PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : บันทึก : 13/02/54 สิ่งที่ผมได้นำไปให้คนที่ผมรัก



-Fa[n]aTicaL-
9th February 2012, 21:08
บันทึก : 13/02/54 23 : 29 น.

14 กุมภาพันธ์
มันควรจะเป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง
แต่ตอนนี้มันได้กลับกลายเป็นวันที่แสนพิเศษ เพราะเธอ...

ผมชื่อบีมครับ ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เด็กติดเกมอย่างผมก็ใช้เวลาไปกับการจ้องหน้าคอมไปวันๆ ชีวิตมันจะมีอะไรมากกว่านี้อีกล่ะครับ : ]
จากการเล่าขานของรุ่นพี่ที่ว่า ขึ้น ม.5 งานมันเยอะนะ ถึงจะอย่างนั้นคนอย่างผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอกครับ ใช้เวลาไร้สาระไปเรื่อยๆ ก็มารู้ตัวอีกทีว่าพรุ่งนี้
เปิดเทอมแล้ว ผมไม่ได้สนใจหรอกครับ มันรู้สึกเฉยๆ ผมลืมตาขึ้นมา บิดขี้เกียจอย่างสบายใจ แล้วเหลือบไปดูนาฬิกา 7 : 50 น. ผมหาวฟอดใหญ่มาหนึ่งที...
เห้ย ! นี่ผมต้องไปโรงเรียนนี่ สายแล้ว !! ผมไปถึงโรงเรียน 8 : 15 น. เป็นการเริ่มต้น ม.5 ที่ดีจริงๆ = =” ชีวิตตอนเปิดเทอมมันก็ไม่ได้ต่างจากตอนปิด
เทอมมากนัก แค่มีเวลา 8 ชั่วโมง มาแทรกแทนเวลานั่งจ้องหน้าคอมของผม มันก็เป็นชีวิตที่ไร้สาระแบบนี้ล่ะ หืม.. ชีวิตตอนอยู่โรงเรียนน่ะหรอ เอิ่ม ผมก็ตาม
กลุ่มเพื่อนเดิม พวกหน้าเดิมๆน่ะ กลุ่มเพื่อนผมมันก็มีกันอยู่ 5 – 6 คน มีแต่ไอพวกบ้าบอทั้งนั้น ไอพวกนี้มันก็ดีอย่างถึงเวลาเรียนมันก็ไปเรียนกัน เลิกเย็นมัน
ก็สิงที่โรงเรียนต่อ ส่วนผมก็รีบกลับบ้านไปสิงคอม แหะๆ

ทายสิครับครับชีวิตสามัญชนคนธรรมดาอย่างบีม มันจะมีอะไรอีก หึหึ... ความรักยังไงล่ะครับ เรื่องความรักของผมมันก็เริ่มขึ้นโดย เอ่อ.. อ๋อ เพื่อน
ของผมมันสนิทกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อ ดีไซน์ ครับ แต่ใครต่างก็เรียกว่า ไซน์ นั่นแหละ เธอก็ไม่ใช่คนอื่นไกลก็สาวห้องผมเองนั่นแหละครับ ไซน์ ถือว่า
หน้าตาธรรมดาแต่ก็แอบน่ารักนะ >< เนื่องจากกลุ่มเพื่อนผมมันสนิทกัน เพราะไซน์ เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดีมาก ผมก็เลยรู้จักไซน์ไปด้วย เอ่อ.. หมายถึง
สนิทมากขึ้นนะ และแล้ววันหนึ่ง ด้วยความหลงตัวเอง.. ความเข้าใจผิด ? ไม่สิ ผมแค่คิดไปเอง หรืออาจด้วยกันทั้งหมดนั่น เกิดการสปาร์คกันจนเกิดคำว่า
“ชอบ” ให้แก่ผู้หญิงคนหนึ่ง คือ ไซน์ นั่นเอง ไม่รู้สิครับคนก่อนเรียกว่า ธรรมดา ไปเลย เพราะผมพึ่งรู้จักคำว่าชอบจริงๆ ก็คนนี้แหละครับ อันที่จริงผมเคย
ชอบไซน์ตั้งแต่ ม.4 แล้วครับ แต่คราวนั้นผมก็ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปจนกลับมาชอบเธออีกครั้ง หลังจากความรู้สึกนี้เกิดขึ้นในใจผม เพียงแค่มองเธอมันก็
สุขดีแฮะ ผมเริ่มสืบประวัติเธอไปเรื่อยๆ โอ้ว.. มีคนเคยชอบเธออยู่เยอะแฮะ แต่ตอนนี้ผมก็ไม่พบใครนอกจากผมนะ ผมจะโชคดีอะไรอย่างนี้ ครั้งหนึ่งผม
ไม่มั่นใจว่าเธอชอบผู้ชายแบบไหน ผมเลยลองถามไปเลยตรงๆเลยว่า “ไซน์ เธอชอบคนแบบไหนหรอ” เธอตอบว่า “เราชอบคนแบบว่า.. เอ่อ คนที่ทำดีกับเราอ่ะ ”
แล้วเธอก็ยิ้มหลังตอบคำถามนั้นจนผมก็อดยิ้มตามเธอไม่ได้ : ) จากนั้นผมก็กลับไปคิดว่า ผมเคยทำอะไรให้ไซน์ บ้างเนี่ย คำตอบคือไม่เลย.. ผมได้แต่แอบรัก
ไซน์เรื่อยไป จนวันหนึ่งผมเจอประโยคในโลกไซเบอร์ มันเขียนว่า “ถ้าชอบใคร ก็ให้บอกเขาไป มันอาจจะไม่เหลือเวลาให้บอกแล้วก็ได้” ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาทันที
จากนั้นผมก็หาจังหวะสารภาพรักมาตลอด ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งกับล้มเหลวเพราะผมไม่กล้าพร้อมกับคำพูดว่า “เอาไว้โอกาสเหมาะกว่านี้ละกัน” จนเวลา
ผ่านเลยไป 2 เดือน แปลกแฮะ คำว่า “ชอบ” คำเดียวทำไมมันพูดยากจัง = = บางครั้งผมก็กลัว เพราะการที่เธอมีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก สนิทกับเพื่อนผู้ชาย
ในห้องคนอื่นเหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือเพื่อนสนิทผม มันคือ ไอตี๋ ผมเลยจำใจที่ต้องบอกมันว่าผมชอบไซน์ เพราะกลัวว่าเราจะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน หลังจากบอก
ไอตี๋ไป มันก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ผม แต่มันก็ดีนะช่วยหาโอกาสต่างต่างนานาให้ผม แต่จะว่าไปแล้ว.. มันทำไม่เนียนเลยซักครั้ง จนวันหนึ่ง ไซน์รู้ความในใจของผมด้วยตนเอง
ผมคิดว่ามันถึงโอกาสที่สมควรแล้ว ผมเลยตัดสินใจต้องบอกไซน์ไปให้กระจ่าง ก่อนจะสารภาพรักออกไปนั้นผมทำใจไว้แล้วว่า ถ้าความรู้สึกที่อยู่ในใจเธอมันตรงกับผม
มันคงจะมีความสุขไม่ใช่น้อย แต่ถ้าเธอปฏิเสธล่ะ เอ่อ... ก็คงไม่เป็นไรหรอก ความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่แล้วหนสุดท้าย คำว่าไม่เป็นไรทำไมผมต้องเสียใจขนาดนี้
ตอนนั้นไซน์พูดว่า “เราไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น” ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เข้ามันเลยครับ ในเมื่อผมล้มเหลวมันก็มีอยู่สองทางเลือกระหว่าง “รอ” กับ “ลืม” ผมเลือกที่จะรอครับ
เพราะความรู้สึกที่มีต่อไซน์นั้นมันยากเกินจะลบออกไปจากใจจริงๆ และผมก็รอมาตลอด พบทั้งความสุขและทุกข์ปะปนกันไป ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว เพราะคำว่า “รัก”
ใช่ครับ.. มันกลายเป็นคำว่ารักตั้งนานแล้ว ผมรอด้วยความหวัง จากที่ผมเป็นคนห่างมือถือ ผมแทบจะกำมันไว้ในมือตลอดในเวลาที่ผมหลับ ด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าเธอจะส่งข้อ
ความกลับมาให้เหมือนที่ผมส่งไป ซักครั้งก็ยังดี ครั้งหนึ่ง มีข้อความเข้าในเครื่องของผม ผมรีบหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นไซน์ส่งมา เนื้อหาในจดหมายนั้นไม่ชัดนัก แต่ผมเห็นคำว่า
รักในข้อความนั้น ผมรู้สึกดีใจมาก ผมหยิกแก้มตัวเองอยู่หลายที เห้ย.. นี่มันเรื่องจริงหรอ ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงผมจับใจความได้ว่า “บีม ! ตื่นได้แล้ว นี่มันกี่โมงแล้ว หา ? ”
ใช่ครับทั้งหมดนี่มันเป็นความฝัน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยิ้ม : ) ถึงเป็นแค่ฝันแต่มันก็รู้สึกดีนะ.. จากการคิดเข้าข้างตนเอง ล้มเหลวในความรัก ผมจึงเริ่มเข้าใจประโยคที่ว่า
“รักครั้งแรก ย่อมไม่สมหวัง” เฮ้อ มันสนุกหรือเปล่าเนี่ยมาอ่านเรื่องน้ำเน่าของบีมผู้อาภัพรัก ช่างเถอะอ่านต่อเลย

ผมรู้ตัวอีกทีก็ปิดเทอมหน้าหนาวแล้ว ช่วงนี้ของความรักผมรู้สึกว่าความทุกข์มันมีมากกว่าความสุขมากนัก ผมก็มีเรื่องเครียดอยู่แล้วปิดเทอมยังต้องมาทำงานกีฬาสีอีก
โดยผมและเพื่อนไปทำงานที่โกดังแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโกดังของเพื่อนผมเองครับ งานกีฬาสีถือเป็นงานสำคัญเลยทีเดียว ผมก็มักจะเจอไซน์อยู่บ่อยๆ จนช่วงนี้ทำให้เราเจอหน้ากัน
มากขึ้นมากกว่าเพราะหลังจากที่ผมสารภาพรักไป เธอมักจะหลบหน้าผมตลอด พวกเพื่อนผมชอบเปิดเพลงระหว่างทำงานครับ มีเพลงเพลงหนึ่งมันเป็นเพลงเกี่ยวกับ ความทุกข์
ของความรัก ผมและไซน์ มองหน้ากัน เธอมองตาผมแล้วถามว่า “เราทำให้บีมเจ็บใช่ไหม” ผมมองสายตาที่ดูจริงจังของไซน์ แล้วตอบไปว่า “ไม่หรอก เธอ.. ทำดีแล้ว” ถ้าถาม
ผมว่าสิ่งที่ผมตอบไปนั้นมันใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของผมไหม คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ ผมเจ็บมาตลอด ที่ต้องรอ ที่ต้องทนคนที่เรารักหลบหน้ากัน แต่ผมก็ต้องฝืนตอบเพื่อไม่ให้เธอ
รู้สึกกังวล หลังจากผมตอบคำถามเธอไปแล้ว เธอก็ยิ้มออกมา : ) แล้วก็ก้มมานอนบนตักผม ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ระหว่างเราสองคนมันคืออะไร ? แต่ผมก็ลืมความรู้
สึกเหล่านั้นเหลือเพียงแต่ความสุข : ]

เปิดเทอมอีกครั้งผมและเพื่อนๆเจอกับงานกีฬาสีช่วงนี้ผมเครียดกับความรักมากๆ หลายๆอย่างผ่านเข้ามา จนผมเริ่มที่จะเปลี่ยนความคิดจากคำว่า “รอ” เป็นคำว่า “ลืม”
มันยากมากครับ พอผมจะไม่พูดกับเธอเป็นฝ่ายทำตัวห่างเหินเธอไปเรื่อยๆ มันติดที่ว่า เมื่อเราพบกัน เธอมักยิ้มให้ผม เพียงแค่รอยยิ้มนั้นทำให้ผมลืมทุกอย่างเหลือเพียงความสุข
ผมลืมเธอไม่ได้แน่ ตราบที่เธอยังคงยิ้มแบบนั้นอยู่ ผมเคยคิดจะทำเรื่องเลวๆให้เธอเกลียดผมแต่หนสุดท้ายมันก็แพ้รอยยิ้มนั้นอยู่ดี ในเมื่อผมลืมเธอไม่ได้ ผมก็จะขอรักและรอเธอต่อไป
หลังจากจบงานกีฬาสี อาจารย์ที่ปรึกษาได้พาผมและเพื่อนร่วมห้องไปเที่ยวพักผ่อนหลังจากที่ทำงานหนักมานับเดือน เราไปพักกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ผมและเพื่อนแอบนำสุราไปดื่มกัน
ณ ที่นั้น พวกกับพวกเมามาก เหมือนเป็นพวกบ้าไปไล่เคาะห้องคนอื่น แล้วผมก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องไซน์ เธอเปิดประตูออกมาเพราะเสียงเคาะจากเพื่อนของผมที่กำลังไม่มีสติ
เธอหันมามองผมด้วยแววตาที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นห่วง “บีม บีมเป็นอะไรไหม” ผมซึ่งถึงจะเดินไม่ตรงแต่ก็ยังมีสติอยู่ ได้ฟังความรู้สึกเป็นห่วงนั้น ผมดีใจมาก และเธอก็พาผมกับ
เพื่อนไปส่งที่ห้องนอน รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว แต่ความรู้สึกนั้นยังคงอยู่แค่คิดผมก็ยิ้มได้ทั้งวันแล้วครับ ตอนนี้มาถึงช่วงสุดท้ายของความรักแล้วครับ ผมบอกก่อนเลยมันจบไม่ดีเท่าไร

ช่วงหนึ่งเธอจะจับมือถือขึ้นมาบ่อยมาก ผมก็พยายามสืบว่าคนในโทรศัพท์ของเธอนั้นคือใครกันนะ จนผมรู้ว่าเธอส่งข้อความหาใครบางคนบ่อยมากจน ขนาดที่ว่าเงินใน
มือถือของเธอหมด เธอยังยืมของเพื่อนผมส่งข้อความ และเพื่อนคนนั้นก็คือเพื่อนในกลุ่มผมนั่นแหละ ผมกำลังขอมือถือเพื่อนเพื่อนจะนำมาดูอยู่แล้วเชียว แต่เพื่อนผมพูดออก
มาก่อนว่า ไซน์กำลังจีบเด็กผู้หญิง ม.1 เห้ย ผู้หญิง-ผู้หญิง เนี่ยนะ ผมก้าวขาไม่ออก ผมไม่อยากจะเชื่อ จนผมได้เห็นกับตาของตนเองเท่านั้นแหละ มันเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิต
ของผมเลย วันนั้นผมนั่งร้องไห้ในห้องน้ำพร้อมกับความคิดว่าทั้งหมดมันคืออะไรกันนะ รอยยิ้มนั้นมันหมายความว่าไงกันนะ ถ้อยคำที่ฟังเหมือนความเป็นห่วงนั้น มันคืออะไรกันนะ
ผมนั่งคิดพร้อมน้ำตาที่ไหล จนผมหลับไป หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็รู้สึกชิน มันลืมไม่ได้เพราะทุกความรู้สึกนั้นมันยังคงฝังใจ..

การเขียนบันทึกครั้งนี้ ผม บีม ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เขียนเพื่อแสดงความรู้สึกในใจให้เธอรู้ เผื่อมันอาจทำให้เธอได้รับรู้ความรู้สึกของผม และบางทีเธออาจจะเข้าใจในบาง
สิ่งที่ผมทำ แด่เธอผู้ที่กำลังอ่านอาจจะอมยิ้ม หัวเราะ หรือ รู้สึกผิด ผมไม่ขอกล่าวโทษอะไร เพราะความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ แต่มีสิ่งที่ผมอยากรู้คือ ความรู้สึกของเธอในช่วง
เวลาเดียวกัน เผื่อมันอาจจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น เผื่อมันอาจทำให้เวลาของเราตรงกัน เผื่อมันจะทำให้ผมค้นพบสิ่งที่ผมพลาดไป ในนาทีนี้ ผมอยากบอกว่า “ยังไงผมก็ยังพร้อมที่จะรออยู่นะ”

จบบันทึก : 14/02/2554 1 : 11 น.

จากหน้ากระดาษขาวบริสุทธิ์
ถูกเติมสีสันด้วยความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่ง..
นั่นสินะ เรื่องราวมันยังไม่จบ
ถึงจะสับสนอยู่บ้าง แต่พอได้สูดหายใจเข้าแล้วมันก็หายไปเอง
ท่องไปกับสายลมที่คอยผลักดันให้เราก้าวเดินออกไป
มืออันอบอุ่นนุ่มนวลของเธอนั้น ฉันขอกอบกุมเอาไว้ได้ไหม
เพื่อให้สิ่งที่อยู่ในหัวใจดวงนี้จะสามารถส่งไปถึงเธอ
เพียงแค่เธอส่งยิ้มมาให้ หรือกุมมือของฉันไว้
ฉันได้แต่เฝ้ารอเวลาแบบนั้นอยู่นะ...

ตรงนี้ผม Edit นิดหน่อยนะ



http://www.youtube.com/watch?v=UyjF9OnI_-0

ปล. น้อยคนนักที่จะอ่านตั้งแต่ต้นจนจบได้
ทั้งหมดนี่ผมแต่งเองจากชีวิตจริงๆ โดยผม
ได้นำไปให้คนที่ผมรักเมื่อวาเลนไทน์ปีที่แล้ว

LeiTo
9th February 2012, 21:14
อ่านเพลินดีจริงๆ ยาวดี...

bazebaze9
9th February 2012, 21:15
ผมอ่านจนจบ ซึ้งมากๆครับ น้ำตาไหลเลย T^T

LookPhet
9th February 2012, 21:23
อ่านแล้วเพลินมาก คล้ายๆ อ่านนิยายเลยท่าน ชอบๆ :)

bigspy77
9th February 2012, 21:24
เปิดเพลงไปด้วยอ่านไปด้วย ได้อารมณ์อินไปกับบทความมากครับ ผมอ่านแล้วรู้สึกยิ้มและหัวเราะตาม มีความสุขจริงๆ ครับ ^///^

-Fa[n]aTicaL-
9th February 2012, 21:36
ขอบคุณมากครับ
ผมไม่คิดว่าจะมีคนมาอ่านจริงๆนะเนี่ย
เพราะผมคิดหัวข้อที่จะทำให้คนสนใจไม่ออก
และการจัดหน้ากระดาษก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร

ปล. ที่ผมเขียนให้เธอนั้นเป็นแบบจดหมายนะครับ
และผมก็แอบเอามาพิมพ์ไว้ในคอมอีกทีนึง

tomzamio005
9th February 2012, 21:49
ซึ้งมากๆครับ :cool:

Aunatix
9th February 2012, 21:51
ยืมท่อนนี้หน่อย
มืออันอบอุ่นนุ่มนวลของเธอนั้น ฉันขอกอบกุมเอาไว้ได้ไหม
เพื่อให้ความรู้สึกของฉันสื่อไปถึงส่วนลึกที่สุดในใจเธอ
เพียงแค่เธอส่งยิ้มมาให้ หรือว่ากุมมือตอบกลับ
ฉันได้แต่เฝ้ารอเวลาแบบนั้นอยู่นะ...
ชอบมาก
ผมก็รู้จักคนที่ชื่อไซน์น่้ารักๆอยู่ม.5 ไม่รู้คนเดียวกันเปล่า 555

-Fa[n]aTicaL-
9th February 2012, 22:32
ยืมท่อนนี้หน่อย
ชอบมาก
ผมก็รู้จักคนที่ชื่อไซน์น่้ารักๆอยู่ม.5 ไม่รู้คนเดียวกันเปล่า 555

ถ้าชอบก็นำไปใช้ได้เลยครับ

อันที่จริงชื่อตัวละครในบันทึกนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นนามสมมติครับ :victory

Jizsy
9th February 2012, 23:05
บันทึก ลึกลับ :bye