PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ผมต้องการทำในสิ่งที่ผมรัก ผมต้องการในทำสิ่งที่ผมชอบ แต่ที่บ้านไม่เห็นด้วย..



Type-7442
17th February 2012, 19:25
กล่าวก่อนครับว่า บ้านผมไม่ใช่คนรวยเลยสักนิด


ผมรักในแทร็กเพลง Trance , Electro , Techno , DubStep ผมชอบมัน ผมฟังมันมาตลอด
ผมโหลดแปรแกรมทำแทร็กจังหวะบีตมาทำแทร็กเอง ผมโหลดโปรแกรมมามิกซิ่งเพลงเอง

ผมคิดว่า ผมต้องหาที่เรียน ผมไปถามแม่
แม่เค้าก็ให้คำตอบเชิงลบมา
แม่ผมบอกว่า
" ดีเจ เป็นอาชีพที่คนไม่มีงานไปทำน่ะ , แม่จะไม่ออกเงินค่าเรียนให้ แต่ถ้าเรียนฟิสิกส์แม้จะให้ได้แน่นอน
แม่ไม่ชอบให้ไปมั่วสุมในสถานที่อโคจร ดีเจเป็นอาชีพที่ต้อยต่ำ เรียนไปแล้วจะหาอะไรกินได้ จะทำงานอะไร
เรียนให้จบก่อนแล้วค่อยไปเรียนไป แล้วก็บ่นแอนตี้อีกมากมาย "

แม่ผมไม่เข้าใจว่า DJ ที่ว่านี่คือ Disc Jokey ผู้ทำแทร็กขึ้นมาเอง หรือ มิกซิ่งเพลง ไม่ใช่อยู่ตามรายงานวิทยุแล้วพูดแพล่มๆ แล้วก็เอาเพลงของศิลปินคนอื่นมาเปิด DJ ที่จริงไม่ใช่แค่นั้น แต่แม่ผมอคติว่า ดีเจ คือ คนพูดตามรายการวิทยุ - -
ที่ประเทศไทยมันไม่บูม แต่คนที่พอรู้จักเพลงแนวนี้จะรู้ว่า ที่ตะวันตกเค้าฮิตมาก ฮิตกว่าคอนเสิร์ตศิลปินด้วยซ้ำในบางพื้นที่


ผมไม่โกรธแม่ผม เพราะประสงค์คือผมอยากให้แม่ผมช่วย ไม่ช่วยไม่เป็นไร ผมมีเงินเก็บ พอเรียนได้ สักคอร์ส สองคอร์ส ให้รู้พื้นฐานการใช้ Turnable และ อุปกรณ์ Sampler


ผมควรทำตามความฝันผมใช่มั้ย ? เพราะผมรู้สึกว่าสิ่งนี่มันใช่ ได้ยินจังหวะ Trance ก็รู้สึกดี อยากทำแทร็กเองบ้าง ผมชอบมัน
ผมควรทำในสิ่งที่ผมชอบ สิ่งที่ผมรักใช่มั้ย ?

หรือว่าผมควรตัดใจแล้วตั้งใจเรียนในสิ่งที่ผมไม่ชอบเลยสักนิดเพื่อนหางานทำดีๆ ?



น่าจะมีคนที่เข้าใจผมบ้างนะ.. จริงๆวันนี้ผมจะไปเรียนแล้ว ไปห้องซ้อมแล้ว แต่คิดถึง board JKTH ก่อน ว่าผมควรทำอย่างไรดี ?
พรุ่งนี้ผมว่าจะไปแล้ว เดินทางเอง ส่งเสียตัวเองเรียน ใช้เวลาทำงานทำแทร็กมากๆ
ผมไม่สนหรอกว่า มันจะหาเงินได้ดีหรือไม่ ผมเพียงอยากแค่ทำในสิ่งที่ผมรักและชอบ และไม่อยากอึดอัดอยู่กับสิ่งผมไม่ชอบและต้องทนอยู่กับมัน

ขอความคิดเห็นด้วยครับ ว่าผมควรเลือกเดินทางของผมหรือเปล่า ?


ใครที่สนับสนุนผมขอกำลังใจด้วยนะครับ ผมไม่ใช่คนกำลังใจแข้มแข็งอะไรมากมาย เพราะทุกๆคนในที่นี่ผมเคยได้ัรับกำลังใจดีๆและช่วยเปลี่ยนทัศนคติผมให้ดีขึ้นหลายครั้งแล้วครับ
ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย ขอเหตุผลตามตรงเลยนะครับ พูดมาได้เลย ^^
// ขอบคุณครับ





http://www.youtube.com/watch?v=g8pT1IAAZ9A

pza00007
17th February 2012, 19:31
ทำตามความฝันของคุณเถอะครับ ถ้าคิดว่านั่นคือสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ ^ ^

แต่ก็คิดถึงเรื่องในอนาคตด้วยน่ะครับ ^ ^ ถ้าทำงานที่หาเงินไม่ได้ก็จะแย่เอานะ ^ ^

poomshift
17th February 2012, 19:36
ผมก็ชอบ DubStep

UkuleleAlone
17th February 2012, 19:37
ฝันให้ไกลและไปไม่ถึง ฮ่าๆๆสู้ต่อไปชีวิตเรายังอีกยาวไกลชีวิตเราเป็นของเรา

ผู้ตรวจสอบ
17th February 2012, 19:39
เพราะเป็นความฝันครับถึงไม่มีทางเป็นจริง
ความฝันผมอยากเป็นนักดนตรี
เเต่พอมามองรองตัวเราเเล้วก็ทำใจ
เเล้วก็ต้องเป็น *วิศวะ* ให้ได้
ความจริงมันโหดร้ายครับ ไปเรียนให้เก่งดีกว่า พอมีเวลาว่างก็ค่อยทำอย่าเอามาทำเป็นชีวิตหลักครับ

OcToViouS
17th February 2012, 19:40
ถ้ารักทางนี้เรียนวิทย์กับคณิตเยอะจะดีกว่าแล้วไปเรียนเป็น Sound Engineer ไปเลยเท่กว่าเยอะ
ส่วนการเป็น DJ ควรทำเป็นงานอดิเรกดีกว่านะ

MAMO_CHIIZ
17th February 2012, 19:41
แม่คุณกับแม่ผมเหมือนกันเลยครับ อย่ายึดติดกับอคติของผู้ใหญ่

ทำในสิ่งที่คุณรักทำในสิ่งที่คุณชอบ ซักวันมันจะส่งผลสำเร็จให้คุณเองครับ

Nemisis'
17th February 2012, 19:41
แม่เราบอกว่า "อย่าไปดูถูกอาชีพพวกนี้ อย่างเช่น อาชีพ วินมอไซต์ อย่างนี้ ถ้าเราไม่มีเขา สำหรับคนที่ไม่มีรถ ก็ไปไหนมาไหนลำบาก

และ อาชีพ พวก คนก่อสร้าง ก็อย่างดูถูกเพราะ ถ้าเราไม่มีพวกเขา เราก็ไม่มีบ้านอยู่" :o

ปล. แม่พูดมาตั้งนานแล้ว จำได้ ><!

ปล2. ถ้า ท่าน คิดว่าทำแล้ว ดี ทำแล้วรุ่ง ทำแล้วสนุกมีความสุข ก็ทำได้เถอะ :victory

ปล3. คนเราเกิดมาชาติหนึ่งแล้วต้อง ตามหา... ทำตามความฝันสิ :cool:

Rukawa
17th February 2012, 19:49
ลองคิดดีๆครับ คุณอาจชอบแค่เผินๆก็ได้

ลองค้นหาตัวเองดูดีๆ

poh1998
17th February 2012, 19:49
เพราะเป็นความฝันครับถึงไม่มีทางเป็นจริง
ความฝันผมอยากเป็นนักดนตรี
เเต่พอมามองรองตัวเราเเล้วก็ทำใจ
เเล้วก็ต้องเป็น *วิศวะ* ให้ได้
ความจริงมันโหดร้ายครับ ไปเรียนให้เก่งดีกว่า พอมีเวลาว่างก็ค่อยทำอย่าเอามาทำเป็นชีวิตหลักครับ


ถ้ารักทางนี้เรียนวิทย์กับคณิตเยอะจะดีกว่าแล้วไปเรียนเป็น Sound Engineer ไปเลยเท่กว่าเยอะ
ส่วนการเป็น DJ ควรทำเป็นงานอดิเรกดีกว่านะ

เห็นด้วยครับ :yes

oat_hohoho
17th February 2012, 19:50
เพราะเป็นความฝันครับถึงไม่มีทางเป็นจริง
ความฝันผมอยากเป็นนักดนตรี
เเต่พอมามองรองตัวเราเเล้วก็ทำใจ
เเล้วก็ต้องเป็น *วิศวะ* ให้ได้
ความจริงมันโหดร้ายครับ ไปเรียนให้เก่งดีกว่า พอมีเวลาว่างก็ค่อยทำอย่าเอามาทำเป็นชีวิตหลักครับ

เห็นด้วยกับความคิดนี้อีกหนึ่งเสียงครับ ผมเข้าใจคุณดีครับว่าอยากเป็นในสิ่งที่ฝัน แต่อยากให้คิดเผื่อนิดนึงว่าถ้าคุณทุ่มเทกับมันแล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จตอนที่คุณล้มเหลวคุณอายุ 27 -28 ไปแล้ว แถมเรียนจบแค่ ม.ปลาย (สมมติ) คุณคิดดูว่าชีวิตคุณทีเหลือจนถึงอายุ 80 ปีคุณจะทำอย่างไร ที่พูดไม่ใช่ว่าตัดกำลังใจนะครับ แต่อยากให้คุณมองเห็นอีกด้านนึงด้วย สำหรับผมอยากแนะนำว่าเรียนให้จบ ป.ตรีหรืออะไรก็ได้ที่คุณสามารถหางานทำเลี้ยงชีพได้ด้วยตัวเอง แล้วค่อยเก็บเงินไปเรียนดีเจ พอเป็นแล้วก็ค่อยไปเป็น DJ Dubstep ก็ไม่สาย เพราะถึงตอนนั้น หากคุณล้มเหลวก็ยังกลับมาทำมาหากินอย่างอื่นได้ แต่ถ้าคุณประสบผลสำเร็จด้าน DJ ก็เป็นกำไรชีวิตนะครับ ส่วนตอนนี้ถ้าอยากเรียนก็ลองเปิดหาใน youtube มีสอนเยอะแยะ หรือไม่ก็ไปทำงาน part-time หาเงินไปเรียนไปก่อนละกันครับ

Type-7442
17th February 2012, 20:00
จะว่าไปก็จริงอย่างที่หลายคนพูดนะ บางทีผมอาจะทะเยอทะยานเกินไป

มันรุ่งยากเลยทีเดียว

ขอบคุณมากครับ ขอความเห็นอีกๆ

jinzo
17th February 2012, 20:06
คุณชอบเหมือนผมเลยครับ แต่ผมชอบเอาเพลงmetalมาทำdubstep เพราะดีนะลองดูๆ

exodus
17th February 2012, 22:21
อย่าว่าเลยนะครับ แต่อาชีพ DJ ที่ทำเพลงของตัวเองน่ะ อดตายเห็นๆครับ สำหรับในเมืองไทย
คุณเห็นคนนั้นคนนี้เป็นกัน มีไอดอลของคุณที่ประสบความสำเร็จมากมาย แน่นอนครับ ประการแรกที่บ้านต้องรวย(ถึงรวยมาก)เพราะอาชีพมันไม่ได้จบที่คุณซื้อแซมปเลอร์หรือซีเควนเซอร์เท่านั้น นึกออกมั้ยฮะ มันต้องมีทุนที่ต้องคอย "พยุง" การประกอบอาชีพของคุณด้วย ซึ่งในส่วนนี้ผมเองยังยอมรับเลยว่า DJ เปิดแผ่นง่าวๆตามเทคตามผับมันยังมีโอกาสมากกว่าซะอีก เพราะมันมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่ "มองไม่เห็น" นี่แหละ ในส่วนหนึ่งผมมองว่ามันเป็นทุนสำหรับ "ซื้อความสำเร็จ" ด้วยซ้ำ
ในส่วนหนึ่งนอกจากทุนแล้วต้องมี "สังคมที่มีคุณภาพพอ"ด้วย คุณนึกออกมั้ย ถ้าคนอย่าง spider-monkey ไม่เจอกับ joey boy ไม่ได้รวมตัวเป็นก้านคอ มันก็แค่ดีเจฮิปฮอปเปื่อยๆคนหนึ่งที่คุณพบเห็นได้ตามแถวๆเอกมัยเท่านั้นเอง
หรือถ้าจะให้มองทางการตลาด who where what when how เพราะมันเป็นฐานรองรับว่า คุณจะสามารถอยู่ได้ไหม คุณจะขายอะไร ขายใคร ขายที่ไหน ขายอย่างไร แล้วจะมีเงินเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ต้องใช้เป็นทุนเท่าไหร่ กำไรสุทธิเท่าไหร่ จะพออยู่พอกินไหม หรือต้องกลับไปแบมือขอเงินพ่อแม่ ซึ่งตรงนี้เป็นโจทย์ที่คุณต้องตีให้แตกอย่างแท้จริง งานดีแต่ขายไม่ได้มันก็อยู่ไม่ได้ครับ เพราะมันไม่มีเงินซัพพอร์ต และคุณคงไม่ได้อยากทำเพลงเพื่อการกุศล จริงมั้ย
อีกเรื่องคือปัญหาทางด้านคู่แข่ง มีอีกหลายๆคนที่เรียน DJ มาตั้งแต่แรก(อย่างน้อยก็น่าจะเริ่มมาก่อนคุณ)บางคนเป็นเด็กแก็งสเตอร์ เป็นรุ่นน้องคนนั้นคนนี้ มาทางสายของคนนั้นคนนี้ คนอยากเป็น DJ มีเยอะ แต่ช่องทางการทำมาหากินกลับมีอยู่อย่างจำกัด ยิ่งพวกที่มีดีกรีจบนู่นนี่นั่นมา จบมาก่อนมีประสบการณ์ที่นั่นที่นี่ เขาก็ชิงทำงานก่อน ช่องทางมันก็ยิ่งเหลือน้อยลงทุกที ยิ่งถ้าใครผูกขาดตลาดได้นะ จบเลย อันนี้พูดจริงๆ อย่าว่าแต่ DJ เลย รุ่นพี่ผมเป็นออร์แกไนซ์จัดสเตจทุกวันนี้ยังต้องไปเชื่อมเหล็กขาย เพราะการแข่งขันมันสูงและรุนแรงมาก แรงกดดันมันเยอะ

ลองประเมินดูแล้วกัน สู้ได้ก็สู้ ถ้ามั่นใจในช่องทางก็ทำ แต่ถ้าอยากจะลองก็คิดให้ดี เพราะชีวิตมันไม่ได้สวยหรูเหมือนเพลงหรอกนะครับ รู้ไหมว่าทำไม เพราะคนที่ออกมาร้องน่ะมันเป็นผู้ชนะแล้วยังไงล่ะครับ มันจะพูดอะไรก็ได้ ขอให้โชคดี

Type-7442
17th February 2012, 23:12
ขอบคุึณมากครับ Exodus ความเห็นดีมากๆเลย

Qwerty : พอดีเราชอบ Tiesto อะ :music

Makomiku
18th February 2012, 01:41
คุณว่าคุณรัก แล้วสิ่งที่คุณรักคุณทำได้แบบไหนแล้ว ???

คนเราไม่ผิดที่จะรักและฝัน แต่ถ้าคุณไม่เริ่มที่คิดจะทำอะไรเพื่อให้ฝันเป็นจริง คุณก็ได้แค่ฝัน


http://a5.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/p480x480/422642_298108450242236_175929422460140_739970_2095597282_n.jpg

SoNy009
18th February 2012, 02:23
สิ่งที่ผมจะพิมพ์ต่อไปนี้ ขอให้ตั้งใจอ่านน่ะครับ เพราะผมพิมพ์มาจากใจ
ผมว่าน่ะชีวิตเป็นของเราครับ ใช้ซะให้คุ้ม เกิดมาครั้งเดียว อยากทำอะไรทำ
อะไรที่ไม่เดือดร้อนใคร มันดีสำหรับเราทั้งนั้นล่ะ

ชีวิตคุณคล้ายๆผมล่ะ ผมตั้งเป้าหมายของผมไว้แล้ว อนาคตผมไม่อยากไปเป็นลูกจ้าง ทำงานตามบริษัท
อยากทำอาชีพอิสระที่ตัวเองชอบ ผมเล่นดนตรีแนวเมทัล ก็โดนแม่ด่า เพลงไรฟังไม่รู้เรื่อง
ผมระเบิดหูมา ก็โดนด่าว่าเป็นเด็กไม่ดี อันที่จริงมันไม่เกี่ยวกันเลย
ผมอยากเรียนมหาลัยที่ผมวางไว้ แม่ก็บอกอีกว่ามหาลัยนั้นไม่ดี ฟังคนอื่นเค้าพูดมา
แต่ผมว่าคนที่พูดๆมาเค้ายังไม่เคยลองเลย ฟังๆตามๆกันมา เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว
ไม่ว่าจะทำอะไรมันขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น ที่จะเลือกให้มันถูกหรือผิด

ถ้าอยากเป็นผมว่าอาชีพ DJ โอกาสมันมี แต่มันก็มีไม่มาก คุณต้องเข้าวงการพวกนี้ เข้าลึกเลย
รู้จักคนให้เยอะๆ อัธยาศัยดีๆ โอกาส ดังก็มีอยู่ ระหว่างนี้คุณอาจจะหาอาชีพ หลักไว้ก่อน
เพราะอาชีพพวกนี้ DJ นักดนตรี นักเต้น อาชีพพวกนี้มันไม่แน่นอน ไม่มั่นคง

และสิ่งเดียวที่จะทำให้ความฝันเราเป็นจริงได้ คือเราต้องพิสูจน์ตนเองให้ทุกคนได้เห็น อย่าสนคำคนถ้าเรารักจริงชอบจริง
ว่าสิ่งที่เราชอบสิ่งที่เราคิดไว้นั้น มันไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่มันคือสิ่งที่ทุกคนยังเข้าไม่ถึงต่างหาก

สู้ๆครับ

DkTaP82
18th February 2012, 02:59
เมื่อไหร่.. ที่เราเลือกทางชีวิต แล้วฝันที่อยากเป็น กำหนดเป้าหมายของตัวได้.. เมื่อนั้นก็คุ้มสำหรับการเกิดมาเป็นคนแล้วครับ! ดีกว่าคนที่สำเร็จในที่"ไม่ใช่ ใจของตน"

ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในชีวิต.. คุณรักที่จะทำ และลงมือทำในสิ่งที่คุณรัก.. ถ้าหากคิดว่ามันยาก ก็บอกตัวเองว่า "ยากเพราะคิด สัมฤทธิ์เพราะทำ" (ท่านว.วชิรเมธี)

thong323
18th February 2012, 16:41
がんばってくださいみなさんも

jeditrainer
18th February 2012, 16:58
เวลาที่คุณโตแล้ว อยากทำอะไรก็ทำ อยากเป็นอะไรก็เป็น ไม่มีใครบังคับคุณได้หรอกครับ แต่คุณต้องคิดไว้อย่างหนึ่ง ประเทศแต่ละประเทศ
มีโอกาสในความสำเร็จในแต่ละอาชีพต่างกัน ก็อย่างที่หลาย ๆ คนพูดมา อาชีพบางอาชีพก็ต้องใช้พรสวรรค์ช่วยด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ชอบ
เท่านั้นหรอกครับ ที่คุณแม่ของคุณพูดก็มีเหตุผลอยู่นะครับ เขาก็อยากให้ลูกมีงานที่มั่นคงทำ ไม่ใช่อาชีพที่ค่อนข้างหลักลอย มีรายได้ไม่แน่นอน
ลองคิดดูใหม่นะครับ พิจารณาเหตุและผล รวมทั้งที่แม่คุณพูดด้วย ประเทศเรายังไม่ได้เปิดกว้างเท่าฝั่งตะวันตก จะทำอะไรต้องคิดให้ดีครับ
ปล.อนาคตหางานยากแน่นะครับ ถ้ารัฐบาลชุดนี้ขึ้นเงินเดือนวุฒิปริญญาตรีขั้นต่ำ 15000 บาทจริง เราได้ไม่คุ้มเสียครับ เพราะต้องเสียภาษีเพิ่มหลายตังค์อยู่นะครับ

Type-7442
18th February 2012, 17:12
เอาไงดีครับเนี่ย ผมนอนคิดทั้งคืนเลย
วันนี้ผมไปดูหนังมา แล้วช่วงยืนเคารพพระเจ้าอยู่หัวก่อนชมหนัง เค้าแสดงขึ้นมาว่า พระองค์ตรัสประมาณว่า " จะทำอะไร ต้องเต็มที่ตั้งใจกับมัน อย่าท้อถอยและลังเล "
แต่ทีุ่คุณ jeditrainer , exodus พิมพ์มามันก็จริงเลยทีเดียวครับฃ


เอาไงดีครับเนี่ย !

Snop
18th February 2012, 17:47
สู้ต่อไปเถอะครับ ความฝันจะเป็นจริง ถ้าลงมือทำ เป็นกำลังใจให้ครับ

Snop
18th February 2012, 17:51
ส่วนเหตุผลแบบตรงๆ คือ พ่อ แม่ เป็นห่วงเรากลัวเราไม่มีอนาคต อย่าไปคิดมากครับ เขาเป็นห่วง เพราะท่าน 2 คนเป็นพ่อแม่เรา อย่าไปโกรธท่านครับ เขาเลี้ยงดูเรามา เขาก้อมีความผูกพันธ์กับเรา แต่หากวันใดท่านไปคุยกับเราเพมื่อไหร่ วันนั้นแหละ คุณเตรียมตัวง้อได้เลย

Msguzs
18th February 2012, 17:58
ผมเชียร์คุณครับ เพราะมันคือชีวิตของคุณ ฝันของคุณ สิ่งที่คุณต้องการ มันคือๆของๆคุณ ไม่ใช่ของๆใคร เดินตามฝันเถอะครับ

bonusz
18th February 2012, 18:13
เพราะเป็นความฝันครับถึงไม่มีทางเป็นจริง
ความฝันผมอยากเป็นนักดนตรี
เเต่พอมามองรองตัวเราเเล้วก็ทำใจ
เเล้วก็ต้องเป็น *วิศวะ* ให้ได้
ความจริงมันโหดร้ายครับ ไปเรียนให้เก่งดีกว่า พอมีเวลาว่างก็ค่อยทำอย่าเอามาทำเป็นชีวิตหลักครับ

ความฝันทำให้เป็นจริงได้ครับ

ขอให้มี ความเชื่อ!! แล้วก็พยายามที่สุด ก็พอครับ

killnice
18th February 2012, 18:31
นี่หล่ะครับ อุปสรรคแรกในชีวิตเลย พยายามผ่านมันไปให้ได้นะครับ

kittinzaa
18th February 2012, 18:37
ชอบอะไร ทำไปตามนั้น อย่าฟังใคร แม้แต่สมองเราบางทีก็คิดมากไป ฟังหัวใจตัวเองเป็นพอ

ทำในสิ่งที่รัก ที่่ชอบ มักจะไปได้ดี มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ไม่ต้องไปฝืนทำอะไรที่ไม่ชอบ ความสุขเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์

SpaceRB
18th February 2012, 18:40
ชีวิตคนเรามันสั้นนะ ถ้าอยากหาเเนวทางเป็นของตัวเองเราก็เเนะนำเลยจ้า

ส่วนที่เเม่บอกว่า เรียนๆไปก่อนนี่เเล้วค่อยเรียนDJ เราว่าก็ดีนะคะ ลองศึกษาหาคนที่เป็นDJจริงๆมานั่งคุยกัน ฟังประสบการณ์ของเขา (หวได้ตามเฟสบุ๊ค . . )

. . . ส่วนตัวละ เราคิดว่าอยากทำอะไรก็ให้รีบทำดีกว่านะคะ ส่วนพวกอาชีพในอนาคตเนี่ย ถ้าเราทำเเล้วมันไม่ชอบ ใจไม่รัก มันก็จะไม่ก้าวหน้า ในที่สุดมันก็จะจมปลักอยู่กะที่ ในที่สุดก็Fail . . .

ชีวิตของคุณเอง คุณต้องกำหนดเอง ไม่ต้องให้คนอื่นกำหนด เรามีเเนวทางเป็นของตนเอง พวกที่ตามทางผู้ใหญ่เเล้วล้มเหลวก็เยอะเเยะ พวกไม่มีความสุขในชีวิตเยอะ ชอบในสิ่งที่ทำ รักในสิ่งที่ชอบ ...

สู้ๆค่ะ :)

Gu Pai!
18th February 2012, 18:44
ยังมีความเชื่อ มีความฝันกันอยู่บ้างไหม!!

ARiSKY
18th February 2012, 18:45
ชอบขนาดนี้ เราว่าลองไปถามพี่ๆเขาดู http://www.upmaxclub.com/
น่าจะได้คำตอบดีที่สุดในโลกแล้วมั้ง เพราะคนในนี้เขาเทพทั้งนั้น

edwardza02
18th February 2012, 18:57
ทุกคนมีความฝันนะครับ ผมก็มีอยากทำ Engine เกมของตัวเอง และก็กำลังทำไปได้ดีเลยทีเดียว ผมก็ไม่ได้เรียนมานะครับ แต่ผมก็ทำได้ เพราะการแสวงหา แต่ก่อนที่เราจะไปฝันอะไรนั้น
เราควรพิจารณาก่อนว่า เราจะเอาตังที่ไหนไปเรียน เราพร้อมหรือไม่ ผมอยากแนะทำให้คุณเรียนจบ ได้ทำงานก่อนถึงคิดนะผมว่า เพราะอาชีพพวกนี้ไม่ใช่ อาชีพหลักครับ มันเป็นอาชีพรองเท่านั้น
ทำงานที่มั่นคงก่อนดีกว่าครับ คิดได้ ฝันได้ เอาไว้ทำเวลาว่างครับ แม่เขาผ่านชีวิตมาก่อน เขากลัวลูกลำบากครับ DJ ถ้าไม่ดังจริงๆ ไม่มีเงินใช้ครับ คนส่วนมากที่เป็น DJ เขาเอาเวลาว่างมาทำกันทั้งนั้นครับ ไม่ใช่อาชีพหลักสักคน
อย่างเช่น ผู้กองแคน พี่เขาก็เป็น นายร้อยนะครับ เขายังเอาเวลาว่างมาทำ DJ Beat-box เลย อีกอย่างอย่าลืมนะครับ คนที่คุณจะได้เลี้ยงดูในอนาคต ไม่เอาไกลถึงเมียหรอกครับ เลี้ยงแม่ให้ได้ก่อน ผมไม่ได้ดูถูก DJ นะครับ

Nut_crazyboy
18th February 2012, 19:31
ทำตามที่คุณรักเลยครับ ถึงใครจะไม่เห็นด้วย ก็ไม่เป็นไร ครับ แต่เราก็ยืนด้วยลำแข้งเราได้ถึงมันจะลำบากในช่วงแรก แต่ผมเชื่อ ถ้าคุณทำได้ คนที่ไม่เห็นด้วยเค้าจะ เปลี่ยนความคิดใหม่แน่นอน ครับ
ยังไงก็ สู้ๆ ล่ะ ครับ ผมเป็นกำลังใจให้

สำหรับผม ผมนั้นอยากจะเป็นนักสร้างเกมส์ แต่ พอผมเจอคำว่า "ถ้าจะสร้างเกมส์ในประเทศไทย ไปไม่รอดหรอก เพราะไม่มีใครสนับสนุน" หลังจากได้ยินคำนี้ผมก็ไปถามพ่อแม่ผมว่า ผมจะเป็นนักสร้างเกมส์ผมจะเรียนสร้างเกมส์
แต่พ่อแม่ผมบอกว่า อาชีพนี้ไปไม่รอดหรอก ยังมีอาชีพอื่นที่เกี่ยวกับคอม เยอะ สร้างเกมส์น่ะเอาไว้เป็นงานอดิเรกเอา ผมไปถามจากเพื่อนทุกคน เค้าก็บอกมาเหมือนกับทีี่พ่อแม่ผมบอกเลย
ผมอาจจะทิ้งความฝันของผม แล้วหันไปทำงานที่มันทำให้ผมรอด แต่ความฝันผมไม่ทิ้งหรอกผมจะทำควบคู่ไปกับงาน ครับ
ผมชอบเพลงนี้มาก มันมีความหมายเกี่ยวกับคนที่ จำเป็นต้อง ทิ้งความฝันแล้วไปทำสิ่งที่จำเป็น


http://www.youtube.com/watch?v=YWt4wmZ_EMI

จากที่ผมอ่าน ถ้าไปเรียนพวก ฟิสิกซ์ ก็ไปเป็นพวก ด็อกเตอร์ อะไรประมาณนั้นมั้ง ในความคิดผมนะ แต่ถ้าคุณไม่ถนัดพวก ฟิสิกซ์ก็บอกท่านไปแล้วทำในสิ่งที่คุณรักครับ
ปล.ใครว่าดีเจ เป็นอาชีพคนไม่มีงานทำ ดูอย่าง skrillex สิ ทำ Soundtrack ของเกมส์ ให้ กับ EA ด้วย แต่มันเป็นอาชีพรองนะครับ เหมือนงานอดิเรก คุณต้องรู้ว่า จะเรียนอะไรก่อน เรียนในสิ่งที่คุณรักและถนัดที่สุดครับ

สู้ๆ เป็นกำลังใจ ให้ DJ นะ ครับ

mixzabzaa
18th February 2012, 19:37
สวัดดีคุณเจ้าของกระทู้ก่อนละกันนะ แล้วก็ชาวโจ๊กเกอร์ทุกคนด้วย

ผมไม่ใช่คนที่มีประสพการณ์โชกโชนนักหรอกแต่อยากจะบอกให้คุณจขกท.ได้รู้




ผมก็เคยมีช่วงนี้ครับแบบที่ จขกท. เป็นเจอในสิ่งที่ใช่รู้ในสิ่งที่ชอบแต่ครอบครัวไม่สนับสนุน ผมนับถือคุณนะที่คุณไม่ได้อคติกับครอบครัวคุณ

คนเราชีวิตมันสั้นก็จริงอย่างที่หลายคนได้บอกมา จะตายวันตายพรุ่งเราไม่รู้

แต่ผมอยากให้คุณพิจารณาดูสิ่งที่คุณจะเลือกทำดูอีกทีว่า ด้วยแรงของเราเราจะไปได้ถึงไหน?
หลายๆท่านในที่นี้ก็เคยมีประสพการณ์แบบคุณ ผมอยากให้คุณลองมองตัวเองดูอีกทีว่า มีอะไรที่เราชอบอีกไหม?
อาชีพทางด้านศิลปะ,ดนตรี หรืออะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวกับความเป็นศิลปินมันเหนื่อยนะฮะ มันไม่ได้มีแค่คำว่า ชอบ ถึงจะทำได้ฮะ มันต้องอาศัยพรสวรรค์ และ เงินทุนอีกมากมายมหาศาล
ผมไม่รู้เรื่องของดนตรี Dubstep หรอกฮะ ตอนนี้ถ้าคุณยังอยู่ไม่ถึง ม.6 ให้คุณใจเย็นๆฮะแอบแม่ไปเรียนเป็นคอสๆก็ได้ฮะ แล้วลองมองหาอย่างอื่นไปเรื่อยๆฮะว่าคุณชอบอะไรอีกทำอะไรได้ดีแล้วพิจารณาว่าคุณจะนำมาประกอบอาชีพได้ดีแค่ไหนแล้วใช้สิ่งนั้นยึดเป็นอาชีพดีกว่าฮะ ผมว่าการเป็นศิลปินไม่จำเป็นต้องเป็นอาชีพหลักหรอกฮะ ทำเป็นพาร์ทไทม์ก็ได้ ยิ่งคุณเป็น DJ ด้วย ทำงานกลางคืนฮะ เสาร์อาทิตย์ก็ได้ วันธรรมดาก็หางานประจำ แค่นี้แหละครับง่ายนิดเดียว

ผมคิดว่าคุณควรหาความมั่นคงในชีวิตให้ได้ก่อน ถึงจะค่อยเริ่มเดินตามฝันก็ได้ฮะ จำไว้ฮะว่า "ศิลปินไม่จำกัดอายุ"

ผมอาจจะเขียนยาวไปหน่อย ผมเป็นคนที่พูด(พิมพ์)ไม่ค่อยเก่ง แต่อยากจะบอก จขกท. ว่า ชีวิตจริงมันไม่มีจุดเซฟ ถ้าพลาดแล้วมันเริ่มใหม่ไม่ได้"

ลองคิดดูให้ดีครับว่าคุณอยากไปบู๊ชีวิตเพื่อทำตามความฝันได้สนุกกับชีวิตตัวเองมีความสุข
หรือ
ให้พ่อแม่มีความสุขที่คุณมีงานทำเป็นฐานมั่นคงและได้ทำตามในสิ่งที่ตัวเองรัก


ขอบคุณครับ ^ ^

NaZi_BF3
18th February 2012, 20:25
ก็จะว่าไงดีอ่ะ ทุกอาชีพ มีเกียตริและศักดิ์ศรีอยู่ในตัวมันเอง มันมีหลายๆด้านให้มอง ถ้าเรามองแต่ด้านดีๆ ทำตามแบบดีๆ มันก็ไปได้สวย แต่ถ้ามองแต่สิ่งที่ไม่ทำให้ชีวิตรุ่งเรือง ก็จงรุ่งร่วงไปซะ

ยังไงผมก็เชียร์นะครับ ถึงคุณไม่ทำมันเป็นอาชีพ แต่ก็ขอให้เป็นงานอดิเรกที่คุณทำแล้วมีความสุข ผ่อนคลายกับมันก็พอ แต่ถ้าคุณคิดว่ามันใช่ที่สุด นี่หล่ะ กูต้องเป็นDJให้ได้ ก็ทุ่มเทให้สุดแรงเกิดเลย

แต่ยังไงก็อย่าละทิ้งการเรียนเพราะมันก็เป็นอนาคตของเราเหมือนกัน ทางที่ดี เรียน40% ทุ่มให้กับสิ่งที่เราชอบ สัก 60% แต่ก็ต้องให้การเรียนออกมาดีนะครับ

แล้วแม่คุณจะรู้ว่าอย่างน้อยเราก็แบ่งเวลา ทำหลายๆอย่างได้

Rex
18th February 2012, 20:53
อย่าทำนายอนาคต อย่าสนใจอดีต จงยืนอยู่ตรงกลางของทั้งสองฝั่ง นั่นคือ ปัจจุบัน!!!


ทำอะไรคิดถึงอัตราจ้างงาน รายได้ ถ้าจบไปมีงานไหม ทำแล้วอยู่กับที่หรือเปล่า? มองถึงอนาคตจะมีเงินไว้เลี้ยงตัวเองไหม จะมีเงินส่งให้พ่อแม่ไหม จะอยู่กินพอหรือเปล่า?

Type-7442
18th February 2012, 21:59
ทุกคนดีเหลือเกินครับ ผมขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ผมเป็นใครก็ไม่รู้ ให้คำปรึกษาผมขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆครับ


ผมได้บทสรุปแล้วครับ ตอนนี้ผมจะตั้งใจเรียนให้จบ มหาลัยก่อน ส่วนเวลาว่างเท่าที่จะว่างได้ก็จะฝึกเซ็ทแทร็กครับ แล้วก็เรียนรู้และเข้าหามันเรื่อยๆ



ผมจะไปข้อความหนึ่ง ซึ่งเธอมีอยู่จริง

จุดเริ่มต้นของเธอนั้น ก็ไม่ได้เป็นคนโชคดีมาจากไหน เพราะเธอเป็นเพียงสาวอีสาน ที่ทำงานมาสารพัดอย่างเพื่อให้ความเป็นอยู่ของตัวเองดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ทำนา ทำงานโรงงาน ขายของในห้างสรรพสินค้า จนกระทั่งค้นพบว่าตัวเองหลงรักเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ

และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอรู้จักอาชีพดีเจ เงินเก็บจากการทำงานถูกนำมาซื้ออุปกรณ์เพื่อการฝึกซ้อม และแล้ววันหนึ่งเธอก็ได้สแครตซ์แผ่นในผับสมใจ !! แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องเป็นเวลาที่ร้านปิดเท่านั้น...หากคุณคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้เธอท้อ..เราขอบอกว่านี่คือการคิดผิด..เพราะนี่คือโชคชิ้นใหญ่ของเธอ เพราะมันทำให้เธอได้ซ้อมอย่างเต็มที่ และใส่เทคนิคไร้ข้อจำกัดสารพัด ที่จะทำให้ เพลง จังหวะ ผสมได้สัดส่วนระหว่างความสนุก และ ความมันส์อย่างลงตัว!!!!

เมื่อโอกาสโกอินเตอร์มาถึง นาคาเดีย ก็ค่อยๆแจ้งเกิดช้าๆ จากผับเล็กๆที่มีคนชมไม่กี่ร้อยก็ไต่อันดับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้แสดงต่อหน้าผู้คนจำนวนนับล้าน ที่ เดอะเลิฟ พาเหรด ในกรุงเบอร์ลิน

วันนี้เธอก็กลายเป็นสาวจากเอเชียที่ประสบความสำเร็จในอาชีพดีเจคนหนึ่งของโลก ที่สำคัญนาคาเดียยังมีโอกาสไปเปิดเพลงในงาน ฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน และเป็นคนเอเชียเพียงคนเดียที่ได้ไปทำงานที่นั่น”





พรุ่งนี้ครับ ผมจะไปเรียนแล้ว ขอบคุณทุกคนมากครับ กำลังใจผมมีขึ้นเยอะเลย และแน่นอน ผมรู้ว่าความจริงมันโหดร้าย แต่ผมจะ ไม่ท้อถอยและไม่ลังเล ตามที่พระเจ้าอยู่หัวตรัสไว้ครับ

OisHIFFz
18th February 2012, 22:09
http://www.youtube.com/watch?v=X2qzSOwobxQ

exodus
19th February 2012, 01:22
ง่ายๆครับ คุณรู้ไหมครับ กว่าจะเป็นผู้ชนะ คุณต้องเหยียบศพผู้แพ้ไปกี่ศพ
กว่าคนอย่าง tiesto จะขึ้นมาได้ เขาต้องเหยียบคนพวกนั้นขึ้นมากี่คน
แน่นอนครับ ในชีวิตจริง เรื่องของการแข่งขัน การที่มันจะจบออกมาแบบ win-win น่ะมันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
อย่างที่ผมบอกว่า คนชนะมันจะพูดอะไรก็ได้ เพราะมุมมองมันก็มองแค่ตัวมันเองที่ฟันฝ่า
แต่มันไม่ได้มองว่ามีอีกกี่ร้อยคนที่ต้องร่วงหล่นลงไป ซึ่งมันก็ป่วยการที่จะเอามาตีแผ่ จริงไหม?
ถึงตอนนี้คุณก็ต้องมานั่งคิดแล้วหละว่าคุณมี "อาวุธ" อะไรที่จะไปต่อกรกับคนอื่นเขาในสงครามนี้
จริงอยู่ที่คนแพ้ไม่จำเป็นต้องเหลือแต่ความว่างเปล่า แต่สิ่งที่นำกลับคืนมาไม่ได้นั่นคือ "เวลา"
ถึงจะอยากหลอกตัวเองเท่าไหร่ มันก็ทำไม่ได้ เพราะการเดินทางของเวลานั้นเป็น "ความจริง"
ตอนนี้สิ่งที่คุณต้องการมันไม่ได้มีเพียงแค่ อาวุธ แต่คุณต้องมีแผนการ รวมถึงการตัดสินใจที่ดีพอด้วย
เพราะถ้าคุณพลาด คุณจะไม่มีวันย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นได้อีกครับ เพราะคุณไม่สามารถย้อนเวลาได้

amfinethx
19th February 2012, 01:26
ขอดูผลงานหน่อยครับ:yes

PaePee
19th February 2012, 01:36
การศึกษาอาจจะไม่ส่งคุณไปในอาชีำพที่คุณฝัน ก็ไม่เป็นไรหรอกคับ

ส่วนเรื่องทางบ้านไม่สนับสนุนก็ไม้่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจไป

ผู้ใหญ่เขาก็อยากจะให้เรามีอาชีพที่มั่นคง เลี้ยงตัวเองได้่ มันอาจจะขัดจากสื่งที่เราอยากทำไปบ้าง

เราก็ใช้เวลาที่เหลือจา่กการเรียน การทำงาน มาเรียนรู้มัน ทำมันให้เรามีความสุขก็เพียงพอแล้วครับ

ผมขอพูดเรื่องของผมบ้างละกัน เผื่อจะทำให้มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง

ในช่วงวัยเด็กๆผมก็อยากเล่นกีต้าร์ แต่ทางบ้านผมไม่สนับสนุนผมเลย

ผมขอเเงินไปซื้อกีต้ามาหัดเล่น ขอไปเรียน ก็โดนปฏิเสธหมด

จะส่งผมไปเรียนกวดวิชาลูกเดียว จนพี่ญาติคนนึงเค้าซื้อกีต้าี์ใหม่ เค้าเลยให้ยืมตัวเก่าของเขามาหัดเล่น

ผมก็หัดเล่นๆ ก็โดนทา่งบ้านบ่นว่า เสียงดังบ้าง เอาเวลาไปอ่านหนังสือเรียนดีกว่า ผมก็ได้แต่แอบเล่นไปวันๆ

มาถึงช่วง ม.ปลาย ผมก็ได้หลงกีฬาบาสเก็ตบอล ผมก็พยายามหัดเล่นให้ทันเพื่อน หลังเลิกเรียนผมก็เล่นอยู่คนเดียว

จนค่ำถึงกลับบ้าน โดนด่าทุกวัน พอผ่านมาได้สักปี 2 ปี สังคมคนเล่นบาสของผมก็กว้่างขึ้น

เพื่อนๆก็ชวนไปซ้อมกับทีมของโรงเรียนอื่น โรงเรียนตัวเองไม่มีทีม ไม่มีสนามซ้อม

ผมก็ขอเงินสนับสนุนจากทางบ้านขอซื้อชุดกีฬา รองเ้ท้า ก็โดนปฏิเสธตลอด

แถมด่าให้ผมซะด้วยซ้ำว่ามัวแต่เล่นบาส ไม่รู้จักเวลากลับบ้าน ช่วงนี้ผมรู้สึกหมดกำลังใจมากครับ

มาถึงตอนนี้ผมก็เรียนอยู่ปี 2 ละ ผมก็ยังทำ 2 สื่งนี้ที่ผมรักอยู่ มันอาจจะไม่เป็นไปตามที่เราฝัน

แต่เีราก็ได้ใช้เวลาที่เหลือจา่กโลกที่ไหลไปตามกระแส มาอยู่ในโลกความฝันเล็กๆของเรา

แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ :victory

biobobzaa
19th February 2012, 01:38
แม่ทุกคนย่อมหวังดีกับลูกตัวเองเสมอ คิดถูกแล้วค่ะที่ไม่โกรธท่าน

neverload
19th February 2012, 02:08
เรียนฟิสิกเลย เรื่องเป็น DJ ถ้ามีเงินเก็บก็เอาไปเรียนให้หมดเลย พอหมดแล้ว ไม่มีตังจะเรียนต่อ ก็นี่เลย ทางออกสุดท้าย Google

เซริทไปแบบโง่ ๆ เลย สอนเป็น DJ บลา ๆ ๆ ๆ ผมทำประจำอ่ะ แต่ไม่ยิ่งใหญ่เหมือนคุณนะประมาณว่า เซริทหานู้นนี่ ที่ตัวเองต้องการ แต่ว่า ไม่มีปัญญาที่จะออกไปทำจริง

ก็ต้องเรียนเป็นทฤษฎีก่อน แล้วปฎิบัติจริงเองเลย อุปกรณ์อะไรของคุณนั้น คุณแม่ไม่สนับสนุน คุณบอกคุณมีเงินเก็บ แสดงว่า คุณสามารถเก็บตังได้ เก็บซื้อเลย

ยิ่งใหญ่ด้วยสองมือของตัวเอง มันมีค่ามากกว่าการได้้เงินเป็นพัน ๆ ล้านมากองไว้ตรงหน้าอีกนะคุณ ค่อยเป็นค่อยไป ซักวันจะยิ่งใหญ่เอง คนเราต้องเริ่มจาก 0 กันทุกคนแหละครับ

เกิดมาในครอบครัวฐานะรวยจนยังไง การใช้ชีวิต ก็ต้องเริ่มจาก 0 กันทุกคน สตีปจ็อป ก่อนมาเป็นเจ้าของ Apple ยังเป็นแค่ เด็กกรำพร้า นิสัยกร้าวร้าว คนนึงแค่นั้นเอง

แต่เพราะเค้าทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เค้าเลยประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ " โอ้วแย้ " ส่วนที่ว่าพ่อแม่มองว่ามันเป็นงานไม่มีอณาคต ถ้าเรารักของเราจริง เราต้องมีผลงานออกสื่อกันเลยทีเดียว

เพื่อเป็นการพิสูจว่า อ๊ะ พ่อจ๋า แม่จ๋า สิ่งที่หนูทำมันไม่ไร้สาระนะ มันมีอนาคต แล้วอีกอย่าง เพลงแนวนี้ อีกซักพัก บ้านเราคงอาจจะ ฮิตก็เป็นได้ อ๊าาา เพราะว่า ต่างประเทศเค้าก็เพ่งจะมาฮิตกัน

ช่วงหลัง ๆ นี้เอง ผมรู้จากอะไรนั้นน่ะเหรอ ง่าย ๆ เลย Linkin Park เป็นไงล่ะ Rock อยู่ดี ๆ อัลบั้มนี้ Dubstep ซะงั้น ผมฟังเพลงแนว MetalCore นะครับ ( แต่ไม่ฟัง Sklipknot นะ คนฟังเยอะ ไม่ตามกระแส )

วงที่ผมติดตามฟังผลงานเพลงส่วนมาก อัลบั้มในปี 2012 นี้ แทบจะไม่มีซาวด์ กลอง กีต้าเลยทีเดียว ถึงมีก็จะเป็นแบบว่า เป็นการมิ๊กเสียงให้มันประมานว่า วั๊บบบ ว๊าวววว ฟังละปวดกระเดือกแง่บ แต่ก็ฟัง เพราะบางเพลง

ก็เพราะนะเออ ( NO Drama นะเออ )

Type-7442
19th February 2012, 09:46
ขอดูผลงานหน่อยครับ:yes


เป็นไฟล์ FL อะครับ

cloudgigvery
19th February 2012, 10:03
จงทำสิ่งที่อยากทำซะ ไม่มีอะไร ที่เรียกว่าผิดหรือถูก

ถ้าล้มเหลว เราก็เริ่มต้นใหม่ ทุกๆชีวิต ต่อให้เลวดี มีจน เหนือฟ้าเพียงใด ก็เริ่มกันใหม่ได้ทั้งนั้น เสียเวลายังดีกว่ามานั่งเสียใจ

จงทำในสิ่งที่อยากซะ แล้ววันหนึ่งเราจะรู้ตัวเองว่าจะต้องทำอะไรต่อ ...จงให้เหตุและผลของตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง อย่าไปลังเล ไม่มั่นใจ กับคำพูดของใคร

อย่าคิดว่าตัวเอง คิดไม่เป็น ..อย่าโง่ ตัวเราน่ะ มีความสามารถอยู่แล้ว ..จงมั่นใจที่จะเลือกใช้มัน.. จำเอาไว้

DkTaP82
19th February 2012, 10:07
จงทำสิ่งที่อยากทำซะ ไม่มีอะไร ที่เรียกว่าผิดหรือถูก

ผมว่ามีนะครับ -*- ผิด-ถูก เนี่ยะ เอาพวกนี้ออกคำให้กำลังใจคุณเยี่ยมไปเลย..

jeditrainer
19th February 2012, 10:31
หลาย ๆ คนบอกว่าให้ทำไปเลยไม่ต้องสนใจใครพูดอะไร นั่นมันคล้ายกับความคิดของผมสมัยที่ยังเด็กอยู่นะครับ ว่าถ้าเราฝันมุ่งมั่นจะทำอะไรก็ต้องทำได้ทุกอย่าง
แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าคุณโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น กระบวนการคิดของคุณก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณจะเริ่มมองสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
แล้วละครับ การที่จะแนะนำใคร เราต้องคำนึงด้วยว่า ถ้าแนะนำเขาไปแล้ว ชีวิตเขาจะต้องไปในทางที่ดีขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่แค่หลับหูหลับตาเชียร์เย้ว ๆ อย่างเดียวนะครับ
สิ่งที่อยากจะบอกคุณ จขกท. นะคือ ความฝันนะทุกคนมีกันหมด แต่ความฝันนั้นไกลเกินที่จะเอื้อมหรือเปล่า มีอุปสรรคมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าเรารักใน
สิ่งนี้จริง ๆ ก็ทำ แต่ขอให้คำนึงถึง "ความจริง" ณ ปัจจุบันด้วยนะครับ ตั้งใจเรียน เรียนให้ดี เรียนให้จบ แล้วคุณจะทำอะไร มันก็ได้ทุกอย่าง ถ้าคุณมีความรู้ครับ

ปล.ทำให้ผมนึกเพลงนี้ขึ้นมาได้จริง ๆ "อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"

sattawat1979
19th February 2012, 10:42
จริงๆแล้วชีวิตนี้มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่ทำงานหาเงินเลี้ยงชีวิตไปวันๆ พอแก่แล้วก็ตายกันทุกคน

ไม่ว่าคุณจะอยากเป็นอะไรก็ตาม แต่ก็อยากให้ยึดหลักที่ว่า ''เลี้ยงชีพได้ด้วยตนเองและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน'' เท่านี้ก็พอแล้วครับ


ชีวิตนี้แสนสั้น ความตายจะมาเยือนเราเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ได้ ตายแล้วทุกอย่างก็จบเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้นอกจากบุญกับบาป

แต่ชีวิตหลังความตายยาวนานมากๆ คนไม่ประมาทจะหมั่นสะสมบุญไว้อยู่เสมอครับ ตายไปแล้วจะได้สบาย


จริงๆชีวิตนี้หาสาระแก่นสารไม่ได้นะ ลองคิดดู เราเกิดมา แล้วก็เรียนๆๆๆ ทำงานๆๆๆๆๆ มีครอบครัว มีลูก ทำงานๆๆๆ แก่ๆๆๆ เจ็บๆๆๆ ตาย!!

ความสุขมีน้อย แต่ความทุกข์และความเหน็ดเหนื่อยมีมากกว่า ความสุขสบายที่เราๆเห็นกันอยู่มันเป็นความสุขแบบหลอกๆ ไม่จีรังยั่งยืน อยู่กับเราได้ไม่นานมันก็จากเราไป

เข้าวัด ทำบุญ ใส่บาตร นั่งสมาธิ รักษาศีล ยังจะแน่นอนกว่า มีความสุขกว่าเลยครับ

mokTakuya
19th February 2012, 10:57
ยังไงก็ต้องลองทำตามความฝันก่อนครับ
ถ้าไม่ได้ยังไงก็ค่อยเริ่มใหม่....สู้ๆ