PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : เปิดตำนาน "White Death" สไนเปอร์อันดับ 1 ของโลก ด้วยปืน M28 !!!



Onmyway
3rd February 2012, 03:16
| White Death|

http://upic.me/i/6i/xk6t2.jpg (http://upic.me/show/29773131)


ไซโม ฮายาซ (17 ธันวาคม 1905-1 เมษายน 2002) ได้รับฉายาจากกองทัพโซเวียตว่า "White Death"
เรียกเป็นภาษาไทยได้อย่างเท่ๆว่า "ความตายสีขาว" เขาเป็นทหารฟินแลนด์ที่ในปัจจุบันยังถกเถียงกันว่า
เขาคือพลซุ่มยิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ใช่หรือไม่?


http://upic.me/i/4p/1_original.jpg (http://upic.me/show/32660447)


ปืนยาวโมซินนากังค์ เอ็ม28 เมคอินฟินแลนด์กระบอกนี้แหละครับที่เป็นอาวุธซุ่มยิงของฮายาซ
ฮายาซเกิดในเขตเทศบาลเลาซ์จาไว(municipality of Rautjarvi) ซึ่งปัจจุบันเป็นชายแดนของรัสเซียไปแล้ว
เขาได้เข้าเป็นทหารในกองทัพเมื่อปี 1925 โดยก่อนหน้านี้เขามีอาชีพเป็นชาวนาหรือเกษตรกร
เมื่อสงครามฤดูหนาว(Winter War) ซึ่งเกิดขึ้นจากรัสเซียได้ทำการรุกรานฟินแลนด์ตั้งแต่ปี1939-1940 เริ่มขึ้น
เขาก็ได้รับหน้าที่ให้เป็นพลซุ่มยิงเพื่อสังหารทหารกองทัพแดง ในภูมิประเทศที่มีอุณหภูมิหนาวตั้งแต่ -20 ถึง-40องศาเซลเซียล
โดยฮายาซใส่ชุดพรางหิมะสีขาว เขามียอดสังหารทหารโซเวียตที่ได้รับการยืนยันถึง 542ศพ


http://upic.me/i/h8/01_original1.jpg (http://upic.me/show/32660446)
อาวุธคู่กายของฮายาซบนคือปืนกลซูโอมิเพชรฆาต 200ศพ ล่างคือปืนยาวเอ็ม28เพชรฆาต 542ศพ


สถิตินี้มาจากกองทัพฟินแลนด์จากสนามรบที่โคลา(battlefield of Kollaa) ซึ่งเป็นสถานที่ฮายาซสามารถสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมากถึง 542ศพ
จากสมุดบันทึกที่โคลาได้กล่าวไว้ว่า "ฮายาซใช้ปืนยาวเอ็ม 28 ซึ่งเป็นปืนที่ฟินแลนด์ลอกแบบมาจากปืนยาวแบบโมซินนากังค์ของรัสเซีย
รู้จักกันในหมู่ทหารฟินแลนด์ว่า ปืนยาว"พีสตี้คอร์ว่า" ซึ่งหมายถึงสุนัขพันธ์สปิทส์(spitz)

ฮายาซเป็นคนที่มีรูปร่างเล็กคือมีความสูง 5ฟุต3นิ้ว เขาชอบใช้ศูนย์เล็งเหล็กมาตรฐานของปืน(iron sights) สำหรับยิงเป้าขนาดเล็ก มากกว่าศูนย์แบบกล้องเล็ง
สาเหตุมาจากเวลาเขาจะใช้กล้องเล็งจะต้องยกศรีษะสูงขึ้น และเขายังบอกว่าการใช้ศูนย์เล็งแบบเปิดนี้จะช่วยปกปิดที่ตั้งของตนเองได้ดีกว่าศูนย์แบบกล้องเล็ง
(แสงอาทิตย์ที่ส่องใส่เลนส์ของศูนย์กล้องจะสะท้อนแสงทำให้ถูกพบที่ตั้งของพลซุ่มยิงได้)

นอกจากเขาจะใช้ปืนยาวในการซุ่มยิงศัตรูแล้ว ฮายาซยังใช้ปืนกลมือซูโอมิ เอ็ม31อันโด่งดังของฟินแลนด์
ยิงสังหารทหารรัสเซียไปเป็นจำนวนมากถึงสองร้อยกว่าศพ! ทำให้ยอดสังหารข้าศึกของเขาเพิ่มเป็นถึง 705ศพ!
หลังจากทำหน้าที่ในสนามรบมาเป็นเวลากว่า100วัน เขาก็ถูกกระสุนปืนใส่บาดเจ็บ เฉลี่ยแล้วในวันๆหนึ่งเขาจะสังหารศัตรูไป 5ศพ

ส่วนใหญ่ฮายาซจะซุ่มยิงตอนกลางวันในฤดูหนาวแทบจะทุกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกกว่าพลซุ่มยิงคนอื่นๆของโลก
ก่อนที่ฮายาซจะได้รับบาดเจ็บฝ่ายรัสเซียมีแผนที่จะกำจัดเขาให้ได้ ด้วยการใช้พลซุ่มยิง เรียกว่าพลซุ่มยิงก็ต้องจัดการด้วยพลซุ่มยิง
เรียกแบบไทยก็คือเพขรตัดเพชรหรือตาต่อต่าฟันต่อฟัน หรืออีกวิธีที่ขี้ขลาดหน่อยก็คือใช้ปืนใหญ่ยิงถล่ม artillery strikes
โดยปืนใหญ่รัสเซียชอบใช้กระสุนปืนใหญ่แบบแตกกลางอากาศ ที่จะระเบิดกลางอากาศแล้วปล่อยลูกเหล็กกลมก้อนเล็กๆพุ่งลงมาเป็นสายฝน
โดยโซเวียตน่าจะส่งทหารมาล่อให้ฮายาซยิงเพื่อที่จะได้ทราบตำแหน่งของเขาแล้วจัดการยิงปืนใหญ่ถล่มใส่ซะ
แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถเก็บฮายาซได้ แถมเขาก็ไม่เคยโดนกระสุนแบบนี้เลยเรียกว่าไร้รอยแมวข่วน !!!
ส่วนสไนเปอร์ที่ส่งมาเก็บเขาก็ถูกฮายาซเก็บซะเอง


http://upic.me/i/7o/1_display1.jpg (http://upic.me/show/32660445)
กระสุนปืนใหญ่แบบชนัปเน็ลสังเกตลูกเหล็กกลมเล็กๆในกระสุน


http://upic.me/i/j7/1_display3.jpg (http://upic.me/show/32660505)
ท่านจอมพลแมนเนอร์ไฮม์ยอดขุนศึกของฟินแลนด์

พอถึงวันที่ 6 มีนาคม ปี1940 ฮายาซก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีกคราวนี้โดนยิงที่ขากรรไกร ระหว่างการต่อสู้ในระยะใกล้
กระสุนพุ่งเข้าไปในหัวด้านซ้ายของเขา ฮายาซถูกหามออกจากสนามรบโดยทหารที่หามเขากล่าวว่า
"หัวของเขาหายไปครึ่งหนึ่ง" ฮายาซกลับมาได้สติเอาอีกทีก็วันที่ 13 มีนาคม ซึ่งพอเขาตื่นมาก็เป็นวันที่ฟินแลนด์กับรัสเซียได้ประกาศสงบศึกกันพอดี
หลังจากสงครามสิ้นสุดได้ไม่นานเขาก็ได้รับการเลื่อนยศจากสิบโท เป็นร้อยตรี !!!
หลายท่านคงจะคิดว่าอะไรมันจะเลื่อนยศแบบก้าวกระโดดขนาดนั้น โดยฮายาซได้รับยศนี้ จากจอมพล คาร์ล กุฟตาฟ อีมิล แมนเนอร์ไฮม์
จอมพลผู้โด่งดังของฟินแลนด์ผู้บัญชาการป้องกันประเทศ และชื่อของเขาก็ถูกตั้งชื่อเป็นแนวป้องกันประเทศนั้นคือแนวแมนเนอร์ไฮม์นั้นเอง

ทำให้ฮายาซนับเป็นทหารคนแรกของกองทัพฟินแลนด์
ที่ได้ยศแบบข้ามขั้นขนาดนี้โดยที่ไม่มีทหารคนไหนจะเสมอเหมือนได้

http://upic.me/i/lo/1_display4.jpg (http://upic.me/show/32660521)
ไซโม ในชุดร้อยตรี

สังเกตุแก้มซ้ายที่เสียโฉมเพราะถูกยิง หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ไซโมออกจากกองทัพ ไปทำอาชีพนักล่ากวางมูซ
สัตว์ป่าที่แข็งแรงที่สุดในยุโรปเหนือ และเป็นผู้เพาะพันธุ์สุนัขด้วยครับ


ในปี1998 มีการสัมภาษณ์ไซโม โดยได้ถามว่า "ทำอย่างไรถึงยิงปืนแม่น" ไซโมตอบว่า "อยู่ที่การฝึกฝน"
และถามอีกว่า "รู้สึกเสียใจไหมที่ได้สังหารคนไปจำนวนมาก" เขาก็ตอบว่า
"ผมเพียงทำตามคำสั่งและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"

ไซโม ฮายาซ เสียชีวิตที่หมู่บ้านโรคอลาซติ ใกล้พรมแดนรัสเซีย
ในวันที่1เมษายน ปี2002 ด้วยอายุ97ปี เป็นการปิดฉากชีวิตสไนเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก


--------------------------------------------------



| White Death|


นี่คือมือสไนที่ทำตามคำสั่งเท่านั้นและเขาอยู่อันดับที่ 1 ของโลก
ด้วยปืนกลซูโอมิ และ ปืนยาว เอ็ม28 ที่สังหารข้าศึกไปแล้ว 705ศพ
และจบชีวิตอย่างสงบ เมื่ออายุ 97ปี เป็นการจบชีวิตสไนเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่
และเหลือเพียงตำนานให้คนรุ่นหลังเล่าขานต่อไป


atcloud.com


http://upic.me/i/i4/21_display.jpg (http://upic.me/show/32660633)

fournarak
3rd February 2012, 03:24
สุโก้ย.. อิคึๆๆๆ

kurosagi_diow 2
3rd February 2012, 12:18
ตำนาน ควิกสโคป :cool:

killnice
3rd February 2012, 13:22
โนสโคป - -

Metalized
3rd February 2012, 16:02
Camper ตะหาก

wanjaiteeruk
3rd February 2012, 16:25
ชอบลูกกระสุนอะครับ เจ๋งดี ^^

bigspy77
3rd February 2012, 16:33
พวกเขาคือตำนานจริงๆ

BentSSRU
3rd February 2012, 17:06
ผมชอบวาสิลีย์ ไซอิทเซฟ มากกว่า