหารดีใจที่จัดการกับศัตรูต่างดาวได้ แต่ไม่เลยมันไม่ได้ถูกทำลายแถมยังไม่เป็นรอยขีดข่วยเลย เหล่าทหารตกตะลึ่ง แสงสีม่วงยิงออกมาจากยาน ยิงสวนไปยังที่ทหารเหล่านั้นยิงเข้ามา เสียงระเบิดตังสนั่น " ตูม....ม " ทุกอย่างพินาศ จบแล้วจบสิ้นกันแล้ว อาวุธทุกอย่างบนโลกมนุษย์ ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลยหรอ

" กริ๊งงงง...กริ๊งงงงง"มีโทรศัพท์โทรเข้ามาที่ทำเนียบขาว " สวัสดีค่ะ ค่ะเราจะต่อสายไปยังท่านประธานาธิบดีให้ค่ะ " เลขานุการกล่าว

" สวัสดี ....อะไรนะ! อาวุธทที่ดีที่สุดของเรา ที่ส่งไปถูกทำลายหมดเลยหรอ " ประธานาธิบดีรับสาย

" ครับ...ผมจึงขอให้ท่านประธานาธิบดี อนุญาตให้ใช้นิวเคลียร์ด้วยครับท่าน "

" ยังไม่อนุญาต "

" แต่ว่าท่านครับ "

" อีก10นาทีผมจะโทรไป "

" รับทราบครับท่าน "

กรึก!...ท่านประธานาธิบดีวางสายโทรศัพท์

" ฟู่..." ท่านประธานาธิบดีสหรัฐฯถอนหายใจ มือกุมขมับครุ่นคิด

เหตุการณ์เลวร้ายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว แต่มันเกิดขึ้นทุกเมืองใหญ่ของโลก


การจากไปของ มนุษย์ต่างดาวสีแดง
และการกลับมาพร้อมกับการทำลายล้างของยานบินที่ใช้ลำแสงสีม่วงทำลายล้างทุกสิ่ง
มนุยษ์จะสูญสิ้นจริงหรือ
แล้วมนุษย์ต่างดาวทั้งสอง เป็นพวกเดียวกันหรือไม่
มนุษยชาติจะรอดจากเรื่องเลวร้ายครั้งนี้ได้อย่างไร

โปรดติดตามตอนต่อไป

จบตอนที่ 1

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาแวะชม รออ่านตอนที่ 2 เลยนะครับเร็วๆนี้แน่นอน ชอบหรือไม่ชอบยังไง บอกได้เลยนะครับ ติชม หรือ อยากให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปยังไง แสดงความเห็นได้เต็มที่


ขอบพระคุณครับ

Stormwind
8th November 2011, 02:19
ใช้ได้เลยนะคะ ว่าแต่ แต่งดึกมากๆเลยง่ะ แหม่มเพิ่งตื่น เลยมาแต่งของแหม่มต่อ
ปล. ยังไม่หายดีเลย

By STORMWIND [Female]

Mozart
8th November 2011, 02:29
ครับ ขอบคุณมากครับ ครั้งแรกเลยนะครับเนี้ย:rose

Stormwind
8th November 2011, 02:32
แหม่มว่าแก้เถอะ แบบนี้เหมือนกับบทสนทนา บทละคร ระวัังท่าน Mozart จะกลายเป็นร่างอวตารของใครบางคนนะคะ
ด้วยความหวังดี

By STORMWIND [Female]

Mozart
8th November 2011, 02:40
แหม่มว่าแก้เถอะ แบบนี้เหมือนกับบทสนทนา บทละคร ระวัังท่าน Mozart จะกลายเป็นร่างอวตารของใครบางคนนะคะ
ด้วยความหวังดี

By STORMWIND [Female]

แก้ยังไงหรอครับ แบบว่ายังไงช่วยแนะนำหน่อยพอดีมือใหม่มาก ยังไม่เข้าใจครับ แบบว่าโดนสวมบท หรืออ้างสิทธิหรอครับ

Stormwind
8th November 2011, 02:56
อ่อ ไม่ค่ะๆ แบบว่า

ท่าน Mozart แต่งแบบนี้อ่ะ

มาวิน : อาเบะ ฉันคิดถึงแกว่ะ

อาเบะ : ยาราไนก๊า !!!

จริงๆแล้วน่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า

"อาเบะ ฉันคิดถึงแกว่ะ" ชายหนุ่มรูปงามนามมาวินได้พูดกับอดีตเพื่อน(กูรัก***ว่ะ)

"ยาราไนก๊า !!" เขาพูดคำยอดฮิตออกมาพร้อมกับวิ่งตรงไปหามาวินราวกับไมไ่ด้เจอกันนานแสนนาน

Rex
8th November 2011, 08:22
แต่งดีอะ ดูดีเลยนะ ไม่ดูทื่อไปหรือ ปัญญาอ่อนไป

Mozart
8th November 2011, 08:34
แต่งดีอะ ดูดีเลยนะ ไม่ดูทื่อไปหรือ ปัญญาอ่อนไป

ขอบคุณครับ กำลังอัพเดทเรื่อยๆ นะรออ่านต่อ แล้วมาด่าผมต่อ อิอิ ขอบคุณที่ติชมครับ คุณ STORMWIND ขอบคุณนะครับที่ติชม ตอนนี้ผมได้แก้ไขตามที่ท่านบอกแล้วครับ และแก้บทสนทนาบางบท ที่อ่านแล้วยังไม่ค่อยลื่นหูนัก ขอบคุณที่ติชมและจะพัฒนาฝีมือต่อไป :thank

Stormwind
8th November 2011, 11:26
มันต้องแบบนี้เสะ เยี่ยมๆ

By STORMWIND [Female]