PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : เด็กหญิงในป่าช้า...



redfoottttt
16th February 2012, 14:35
สัมผัสชีวิตรันทด เด็กหญิงในป่าช้า ประชาชนตกสำรวจ

http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/news/1_387.jpg

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เรื่องและภาพโดยคุณ นิราช ทิพย์ศรี

ใครที่กำลังคิดท้อแท้ต่อโชคชะตาชีวิต ต้องดูกรณีของ "น้องทราย" หรือ ด.ญ.สโรชา ชมภู อายุ 11 ปี
นักเรียนชั้น ป.2/1โรงเรียนเมืองพัทยา 2 เอาไว้เป็นตัวอย่าง เพราะเด็กคนนี้ เป็นคนสู้ชีวิต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
"น้องทราย"ต้องอาศัยป่าช้าแทนบ้าน อยู่ กิน นอนมาตั้งแต่เล็ก ๆ โดยมีนายทองเปลว ชมภู อายุ 35 ปี พ่อบังเกิดเกล้า
ทำหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูปลูกกระต๊อบหลังเล็ก ๆ อยู่หลังป่าช้า วัดช่องลม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ไว้เป็นที่อาศัยกัน 2 คนพ่อลูก
อดมื้อกินมื้อแต่ก็ต้องทนอยู่กันมา..!
ถึงแม้..จะยากจนขนาดที่ไม่มีบ้านจะอยู่ ต้องปลูกกระต๊อบหลังเล็กๆ อยู่ในป่าช้า แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ "น้องทราย"
กลายเป็นคนท้อแท้ต่อชีวิตแต่อย่างใด เธอกลับสู้ชีวิตตั้งอกตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตตลอดมา ซึ่งเธอโชคดี ที่ยังมีพ่อคอยเลี้ยงดู
เอาใจใส่ อุตส่าห์ทำงานรับจ้างทั่วไปและเก็บของเก่าขายได้เงินมาวันละ 50 บาท เอาไว้เป็นค่านมค่าขนมเลี้ยงน้องทราย
ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่เรื่อยมา ช่างเป็นชีวิตที่น่าอัตคัดสำหรับสองพ่อลูกคู่นี้ ทั้งเป็นภาพสะท้อนปัญหาความยากจน
ของผู้คนในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เรื่องราวชีวิตรันทดของ "น้องทราย" ได้รับการเปิดเผยจากนายอุเทน หร่ายวงศ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/15 ม.8
ต.ห้วยหิน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่กิจการรักษาความปลอดภัย บริษัท สหฟาร์ม จำกัด หัวหน้าหน่วย
รักษาความปลอดภัยบ้านสุขาวดี อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าพบสองพ่อลูกมีฐานะยากจน ปลูกกระต๊อบอาศัยอยู่บริเวณป่าช้า
วัดช่องลมติดกับ บ้านสุขาวดีมานานนับ 10 ปี ขอให้สื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางบอกคนใจบุญช่วยอุปถัมภ์ค้ำจุนสองพ่อลูกคู่นี้
เพราะทั้งคู่มีความเป็นอยู่ที่น่าสงสาร ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจยังป่าช้าด้านหลังวัดช่องลม พบกระต๊อบที่สองพ่อลูกทำเป็นบ้านพัก
ไว้หลับนอน มีขนาดความกว้างประมาณ 3 เมตร ปลูกด้วยแผ่นไม้อัดและสังกะสีเก่าๆ มีลักษณะทรุดโทรม บริเวณโดยรอบ
มีต้นไม้ขึ้นรกและมีแอ่งน้ำขนาดเล็กส่งกลิ่นเหม็นเน่าตลอดเวลา ภายในกระต๊อบมีมุ้งและที่นอนเก่าๆ พร้อมของใช้ส่วนตัว
และหนังสือเรียนของน้องทราย วางกองอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งกระต๊อบหลังนี้ ไม่มีไฟฟ้าและห้องน้ำใช้แต่อย่างใด โดยมีนายทองเปลว
ซึ่งมีภูมิลำเนาเดิมอยู่เลขที่ 7 ม.4 ต.บ้านลี่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา กับน้องทรายพักอาศัยอยู่ภายในกระต๊อบ
อย่างน่าอนาถ...

ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตคนจะแร้นแค้นขนาดนี้

http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/news/2_123.jpg

นายทองเปลว ย้อนอดีตให้ฟังว่า เมื่อ 10 ปีก่อน มีอาชีพส่งขนมขายอยู่ที่อยุธยา จนมาพบรักกับภรรยาและมีลูกสาวด้วยกัน
1 คนคือน้องทราย ซึ่งตอนแรก ก็อยู่กันเป็นครอบครัวที่นั่น แต่ตอนหลังเกิดมีเรื่องเพราะพี่ชายตนเองไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาท
กับขาใหญ่ใน หมู่บ้าน ซึ่งคู่อริคิดว่าเป็นฝีมือตนจึงออกตามล่าเอาชีวิต ตนพร้อมกับลูกเมีย จึงหนีมาขออาศัยอยู่กับแม่
ที่มาได้สามีใหม่ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่อยู่ได้ไม่นาน สามีใหม่ของแม่ก็หาเรื่องไล่พวกตนออกจากบ้านอีก
จึงต้องหอบข้าวของออกจากบ้านอีกครั้ง ก่อนจะมาขออนุญาตเจ้าอาวาสวัด ช่องลม ปลูกกระต๊อบเล็กๆ ในป่าช้าไว้เป็นที่หลับนอน
เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตนก็ต้องพลอยติดร่างแห เพราะเข้าไปอยู่ในกลุ่มเด็กดมกาว ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดมกับเขาด้วย
เลยถูกตำรวจจับติดคุกอยู่นาน 1 เดือน พอออกมาจากคุกก็พบว่าภรรยา ได้หอบข้าวของหนีไปแล้ว ทิ้งน้องทรายซึ่งขณะนั้น
อายุเพียง 1 ขวบเอาไว้ให้เลี้ยงดู ซึ่งตนก็กัดฟันเลี้ยงน้องทรายเรื่อยมา ถึงจะอดมื้อกินมื้อแต่ก็ทนอยู่มาได้จนน้องทรายอายุได้
11 ปี เพราะเรามีกันอยู่เพียง 2 คนเท่านี้!?!
"ผมต้องทำงานเก็บของเก่า เพื่อนำไปขายแลกเงินมาซื้อนมซื้อข้าวให้ลูกกิน ซึ่งในแต่ละวัน จะได้เพียงประมาณวันละ 50 บาท
อย่างไรก็ตาม ได้รับการช่วยเหลือจาก นาย อุเทน ที่มาดูแลพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บ้านสุขาวดี คอยให้ข้าวให้น้ำกิน
อยู่ทุกวัน ด้วยความสงสาร จนกระทั่งพอลูกสาวโตขึ้น คนรู้จักจึงนำไปฝากเข้าเรียนที่โรงเรียนเมืองพัทยา 2 เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ
ซึ่งผมจะพยายามส่งเสียลูกให้เรียนให้สูงที่สุด" นายทองเปลว กล่าว...
ขณะที่ "น้องทราย" เปิดใจ เล่าเรื่องชีวิตตนเองด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มว่า ไม่เคยคิดเสียใจอะไร พอจำความได้
ก็รู้ว่าต้องอยู่กับพ่อเพียงลำพัง ภายในป่าช้าแห่งนี้ ป่าช้าก็ไม่ต่างจากบ้าน กินนอนที่นี่จนเป็นเรื่องปกติและไม่ได้กลัวอะไร
ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ลำบากมาก ทุกวันนี้ต้องอดมื้อกินมื้อ และสภาพความเป็นอยู่ในบ้านก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะยุงชุม
อีกทั้ง ตอนช่วงฝนตกจะนอนไม่ได้เลย ต้องหาผ้าใบมาคลุมหลังคาที่รั่วซึม รอจนกว่าฝนจะหยุดตกจึงนอนได้
"หนูโชคดี ที่ลุงอุเทน ให้ความช่วยเหลือมาตลอด ให้ข้าวให้น้ำกินจนไม่อดตาย และก็โชคดี ที่มีคนใจบุญพาไปฝากเข้าเรียน
หนังสือที่โรงเรียนเมืองพัทยา 2 เลยทำให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ซึ่งหนูหวังว่า สักวันหนึ่งอยากเรียนจบสูง ๆ เพื่อจะได้มีงานทำ
และสร้างบ้านหลังเล็กๆ อยู่กับพ่อและแม่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเช่นครอบครัวคนอื่นเขา แต่ตอนนี้ทำได้เพียงความฝัน
จึงวาดภาพบ้านในฝันลงสมุดเอาไว้ดูเพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง" น้องทรายกล่าว...

โชว์ภาพบ้านในฝันซึ่งวาดลงสมุดให้ดู

http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/news/3_84.jpg

หลังเรื่องราวของน้องทราย แพร่สะพัดออกไป ทำให้มีคนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวน้องทรายด้วยความสงสาร
ซึ่งในวันเดียวกันนั้น นาย รณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา นำคณะเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคมเข้าเยี่ยมน้องทราย
กับพ่อถึงบ้าน ก้าวแรกที่ไปถึงทำให้ทุกคนอึ้งไปตามๆ กัน เพราะคิดไม่ถึงว่าในเมืองพัทยาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแดนสวรรค์
ของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและฝรั่ง และเป็นเมืองเศรษฐกิจ ทางด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ จะมีเด็กยากจนตกสำรวจ
อยู่ในสภาพน่ารันทดขนาดนี้ ถึงขนาดต้องปลูกกระต๊อบอยู่ในป่าช้าแทนบ้าน!!
และที่สำคัญ บริเวณป่าช้าวัด ช่องลม แห่งนี้ เป็นสถานที่เปลี่ยว มีเหล่ามิจฉาชีพเข้ามามั่วสุมในป่าช้าแห่งนี้เป็นประจำ
จึงไม่มีความปลอดภัยสำหรับ 2 พ่อลูกคู่นี้เลย โดยเฉพาะน้องทรายที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ในเบื้องต้น รองนายกเมืองพัทยา
ได้มอบเงินจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค และให้ทุนการศึกษาจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
และทุนเจ้าพ่อเกศงาม ตามโครงการกองทุน "เพื่อการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี" ให้กับน้องทราย พร้อมหาอาชีพให้นายทองเปลว
เพื่อสามารถเลี้ยงดูตัวเองและลูกสาวได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งหลังจากข่าวนี้ แพร่สะพัดออกไป พ.อ.(หญิง)วัลลภา ศรีโพธิ์
ทหารสังกัดกองทัพบก ได้ติดต่อขออุปการะเลี้ยงดูน้องทราย และส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือในชั้นสูงสุด นอกจากนี้
ยังได้รับความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผบ.ตร. ซึ่งมอบหมายให้พ.ต.ท.กิติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ สว.กก.
เดินทางมายังบ้านน้องทราย เพื่อเตรียมยื่นมือให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
สำหรับ"น้องทราย"ได้รับการยืนยันจากครูประจำชั้นว่า เป็นเด็กเรียนดี อดทน ขยัน และมีความประพฤติดี ซึ่งทางโรงเรียน
ได้มอบทุนการศึกษาให้เรียนฟรี พร้อมทั้งยังเปิดบัญชีธนาคารออมสิน สาขาบางละมุง จ.ชลบุรี ประเภทเผื่อเรียกในนามของ...
เด็กหญิงสโรชา ชมภู เลขบัญชี 03-2105-20-112608-2 เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ น้องทราย ต่อไป...





credit : Thada from nooknanclub

onisuke
16th February 2012, 14:55
พ่อเค้าก็ดีเนอะไม่ทิ้งลูกด้วยอดทนเลี้ยงมาได้ตั้ง11ปี เก่งจริงๆแหะ ^^

cutslikeaknife
16th February 2012, 15:10
พลังใจดีมากยกนิ้วให้กับคุณพ่อคุณลูกเลยครับ :cool:

GuuBOYz
16th February 2012, 15:29
ยกย่องคนสู้ชีวิตครับ