PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : วิธีดูอนาคตโดยวิทยาศาสตร์



wcess
29th December 2011, 21:34
ลองคิดดูนะ

การมองเห็นเกิดจากแสงมากระทบที่วัตถุ แล้วสะท้อนเข้ามายังตาของเรา(เรจินา)

วิธีคือ

1.ไปยังจุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่ใกล้ที่สุด

2.เคลื่อนที่กลับมายังโลกด้วยความเร็วที่เร็วกว่าแสง

ในเมื่อเรามาถึงวัตถุก่อนที่แสงจะสะถ้อนวัตถุเข้าไปยังตาคนอื่นเราก็สามารถเห็นภาพก่อนคนอื่นได้

แสงเดินทางมายังโลก 480 วิ

ถ้าเรายากเห็นอนาคตต้องมาถึงก่อนมัน

ยึงเร็็วเท่าไหร่ยึงเห็นอนาคตใกลเท่านั้น

ลองวาดรูปดูเอานะถ้างง

ปล. ผมเพ้อเจ้อไปเปล่าเนี่ย หรือบ้าไปเเล้วน้อ

แต่ลองเอาไปคิดดูเพื่อใครทำฝันผมเป็นจริงนะ ใครจะไปรู้

alexsamui2
29th December 2011, 21:35
คนบ้าอะไรเร็วกว่าแสง :sweat

wcess
29th December 2011, 21:36
เหอะๆๆๆผมบ้า

CrYzTeX
29th December 2011, 21:38
ตามทฤษฏีของไอสไตน์ เมื่อความเร็วเข้าใกล้ความเร็วแสง เวลาจะเป็นศูนย์ สมมติ ให้ฝาแฝดสองคน คนหนึ่งเป็นนักบินอวกาศ อีกคนเป็นผู้สักเกตุการณ์บนพื้นโลก
นักบินอวกาศ เดินทางด้วยความเร็วแสงตลอดเวลาไปนอกโลก ตลอดเวลาที่เดินทางเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อกลับมาที่โลก พบว่า เวลาผ่านไป 50 ถึง 100 ปีแล้วเป็นต้น จนอีกคนที่เป็นผู้สังเกตการณ์บนโลก อาจแก่หรือตายไปแล้วก็ได้เมื่อเขากลับมาครับ

แค่นี้ก็พอแล้ว


คุณลาน้องสาวตอนเธอยังอายุเพียง3ขวบและจดเก็บไว้รูปถ่ายและเขียนไว้ในหนังสืออย่างดี และ เดินทางไปยังอวกาศด้วยความเร็วแสง

10ปีผ่านไปคุณได้กลับมาคุณจะพบว่า น้องสาวอายุ3ขวบของคุณ กลายเป็นคุณยายซะแล้ว หรืออาจจะตายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงรูปถ่าย และ หนังสือบอกลาให้ลูกๆหลานๆของเธอ เท่านั้น

ขำๆนะครับขำๆ

ทำไมเวลาเรานอนทำไมไม่เราบ่นว่า หึ๊ยยทำไมเวลานอนมันใช้เวลาโคตรนานแบบนีเนี๊ยะั เอาไปคิดกันเองนะครับ ถ้าคนเราไม่เห็นแสงแล้วจะเกิดอะไร

wcess
29th December 2011, 21:42
ผมอยากจะลองดูซักครั้งนะเพื่อ ไอสไตน์เค้าเดาผิด

Mercury
29th December 2011, 21:43
หรือคุณไปอ่านเจอเกี่ยวกับเรื่องกล้องโทรทรรศ์ครับแบบถ้ากล้องส่องไปไกล 200 ปีแสงก็จะเห็นที่บริเวณนั้นเมื่อ 200 ปีที่แล้ว แต่แบบที่คุณบอกคือการย้อนเวลาครับตามทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ซึ่งการจะไปอนาคตยากกว่าย้อนเวลากลับอีกนะครับ (ไม่มีทฤษฎีใดอธิบายได้)

yoshi3416
29th December 2011, 21:45
ผมลองทำแล้วครับ ล้มเหลวไม่เป็นท่าเลยครับ ความเร็วของผมได้แค่ 120 บิดรถไปเซเว่นมาเมื่อกี้ เกือบชนท้ายรถสิบล้อเข้าให้ ผมเลยยกเลิกครับ

นี่เราบ้าไปแล้วหรือนี่:o

Patriax
29th December 2011, 21:47
เอ่อ... ผมคิดว่าการที่คุณเห็นก่อนใครไม่ได้หมายความว่าคุณเห็นอนาคตนะครับ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดจากการใช้สัมผัสทั้ง 5 รับรู้ โดยการใช้ตา ความจริงคือมันมีอยู่ของมันครับ ถ้าคุณไม่สังเกตเห็น สิ่งที่มีย่อมมี
เหมือนกับการที่เห็นภาพลวงตา ถ้าทุกคนเห็นภาพลวงตาเหมือนกันทุกคนไม่ได้หมายความว่าภาพนั้นจะจริงนิครับ แต่อนาคตที่คุณว่ามันเหมือนเป็นสิ่งที่เรียกว่าอนาคตที่เกิดจากการสังเกตจากผู้สังเกตคนอื่่นมากกว่า ยิ่งคุณใกล้ความเร็วแสงเท่าไหร่ เวลาของคุณย่อมช้าลง แต่เวลาของผู้สังเกตจะเท่าเดิม
ปล.ไม่ต้องเร็วเท่าแสง แต่ทำให้แสงช้าลงดีกว่าไหม?
ปล2.เป็นเพียงความคิดส่วนตัวนะครับ

CanDiiZ
29th December 2011, 21:51
ก่อนอื่นต้องไปให้ให้ถึงเนปจูนให้ได้ก่อน

เรื่องความเร็วแสงคงยังอีกห่างไกล แก่ตายไปจะมีรึยังก็ไม่รู้ - -a

kodomoke
29th December 2011, 21:52
มู้นี้ ทดลองจนกระทั่งธนูปักที่ไข่ - -"

atomza07
29th December 2011, 22:02
เหมือนจะมีหลักการ นะครับ 5555

hunkacer
29th December 2011, 22:06
480 วิ... โคบายาคาวะ เซนะ คงเป็นคนเดียวที่ทำได้กระมัง?

wcess
29th December 2011, 22:08
@Mercury ส่องไปไกลถึง200ปีแสง ก็คือแสงต้องใช้เวลาเดินทางมาถึงเราต้องใช้เวลามาถึงตาเรา200ปีถูกป่าวคับ แล้วถ้าเรามีความเร็วเป็นสองเท่าของความเร็วแสงละ

เราก็ไปถึงก่อนที่แสงมาถึงเรา200ปีเช่นกันใช่เปล่าครับ

@Patriax น่าคิด

bossja
29th December 2011, 22:16
ถ้าถึงก่อนแสงกระทบก็ไม่เห็นอะไรสินะครับ

Patriax
29th December 2011, 22:20
wcess


@Mercury ส่องไปไกลถึง200ปีแสง ก็คือแสงต้องใช้เวลาเดินทางมาถึงเราต้องใช้เวลามาถึงตาเรา200ปีถูกป่าวคับ แล้วถ้าเรามีความเร็วเป็นสองเท่าของความเร็วแสงละ

เราก็ไปถึงก่อนที่แสงมาถึงเรา200ปีเช่นกันใช่เปล่าครับ

ใช่ครับเราจะไปถึงก่อนที่แสงจะถึง แต่ถ้าคุณลองจินตนาการว่าคุณเดินทางได้ความเร็วเท่าแสงแบบแป๊ะๆเลย คุณจะเหมือนกับหยุดเวลาได้ (ทฤษฎีใครไม่รู้ผมลืม) อันเนื่องมาจากการที่ผู้สังเกตคนอื่น
นั้นใช้ประสาทสัมผัสคือตาในการมองคุณ ถ้าคุณเคลื่อนที่เร็วเท่าแสงหมายความว่า ไม่ว่าเค้าจะมองไปทางไหนคุณก็สามารถไปปรากฏตัวต่อหน้าเค้าได้เพราะแสงถึงคุณก็ถึง แต่ในความเป็นจริงแล้วเวลาของ
ตัวคุณเองไม่ได้หยุดไปเลยซักนิดเดียว แล้วจินตาการต่ออีกว่า ถ้าเร็วกว่าแสงล่ะ นั่นคือ คุณจะเห็นอะไรไม่ได้เลยเพราะเหมือนคุณเคลื่อนที่หนีแสง ซึ่งใครไม่รู้อีกเช่นกันบอกว่าถ้าเร็วกว่าแสงจะย้อนเวลาได้
ในความคิดของผมคือมาจากการหนีแสงทำให้ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากรอจนแสงที่สะท้อนวัตถุมาเข้าตาเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้วครับ -.-

wcess
29th December 2011, 22:20
เราไม่ได้ไปถึงก่อนแสงกระทบเพิ่งแค่เราไปก่อนแสงสะท้อนมาถึงจุดที่เราอยู่ตอนนั้น ลดเวลาที่แสงเดินทางจากัตถุมาถึงเรา

niyamakung
29th December 2011, 22:21
ปล. ผมเพ้อเจ้อไปเปล่าเนี่ย หรือบ้าไปเเล้วน้อ
คุณไม่เพ้อเจ้อหรือบ้าหรอกคับ เพราะไอไสตส์เขาก็คิดอย่างคุณ

BoomSuperNoob
29th December 2011, 22:25
มาเก็บความรู้ครับ เยอะๆจริงๆ

WTF-Imba
29th December 2011, 22:31
มันน่าจะเป็นการเห็นแค่เหตุการณ์ปัจจุบันนะ
แสงมันมากระทบวัตถุแล้วสะท้อนเข้าตาจริง
แต่แสงมันแค่กระทบให้เรามองเห็น
ถึงไม่มีแสงมันก็น่าจะเคลื่อนไหวได้แบบปกติ แค่เราไม่เห็น

kampanat123
29th December 2011, 22:33
ถ้าเราเคลื่อน ที่เท่ากะบแสง เราจะสามารถหยุดเวลาได้
แต่ถ้าเราเคลื่อนที่เร็วกว่าแสงเราจะสามารถ ย้อนเวลากลับมาได้
แต่ทั้งสองสิ่งนี้ ต้องใช้ พลังงานในการเคลื่อนที่ มหาสาร

Crowszerro 3
29th December 2011, 23:10
บอกโดราเอมอนสิครับ ไห้มาชึ้นไทรแมชชีน ไปอนาคตแค่นี้คุณก็เร็วกว่าแสงและล่ะครับ10 วิ ถึง:sweat หรือไม่จิง???

spykesDR.
29th December 2011, 23:29
ถ้าคนเคลื่อนที่ได้เท่าความเร็วแสง ร่างกายก็คงฉีกเป็นชิ้นๆละ

Namies123
29th December 2011, 23:36
ผมลองทำแล้วครับ ล้มเหลวไม่เป็นท่าเลยครับ ความเร็วของผมได้แค่ 120 บิดรถไปเซเว่นมาเมื่อกี้ เกือบชนท้ายรถสิบล้อเข้าให้ ผมเลยยกเลิกครับ

นี่เราบ้าไปแล้วหรือนี่:o

หาสาระอยู่ดีๆเจอท่านนี้เข้าไปเงิบเลย :o

kaslnosa
29th December 2011, 23:46
มัน ไม่ ใช่อนาคต หลอก คับ เพราะ เวลา นอก อวกาศ กับ โลก มัน ต่าง กัน ผม ว่า อาจ จะ เป็น การ เปลี่ยน แปลง ของ โลก อยู่ ตลอด เวลา เลย ทำ ให้ มัน เหมือน ว่า เป็นอนาคต :o

NECs
30th December 2011, 08:29
มันไม่น่าใช่อนาคตนะครับผมว่ามันเป็นอดีดลองนึกภาพ ดาวเคราะดวงนึงอยู่ใกลจากโลก 500 ปีแสง ดังนั้นถ้าใช้ความเร็วแสงเดินทางมายังโลกจะต้องใช้เวลา ถึง500 ปี สมมุติเรามีกล้องดูดาวที่โคตรเทพส่องเห็นพื้นผิวของดาวดวงนั้นนั่นเท่ากับว่าเราเห็นดาวดวงนั้นเมื่อ 500 ปีที่แล้ว หรืออาจจะ+ ดีเลย์นิดหน่อยแต่ประมาณ500ปีหละ เพราะว่าแสงตกกระทบดาวดวงนั้นแล้วสะท้อนกลับมายังดวงตาเราซึ่งอยู่ใกลมากๆประมาณเวลาที่มันเดินทางมาหาเราด้วยความเร็วสูงสุดของมันคือ 500 ปี งงไม๊ครับ ในกรณีที่เราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าแสง
สมมติดาวอีกดวงนึงห่างจากเรา 65ล้านปีแสงถ้าเราเคลื่อที่ด้วยความเร็วแสงไปยังดาวดวงนั้น แล้วส่องกล้องโคตรเทพลงมาดูโลกเราจะเห็นปัจุบันนั่นคือที่ๆเราจากมา งงไม๊ครับนั่นคือทฤษฏีเรื่องเวลาของไอสไต(เขียนถูกป่าวไม่รู้^^)เราดินทางด้วยความเร็วแสงเราจะอยู่กับปัจจุบันเสอนั่นคือหยุดเวลลาไม่ใช่เวลาไม่ผ่านไปเพียงแต่ว่าเราไม่รับรู้ว่ามันผ่านไปในกรณ๊เดียวกันดาวที่ห่างจากเรา65 ล้านปีแสงเราเดินทางโดยใช้เวลา 1 วิแล้วส่องกล้องลงมาเราจะได้เห็นอดีดเมื่อ65 ล้านปีก่อนครับส่วนเรื่องอนาคตนั้นดาวดวงเดินเราเดินทางด้วยแสงเท่ากับว่าเวลาหยุดลง(เวลาของตัวเรา)เราเดินทางไปคือ65ล้านปีเราเดินทางกลับคือ65ล้านปี(ความเร็วที่ใช้ดินทางเท่าแสงนะ)เท่ากับว่าเวลาที่ผ่านไปบนโลก 65+65=130ปี แว็บเราอยู่อนาตแล้วครับ
มันขึ้นกับว่าเป็นอดีดปัจจุบันอนาคตของใครมากกกว่า

UkuleleAlone
30th December 2011, 08:37
ตามกฎของ UkuleleAlone ได้กล่าวไว้ว่า.....

มีบางทีและบางครั้งมีบางเวลาที่อ่อนไหวฉันมักจะเผลอและเหม่อมองไปบนฟากฟ้าและตั้งคำถามกับตังเองว่าเพราะเหตุใดทุกๆเช้าๆพระอาทิตย์และพระจันทร์ถึงต้องจากลา..

bossja
30th December 2011, 08:37
ถึงก่อนแสง 30วิ คงมีแค่จัสติน

millomew
30th December 2011, 08:42
อนาคตมองเห็นได้โดยการการกระทำเช่นคุณอ่านหนังสือ คุณก็สอบได้ดี

คุณน้อบน้อมผู้ใหญ่ คุณก็จะได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ตอบ

คุณช่วยเหลือคน 1 คน คุณก็จะได้รับความดีตอบ

นี่คือ อนาคตง่ายๆที่ไม่ต้องคิดไปว่า ตูบ้าหรือเปล่า

jackylucky
1st January 2012, 18:35
เป็นไปไม่ได้ ถึงจะเร็วกว่าแสงก็เถอะๆ เพราะเหตุยังไม่เกิด? ต่อให้แสงช้าเป็นหอยทาก ยังไงก็ไม่เห็นอะไรอยู่ดี สมมุตว่าคุณจะเตะก้อนหินใกล้ๆดวงอาทิตย์ แล้วมีคนเดินทางเร็วกว่าแสงมา ผมรับประกันเลย เขาก็ไม่เห็นคุณเตะก้อนหินหรอก เพราะคุณยังไม่ได้เตะ! จะเห็นว่าเตะแล้วก็ไมได้ ถ้าเร็วกว่าแสงให้ผมเดาจะไม่เห็นอะไรเลย หรือไม่ก็เห็นก้อนแสงขนาดใหญ่ตามหลังเรามา เอิ๊กๆ

MaximilianZ
1st January 2012, 18:40
ตามทฤษฏีของไอสไตน์ เมื่อความเร็วเข้าใกล้ความเร็วแสง เวลาจะเป็นศูนย์ สมมติ ให้ฝาแฝดสองคน คนหนึ่งเป็นนักบินอวกาศ อีกคนเป็นผู้สักเกตุการณ์บนพื้นโลก
นักบินอวกาศ เดินทางด้วยความเร็วแสงตลอดเวลาไปนอกโลก ตลอดเวลาที่เดินทางเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อกลับมาที่โลก พบว่า เวลาผ่านไป 50 ถึง 100 ปีแล้วเป็นต้น จนอีกคนที่เป็นผู้สังเกตการณ์บนโลก อาจแก่หรือตายไปแล้วก็ได้เมื่อเขากลับมาครับ

แค่นี้ก็พอแล้ว


คุณลาน้องสาวตอนเธอยังอายุเพียง3ขวบและจดเก็บไว้รูปถ่ายและเขียนไว้ในหนังสืออย่างดี และ เดินทางไปยังอวกาศด้วยความเร็วแสง

10ปีผ่านไปคุณได้กลับมาคุณจะพบว่า น้องสาวอายุ3ขวบของคุณ กลายเป็นคุณยายซะแล้ว หรืออาจจะตายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงรูปถ่าย และ หนังสือบอกลาให้ลูกๆหลานๆของเธอ เท่านั้น

ขำๆนะครับขำๆ

ทำไมเวลาเรานอนทำไมไม่เราบ่นว่า หึ๊ยยทำไมเวลานอนมันใช้เวลาโคตรนานแบบนีเนี๊ยะั เอาไปคิดกันเองนะครับ ถ้าคนเราไม่เห็นแสงแล้วจะเกิดอะไร

เคยได้ยินเหมือนกันครับ แล้วก็มีทฤษฏีที่มาขัดแย้ง อีกทฤษฏี ขอกล่าวสั้นๆ ว่า วัตถุที่มีมวลไม่สามารถเดินทางด้วยความเร็วแสงได้ ถ้าจำไม่ผิดอ่ะน่ะ
ปล.เอามาจากสาระคดี

Ghost
1st January 2012, 18:53
พระเจ้ายังช้ากว่าแสงอีกมั้งเนี่ย

spore galactic
1st January 2012, 22:08
ใช้ยานสิ เร็วกว่าแสง ปล.เรายังไม่มียาน

DkTaP82
1st January 2012, 22:19
- - เป็นคิดค้นที่แปลก!

สมมุติว่าแสงไม่มี เราจะได้รู้ความเป็นไปของวัตถุที่ห่างออกไปนั้น เป็นไปอย่างปกติ ไม่เห็นอนาคตใดๆทั้งสิ้น โดยหักล้างความคิดของ จ.ข.ก.ท. ฮ่า!ๆ

แสงจะเดินทางเป็นเส้นโค้ง เมื่อถูกการบิดเบือนจากแรงโน้มถ้วงขนาดใหญ่ เพราะแรงดึงดูดนั้นทำให้ทั้งเวลาและอาวกาศบิดเบี้ยว!

Z€l2oN€
2nd January 2012, 02:36
เด๋ว น่ะ ไม่มีแสง แล้ว จะ มอง เห็น อะ ไร ละ

เช่น เมื่อเรา อยู่ในรถไฟที่มีความเร็วเท่ากับแสง

หลอดไฟ เรา หลอดไฟ <<< ตำแหน่งของเราและหลอดไฟ

เมื่อรถไฟเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง เมื่อเราหันหน้าไปยังทิศตรงข้ามกับทิศทางของรถไฟที่วิ่งไปด้วยความเร็วแสง จะพบว่า มันมืด

จิตนาการดูน่ะคับ

H.S.
2nd January 2012, 03:04
THE FLASH ไง วิ่งเร็วกว่าแสง

fournarak
2nd January 2012, 03:06
มันไม่น่าใช่อนาคตนะครับผมว่ามันเป็นอดีดลองนึกภาพ ดาวเคราะดวงนึงอยู่ใกลจากโลก 500 ปีแสง ดังนั้นถ้าใช้ความเร็วแสงเดินทางมายังโลกจะต้องใช้เวลา ถึง500 ปี สมมุติเรามีกล้องดูดาวที่โคตรเทพส่องเห็นพื้นผิวของดาวดวงนั้นนั่นเท่ากับว่าเราเห็นดาวดวงนั้นเมื่อ 500 ปีที่แล้ว หรืออาจจะ+ ดีเลย์นิดหน่อยแต่ประมาณ500ปีหละ เพราะว่าแสงตกกระทบดาวดวงนั้นแล้วสะท้อนกลับมายังดวงตาเราซึ่งอยู่ใกลมากๆประมาณเวลาที่มันเดินทางมาหาเราด้วยความเร็วสูงสุดของมันคือ 500 ปี งงไม๊ครับ ในกรณีที่เราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าแสง
สมมติดาวอีกดวงนึงห่างจากเรา 65ล้านปีแสงถ้าเราเคลื่อที่ด้วยความเร็วแสงไปยังดาวดวงนั้น แล้วส่องกล้องโคตรเทพลงมาดูโลกเราจะเห็นปัจุบันนั่นคือที่ๆเราจากมา งงไม๊ครับนั่นคือทฤษฏีเรื่องเวลาของไอสไต(เขียนถูกป่าวไม่รู้^^)เราดินทางด้วยความเร็วแสงเราจะอยู่กับปัจจุบันเสอนั่นคือหยุดเวลลาไม่ใช่เวลาไม่ผ่านไปเพียงแต่ว่าเราไม่รับรู้ว่ามันผ่านไปในกรณ๊เดียวกันดาวที่ห่างจากเรา65 ล้านปีแสงเราเดินทางโดยใช้เวลา 1 วิแล้วส่องกล้องลงมาเราจะได้เห็นอดีดเมื่อ65 ล้านปีก่อนครับส่วนเรื่องอนาคตนั้นดาวดวงเดินเราเดินทางด้วยแสงเท่ากับว่าเวลาหยุดลง(เวลาของตัวเรา)เราเดินทางไปคือ65ล้านปีเราเดินทางกลับคือ65ล้านปี(ความเร็วที่ใช้ดินทางเท่าแสงนะ)เท่ากับว่าเวลาที่ผ่านไปบนโลก 65+65=130ปี แว็บเราอยู่อนาตแล้วครับ
มันขึ้นกับว่าเป็นอดีดปัจจุบันอนาคตของใครมากกกว่า

อันนี้ผมว่าจริงอะนะ สิ่งที่เราเหนนั้นมันอาจไม่มีจริงอยู่แล้ว เพียงแต่เราเหนอดีตของมัน เท่านั้นเอง คือแสง ถ้าเปนดาวที่ระเบิด ไปแล้ว แสงกว่าจะส่องมา สมมุติ 30 ปีถึงโลก เมื่อผ่านมา30 ปีจึงได้เหน แต่ในปัจจุบัน ดาวดวงนั้นได้หายไปแล้ว..

ถ้าจะบอกว่าถ้าเราเร็วกว่าแสงจริงเราก้อไม่มีทางที่จะเห็นอะไร..ผมว่ามันก้อน่าจะจริงอะนะ เพราะถ้าอวกาศ ไม่มีดาว ซึ่งส่องแสงจากก๊าซต่างๆ อวกาศ มันก้อแค่ ความมืดมืดล้วนๆ...แต่ผมเชื่อในเรื่องของมิตินะ ว่ามันทับซ้อนกันอยู่..พูดง่ายๆว่าคุณคิดเหรอ ว่าบนโลกนี้จะมีแค่มนุษย์กับสัตว์อาศัยอยู่แค่นั้นหรือ...

สิ่งเร้นลับที่เรามองไม่เห็นอยู่รอบตัวเรา แค่มองไม่เราเหนเท่านั้น แต่สัมผัสได้...แล้วใครเคยสัมผัสมันไหม กุ๊กๆ กู๋

gecko
2nd January 2012, 03:17
ผมลองทำแล้วครับ ล้มเหลวไม่เป็นท่าเลยครับ ความเร็วของผมได้แค่ 120 บิดรถไปเซเว่นมาเมื่อกี้ เกือบชนท้ายรถสิบล้อเข้าให้ ผมเลยยกเลิกครับ

นี่เราบ้าไปแล้วหรือนี่:o

ฮาท่านมาก นั่งขำเลย

bararasza
2nd January 2012, 03:21
ตามทฤษฏีของไอสไตน์ เมื่อความเร็วเข้าใกล้ความเร็วแสง เวลาจะเป็นศูนย์ สมมติ ให้ฝาแฝดสองคน คนหนึ่งเป็นนักบินอวกาศ อีกคนเป็นผู้สักเกตุการณ์บนพื้นโลก
นักบินอวกาศ เดินทางด้วยความเร็วแสงตลอดเวลาไปนอกโลก ตลอดเวลาที่เดินทางเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อกลับมาที่โลก พบว่า เวลาผ่านไป 50 ถึง 100 ปีแล้วเป็นต้น จนอีกคนที่เป็นผู้สังเกตการณ์บนโลก อาจแก่หรือตายไปแล้วก็ได้เมื่อเขากลับมาครับ

แค่นี้ก็พอแล้ว


คุณลาน้องสาวตอนเธอยังอายุเพียง3ขวบและจดเก็บไว้รูปถ่ายและเขียนไว้ในหนังสืออย่างดี และ เดินทางไปยังอวกาศด้วยความเร็วแสง

10ปีผ่านไปคุณได้กลับมาคุณจะพบว่า น้องสาวอายุ3ขวบของคุณ กลายเป็นคุณยายซะแล้ว หรืออาจจะตายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงรูปถ่าย และ หนังสือบอกลาให้ลูกๆหลานๆของเธอ เท่านั้น

ขำๆนะครับขำๆ

ทำไมเวลาเรานอนทำไมไม่เราบ่นว่า หึ๊ยยทำไมเวลานอนมันใช้เวลาโคตรนานแบบนีเนี๊ยะั เอาไปคิดกันเองนะครับ ถ้าคนเราไม่เห็นแสงแล้วจะเกิดอะไร


และพ่อนักบินอวกาศของเราคงแห้งตายเพียงครึ่งทาง .........

bararasza
2nd January 2012, 03:24
เอ๋าผมนึกว่า มี วัตถุ 2อัน
O<-------------------แสง----------------------->O
และแสงส่งผ่านแบบนี้เสียอีก ในขณะที่วัตถุ2อันก็มีอายุ กำเนิดเท่าๆกันตอนผมโพสนี่หละครับ แสงยังไปไม่ถึงวัตถุนั้นก็ยังมืดอยู่เมื่อไปถึงและสม่ำเสมอก็เห็นวัตถุนั้นได้อย่างตลอดเวลา
ผมเข้าใจผิดใช่ไหมเนี่ย -.-

ปล.งี้ถ้าผมส่องไฟฉายไปยังดวงจันทร์ ดวงจันทร์มันก็หลบแสงที่ผมฉายออกไปได้อะดิ สมมติว่า ไฟฉาย มีความเข้มข้นของแสงด้วย -..-

bararasza
2nd January 2012, 03:46
อาจจะต้องตะวัดสายตาไวๆๆ ให้ไวกว่าแสง กระพริบตาไวๆ ก็คงเห็นม้าง -..- แบบว่า คนที่เห็น ผีอะไรเนี่ย

มีแนวคิดนึง ทำแคปซูน ที่มีรูอยู่ตรงหน้าไว้สำหรับมอง และแคปซูนชั้นนอกหมุนด้วยความเร็วแสงเปิดช่องตรงหน้าให้สว่างและมืดด้วยความเร็วเหนือกว่าแสง ก็เห็นอนาคตหล่ะสิ

นึกออกปะครับ ผมมั้ว มามั้วสนุก