PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [Just a knowledge] หนุ่ม,สาวเอ๋ย มาดูหนทางเป็น "อัศวิน" ว่ายากขนาดไหนกัน?



godji001
22nd November 2011, 22:49
http://i1177.photobucket.com/albums/x342/Gotto_Aisu/A10233974-24.jpg
. . . .

หลังจากไม่ได้เข้ามาเป็นเวลา 9 วันรู้สึกๆอะไรก็เปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวแหะ = ="

แม้แต่ FB ก็เปลี่ยนไปเยอะพอตัว (แค่สัปดาห์เดียวเองเปลี่ยนเยอะ "เรือ" ) - -*

เอา่ล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า มาดูกันกว่ายุคนั้นกว่าจะได้เป็นนั้นยากขนาดไหน?

~::Warning::~

http://i1177.photobucket.com/albums/x342/Gotto_Aisu/A4998249-18.jpg

ว่าด้วยที่เรื่องเกี่ยวกับอัศวิน . . . .



http://i1177.photobucket.com/albums/x342/Gotto_Aisu/Haruhi_Knight.png

( เอิ่ม......อย่าทำผมนะ =x=" ) //Facepalm

"อัศวิน"

ในสังคมยุโรปพัฒนาขึ้นในช่วงสมัยกลาง ก่อนปี ค.ศ. 1200 อัศวินเป็นชนชั้นทางสังคมหนึ่งต่างหากที่อยู่เหนือชาวนา แต่ก็ยังต่ำกว่าขุนนาง แต่หลังปี ค.ศ. 1200 ช่องว่างระหว่างอัศวินกับขุนนางก็สิ้นสุดลง จนกระทั่งสิ้นสุดสมัยกลาง อัศวินและขุนนางก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของชนชั้นสูงเช่นเดียวกัน

อัศวิน (knight หรือที่เรียกว่า milites ในภาษาละติน) ปรากฏขึ้นในปลายศตวรรษที่ 10 ในฐานะที่เป็นกลุ่มชนชั้นเฉพาะของคนติดอาวุธ ที่ขุนนางจ้างมาสำหรับป้องกันปราสาทให้กับตน

อัศวินและขุนนางเป็นชนชั้นที่ยังแยกกันอยู่เรื่อยมาจนกระทั่งประมาณ ค.ศ. 1200 ขุนนาง (noble หรือที่เรียกว่า nobiles ในภาษาละติน)

ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินผู้สั่งสมความมั่งคั่งเรื่อยมาจากรุ่นสู่รุ่น จนอาจเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีข้อจำกัดในการใช้อำนาจในเขตแดนของตน

และอัศวินที่รับใช้ขุนนางเหล่านั้นก็มักจะยากจนและมีกำเนิดมาจากครอบครัวชาวนาผู้ต่ำต้อย

~เพิ่มเติม~ : หากคุณคิดว่าอยากจะเป็นอัศวินแค่ไปรบแล้วมาชนะก็ได้เป็นคุณคิดผิดถนัด เพราะ ในยุคที่เริ่มมีอัศวินตั้งขึ้นมาผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งหรือเป็นอัศวินนั้นจะต้องเป็นสายเลือดเดียวกันกับอัศวินชึ่งคนธรรมดา,ทาส,ชาวนา ฯลฯ จะไม่สามารถเป็นได้ยกเว้นเพียงแต่ว่าจะได้รับการแต่งตั้งโดยองค์กษัตริย์เท่านั้น

ในเวลาต่อมา
อัศวินเริ่มเข้าไปผสมกับชนชั้นสูงมากขึ้นโดยการได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากชนชั้นสูงและผ่านการแต่งงานเข้าสู่ตระกูลขุนนางเหล่านั้นด้วย
ดังนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นนี้ จึงมีการเรียกขุนนางว่าเป็น domini (เจ้า - lord) อีกทั้งมีอัศวินบางคนที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับ พวกเจ้า เช่น การสร้างป้อมค่ายต่าง ๆ รอบที่ดินของตน เป็นต้น
ศาสนจักรก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มพูนสิทธิพิเศษให้แก่อัศวินโดยการเน้นบทบาทของนักรบในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ของชาวคริสต์ที่ได้รับมาจาก พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับบทบาทของพระ

การตั้งอัศวิน (dubbing of a knight = การตั้งอัศวินเป็นพิธีกรรมสำคัญในการที่บุคคลจะได้รับตำแหน่งจากเจ้านายเหนือหัวของตน ในแง่นี้หมายถึงการนำดาบแตะไหล่เพื่อสถาปนาเป็นอัศวิน)

กลายเป็น“พิธีรับศีลของการเป็นอัศวิน” (sacrament of knighthood)

~เพิ่มเติม~ : แต่ก่อนอัศวินได้แต่งตั้งขึ้นกันเองจากบุคคลที่มีอำนาจกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งและ่ค่อยๆสืบทอดต่อกันมาจนทำให้เป็นพิธีกรรมการแต่งตั้งอัศวิน

ชึ่งแต่ก่อนพระจะทำการแต่งตั้งและให้พร แต่ในเวลาต่อมามีเพียงแต่กษัตริย์ เท่านั้นที่แต่งตั้งส่วนพระก็ให้พรตามเดิม (ลดหน้าที่กันสินะ -w-" )

ยิ่งกว่านั้นการทำสงครามครูเสดต่อต้านชาวมุสลิมในดินแดนศักดิ์สิทธิ์และชื่อเสียงของคณะอัศวินบางกลุ่ม อย่างเช่น อัศวินฮอสพิทาลเลอร์ (Knight Hospitaler) อัศวินเทมพลา (Knight Templar) และอัศวินทิวทอนิค (Teutonic Knight) เป็นต้น

รายระเอียดปลีกย่อยของอัศวินบางกลุ่มเริ่มต้นจาก สงครามครูเสด (The Crusades)

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b9/Castle_at_Rhodes.jpg

ปราสาทของ อัศวินฮอสพิทาลเลอร์

อัศวินฮอสพิทาลเลอร์ (Knight Hospitaler) ตั้งขึ้นในยุคสงครามครูเชตใน ค.ศ 1099


http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/6/64/StLazarusWappen.gif

สัญลักษณ์ อัศวิน Saint Lazarus

อัศวิน Saint Lazarus (กลุ่มย่อยของ Knight Hospitaler) ตั้งขึ้นใน ค.ศ 1100

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/4/43/Templarsign.jpg

สัญลักษณ์ อัศวินเทมพลา

อัศวินเทมพลา (Knight Templar) ตั้งขึ้นใน ค.ศ 1118 และ ถูกยุบ ใน ค.ศ 1307

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f9/Teuton-jelv%C3%A9ny.png/542px-Teuton-jelv%C3%A9ny.png

สัญลักษณ์ อัศวินทิวทอนิค

อัศวินทิวทอนิค (Teutonic Knight) เป็นกลุ่มอัศวินที่มีความรุ่งโรจน์สูงสุดและมีระยะเวลายาวนานที่สุด เริ่มใน ค.ศ. 1190 และถูกให้ไปรบในยุคสงครามชิงในดินแดนของ Prussia ถึงในปี ค.ศ 1525


ชึ่งช่วยทำให้เกียรติภูมิของอัศวินในฐานะนักรบชาวคริสต์เพิ่มสูงมากขึ้น ๆ วรรณคดีหลายเล่มอย่างเช่นเรื่อง บทเพลงแห่งโรแลนด์ (Song of Roland) และเรื่องพระเจ้าอาเธอร์ (Arthurian romance)

ล้วนแต่ยกย่องพฤติกรรมของอัศวินทั้งสิ้น อนึ่ง เมื่ออัศวินมีที่ดินเป็นของตนเอง ก็ยุติความแตกต่างที่แยกระหว่างขุนนางกับอัศวินลง พร้อมกันนั้นก็เกิดชนชั้นใหม่ที่ขยายขนาดขึ้นเป็นขุนนางและอัศวินผู้เป็นเจ้าของที่ดิน

หลักฐานต่าง ๆ สมัยกลางใช้คำอันหลากหลายเมื่อต้องเอ่ยถึงอัศวินและขุนนาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเคยมีช่องว่างที่กั้นระหว่างอัศวินกับขุนนางอยู่

ในต้นศตวรรษที่ 12 นักเขียนจึงแยกระหว่างอัศวินธรรมดา อัศวินที่เป็นอัศวินระดับกลาง และอัศวินที่เป็นขุนนางระดับสูง

ขอบคุณข้อมูลจาก

เอกสารประกอบการศึกษารายวิชา ประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยกลาง โดย จักรฤทธิ์ อุทโธ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ. 2545

และ http://en.wikipedia.org/wiki/Knight เยอะมากแต่แปลเอาเนื้อๆ - -"

ที่จริงมีอัศวินหญิงด้วยล่ะเพียงแต่รายละเอียดเยอะพอสมควร (กว่าจะแปลหมด)


~::แถม::~ (ถ้าหามาลงได้อ่ะนะ) - -*

http://i1177.photobucket.com/albums/x342/Gotto_Aisu/L4Dthai.jpg

ขอบคุณภาพจาก Google Tag Left 4 Dead ครับ (ถ้ามีจริงๆตรูไม่เล่นดีกว่าแหะถ้ามีแบบนี้)

pone123
22nd November 2011, 22:52
นานๆที ทำประโยชน์บ้างเนอะ ว่าแล้วว่าพี่ต้องเป็นคิง ตั้งแต่คุยโทรศัพย์ตอนนั้นล่ะ - -

godji001
23rd November 2011, 09:35
นานๆที ทำประโยชน์บ้างเนอะ ว่าแล้วว่าพี่ต้องเป็นคิง ตั้งแต่คุยโทรศัพย์ตอนนั้นล่ะ - -

ระวังโดนWarnนะ ถ้าโพสกวนแบบนี้ - - (ก่อนจะโพสคิดดีๆก่อนสิ = =*)

ป.ล. ไปสะกดให้ถูกหน่อยก็ดี = =


มาเจิมให้น่ะ - -

อ่า..อืม //facepalm

pone123
23rd November 2011, 09:42
ระวังโดนWarnนะ ถ้าโพสกวนแบบนี้ - - (ก่อนจะโพสคิดดีๆก่อนสิ = =*)

ป.ล. ไปสะกดให้ถูกหน่อยก็ดี = =

มาเจิมให้น่ะ - -

clubzaxxx
23rd November 2011, 10:21
นานๆที ทำประโยชน์บ้างเนอะ

เอิ่ม......
http://www.gaijin4koma.com/images/051303.jpg