ChickenBomB
16th November 2011, 18:15
น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น..
มี ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของคอมพิวเตอร์จำนวนมาก และชิ้นส่วนยานยนต์ยังไม่ได้รับอย่างเต็มที่นับ บริษัท ญี่ปุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ทำให้การลงทุนอย่างมหาศาลในประเทศไทยและได้รับผลกระทบอย่างมาก ไม่เฉพาะแต่คอมพิวเตอร์ดิสก์ไดรฟ์ทั้งหมดที่ผู้ผลิตและผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากได้รับผลกระทบ
ผู้คนก็กำลังติดทั่วกรุงเทพฯ ข้อมูลของรัฐบาลที่ยังคงมีความสับสนและยากที่จะเข้าใจส่วนสังคมการเมืองก็มี การขัดขวางความสามัคคีในระบบการเมืองที่ควรจะเป็นสิ่งจำเป็นในเวลาดังกล่าวของวิกฤต
นอกจากนี้โรคที่มากับน้ำที่มีกลิ่นเหม็นก็เริ่มจะมีปัญหาในเขตกรุงเทพฯและ ชานเมือง นักลงทุนต่างชาติจำนวนมากในขณะนี้จะทบทวนการตัดสินใจของตนที่จะไม่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทยมากเกินไป
แต่ที่น่ากังวลมากยิ่งไปกว่านั้นก็คือ น้ำท่วมเหล่านี้เลวร้ายที่สุดในประเทศไทยในห้าสิบปีอาจจะเป็นลางสังหรณ์ของอนาคต
ใน เรื่องที่เขียนโดย ตัวแทนสื่อของฝรั่งเศสที่มีสำนักข่าวในกรุงเทพฯ เขียนไว้ดีมากเกี่ยวกับการตรวจสอบสาเหตุที่เมืองหลวงของไทยแห่งนี้มีแนวโน้ม ที่จะเผชิญกับน้ำท่วมที่คล้ายกันถ้าไม่เลวร้ายยิ่งกว่า น้ำท่วมดังกล่าวซ้ำ ๆ และอาจจะถึงขั้นทำลายล้างฐานการผลิตของไทยและคุกคามคนเป็นล้านๆคนในเมือง ซึ่งครอบงำประเทศไทย
และเป็นศูนย์กลางทางการเมืองวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากการขยายของเมืองเข้าไปทับซ้อนในพื้นที่ห่างไกลที่มีการลดพื้นที่ ของพืชที่ดูดซึมน้ำใน อดีตที่ผ่านมา
การก่อสร้างที่มากเกิน ไปในแกนกลางของเมืองที่มีการทำแบบเดียวกัน คือสร้างสร้างเมืองขึ้นในป่าหรือที่ๆน้ำท่วมถึง จึงทำให้เมืองจมลงไปทุกปี และการที่โลกมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับช่วงฤดูฝนยาวและ รุนแรงมากขึ้นกว่าปีต่อๆไป ซึ่งจะทำให้เมืองยากที่จะระบายน้ำ และน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเอ่อล้นฝั่งมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ OECD ได้มีการจัดอัดดับเมืองหลวงของประเทศไทยเป็นหนึ่งในสิบเมืองที่ใกล้สูญ พันธุ์มากที่สุดในโลกตามที่เอเอฟพีรายงาน "ใน 50 ปี ... พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯจะต่ำกว่าระดับน้ำทะเล"
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการน้ำ, บอก AFP
หนึ่งในหนทางแก้ปัญหาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมของไทยได้เริ่มให้คำแนะนำคือ
"ย้ายเมืองหลวงไปตั้งยังที่อยู่สูงขึ้นไป มีความปลอดภัยมากขึ้นจากน้ำท่วม และง่ายต่อการป้องกันด้วยผนัง (Dikes) บางคนคิดว่าในอนาคตนี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้น"
เพราะแม้จะมีการสูบน้ำใต้ดินอย่างต่อเนื่อง มีผนัง (Dikes)อย่างดี และมีการจัดการน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่กระจุกตัวอยู่ในหน่วยงาน ของรัฐกรุงเทพฯยังคงเป็นที่ไม่ปลอดภัยมากเกินกว่าที่จะอยู่รอด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก และคนไทยมีการย้ายเมืองหลวงของพวกเขาก่อน -- จากเมืองกรุงศรีอยุธยาถึงกรุงเทพฯ ใน 1782
** OECD = องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี **
(Organisation for Economic Co-operation and Development )
Maira & Google แปลและเรียบเรียงจาก "Asia Unbound:Time to Move Bangkok?" โดย Joshua Kurlantzick (CFR)
Credit : http://www.oknation.net/
มี ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของคอมพิวเตอร์จำนวนมาก และชิ้นส่วนยานยนต์ยังไม่ได้รับอย่างเต็มที่นับ บริษัท ญี่ปุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ทำให้การลงทุนอย่างมหาศาลในประเทศไทยและได้รับผลกระทบอย่างมาก ไม่เฉพาะแต่คอมพิวเตอร์ดิสก์ไดรฟ์ทั้งหมดที่ผู้ผลิตและผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากได้รับผลกระทบ
ผู้คนก็กำลังติดทั่วกรุงเทพฯ ข้อมูลของรัฐบาลที่ยังคงมีความสับสนและยากที่จะเข้าใจส่วนสังคมการเมืองก็มี การขัดขวางความสามัคคีในระบบการเมืองที่ควรจะเป็นสิ่งจำเป็นในเวลาดังกล่าวของวิกฤต
นอกจากนี้โรคที่มากับน้ำที่มีกลิ่นเหม็นก็เริ่มจะมีปัญหาในเขตกรุงเทพฯและ ชานเมือง นักลงทุนต่างชาติจำนวนมากในขณะนี้จะทบทวนการตัดสินใจของตนที่จะไม่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทยมากเกินไป
แต่ที่น่ากังวลมากยิ่งไปกว่านั้นก็คือ น้ำท่วมเหล่านี้เลวร้ายที่สุดในประเทศไทยในห้าสิบปีอาจจะเป็นลางสังหรณ์ของอนาคต
ใน เรื่องที่เขียนโดย ตัวแทนสื่อของฝรั่งเศสที่มีสำนักข่าวในกรุงเทพฯ เขียนไว้ดีมากเกี่ยวกับการตรวจสอบสาเหตุที่เมืองหลวงของไทยแห่งนี้มีแนวโน้ม ที่จะเผชิญกับน้ำท่วมที่คล้ายกันถ้าไม่เลวร้ายยิ่งกว่า น้ำท่วมดังกล่าวซ้ำ ๆ และอาจจะถึงขั้นทำลายล้างฐานการผลิตของไทยและคุกคามคนเป็นล้านๆคนในเมือง ซึ่งครอบงำประเทศไทย
และเป็นศูนย์กลางทางการเมืองวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากการขยายของเมืองเข้าไปทับซ้อนในพื้นที่ห่างไกลที่มีการลดพื้นที่ ของพืชที่ดูดซึมน้ำใน อดีตที่ผ่านมา
การก่อสร้างที่มากเกิน ไปในแกนกลางของเมืองที่มีการทำแบบเดียวกัน คือสร้างสร้างเมืองขึ้นในป่าหรือที่ๆน้ำท่วมถึง จึงทำให้เมืองจมลงไปทุกปี และการที่โลกมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับช่วงฤดูฝนยาวและ รุนแรงมากขึ้นกว่าปีต่อๆไป ซึ่งจะทำให้เมืองยากที่จะระบายน้ำ และน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเอ่อล้นฝั่งมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ OECD ได้มีการจัดอัดดับเมืองหลวงของประเทศไทยเป็นหนึ่งในสิบเมืองที่ใกล้สูญ พันธุ์มากที่สุดในโลกตามที่เอเอฟพีรายงาน "ใน 50 ปี ... พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯจะต่ำกว่าระดับน้ำทะเล"
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการน้ำ, บอก AFP
หนึ่งในหนทางแก้ปัญหาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมของไทยได้เริ่มให้คำแนะนำคือ
"ย้ายเมืองหลวงไปตั้งยังที่อยู่สูงขึ้นไป มีความปลอดภัยมากขึ้นจากน้ำท่วม และง่ายต่อการป้องกันด้วยผนัง (Dikes) บางคนคิดว่าในอนาคตนี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้น"
เพราะแม้จะมีการสูบน้ำใต้ดินอย่างต่อเนื่อง มีผนัง (Dikes)อย่างดี และมีการจัดการน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่กระจุกตัวอยู่ในหน่วยงาน ของรัฐกรุงเทพฯยังคงเป็นที่ไม่ปลอดภัยมากเกินกว่าที่จะอยู่รอด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก และคนไทยมีการย้ายเมืองหลวงของพวกเขาก่อน -- จากเมืองกรุงศรีอยุธยาถึงกรุงเทพฯ ใน 1782
** OECD = องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี **
(Organisation for Economic Co-operation and Development )
Maira & Google แปลและเรียบเรียงจาก "Asia Unbound:Time to Move Bangkok?" โดย Joshua Kurlantzick (CFR)
Credit : http://www.oknation.net/