PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : หนุมาน ยีนส์พันธุ์ไทยสไตล์อินเตอร์



T : O : P 22
7th February 2012, 15:50
http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/4824/4824-1.jpg


http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/4824/4824-2.jpg


http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/4824/4824-3.jpg

http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/4824/4824-4.jpg


http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/4824/4824-5.jpg


http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/4824/4824-7.jpg


http://122.155.0.199/jabchai/images_joke/4824/4824-8.jpg



หนุมาน’ ยีนส์พันธุ์ไทยสไตล์อินเตอร์
โลโก้บ่งบอกความเป็นไทยชัดเจน

ธุรกิจกางเกงยีนส์ในประเทศไทย เจ้าตลาดล้วนเป็นแบรนด์เนม ราคาแพงจากต่างชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย หากแบรนด์ไทยหน้าใหม่ จะเข้ามาแชร์ตลาด แต่ด้วยความกล้า บวกประสบการณ์คลุกคลีในวงการของคนหนุ่มอย่าง “วีร์ บัณฑิตวงศ์ไพศาล” ผลักดัน “หนุมาน” ยีนส์พันธุ์ไทยแท้ออกสู่ตลาด หวังเป็นแฟชั่นคู่ใจคนไทยแทนที่แบรนด์นอก

วีร์ บัณฑิตวงศ์ไพศาล

ยีนส์ ภายใต้แบรนด์กัลโซ่ (Gazoz) ซึ่งรู้จักกันดีในหมู่นักธุรกิจต่างชาติมากว่า 10ปี รวมทั้งเป็นฐานผลิตเครื่องแต่งกายยีนส์ให้แบรนด์ดังต่างชาติอีกหลายราย ทำให้รู้ว่า ฝีมือการผลิตของคนไทยเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ หากสามารถผลิตยีนส์ที่มีชื่อไทย และสัญลักษณ์แสดงถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน มีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดส่งออกสูง รวมถึงชิงตลาดลูกค้าในประเทศมาจากแบรนด์ต่างชาติที่ผูกขาดได้ด้วย

“เริ่มแรกที่ผมมาสานธุรกิจของ ครอบครัว เวลาลูกค้าต่างชาติมาสั่งสินค้า เขาจะถามเลยว่า ‘เมด อิน ไชน่า หรือเปล่า?’ เราบอกว่า ‘ไม่ใช่ ของเรา เมด อิน ไทยแลนด์’ เขาก็เชื่อใจ เพราะกางเกงยีนส์มีหลายเกรด ถ้าจากจีน เขาไม่เอาเลย แต่พอบอกว่าคนไทยผลิต ลูกค้าเชื่อถือ ผมเลยคิดว่า อยากทำแบรนด์ของตัวเอง เป็นชื่อไทยแท้ๆ ไม่ต้องยึดติดกับแบรนด์เนมเท่านั้น ส่วนที่ใช้ชื่อว่า ‘หนุมาน’ เพราะสื่อถึงความเป็นไทยได้ตรง รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นฮีโร่ด้วย”

ร้าน “หนุมาน ยีนส์” บนชั้น 4 ใบหยก ทาวเวอร์

นักธุรกิจหนุ่ม เล่าต่อว่า ใช้เวลาวางแผนธุรกิจมากว่า 3 ปี และเริ่มวางตลาดจริง เมื่อประมาณ 1 ปี จุดเด่นของ “หนุมาน ยีนส์” คือ การออกแบบอิงกระแสแฟชั่นที่กำลังมาแรงจากทั่วโลกในแต่ละช่วงเวลา บวกกับความต้องการของลูกค้า แล้วมาดัดแปลงเป็นแบบสไตล์ของตัวเอง ที่มีความเป็นสากลผสมความเป็นไทย รวมแล้วมีมากกว่าร้อยแบบ ทั้งของบุรุษ และสตรี

แบบขายดีที่สุด ราคาตัวละ 950 บาท

นอกจากนั้น เน้นลงทุนกับรายละเอียดอุปกรณ์ปลีกย่อย ให้แต่ละแบบจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า อาทิ มีรุ่นกระดุมเป็นหัวหนุมาน บางรุ่นหมุดตอกมีตัวพิมพ์อักษร บางรุ่นกระเป๋าหลังปักเป็นลายกนก รวมถึง ป้ายแต่ละรุ่นไม่ซ้ำแบบกัน เป็นต้น

สำหรับวัตถุดิบทั้งหมดเป็นของในประเทศ โดยผ้าเป็นระดับเกรดบี สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้เป็นคนระดับกลาง ช่วงวัยรุ่นตอนปลายถึงเริ่มต้นทำงาน อายุประมาณ 22 ปีขึ้นไป โดยราคาขายปลีกประมาณตัวละ 500 – 1,000 บาท ซึ่งลูกค้ากลุ่มดังกล่าวยอมรับได้

มีหลากหลายดีไชน์

ระดับเดียวกับแบ รนด์เนม ต้นทุนก็ต้องสูงขึ้น ในความเป็นจริง ถ้าราคาเท่ากัน ลูกค้าก็ต้องเลือกซื้อแบรนด์ดัง เราเลยเลือกมาจับกลุ่มระดับกลาง แล้วทำคุณภาพให้ดีกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ต้นทุนผลิตกว่า 50% ของราคาขาย ซึ่งสูงกว่าคู่แข่ง 5-10% เพื่อแลกให้ลูกค้ายอมรับสินค้าก่อน เพราะการทำธุรกิจของผม ไม่ได้คิดจะเอากำไรตั้งแต่ต้น แต่มองผลในระยะยาวมากกว่า”

วีร์ เผยถึงช่องทางจำหน่าย มีหน้าร้านอยู่ที่ใบหยก ทาวเวอร์ , โบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ และผ่านตัวแทนจำหน่าย ผลตอบรับ นับจากสินค้าเริ่มวางตลาดถึงวันนี้ ตลาดต่างประเทศไปได้ดีมาก ทั้งแถบแอฟริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย แต่ในทางกลับกัน ลูกค้าคนไทย ยังยึดติดกับค่านิยมแบรนด์เนมจากต่างชาติ ยอดขายรวมต่อเดือนที่เป็นเลขเจ็ดหลัก จึงเป็นอัตราส่งออกถึง 80% ส่วนตลาดในประเทศเพียง 20%

ดังนั้น จึงพยายามผลักดันแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับของคนไทยมากขึ้น โดยตั้งงบประชาสัมพันธ์ปีนี้ (2549) ไว้ที่ 1 ล้านบาท ผ่านสื่อนิตยสาร เว็บไซต์ www.hanumanjean.com (http://www.hanumanjean.com/) จัดกิจกรรมต่างๆ อีกทั้ง เปิดร้านของตัวเองในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งได้ประเดิมแห่งแรกในห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะขยายไปที่อื่นๆ ต่อไป เพราะมีความเชื่อว่า ศักยภาพตลาดในประเทศมีมูลค่าไม่เป็นรองตลาดส่งออกเลย สิ่งสำคัญคือต้องปรับทัศนคติคนไทยให้ได้

“คนไทยจะดูแบรนด์ก่อนดูสินค้าเสียอีก ผมจึงพยายามทำให้รู้จักชื่อเราก่อน แล้วลองใช้สินค้าสักครั้ง เพราะมั่นใจว่า คุณภาพจะทำให้เกิดการบอกปากต่อปาก และกลับมาซื้ออีก ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติว่า คุณภาพก็เหมือนกัน ทำไมต้องไปจ่ายแพงกว่า”

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กังวลสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว อาจกระทบพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มที่ เลือกใช้สินค้าคุณภาพ เปลี่ยนไปใช้สินค้าราคาถูก โดยเฉพาะจากจีนแทน ทำให้ตลาดแคบลง ปัจจัยดังกล่าว ทำให้แผนการตลาดของ “หนุมาน ยีนส์” พยายามรอดูสถานการณ์ และขยายธุรกิจอย่างระมัดระวัง




Credit : jabchai.com

wanjaiteeruk
7th February 2012, 16:22
เท่โครตๆ ยากได้ๆ

ohmmedy
7th February 2012, 22:59
ผมรู้สึกว่าเหมือน กางเกงเด็กแว้น เลย - -"

GodArmys
7th February 2012, 23:43
สนับสนุน แบรนด์ไทย

idoggtribe
7th February 2012, 23:47
ผมไม่ชอบยีนส์แนวนี้เลย เหมือนขายตามตลาดนัดธรรมดาๆ ผมใส่ mc ตัว 700-800 ก็พอแล้ว คงคอนเซปเสมอ

pakjai77
9th February 2012, 16:17
มันเป็นแค่ทางเลือกครับ
ยืนส์กระหรั่วๆ แถวรามคำแหง ผมใส่อยู่ ตัวละ 500-700บ. เหมือนกัน ไม่ต้อง mcหรอกครับ 555
เน้นชอบตามสไตล์ ใส่สบายไทยแลนด์

Eryx
9th February 2012, 16:38
เหมือนยีนส์ที่ผมโดนแม่บังคับให้ใส่ตอนเด้กๆเลย........

ไม่ชอบทั้งสไตล์ และ โลโก้เท่าไหร่ครับ แต่ก็ขอให้ขายดีแล้วกัน..

หวังว่าจะดีไซน์ตัวใหม่สวยๆหลังจากนี้นะ ผมจะได้ไปอุดหนุนซักตัวสองตัวนะครับ