Rufiorocco
22nd February 2012, 20:00
''Diablo III''
อัพเดตและแก้ไขระบบสคิลและรูนสโตน
http://www.arts-wallpapers.com/desktop_wallpapers/games/game_hd/Diablo-3-Hd/img1w8.jpg
Skill Tree เป็นระบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรี่ยส์ Diablo เลยก็ว่าได้ กับความสามารถที่หลากหลายให้ผู้เล่นได้เลือกพัฒนาตัวละคร ในแต่ละสายแต่ละขั้น ซึ่งผู้เล่นก็จะได้สนุกไปกับการพัฒนาตัวละครของตนและเห็นตัวละครนั้นเก่งขึ้นๆไป เป็นระบบที่เกม RPG เกมอื่นๆก็มีนำไปใช้หลายเกมด้วยกัน แต่ว่าใน Diablo III นี้ ได้มีการแก้ไขระบบ Skill ซึ่งจะแตกต่างกับที่ผ่านๆมา จากเดิมที่เป็น Skill Tree ก็มาแยกเป็นหมวดหมู่แบบชัดเจนแทน เรียกว่า Elective Mode
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_002.jpg
ตัวอย่าง Elective Mode ของ Monk
หน้าตา UI หมวด Skill แบบใหม่ของ Diablo III หรือ Elective Mode
จะเห็นได้ว่า Skill ของ Diablo III ได้แยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน แบ่งเป็น
- Primary Attack Skill
เป็นสคิลที่จะเซตไว้ในช่องปุ่มเม้าส์ซ้าย สามารถเซตใช้ได้ง่าย กินค่า Mana หรือพลังไม่มากนัก ใช้โจมตีต่อเนื่อง
- Secondary Attack Skill
สคิลโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง จะต้องกดเปิดและคลิกขวาเวลาจะใช้ สคิลหมวดนี้ จะเป้นสคิลที่กิน Mana หรือพลังของเราค่อนข้างมาก แต่โจมตีได้รุนแรงกว่า Primary Attack Skill จึงแยกไว้เม้าส์ขวา เพราะใช้ไม่ได้บ่อยๆ
- Action Bar Skill
เป็นหมวดสคิลอื่นๆ ที่จะต้องกดปุ่ม Short Key ในการใช้แต่ละครั้ง ซึ่งเซตไว้ได้ 4 ปุ่ม 4 หมวดด้วยกัน จะมีชื่อหมวด 4 หมวดด้วยกันคือ Defensive และอื่นๆอีก 3 สาย (ชื่อต่างกันไปในแต่ละคลาส) ซึ่งชื่อหมวดนั้นใส่ไว้ให้ผู้เล่นสามารถตั้งให้ตรงตามหมวดเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สามารถเลือกสคิล Active Skill อะไรใส่ลงไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตรงกับชื่อหมวด
- Passive Skill
เป็นสคิลติดตัว ที่ไม่ต้องเรียกใช้ ส่วนใหญ่เป็นสคิลช่วยเพิ่มความสามารถทางใดทางหนึ่งให้กับตัวละคร หรือสคิลจะทำงานเมื่อได้เงื่อนไขตามกำหนด Passive Skill ในภาคนี้สามารถเลือกใช้ได้แค่ ครั้งละ 3 สคิลเท่านั้น
Skill Slot ตอนแรกจะใส่ได้เพียง 1 ช่องเท่านั้น แต่จะปลดล็อคออกมาได้หมด เมื่อตัวละครเลเวล 30 ขึ้นไป
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_003.jpg
ตัวอย่าง Elective Mode ของ barbarian
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_004.jpg
ตัวอย่าง Elective Mode ของ Witch Doctor
ข้อแตกต่างของระบบ Skill ใน Diablo III กับภาคก่อนๆ
สคิลใน Diablo ภาคก่อนๆนั้น จะต้องใช้แต้ม Skilll point ในการเรียนรู้ และมีเงื่อนไขในการเรียนสคิลเยอะแยะมาก (ต้องมีสคิลนั้นๆเลเวลเท่านี้ๆก่อน) เพราะเป็นระบบ Skill Tree แต่สคิลของ Diablo III ไม่มีเงื่อนไขในการเรียนมากเลย แค่เลเวลถึง ก็สามารถเรียนรู้สคิลได้แล้ว ตามคำนิยามของคุณ Jay Wilson ที่ว่า easy to learn, difficult to master. สคิลภาคนี้เรียนง่าย แต่ใช้ยาก เพราะ Slot ของ สคิลมีจำกัด จึงต้องเลือก Set สคิลต่างๆให้ดี ต่างจากภาคก่อนๆที่เซตสคิลได้เยอะ แถมมีสคิลติดตัวได้หมด
Skill Rune System
ชื่อใหม่ของ Rune Stone ก็คือ Skill Rune เนื่องจาก Diablo III จะยกเลิกไอเทม Rune Stone ออกไป และจะใช้เป็น Skill Rune ในการให้ผู้เล่นเลือกพัฒนาสคิลต่างๆนั่นเอง สาเหตุที่ทาง Blizzard ยกเลิก Rune Stone ก็เพราะมันยุ่งยากในการทำไอเทม Rune Stone ขึ้นมา เพราะสคิลของแต่ละคลาสรวมกันก็กว่า 120 สคิลเข้าไปแล้ว แถมแยกอัพรูนได้ 6 สาย แต่ละสายก็มีหลายระดับ ทำให้ต้องทำ Rune Stone นับพันชนิด ทาง Blizzard ก็เลยยกเลิกไป และใช้ Skill Rune แทน
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_005.jpg
สามารถเลือก Skill Rune ได้ในหน้าย่อยของ Skill หมวดย่อยนั้นๆ
Skill Rune จะปลดล็อคออกมาให้เลือกเพิ่ม เมื่อเลเวลตัวละครถึงตามที่กำหนด สคิลแต่ละสคิล จะมี Skill Rune ให้เลือกประมาณสคิลละ 6 สาย แต่ละสายจะปลดล็อคออกมาไม่พร้อมกัน ขึ้นกับเลเวลตัวละคร Skill Rune ที่เลือกแล้วจะมีชื่อติดไว้ที่ใต้สคิลนั้นๆทันที แต่ละ Rune จะเพิ่มพลังให้สคิลไม่เหมือนกัน บางอันเพิ่ม Damage บางอันลดดีเลย์ บางอันลด Mana ที่ใช้ ก็ให้เลือกคลิกใช้ Rune ตามความต้องการ ส่วนอันไหนยังใช้ไม่ได้แสดงว่าเลเวลไม่ถึง ต้องมีเลเวลถึงตามตัวเลขที่กำกับไว้ก่อน
ระบบ Skill ใหม่นี้ปล่อยมาให้ทดสอบใน Beta Patch 13 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012 ที่ผ่านมา
Credit: http://game.sanook.com/gameupdate/snews_13724.php
อัพเดตและแก้ไขระบบสคิลและรูนสโตน
http://www.arts-wallpapers.com/desktop_wallpapers/games/game_hd/Diablo-3-Hd/img1w8.jpg
Skill Tree เป็นระบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรี่ยส์ Diablo เลยก็ว่าได้ กับความสามารถที่หลากหลายให้ผู้เล่นได้เลือกพัฒนาตัวละคร ในแต่ละสายแต่ละขั้น ซึ่งผู้เล่นก็จะได้สนุกไปกับการพัฒนาตัวละครของตนและเห็นตัวละครนั้นเก่งขึ้นๆไป เป็นระบบที่เกม RPG เกมอื่นๆก็มีนำไปใช้หลายเกมด้วยกัน แต่ว่าใน Diablo III นี้ ได้มีการแก้ไขระบบ Skill ซึ่งจะแตกต่างกับที่ผ่านๆมา จากเดิมที่เป็น Skill Tree ก็มาแยกเป็นหมวดหมู่แบบชัดเจนแทน เรียกว่า Elective Mode
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_002.jpg
ตัวอย่าง Elective Mode ของ Monk
หน้าตา UI หมวด Skill แบบใหม่ของ Diablo III หรือ Elective Mode
จะเห็นได้ว่า Skill ของ Diablo III ได้แยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน แบ่งเป็น
- Primary Attack Skill
เป็นสคิลที่จะเซตไว้ในช่องปุ่มเม้าส์ซ้าย สามารถเซตใช้ได้ง่าย กินค่า Mana หรือพลังไม่มากนัก ใช้โจมตีต่อเนื่อง
- Secondary Attack Skill
สคิลโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง จะต้องกดเปิดและคลิกขวาเวลาจะใช้ สคิลหมวดนี้ จะเป้นสคิลที่กิน Mana หรือพลังของเราค่อนข้างมาก แต่โจมตีได้รุนแรงกว่า Primary Attack Skill จึงแยกไว้เม้าส์ขวา เพราะใช้ไม่ได้บ่อยๆ
- Action Bar Skill
เป็นหมวดสคิลอื่นๆ ที่จะต้องกดปุ่ม Short Key ในการใช้แต่ละครั้ง ซึ่งเซตไว้ได้ 4 ปุ่ม 4 หมวดด้วยกัน จะมีชื่อหมวด 4 หมวดด้วยกันคือ Defensive และอื่นๆอีก 3 สาย (ชื่อต่างกันไปในแต่ละคลาส) ซึ่งชื่อหมวดนั้นใส่ไว้ให้ผู้เล่นสามารถตั้งให้ตรงตามหมวดเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว สามารถเลือกสคิล Active Skill อะไรใส่ลงไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตรงกับชื่อหมวด
- Passive Skill
เป็นสคิลติดตัว ที่ไม่ต้องเรียกใช้ ส่วนใหญ่เป็นสคิลช่วยเพิ่มความสามารถทางใดทางหนึ่งให้กับตัวละคร หรือสคิลจะทำงานเมื่อได้เงื่อนไขตามกำหนด Passive Skill ในภาคนี้สามารถเลือกใช้ได้แค่ ครั้งละ 3 สคิลเท่านั้น
Skill Slot ตอนแรกจะใส่ได้เพียง 1 ช่องเท่านั้น แต่จะปลดล็อคออกมาได้หมด เมื่อตัวละครเลเวล 30 ขึ้นไป
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_003.jpg
ตัวอย่าง Elective Mode ของ barbarian
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_004.jpg
ตัวอย่าง Elective Mode ของ Witch Doctor
ข้อแตกต่างของระบบ Skill ใน Diablo III กับภาคก่อนๆ
สคิลใน Diablo ภาคก่อนๆนั้น จะต้องใช้แต้ม Skilll point ในการเรียนรู้ และมีเงื่อนไขในการเรียนสคิลเยอะแยะมาก (ต้องมีสคิลนั้นๆเลเวลเท่านี้ๆก่อน) เพราะเป็นระบบ Skill Tree แต่สคิลของ Diablo III ไม่มีเงื่อนไขในการเรียนมากเลย แค่เลเวลถึง ก็สามารถเรียนรู้สคิลได้แล้ว ตามคำนิยามของคุณ Jay Wilson ที่ว่า easy to learn, difficult to master. สคิลภาคนี้เรียนง่าย แต่ใช้ยาก เพราะ Slot ของ สคิลมีจำกัด จึงต้องเลือก Set สคิลต่างๆให้ดี ต่างจากภาคก่อนๆที่เซตสคิลได้เยอะ แถมมีสคิลติดตัวได้หมด
Skill Rune System
ชื่อใหม่ของ Rune Stone ก็คือ Skill Rune เนื่องจาก Diablo III จะยกเลิกไอเทม Rune Stone ออกไป และจะใช้เป็น Skill Rune ในการให้ผู้เล่นเลือกพัฒนาสคิลต่างๆนั่นเอง สาเหตุที่ทาง Blizzard ยกเลิก Rune Stone ก็เพราะมันยุ่งยากในการทำไอเทม Rune Stone ขึ้นมา เพราะสคิลของแต่ละคลาสรวมกันก็กว่า 120 สคิลเข้าไปแล้ว แถมแยกอัพรูนได้ 6 สาย แต่ละสายก็มีหลายระดับ ทำให้ต้องทำ Rune Stone นับพันชนิด ทาง Blizzard ก็เลยยกเลิกไป และใช้ Skill Rune แทน
http://game.sanook.com/story_picture/m/13724_005.jpg
สามารถเลือก Skill Rune ได้ในหน้าย่อยของ Skill หมวดย่อยนั้นๆ
Skill Rune จะปลดล็อคออกมาให้เลือกเพิ่ม เมื่อเลเวลตัวละครถึงตามที่กำหนด สคิลแต่ละสคิล จะมี Skill Rune ให้เลือกประมาณสคิลละ 6 สาย แต่ละสายจะปลดล็อคออกมาไม่พร้อมกัน ขึ้นกับเลเวลตัวละคร Skill Rune ที่เลือกแล้วจะมีชื่อติดไว้ที่ใต้สคิลนั้นๆทันที แต่ละ Rune จะเพิ่มพลังให้สคิลไม่เหมือนกัน บางอันเพิ่ม Damage บางอันลดดีเลย์ บางอันลด Mana ที่ใช้ ก็ให้เลือกคลิกใช้ Rune ตามความต้องการ ส่วนอันไหนยังใช้ไม่ได้แสดงว่าเลเวลไม่ถึง ต้องมีเลเวลถึงตามตัวเลขที่กำกับไว้ก่อน
ระบบ Skill ใหม่นี้ปล่อยมาให้ทดสอบใน Beta Patch 13 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012 ที่ผ่านมา
Credit: http://game.sanook.com/gameupdate/snews_13724.php