PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : 10 อันดับบุคคลที่โหดร้ายที่สุดที่โลกเคยมีมา



pone123
24th December 2011, 19:30
http://image.ohozaa.com/i/ce2/zB0qw.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9es)

Attila The Hun

อัตติลา หรือ อัตติลาเดอะฮั่น (อังกฤษ: Attila the Hun) (ค.ศ. 406 – ค.ศ. 453) ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งชนฮั่นผู้ครองจักรวรรดิฮั่นระหว่าง ค.ศ. 434 ที่เป็นจักรวรรดิที่มีอาณาบริเวณครอบคลุมตั้งแต่ เยอรมนีไปจนถึงแม่น้ำอูราล และจากแม่น้ำดานูบไปจนถึงทะเลบอลติก ระหว่างรัชสมัยการปกครองอัตติลาทรงไปประมุขผู้สร้างความหวาดหวั่นมากที่สุดให้แก่ทั้งจักรวรรดิโรมันตะวันออก และจักรวรรดิโรมันตะวันตก พระองค์ทรงรุกรานคาบสมุทรบอลข่านสองครั้ง และทรงนำทัพเข้าไปยังดินแดนกอล (ฝรั่งเศสปัจจุบัน) ไปจนถึงออร์เลอองส์ก่อนที่จะไปทรงพ่ายแพ้ในยุทธการชาลงส์ (Battle of Chalons) อัตติลาทรงยับยั้งพระองค์ในการคอนสแตนติโนเปิล และ กรุงโรม การได้มาซึ่งดาบแห่งอัตติลาโดยปาฏิหาริย์ของพระองค์ได้รับการบรรยายโดยนักประวัติศาสตร์โรมันพริสคัส[1] (Priscus) ความทรงจำของยุโรปตะวันตกเกี่ยวกับอัตติลาเป็นความฝังใจในความทารุณและความรวดเร็วในการโจมตีของพระองค์ แต่ในฮังการี, ตุรกี และ ประเทศเตอร์กิกต่างๆ ในเอเชีย พระองค์ทรงได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษ นักประวัติศาสตร์และนักบันทึกเหตุการณ์บางท่านบรรยายพระองค์ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และผู้ทรงคุณธรรม นอกจากนั้นแล้วอัตติลาก็ยังทรงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำนานของชาวนอร์สเรื่อง Atlakviða, Völsunga และ Atlamá อัตติลาได้รับการบรรยายโดยนักประวัติศาสตร์จอร์ดาเนสว่าทรงมี "พระวรการที่เตี้ย, พระอุระกว้างและพระเศียรใหญ่; พระเนตรเล็ก, พระมัสสุบางและประปรายด้วยสีเทา; พระนาสิกแบน และ พระฉวีคล้ำ แสดงถึงที่มาของพระองค์

http://image.ohozaa.com/i/329/lVjrs.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9g3)

Maximilien Robespierre

มักซีมีเลียง ฟร็องซัว มารี อีซีดอร์ เดอ รอแบ็สปีแยร์ (ฝรั่งเศส: Maximilien François Marie Isidore de Robespierre; 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2301 - 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2337) เป็นอดีตประธานคณะกรรมการความมั่นคงปลอดภัยแห่งรัฐ ที่ตั้งขึ้นเพื่อสอดส่องดูแลความมั่นคงปลอดภัยในสาธารณรัฐฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งประธานของคณะนี้มีอำนาจจับกุมและสั่งประหารชีวิตผู้คนได้ มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2301 (ค.ศ. 1758) ที่เมืองอารัส แคว้นนอร์-ปา-เดอ-กาแล ประเทศฝรั่งเศส ต่อมาก็ได้เข้าเป็นผู้นำของกลุ่มฌากอแบ็งที่กล่าวหาพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส และพระนางมารี อองตัวแนตว่า ได้ทรงกระทำการในสิ่งที่เป็นการขายชาติ ทั้งยังเรียกร้องให้ประหารชีวิตทั้งสองพระองค์อีกด้วย แต่ก่อนหน้านั้นไม่นาน ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2332 (ค.ศ. 1789) มีฝูงชนฝรั่งเศสกลุ่มใหญ่ลุกฮือเข้าโจมตีทำลายคุกบัสตีย์ในกรุงปารีส เพื่อต่อต้านระบอบกษัตริย์และขุนนางของฝรั่งเศส แล้วไม่นานชาวฝรั่งเศสแทบทั้งประเทศก็เข้าร่วมม็อบนี้ ทำให้การปฏิวัติสำเร็จอย่างรวดเร็ว ฝรั่งเศสเปลี่ยนเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย แต่ประเทศอื่น ๆ ต่างคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัตินี้และพยายามกดขี่ข่มเหงฝรั่งเศส ดังนั้น ต่อมาในพ.ศ. 2336 รอแบ็สปีแยร์ก็ฉวยโอกาสตอนตนกำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง และช่วงที่ฝรั่งเศสกำลังถูกคุกคาม เข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการความมั่นคงปลอดภัยแห่งรัฐ เขาจึงได้กลายเป็นจอมเผด็จการอย่างแท้จริง ในเวลาปีเดียว เขาจับกุมและประหารผู้คนนับพัน ๆ ตั้งแต่ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงความผิดอุกฉกรรจ์ หรือแม้แต่การใส่ร้ายใส่ความโดยรอแบ็สปีแยร์ ต้องถูกประหารโดยเครื่องประหารกิโยติน เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม แต่คนอื่น ๆ เรียกช่วงเวลาที่รอแบ็สปีแยร์อยู่ในตำแหน่งว่า ยุคแห่งความหวาดกลัว ดังนั้นในพ.ศ. 2337 จึงมีผู้คนจำนวนมหาศาลรวมตัวกันโค่นอำนาจและจับกุมรอแบ็สปีแยร์ เขาพยายามฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ ต้องตายโดยการถูกประหารด้วยเครื่องกิโยตินท่ามกลางผู้คนมากมายที่รุมล้อมในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2337 (ค.ศ. 1794)

http://image.ohozaa.com/t/a25/LTySy.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9ha)
Ruhollah Khomeini

อายะตุลลอฮ์ รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี (เปอร์เซีย : روح الله موسوی خمینی (ข้อมูล); อังกฤษ : Ruhollah Khomeini) (24 กันยายน ค.ศ. 1902 - 3 มิถุนายน ค.ศ. 1989) อดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ผู้ทำการล้มล้างอำนาจของพระเจ้าชาร์มูฮัมหมัด เรซา ปาฮ์เลวี ของอิหร่านซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2523 ประกาศการปฏิวัติอิสลาม และประกาศสงครามอิหร่าน-อิรัก

http://image.ohozaa.com/i/271/muh8y.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9i4)

Idi Amin Dada

อามินเริ่มจัดการกับกลุ่มคนที่ยังจงรักภักดีโอโบเต้ ในปี พ.ศ. 2515 อันได้แก่กลุ่มชนเผ่าอะโชลีและแลนโก้ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2514 ทหารของอะโชลีและแลนโก้ถูกสังหารหมู่ในโรงเรียนทหารจากจินจาและมบาราร่าจำนวนมาก และต้นปี พ.ศ. 2515 ทหารของอะโชลีและแลนโก้ประมาณ 5,000 นายกับชาวบ้านบางส่วนหายสาบสูญ[27] ไม่นานเหล่าผู้เคราะห์ร้ายก็หันไปพึ่งชนเผ่าอื่น, ผู้นำลัทธิ, นักหนังสือพิมพ์, ข้าราชการอาวุโส, ผู้พิพากษา, นักกฎหมาย, นักศึกษา, อาชญากร และชาวต่างชาติ เพื่อกระจายข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้น และจะมีผู้คนถูกสังหารอีกมากมาย การสังหารถูกกระตุ้นโดยชนเผ่าตามปัจจัยทางนโยบายและการคลังดำเนินอยู่ตลอด 8 ปีที่อามินดำรงตำแหน่ง ไม่มีใครทราบจำนวนตัวเลขแน่นอนของคนที่ถูกสังหาร คณะกรรมาธิการนักกฎหมายสากลประมาณตัวเลขผู้เสียชีวิตไว้ไม่ต่ำกว่า 80,000 คนและอยู่ประมาณ 300,000 คน แต่การประมาณตัวเลขผู้เสียชีวิตขององค์กรผู้ลี้ภัยที่ได้รับการช่วยเหลือจากองค์การนิรโทษกรรมสากลได้คาดไว้ถึง 500,000 คน ในกลุ่มผู้ที่ถูกสังหาร ชื่อที่สะดุดตานั้นมีเบเนดิกโต กิวานุก้า อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งในภายหลังได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้พิพากษา, จานานี ลุวุม อัครสังฆราชชาวอังโกลา, โจเซฟ มูบิรุ ผู้ว่าการธนาคารกลาง, แฟร้งค์ มาลิมุโซ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมาเกเรเร่, ไบรอน กาวาดว่า นักประพันธ์บทละครผู้มีชื่อเสียงและสองรัฐมนตรีของอามินเองคืออีรินาโย วิลสัน ออร์เยม่ากับชาร์ลส์ โอบอธ โอโฟมบิ[29] ในปี พ.ศ. 2520 เฮนรี เกมบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลอามินและอดีตข้าราชการในสมัยโอโบเต้เป็นประธานาธิบดีครั้งแรก ได้ละทิ้งตำแหน่งและไปตั้งรกรากใหม่ที่สหราชอาณาจักร เขาเขียนและตีพิมพ์หนังสือ "A State of Blood" เกมบาคือบุคคลภายในคนแรกที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการปกครองของอามิน [แก้]การขับไล่ชาวเอเชีย 60,000 คนออกนอกประเทศ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2515 อามินประกาศสิ่งที่เขาเรียกว่า "สงครามเศรษฐกิจ (Economic War)" มีนโยบายอย่างเช่น ยึดอสังหาริมทรัพย์ของชาวเอเชียและชาวยุโรป ชาวเอเชียในยูกันดา 80,000 คนส่วนใหญ่เป็นชาวอนุทวีปอินเดียที่เกิดในยูกันดา บรรพบุรุษของพวกเขาเข้ามาประกอบวิชาชีพ เป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมของขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นกระดูกสันหลังทางเศรษฐกิจของประเทศยูกันดา ตั้งแต่สมัยที่ประเทศของพวกเขายังอยู่ในเครือจักรภพ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2515 อามินออกคำสั่งให้ขับไล่ชาวเอเชียในประเทศยูกันดา 60,000 คน (ส่วนใหญ่ถือหนังสือเดินทางของสหราชอาณาจักร) ต่อมาภายหลังเขาได้ออกมาขอโทษกับชาวเอเชียทั้งหมด 80,000 คนต่อมาตรการดังกล่าว และขอยกเว้นชาวเอเชียที่ประกอบอาชีพจำพวกแพทย์, นักกฎหมาย และครู แต่ชาวเอเชียราว 30,000 คนที่ถือหนังสือเดินทางของสหราชอาณาจักรก็ตัดสินใจอพยพออกนอกประเทศยูกันดาไปที่บริเตนใหญ่ ที่เหลือได้เดินทางไปที่ประเทศออสเตรเลีย, แคนาดา, อินเดีย, ปากีสถาน, สวีเดนและสหรัฐอเมริกา อามินได้ยึดเอาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ของชาวเอเชีย ยกให้แก่พวกพ้องของอามิน ธุรกิจเหล่านั้นประสบความล้มเหลว อุตสากหรรมล้มละลายเนื่องจากขาดการดูแล เริ่มปรากฏหายนะทางเศรษฐกิจ

http://image.ohozaa.com/i/a66/keDju.gif (http://image.ohozaa.com/view/6m9k3)

Leopold II of Belgium

สมเด็จพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 2 เป็นกษัตริย์ของเบลเยียม ในช่วง 1865-1909 ด้วยการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล สร้างรัฐอิสระคองโก เพื่อ ยางและงาช้างในภูมิภาคแอฟริก ทั้งใช้การบังคับใช้แรงงานและก่อให้เกิดการเสียชีวตของชาวคองโกประมาณ 3ล้านคน

http://image.ohozaa.com/i/dff/VTtoS.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9kt)

Pol Pot

ซาลอท ซาร์ (Saloth Sar) หรือ พล พต (Pol Pot) (พ.ศ. 2468-พ.ศ. 2541) (เขมร: ប៉ុល ពត ปุล โปต) เป็นผู้นำเขมรแดง และเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชาในปี พ.ศ. 2519-พ.ศ. 2522 พล พต ปกครองเขมรแดงตั้งแต่ พ.ศ. 2518-พ.ศ. 2522 ใช้วิธีที่รุนแรง เพื่อปรับปรุงระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมพึ่งตัวเอง รวมถึงการโดดเดี่ยวประเทศออกจากอิทธิผลต่างชาติ ปิดโรงเรียน โรงพยาบาล โรงงาน ยกเลิกระบบธนาคาร เงินตรา ฯลฯ และจัดให้พวกที่ทำมาหากินอยู่ในเขตเมือง ออกไปทำงานในฟาร์มนอกเมือง จนในที่สุดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2522 เขมรฝ่ายที่เวียดนามหนุนหลังบุกเข้ายึดกรุงพนมเปญใน พ.ศ. 2522 พวกเขมรแดงหลบออกไปอยู่ที่พรมแดนไทยกับกัมพูชา ขณะที่ระเบิดนับสิบล้านลูกถูกฝังอยู่ทั่วประเทศ ต่อมาพล พต เข้าร่วมมือกับฝ่ายเจ้าสีหนุใน พ.ศ. 2525 จัดตั้งรัฐบาลผสมกัมพูชาธิปไตย (Coalition Government of Democratic Kampuchea: CGDK) จากนั้นนายเขียว สัมพัน ก็ขึ้นเป็นผู้นำแทนพล พต ในปี 1985 แต่เชื่อกันว่าพล พต ยังคงกุมอำนาจที่แท้จริง ในปี พ.ศ. 2534 กลุ่มต่างๆ ในเขมรลงนามสันติภาพขอให้มีการเลือกตั้งที่กำกับโดยสหประชาชาติ แต่แล้วเขมรแดงก็ปฏิเสธผลการเลือกตั้งที่จะได้รัฐบาลผสมในปี พ.ศ. 2535 แม้ว่าจะเสียกำลังพลไปจำนวนมากแล้วก็ตาม การต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในกลุ่มเอง ในปี พ.ศ. 2540 ทำให้พล พต ถูกขับออกไป ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2541เนื่องจากโรคพาร์กินสัน จากนั้นสมาชิกของเขมรแดงส่วนใหญ่ก็แตกสลาย บางส่วนประกาศยอมจำนนและถูกจับ

http://image.ohozaa.com/i/5fd/IQl7W.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9m0)

Vlad Ţepeş

วลาด เซเปช ( Vlad Tepes ) ชื่ออื่นๆคือ วลาด ที่III จอมเสียบ (Vlad III the Impaler) หรือที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งคือ วลาดิสลาฟ ดรากูลา (Vladislav Dracula) เป็นลูกชายของ วลาด ที่ 2 ดรากูล (ซึ่งคำว่าดรากูล DRACUL มาจากคำว่าดราก้อน DRAGON) ดรากูล นั้นได้รับ ตรากล้าหาญ the Order of the Dragon จาก สมเด็จพระจักรพรรดิซิจิสมุนด์แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง 2 พ่อลูกนี้เป็นนักรบที่ชอบวิธีการทรมานเชลยที่จับมาได้ด้วยวิธีที่โหด*****ม โดยเฉพาะ เซเปช จะชอบการทรมานด้วยวิธีการ เอาไม้แหลมมาเสียบทะลุตัวเชลยที่จับมาได้ โดยจะเสียบประจาน ไว้ตามทุ่งหญ้ากว้างรอบๆ ปราสาทบราน (Bran Castle) ด้วยวิธีเสียบตั้งแต่ทวารหนัก จนถึงปาก จนเชลยเสียชีวิตในที่สุด (ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลวลาเซีย คือ คอนแสตนติน บาสซารับ เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1658) นอกจากนั้น วลาด เซเปช ยังเป็นแรงบันดาลใจของ บราม สโตกเกอร์ (Bram Stoker) นักเขียน ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่อง แดร็กคิวล่า Dracula (Drăculea) หรือ เคาท์แดร็กคิวล่า Count Dracula นั่นเอง

http://image.ohozaa.com/i/5ee/FxUvy.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9nn)

Ivan IV of Russia

พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย หรือ "อีวานผู้โหดร้าย" เพราะพระองค์ทรงปกครองอาณาจักรด้วยความ*****มโหด ปราศจากความเมตตา ว่ากันว่าทรงรับสั่งให้ควักลูกตาสถาปนิกผู้ออกแบบสร้างมหาวิหารเซนต์บาซิล เพื่อมิให้สร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามเช่นนี้ได้ที่ใดอีก พระองค์เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าบาซิลที่ 3 แห่งไบแซนไทน์ และเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าอีวานที่ 3 พระองค์ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าผู้ครองนครมัสโกโวท์ที่ได้ตั้งองค์เป็นตำแหน่งซาร์ อย่างเป็นทางการ ซาร์อีวานที่ 4 ครองราชย์สมบัติตั้งแต่พระชนม์ได้ 3 ชันษา โดยที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์อยู่ พระนางเฮเลนพระราชมารดาทรงเป็นผู้สำเร็จราชการ มหาวิหารเซนต์บาซิล อย่างไรก็ตามเมื่อซาร์อีวานที่ 4 ได้ทรงทำพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อปี พ.ศ. 2090 และในปีเดียวกันนี้ได้ทรงอภิเษกกับอะนัสตาเซียแห่งสกุลราชวงศ์โรมานอฟ เป็นชื่อสกุลขุนนางที่สืบมาจากตระกูลเยอรมันชั้นสูงตระกูลหนึ่ง ซึ่งได้อพยพมาจากเยอรมนี ไปยังกรุงมอสโกในตอนต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 14 และได้เปลี่ยนสกุลใหม่ว่าสกุลคอชกิน สกุลนี้ได้รับราชการในพระราชสำนักของราชวงศ์รูริคตลอดมาเป็นเวลาร่วม 200 ปี ครั้งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 บุรุษในตระกูลคอชกินผู้หนึ่งชื่อว่า โรมานอฟ ยูริวิช เกิดความรู้สึกว่านาม "คอชกิน" นั้นยังไม่มีสำเนียงเป็นภาษารัสเซียพอ เขาจึงได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่ โดยตั้งชื่อตามชื่อแรกของตัวคือ "โรมานอฟ" ซาร์อีวานที่ 4 ได้ทรงเลือก อนาสตาเซียแห่งรัสเซียเป็นคู่อภิเษก พระองค์ทรงหลงรักเจ้าสาวของพระองค์อย่างดื่มด่ำมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อพระนางอนาสตาเซียสิ้นพระชนม์ในปีพ.ศ. 2103 ทำให้พระราชสวามีทรงโศกเศร้ามากถึงกับเสียสติไปและคอยทรงระแวงผู้คนตลอดเวลา โดยคิดว่าเขาเหล่านั้นได้วางยาพิษพระมเหสีสุดที่รักความแค้นเคืองเหล่านี้เลยทำให้พระองค์ทรงมีสติวิปลาสไป เวลาที่ซาร์อีวานที่ 4 จะเสด็จพระราชดำเนินไปไหน พระองค์จะทรงถือพระแสงหอกไปด้วยเสมอและเมื่อข้าราชบริพารคนใดทำสิ่งใดให้พิโรธ พระองค์ก็จะทรงใช้พระแสงนั้นทิ่มแทงผู้ที่เคราะห์ร้ายนั้นเสีย ซาร์อีวานที่ 4 ทรงอภิเษกสมรสอีก 6 ครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้พระองค์มีอาการดีขึ้นในบั้นปลายแห่งพระชนม์ชีพ อีวานทรงประสบกับการหลอกหลอนจากกรรมต่าง ๆ ที่ได้ทรงกระทำไว้ในอดีตจนพระเกศาร่วงหมดและทรงร้องครวญครางอยู่ทุกคืน กล่าวกันว่า พระองค์สวรรคตในปี พ.ศ. 2127 ด้วยพระชนม์เพียง 54 ชันษา

http://image.ohozaa.com/i/cbf/6TEys.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9ok)

Adolf Hitler


ตามข้อมูลฝั่งตะวันตก ฮิตเลอร์เป็นคนอารมณ์ร้าย และมักจะเกรี้ยวกราดอย่างไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาขั้นต้นนี้ แพทย์ประจำตัวของเขายืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยความจริงแล้ว ฮิตเลอร์ไม่ใช่คนโมโหร้าย ทั้งยังชอบพูดเรื่องตลก แต่หากมีใครเถียงนอกเรื่องข้างๆ คูๆ เขาก็จะตะเบ็งเสียงดังจนกลบเสียงคู่สนทนาหมดทุกคน แต่ฮิตเลอร์นั้นมีโรคประจำตัวหลายโรคมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก เขากินช็อกโกแลต 2 ปอนด์ทุกวัน แม้แต่กินน้ำชา เขาก็ยังใส่น้ำตาลถึง 7 ช้อน ดื่มไวน์ก็เติมน้ำตาลด้วย แต่โรคประจำตัวส่วนมากจะเกี่ยวกับระบบประสาทที่ทำงานผิดปกติ ความดันโลหิตต่ำ พาร์คินสัน (Parkinson) และอีกหลายโรค ฮิตเลอร์ชอบจูบมือผู้หญิง ชอบเลขานุการหญิงมากชนิดที่ว่า ถ้าพวกเธอป่วย เขาก็จะไปเยี่ยมเลยทีเดียว และเขาเป็นคนรักสะอาดมาก ชอบอาบน้ำวันละหลายๆ ครั้ง เสื้อผ้าส่วนตัวก็รักษาให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ เครื่องแบบของเขาก็มีแค่ตรา "กางเขนเหล็ก" ที่ได้มาเมื่อครั้งเขาเป็นนายทหารเยอรมันเท่านั้น แม้ว่าฮิตเลอร์เป็นคนรักสุนัขมากแต่จะไม่ชอบลูบสุนัขด้วยมือเปล่า หากลูบแล้วเขาก็รีบไปล้างมือโดยไว ทั้งยังเป็นมังสวิรัติ ฮิตเลอร์เป็นคนสุภาพมากและเป็นคนใจดี สมัยนั้นมีผู้ที่ชื่นชอบเขาเขียนจดหมาย ส่งดอกไม้และของขวัญมาให้เยอะแยะมากมาย ฮิตเลอร์ยังเคยให้คนนำของทั้งหมดไปแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ที่อาศัยอยู่ บริเวณใกล้เคียงด้วย ห้องทำงานของเขาซึ่งเป็นทั้งห้องนอนก็เรียบร้อยเป็นระเบียบและสะอาด สะอ้าน ภายในห้องมีของใช้จำเป็นอยู่ไม่กี่ชิ้น อย่างเตียงเหล็ก ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า โต๊ะทำงาน และเก้าอี้อีก 2 ตัว ของชิ้นเดียวที่แขวนประดับอยู่ข้างเตียงของเขาคือ รูปถ่ายของแม่ของเขา ฮิตเลอร์ยังชอบทำอะไรซ้ำๆ เช่น เวลาออกไปเดินเล่นก็ชอบเดินทางเดิมที่เคยเดิน นอกจากนี้ ฮิตเลอร์เป็นชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เป็นเจ้านายที่ควรค่าแก่การเคารพ ใครจะว่าเขาไม่ดียังไง แต่เขาดีกับบรรดาคนรับใช้ของมาก ไม่งั้นภายหลังเขาเสียชีวิตคงไม่มีใครยอมตายตามเขาไป ฮิตเลอร์เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก เนื่องจากเขาไม่มีโอกาสทางการศึกษามากนัก เมื่อมีโอกาสฮิตเลอร์พยายามทดแทนด้วยการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจากการอ่านหนังสือที่สะสม หนังสือเหล่านี้จึงหล่อหลอมตัวตนฮิตเลอร์และแนวคิดของเขาเขามีหนังสือมากถึง 16,000 เล่มซึ่งถูกเก็บไว้ในห้องสมุดส่วนตัวซึ่งมีมากกว่า 3 แห่ง ทั้งในเบอร์ลิน มิวนิค และบ้านพักตากอากาศต่างๆ มีทั้งแนวประวัติศาสตร์ ปรัชญา การเมือง กวีนิพนธ์ และวรรณกรรมคลาสสิก เช่น โรมิโอกับจูเลียต, กระท่อมน้อยของลุงทอม และดอน กีโฆเต้ เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับสงคราม อัตชีวประวัติของบุคคลต่างๆ ศิลปะ และประวัติศาสตร์ ด้วยความที่เขาชอบอ่านหนังสือ เขาจึงสามารถบอกรูปร่างและลักษณะของเรือรบแบบต่างๆ และรอบรู้ในเรื่องยุทโธปกรณ์ของกองทัพเยอรมันเป็นอย่างดี และเขามีความจำที่เยี่ยมมาก สามารถจำได้ว่า เรือรบของราชนาวีเยอรมนี (Kreigsmarine) มีระวางขับน้ำกี่ตัน ปล่อยออกมาจากท่าเรือไหน วันที่ใด ติดอาวุธอะไรบ้าง ฯลฯ ฮิตเลอร์ยังเป็นคนรอบรู้ด้านอาวุธและยุทธวิธี จนไคเทล และเดอนิทซ์ชื่นชมเขาเลยทีเดียว แต่หลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 หนังสือในห้องสมุดส่วนตัวของเขาได้กระจัดกระจายออกไป ในปัจจุบันพบอยู่ราว ๆ 10,000 เล่ม ตลอดช่วงชีวิตของการเป็นผู้นำนาซี ฮิตเลอร์นำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปประยุกต์ใช้กับการเขียน การพูด และการกล่าวคำปราศรัย จนกลายเป็นนักพูดที่สามารถสะกดโน้มน้าวใจผู้ฟังได้อย่างชะงัก หนังสือหลายเล่มของฮิตเลอร์มีลายมือของเขา เขียนกำกับไว้ตามที่ต่าง ๆ พร้อมกับคำถามและความเห็นต่อเนื้อหาโดยเฉพาะวรรคทอง ประโยคเด็ด หรือย่อหน้าที่ชื่นชอบเขาจะขีดเส้นใต้ไว้ นอกจากนี้ ฮิตเลอร์ยังเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ เช่น เขาบอกว่าจะฉีกสนธิสัญญาแวร์ซายทันทีเมื่อเป็นผู้นำ และเขาก็ฉีกจริงๆ เมื่อเขาได้เป็นผู้นำเยอรมนี ฮิตเลอร์เป็นคนชอบศึกษาเรื่องเครื่องยนต์กลไก แต่ไม่คิดที่จะขับรถเอง ชอบเทคโนโลยี ชอบวิทยาศาสตร์ ชอบการคิดสร้างสรรค์สิ่งที่มหัศจรรย์ เป็นคนไม่ย่อท้อมีกำลังใจสูง ชอบจินตนาการ ชอบศิลปะ ชอบวาดรูป ชอบเล่นภาพสีน้ำมัน ชอบร้องเพลง เป็นอัจฉริยะเรื่องผิวปาก และชอบเล่นเครื่องดนตรีฮาร์โมนิก้า และฟลุต ไม่ชอบฟังวิทยุ แต่ชอบฟังเพลงในอุปรากรของริชาร์ด วากเนอร์ ชนิดที่เขายกวากเนอร์ให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาดนตรีเลยทีเดียว แทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่าที่กล่าวมาทั้งหมดคือชายที่สั่งฆ่า สังหารหมู่ และทรมานชาวยิวหลายสิบล้านคน

http://image.ohozaa.com/i/bab/Lbjbk.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m9pc)

Josef Stalin

โจเซฟ สตาลิน ไม่ใช่ชื่อจริงของเขา ชื่อจริงของเขาคือ იოსებ ბესარიონის ძე ჯუღაშვილი Ioseb Besarionis dze Jughashvili โยเซบ เบซาริโอนิส ดเซ จูกาชวิลลี เขาเกิดที่เมือง โกรี ประเทศจอร์เจีย รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐของจักรวรรดิรัสเซียสมัยนั้น เขาก็เป็นชาวจอร์เจียนโดยกำเนิด โดยชื่อ สตาลิน นี้เขาตั้งขึ้นมาเองขณะทำงานให้พรรคคอมมิวนิสต์ (stalin ในภาษารัสเซียแปลว่า เหล็กกล้า) เป็นลูกของช่างทำรองเท้า ต่อมาพ่อของเขาต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองทิฟลิส ทำให้สตาลินต้องอาศัยอยู่กับมารดาเพียงคนเดียวในจอร์เจีย[1] สตาลินนั้นเป็นเด็กที่เรียนดี เขาเรียนในโรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่ง แต่ต่อมาเขาเริ่มสนใจในลัทธิมาร์กซ์ ทำให้เขามีความคิดต่อต้านศาสนา และเริ่มใช้ชื่อว่า โคบา อีกทั้งยังเขาร่วมกับพรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยแห่งรัสเซีย จนในที่สุด เขาก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะเผยแพร่ลัทธิมาร์กซ์ หลังจากนั้นเขาก็ใช้ชื่อว่า สตาลิน และทำงานอยู่ที่เมืองทิฟลิส ด้วยความทะเยอทะยานทำให้สตาลินได้เริ่มมีบทบาทสำคัญในพรรคบอลเชวิค หลังจากที่พรรคบอลเชวิคทำการปฏิวัติโค่นล้มระบอบกษัตริย์ลงได้ สตาลินก็ได้รับตำแหน่งคอมมิสซาร์ประชาชนเพื่อกิจการชนชาติต่างๆ[1] จนเมื่อเลนินล้มป่วย สตาลินก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นไปอีก จนได้เป็นเลขาธิการพรรคใน ค.ศ. 1922 จนกระทั่งเมื่อเลนินเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1924 ก็ได้เกิดการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างสตาลินกับ ลีออน ทรอตสกี สุดท้ายสตาลินก็ชนะ จึงได้เป็นประธานาธิบดีต่อจากเลนิน ทำให้ทรอตสกีต้องลี้ภัยการเมืองไปอยู่ เม็กซิโก แต่ในที่สุด ทรอตสกีก็ถูกลอบสังหารที่แม็กซิโกนั่นเอง ใน ค.ศ. 1940 ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง ผู้นำของสหภาพโซเวียต เขาถูกเรียกว่า บิดาแห่งชาวสหภาพโซเวียตทั้งปวง เมื่อศาสนาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในรัฐคอมมิวนิสต์ บทบาทของพระเจ้าก็ถูกเล่นโดยสตาลิน เขานำระบบ คอมมูน มาใช้ ทุกคนถูกห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว ทุกอย่างรวมทั้งตัวบุคคลเป็นของพรรคหรือคอมมูน ผู้ต่อต้านถูกส่งไปค่ายกักกันและเสียชีวิตราว 10 ล้านคน ไมมีการสำรวจประชากรว่าระหว่างเขาเป็นผู้นำประชากรโซเวียตลอดไปเท่าไร ในช่วงที่มีการปฏิวัติระบบ นารวม มีคนอดตายอีกเป็นล้านๆ คน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้นกับรัสเซีย ปี ค.ศ. 1941 - ค.ศ. 1945 เขานำโซเวียตชนะสงคราม โดยประชาชนเสียชีวิต 20 ล้านคน ทหารเสียชีวิต 10 ล้านคน เขาสั่งพัฒนาประเทศต่อไปอย่างไม่รีรอ เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1953 หลังสตาลินตาย ครุฟซอฟ ผู้นำคนใหม่ได้ผ่อนคลายความเข้มงวดในระบบสตาลินลง พร้อมทั้งประนามขุดคุ้ยความโหดร้ายของเจ้านายคนเก่าของเขา จนในที่สุดทุกๆ ที่ ที่มีรูปปั้นสตาลินถูกทุบทิ้ง เพลงชาติถูกลบชื่อของเขาออก ศพของเขาถูกย้ายจากข้างๆ เลนิน ไปฝังอยู่ในกำแพงวังเครมลิน

ที่มา http://www.toptenthailand.com/display.php?id=1477

http://image.ohozaa.com/i/a1e/aiBlr.jpg (http://image.ohozaa.com/view/6m93s)

tiktee37
24th December 2011, 19:52
อ่านบ่อยแล้วแต่ก็ยังอ่านอีก เหอะๆ

diippyjas
24th December 2011, 19:57
^
^
^
อุ๊ปซ์!

Kingsora555
24th December 2011, 20:03
เเล้วคนนี้หล่ะ

http://image.dek-d.com/24/2093298/t_106821935

Michiri
24th December 2011, 20:05
^
^
^
^
http://upic.me/i/hi/don-johnson-shades.gif (http://upic.me/show/30398112)

pone123
24th December 2011, 20:08
เเล้วคนนี้หล่ะ

http://image.dek-d.com/24/2093298/t_106821935

คุณซัพ -*-

bigspy77
24th December 2011, 20:13
อันดับ 1 ได้แก่

http://pics.hi5.com/userpics/367/113/1134576367.img.jpg

แล้วแต่จะคิด.!!

สุดยอดไปเลยเจ๋งจริงๆ ระวังน่ะเสื้อแดงมาเห็นโดนรุมประนาม

Kingsora555
24th December 2011, 20:19
สุดยอดไปเลยเจ๋งจริงๆ ระวังน่ะเสื้อแดงมาเห็นโดนรุมประนาม

ผมก็ว่างั้น เเต่หวังว่าใน JKG จะไม่มีใครบ้าการเมืองหรอกนะ :D
ป.ล Taylor งาม T^T

T : O : P 22
24th December 2011, 20:40
อันดับ 1 ได้แก่

http://pics.hi5.com/userpics/367/113/1134576367.img.jpg

แล้วแต่จะคิด.!!


ฮา จิต ตก http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/884/26884/images/55318906.gif

Great1234
24th December 2011, 20:42
ประวัติของดาราตั้งแต่อดีดถึงปัจจุบัน

maxonline17
24th December 2011, 20:44
ผมว่า ฮิตเลอร์ น่าจะได้อันดับ 1 นะ

BuGMaP
24th December 2011, 20:46
อาจารย์ เคย ให้ ไป หา บุคคลสำคัญ ผม เอา Adolf Hitler ไป อาจารย์ บอก ว่า ตั้งแต่ สอน มา ไม่ เคย มี ใคร เอา มา สัก คน เลย

flukezuzayo
24th December 2011, 22:48
ได้ความรู้ดีครับ

pea42622
26th December 2011, 03:35
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

juventusfc001
25th January 2012, 18:50
ชอบมากความรู้นี่

OZIL
25th January 2012, 18:53
เเล้วคนนี้หล่ะ

http://image.dek-d.com/24/2093298/t_106821935
คนนี้น่ากลัวจริง ๆ :sweat

apitape
25th January 2012, 19:37
เเล้วคนนี้หล่ะ

http://image.dek-d.com/24/2093298/t_106821935

ฮายาราไนก๊ะ กันเลยทีเดียว :sweat

kwin
25th January 2012, 19:48
อันดับ 1 ได้แก่

http://pics.hi5.com/userpics/367/113/1134576367.img.jpg

แล้วแต่จะคิด.!!

เอาไปเลยที่ 1