PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : Two character human-demon 2 บุคลิก ปิศาจและมนุษย์ [Return]



5day-ago
23rd July 2011, 18:10
http://www.youtube.com/watch?v=-VtoMYze0Bk

http://image.free.in.th/z/iw/2hd700x300.jpg

****************************************************************************************************


Two character human-demon
2 บุคลิก ปิศาจและมนุษย์


****************************************************************************************************

http://image.free.in.th/z/if/twocharacterhumandemon.gif

****************************************************************************************************


พูดคุยเล็กน้อย


นี่เป็นการกลับมาลงใหม่ให้จบเรื่องเลยครับ เนื่องจากบอร์ดเก่าล้มโดยที่เรื่องยังไม่จบ ทั้งที่เขียนจบหมดแล้ว จึงกลับมาอีกครั้งครับ

****************************************************************************************************



บทนำ

นี่เป็นเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นมาบนโลกมนุษย์…

-ประมาณ 12,000 ปีก่อน คาดว่าชาวแอตแลนติส สามารถผลิตพลังงานประหลาดออกมาได้ พร้อมกับมีแสงประหลาดจากฟ้าพุ่งลงมาที่แอตแลนติส และจากนั้นไม่นาน ทวีปแอตแลนติส ก็หายไป

-ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1942 นักบินของเครื่องบินดำทิ้งระเบิดอเมริกัน หายไป 1 ลำ หลังจากพบว่า มีแสงประหลาด พุ่งเข้ามาหา

-ต่อมาในปี 1974 ซึ่งนานมามากจากยุดแอตแลนติส บนน่านฟ้าของหมู่เล็กบ้านเล็กในฝรั่งเศส มีแสงประหลาดพุ่งเข้าหากัน อย่างรุนแรง จนทำให้ชาวบ้านนั้น ล้มตายเป็นจำนวนมาก

-ในปี 2006 มีข่าวการหายตัวอย่างลึกลับในเวลากลางคืนของผู้หญิงของประเทศในตะวันออกกลาง

-ปี 2007 เกิดขึ้นคลื่นยักษ์ สินามิ ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งทุกคนคิดว่าสาเหตุมาจากแผ่นดินไหว แต่ผมว่ามันไม่ใช่ เมื่อชาวบ้านในประเทศศรีลังกาคนหนึ่ง เห็นแสงประหลาดสีทองและสีดำ พุ่งเข้าใส่กันกลางมหาสมุทรอินเดีย อย่างรุนแรง จนเกิดเป็นคลื่นยักษ์สินามิ

-ปี 2011 เกิดคลื่นยักษ์สินามิ อีกครั่งที่ญี่ปุ่น คราวนี้หาข้อพิสูจน์ ไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของแสงประหลาดพวกนั้น
ผมเป็นใครน่ะหรือ? ผมก็ไม่รู้? แต่พวกเขาเรียกผมว่า “Two character human-demon” พวกเขาที่ว่านั้นคือใคร? ม่ะผมจะบอกให้ พวกเขาคือ นักล่าปิศาจ…


****************************************************************************************************


สารบัญ


Chapter 12 - 20 (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=6425&p=58622#2)

Chapter 21 - 25 (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=6425&p=58622#3)

Chapter 26-27 (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=6425&p=143253#5)




****************************************************************************************************

Chapter 1 The War


ผมเจอหนังสือเล่มหนึ่ง… ในนั้นเขียนไว้ว่า
-สงครามระหว่างเทพและปิศาจ มีมานานกว่า 100,000 ล้านปีก่อน และทำสงครามกันอย่างรุนแรง
-ในยุดหิน ฝ่ายปิศาจ ซึ่งนำทัพโดย จอมปิศาจ swallowing soul (กลืนกินวิญญาณ) บุกขึ้นไปใน สวรรค์ และทำลายเหล่าเทพจนแทบหมดสิ้น และทำการกลืนวิญญาญของเหล่าเทพผู้แพ้สงคราม จนหมด เพื่อไม่ให้จุติใหม่ได้
-มีเทพองค์หนึ่งหนีออกมาได้ นามว่า “Keeper (ผู้รักษา)” เป็นเทพชั้นกลาง พลังไม่มากพอที่จะต่อต้าน เหล่าปิศาจ
-และมีปิศาจตนหนึ่ง พุ่งมาที่โลกอย่างรุนแรง ทำให้เกิดเหตุการณ์วันล้างโลก ที่ทำให้ไดโนเสาร์สุญพันธุ์
-ปิศาจตนนั้น มีนามว่า “The Catpion (แคทเปี้ยน)” ปิศาจรูปลักษณ์เหมือนแมว ผู้ประกาศต่อต้าน จอมปิศาจ swallowing soul
-สงครามระหว่างปิศาจฝั่งอธรรมกับปิศาจฝั่งธรรมะ ต่อสู้กันยาวนานถึงเหตุการณ์ที่แอตแลนติส The Catpion สามารถ กักขัง swallowing soul ได้ และให้ทวีปแอตแลนติส เป็นที่กักขัง และจมลงไป
- The Catpion ได้ไปมีลูกกับหญิงสาวมนุษย์ และ…

ปัง!! (เสียงปิดหนังสือ)

“นี่เธอ จะเรียนหนังสือหรือว่าอ่านนิยายหา!!” เสียงของคุณครูยังสาวตะโกนด่าผม

“เอ่อ…” ผมพูดอะไรไม่ออก

“ไม่เป็นไร ค่ะครู เดี๋ยวหนูดูเอง” เสียงของผู้หญิงผู้วัยเดียวกับผม

“ดีมาก” ครูบอกเสียงแข็ง และสอนต่อไป

“เธออ่านอะไรน่ะ” เธอตามผม

“ไม่รู้ดิเจอมา” ผมพูดลอยๆ
.
.
.
เธอคนนั้นชื่อ หยก ครับ อ๋อลืมไป ผมชื่อ เต้ อายุ 16 ปี อยู่ ม.5 เด็กหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดี แถมนิสัย รักเพื่อน รักแฟนมาก (ถึงจะไม่มีก็เหอะ) ชีวิตของผมก็เรี่อยๆสบายๆ ไปตามสายลม และมีอยู่ วันหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปตลอดกาล…

Chapter 2 Demon…


ผมเดินอยู่ในซอย ช่วงเวลากลางคืน อยู่ก็มีตัวอะไรไม่รู้โผล่เข้ามา

ผุบ!!

“เฮ้ย อะไรวะ” ผมร้องออกไป

“ข้ามาฆ่าเจ้า” ปิศาจตนนั้นพูด

“ว้ากกกกกกก ว้ายยย!!” ผมทำอะไรไม่ได้แล้วในตอนนั้น ร้องขอความช่วยเหลือให้ดังที่สุด

ปังๆๆๆ

“อ้ากกกกกก” ปิศาจตนนั้นร้องอย่างโหยหวนแล้วก็สลายหายไป

“เชอะ ร้องเป็นผู้หญิงเลย…” ชายคนนั้นพูด

“หา…” ผมพยายามมองหน้า “ดะ…เดี๋ยว”

ชายคนนั้นวิ่งไปอย่างรวดเร็ว และอยู่ก็วาร์ป หายไป…

วันรุ่งขึ้นที่โรงเรียนกรุงเทพ-ภูเก็ตวิทยาลัย

ผมเดินมาที่ห้อง ผมก็เจอ ชายคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่หลังห้อง ผมจึงตะโกนเรียก เพราะว่าหน้าตาคุ้นๆ เป็นเด็กหนุ่มใส่แว่น อยู่เงียบๆ แต่งานอะไรๆก็ออกมาดีไปหมดทุกอย่าง

“นี่นาย” ผมเรียกจากหน้าห้อง

ไม่มีเสียงตอบรับ ผมจึงเดินไปหา

“อ่านอะไรอยู่น่ะ” ผมถาม

“หนังสือ” เขาตอบกลับมาแบบเย็นชา

“อืม… ว่าแต่คือคนที่ช่วยฉันเมื่อคืนใช่เปล่า” ผมถามแบบตรงไปตรงมา

“เปล่านี่” เขาตอบทันที

“อ่ะน่ะ ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ” นายถามต่อไปอีก

“กราเชียร์ เดอร์ ลามุส” เขาตอบแบบเย็นชา “หรือว่า กราฟ”

“เฮ้ยเต้ ไปเตะบอลดีกว่าว่ะ” เพื่อนผมเรียก “เช้าๆนี่แหละมันส์”

“เออๆ” ผมวิ่งตามไป

“เดี๋ยว นายเตรียมตัวให้ดีล่ะ” กราฟ พูดและอ่านหนังสือต่อไป

“เตรียมตัว?” ผมทวนแบบงงๆ

“เฮ้ย เต้เร็วๆดิวะ ขาดกองหน้า” เพื่อนผมเรียกอีกรอบ

“เออๆ” ผมตอบ และวิ่งลงไปเตะบอล
.
.
.

Chapter 3 Demon Hunter


เวลา 19:30 นาที
ผมกำลังเดินทางกลับบ้าน ผมรู้สึกว่า บรรยายกาศรอบๆ เย็นลง หมอกลงหนามาก ทั้งๆที่เป็นเมืองไทย
พอผมเดินผ่านสนามเด็กเล่น อยู่ตัวผมก็แข็งไปดื่อๆ

ผุบๆๆ

เหล่าปิศาจโผล่มาจากใต้พิภพ เต็มไปหมด

“พวกข้าจะมาฆ่าแก” ปิศาจตนหนึ่งพูด

“ฆ่าผม?” ผมพูด “ทำไม!!”

“เพราะถ้ายังมีแกอยู่ ปิศาจอย่างเราจะไม่สามารถครองโลกได้…” ปิศาจอีกตนพูดขึ้น

“ตายซะเถอะ!!”

(อย่าาาาาาาาา)

(ปังๆๆ)

ชายปริศนาโผล่ออกมา (จากไหนก็ไม่รู้)

“อ้ากกกกกก แกเป็นใคร” ปิศาจตนหนึ่งถามอย่างโหยหวน

ปัง!!

“คุณเป็นใครกันแน่” ผมถาม ชายคนนั้นใส่ ชุดคลุมสีดำตัดขาว ใส่แว่น

“ช่วยผมไว้ทำไม”

ชายคนนั้นเดินมาดึงผมให้ขึ้นยืน

“บอกมาเซ่” ผมตะโกน ผมรุ้สึกค้นหน้ามากๆ

“ข้าเป็นนักล่าปิศาจ…” ชายคนนั้นพูดออกมา

“แล้วปิศาจพวกนั้นทำไมต้องมาฆ่าผม” ผมถามไป

“อีกไม่นาน นายจะรู้เอง” ชายคนนั้นพูดและเดินไป

“อีกอย่างพรุ่งนี้นายอย่าไปที่ โรงเรียน เป็นอันขาด” ชายคนนั้นวิ่งออกไป

“เดี๋ยวเซ่” ผมวิ่งตามไป

แต่ชายคนนั้นหายไปอีกแล้ว อะไรคุยไม่ทันรู้เรื่องก็ไปซะแล้ว เฮ้อ ผุบๆโผล่ๆอยู่ได้
.
.
.

Chapter 4 The Catpian?


ผมได้รับคำเตือน จากไอ้หนุ่มปริศนาว่า “อย่าไปที่ โรงเรียน เป็นอันขาด”
ก็ดีครับ ผมก็ขี้เกียจอยู่พอดี ผมเลยนอนยาว จนถึงเวลา 11:30
จนกระทั่งมารมาผจญ

“อ้าว ลูกทำไมไม่ไป โรงเรียนละจ้ะ” เสียงของคุณแม่บุตรธรรมผู้อารี

“มีคนบอกไม่ให้ไปครับ” ผมตอบทันที

“ใคร!!” แม่บุตรธรรมตะคอกใส่ผม เปลี่ยนจากนางฟ้ากลายจอมมารซะงั้น

“เพื่อนอีกล่ะสิ”

“เอ่อ…” ผมพูดอะไรไม่ออก

“ไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้!!” คุณแม่บุตรธรรมผู้เแสนดีทำเสียงดุ

“เอ่อ… มอไซด์ผมน้ำมันหมด” ผมพูด

“ม่ะ แม่ไปส่งเอง” ทันทีที่ได้ยินคำนั้น ผมถึงกับอิ้ง

“****านเยอะไม่ใช่เหรอ” ผมพูด

“ช่างมัน!!” คุณแม่บุตรธรรมตะคอก “ไปขึ้นรถ”

ผมอยู่ในสถานะสตั้น มึนงง ทำตามแม่บุตรธรรมทุกอย่าง ตั้งแต่แต่งชุดนักเรียนและเดินไปขึ้นรถ
แต่… ถ้าผมไปโรงเรียนต้องเจอกับปิศาจแน่ โอ้ย ตายแน่

ณ โรงเรียน
“เอ้า เข้าไปสิ” แม่บุตรธรรมพูด และขับรถออกไปเลย

บรรยากาศรอบข้างเริ่มเย็นลง

“เอ้า มาสายสินะ ไปยืนหน้าเสาธงเลย” ครูเวรพูดขึ้น

“เอ่อ ครูครับ” ผมกำลังจะถาม

“อะ…” ฉึก!!

ครูเวรถูกหอกแทง

ปิศาจอยู่บนดาดฟ้าของอาคารเรียน
“เฮ้ย ซวยแล้ว” ผมวิ่งออกทันที

เฟี้ยวววว (หอกพุ่งมา)

ปัง!!

ชายปริศนาโผล่มาอีกแล้ว
“นายมาโรงเรียนทำไมฟะ” ชายคนนั้นถาม ผมได้แต่อิ้ง

“ฮ้า แกมาแล้ว กราเชียร์ เดอร์ ลามุส” ปิศาจจอมปาหอกพูด “แกสินะที่ฆ่าสมุนข้าหมด”

“ส่งทายาท The Catpian มา!!”

“กราเชียร์ เดอร์ ลามุส?” ผมพูด “เฮ้ย นายนี่หว่า”

“ตายซะ” ปิศาจอีกตัวมาโผล่หลังผม

“เฮ้ยยยย” ผมร้อง

“นี่อ่ะนะทายาท The Catpian” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส พูดก่อนจะกลับตัวมายิงแบบเท่ๆ

ปัง!!

เปิดเพลงนี้ประกอบด้วย ฉากบู๊ของ กราเชียร์ เดอร์ ลามุส


http://www.youtube.com/watch?v=nKs-C7goDBg&feature=player_embedded

“อ่ะนี้” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส โย่นมีดให้กับผม (มีด!!)

“ได้เวลาลุย”

กราเชียร์ เดอร์ ลามุส วิ่งไต่อาคารขึ้นไป และต่อยเหล่าสมุนปิศาจ สนับมือที่หุ้มถึงข้อมือ

ตุบๆๆ
และวาร์ปหายตัวไป และไปโผล่บนท้องฟ้า และกระหน่ำยิงปืนลงมา อย่างรุนแรงบนดาดฟ้าที่หัวโจกของปิศาจอยู่ จนทำให้เหล่าครูและนักเรียนต้อง หนีออกมาจากอาคารกันแทบไม่ทัน

บึ้มมมม โครม (อาคารเรียนกล่มลงมา)

“เฮ็ย พอแล้วมีคนตายแล้วนะโว้ย!!” ผมตะโกน

“นายห่วงตัวเองก่อนเถอะ” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส ตะโกนกลับมา

“หา!”

ปิศาจโผล่มาข้างหลังผม

“เฮ้ย ******แล้วว” ผมจึงกระโดดกลับหลังมาปามีด และลงไปบนพื้นอย่างเท่…
.
.
.
อ้าว ไม่โดน
“ช่วยด้วย กราฟ” ผมร้องขอความช่วยเหลือ จากกราเชียร์ เดอร์ ลามุส (กราฟ)

“ไม่ทันแล้ว ฮ่าๆ” ปิศาจตนนั้นพูด และเอาดาบมาแทงผม แต่ทว่า…

เพล้งงง!! ตูมมมม
ดาบของมันแตกสลายและร่างของปิศาจตนนั้นก็สลายหายไป ~!!!

“เฮ้ย อะไรเนี้ย” แขนขวาของผม กลายแขนของปิศาจสีดำซะงั้น

“เอ่อ…” กราฟเอ่ยขึ้น

ปัง!! เปล้ง!!

ยิงมาที่แขนของผม

“เฮ้ย นายทำอะไรฟะ” ผมตะโกนออกไป

“อย่างงี้ นายก็เป็นปิศาจสินะ” กราฟพูดเสียงดุ และเดินไปหยิบท่อนไม้ขึ้นมา

“เฮ้ย หรือว่า…” ผมเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเอง

ตุบ!!

กราฟ ฟาดไปที่หัวของผมอย่างแรง และยกตัวผมไปที่ไหนสักที่หนึ่ง
.
.
.
เวลา 12:03 ที่โรงเรียน ต่างมีแต่สื่อมวลชน มาทำข่าว ตึกกล่ม ครูและนักเรียนเสียชีวิตทั้งหมด รอดมาได้แค่ 2 คน ซึ่งมาโรงเรียนสาย

แต่ทว่า…

ฮึด โครม (มีผู้หญิงยกซากตึกที่ทับตัวเขาออกมา และโยนทิ้งข้างๆ)

นักข่าวไม่รีรอ รีบเร็วมาทำข่าวกับผู้หญิงคนนั้น
“น้องๆ ชื่ออะไร” นักข่าวคนแรกถาม

“หยกค่ะ” เธอตอบ

“แล้วน้องออกมาได้ไงครับ” นักข่าวคนที่สองถามต่อ

“ไม่รู้ เหมือนกันค่ะ” เธอตอบแบบมีนัย
.
.
.

Chapter 5 Who are you?


โอย…ผมตื่นขึ้นมา ณ สถานที่แห่งหนึ่งเป็นห้องกว้างๆ มีชั้นหนังสือเรียงรายอยู่ เต็มไปหมด แต่ไม่บางอย่างไม่ปกติ…
แขนขวาของผม เป็นแขนสีดำ เหมือนปิศาจ และอีกอย่างหนึ่ง คือ ผม… มีหาง!!
“เฮ้ย อะไรเนี้ย” ผมตกใจกับหางของตัวเอง
“ตื่นแล้วเหรอ ผมมีชื่อว่า อเล็ก” ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับลูกสมุน นับสิบได้
“คุณทำอะไรกับผม” ผมร้องถาม พร้อมกับเล่นหางของตัวเอง
“ฉันไม่ได้ทำ แต่นายต่างหาก” อเล็กพูด
“ผม?”
“อ่ะเอานี่” เขาโยนหนังสือเล่มยักษ์ให้กับผม
“นี้มัน แฮรี่ พอตเตอร์ ภาคใหม่เหรอ?” ผมถามไปด้วยความสงสัย
“เฮ้ย จัดการ” อเล็ก ส่งสัญญาณให้กับลูกน้องคนหนึ่ง…
ลูกน้องคนนั้น เดินมาที่ผม และดึงหางผมแรงๆ
“โอ้ย…” ผมร้อง “อย่ายุ่งกับหางนะโว้ย!!” ผมเริ่มออกอาการหวงหางตัวเอง
“เอ้า อ่านซะสิจะได้รู้ความจริง” อเล็กเริ่มทำเสียงดุ
“อ่า… อืม” ผมยอมอ่านแต่โดยดี เพราะลูกสมุนของมันทุกคนเริ่มเอาปืนเล็งมาที่ผม


ชายปริศนาคนนั้น หันไปกระซิบเงียบๆกับลูกสมุนอีกคน แต่… ผมได้ยินซะงั้น ว่า
“ถ้าไม่ใช่ ยิง****เลย…”

ผมจึงอ่านไปแบบช้าๆ และหนังสือเล่มนี้มันเหมือนกับเล่มที่ผมอ่านในตอนที่ 1 เลย เอ้ย อ่านที่โรงเรียนเลย… ผมจึงอ่านต่อจากที่อ่านมาแล้ว

- The Catpion ได้ไปมีลูกกับหญิงสาวมนุษย์ และ มีลูกด้วยกันหนึ่งคน นามว่า “เอล ปิปี้” กับ “เอล กาโว” เป็นเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชาย และเด็กคนนี้ก็มีลูกต่อมาเรื่อยๆ และหนึ่งในนั้น แยกย้ายออกไป…
-ในปี 1994 ลูกสมุนคนสนิทของ swallowing soul บุกมาสังหาร The Catpion (ซึ่งอายุ 1000 ปี) และ ทุกคนให้ครอบครัวจนสิ้น ก่อน The Catpion จะตาย เขาได้บอกไว้ว่า “พะ…พวกเจ้า ไม่ตายดีแน่ บุตรของบุตรชายขะ…ข้า ต้องกวาดล้างพวกเจ้า จนสิ้น”
-ไม่มีใครรู้ว่า ทายาสคนสุดท้ายของ The Catpion อยู่ที่ไหน…

ปัง (เสียงปิดหนังสือ)
“อ่านแค่พอล่ะ” อเล็กพูดขึ้น
“กำลังมันส์เลยนะครับ” ผมพูด พยามยามให้เพราะที่สุด จะได้ไม่โดนยิง
“ในนั้นเขียนำไว้ว่า ไม่มีใครรู้ว่า ทายาสคนสุดท้ายของ The Catpion อยู่ที่ไหน” อเล็กพูดต่อ
“แต่ตอนนี้มันรู้แล้วว่า ทายาสของ The Catpion มาอยู่ที่ประเทศไทย เมืองแสนสุข สงบ ไร้ภัย”

“คุณน่าจะภูมิใจนะ เมืองแสนสุข สงบ ไร้ภัย” ผมพูดติดตลก
ปัง!!
“โอ้ยยยยย” ผมร้อง “ยิงขาผมทำไมมมมม”
“โทษครับ บอส พอดีมันกวนตีน” ลูกสมุนคนที่มาดึงหางพูด

“เข้าเรื่อง ตอนนี้นายเป็นความหวังสุดท้าย” อเล็กพูดต่อ
“โอ้ย… ผมเนี้ยนะความหวังสุดท้าย” ผมพูด “เกรด 1 ครั้งแรกยังไม่ได้เลย ซ่อมมาตลอด”
ตึง!
“โอ้ย ดึงหางทำไมเนี้ย” ผมร้องออกมาอย่างรุนแรง
“มันกวนอีกแล้ว ครับบอส” ลูกน้องคนเดิมเลยที่พูด
“ไม่ต้องพูดมาก นายคืนร่างก่อน แล้วไปรับการฝึก” อเล็กพูดเสียงดุ
“คืนร่างยังไงครับ?” ผมถามออกไป
“โอ้ย ไรฟะ The Catpion แป๊ะ อะไร(พูดในใจ)” อเล็กถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้ว แล้วจึงพูดต่อ “ครูฝึกของนายเป็นมังกร มองบนฟ้าไว้”
ซวยอีกแล้ว มังกรมาสอนผมซะงั้น โลกนี้ช่างโหดร้าย
.
.
.

Chapter 6 The world is really cruel


ผมโดนลากออกมาจากในโกดัง และทิ้งตัวผมลงบนพื้นอย่างแรง ผมนอนแผ่ไปบนพื้น แผลที่ถูกยิง ถูไปกลับพื้น…
“โอ้ย เจ็บนะโว้ย” ผมร้องด้วยความเจ็บปวด
“หัดเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้าง” ผมพูดแต่ไม่มีใครฟังเลยสักคน
ผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้า นอนรอมังกรที่จะมาฝึกอะไรก็ไม่รู้กับผม เซ็ง มีแขนปิศาจ กับ หาง โผล่ขึ้นมา ผมจึงพยายามลองปล่อยพลังออกไป
“ไอ้ แขนบ้านี้ใช้ยังไงฟะ” ผมพยายามทำท่าปล่อยพลังหลายๆท่า ทั้งท่าไอ้แมงมุม ท่าหมา ท่านก และถ้าอื่นๆอีก มากมายที่เห็นในหนังซุปเปอร์ต่างๆ
“ชาร์ตพลัง แล้วลองกำหมัด ดูครับ” คนที่ลากผมออกมาพูดขึ้น
“โอเค นายลองเป็นเป้าดูนะ” ผมพูด และพยายามยืนขึ้น และทำท่าตามที่มันบอก
“เอาล่ะนะ”
“ย้ากกกกกกก” ผมทำท่าเหมือนซุปเปอร์ไซย่าที่เห็นตามการ์ตูน และผมก็ปล่อยไปที่เป้า

ตูมมมมมมม!! (~อ้ากกกกกก!!~)

“เฮ้ย ซวยแล้ว” ผมพูดพร้อมยกมือขึ้น 2 ข้าง “ไม่ได้ตั้งใจนะ”
ก่อนที่ทุกคนจะยิงผม โชคก็เข้าข้างผม
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” หญิงสาวสูง 150 ซม หนัก 35 กิโล มีใบหน้ารูปใข่ ไว้ผมยาวถึงสะโพก สีเงินแสงจันทร์ แถมยังมีปีกมังกรกลางหลังและมีหางของมังกร ใส่ ชุดบีกินนี่ (ชุดว่ายน้ำ สีน้ำตาลแดง) และมี เขางอกออกจากหัวอีกด้วย แถมหน้าตาสวยซะด้วย แต่เสียใจไม่ใช่สเปก ~
“นายเป็นใครน่ะ” เธอถาม
“เอ่อ…” ผมพูดอะไรไม่ออก เธอมองมาที่แขนกับหางของผม
“ครึ่งปิศาจซะด้วย” เธอพูด “คงจะทายาส The Catpion จอมปิศาจแมวดำผู้ยิ่งใหญ่สินะ”
“แต่ทายาส ดูห่วยยังไงก็ไม่รู้”
“เอ่อ คุณมาฝึกผมเหรอ” ผมถามไป
“ใช่” เธอตอบเสียงแข็ง “ฉันมีชื่อว่า มาซากิ ฮิรูมิ”
“เป็นมังกร”
“และตอนนี้เธอก็เป็นลูกแมวในกำมือฉันแล้ว”
“โห…” ผมอิ้ง ทึ้ง งง พูดอะไรไม่ออก
“เอ้า คืนร่างสิ” เธอพูด
“ทำไงครับ” ผมถามออกไป พร้อมกับรับของรางวัล… เป็น หมัด
ตุบ!!
“โอ้ย” ผมพูด “โลกนี้ช่างโลกร้าย” แต่เธอไม่สนใจ
ตอนนี้ผมรู้สึกว่า แผลที่ถูกยิงเริ่มรักษาตัวเอง ~
พับๆๆๆๆ (เสียงลม)

ฮิรูมิ เป็นร่างเป็นมังงกรยักษ์ มังกร สีฟ้า ดวงตาสีเขียวมรกต มีเขายาวโค่งได้รูป มีสีขาวใต้คางถึงปลายหาง
“ขึ้นสิ” ฮิรูมิพูด
“หา” ผมกำลัง งง อย่างแรง
“โอ้ย หวังว่านายคงเป็นปิศาจแมวที่น่ารักนะ” ฮิรูมิพูดด้วยคำเสียงเซ็งๆ
และเธอก็ใช่หางของเธอ พาผมขึ้นไป และก็ออกบิน
“หวอออออ” ผมออกอาการเสียวอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าผมกลัวความสูงเข้าไส้
“อะ…อ๋อ ลืมไป ผะ…ผมชื่อ เต้ นะครับ เจ๊” ผมพูดติดๆขัดๆ เหงื่อออกมาเต็มตัว
“ใครอนุญาตให้เรียกว่าเจ๊ ฮะ!!” ฮิรูมิพูดเสร็จเธอก็ดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
“อ้ากกกกก ผมขอโทษษษษษ” ผมตะโกนด้วยความกลัวสุดขีด และก็นอนน็อกไปบนหลังมังกร
.
.
.

“อ่อนหัดจริงๆ คงฝึกนานแน่เลย เฮ้อ” ฮิรูมิพูดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

Chapter 7 Training


หลังจากที่ผมได้เจอ มังกรสาว มาซากิ ฮิรูมิ เธอต้องมาฝึกให้กับผม สอนยุทธวิธีต่างๆ และบอกเล่า ถึง สงครามระหว่างเทพกับปิศาจ
ซ่า…
ฮิรูมิ เอาน้ำมาสาดใส่ตัวผม จนเปียกไปทั้งตัว ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“อุ้ย” ฮิรูมิพูดอุทานออกมาดังๆ
“โห เจ๊ ไม่เห็นต้องสาดน้ำเลย” ผมพูด “นี่บ้านเจ๊เหรอ”
ผมเดินสำรวจไปรอบๆบ้านของฮิรูมิ ซึ่งมีของสะสมเป็นวัตถุโบราณ
“โถอันนี้ สวยนะเนี้ย” ผมยืนโถอันหนึ่งขึ้นดู
“นี่ ระ…” ฮิรูมิกำลังจะพูดพอดี ก็เกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น
เพล้ง!!
“อุ้ย” ผมอุทานเบาๆ เพราะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองผิด “ไม่ใช่เค้านะ”
“นี้นาย!!” ฮิรูมิตะโกนและพุ่งมาที่ผม “ว้ากกกก”
ฮิรูมิมาจับที่ปกเสื้อของผม และเขย่าผมอย่างรุนแรง “ตายซะๆ”
“ผม ขอโทษษษษษ”
“อืม… ขอโทษก็ดี แต่ถ้ามีครั้งต่อไปนายตายแน่” ฮิรูมิพูดเสียงดุ
“ครับผม…” ผมยอมแต่โดยดี

ณ ลานหลังบ้านของฮิรูมิ
เป็นลานกว้างๆ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ประมาณ 3-4 ต้น และมีเด็กๆกำลังเล่นฟุตบอล ทันทีที่เห็นฮิรูมิ เด็กๆพวกนั้น ก็วิ่งมาที่ฮิรูมิ
“พี่ฮิรูมิ พาพวกผมบินหน่อยดิครับ” เด็กคนหนึ่งพูดขึ้น
“วันนี้พี่ไม่ว่างจ้ะ พี่มีธุระ” ฮิรูมิด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เด็กๆเดินกลับไปและผิดหวังเล็กน้อย
“รักเด็กซะด้วย” ผมพูดขึ้น
“นี่!! ถ้านายยังกวนชั้นอีกล่ะก็ นายตายแน่!!” ฮิรูมิพูดเสียงดุดัน
“ครับ… แล้วจะคืนร่างยังไงเนี้ย” ผมเริ่มเข้าเรื่อง
“แล้วนาย เอามันมายังไงล่ะ” ฮิรูมิถาม
“มันมาเองอ่ะ”
“โอ้ยยย” ฮิรูมิเริ่มหมดความอดทน “เอางี้ นายปล่อยใจให้สงบ…”
“แล้วใจผมมันไม่สงบยังไงเนี้ย”
“พวกครึ่ง The Catpion จะมีลักษณะการคืนร่างที่ไม่เหมือนพวกเรา” ฮิรูมิพูด “อย่างพวกนาย การจะเป็นร่าง หรือคืนร่าง มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ โกรธ กลัว ตกใจ และสงบสุข ตอนนี้นายอยู่ภาวะตกใจ”
“แล้วต้องทำไงเนี้ย” ผมถาม
“ต้องควบคุม อารมณ์ทั้ง 4 นั้นให้ได้”
“อืม…”
ผมจึงไปนั่งสมาธิ เพื่อจิตใจสงบลง และผมรู้สึกเวลามันก็ผ่านไปนานมาก
.
.
.
2 ชม ผ่านไป
ผมลืมตาขึ้นมา และแขนปิศาจกับหาง ค่อยๆหายไป จนเป็นแขนมนุษย์ปกติ ผมจึงมองหาฮิรูมิ แต่…
“อืม…”
ฮิรูมิกำลังนั่งเหมือนกำลังเบื่อโลก และน้ำตาก็ออกไหลออกมา
“เป็นไรไปเจ๊” ผมถาม
“เปล่านี่” เธอยืนขึ้นพร้อมกับเช็ดน้ำตา
“เด็กพวกนั้นสินะ” ผมถามแบบเข้มขรึม “เจ๊ไปหาพวกเขาเถอะ”
“ชั้นต้องอยู่ฝึกนาย” ฮิรูมิพูด
“ไม่เป็นไรหรอก” ผมพูด “ผมต้องไปดูครอบครัวหน่อย”
“ไม่ได้นะ กำหนดการวันล้างโลก เป็นวันที่ 21 เดือนธันวาคม ค.ศ 2012 นะ”
“อีกตั้งนาน นี่เป็น 2011 นะ” ผมพูด
“จอมปิศาจ swallowing soul ไม่ได้หยุดมันได้ง่ายๆนะ!!” เธอพูดเสียงแข็ง
“อย่ามาตั้งความหวังกับผมเลย” ผมพูดและเดินออกไป “เดี๋ยวผมกลับมา”

ผมเดินกลับไปที่บ้าน พลางคิดไปด้วยว่า “(ผมเนี้ยนะ ความหวังสุดท้ายของโลก ในโลกนี้เทพก็มี ปิศาจก็เยอะ ดันมาตั้งความหวังกับผม)” ผมยังเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าบ้าน
“เต้!!” เสียงใสๆของผู้หญิงเสียงผม
“หยก?” ผมหันกลับไป
หยก วิ่งเข้ามาโผล่กอดใส่ผม
“เป็นอะไรเนี้ย” ผมถาม
“อุ้ย” เธอเพิ่งรู้ตัว “เปล่านี่ๆ”
“เธอหายไปไหนมา”
“ที่ไหนก็ไม่รู้แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว” ผมถาม
แต่มีบางอย่างไม่ปกติ…
โครม!! (เสียงดังมาจากในบ้าน)
ผมกับหยกจึงวิ่งเข้าไป และได้ยินเสียงพูดคุยกัน
“ข้าบอกเจ้าแล้ว ใครฆ่ามันตั้งแต่ เอล กาโว เอามันมาฝากเลี้ยงแล้ว!!” เสียงผู้ชายกำลังตะคอก
“หรือว่า เจ้ายังภัภดีต่อ The Catpion!!”
“เปล่าค่ะท่าน” เสียงผู้หญิงอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ข้ารู้สึกว่า รักเจ้าเด็กนั้น”
“รัก? เพราะคำนี้แหละที่ทำให้ข้าพ่าย The Catpion และเพราะเจ้าไม่ยอมฆ่ามัน” เสียงของชายผู้นั้น
เป๊ยะ!! (เสียงตบ)
“ถ้ามันกลับมา และเจ้ายังไม่ฆ่ามันอีกละก็ ข้าจะดูดวิญญาณเจ้า!!”
หลังจากสถานการณ์ สงบผมกับหยกจึงเข้าไป
“แม่?” แม่บุตรธรรมกำลังกองอยู่บนพื้น และส่วนแขนกับหน้าเป็นปิศาจสิงห์
“จะ…เจ้ากลับมาแล้ว” เธอพูดขึ้น
“เจ้ารู้ไหม…” “บุตรชาย The Catpion นามว่า เอล กาโว ได้เอาเจ้ามาฝากเลี้ยงไว้ที่ข้า”
“เพราะอะไร ทำไมพ่อผมทำอย่างนี้” ผมถาม
“เพราะว่า สายเลือด The Catpion ทุกคนต้องตาย และเขาก็ไว้ใจข้ามาก…”
“แต่…”
“ไม่มีแต่แล้ว รีบหนีไปเร็ว!! สมุนของ swallowing soul มันรู้แล้วว่าเจ้าอยู่ที่นี้”
“ไป!!” เธอตะโกน

“อะไร” หยกพูดขึ้น ดูเหมือนเธอจะไม่รู้เรื่องเลย

ผมกับหยกออกมาที่หน้า
“เธอกลับไปก่อน” ผมพูด
“อะไร ชั้นไม่เข้าใจ” หยกพูด
“เอาน่า เดี๋ยวค่อยเล่า” ผมพูด



ในเวลาเดียวกัน ข้างในบ้าน
“เจ้าทำงานดีมาก ที่เอามันมาที่นี้” สมุนปิศาจตนหนึ่งพูดขึ้น
“เหรอ ฝากไปบอกหัวหน้าเจ้าด้วยนะว่า… The Catpion ไม่มีวันตาย!!” แม่บุตรธรรมของผมพูด
“เพื่อ The Catpion…”
แล้วเธอก็ระเบิดตัวเองอย่างรุนแรง
ตูมมมม!!!

“เฮ้ย ไม่มมมมมมม” ผมตะโกน “หยก ไปเร็ว!!”
“ก็ได้” หยกพูด
และผมกับหยกก็วิ่งไปคนละทาง…
ผมวิ่งมาที่บ้านของฮิรูมิ เหมือนเปลี่ยนไปคนละคน
ก็อกๆ
“อ๋อ นายนั้นเอง ไงร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับมารึไง ฮะๆ” ฮิรูมิพูด ค่อยข้างดูถูก
“ผมพร้อมจะฝึกแล้ว…” ผมพูดเสียงหนักแน่น



Chapter 8 Training combat


ตุบ!!
“โอ้ย…” ผมลงไปนอนก่อนอยู่กับพื้น ณ ลานหลังบ้านฮิรูมิ “เบาๆหน่อยดิเจ๊”
“อะไร แค่ก็ยอมแล้ว” ฮิรูมิพูด
“ผมเป็นปิศาจมือใหม่นะ” ผมพูดพร้อมทำตัวน่าสงสาร
“นายก็แปลงร่างสิ” ฮิรูมิพูด
“แปลงแล้ว” ผมพูด
“แล้วไหนแขน ไหนขา” ฮิรูมิพูดพร้อมมองหาร่างปิศาจของผม
“นี่ไง” ผมพูดพร้อม ชี้ไปที่หาง
“นี่ ไอ้แมวเหมียว!! หัดทำตัวเป็นแมวน่ารักๆหน่อยได้ไหม!!” ฮิรูมิ ขึ้นเสียง
“ก็… มีหางปิศาจไง ไม่ได้เหรอ” ผมพูดทำเสียงน่าสงสาร
“แล้วมันช่วยอะไรได้ ฮะ!!” ฮิรูมิพูดพร้อมหยิบค้อนปอนออกมา
“เอ่อ… อ๋อ” ผมคิดไอเดียเจ๋งๆเกี่ยวกับหางออก “เอาไว้รัดคอไง เจ๋งเปล่า ฮะๆ”
ตุบ!!!!!
“อ้ากกกกก” ผมร้องออกมาและลงไปนอนกองอยู่พื้น “นี่มันค้อนนะเจ๊”
“เลิกกวนชั้นได้ยัง” ฮิรูมิเดินมาพูดพร้อมกับดึงหางของผม…
“ถ้านายยังไม่เลิกกวนชั้นล่ะก็ หางนายขาดแน่~” ฮิรูมิพูดด้วยคำเสียงหวานๆ แต่ดูร้ายกาจ
“โอเค คร้าบ” ผมยอมแต่โดยดี
“ตอนมา คิดว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่สุดท้ายเหมือนเดิม” ฮิรูมิบ่นออกมา
“เอ้า ลองแปลงอีกทีสิ”
“ครับ”
ผมพยายามเปลี่ยนร่างเป็นร่างปิศาจ ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าท่าแปลงร่างของไอมดแดง หรือ อุต้าแมน ก็ไม่สำเร็จสักท่า ผมมองไปที่ฮิรูมิ เห็นเธอหยิบอาวุธออกมาและกำลังเลือก สงสัยเอามีตีผมแน่
ผมหลับตา… พยายามดึงพลังออกมาถึงไม่รู้ว่าทำไงก็เถอะ มันก็คงเหมือนที่เอาหางออกมาได้นั้นแหละ
อืม…
.
.
.
เฟี้ยววววว (ลมพัดแรงขึ้น)
ท้องฟ้าเริ่มมืด
ฝนเริ่มตก…
แวปปปปป
.
.
.
“รู้สึกแปลกๆแฮ่ะ” ผมพูด
“เฮ้ย นายทำได้แล้ว” ฮิรูมิพูด

“เจ๋งเปล่าล่ะ” ผมพูด “ฮะ… ทำอะไรน่ะ”
ฮิรูมิ กำลังเกาคางและลูบหัวผม “เป็นปิศาจแมวที่น่ารักแฮ่ะ”
“หยุดนะ ฮ่าๆ หยุด โอ้ย ฮะๆ” ผมล้มลงไปเพราะผมขยับอะไรไม่ได้เลย เพราะฮิรูมิ เธอกำลังเคาคาง เกาพุง ลูบหัว ลูบหลัง ทำทุกอย่างมีแมวชอบ
“พะ…พอแล้ว จะจะ…เจ๊ๆ” ผมพยายามพูดออกมา
“โอเค” ฮิรูมิพูด
“อย่าให้ถึงทีผมบ้างนะ” ผมพูด
“นายจะทำอะไรชั้นได้” ฮิรูมิพูดและหยิบบางอย่างออกมา
ปัง!!
“โอ้ย เจ็บนะ” ผมพูด
“นายทำตัวให้สง่า เหมือน The Catpion ได้ไหม” “เรามาฝึกกันต่อ”




ฮิรูมิสอนให้ผมควบคุมพลังกับการโจมตีด้วยพลัง และการคืนร่าง(รอบที่ 2) เป็นเวลา 2 ชม และสอนวิธีการต่อสู้ ยุทธวิธีต่าง
“นายลองกำหมัดแน่นๆสิ และปล่อยพลังไปที่ต้นไม้ดูสิ” ฮิรูมิพูด
“โอเค” ผมลองกำหมัด และรู้สึกว่าพลังมันไหลไปที่หมัด และจึงลองปล่อยมันออกไปดู “ย้าก!!”
ตูมมมมมมมม!!! ต้นไม้ใหญ่ล้มลงไป
“โห แรงอ่ะ” ผมอิ้งกับพลังของตนเอง
“พี่ฮิรูมิ พาพวกผมบินหน่อยครับ” กลุ่มเด็กๆวิ่งเข้ามา “หวอ ตัวอะไรน่ะ”
“อ๋อ สัตว์เลี้ยงของพี่เองจ้ะ” ฮิรูมิพูดเธอดูมีความสูขมากๆ “ป่ะ ไปเล่นกันดีกว่า”
“พรุ่งนี้มาประลองกัน” ฮิรูมิพูดทิ้งท้าย ก่อนจะกลายเป็นมังกรและมาพวกเด็กบิยขึ้นไปบนฟ้า
“ซวยซะแล้วสิ” ผมพูด พร้อมกับคืนร่างกลับมาเป็นมนุษย์ แต่…
ผมรู้สึกว่ามันยังไม่สมบรูณ์
.
.
.
“หวอ… หางยังอยู่…” ผมพูดแบบเซ็งๆ

พอดีว่างเลยไปอ่านหนังสือ The Catpion ต่อ

ผมเปิดไปเจอบทหนึ่งน่าสนใจมากๆ
- Keeper เทพองค์สุดท้ายที่เหลือรอด ได้ครับความช่วยเหลือจาก The Catpion โดยการร่วมมือกันบุก ช่วยสวรรค์จะการปกครองของสมุนปิศาจของ swallowing soul และตั้ง Keeper เป็นเทพครองโลก ซึ่งเป็นเวลาก่อนแอตแลนติส ไม่กี่เดือน
-จาก The Catpion นำทัพปิศาจผู้ภัภดีของเขาลงไปใต้พิภพ เพื่อต่อกรกับ swallowing soul
ด้วยกองทัพของ The Catpion ถึงแม้จะน้อยแต่เต็มไปด้วยยอดฝีมือ ผิดกับทัพของ swallowing soul ที่แท้จะมีจำนวนมาก แต่อ่อนหัดไร้ฝีมือ
- The Catpion สู้กับ swallowing soul เป็นเวลานานมาก เนื่องจากทั้งคู่ต่างมีพลังที่สูสีคู่คี่ ทั้งสองฝั่งต่างไม่ยอมแพ้ และล้มตายไปเรื่อยๆ
-จนถึงเหตุการณ์ที่แอตแลนติส The Catpion สู้กับ swallowing soul สองต่อสอง โดน swallowing soul ได้ทำการดูดวิญญาณ ของ The Catpion มาส่วนหนึ่งทำให้ The Catpion กลายเป็นรองโดยปริยาย แต่ The Catpion ก็ทำให้ร่างของ swallowing soul ขยับไม่ได้เหมือน ความหวังเดียวของ swallowing soul ไปอยู่ปิศาจสิงห์สาวตนหนึ่ง…
.
.
.
ณ แอตแลนติส
“ครั้งนี้แกเสร็จข้าแน่” swallowing soul พูดขึ้น
“เจ้าไม่มีการชนะหรอก” The Catpion พูดแบบหมดแรง
“เหรอ วิญญาณที่เหลือของแก คงทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก ฮ่าๆ” swallowing soul พูดและเดินมาที่ The Catpion
“หนอย… ย้ากกก” The Catpion ปล่อยพลังออกไป พลังนี้เป็นพิษผู้ที่โดนจะขยับไม่ได้ เป็นเวลาสองชั่วโมง
The Catpion ลุกขึ้น ไปหยิบดาบขึ้นมา และเดินตรงมาที่ swallowing soul
“เอลิน่า เจ้ามัวอะไรอยู่ยิงมันเซ่” swallowing soul ตะโกนไปหาปิศาจสิงห์สาว “เจ้าอยากให้มันขังข้ารึ”
The Catpion หันไปมอง แล้วพูดว่า “ข้าเชื่อใจเจ้า…”
“ฮื่อๆ ข้าหลงรักท่าน Catpion” เธอพูดทั้งน้ำตา
“เจ้าก็รู้ ข้ารับรักเจ้าไม่ได้ ข้ามีผู้หญิงมนุษย์อยู่แล้ว” The Catpion พูด
“ฮื่อๆ”
ปัง!!!
“อึกเจ้า ทำอะไร” เอลิน่า หันปืนไปยิง swallowing soul แทน
“อืม… มาเรื่องของเราต่อดีกว่า” The Catpion พูด “ข้ารู้ว่าพลังข้าตอนนี้ไม่อาจฆ่าเจ้าได้ แต่ลูกหลานของข้าต้องฆ้าเจ้าได้แน่นอน!!”
ฉึก!!
The Catpion เอาดาบปักไปที่ swallowing soul
“ดาบแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ฮ่าๆ” swallowing soul ดูถูก
“ข้าไม่ได้จะข้าเจ้า แต่ข้าจะขังเจ้าไว้ที่ทวีปแห่งนี้ ย้ากกกกกก!!!”
วูปปปปปปปป
ตูม ซ่า (ทวีปแอตแลนติส ก็จมลงไปพร้อมกับ swallowing soul)
ทั้ง The Catpion และนางปิศาจสิงห์จึงขึ้นไปที่สวรรค์ เพื่อบอกแก่ Keeper
“นี่ท่านจมแอตแลนติส เลยรึ” Keeper พูด “ท่านทำเช่นนั้นได้ไง”
“ข้าคงไว้พวกท่านไม่ได้ ทหาร!!”
“นี่ Keeper ข้าอุตสาหช่วยเจ้ามา” The Catpion ขู่ “ถึงแม้ว่าพลังข้าจะหายไปครึ่งหนึ่ง แต่ข้าสามารถทำลายพวกเจ้าจนสิ้นได้” “พวกเจ้าอยากหายไปเหมือนเทพรุ่นก่อนๆหรือไม่”
หลังจากที่ The Catpion ทำให้เหล่าเทพหวาดกลัวจนตัวสั่น ก็ลงมาที่โลกมนุษย์ เพื่อไปหาหญิงผู้เป็นที่รัก
ส่วนนางปิศาจสิงห์ นั้นหายไปอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้
.
.
.
อุ้ย ผมสะดุงตื่นขึ้นมา ผมฝันเห็นเหตุการณ์ที่แอตแลนติส เป็นฝันที่สุดยอดมาก
“บรรพบุรุษของเรา เทพขนาดนั้นเลย”
แล้วผมก็หลับไปบนหนังสือ The Catpion…

Chapter 9 combat Mission


“ชั้นว่าเค้าพร้อมแล้วนะ” เสียงปริศนาพูดขึ้น
“คิดอย่างงั้นเหรอ” เสียงที่สองเสริมขึ้นมาทันที
“ใช่” เสียงที่หนึ่งตอบทันที
เป๊ยะ!! (ตบหัว)
“จะบ้าเหรอเค้าหลับอยู่” เสียงปริศนาที่สองตะโกนเสียงดัง
“เสียง…ดังทำไมเนี้ยคนจะหลับจะนอน” ผมพูดขึ้นแบบงงๆ
“เค้าพร้อมแล้ว”
ทั้งสองตนพูดขึ้นพร้อมกัน และเดินมาลากตัวผมออกไปจากห้องสมุด ลากไปเรื่อยๆ ผ่านไปหลายๆห้อง และไปโผล่ที่ลานกว้างๆมีแสงแดดส่องเข้ามาที่ตาผม
ผมจึงลืมตาขึ้น เพื่อมองไปรอบๆ มีผู้คนมายืนอยู่เต็มไปหมด ผมรู้สึกว่าอากาศมันร้อนขึ้นเรื่อยๆ ผมยังคงนอน อยู่บนพื้นตอนต่อ เพราะว่ายัง งงๆ อยู่ และก็เงาของใครสักคนเดินมาที่ผม และมีอีกสอง คนเดินมาดึงผมให้ลุกขึ้นยืน…
เป๊ยะ!!
“โอ้ย ตบหน้าผมทำไมเนี้ย!” ผมเริ่มตั้งสติได้ และมองไปที่ตัวการ “อ้าว เจ๊เองเหรอ”
“จำได้ไหม เมื่อวาน” ฮิรูมิถาม
“อ๋อ… ใช่ๆผมลืมไป” ผมพูดพร้อมทำท่าคิดออกแล้ว “แต่ผมยังอ่านไม่หมดเลยนะ”
ตุบ!!
“อุบ!!” ผมร้อง “ผมผิดตรงไหนที่ยังอ่านไม่หมด”
“ไม่ใช่เรื่องน้านนนน!!” ฮิรูมิตะโกนออกไป ดูเหมือนเธอจะทนไม่ไว้แล้ว
“เรื่องการประลองโว้ย”
“ไม่น่าเชื่อ!!” ผมตะโกนกลับไป
“อย่ามากวนชั้นนะ!!” ใช่ฮิรูมิเธอทนไม่ไว้แล้ว ซวย~
“ซวยซะแล้ว” ผมพูดพร้อมกับทำท่าตกใจ โดยกับกระโดดถอยไปหนึ่งครั้ง
“มีทั้งนักล่าปิศาจและปิศาจผู้ภัภดีต่อ The Catpion มาดูด้วยนะ” ฮิรูมิเริ่มอารมณ์เย็นลง
“เริ่มกันเลย” ฮิรูมิพูด

ผมนึกอะไรไม่ออก เลยเปลี่ยนเป็นอันดับแรกก่อน และที่เหลือค่อยคิด แต่ถ้าผมแพ้พวกปิศาจของภัภดีของ ท่านตาคงหมดกำลังใจเป็นแน่แท้… ผมมองไปเห็น อเล็ก ชายปริศนาที่พบในโกดัง ถ้าอ่านผู้อ่านจำไม่ได้ลองไปอ่านตอนแรกดู เอ้ยพูดผิด…
!?!
ฮิรูมิพุ่งมาที่ผมด้วยค้อนปอน ผมจึงกระโดดหลบออกไปข้างๆ
ตุบ!!
กรรม ผมดันกระโดดไปชนคนดูซะงั้น…
“อ้าว กราฟ นายนั้นเอง” ผมพูด
“กลับไปประลองไป!!” กราฟพูดพร้อมกับถีบผมเข้าไปในสนาม
ผมไม่รอช้า รีบเปลี่ยนร่างเป็นปิศาจ
เฟี้ยววววว ลมเริ่มพัดแรง มีเฆมครึ้ม พร้อมกับฝนตกเบา บรรยากาศจากที่ร้อนๆ กลายเป็นเย็นไปทันที่
เปรี้ยง!! ฟ้าผ่าลงมาที่ผม
.
.
.
“เป็นไง เจ๊เก่งป่ะล่ะ” ผมถามฮิรูมิ
“ชั้นจำได้ว่าแปลงเป็นร่างเต็มและนิ” ฮิรูมิพูด
“ก็นี่ไง ร่างเต็ม” ผมพูด พร้อมกับสังเกตเห็นแขนซ้ายของตัวเอง ยังเป็นมนุษย์ แต่แขนขวาดันเป็นปิศาจ
“เฮ้ย ทำไมมันเป็นแค่ครึ้งเดียวเนี้ย” ผมร้องออกมา
[IMG]http://image.free.in.th/z/id/humandeman600x680.jpg

ฮิรูมิบุกโจม ด้วยอาวุธใหม่ “ท่อนแหล็ก”
“เอาอาวุธมาจากไหนเนี้ย”
ผมหลบไปข้างๆ และใช่หางของผมรัดของฮิรูมิ พร้อมกับหัวเราะดังๆ แล้วพูดไปว่า
“หางใช่รัดคอได้เห็นป่ะ”
“เออ นายเก่ง”
ฮิรูมิดึงหางของผมแรงๆ และใช้ “ท่อนเหล็ก” ทุบรัวๆ ต่อด้วยการเสยขึ้นไปบนฟ้า ฮิรูมิเปลี่ยนร่างเป็นมังกร บินตามผมขึ้นไป ใช้หางมังกรฟาดผม ลงมาบนพื้นอย่างรุนแรง และเปลี่ยนร่างเป็นกึ่งปิศาจ (มนุษย์มีปีกมังกร) บินตามลงมา และหยิบ “ท้อนเหล็ก” ที่ตกอยู่ข้างๆขึ้นมา
ทุบๆๆๆ
ตุบ!!!
โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่า ผมน็อกไปตั้งโดน “ท่อนเหล็ก” ทุบตั้งแต่ทีแรกแล้ว
“นี่แน่ะๆ” รู้สึกว่าฮิรูมิจะตีผม แบบโกรธแค้นมาแต่ชาติบางก่อน
“พอแล้วฮิรูมิ” อเล็กพูดขึ้น “เธอจะฆ่าเต้ารึไง”
“อุ้ย น็อกไปตั้งแต่เมื่อไรเนี้ย” เธอพูด และหันไปบอกผู้ชมว่า “เอ่อ…ทุกท่านอย่าพึ่งหมดหวังนะค่ะ คือ เค้ายังเป็นปิศาจมือใหม่…”
แต่เหล่าปิศาจผู้ภัภดีต่อ The Catpion เดินออกไปแบบผิดหวัง บางตนก็วาร์ปหายไป
.
.
.
“อ่อนหัดจริงๆ เฮ้อ” ฮิรูมิพูด
“เธอต้องฝึกให้หนักขึ้นนะ” อเล็กพูด “นี่เอาผู้ช่วยไปอีกคน”
“ใครกันค่ะ” ฮิรูมิถามกลับไป
“ปีเตอร์ เอ็ดมัน” อเล็กกล่าวปิดท้าย

Chapter 10 this is war (ผิดพลาด)


ครืนนนนน เสียงฟ้าร้องอย่างรุนแรง ฝนตกหนักราวกับพายุเข้า อุณหภูมิลดลง จนติดลบ -3 องศา ทั้งๆที่เป็นเมืองไทย มันผิดปกติมาก แถมมาเป็นช่วงเดือนเมษาซะด้วย
ครืนนนน ฟ้าร้องอีกครั้ง พร้อมกับแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ประมาณ 7.2 เรกเตอร์ ซึ่งอยู่ในขึ้น “รุนแรง” ประชาชนไม่รู้จะทำอะไร เพราะเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ก็จะมีสินามิตามมา
อืม… ผมรู้สึกว่าเปียก ผมเริ่มรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมา… ปรากฏว่า ผมยังอยู่ที่ลานกว้างอยู่เลย นอนทั้งที่ เป็นร่างกึ่งปิศาจ
“อะไรเนี้ย ไม่ยอมพาเข้าบ้านอีก” ผมบ่นออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน
มีชายคนหนึ่งเดินมาหาผม ถือร่มกันฝน 1 ใบ เป็นชายผมน้ำตาล ใส่แว่นดูเหมือนหมอ

“นายคือ The Catpion” ชายคนนั้นถาม
“The Catpion คือตา ผมชื่อเต้” ผมถามกลับไป
“ปีเตอร์ เอ็ดมัน” เขาพูด “มาเพื่อฝึกนาย”
“จริงดิ” ผมตอบแบบกวนเล็กน้อย “เมื่อนายบอกว่าชื่ออะไรน่ะ”
“ปีเตอร์ เอ็ดมัน” ปีเตอร์ตอบ
“เฮ้ย!! นาย…” ผมตะโกน “มาจากนาร์เนียเปล่า”
แวป กึก!!
“นายพยายามกวนชั้น!!” ปีเตอร์พูดเสียงดุดัน
“เข้าข้างในดีกว่า หนาว…” ผมเปลี่ยนเรื่องทันที “หนาวอยู่คนเดียว…”
“นายรู้ไหม แฟนมันหายากนะ”
ปีเตอร์ยังนิ่ง และถือปืนเล็งมาที่ผมต่อ
“นี่นายลดปืนน้อย” ผมพูด “มาคุยเรื่องชีวิตดีกว่า”

“อืม…” ปีเตอร์ไม่พูดอะไรและยิงปืนออกไป
ปัง!!
ลูกปืนเฉียวหัวผม…
“เฮ้ย นายทำไรเนี้ย” ผมตะโกนถามแบบไม่พอใจ
“เจอตัวแล้ว…” เสียงที่ดูเย็นชาและชั่วร้ายพูดขึ้น
“เฮ้ย”
ผมอุทาน และกระโดดออกมา และหันหลังกลับไปเพื่อดูว่าใคร
“swallowing soul?” ผมพูด
“ใช่” ปีเตอร์เสริมทันที และยิงออกไปอีกนัด
ปัง!! แต่กระสุนกลับทะลุร่างไปเฉยๆ
“เยี่ยมๆ แกเป็นมนุษย์ที่กล้าหาญมาก” swallowing soul พูด “อ้าวไงทายาท The Catpion”

“แกสินะ ที่ฆ่าครอบครัวของชั้น…” ผมพูดอย่างเข้มขรึม
“ใช่…” swallowing soul ตอบทันที
“อ้าวนี่รอ อะไรอยู่ล่ะ ยิงมันดิ” ผมหันมาที่ปีเตอร์
“เฮ้ย อะไรฟะ” ปีเตอร์พูด “โยนมาในเฉย”
“แกไม่เกี่ยวมนุษย์ นี่ของสงครามของเราปิศาจ this is War!!” swallowing soul พูดด้วยเสียงเย็นชา
“ใครบอกล่ะ” ปีเตอร์พูด


http://www.youtube.com/watch?v=Zcps2fJKuAI&feature=player_embedded
(เสียงประกอบ)
ปัง!!
แต่กระสุนก็ทะลุผ่านร่างออกไปเหมือนเดิม
“ข้ายังสู้ใครไม่ได้” swallowing soul พูดพร้อมกับดีดนิ้วและสลายหายไป…
เหล่าสมุนปิศาจโผล่มาเยอะแยะเต็มไปหมด และคาดว่าเป็นเรื่องยากที่จะหนีออกไปได้
“อืม…ทำไงดีล่ะ” ปีเตอร์พูดขึ้น
“ลุย!!” ผมพูดเสียงหนักแน่น
พลังเวทย์มนตร์ของผม ถูกปล่อยออกไปอย่างเต็มที่ และรุนแรง ส่วนปีเตอร์ทิ้งปืนลงและหยิบไม้เท้า ที่สะพายไว้ข้างหลัง และปล่อยเวทย์ ธาตุมืด ตาข้างขวาเป็นสีแดง ตาซ้ายสีฟ้า…
“สองคนไม่พอหรอก” ผมพูด
“ไม่ใช่สอง” ปีเตอร์พูดออกมา
เฟี้ยวววววววว
มีบางพุ่งลงมาที่พวกเรา
ฟุบบบบ
“มาแล้ว!!” ฮิรูมิ (มังกร) โผล่ออกมา
“เจ๊เป็นไรอ่ะ” ผมถาม
“อะไรยะ” ฮิรูมิถามกลับกับแบบทันที
“เอ่อ ที่ขาครับ” ปีเตอร์พูดพร้อมชี้ไปที่ขาของฮิรูมิ พลางต่อสู้ไปด้วยมนตร์ต่างๆ
“ฮะ อะไรเนี้ย” ฮิรูมิตะโกนออกมา ขาของฮิรูมิข้างซ้ายยังเป็นขามังกรอยู่เลย
“เห็นไหม เจ๊ยังพลาดเลย แล้วผมจะเหลืออะไร” ผมพูดพร้อมกับสู้ไปด้วย…
“เงียบน่า นายสู้เหมือนเด็กเลย” ฮิรูมิพูด
“ใช่ครับ แม่คนสวย” ปีเตอร์พูด
“นี่นาย!!” ฮิรูมิหันกลับไป…

“เฮ้ย This is war จะมาคุยกับทำไม!!” สมุนปิศาจตนสุดท้ายร้องทักท้วง
“ก็ได้” ทั้งสามคนพูดพร้อมกัน และปล่อยทุกอย่างที่มีใส่ปิศาจตนนั้น
ตูมมมมมมมมมม!!!!

“คุณเก่งจังครับ แถมสวยด้วย” ปีเตอร์หันไปคุยกับฮิรูมิ “ชื่ออะไรครับ”
ฮิรูมิผลักปีเตอร์ออกไป พร้อมเตะผ่าหมากหนึ่งครั้ง
“มาซากิ ฮิรูมิ” แล้วฮิรูมิก็เดินไป
“นายซาดิส รึไง” ผมถามปีเตอร์ “ท่าทางหื่นนะเนี้ย เห็นอย่างงี้”
เงียบไม่มีการตอบรับใดๆ เนื่องจากนอนจุกอยู่ข้างล่าง
.
.
.
โครมมมมม ตึกในกรุงเทพ เริ่มถล่มพังลงมา มีการระเบิดเกิดขึ้น เกิดคลืนยักษ์ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง และไม่ใช่แค่เมืองไทยสิ… ทั้งโลกกำลังเข้าสู่สงครามที่มนุษย์ไม่อาจคาดถึงได้


Chapter 11 The attacks of the demon and the return of swallowing soul


ลึกลงไป ในมหาสมุทรแอตแลนติส ณ ซากเมืองแอตแลนติส มีบางสิ่งกำลังอยากออกมา มันมีพลังมหาศาล ยากที่ใครจะเทียบได้ “Swallowing soul” จอมปิศาจที่ถูกกักขัง

กึกๆ…

ดูเหมือนว่าพลังของ The Catpion ที่สะกด Swallowing soul ไว้ในดาบกำลังถดถอยไปเรื่อยๆ

กึกๆ (ดาบสั่น ไปมาอย่างรุนแรง)

ผุบ!!

ดาบของ The Catpion ที่ปักอยู่… หลุดออกมา

“ฮ่าๆ” Swallowing soul หัวเราะด้วยความชั่วร้าย “แกดูถูกข้ามากไปแล้ว The Catpion คิดเหรอว่า พลัง
ชีวิตที่ขอแกจะสะกดข้าไว้ได้ ฮ่าๆ”

Swallowing soul พุ่งออกมาจากใต้ทะเล และพุ่งตรงไปที่ กรุงเทพมหานคร…

(ปังๆ!!)

“ต้องการกำลังเสริม!!” ทหารนายหนึ่งพูดขึ้น

“กำลังเสริมมาแล้ว” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส (กราฟ) พูดขึ้น

“ต้องการทหารโว้ย ไม่ใช่พลเรือน” ทหารคนนั้นพูด

“อย่าดูถูกผมนะ พวกคุณสู้มันไม่ได้…” กราฟกำลังจะพูดแต่โดนตัดบทโดย

“หรอก!!” เป็นเสียงหวานๆแต่ดูร้ายกาจของผู้หญิง

“เธอเป็นใคร”กราฟถามไปพร้อมซักปืนขึ้นพร้อมยิง

“ชั้นชื่อ มายูริ” เธอพูด

“โธ่โว้ย ต้องการทหาร ไม่ใช่พลเรือน!!” ทหารคนนั้นตะโกน

“เงียบน่า!!” ทั้งคู่พูดพร้อมกัน

มายูริเป็นปิศาจ นักรบหญิงใส่เกราะถือดาบและโล่ใส่เสื้อคลุมสีดำราวกับผู้ชาย และหน้าตาถือว่าสวยใช้ได้ สัดส่วนร่างกายถือว่า มนุษย์ยุคนี้สวยที่สุด

ทั้งมายูริและกราฟ ก็ไปตั้งรับการบุกของเหล่าปิศาจ

“ปังๆ”

มายูริถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่อ่อนแอ เพลงดาบของเธอไม่มีใครสามารถต้านได้
.
.
.

ตัดมาทางด้าน พระเอกสุดหล่อ เอ้ย ตัวผม

“ปีศาจบุกมาแล้ว” ผมพูดขึ้น

“ใช่ เร็วๆนายยังสู้ไม่ได้ รีบ…” ฮิรูมิกำลังจะพูด

“สู้ไม่ได้รึ” ผมพูด ท่าทีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“เออ!!” ฮิรูมิพูดและปีเตอร์ก็เดินมาพอดี

“คิดอย่างงั้นรึ” ผมถามเสียงเข้ม

“เออ!!” ฮิรูมิตอบแบบทันที

“อืม…อ่า ไปเรารีบหนีกันเถอะ” ผมพูดและวิ่งไปเก็บข้าวของ

“เฮ้ย กวนตีนเหรอฟะ!!” ทั้งปีเตอร์และฮิรูมิพูดพร้อมกัน

“เหมือนจะไปสู้!!” ฮิรูมิตะโกน

“ใช่” ปีเตอร์เสริมทันที

“พวกเธอสอง เหมาะกันดีแฮะ” ผมพูดพร้อมกับเอานิ้วชี้มาใกล้ๆ

“เอ่อ นายคิดอย่างเหรอ” ปีเตอร์ถ้าทางเขินอายเล็กน้อย

“จะบ้าเหรอ ชั้นเนี้ยนะ เหมาะกับไอ้แว่นนั้นน่ะ” ฮิรูมิตะโกน

ปีเตอร์ลงไปนั่งอยู่กับพื้น กลายเป็นคนน้อยใจไปซะงั้น

“หนีกันดีกว่า” ผมพูด

ทั้งสามออกมาจากบ้าน และวิ่งไปที่ลานหลังบ้าน แต่…

“จะหนีไปไหนๆ” เหล่าปิศาจโผล่ออกมาเต็มไปหมด

และอยู่ๆก็มีแสงแดด ส่องลงมา

“พวกเราคือทูตสวรรค์” เหล่าเทพลงมาช่วย

“พวกเทพตาขาว พวกเราลุย!!”

ทั้งปิศาจและเทพก็เปิดฉากโจมตีกันและกัน

“ทายาท The Catpion หนีไปพวกเราจัดการเอง อะอ้าว” ทูตสวรรค์องค์หนึ่งพูดแต่…

ทั้งสามคนหนีไปตั้งแต่ เจอปิศาจแล้ว
.
.
.
ตัดกลับไปที่ใจกลางเมือง

มายูริและกราฟ กำลังสู้กับเหล่าปิศาจอย่างเมามันส์ และปิศาจก็มาแบบไม่มีวันหมด จนเหล่าฑูตสวรรค์ อีกกลุ่มหนึ่งลงมา และเปิดฉากเข้าใส่เหล่าปิศาจอย่างรุนแรง

“อ้าวเฮ้ย แย่งบทพวกเราหมดเลย” กราฟพูดขึ้น

“ใช่ ตอนฟ้องผู้แต่งซะแล้ว เอ้ย ต้องลุยมั้งแล้ว” มายูริพูด

“ใช่ ลุย!!” กราฟพูดขึ้น

ด้าน ฮิรูมิ ปีเตอร์ และผมกำลังหลบหนีออกไป และมายูริกับกราฟ ก็สู่อยู่ที่ใจกลางเมือง
.
.
.

5day-ago
23rd July 2011, 18:10
สำรองเนื้อ 2

สูตรการค้นหา กด Ctrl+F และใส่ Chapter (เว้นวรรค 1 ครั้ง ตามด้วยเลขตอน เช่น Chapter 1x)


Chapter 12 กราเชียร์ เดอร์ ลามุส และมายูริ



ฮิรูมิ ปีเตอร์ และผมกำลังหลบหนีออกไปจากเมือง เนื่องจากตัวผมยังสู้มันไม้ได้ เฮ้อ…
ส่วนด้าน มายูริกับกราฟ กำลังสู้กันอย่างดุเดือด…

“นี่ลืมไป นายชื่ออะไร” มายูริพูดขึ้นในระหว่างที่กำลังประดาบกับเหล่าปิศาจ

“กราเชียร์ เดอร์ ลามุส หรือว่า กราฟ” กราฟตอบทันที

กึกๆๆ

เกิดแผ่นดินไหวอีกครั้ง ตึกสูงในกรุงเทพ ตอนนี้กลายเป็นซากไปหมดแล้ว

เฟี้ยวววววว!!

“ซักไม่ดีแล้วละ” กราฟพูด

“นายรู้ได้ไงฮะ” มายูริถามทันที

“ใช่ จะรู้ได้ไง” เสียงปิศาจพูดขึ้นจากด้านหลังของพวกเขาทั้งสอง

“ฮะ!!” ทั้งกระโดดออกมา และหันควับไปทางต้นเสียงนั้น

“Swallowing soul!!” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน ด้วยท่าทีตกใจ

“พวกเจ้า เป็นมนุษย์ใจกล้าดี” Swallowing soul พูด
พลังของมันมหาศาล และรังสีอำมหิตแรงกล้า จนทำให้ทั้งคู่ได้แต่ยืนนิ่ง ไม่สามารถตอบต่ออะไรได้

“ก่อนพวกแกจะตาย” Swallowing soul พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูน่ากลัว “พวกนักล่าปิศาจที่เหลืออยู่ไหน”
ทั้งคู่ยังยืนนิ่ง

“เอ้า บอกมาสิ” Swallowing soul พูดอย่างใจเย็น

“ไม่!!” กราฟตะโกนกลับไป

“งั้นแกก็ตายคนแรก” Swallowing soul พูดและหยิบลูกแก้วที่ลอยอยู่มาหนึ่งลูก และชี้เป้าไปที่กราฟ

“วิญญาณแกข้าขอล่ะนะ” Swallowing soul พูดและทำการดูดวิญญาณ

“อ๊ากกกก!!” กราฟร้องอย่างโหยหวน

“หยุด!!” เสียงปริศนาตะโกนมาที่ Swallowing soul
Swallowing soul ชะงักเล็กน้อย และหันมาที่เสียงนั้น และลดกระแสอำมหิตลง ส่วนกราฟนั้นก็ล้มลงไป…

“กราฟ!!” มายูริรีบวิ่งที่ร่างของกราฟ “นายเป็นไงบะ…”

“มะไม่ต้องห่วงชั้น มายูริเธอหนีไปเถอะ” กราฟพูดอย่างอ่อนแรง

“พวกเจ้าคงเป็นกลุ่มนักล่าปิศาจสินะ” Swallowing soul ถาม

“เปล่า พวกเราไม่ใช่ พวกเราคือองค์กรต่อต้านปิศาจ” ชายคนนั้นคืออเล็กนั้นเอง

“พวกเราลุย!!”

“พวกเจ้า 20 คนเองเหรอ” Swallowing soul พูด “น้อยไปที่จะโค่นข้าได้”

แวป!! Swallowing soul หายตัวไป

“บอสครับ มันหายไปแล้ว”

“ระวังให้ดี” อเล็กพูด

ทางด้านมายูริ
“นี่ๆ” หญิงสาวคนหนึ่งกระซิบ มาที่มายูริ

“เธอเป็นใคร” มายูริถามกลับไป

“ชั้นช่วยเค้าได้” หญิงปริศนาพูด “มากับชั้นสิ พาเค้ามาด้วย”

“โอเค…” มายูริพูดขึ้นดูท่าจะไม่ไว้ใจ หญิงปริศนาคนนั้น

หญิงปริศนาและมายูริ ช่วยยกร่างของกราฟ และพาไปที่ไหนสักแห่ง

แวป!!

“ขอบอกไว้ก่อนผู้ใดที่ไม่อยู่ที่ ตายเท่านั้น!!” Swallowing soul พูด

“นั้นไง ยิง!!” อเล็กสั่งโจมตี

ปังๆๆๆ

“อาวุธพวกเจ้า ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!! ฮ่าๆ” Swallowing soul พูด และหยิบลูกแก้วออกมาสองลูก

“ตายซะเถอะ!!!”

“บอส หนีเร็ว!!” ลูกน้องคนสนิทของอเล็ก ตะโกน

ปังๆๆๆ

“หนีไม่ทันแล้ว ฮ่าๆ” Swallowing soul พูดและดูดวิญญาณของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น

“อ้ากกกก!!” เสียงร้องอย่างโหยหวนของทุกคน

“ฮ่าๆ ในลูกแก้วนี้พวกเจ้าจะไม่ได้ไปเกิด” Swallowing soul ตะโกนด้วยความชั่วร้าย

“อ้ากกกก ความหวังอยู่ที่นายแล้ว…” อเล็กพูดและกำลังถูกดูดเข้าไป “เต้…”
.
.
.
“เรียบร้อย” Swallowing soul พูด “เอาล่ะไปล่าได้สองคนนั้นฆ่าเวลาดีกว่า ฮ่าๆ”

Chapter 13 วิญญาณของกราเชียร์ เดอร์ ลามุส


“นี่ๆ” ผมพูดขึ้นมาใน ปั้มน้ำมันร้างแห่งหนึ่ง

“อะไรฮะ” ฮิรูมิถามกลับทันที

“เราจะไปไหนเนี้ย” ผมถามแต่ฮิรูมิเงียบ และผมก็สังเกตถ้าท่าของปีเตอร์ที่ผิดปกติไป

“อ้าว ปีเตอร์เป็นอะไรไป” ผมถาม

“เกิดเรื่องไม่ดีการเพื่อนของนายแล้วล่ะ” ปีเตอร์พูดด้วยเสียงที่ดูเศร้า

“คะ…ใครล่ะ” ผมถามทันที

“อะไร กา ลามุส นี่แหละ” ปีเตอร์พูด “จากฝีมือของ Swallowing soul วิญญาณหายไปครึ่งหนึ่ง”

“กราเชียร์ เดอร์ ลามุส!!” ผมตะโกน และเดินออกไป…

แต่ฮิรูมิก็คว้าหัวของผมได้

“นายจะไปไหนฮะ”

“ใช่ช่วย กราเชียร์ เดอร์ ลามุส ไง” ผมพูด

“อย่าพึ่งไป ถ้านายไปนายตายแน่” ปีเตอร์พูด “สัมผัสที่ 6 ของผมไม่เคยพลาด”

“หนอย… Swallowing soul!!”
.
.
.
ทางด้านมายูริกับกราเชียร์ เดอร์ ลามุส (กราฟ)

“อ้ะ มาทางนี้เร็ว” หญิงสาวปริศนาพูดขึ้น และหยิบแว่นตาขึ้นมาสวม และพาทั้งมายูริและกราฟ มาหลบ ในร้านอาหารร้าง ที่หลังคาเป็นรูขนาดใหญ่ของกลางร้าน

แวป!!

“อยู่ไหนกันนะ” Swallowing soul พูด และยังพลัง กลมๆที่ดูไร้พิษสง ออกไป

ตูม

Swallowing soul ยิงไปที่รถหนึ่งคัน และหันมือมาทางร้านอาหารที่ทั้งสามคนอยู่

“ตรงนี้รึเปล่าน้า”

“Swallowing soul!!” ทูตสวรรค์จำนวนหนึ่งโผล่มาจากฟากฟ้า “เรามาเพื่อฆ่าเจ้า”

“ตามความเป็นจริง พวกเจ้าน่าจะตายกันหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่ฝีมือของ The Catpion ล่ะก็”

Swallowing soul พูดอย่างใจเย็น ไม่รีบร้อน

“ย้ากกกกกกก”

ฉึก!!

“ดาบของเจ้า คมดีวะ” Swallowing soul พูดและเอามือไปกำหัวของฑูตสวรรค์องค์นั้น

“อ้ากกกกก” ทูตสวรรค์องค์ล้มลงไป

“อ้าว ทำไมไม่หนีไปล่ะ” Swallowing soul พูด มีกระแสอำมหิตแรกล้า ในบริเวณรอบๆ ทำให้เหล่าฑูตสวรรค์ ขยับไปไหนไม่ได้ เพราะความกลัว

“ความกลัวทำให้คนขี้ขลาด” Swallowing soul พูดขึ้นมา “พลังของพวกเจ้าข้าขอล่ะกัน”

Swallowing soul หยิบลูกแก้วมาสองลูก และดูดวิญญาณของฑุตสวรรค์เหล่านั้นทันที

“อ้ากกกก” เสียงร้องอันโหยหวนของทูตสวรรค์

“เอาล่ะ ไปหาสองคนนั้นต่อดีกว่า” Swallowing soul พูดและหายไปตัว…

“เอาล่ะมันไปแล้ว” หญิงปริศนาพูดขึ้น

“อืม…ว่าแต่เธอชื่ออะไรอ่ะ” มายูริถาม

“หยก…” หญิงปริศนาตอบทันที “พวกเธอล่ะ”

“ชั้นชื่อ มายูริ และนี่ กราฟ” มายูริตอบ “เธอมาอยู่ที่นี้ได้ไง”

“คือพอดีชั้นกำลังหาคนอยู่อ่ะค่ะ” หยกพูด “เป็นผู้ชาย กวนๆตลกๆ หน้าตาดี เคยเห็นเปล่าค่ะ”

“กวนๆ…” กราฟพูดด้วยความอ่อนแรง “มีคนเดียวในโลก… ชื่อเต้ใช่เปล่าล่ะ”

“รู้ได้ไงอ่ะ” หยกพูด “อ่ะ เราไปกันเถอะ”

ทั้งสามคนออกมาจากร้านอาหารร้าง และเดินไปตามทางเรื่อยๆ…

“อึก!! อ้ากกก” กราฟร้องออกมา

“เค้าไม่ไหวแล้ว นั้น!! พาไปที่นั้นก่อน” หยกพูดและชี้ไปที่ปั้มน้ำมันร้างแห่งหนึ่ง

“นั้นวางเค้าตรงนั้น” หยกพูด และเปลี่ยนร่างเป็นปิศาจเสือซีต้าร์ ที่ดูสง่างาม เป็นเสือซีต้าร์ที่ยืนสองขาได้ และมีปีกของนกฟินิกซ์

“ที่นี้เหมือนมีคนมาอยู่แล้วเลย…”

หยกในร่างปิศาจ ทำการฉีกเสื้อของกราฟ และเอาอุ้มตีนเสือของเธอวางไว้ที่น่าอกของกราฟ
“ชั้นจะเรียกวิญญาณของเธอคืนมาจากลูกแก้วนั้น มันอาจทำให้นายเปลี่ยนไปตลอดกาลได้”
มีแสงออกสีทองมาจากร่างของกราฟ สว่างจ้าจึงมองไม่เป็นอะไร

ณ ลูกแก้วที่ลอยอยู่เหลือหัวของ Swallowing soul มันมีลูกแก้วดวงหนึ่งวิญญาณหายไปแล้ว โดยที่ Swallowing soul ไม่รู้ตัวเลย

“อ่า…วะวิญญาณ มะมาแล้ว” หยกพูดแบบอ่อนแรง “จะทำการดูดพลังธรรมชาติเข้ามาในร่างกาย”
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีพลังแห่งธรรมชาติ สีเขียวไหลเข้าไปในร่างของกราฟ

แวปปปปปปปปปป

เกิดแสงสว่างขึ้นอีก มองไม่เห็น ไม่ร้อน แต่มันสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์
.
.
.

ณ อีกฝั่งของเมือง มีชายผู้หนึ่งยืนอยู่บนยอดตึกร้าง ร่างเป็นปิศาจหมาป่า ที่ดูใจเย็นและไม่กระหายเลือด เหมือนหมาป่าทั่วไป…

Chapter 14 Wolf…


ตึกๆ
มีชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนถนนของ กทม ท่ามการซากตึก ด้วยสภาพที่เปลือยเปล่า ไม่มีอะไรสวมใส่ เป็นคนที่ดูลึกลับ และอาจมีความหลังร้ายๆของในจิตใจ

“นี่ๆพ่อหนุ่ม” ชายวัยกลางคนที่แอบอยู่ในบ้านร้องเรียก “มานี่เร็ว”

ชายหนุ่มยังไม่รู้เรื่อง และเดินมาที่ชายวัยกลางคนนั้น

“อยากตายรึไง” ชายวัยกลางพูด “ไม่สวมเสื้อผ้าด้วย”

ชายวัยกลางพูดเสร็จ ก็เดินไปหยิบเสื้อที่หลังบ้าน และโยนมาให้ชายหนุ่มปริศนา

“เกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มถาม

“นี่ ไม่รู้เรื่องเลยรึไง” ชายวัยกลางพูดเสียงดัง “พวกปิศาจจากไหน ไม่รู้มันบุกเข้ามา ไปอยู่ไหนมาเนี้ย”

“ผมอยู่ในเขาใหญ่ครับ” ชายหนุ่มตอบ และสวมเสื้อผ้าที่ได้รับ

“อ่ะ หมอบลง!” ชายวัยกลางตะโกน

มีปิศาจจำนวนหนึ่งกำลังเดินสำรวจบริเวณนี้

“ยังมีพวกมนุษย์ อีกไหมวะ” ปิศาจตนหนึ่งพูดขึ้น

“ข้าได้กลิ่นเหมือนมีหมาเปียกวะ” ปิศาจอีกตนพูดเสริมขึ้นมา

ปิศาจทั้งหมดก็แยกย้ายกันหา กลิ่นแปลกๆนั้น และมีปิศาจตนหนึ่งเดินเข้ามาในบ้าน ที่ชายหนุ่มกับลุงวัยกลางอยู่ และ…
“ตายซะ” ชายวัยกลางหยิบลูกซองออกมา และยิงไปที่ปิศาจตนนั้น

ปัง!!

“หนีไปพ่อหนุ่ม!! อ่ะ”

ฉึก!!!

ชายวัยกลาง โดนหมัดของปิศาจต่อยจนทะลุ จากหน้าอก ทำให้มีเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก
“อาวุธแค่เอง ทำอะไรไม่ได้หรอก” ปิศาจตัวที่โดนยิง พูด

“ลุง!!” ชายหนุ่มตะโกน

“แกอีกคนสินะ” ปิศาจที่เหลือพูดพร้อมกัน

“ละ…เลือด” ชายหนุ่มพูด และร่างกายกำลังจะขยายใหญ่ขึ้น “อ้ากกกกกกกกก!!”

“เป็นไรวะ” ปิศาจตนหนึ่งพูดขึ้น

“ถอยไป ถ้าพวกแกไม่อยากตาย!!” ชายหนุ่มตะโกนออกมา แววตาเริ่มเปลี่ยนไป

“ฮ่าๆ” ปิศาจทั้งหมดหัวเราะออกมา

“อ้ากกก (นี่...ราฟ สัญญากับฉันได้มั้ย ว่าจะไม่ฆ่าใครอีก…)” มีเสียงปริศนาก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มคนนั้น เป็นเสียงของหญิงสาว

“อ้ากกกก” ชายหนุ่มคนนั้นเลือกที่จะวิ่งหนีไป

“จะหนีไปไหน!!” เหล่าปิศาจก็วิ่งตามไป แต่ ชายคนนั้นหายไปแล้ว…

บนยอดตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นตึกไบหยก
“แฮ่กๆ” ชายหนุ่มคนนั้นวิ่งขึ้นมาบนตึกนี้ได้ยังไง “เราสัญญาไว้แล้ว เราจะไม่ทำร้ายใครอีก”

“(แต่พวกนั้นเป็นปิศาจนะ)” เสียงปริศนาอีกเสียงพูดขึ้นมาอีก รอบนี้เป็นเสียงที่ดูกระหายเลือด

“ไม่!!” ชายคนนั้นพูด

“(เจ้าคือ ราฟ อัลเวโล่ เอคไรกาน่า เป็นราชาหมาป่า!!)”

“ไม่!! ข้าไม่อยากเป็นอย่างนั้น ข้าแค่อยากเป็นคนปกติ!” เขาตะโกนเถียงกับเสียงในหัวของเขาเอง

“(นี่...ราฟ สัญญากับฉันได้มั้ย ว่าจะไม่ฆ่าใครอีก…)” เสียงของหญิงสาวก้องมาให้หัวอีกครั้ง
.
.
.
ตุบ
ชายหนุ่มล้มลงไป
“(พ่อเจ้าเป็นถึงเจ้าแห่งหมาป่า!!)” เสียงปริศนากึกก้องอยู่ในหัวของเขา และชายหนุ่มคนนั้น ก็เห็น ผู้หญิงคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างหน้า เธอหน้าตาสวยเลยทีเดียว

“ธะ…เธอ” ชายคนนั้นพูดขึ้น

“ราฟ อย่าให้มันควบคุมเธอได้…”

“อึก อ่า…” ชายคนนั้นมีชื่อว่า ราฟ อัลเวโล่ เอคไรกาน่า “อืม… ข้าจะไม่ผิดสัญญากับเจ้าแน่นอน…”

Chapter 15 Dead or Alive (1)

“เดี๋ยว!! มีคนมาทางนี้” ปีเตอร์พูดขึ้นระหว่างที่อยู่ในป่าแห่งหนึ่ง

“นายรู้ได้ไง” ผมถามกลับไป

“หลบเร็ว!!” ปีเตอร์วิ่งมาคว้าผมกับฮิรูมิให้แอบหลังพุ่มไม้

“สัมผัสที่ 6 อีกแล้วเหรอ” ฮิรูมิพูดขึ้นมา “ชั้นซักเริ่มไม่เชื่อแล้วสิ”

“ทำไมล่ะครับ” ปีเตอร์ถามกลับไป

“ก็นายกอดชั้นอยู่นี่ไง” ฮิรูมิลุกขึ้นและเดินออกมาจากพุ่มไม้ “อ่ะ หรือว่านายคิดไม่ซื่อกับชั้น!!”

“ร้ายนี่หว่า” ผมพูดขึ้น และก็ลุกขึ้นไปยืนข้างฮิรูมิ

“ร้ายอะไร? เปล่า” ปีเตอร์พูด

“หรือว่านายชะ…” ผมกำลังจะพูดเสร็จ ก็ถูกแทรกโดยฮิรูมิ

“เต้!! นายอย่าพูดพล่อยๆนะ” ฮิรูมิพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ

“พวกเธอ หลบแล้ว!!” ปีเตอร์ตะโกน

“ไม่เชื่อ!!” ผมและฮิรูมิตะโกนพร้อมกัน

จุ่ๆก็มีบางอย่างกระโดดออกมาจากพุ่มไม้อีกฝั่ง ผุบ!!! มาตะครุบใส่ตัวผม และผลักฮิรูมิออกไปไกลๆ

“นั้นไง บอกแล้ว” ปีเตอร์ตะโกนพร้อมกับทำท่าทางเซ็งๆ

“ข้าได้กลิ่นปิศาจมาจากแกและนางผู้หญิงคนนั้น” หมาป่าตัวนั้นพูดออกมา และชี้ไปทางฮิรูมิ พร้อมกับ แผ่กระแสอำมหิตออกมา

“หมาป่าพูดได้!!” ปีเตอร์ตะโกนออกมา แต่ตัวเองแอบอยู่หลังต้นไม้

“มนุษย์หมาป่า!!” ฮิรูมิพูดขึ้น “ยังไม่สุญพันธ์อีกเหรอ”

“เฮ้ย ช่วยด้วย พูดอยู่นั้นแหละ!!” ผมตะโกนกลับไป

“นายเป็น The Catpion นะช่วยตัวเองสิฮะ!!” ฮิรูมิตะโกนกลับไป

“The Catpion เป็นแมวน่ะ!!” ผมพูด “เค้ากลัวหมา”

จุ่ๆหมาป่าก็ปล่อยตัวผมและถอยหลังไปเรื่อยๆ จนชนต้นไม้

“อ้ากกกกก” หมาป่ากลับกลายมาเป็นมนุษย์ผู้ชายในสภาพเปลือยเปล่า!!

“ว้าย!” ฮิรูมิร้องออกมาและหันหลังไป

ปีเตอร์เดินออกมาจากหลังต้นไม้และเดินมาที่ชายคนนั้น

“เป็นไรไหม…” ปีเตอร์ตาม

“อึกๆ มะ…ไม่เป็น…ไร” ชายคนนั้นตอบ

ผมจึงเดินเข้าไปหา ด้วยมาดนิ่งๆ

“นายชื่ออะไร” ผมถามไป

“ระ…ราฟ อัลเวโล่ เอคไรกาน่า…หรือว่า…ราฟ” ราฟพูดอย่างอ่อนแรง

“นายเป็นอะไร” ผมถามไปอีก

“ผะ…ผมปะ…เป็นมนุษย์” ราฟตอบ แต่ยังคงนอนอยู่บนพื้น

“เต้ บ้าพูดอยู่ได้ เอาผ้ามาคลุมตัวเค้าสิย่ะ!!” ฮิรูมิพูดแต่ยังหันหลังให้อยู่

“คิดว่า เจ๊ชอบซะอีก” ผมพูด แต่ปีเตอร์เอาผ้าคลุมของราฟเรียบร้อย

“เรียบร้อยครับ คุณฮิรูมิ” ปีเตอร์พูดด้วยคำเสียงหวานๆ

“อ้ากกกก ออกไปเดี๋ยวนี้ มันมาอีกแล้ว” ราฟตะโกนออกมา

ราฟยืนมือมาบีบคอผม และยกขึ้นมา พร้อมกับร่างที่กำลังขยายขึ้นเรื่อยๆ

“อึก นายทำอะไร…” ผมพูด

“ฆ่าพวกปิศาจ!!” ราฟในร่างหมาป่าตอบกลับทันที

ผมเปลี่ยนร่างเป็นกึ่งปิศาจ และต่อยไปที่หัวแรงๆ

ตุบ!!!!

หมาป่าราฟ กระเด็นออกไปจึงชนต้นไม้

“ดูท่า เค้าจะคุมร่างนั้นไม่ได้” ปีเตอร์พูดขึ้น

“ใช่…” ฮิรุมิเสริมทันที “นี่นายหมาป่า นายต้องคุมมันให้ได้ ถ้าไม่อยากให้ใครต้องตาย!!”

“หา!! อ้ากกกกกกก” หมาป่าราฟกลับมาสู่ร่างมนุษย์ “ธะ…ใช่เธอหรือเปล่า…”

ตึก!!

ราฟล้มลงไป

Chapter 16 Dead or Alive (2)


มนุษย์หมาป่าที่ชื่อว่า ราฟ บุกเข้ามาโจมตีพวกเราสาม แต่ว่า… มนุษย์หมาป่าตัวนั้น มีอาการซะงัก อยู่บ่อยๆคุมควบตัวเองไม่ได้ เดี๋ยวหมาป่า เดี๋ยวคน สลับกันไปอย่างมีจังหวะของมันเอง

“อืม…” ราฟลืมตาขึ้นมากลางป่า รอบๆตัวมี ฮิรูมิ ปีเตอร์ และผม ที่กำลังนอนหลับอยู่…

ราฟหยิบผ้ามาคลุมตัวและลุกขึ้นเดินที่ฮิรูมิ

“ใช่เธอรึเปล่า…” ราฟพูด

ฮิรูมิลืมตาขึ้น มองเห็นราฟยืนอยู่ข้างๆตัวเธอ

“นะ…นายมองอะไร” ฮิรูมิถาม

“นั้น ใช่เธอรึเปล่า” ราฟถาม

“เธอไหน? อะไร ฮะ! ไม่ใช่สักหน่อย” ฮิรูมิออกอาการมึนงงพร้อมกับตกใจเล็กน้อย

“ต้องใช่แน่ๆ เธอนั้นเอง” ราฟไม่สนใจฟังและพูดต่อไปตัวเริ่มขยับมาใกล้ๆตัวฮิรูมิเรื่อยๆ

“ไม่ช่ายยยยย… นี่พวกนายสองคน ช่วยชั้นหน่อยสิย่ะ” ฮิรูมิร้องขอช่วยเหลือ

“เต้!! ปีเตอร์!!”

“หา?” ปีเตอร์ตื่นขึ้นมา “เฮ้ย นายกำลังจะทำอะไร!!”

ปีเตอร์กระโดดถีบราฟอย่างรุนแรง

“อึก นายทำอะไรเนี้ย” ราฟถามกลับไป

“นายกำลังจะทำอะไรล่ะ!!” ปีเตอร์ตะโกนออกไป สีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง อุณหภูมิในบริเวณนั้นสูงขึ้น เรื่อยๆ

“ผมแค่จะดูหน้าเธอเท่านั้นเอง” ราฟพูด “ว่าใช่คนๆนั้นของผมรึเปล่า”

“ใครกันล่ะ คนๆนั้นของนาย!!” ฮิรูมิถามไปทันที

“ผมบอกไม่ได้…” ราฟพูด

“เสียงดังอะไรกันเนี้ยฮะ!!” ผมขัดจังหวะขึ้นมาทันที

“นี่นาย!!” ฮิรูมิหันหน้ามาทางผม

“เฮ้ย!! อย่า!!” ผมตะโกนออกไปก่อนที่ฮิรูมิจะทำอะไร

ผุบ!!

“เฮ้ย!!” ทั้งราฟ ปีเตอร์และฮิรูมิ ร้องออกมาพร้อมๆกัน

“ตกใจอะไรกันเนี้ย” ผมถาม

“น่ารักจังเลย” ฮิรูมิเดินมายกผมขึ้นไปกอดอย่างอบอุ่น

“เป็นอะไรนิเจ๊” ผมถามไป

“นะ…นายเป็น…มะ…แมว” ปีเตอร์พูดด้วยอาการตกใจเล็กน้อย

“แมวเหรอ…อืม…” ราฟพูดและมีหูและหางของหมาป่าโผล่ขึ้นมา “ข้าเกรียดแมว!!!!”

“อย่านะ!!” ฮิรูมิห้ามทันที และถีบราฟออกไป

ตุบ!!

“ผมเป็นแมวก็ทุกแล้วนี่” ผมพูดอย่าง งงๆ

“นายเป็น แมวน้อยตัวเล็กๆนะ” ปีเตอร์พูด

“ไม่เชื่อ” ผมพูดและไปเห็นอะไรบ้างอย่าง นั้นคือ มือ!! ไม่ใช่สิ อุงตีนแมว!! “เฮ้ย เป็นไปได้ไงเนี้ย”

http://image.free.in.th/z/if/demon.jpg

“เป็นยังนี้ก็ดีนะ น่ารักกว่าร่างคนเยอะ แถมยังเป็นการซ่อนตัวจากพวกปิศาจอีกด้วย” ฮิรูมิพูดขึ้นมา “ห้ามคืนร่างล่ะ ไม่งั้นตาย!!”

“ก็ได้ ฮือๆ” ผมพูด

“แล้วก็นาย อย่ามายุ่งกับแมวของชั้น” ฮิรูมิตะโกนไปหาราฟ ที่นอนอยู่บนพื้น

“เราต้องรีบไปแล้ว มาคนมา” ปีเตอร์พูดขึ้น “สองคนจากทิศตะวันตกและตะวันออก”

ผุบ!!!!

“อ้าว นึกว่าพวกปิศาจซะอีก” ชายผิวดำ ตัวสูงร่างกำยำ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆอยู่ตามร่างกาย จมูกโด่ง นัยน์ตาสีน้ำตาล และผมสีดำทรงวอร์ฮอว์ค พร้อมถือปืน M249 SAWโผล่ออกมาจากทางทิศ
ตะวันออก

ผุบ!!!

“ผู้รอดชีวิต…” ชายอีกคนนั่งเรือมาทางทิศตะวันตก

“พวกนายเป็นใคร” ฮิรุมิถามไป

“ผม!! เจมส์ แอนเดอร์สัน ยินดีรับใช้ครับ” ชายผิวสี พูดขึ้นอย่างเข้มแข็ง และจูบที่มือของฮิรูมิ
แต่ฮิรูมิ ก็เอามือออก

“นี่นาย!! อุ๊บ…” ผมเผลอพูดออกไป

“แมวพูดได้!!!” เจมส์ร้องออกมาด้วยความตกใจ และยกปืนขึ้นมาเล็ง

“อย่าทำอะไรแมวชั้นนะย่ะ!!” ฮิรูมิพูด จนทำให้นายเจมส์ผิวสีคนนั้นลดปืนลง

“อืม…ผมชื่อ มาโอ เดมอน อ่ะ!!” ชายอีกคนพูดขึ้น

“โอเค งั้นเราของเรือนายเลยนะ” ปีเตอร์พูดขึ้น และกระโดดขึ้นไปพร้อมดึงฮิรูมิกับผมขึ้นมา และขับเรือ ออกไป

“เอาเรือไปง่ายๆเนี้ยน่ะ” มาโอพูดขึ้น

“We got company…” เจมส์พูด

“ทำไมต้องพูดภาษาอังกฤษ ฟังไม่ออก” มาโอตอบกลับทันที

“เร็ว ปลุกไอ้หมอนั้นขึ้นมา” เจมส์ชี้มาที่ราฟที่กำลังนอนอยู่

“จะอยู่ หรือ ตาย ก็ครั้งนี้แหละ” เจมส์พูดทิ้งท้าย และยิงปืนออกไป…

ปังๆๆๆๆๆ



Chapter 17 He come back…

“ปังๆๆๆๆ” เสียงสาดกระสุนของเจมส์ อย่างดุเดือดและโหด*****ม แต่เหล่าปิศาจก็ดาหน้าบุกเข้ามาอย่างไม่หยุด
“มันเยอะเกินไป” มาโอพึมพำขณะที่เขากำลังสู้กับเหล่าปิศาจ
“นายก็ไปไอ้หมอนั้นดิ” เจมส์ตะโกนกลับมาในขณะที่กำลังเติมกระสุนปืน และใช่มือซ้ายจับที่คอปิศาจมา หนึ่งตนและใช้ปืน ยิงกระหน่ำไป… (ปังๆๆๆๆ)
“นี่นาย!!” มาโอวิ่งมาที่ราฟซึ่งกำลังนอนสลบ ราฟกำลังจะลุกขึ้น… แต่ก็มีหอกพุ่งเข้ามาที่มาโอ
“อ่ะ!!” มาโอกระโดดหลบออกไป และหอกนั้นก็พุ่งไปเสียบที่หน้าอกของราฟ “ฉึก!!”
“(พวกมันกำลังจะฆ่าเจ้า เจ้ายอมได้รึ)” มีเสียงกึกก้องอยู่ในหัวของราฟ “อ้ากกกกกกกก!!”
ราฟกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า จอมโหด*****มอีกครั้ง “แฮ่กๆ ข้าได้ออกมาสักที!!” เป็นเสียงที่ดูโหดร้าย และกระหายเลือด
“(ไม่ๆๆๆ เราจะอย่างนี้ไม่ได้)” เสียงของราฟผุดขึ้นในหัวของหมาป่าตัวนี้
“อะไรเนี้ย” มาโอพูดขึ้นมาแบบงงๆ
“พวกนายเร็วๆสิวะ อึก!!” เจมส์โดนปิศาจเอาค้อนทุบไปที่หัวไหล่ข้างซ้าย และล้มลงไป “ตุบ!!”
“ย้าซซซซซซ” ราฟพุ่งไปที่ปิศาจตนนั้น และกัดไปที่คอจนขาดกระจุย
“เราต้องเอาบ้างล่ะ…” มาโอลุกขึ้น ตัวเริ่มลอยไปบนฟ้าเรื่อยๆ แล้วก็เปลี่ยนเป็นร่างปิศาจ “เปรี้ยง!!” มีอาวุธเป็นหอกสามง่าม มาโอปาหอกลงไปที่เหล่าปิศาจ “ตูม!!!!” มาโอก็ลอยลงมาข้างๆตัวเจมส์ ที่กำลังนอนอยู่บนพื้น

“เจ๋งนี่หว่า” เจมส์พูดออกมา และคลานไปหยิบปืน และลุกขึ้นมานั่ง “ลุยกันต่อ…”
มาโอไม่พูดอะไรเดินไปหยิบ หอกสามง่ามที่ปาลงมา…
“กึกๆๆๆๆ”
“ทำไม พวกเจ้าชักช้าจังฟะ” swallowing soul โผล่ออกมาจากใต้พื้นดิน “เราต้องฆ่า ทายาท The Catpion ให้ได้ ก่อนที่มันจะฆ่าข้า!!”
“โอ้…อย่างงี้นี่เอง มากลุ่มผู้กล้าขวางอยู่นั้น” swallowing soul หยิบลูกแก้วออกมา
ทั้งเจมส์ มาโอ และหมาป่าราฟ ต่างซะงักกัน ขยับไปไหนไม่ได้ ได้แต่มอง…
“เฮ้พวก!!” เสียงปริศนาดังขึ้นมาจากด้านหลังของ swallowing soul เป็นชายใส่ชุดคลุมสีดำตัดกับสีขาว ถือปืนสองกระบอก “จำข้าได้รึเปล่า…ข้า กราเชียร์ เดอร์ ลามุส”
.
.
.
กราเชียร์ เดอร์ ลามุส มาพร้อมกับ มายูริ และหยก…

Chapter 18 kill him destroy him


“กราเชียร์ เดอร์ ลามุส??” swallowing soul จอมปิศาจผู้ยิ่งใหญ่พูดออกมา พร้อมกับทำหน้าดูถูก
“เยส เซอร์!!” ชายหนุ่มยิงกระหน่ำไปที่จอมปิศาจ พลังมันช่างมหาศาลจริงๆ รุนแรงเหนือการบรรยาย
“โอ้ว!! แรงจริงๆ” ชายหนุ่มพึงพอใจกับความแรงของปืนตนเอง
“ก็ชั้นเอาพลังธรรมชาติใส่ไปให้ตัวนานด้วยนิ” หยกพูดขึ้น

ทางด้านเจมส์ มาโอ และราฟหมาป่า
“พวกเราก็ลุยบ้างดิ!! ย้ากกก” เจมส์วิ่งไปหยิบปืน และพลิกตัวไปยิงเหล่าสมุนปิศาจทั้งหลาย “ปังๆๆๆๆ”
ส่วนมาโอ ก็เดินไปหยิบหอกสามง่าม และบุกจู่โจมแบบไม่กลัวตาย “พวกแกไปลงนรกซะ!!!”
“อืม… ฆ่ามัน ทำลายมัน” swallowing soul สั่งเหล่าปิศาจ
ราฟหมาป่า พุ่งมาขะย้ำตัว swallowing soul และทำการฉีกเป็นชึ้นๆ
“ออกไปจากตัวข้านะโว้ยไอ้หมาป่า!!” swallowing soul ถีบราฟออกไปไกลๆ “เอ๋ง!!” และหยิบลูกแก้วขึ้นมาหนึ่งลูก
“จะทำอะไรฮะ!!” มายูริพุ่งเข้ามาและชิงลูกแก้วออกไปได้ “จะดูดวิณญาณเหรอ ฮ่าๆ”
“สมุนปิศาจมัน หมดแล้วโว้ย ฆ่าตัวตัวหน้ามัน!!” เจมส์ตะโกน
“ฝีมือข้าตะหากโว้ย ที่ฆ่าพวกเราจนหมด” มาโอตะโกนกลับไป เพื่อบอกว่าตัวเองเก่งแค่ไหน
“แกมันไม่มีอะไรดีนอกจากลูกแก้วล่ะหว่า” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส พูดจาดูถูกจอมปิศาจ
“อึก!! งั้นรึ…” swallowing soul หายตัวไปเฉยๆ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมาเล่นงานใคร
“ทุนคนเกาะกลุ่มไว้” เจมส์ ชายผิวหมึกตะโกนลั่น “ที่นี่ยังไม่ปลอดภัย”
“กลัวอะไรกันว้า” มาโอพูด น้ำเสียงแบบดูถูกเหยียดหยาม “เจ้านั้นมันหนีไปแล้ว”

แวป….

ตึก!!
“แก!! คิดว่าข้ามีดีแค่ลูกแก้วรึ” จอมปิศาจโผล่ออกมากลางวง และต่อย กราเชียร์ เดอร์ ลามุส จากบีบคอ…
“กราฟ!!” มายูริตะโกนด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น
“ถ้าใครขยับ ไอ้หมอนี่ตาย!!” จอมปิศาจพูดด้วยน้ำเสียงที่โหด*****ม
“ตายก็ตายไปดิ ข้าไม่รู้จักหมอนี่ซะหน่อย!!” มาโอพูดขึ้นทันที
“เฮ้ย จะบ้าเหรอฟะ” ชายผิวหมึก ตะโกนทันทีที่ได้ยินคำนั้น
จอมปิศาจไม่รอช้า บีบคอกราเชียร์ เดอร์ ลามุส ให้ขาดอากาศหายใจจนตาย
แต่ทว่า!!...
หยกได้เปลี่ยนเป็นปิศาจเสือซีตาร์ วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ไม่มีใครมองทัน เข้ามาต่อยจอมปิศาจ จนกระเด็นออกไปชนกับซากตึก…
แวป!!! ตูม!!!
“หยก!!” มายูริตะโกนลั่น
“ทุกคนหนีก่อน” หยกหันกลับมาบอกให้ทุกคนรีบหนีออกไปและชี้ไปที่บ้างร้างหลังหนึ่ง “เราสู้มันไม่ได้หรอก!! ไปที่บ้านหลังนั้น”

จากด้วยความเร็วและความสามารถของทุกคน ก็หลบหนีไปที่บ้านร้างได้ แต่…
“หนีทำไมฟะ เราสู้มันได้ชัดๆ” มาโอยังยืนอยู่ ไม่ได้ขยับไปไหน เหมือนเปลี่ยนไปจากร่างมนุษย์ ที่เป็นคนเรียบร้อย ร่าเริง กลายเป็นปิศาจสุดหยิ่งยโส
“ไปเร็ว” หยกในร่างซีตาร์วิ่งมาคว้าตัวมาโอ และวิ่งเข้าบ้านร่างนั้นไป

ตึง!!
“หนอยแน่ พวกเจ้า อ่ะ!” จอมปิศาจออกมาจากซากตึกด้วยความงง เพราะว่าเหล่าศัตรูหายไปกัยหมด “ช่างมัน ตามฆ่าทายาส The Catpion ดีกว่าเยอะ…”
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง ทั้งผม ฮิรูมิ และปิศาจ
“เราพายเรือออกมาไกลแล้วนะ” ชายหนุ่มรูปงามอย่างผมพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
“เอาล่ะปลอดภัย” ฮิรูมิเปลี่ยนร่างเป็นมังกรขนาดยักษ์ “ขึ้นมาสิ”
“ทำไม ไม่ทำตั้งแต่ตอนแรกเนี้ย” ผมถามไปด้วยความสงสัย
“เจ้าบ้า ขืนเปลี่ยนร่างในเมือง พวกปิศาจมันก็เห็นพวกเรานะสิย่ะ” ฮิรูมิกล่าว
“ขึ้นเถอะ…” ปีเตอร์พูด สีหน้าดูว่าจะชอบขี่มังกรมากๆ
“อืม…” ผมขึ้นตามไปและฮิรูมิก็ออกบินไป…

“เราจะไปไหนเนี้ย” ผมถาม
“มหาสมุทรแอตแลนติก” ฮิรูมิตอบสั้นๆได้ใจความ โดยไม่อธิบายเลยว่าไปทำไม…

Chapter 19 Sword of the Catpion


หลายชั่วโมงผ่านไป…
“เอาล่ะ ถึงแล้ว” ฮิรูมิในร่างมังกรยักษ์ พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงบ

“ถึงแล้ว ถึงที่ไหน?” ผมถามฮิรูมิไปด้วยความงง บวก มึน

“มหาสมุทรแอตแลนติก เหนือบริเวณทวีปแอตแลนติกเก่า” แม่สาวมังกรตอบทันที “จำได้ไหมที่ชั้นบอกไว้ตอนแรก”

“ว่า?” ผมถามไปแบบสั้นๆฮวนๆ

“การเปลี่ยนร่างของนายขึ้นอยู่กับอารมณ์ โกรธ กลัว ตกใจ และสงบสุข” พูดเสร็จทางฮิรูมิก็สะบัดผม ลงมาจากหลังมังกร “เอาล่ะ ลงไปเอาดาบมา!!”

“หวอออออ” ชายหนุ่มรูปงามร้องเสียงหลง “ตูม!!”

“โหดไปรึเปล่าครับ” ปีเตอร์พูดหลังจากที่เต้ตกลงไป “ถ้าเขาตายล่ะครับ”

“ถ้าเขาตาย พวกเราก็ซวยไงล่ะ” ฮิรูมิตอบเสียงใส และส่งยิ้มให้ปีเตอร์
.
.
.
“บุ๋มๆ” ร่างของผมค่อยๆจมลงไปเรื่อยๆ การหายใจของผมเริ่มติดขัด คงตายในมหาสมุทรแล้วล่ะ ตายแล้วหาศพยากซะด้วย เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร

“ลูกพ่อ…” มีเสียงประหลาดก้องอยู่ในหัวของผม “เจ้าจะตายตรงนี้ไม่ได้…สาเหตุที่เจ้าเปลี่ยนร่างแบบติดๆขัดแบบนี้ ก็เพราะว่า…”

“เพราะว่าเจ้าอ่อนแอไงล่ะ” เสียงที่สองแทรกขึ้นมา และก้องอยู่ในหัวผม

“โธ่พ่อ” เสียงที่หนึ่งพูดเสียงหลง

“อย่ามาเถียงพ่อนะ เอล กาโว” เสียงที่สองพูดเสียงดุ เสียงทั้งสองก้องอยู่ในหัวของผม

“ก็ข้าไม่ชอบสงครามที่น่า” เสียงที่หนึ่งพูดโต้ตอบ

“เจ้าเป็น The Catpion นะ เจ้าไม่ได้เชื้อข้าเลยรึไง” เสียงที่สองโต้ตอบกลับไป

“ก็พี่สาวข้าเอาเชื้อสงครามของท่านไปหมดแล้วนิ อ่ะเดี๋ยวก่อนลูกข้ากำลังจะตายแล้ว” เสียงของคนแรกพูด “อืม…ข้าขอมอบพลังทั้งหมดของข้านี้ให้แก่เจ้าลูกพ่อ”

“ท่านพ่อไม่ให้บ้างเหรอ”

“ข้าหวงโว้ย” เสียงที่สองตะโกนไป และเสียงทั้งสองก็เงียบหายไป
.
.
.
แวป!!!
“อืม…” ผมลืมตาขึ้น “รู้สึกดีแฮะ”

“เราอยู่ใต้ทะเลนี่หว่า อืม…เราเป็นปิศาจเต็มตัวแล้วนิ แจ๋ว”

“(ลูกพ่อ…)” เสียงปริศนาก้องอยู่ในหัวของผมอีกแล้ว เป็นเสียงเดียวกับเสียงที่แรกที่ก้องอยู่ในหัวของผม

“(ยืนมือขวาไปข้างหน้าสิ…)”

ผมก็ทำตามโดยไม่ขัดขืนใดๆ เพราะรู้สึกว่าเสียงนั้นเป็นเสียงที่ดูอบอุ่น ผมยืนขวาไปข้างหน้า

“กึกๆ”

แผ่นใต้ท้องทะเล เริ่มสั่นไหว อย่างรุนแรง

เฟี้ยววววว ฟุบ!!

ดาบพุ่งมาอยู่ที่มือขวาของผมพอดี ผมจึงซักดาบออกมาจากฟัก เป็นดาบที่รูปร่างแปลกพอสมควร ด้ามดาบเป็นหน้าแมว และที่ตัวดาบ มีตัวอักษรเขียนอยู่ว่า “Sword of the Catpion”

“(เจ้าได้ดาบแล้ว จงเอามันไปปราบ swallowing soul ซะลูกพ่อ ข้าไปล่ะ)” เสียงก้องมาในหัวอีกครั้ง

“ดะ…เดี๋ยว ท่านเป็นใคร” ผมถามไปด้วยความรวดเร็ว

“(เจ้าโง่!! ข้าก็พูดอยู่ว่า ลูกพ่อ)” เสียงก้องมาในหัวอีกครั้ง และก็หายไป…

“พ่อ?” ผมพูดขึ้นมาด้วยความงง

ผมเก็บดาบลงฟัก และพุ่งไปด้วยความเร็วขึ้นไปหาฮิรูมิ และปิเตอร์

ฟุบ!!

“ผมมาแล้ว” ผมพูดขึ้น

“เฮ้ย นายบินได้ ****โคตรร็อค!!” ปีเตอร์พูดทันทีที่เห็นผม

“เร็วกว่าที่คิด” ฮิรูมิพูดขึ้น “นายเป็นปิศาจร่างเต็มได้แล้วสินะ”


http://image.free.in.th/z/im/thecatpion600x640.jpg

“นายไม่ต้องขี่หลังชั้นแล้วนะ” ฮิรูมิหันหัวมังกรไปที่ปีเตอร์ “ติดแค่นายนี่แหละ เมื่อไหร่จะบินได้ฮะ!!”

“ก็เค้าเป็นมนุษย์นี่นา” ปีเตอร์ทำตัวน่าสงสาร “เคยได้ยินคำนี้ป่ะ สักวันคนไทยจะบินได้”

ทั้งผมและฮิรูมิ ไม่พูดอะไรและบินกลับไปที่ กทม ด้วยความเร็วสูงๆ จนทำให้ปีเตอร์เกินตกลงไป
.
.
.
ทางด้านบ้างร้าง ที่หลบของพวกมายูริ

“พวกนายชื่ออะไรน่ะ” เจมส์ ชายผิวหมึกพูดมาท่ามกลางความเงียบและทุกคนทำตัวเกร็งๆ “ผมชื่อว่า เจมส์ แอนเดอร์สัน”

“ชั้น มายูริ และนี่หยก” มายูริตอบทันที พลางชี้ไปที่หยกและกราเชียร์ เดอร์ ลามุส “ส่วนคนที่นอนอยู่น่ะชื่อว่า กราเชียร์ เดอร์ ลามุส”

“ผม มาโอ เดมอน” มาโอพูดขึ้นพร้อมกลับมาเป็นร่างมนุษย์เหมือนเดิม

“แล้วไอ้หมาป่า นั้นชื่ออะไร” เจมส์ถามทันทีที่เห็นว่าการสนทนาเงียบลง

“ไม่รู้ดิ” ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน


Chapter 20 Vs swallowing soul (1)


ผม ฮิรูมิและปีเตอร์ ได้เหินเวหามาถึง กรุงเทพมหานคร สภาพเมืองเละไม่เป็นทาง ดูไม่ออกมาเป็นเมือง จากฝีมือ ของเหล่าปิศาจที่ชั่วร้าย ผมยังไม่รู้ลยว่าจะสู้ Swallowing soul ไหมรึเปล่า เป็นงานที่เสี่ยงจริงๆ เหมือรผมอยู่ระหว่าง อยู่ หรือ ตาย…

“รู้สึกว่ามีอะไรพุ่งมาหาพวกเรา” ปีเตอร์ สัมผัสได้ถึงอะไรบางที่โหด*****ม กำลังตรงมาที่พวกเขาทั้ง 3 คน

“ตูม!!” ฮิรูมิโดนพลังของอะไรบางอย่าง และพุ่งตกลงไปบนพื้นโลกพร้อมกับปีเตอร์

“ฮิรูมิ? ปีเตอร์!!”

“ไม่ต้องตกใจไป The Catpion” swallowing soul บินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม “เจ้าช่างเหมือนปู่เจ้าจริงๆ”

“…” ผมไม่พูดอะไร

“ข้ารู้ว่าจะฆ่าพวก The Catpion ได้ยังไง” swallowing soul เริ่มจ้อ “พวกเจ้ามีวิธีฆ่าอยู่ 4 วิธี”

“1.กินวิญญาณ หรือ ดูดวิญญาณมาใส่ไว้ให้ลูกแก้ว”

“2.อยู่ให้แก่ตาย…” swallowing soul เริ่มเงียบไป… ผมจึงถามกลับไปบ้าง

“แล้วอีกสองวิธีล่ะ”

“ข้ายังไม่รู้” swallowing soul พุ่งมาที่ผมด้วยความเร็ว ผมซักดาบและเสียบไปด้วยความเร็วเช่นกัน “ฉึก”

“ฮึ ดาบแค่…” swallowing soul ใช่แขนซ้ายต่อยทะลุร่างของผม แต่…

“ฟุบ!!”

“ร่างปลอมงั้นรึ…” swallowing soul เริ่มออกตามหาตัวผม ด้วยความกระวนกระวายใจ “โว้ย!! ****เปลี่ยนร่างเหมือนไหร่ฟะ!!”

ณ ตึกฝั่งตรงข้ามกับ Swallowing soul

“ฮ่าๆ โง่จริงๆ จ้ออยู่ได้” ผมพูดออกมาเนื่องจากขำท่าทีของจอมปิศาจในตอนนี้

“กึกๆ”

“ออกมาดิวะ แอบอยู่ได้” swallowing soul เริ่มตะโกนไปทั่ว

“อยู่นี่โว้ย!!” ผมตะโกนไปสุดเสียง

“ไหน!!...” swallowing soul หันหน้ามาทางผม “ฉัวะ!!”

“อ้ากกก แขนข้า!!”

“เอาพลังนี้ไปกิน!!” ผมตะโกนและยิงพลังสีดำออกไปรัวๆ เนื่องจากผมจำมาจากเบจิต้า ในดราก้อนบอล “ตูมๆๆๆ”

“ทำไมพลังมันอ่อนหัดจังวะ” ผมพึมพ่ำออกมา เนื่องจากรู้สึกว่าตัวได้ใช้ท่าปัญญาอ่อน “(ใช้ดาบสิลูก…)” มีเสียงก้องให้หัวผมอีกแล้ว “(ฟันไปข้างหน้า พร้อมปล่อยให้พลังไหลไปที่ดาบ…)”

“แก บังอาจตัดแขนข้า!!”

“ย้ากกกก” ผมฟันดาบไปข้างหน้า และพลังที่ออกไปจากดาบ เป็นมังกรสีดำหัวเป็นแมว พุ่งไป swallowing soul ด้วยความเร็วสูง!

ตูม!!!!

“(หมุนที่หัวแมว…)” เสียงของท่านพ่อยังกึกก้องให้หัวผม ผมจึงทำตาม

แวป!!

จากดาบเปลี่ยนเป็นปืนคู่ สีดำ

“โอ้ว ****โคตรร็อคเลยท่านพ่อ!!” ผมกระหน่ำยิงปืนไปจอมปิศาจแบบไม่ยั้งมือ “ปังๆๆๆ”

“(กระสุนคือพลังของเจ้าเอง ถ้าพลังหมดเจ้าก็แพ้…)”

“โห มีข้อเสียด้วยแฮะ” ตอนนี้ผมรู้สึกดีมากๆ “อ้ะ มันหายไปไหนแล้ว”

“ฉึก!!”

“มะ…มือ ใคร…” ผมพูดขึ้น รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อมีมือโผล่มาจากอกของผม

“(เจ้าโง่ ยิงไม่ดูเลย)” ท่านพ่อยังบ่นต่อไป “(หมดกันความหวังของโลก…)”

“ข้าไม่ยอมให้เจ้าโจมตีข้าอยู่คนเดียวหรอก” swallowing soul พูด

“อึก!!” เลือดให้ตัวผมไหลออกอย่างรวดเร็ว

“เชอะ!! อ่อนหัดซะมัด…” swallowing soul สะบัดตัวผมลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง “ตูม!!”

และก็บินหายไป…

“อึก ฮิ…ฮิรูมิ ปี…เตอร์ ใครก็ได้” ผมได้แค่พูด เนื่องจากทุกคนอาจจะตายไปแล้ว… ผมหลับตาลง เนื่องจากทนพิษ ของแผลขนาดยักษ์บนหน้าอกของผมไม่ได้…ลาก่อนทุกคน
.
.
.
“ดูดิ ****หมดสภาพ The Catpion เลย” เสียงปริศนาพูดขึ้น “ยังไม่ตายอีกนะ”

“เขาเป็น The Catpion นะยังไม่ตายทันทีที่ถูกแทง ไปเร็ว เขาจะตายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า” เสียงที่สองพูดขึ้น

5day-ago
23rd July 2011, 18:11
สำรองเนื้อหา 3

สูตรการค้นหา กด Ctrl+F และใส่ Chapter (เว้นวรรค 1 ครั้ง ตามด้วยเลขตอน เช่น Chapter 1x)

Chapter 21 Help me…


“เค้ากำลังจะตายแล้ว” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น “เร็วเข้า!!”
“อ้ะ นั้นใครน่ะ!!” เสียงผู้ชายอีกคนตะโกนออกมา

“สวัสดีผมชื่อ จังก้า” ชายผู้ปริศนาตอบสวนกลับไป

“จะชื่ออะไรก็ช่าง มาช่วยยกไอ้หมอนี่หน่อย” เสียงของผู้หญิงตะโกนกลับไป
.
.
.
สติของผมเหลือน้อยเต็มที ผมพยายามลืมตาขึ้นมา เห็นกลุ่มคนจำนวนมาก วิ่งเข้ามายกตัวผม… ร่างของผม มันชาไปหมด มันคงถึงเวลาแล้วสินะ ผมหลับตาลงช้าๆ

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” เสียงของหยกพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ “เค้าเป็นใครน่ะ”

“The caption (เดอะแคทเปี้ยน)” ฮิรูมิเดินมาที่หยก “ช่วยเขาได้รึเปล่า”

“จะลองดู…” หยกตอบสั้นๆ จากนั้นก็เปลี่ยนมือตัวเองให้เป็นอุ้งตีนเสือ และเอามาประกบที่หน้าอก ที่เป็นรูของเดอะแคทเปี้ยน

“เฟี้ยวววว” ลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ และหยกก็ล้มลงไป

.
.
.

ในร่างกายของเดอะแคทเปี้ยน

“ที่นี้คืออะไรเนี้ย” ผมยืนอยู่ในห้องสีขาว ไม่มีมีอะไรเลย นอกจากประตูหนึ่งบาน ผมจึงผมเข้าไป เพื่อเปิดมัน “เปิดไม่ออก…”

“ว้าย!” หยกตกลงมาให้ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูอยู่หลายบานมีเลขอยู่ที่ประตู จนแถบนับไม่ได้ “มีทั้งหมด 13 บาน…” หยกเดินไปที่ประตูหมายเลขหนึ่ง ก็พบกับ “ห้องเปล่าๆ” หยกจึงเดินออ
กมา และเข้าห้องหมายสอง สาม สี่ ตามลำดับ จนถึงหน้าที่สิบสาม “ห้องสุดท้ายแล้วสินะ” หยกเปิดประตูเข้าไป!! ก็พบกับ!! ห้องเปล่าๆเหมือนเดิม

“ฮ่าๆ เจ้าหาไม่เจอหรอก” มีหมาโผล่ขึ้นมา

“เจ้าเป็นใคร” หยกถามไปทันที

“ข้าคือหมาผู้ดูแลดวงวิญญาณแห่งเดอะแคทเปี้ยน ข้าจะออกมาได้ตอนที่เขาใกล้ตาย” เจ้าหมาร่ายยาว

“แล้วทำไมชั้นถึงหาไม่เจอล่ะ” หยกสวนกลับไป

“เจ้าต้องใช้ใจในการมอง แล้วประตูจะโผล่ออกมาเอง” หมาเดินมาตรงหน้าหยก “ความรักไงล่ะ…”

เจ้าหมาเดินไปที่กำแพง “ข้ารู้ว่าเจ้ารักเค้า…”

“ดะเดี๋ยว!!” แต่เจ้าหมาเดินหายไปในกำแพงไปแล้ว “ใช้ใจมองงั้นรึ” หยกลืมตาลง ส่งกระแสอะไรบางอย่างออกมาโดยที่ตัวเธอไม่รู้ตัว และเธอก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วยยยย”
.
.
.
ด้านผู้ช่วยชีวิตเดอะแคทเปี้ยน ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ฮิรูมิ กับ ปีเตอร์ และกลุ่มของหยกที่หลบอยู่ในบ้านร้าง พร้อมกับคนแปลกหน้าหนึ่งคน

“สวัสดีครับ ผมชื่อจังก้า” ชายหนุ่มเริ่มแนะนำตัว และทุกคนก็เริ่มแนะนำตัวกันไปตามลำดับ

“นี่พี่เจมส์ แอนเดอร์สัน” จังก้าพูดขึ้น

“เรียกเจมส์ก็พอ ว่าไง” ชายผิวหมึกพูดทันที

“ผมเห็นหมาป่า วิ่งนอนอยู่ข้างหน้า…” จังก้าโดนเจมส์ตัดบททันที

“พวกเราไม่รู้จักมันหรอก ถือว่าเป็นหมาเผ้าบ้านล่ะกัน”

“อึก…” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส เริ่มรู้สึกตัว และลุกขึ้นมา

“กราฟนายพื้นแล้ว” มายูริพูดขึ้นทันที

“นี่เธอ ทำไมต้องมาห่วงชั้นเนี้ย” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส พูดด้วยความงง

“ก็ ชั้นไม่อยากเสียคนที่รู้จักไปอีก…” มายูริพูดออกมาทั้งน้ำตา

“พวกพี่สองคนน่าจะแฟนกันนะ” จังก้าแทรกขึ้นมาทันที

“ชั้นว่านายอยู่เฉยๆดีกว่า” มาโอแทรกขึ้นมาและนั่งลงไป

“ดูดิ หยกสลบไป เดอะแคทเปี้ยนก็ตายอีก เฮ้อชีวิต…” ปีเตอร์พูดด้วยความเซ็งสุดขีด

อีกด้านตะวันตกของเมืองกรุงเทพ

“เฮ้ย นายเป็นใคร” ชายปริศนาตะโกนลั่นระหว่างเดินเล่นอยู่ในเมืองร้าง

“อย่าพึ่ง!! ผมชื่อ โลฮัน ชาออส” ชายอีกครพูดขึ้น

“นึกว่าเป็นปิศาจ ผมชื่ออัลราดรีโอ่ เฟอร์” ชายคนแรกพูดกลับไป ผมสีดำตาสีน้ำตาลสด ใส่เสื้อยืดขอกลมแขนยาวผมสั้น

“เราไปด้วยกันดีกว่า” โลฮันเดินลงมา “นายคอยดูปิศาจให้ด้วยล่ะ”

อีกด้านทิศเหนือเมืองกรุงเทพ

“อ่ะ ศัตรู!!” ชายหนุ่มปริศนาปาดาบออกไป “เช้ง!!” ชายอีกคนปามีดเปลี่ยนทางดาบไป

“ผมไม่ใช่พวกปิศาจนะ” ชายคนที่สองตะโกนลั่น

“นายชื่ออะไร” ชายคนแรกถามไป

“ไซเอ็น T-Zero” ชายคนที่สองตอบทันที

“ข้า เจ้าชายแห่งเปอร์เซีย…”

Chapter 22 Love…


“โอ้ย ใช้ใจมองงั้นรึ” หยกพึมพำออกมา พร้อมกับนั่งลงบนพื้น ในห้องสีขาว “เค้าเป็นใครยังไม่รู้เลย”

“อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง” ผมซึ่งนั่งอยู่ในห้องสีขาว ที่มีแต่ความว่างเปล่า และกำลังนั่งคุยกับหมาตัวหนึ่ง “สรุปนายมาจากไหนเนี้ย”

“ที่เล่ามายังไม่เข้าใจเหรอ…” เจ้าหมาถามกลับมา

“ท่านผู้อ่านยังไม่รู้เรื่องเลย” ผมตอบกลับทันที

“เฮ้ย นอกบทแล้ว” เจ้าหมากระโดดงับแขนผม

“โอ้ย เจ็บนะปล่อยๆ” เจ้าหมาเดินถอยไปหนึ่งก้าว และนั่งลง

“เรื่องมันเป็นอย่างนี้…”

เจ้าหมาเริ่มเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น มันบอกว่าผมโดนแทงจนทะลุ แล้วผมก็มาอยู่ที่ห้องนี้ จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ลงมาช่วยและกำลังตามหาผม แต่มันได้บอกว่าเป็นใคร มันบอกแค่ว่า X
มาก เธออยู่ข้างนอกนี่เอง แต่ไม่สามารถเข้ามาหาผมได้

“ทำไมเธอเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ผมถามทันทีที่เล่าจบ

“เธอต้องพิสูญจน์ความรักที่มีต่อนาย…” เจ้าหมาสวนกลับทันที

“แล้วเธอเป็นใครเนี้ย” ผมเดินไปที่เจ้าหมาตัวนั้น และยกมันขึ้นมา

“ไม่บอกหร๊อกกกก” เจ้าหมาตอบแบบกวนๆ

“คลุมถุงชนชัดๆ” ผมพูดสั้นๆแต่ได้ใจความ

ตอนนั้นผมเริ่มคิดอะไรบางอย่างได้ ผมเดินลงไปนั่งใกล้ๆเจ้าหมา และเริ่มเล่นกับเจ้าหมาไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเกาพุง เล่นหู จับหาง โยนเล่น ต่างๆแบบที่หมามันชอบ และมันก็สนุกมากๆด้วย ซึ่งเป็นไปตามแผนของผม แผน…ที่ชั่วร้าย

แผนที่ว่ามี 3 วิธี
1.ตีสนิท
2.เริ่มคุยเรื่องต่างๆ
3.ให้มันพาผมออกไป

“นี่ถามอะไรหน่อยดิ เจ้า…” ผมซะงักไปชั่วครู่ “ขอตั้งชื่อให้นายล่ะกัน เอาเป็น… ย่น”

“เพราะว่านายหน้าย่น”

“ตั้งชื่อให้ผมทำไมเนี้ย” เจ้าหมาเริ่มสงสัย “หรือว่ามีแผนชั่ว!!”

“เปล่านะ เปล่า” ผมตอบกลับไปด้วยเสียงสูง ดูมีนัยยะสำคัญ

“แต่ผมก็ชอบ โฮ่งๆ” เจ้าหมาเริ่มถูกใจกับชื่อของมัน “นายเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ”

เป็นไปตามแผนทุกอย่าง…แผนที่ชั่วร้าย ฮ่าๆ จากนั้นผมก็เริ่มคุยเรื่องต่างๆนานา จนมาถึงเรื่อง…


เต้ : นี่ๆ
ย่น : อะไรครับ
เต้ : ถ้านายพาชั้นออกไป ชั้นจะพานายออกไปด้วย
ย่น : หา! โฮ่งๆ
เต้ : ทำไมล่ะ
ย่น : ผมพาออกไปไม่ได้ มันผิดกฎ ถ้าพานายออกไป นายก็รอดดิ
เต้ : อ้าว…
ย่น : ผมต้องดูแลที่นี้…
เต้ : ห้องเปล่านี่นะ ชั้นเป็นเดอะแคทเปี้ยน นายสามารถออกไปกับชั้นได้ถ้าชั้นต้องการ
(เป็นบทสนธนา)


ปัง!!

มีผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา ด้วยความแรง

“หะหยก…” ผมพูดออกอะไรไม่ออก ได้แต่งง “มาไงเนี้ย”

“เจอแล้ว” หยกพูดออกมาด้วยความดีใจ และก็มีแสงสีรุ่ง เข้ามาในห้อง ทำให้ห้องมีสีสันขึ้นมา “ออกไปได้แล้ว”

“เธอมายังไง แล้วเจอชั้นได้ยังไงเนี้ย” ไม่มีคำตอบใดๆหยกลากผมออกไปข้างนอก มีประตูออกไปข้างนอกซึ่งมีเหล่าผู้ล่าทั้งหลายอยู่ “อืม…ย่นนายมาด้วยสิ”

เจ้าหมาย่น วิ่งเข้ามาที่ผมด้วยความเร็ว มันกระโดดขึ้นมาบนหัวของผม

“แสงนี้คืออะไร” ผมถามออกไป

“พลังธรรมชาติ” หยกตอบสั้นๆ

แว๊ป!!!!!!!!!!

“อึก” ผมตื่นขึ้นมาในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งกำลังวุ่นวายอย่างเห็นได้ชัด และก็วิ่งมาที่ผม…เธอวิ่งเข้ามากอดผม

“คือนายนี่เอง” หยกพูดขึ้น

“กำลังมีสงครามนี่” เจ้าหมาย่นตะโกนลั่น

“นี่พวกนายมาช่วยกันก่อน ปิศาจบุกโว้ย” เจมส์ แอนเดอสัน ตะโกนลั่นบ้าน
.
.
.

Chapter 23 Dog and cat


“นี่ๆผมได้ยินเสียงต่อสู้” อัลราดรีโอ่ เฟอร์ พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
“เหรอ…ไม่เห็นได้ยินเลย” ชาออสตอบกลับไป และเดินอย่างสบายใจต่อไป “อัล… ชั้นขอเรียนนายว่า เฟอร์ ล่ะกัน” ชาออสหันหน้ากลับมา “เรากำลังจะโดนย้ำแหละ” เขาหยิบดาบขนาดดาบออกมา พร้อมกับหนังสือหนึ่งเล่ม อาวุธนายล่ะ” เขาถาม

เฟอร์ หยิบปากกาออกมาหนึ่งเล่ม “นี่อาวุธของผม” เมื่อเห็นว่า สีหน้าของชาออสดูงงๆ จึงรีบเดินไปหาที่แอบ “ผมชอบวางแผนน่ะ” เขาตะโกนกลับไป

“เหอะๆ ซวยแล้วไง” ชาออสบ่นพึมพำออกมา และเปลี่ยนร่างเป็นกึ่งปิศาจ มีปีกฟินิกซ์ สีแดงเพลิงออกมา และยืนรอเหล่าปิศาจ

“มาแล้วสินะ” มีปิศาจตนหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนชาออสอย่างรุนแรง “ตูม!!”

ทั้งคู่ต่อสู้ด้วยดาบต่อดาบ “เช้งๆ” แกร่งแข็งกันทั้งคู่ และชาออสก็บินขึ้นไปบนฟ้า

“เก่งดีนิ” ปิศาจตัวนั้นพูดขึ้น “ไม่คิดว่าจะมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่”

“เหรอ…” ชาออสสวนกลับไปสั้นๆจะก็ลุยเข้าไป “เช้งๆ ตูม!!”

“สู้ๆเพื่อน” เฟอร์ที่อยู่เบื้องล่าง ออกมายืนเชียร์ชาออส โดยที่ไม่รู้จะกำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

“อะนี่มีคนรอดชีวิต” ปิศาจกลุ่มหนึ่งผ่านมาพอดี และพุ่งเข้ามาหาเขา เฟอร์จึงไม่อยู่นิ่งรีบสับไกล (วิ่ง) ออกไปด้วยความเร็ว

ณ บ้านร้างที่เดิม

“เกิดอะไรขึ้นเนี้ย” หยกถามทันที

“คือไอ้จังก้า มันออกไปเล่นกับหมาป่าตัวนั้นอ่ะ…” มายูริตอบ ในระหว่างกำลังต่อสู้กับเหล่าปิศาจที่ บุกเข้ามาในบ้าน

“ไม่รู้มันสติแตกอะไร ทำให้พวกปิศาจมาหาพวกเรา” กราฟเสริมทันที

“ซวยแล้วไงล่ะ” ฮิรูมิตะโกนลั่น “มันมาเยอะ เราสู้มันไม่ได้แน่”

“เราต้ิองแย่งย้ายกัน” เจมส์ ชายผิวหมึกเสริมขึ้น “ไปๆ” เขาหยิบกล่องกระสุนมาตั้งให้ด้านหน้าของตัวเขาเอง

“เราสู้มันได้ชัดๆ” มาโอแทรกทันที

ฮิรูมิเปลี่ยนร่างเป็นมังกรขนาดยักษ์ “ขึ้นมาดิ” ปีเตอร์และกระโดดขึ้นทันที แล้วก็ออกบินไป

มายูริและกราฟ หนีออกไปอีกทางหนึ่ง เหลือแต่เจมส์ แอนเดอร์สัน กับผมและเจ้าหมาย่น

“ไปแล้ว ผมคุ้มกันเอง”

“ปังๆๆๆ”

“โอเค” ผมเปลี่ยนร่างเป็นแมวตัวน้อยๆ “ย่นเราไปกันเถอะ” ผมและเจ้าหมาก็หลบหนีออกไปอีกทางหนึ่ง
.
.
.
ผมหนีออกมาได้ ซักพักก็เกิดการระเบิดที่บ้านหลังนั้น “ตูมมม!!!!” ผมและย่นจึงหันกลับไปดู “เฮ้ย…เราไม่รู้จักกันแท้ๆ” ผมรู้สึกเสียใจมากๆ ที่มีใครก็ไม่รู้มาปกป้องผม

“ไม่เป็นไรเจ้านาย” หมาย่นเข้ามาปลอบผม

มาอีกด้านหนึ่ง

“นายเป็นเจ้าชายจริงๆเหรอ” ไซเอ็นถามระหว่างที่กำลังเดินอยู่กลางสวนแห่งหนึ่ง

“ก็จริงดิ” เจ้าชายเปอร์เซีย ออกอาการไม่พอใจนิดๆกับคำถามของไซเอ็น “ข้ามาเที่ยวบ้างไม่ได้เหรอ” เจ้าชายหยุดเดิน และหันมาพูดกับไซเอ็น “ข้าแค่มาเที่ยว แต่กับเกิดเหตุการณ์อะไรไม่รู้ขึ้น”

“โอเคๆ เชื่อก็เชื่อ” แล้วไซเอ็นก็ผลักเจ้าชายออกไป “ศัตรู!!” ไซเอ็นหยิบปืนขึ้นมายิงกระหน่ำใส่พวกปิศาจ “ปังๆ” ยิงจะหมดแม็ก ก็เปลี่ยนร่างเป็นปิศาจ ผิวสีน้ำเงิน ผมสีทอง เรียกดาบออกมา 2 อัน ไซเอ็นเอาดาบทั้ง 2 มาขุดกัน ทำให้เกิดหมอกปกคลุมไปทั่ว

“เหอะ ปิศาจรึ ข้าเจอมาเยอะแล้ว” เจ้าชายเปอร์เซียซักดาบออกมา และบุกจู่โจมเหล่าปิศาจอย่างโหด*****ม

มาทางด้านผมและเจ้าหมาย่น

“ว้าว หมาแมว เดินด้วยกัน ว้าวๆน่ารักอ่ะ” เสียงของหญิงปริศนาพูดขึ้น


Chapter 24 ฮิรุมิ 2!?!


“น่ารักจัง” เสียงของหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งมีใบหน้ารูปใข่ ใว้ผมยาวถึงต้นขา สีเงินแสงจันทร์พูดขึ้นมีหางประมาณ 9 หาง พร้อมเดินมาอุ้มเดอะแคทเปี้ยนในร่างแมวขึ้น “หมาแมวเป็นเพื่อนได้ยังไงเนี้ย” เธอโยนแมวลงไปบนพื้น และอุ้มหมาย่นขึ้นมากอดด้วยความเอ็นดู

“โยนทำไมเนี้ย” ผมเผลอพูดออกมา จึงทำให้หญิงลึกลับคนนั้นแสดงอาการตกใจ และในมือขวาของเธอมีไฟลุกขึ้น ผมรู้ทันทีจึงตะโกนออกไปว่า

“อย่าๆผมเป็นเดอะแคทเปี้ยน” ผมก็เปลี่ยนร่างมาเป็นร่างมนุษย์

“โอ้…” หญิงลึกลับเดินมาตรงหน้าผม “สวัสดีชั้นชื่อ มาซากิ ฮิรูมิ…”

“ฮิรูมิ… อีกแล้วเหรอ” ผมตะโกนลั่นไปทั่วบริเวณ

“ทำไมเหรอ” เธอถามกลับมา พร้อมกับเดินไปรอบๆตัวผม และหางของเธอก็ถูไถบนตัวผมไปด้วย “ห๊า…”

“เอ่อ…” ผมพูดอะไรไม่บอกเลยทีเดียว จากนั้นเธอก็เดินออกห่างจากผม

“ไม่เห็นมีกระเป๋าตังหรือว่าของมีค่าเลย” เธอกล่าว

“โจรนี่หว่า” เจ้าหมาย่นพูดขึ้น “เจ้านายหลบเร็ว!!”

ตูม!!!!

“เจอแล้ว!!” สวอร์ริ่ง โซล พูดขึ้นในขณะที่เหยียบร่างของผมอยู่ “แกไม่รอดแน่”

“โธ่โว้ย!!” ผมพยายามออกจากบาทาของสวอร์ริ่ง โซล ให้ได้แต่ว่าพลังของมันสูงเกินไป

“เพื่อนแกน่ะ…” สวอร์ริ่ง โซล พูดขึ้นพร้อมแผ่กระแสอำมหิต จึงทำให้ ย่นและฮิรูมิ ขยับไม่ได้ “ตัวดำๆน่ะ…ตายแล้ว”

“ไม่จริงหรอก” ผมเปลี่ยนร่างเป็นเดอะแคทเปี้ยน “ขาแกเคยหักไหม!!”

“ฮึ่ม!!” สวอร์ริ่ง โซล กระโดดออกมา และหยิบลูกแก้วขึ้นมา “ตายซะ!!”

“ย้ากกก” ผมพุ่งเข้าไปต่อยด้วยความเร็วสูง อย่างรุนแรง “ตูม!!” จากนั้นผมก็คว้าตัวย่นกับฮิรูมิ และวาร์ปหนีไป

กึก…

“หนอย… เพื่อนของแกไม่รอดแน่…” สวอร์ริ่ง โซล พูดพร้อมกับระเบิดพลังออกไปอย่างรุนแรง จึงทำให้ บริเวณรอบๆในรัศมี 10 ไมล์ ราบเป็นหน้ากลอง

ทางด้านเดอะแคทเปี้ยน

“อึก…” ผมล้มลงไป เนื่องจากผมรับแรงระเบิดเต็มๆ เนื่องจากผมไปบังย่นและฮิรูมิไว้

“นายเป็นไงบ้าง” ฮิรูมิเก้าหางวิ่งเข้ามาพยุงตัวผมไว้ “นายยังไม่บอกชื่อเลย”

“ผมชื่อ…เต้” ผมพูดแบบอ่อนแรง

“เจ้านาย…” หมาย่นพูดขึ้นด้วยเสียงเศร้าๆ

“นายจะตายไม่ได้นะ” ฮิรูมิวางตัวผมลงบนพื้นเบาๆ “ชั้นชอบนาย…”

“หา!!” ผมถึงกับอิ้ง จากนั้นผมก็สลบไป…



Chapter 25 Ready for the war


“ฆ่าถูกอย่างที่ขวางหน้า…” สวอร์ริ่ง โซล ออกคำสั่งแก่เหล่าสมุนผู้ภักดีทั้งหลาย และเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง “บอกมา เจ้าแคทเปี้ยนอยู่ที่ไหน!!”

“ไม่บอก…” เสียงอ่อนแรงของชายผิวหมึก

“เชอะ…” สวอร์ริ่ง โซล เดินออกไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“ทำไมไม่ฆ่ามันล่ะครับ” สมุนตนหนึ่งเดินมาถามจอมปิศาจผู้ชั่วร้าย

“เงื่อนไข…” จอมปิศาจตอบแบบสั้นๆ
.
.
.
ณ สถานที่แห่งหนึ่ง… เวลา 11:01
มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนสลบอยู่บนหน้าตักของหญิงสาว 9 หาง พร้อมกับหมาหนึ่งตัว ทั้งหญิงสาวและเจ้าหมา กำลังรอให้ชายหนุ่มคนนั้นตื่นขึ้นมา…
วันที่ 21 ธันวาคม 2012 ตามปฏิทินของชาวมายา ซึ่งวันนี้เรียกว่า “วันสิ้นโลก” ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับชายหนุ่มเพียงคนเดียว…

“ใกล้ถึงกำหนดแล้วเนี้ย…” เสียงของฮิรูมิ 9 หาง พูดด้วยเสียงเศร้าสร้อย

“เจ้านายของผมไม่ตายง่ายๆหรอกขอรับ” เจ้าหมาพูดขึ้น และหายตัวไป…

ณ อีกด้านตะวันออกกรุงเทพ
กลุ่มผู้รอดชีวิตสองกลุ่มได้มารวมตัวกัน เพื่อร่วมต่อต้านเหล่าปิศาจ โดยมี “เจ้าชายเปอร์เซีย” “ไซเอ็น T-Zero” “โลฮัน ชาออส” “อัลราดรีโอ่ เฟอร์”
“โอเคแผนของนายว่าไง” ทั้งสี่คนได้เริ่มวางแผนการบุกโจมตีเหล่าปิศาจ ทั้งหมดอยู่ในปั้มน้ำมันร้างแห่งหนึ่ง

“แถวนี้ยังมีตึกที่ยังไม่ถูกทำลายอีกมาก” เจ้าหนุ่มผมดำ เริ่มอธิบายแผนการต่างๆ “พวกนายเป็นยอดมนุษย์กัน ให้ซุ่มอยู่บนตึก รอเวลาเหมาะพอหัวหน้ามันเดินมา ก็กระโดดลงไปซัด****เลย”

เจ้าหนุ่มจอมวางแผนร่ายยาว

“โอเค เอาตามนี้” ทุกคนตอบตกลงเพราะไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

ทางด้านปิศาจ
“เราจะเดินทางไปที่เสาชิงช้า” สวอร์ริ่ง โซล พูดขึ้นระหว่างยกทัพไปที่เสาชิงช้า “อาวุธทำลายโลกของเราอยู่ใต้มัน”

“รู้สึกว่าตึกบริเวณนั้นยังอยู่ครบซะด้วย…”

เวลา 11:30
ทัพของเหล่าปิศาจได้เดินทางมาถึงบริเวณที่ทั้งสี่คนซุ่มอยู่ พวกมันเดินไปโดยไม่เอ๊ะใจอะไร ตั้งหน้าตั้งตาเดินอย่างเดียว
จากนั้น อัลราดรีโอ่ เฟอร์ ก็ผลักโต๊ะลงไปจากตึก “เพล้ง”

“นั้นไง…” สวอร์ริ่ง โซล พูดขึ้นราวกับว่ารู้อยู่แล้ว “ตูม”

“ได้เวลาลุยแล้ว” เจ้าชายเปอร์เซียพูดขึ้นพร้อมเปลี่ยนร่างเป็นปิศาจสุดโฉด
ทั้งสามคนกระโดดลงไปกลางวงของเหล่าปิศาจ “ตูม!!!!”
.
.
.
ทางด้านของบุรุษความหวังของโลก

“หาไม่เจออะ” เจ้าหมา มาโผล่ข้างหน้าของฮิรูมิ 9 หาง

“เจออะไร” หญิงสาวถามกลับไปทันที

“เนื้อคู่ของเค้าไง” ทันที่เจ้าหมาตอบทำให้อารมณ์ของฮิรูมิสูงขึ้นทันที

“ไม่มีหรอก ไม่ต้องหา!!”

“อืม…” ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว และลุกขึ้นมานั่งทันที “หะ เกิดอะไรขึ้น”
แต่ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนร่างเป็นปิศาจไปเอง โดยที่เจ้าตัวยังไม่ทันตั้งตัว

“อืม วันนี้แล้วสินะ”

“นายรู้ได้ไงอะ” หญิงสาวถามขึ้น และเดินมาข้างหน้าของเดอะแคทเปี้ยน

“ผมเคยอ่านในหนังสือ…ว่าเมื่อถึงวันสิ้นโลกเหล่าแคทเปี้ยนจะเปลี่ยนร่างไปเอง” เดอะแคทเปี้ยนตอบทันที ด้วยท่าที สุขุมเยือกเย็น “ผมพร้อมแล้วสำหรับสงคราม…”
.
.
.
“โอ้ย…” เสียงร้องอย่างโหยหวนของวีระบุรุษชั่วคราวทั้งสามคน นอนอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่ดูไม่ได้

“อ่อนหัดยิ่งนัก เจ้าพวกมันไปที่กรงขัง…”

เหล่าปิศาจเดินทางมาถึงเสาชิงช้า ที่พวกมันเชื่อว่าอาวุธทำลายโลกอยู่ใต้มัน

“นั้นไง…” สวอร์ริ่ง โซล ชี้ไปข้างหน้า “ไปขุดมันขึ้นมา…”
สมุนปิศาจเริ่มลงมือขุดลงไปเพื่อหาอาวุธทำลายล้าง แต่ทว่า ขุดลึกลงไปเท่าไรก็ไม่พบอาวุธที่สวอร์ริ่ง โซล ว่าเลยแต่พบสมุดอยู่หนึ่งเล่ม ปกของหนังสือนั้นมีสัญลักษณ์ดาว 6 แฉก และมีรูปปิศาจ และตัวเลขเขียนว่า “666”

“ฮ้า…” สวอร์ริ่ง โซลดูประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านนั้นเอง…”

ทางด้านกลุ่มผู้รอดชีวิต ทุกคนได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง มี กราเชียร์ เดอร์ ลามุส, ปีเตอร์ เอ็ดมัน, เจมส์ แอนเดอร์สัน, จังก้า, มาซากิ ฮิรูมิ (มังกร), มายูริ, ราฟ อัลเวโล่ เอคไรกาน่า, มาโอ เดมอน, การ์เซีย และหยก ทุกคนกำลังอยู่ในบ้านร้างหลังหนึ่ง
“เอางี้เรารวมใจกันบุกไปฆ่ามัน” ฮิรูมิมังกร กำลังอธิบายแผนการ

“จะบ้าเหรอ ฆ่าตัวตายชัดๆ” เจมส์ชายผิวหมึกแย้งขึ้นทันที

“แล้วถ้าเราไม่ทำอย่างงี้ เราจะชนะมันได้ยังไง” ฮิรูมิมังกร ตะโกนกลับไป

“เราทำไม่ได้หรอก เดอะแคทเปี้ยนเท่านั้น…” ราฟมนุษย์หมาป่าพูดขึ้น
กึกๆ

“!!”

ทุกคนวิ่งออกมาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดง แผ่นดินไหวแรงขึ้นเรื่อยๆ ฟ้าผ่าลงมาอย่างต่อเนื่องในจุดๆเดียวกัน ซึ่งคาดว่ามันผ่าลงบริเวณเสาชิงช้า
“เอางี้ เราจะถ่วงเวลาจนกว่าเคอะแคทเปี้ยนจะมา โอเค” ฮิรูมิมังกร บอกแผนใหม่แก่ทุกกคน “ขอให้เค้ามาเร็วๆละกัน…”
.
.
.
ทางด้าน สวอร์ริ่ง โซล ได้เปิดประตูมิติออกมา มีเหล่าปิศาจในเทพนิยายออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น เมดูซ่า เหล่าแม่มด ปลาหมึกยักษ์คาร์เค่น และที่อัตรายที่สุด…
“ท่านซาตาน…” สวอร์ริ่ง โซลคุกเขาต่อหน้ามหาจอมมารที่โหดที่สุด

“เจ้าเรียกข้ามาทำไม…โซล” ซาตานพูดขึ้น

“ถึงเวลาแล้วขอรับ” สวอร์ริ่ง โซลพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน

“เหล่าเทพตายหมดแล้วใช่ใหม” ซาตานถามทันที “ไมเคิลตายแล้วใช่ใหม”

“ไม่ทราบขอรับ ข้ารู้แค่ว่าแคทเปี้ยนยังอยู่” สวอร์ริ่ง โซลตอบ

“เจ้าโง่! ถ้าแคทเปี้ยนร่วมมือกับไมเคิลละก็ พวกเราจบเห่แน่!!” ซาตานตะคอกไป

“ขะขอรับ ดะเดี๋ยวข้าจัดการเอง”

ณ กำแพงเมืองจีน มีแสงส่องลงมาจากท้องฟ้าและมีบางอย่างพุ่งลงมา
ตูม!

“อึก ฮ้า” ชายคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเป็นพื้นของกำแพงเมืองจีน เขาตกลงมาในสภาพเปลือกเปล่า

saphira
24th July 2011, 09:51
มาแล้วซินะ เออ ว่าแต่ ตัวละครก็กะลังกู้อญู่ละซิ

5day-ago
24th July 2011, 11:40
สูตรการค้นหา กด Ctrl+F และใส่ Chapter (เว้นวรรค 1 ครั้ง ตามด้วยเลขตอน เช่น Chapter 1x)

Chapter 26 Die Tomorrow


“ย้าก!!” เจมส์กำลังสาดกระสุน เพื่อต้านเหล่าปิศาจตรงบริเวณอดีตเสาชิงช้า โดยที่คนอื่นๆกำลังต่อสู้กับเหล่าปิศาจกันอย่างเมามันส์ แต่ซาตานและสวอร์ริ่ง โซล นั่งดูอยู่ด้วยความสบายใจ
“นี่ๆนั้นใครน่ะ” หยกถามขึ้นในระหว่างที่กำลังต่อสู้

“ซาตาน…” มาโอ เดมอน ตอบ “ถ้าแคทเปี้ยนไม่รีบมา มีหวังตายกันหมดแน่…”
หยกนิ่งไปซักพักเมื่อได้ยินคำว่า “ตาย” และเธอก็หันไปมองรอบๆ ทุกคนกำลังสู้โดยที่รู้ว่ากำลังจะตายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เธอหลับตานึกถึงเต้…

เธอคุกเขาลง

“เธอทำอะไรน่ะ” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส พูดขึ้น “อยากตายรึไง”

“ยังไงเราก็ตะ…” มีแสงสีดำพุ่งมาทางเธอ

“ตูม!!”

หยกกระเด็นออกไป และนอนแน่นึ่งไป…

“โธ่เว้ย!!” กราเชียร์ เดอร์ ลามุส ตะโกนออกไปและก็มีลำแสงสำดำสองก้อน ตรงมาหาเขา

“ตูม!!!”
.
.
.

“หา!” เต้ในร่างแคทเปี้ยนร้องขึ้นมา “อะไรเนี้ยรู้สึกไม่ดีเลย…”

“เราต้องรีบแล้ว”

“เดี๋ยวก่อนท่าน!” มีตัวอะไรโผล่ออกมาตรงหน้าชายหนุ่ม พร้อมเคียวอันใหญ่

“กริบ ริปเปอร?” ฮิรูมิจิ้งจอง พูดขึ้น

“ข้ามีชื่อว่า เฟคแมน ข้าจะพาท่านไปเอง” เขาพูด

“ไปไหน” เต้ถามทันที

“ไปหาเขาคนนั้น…” เฟคแมนไม่พูดอะไรมากมาย เขาจับเต้และคนอื่นๆวาปร์ไปที่ไหนซักที่หนึ่ง

ณ ทางตอนใต้ของจีน
เฟคแมนได้พาเต้ ฮิรูมิจิ้งจอง และเจ้าหมามาที่ร้านน้ำชา (ร้าง) แห่งหนึ่ง

“อะไรเนี้ย…” เต้ถามขึ้น

“เจ้าแคทเปี้ยนสินะ” เสียงปริศนาพูดขึ้น

“ท่านคือ”

“ข้ามีนามว่า ไมเคิล” ชายคนนั้นพูด

“ไมเคิล ผู้เคยหยุดซาตานเหรอ และท่านมาทำไม” เต้ยิงคำถามไปทันที

“ซาตานมันออกมาแล้ว เราต้องร่วมมือกันหยุดมัน เจ้าต้องฆ่าสวอร์ริ่ง โซล”

“ไปกันเถอะ…”

จากนั้นเฟคแมนก็พาพวกเขาทั้ง 3 คน 1 ตัว วาปร์ไปสู่สงคราม
ณ บริเวณเสาชิงช้า สงครามดูเหมือนว่าจะหยุดลงแล้ว อีกฝ่ายที่ชนะเป็นปิศาจ เหล่าผู้กล้าทั้งหลายต่าง ลงไปนอนกันหมด คาดว่าจะตาย…

“หยก!!” เต้วิ่งไปที่ร่างของหยก “โธ่เว้ย ผมขอโทษ ผมมาช้าไป…”

“ไมเคิล” ซาตานพูดขึ้นและบินหนีไป

“จะไปไหน” มีบินออกมาจากแผ่นหลังของไมเคิล จากนั้นเขาก็ไล่ตามไป ทั้งคู่ไปสู้กันที่ไหนสักแห่ง และดูเหมือนว่าไมเคิลจะเป็นฝ่ายชนะ

“คงจะเหลือแค่เจ้ากับข้าสินะ” สวอร์ริ่ง โซล พูดขึ้น

“ฮิรูมิเธอจัดการพวกสมุนมันคนเดียว ไหวไหม” เต้ถาม

“ไหวสิย่ะ”

“อืม…ย่นเจ้าอยู่กับข้า” จากนั้นเดอะแคทเปี้ยนก็พุ่งไปหาสวอร์ริ่ง โซล และลากออกไปไกลๆจาก ร่างของทุกคนที่นอนอยู่

Chapter 27 Vs swallowing soul (2)


ณ ลานกว้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยมีผู้คนมาเดิน เต็มไปหมด เรียกว่า “จตุจักร” มีสุดยอดปิศาจสองตนกำลังยืน จ้องหน้ากันอยู่ หนึ่งในนั้นคือ จอมปิศาจแห่งฝั่งธรรมมะเดอะแคทเปี้ยนและจอมปิศาจแห่งอธรรม สวอร์ริ่งโซล

“ไงซาตานของเจ้าหนีไปไหนล่ะ” เดอะแคทเปี้ยนพูดเชิงเย้ยยัน

“เดี๋ยวท่านจะกลับมา” สวอร์ริ่งโซลสวนกลับไป

“แต่ข้ารู้สึกว่าท่านไมเคิลจะขังมันไปแล้วนะ” เดอะแคทเปี้ยนยังพูดต่อไป

“หนอย…” สวอร์ริ่งโซล ยิงพลังออกไป แต่เดอะแคทเปี้ยนรับไปสบายๆ

“พลังเจ้าอ่อนลงไปนะ อ่ะหรือว่าข้าเก่งขึ้น” จากนั้นเดอะแคทเปี้ยนก็ซักดาบออกมาและพุ่งเข้าใส่สวอร์ริ่งโซล จากนั้นก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า เปลี่ยนดาบเป็นปืนและกระหน่ำยิงลงมา “ปังๆๆ”

“อ้ากก…” สวอร์ริ่งโซลกระโดดถอยออกไป “รู้อะไรมั้ย วิญญาณของเพื่อนแก่น่ะ อยู่ในลูกแก้วของข้า พลังช่างหอมหวานโดยเฉพาะผู้หญิงที่ร่างเป็นเสือซีตาร์คนนั้นน่ะ”

“หนอย…” เดอะแคทเปี้ยนพุ่งลงมาและเอาดาบปักกลางตัวของสวอร์ริ่งโซล เปิดโอกาสให้มันได้เข้าประชิดตัว

“นี่แหละที่ข้ารอคอย ย้าก!!” สวอร์ริ่งโซล เริ่มดูดวิญญาณของเดอะแคทเปี้ยน

“อ้ากกกกกก” เดอะแคทเปี้ยนกระโดดถอยออกไปห่างๆ

“ฮ่าๆความรักช่างมีพลานุภาพ และโง่เขลา…” สวอร์ริ่งโซลพูดขึ้น “ตอนนี้พลังข้าเยอะกว่าเจ้าแล้ว”

“วิญญาณที่เหลือของแก่ข้าขอละกัน” สวอร์ริ่งโซลยืนมือไปหยิบลูกแก้ว แต่ไม่พบลูกแก้วเลย “เฮ้ย ลูกแก้วละ”

“ลูกแก้วพวกนี้ใช้เปล่า…” เดอะแคทเปี้ยนพูดอย่างอ่อนแรง และโยนลูกแก้วทิ้งไปบนพื้น “เพล้งๆ”

“ตอนนี้ข้าปลดปล่อยวิญญาณเพื่อนๆข้าออกจากลูกแก้วหมดแล้ว” เดอะแคทเปี้ยนพูด “และยังว่างอีกหนึ่งลูก”

“แคทเปี้ยนเจ้าอย่าทำอย่างนั้น เรามาร่วมมือกันดีกว่า” สวอร์ริ่งโซลพยายามขอร้อง

“งั้นเจ้าจะให้ข้าทำยังไง ขังเจ้าอีกรอบ หรือเอาพลังมาให้ข้า” เดอะแคทเปี้ยนพูด

“ถ้าให้ขังเจ้าดาบที่ปักอยู่บนร่างเจ้าจะทำงานเอง หรือเอาพลังของเจ้ามาแทนที่พลังของข้าที่หายไป”

“อย่าๆถ้าพลังเจ้ารวมกับพลังข้าเจ้าจะกลายเป็น…” สวอร์ริ่งโซลพยายามอธิบายให้ตัวเองโดนขังแทน จะได้ไม่ตายจากการดูดพลัง

“หุบปาก เจ้าไม่มีสิทธิพูด!!” เดอะแคทเปี้ยนตะคอกกลับไป
.
.
.
1.เลือกที่จะขัง

2.ดูดพลังมาแทนพลังเดิมที่หายไป

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

2HD Good Ending



หลังจากที่ผมสามารถกักขังวิญญาณของ สวอร์ริ่ง โซล ลงในดาบได้อีกครั้งและปลดปล่อยวิญญาณของทุกคนออกจากลูกแก้วกักวิญญาณของสวอร์ริ่งโซล และการขังสวอร์ริ่งโซล ครั้งนี้ทำให้ภาคใต้ของประเทศไทย จมลงไปในทะเลอันดามัน แต่ก็คงขังมันได้ไม่นานหรอก อีกพันกว่าปี หรือไม่ก็ อีกแค่ 100 ปี จะกี่ปีก็แล้วแต่… ยังไงมันก็ออกมาได้อยู่ดี ถ้าไม่ฆ่ามัน แต่ถ้าเป็นคุณจะทำไงล่ะ พลังวิญญาณถูกดูดไปครั้งหนึ่งเหลือน้อยเต็มที ไม่พอที่จะฆ่ามันได้ เดินสองสามก้าวก็ล้มลงไปแล้ว ผมจึงเลือกที่จะขังมันแทน… เพราะว่ามันใช้พลังของดาบ

“โลกพังไปเยอะเลย…” ผมพูดขณะนั่งอยู่ข้างกายหยกบนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง

“มันจะออกมาอีกเมื่อไร” หยกเป็นฝ่ายถามผมบ้าง

“ไม่รู้สิ เดี๋ยวลูกๆของเราก็จัดการมันเองแหละ” ผมพูดติดตลก “เริ่มเลยไหม”

“เริ่มสิ” หยกตอบสั้นๆ

จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าไปในบ้านหลังนั้นทันที…

ณ สรวงสวรรค์แห่งเทพ

“สวอร์ริ่ง โซล โดนขังไปอีกแล้วรึ” Keeper พูดขึ้น “อืม…ออกไปได้”

“ครับ” เทพองค์หนึ่งตอบ

“เดอะแคทเปี้ยน…” Keeper เดินไปที่ห้องอาวุธ “เจ้าบังอาจแย่งซีนของมหาเทพอย่างข้า!!”

-----THE END-----


2HD Bad Ending


ผมเลือกที่จะดูดพลังวิญญาณมันมาทดแทนพลังของผมที่หายไป… ตอนนี้ผมกำลังอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งในเนปาน และหลังจากที่ผมได้วิญญาณของ สวอร์ริ่ง โซล มามันทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อพลังของเดอะแคทเปี้ยน และสวอร์ริ่ง โซล มารวมกัน…

กลายเป็นพลังด้านมืด กลายเป็นปิศาจที่ไม่มีใครสามารถโค่นได้ เป็นเดอะแคทเปี้ยนตัวที่สองที่กลายเป็นด้านมืด…

ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ…มันเขียนไว้ว่า

-เดอะแคทเปี้ยน เป็นปิศาจที่ “ห้าม” รวมร่างหรือวิญาญาณกับปิศาจตนอื่นเป็นอันขาด ไม่งั้นจะกลายเป็นด้านมืด

-มันจะเปลี่ยนเดอะแคทเปี้ยนปิศาจแมวขี้เล่น กลายเป็นผู้โหด*****ม และ ถ้ารวมร่างหรือวิญญาณกับตระกูลสวอร์ริ่ง โซล “จะกลายเป็นปิศาจด้านมืดที่ไม่มีใครสามารถโค่นได้”

“รู้สึกดีจริงๆใช่ไหมย่น” ผมและเจ้าหมาหันไปประจันหน้ากับเหล่าฑูตสวรรค์ “Keeper ข้าไปหาเจ้าล่ะนะ ฮ่าๆ”

-----THE END-----

THELiw
24th July 2011, 12:37
เต้ กลับมาแล้ว นึกว่าไม่อยู่แล้วนะเนี่ย
บอร์ดล่มก็เหนื่อยน่อยนะ
เป็นกำลังใจให้ ^^

badman456
24th July 2011, 12:49
ขอบคุณครับ

5day-ago
30th July 2011, 14:25
อัปเดท มาทันตอนล่าสุดแล้วนะครับ (ก่อนบอร์ดจะล่ม) ตอนใหม่ขอกั้กไว้ก่อนเดี๋ยวไม่ลุ้น ^^

ปล.ตาลายเลยทีเดียว

Season
1st August 2011, 21:49
มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับผมหายไปแปปเดียว กลับมาเลยเรื่องนี้

5day-ago
1st August 2011, 21:56
มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับผมหายไปแปปเดียว กลับมาเลยเรื่องนี้

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ^^ นั่งทำทั้งวันตาลายมาก

5day-ago
6th August 2011, 14:33
อัพเดทตอน 25 ครับ

สูตรการค้นหา กด Ctrl+F และใส่ Chapter (เว้นวรรค 1 ครั้ง ตามด้วยเลขตอน เช่น Chapter 1x)

saimtogo
21st August 2011, 10:06
อย่าแช่นานฮะเดี๋ยวเปื่อย:sweat~
(กลัวคนไม่มาดู):yes

5day-ago
21st August 2011, 10:52
อย่าแช่นานฮะเดี๋ยวเปื่อย:sweat~
(กลัวคนไม่มาดู):yes

ลงแล้วครับ มาพอดีเลย ^^ พร้อมตอนจบ 2 แบบ

saphira
21st August 2011, 12:51
แหมๆๆ
ขาดตอนพิเศษไปอ่ะ
ว่าแต่มีภาค 2ไหมนี่ คิคิคิ

Rex
21st August 2011, 16:06
ชอบ Re write ภาพอะ โทษทีนิสัยมันไม่ค่อยดีเรื่องนี้ ฮ่ะๆๆๆๆ...:p

http://www.picza.net/uppic/thumb/2011_08_21/710/710951d31de761881e08e24e834ea56b.jpg (http://www.picza.net/show.php?id=710951d31de761881e08e24e834ea56b)

ต้นฉบับนี่หูใช่ปะ....

5day-ago
21st August 2011, 17:53
แหมๆๆ
ขาดตอนพิเศษไปอ่ะ
ว่าแต่มีภาค 2ไหมนี่ คิคิคิ

อย่าพึ่งมีตอนนี้เลยครับ งานเยอะปวดตับ :sweat


ชอบ Re write ภาพอะ โทษทีนิสัยมันไม่ค่อยดีเรื่องนี้ ฮ่ะๆๆๆๆ...:p

http://www.picza.net/uppic/thumb/2011_08_21/710/710951d31de761881e08e24e834ea56b.jpg (http://www.picza.net/show.php?id=710951d31de761881e08e24e834ea56b)

ต้นฉบับนี่หูใช่ปะ....

โคตรเท่เลยเพ่ :cool:

THELiw
21st August 2011, 20:04
ขอขอบคุณที่ทำนิยายดีๆอย่างนี้ให้อ่านนะครับ
ผมจะติดตามผลงานของคุณทุกเรื่องเลยครับ

5day-ago
21st August 2011, 21:05
ขอขอบคุณที่ทำนิยายดีๆอย่างนี้ให้อ่านนะครับ
ผมจะติดตามผลงานของคุณทุกเรื่องเลยครับ

ขอบคุณครับบบบบบบ ^^