dantezeedza
19th December 2011, 21:54
ในยุคที่กระแสรักสุขภาพมาแรงแบบนี้ จึงมีการรณรงค์ให้มีการออกกำลังกายทั่วไปทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณนั่นเอง โดยการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ “การเดิน” มีการรณรงค์ให้มีการเดินอย่างน้อย ๆ วันละครึ่งชั่วโมง เพื่อเป็นการออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ ซึ่งทำให้มีหลาย ๆ คนเข้าใจผิดว่า ถ้าเช่นนั้นการเดินทำกิจกรรมนู่น กิจกรรมนี่ตลอดทั้งวันก็ถือเป็นการออกกำลังกายได้น่ะสิ เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเราได้ออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การออกกำลังกายด้วยการเดินจริง ๆ นั้น “คุณต้องรู้สึกเหนื่อย และคุณต้องทำอย่างต่อเนื่อง” เพราะฉะนั้นการเดินทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งวันนั้นถือว่า เป็นแค่การเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะบางครั้งการเดินไปเดินมา แล้วก็หยุด จากนั้นก็เดินไปหยิบของ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่ต่อเนื่องก็ถือว่าการเดินนั้นไม่ใช่การออกกำลังกาย ซึ่งการเดินออกกำลังกายที่ถูกต้อง คุณต้องเดินด้วยความเร็วที่พอดี ก้าวขาเร็ว ๆ แต่ก็ไม่ควรเร็วจนเหมือนเป็นการวิ่ง (แต่อนุโลมได้สำหรับผู้ที่ร่างกายแข่งแรงอยู่แล้ว ให้เดินสลับวิ่งได้) และไม่ใช่การเดินนวยนาดจนเหมือนมาเดินเล่น และที่สำคัญที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งต้องมีการอบอุ่นร่างกาย เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสายก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง ทั้งนี้การเดินออกกำลังกายนั้นช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น ช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงและช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ [...]
http://kbusociety.eduzones.com/th/wp-content/uploads/2010/05/1232495059.jpg
นยุคที่กระแสรักสุขภาพมาแรงแบบนี้ จึงมีการรณรงค์ให้มีการออกกำลังกายทั่วไปทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณนั่นเอง
โดยการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ “การเดิน” มีการรณรงค์ให้มีการเดินอย่างน้อย ๆ วันละครึ่งชั่วโมง เพื่อเป็นการออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ ซึ่งทำให้มีหลาย ๆ คนเข้าใจผิดว่า ถ้าเช่นนั้นการเดินทำกิจกรรมนู่น กิจกรรมนี่ตลอดทั้งวันก็ถือเป็นการออกกำลังกายได้น่ะสิ เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเราได้ออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การออกกำลังกายด้วยการเดินจริง ๆ นั้น “คุณต้องรู้สึกเหนื่อย และคุณต้องทำอย่างต่อเนื่อง” เพราะฉะนั้นการเดินทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งวันนั้นถือว่า เป็นแค่การเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะบางครั้งการเดินไปเดินมา แล้วก็หยุด จากนั้นก็เดินไปหยิบของ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่ต่อเนื่องก็ถือว่าการเดินนั้นไม่ใช่การออกกำลังกาย
ซึ่งการเดินออกกำลังกายที่ถูกต้อง คุณต้องเดินด้วยความเร็วที่พอดี ก้าวขาเร็ว ๆ แต่ก็ไม่ควรเร็วจนเหมือนเป็นการวิ่ง (แต่อนุโลมได้สำหรับผู้ที่ร่างกายแข่งแรงอยู่แล้ว ให้เดินสลับวิ่งได้) และไม่ใช่การเดินนวยนาดจนเหมือนมาเดินเล่น และที่สำคัญที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งต้องมีการอบอุ่นร่างกาย เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสายก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง
ทั้งนี้การเดินออกกำลังกายนั้นช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น ช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงและช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย
http://kbusociety.eduzones.com/th/wp-content/uploads/2010/05/1232495059.jpg
นยุคที่กระแสรักสุขภาพมาแรงแบบนี้ จึงมีการรณรงค์ให้มีการออกกำลังกายทั่วไปทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณนั่นเอง
โดยการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ “การเดิน” มีการรณรงค์ให้มีการเดินอย่างน้อย ๆ วันละครึ่งชั่วโมง เพื่อเป็นการออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ ซึ่งทำให้มีหลาย ๆ คนเข้าใจผิดว่า ถ้าเช่นนั้นการเดินทำกิจกรรมนู่น กิจกรรมนี่ตลอดทั้งวันก็ถือเป็นการออกกำลังกายได้น่ะสิ เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเราได้ออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การออกกำลังกายด้วยการเดินจริง ๆ นั้น “คุณต้องรู้สึกเหนื่อย และคุณต้องทำอย่างต่อเนื่อง” เพราะฉะนั้นการเดินทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งวันนั้นถือว่า เป็นแค่การเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะบางครั้งการเดินไปเดินมา แล้วก็หยุด จากนั้นก็เดินไปหยิบของ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่ต่อเนื่องก็ถือว่าการเดินนั้นไม่ใช่การออกกำลังกาย
ซึ่งการเดินออกกำลังกายที่ถูกต้อง คุณต้องเดินด้วยความเร็วที่พอดี ก้าวขาเร็ว ๆ แต่ก็ไม่ควรเร็วจนเหมือนเป็นการวิ่ง (แต่อนุโลมได้สำหรับผู้ที่ร่างกายแข่งแรงอยู่แล้ว ให้เดินสลับวิ่งได้) และไม่ใช่การเดินนวยนาดจนเหมือนมาเดินเล่น และที่สำคัญที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ก่อนออกกำลังกายทุกครั้งต้องมีการอบอุ่นร่างกาย เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสายก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง
ทั้งนี้การเดินออกกำลังกายนั้นช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น ช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงและช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย