PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : The World After Nightmare : Fallout [Season1]



LoveSeeker
19th March 2012, 19:28
The World After Nightmare : Fallout [Season1]
ปี1: ผลกระทบ
ฉากหลัง: โลกยุคสงครามนิวเคลียร์ โลกที่รกร้าง ว่างเปล่า ไม่เหลืออารยธรรมใดๆ
แนว: ทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์


http://image.free.in.th/z/ii/f12002233.jpg (http://pic.free.in.th/id/915c5ea4f4766199f256a50fa738e443)

แฟนเพจกดรูปเลยครับ
http://image.ohozaa.com/i/3f2/AoExdN.jpg (https://www.facebook.com/pages/The-World-After-NightmareFallout-Fiction/397822630229726)

กระทู้สาขา 2 กดรูปครับ
http://image.ohozaa.com/i/db1/SxUZVN.jpg (http://fevergamexz.net/forum/index.php?topic=399.0)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นำเรื่อง

เวลา นำพามนุษยชาติมาถึงจุดสูงสุดแห่งเทคโนโลยี หลายร้อยหลายพันพีที่เหล่าผู้คนที่โง่เขลาได้พัฒนาตนเองมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่า การพัฒนาเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ความโอหัง ความเห็นแก่ตัว ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย มนุษย์ยังต้องใช้เวลาอีกนานเพื่อให้ได้รู้จักคำว่าให้ คำว่าเสียสละ

หลังสงครามโลกครั้งที่สาม แหล่งพลังงานน้ำมันได้ลดน้อยถอยลงอย่างมาก จนทำให้เกิดสงครามเพื่อแย่งชิงแหล่งพลังงานอันล้ำค่าทั่วโลก แต่ใครจะรู้ ว่าจุดเริ่มต้นของสงครามเล็กๆ จะกลายเป็นสงครามที่ทำลายล้างอารยธรรมของมนุษยชาติ ที่ๆหนึ่งซึ่งหางไกล ธุรกันดาร มีเพียงแหล่งน้ำมันอันล้ำค่า เป็นต้นเหตุให้ทหารแห่งกองทัพแดง และทหารอเมริกันต้องเข้นฆ่ากัน ถึงแม้ว่าการต่อสู้จะไม่รุนแรงมากนัก แต่มันก็กินเวลานานถึง10ปี และแล้ว อะไรบางอย่างก็ดลใจให้รัฐบาลจีนบุกเข้าแผ่นดินอเมริกา มันเริ่มต้นที่อลาสก้า ทหารอเมริกันที่มีอยู่ภายในประเทศไม่สามรถต้านทางกองทัพจีนได้เนื่องด้วยทหารอเมริกันถูกส่งไปรักษาความสงบในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก การต่อสู้ดำเนินมาถึงปีที่2

1มกราคม 2027 วันสุดท้ายของอารยธรรมมนุษย์ก็ได้เดินทางมาถึง วันที่ทั้งสองมหาอำนาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ห่ำหั่นกัน ไม่มีบันทึกใดๆว่าฝ่ายใดเริ่มยิงก่อน แต่หลังจากที่อาวุธมหันตภัยลูกแรกได้ระเบิดขึ้น การยิงถล่มกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของสองมหาอำนาจก็เริ่มขึ้น ทุกอย่างมลายหายไปในเวลาเพียงแค่1ชั่วโมง30นาที จุดสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง คือจุดเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่ง

รัสเซียคงเป็นประเทศเดียวที่เหลือรอดจากภัยสงคราม ปี2115 รัฐบาลรัสเซัยก็ได้ก่อตั้งสภาบันช่วยเหลือและแจกจ่ายขึ้น เพื่อช่วยหลือเหล่าผู้รอดชีวิต จนกระทั่งปี 2283 ปี่ที่เป็นจนเริ่มต้นของยุคใหม่
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สารบัญเนื้อเรื่อง
http://image.ohozaa.com/i/3e6/mxUq5N.jpg (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=74092&page=2#40)
http://image.ohozaa.com/i/584/7A6Dc.jpg (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=74092&page=3#65)
http://image.ohozaa.com/i/ddf/4gVLqn.jpg (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=74092&page=5#115)
http://image.ohozaa.com/i/947/vqd4wg.jpg (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=74092&page=6#135)


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านกันก่อนนะ

1.เน้นบรรยาย และลักษณะนิสัย
2.ปกติไม่ให้ใส่ประวัตินะ แต่ใส่มาก็ได้ และพวกประวัติเวอร์เกินคน ผมให้คุณผ่านรึเปล่า บอกว่าให้ แถมK.I.A.ให้ด้วยเลย
3.ตั้งใจหน่อย ฝ่านไม่ฝ่านขึ้นอยู่กับคุณ
4.ถ้าทำได้ตาม3อย่าง ก็ขอให้ผมก็ให้คุณผ่านนะ
5.แทรกประวัติไว้ในหัวข้อ (อื่นๆ)
6.คุณคือหนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148 ซึ่งตั้งอยู๋ในประเทศไืทย
7.ตัวละครได้แค้ 1 ตัวนะครับ แต่สัตว์ประหลาดและ อาวุธปืน ตามสบายเลยครับ
8. งดตัวละครสำเร็จรูป
9.มีขอสงสัยอะไรฝากข้อความไว้ครับ เดี๋ยวมาตอบ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: (แนะนำ ไทย อย่าได้ชื่อสัญชาติอื่น กรุณาขอก่อนนะครับ จะให้เป็นคนๆไปเพราะอาจมีผลต่อเนื้อเรื่อง ทำให้เนื้อเรื่องขาดความสมจริง)
ชื่อเล่น:
เพศ:
อายุ: (แนะนำ 15+)
รูปร่างหน้าตา:






นิสัยโดยละเอียด:






สิ่งที่ชอบ:
สิ่งที่เกลี่ยด:
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:
อื่นๆ:

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบฟอร์มศัตรู
สำหรับคนที่อยากส่งสัตว์ประหลาดให้เหล่าตัวเอกเชือด โดยสัตว์ประหลาดเปล่านี้ คือระดับทั่วไปนะครับ ไม่ใช่ระดับบอส เพราะอย่างนั้นอย่าครีมาโหดร้ายจนเกินไปล่ะ

ชื่อ: (เอาเป็นชื่อเรียกนะครับ ไม่ใช่ศัพท์เทคนิคอะไรอย่างนั้น)
ประเภท: มนุษย์: สัตว์: สัตว์กลายพันธุ์: มนุษย์กลายพันธุ์: หุ่นยนต์:อื่น (โปรดระบุ)
ที่อยู่อาศัย
รูปร่างหน้าตา

ลักษณะนิสัย

ลักษณะการต่อสู้

อาวุธ
จุดเด่น

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบฟอร์มอาวุธปืน
สำหรับคนที่อยากให้อาวุธของท่านเข้ามาโลดแล่นอยู่ในนิยายครับ ขอเป็อาวุธปืนนะครับ
ชื่อ:
ขนาดกระสุน:
อัตราการยิง:
ความจุแม็กกาซีน:
ระยะหวังผล:
รูปร่าง:

duchyzaza
19th March 2012, 20:50
แบบฟอร์มตัวละคร

หน้าตาประมาณนี้นะครับ - - อันนี้เอามาจาก Farcry 3

http://media.giantbomb.com/uploads/3/30014/2141712-far_cry_3_ca_large.jpg

ชื่อสกุล : ไกรษร รัตนชัย

สัญชาติ: ไทย
ชื่อเล่น:กร
เพศ:ชาย
อายุ: 25

รูปร่างหน้าตา:

ทางกายภาพ:เเข็งเเรง สมส่วน

ทางบุคลิกภาพ:
ทรงผม: Mohawk
หน้าตา:มีหนวดนิดๆ หล่อ เข้ม

นิสัยโดยละเอียด:

เป็น คนที่กล้าได้กล้าเสีย เป็นคนชอบเสี่ยง
ชอบช่วยเหลือคนอื่นเป็นทุกเวลา มีอารมณ์ตลกเเม้ในยามคับขัน - -




สิ่งที่ชอบ:ปืน,เงิน, เพรช,
สิ่งที่เกลี่ยด:พวกก่อการร้าย โจร ปีศาษ สัตว์ประหลาด
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:พยายาม ทำสิ่งที่ตัวเอง หรือกลุ่มเพื่อน ให้สำเร็จ - -
อื่นๆ:-
ปล.บอร์ดเเปลกๆ นะ - -

----------------------------------------------------

แบบฟอร์มอาวุธปืน

เเน่นอน ว่าช่วงเกิดสงคราม WW อาวุธจะหายากมาก มนุษย์เลย ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง

http://upload.karma2.co.kr/file/data/bnotice/100609/1275100609100006.jpg

ชื่อ:Lanchester MK. ปืนประดิษฐ์ (อันนี้ ปืนจาก WW2)
ขนาดกระสุน:9x19 mm.
อัตราการยิง:Auto 500 นัด/นาที
ความจุแม็กกาซีน: 35 นัด ต่อเเม็กกาซีน
ระยะหวังผล: 45-60 เมตร เป็นปืนที่ ใช้ในระยะ หวังผลเเบบไกล มีโอกาสโดนน้อยมาก เหมาะกับการยิงระยะกลาง หรือ ตอดๆ

รูปร่าง: ตามภาพ

LoveSeeker
19th March 2012, 21:14
ปล.บอร์ดเเปลกๆ นะ - -

คิดเหมือนกัน

GIGABom
19th March 2012, 23:32
เย่ เย่ ปูเสื่อ ปูเสื่อ !

new13th
20th March 2012, 03:30
สัตว์ประหลาด

ชื่อ: Lupus
ประเภท: สัตว์กลายพันธุ์
ที่อยู่อาศัย : ในที่มืด
รูปร่างหน้าตา : ลักษณะคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอกแต่จะมีขนาดใหญ่กว่า 1-2 เท่า มีขนสั้นเตียนสีเทา ตาโตสีฟ้า มีเล็บและเขี้ยวที่แหลมเห็นได้ชัด หูตั้งชี้ หางยาวมีขนยาวปกคลุมโดยรอบ

ลักษณะนิสัย : ดุร้าย

ลักษณะการต่อสู้ : กระโจนขย้ำใส่ และ กัดกินเนื้อของเหยื่ออย่างโหดร้าย

อาวุธ : เขี้ยว และกรงเล็บ
จุดเด่น : มีความคล่องแคล่วว่องไว จมูกดมกลิ่นได้ดีมาก หูได้ยินเสียงได้ไกล หลบซ่อนตัวในที่มืด และมองเห็นในที่มืดได้ดี

LoveSeeker
20th March 2012, 12:04
//นั่งหาวรอตัวละคร

5day-ago
20th March 2012, 12:30
ชื่อ-สกุล: ไอราวัณ เหนือท้องนภา
ชื่อเล่น: ไอราวัณ
เพศ: ชาย
อายุ: 20
รูปร่างหน้าตา: ชายหนุ่มทรงโทโมฮ็อค มีหนวดเล็กน้อย เข้มๆ ร่างสูงใหญ่กำยำ

นิสัยโดยละเอียด: เป็นชายหนุ่มเลือดร้อนกล้าหาญแถมระห่ำเกินใคร เป็นคนรักเพื่อนฝูง เกลียดชังเหล่าสัตว์ประหลาด เวลาปฏิบัติภารกิจชอบพูดเรื่อยเปี่อยอยู่คนเดียว เวลาว่างๆเขามักจะสูบบุหรี่โดยให้เหตุผลว่า "เราจะตายวันไหนก็ยังไม่รู้ แต่ไม่ตายด้วยบุหรี่แน่นอน"

สิ่งที่ชอบ: ปรับแต่งปืนของตนเอง
สิ่งที่เกลี่ยด: สัตว์ประหลาด และการทรยศ
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: สูบบุหรี่แล้วยิ้มก่อนตาย (ประมาณคารรอสใน ผีชีวะ 3)
อื่นๆ: -

แบบฟอร์มอาวุธปืน

ชื่อ: M4A1/M203
ขนาดกระสุน:5.56x45 mm
อัตราการยิง:700–950 นัดต่อนาที
ความจุแม็กกาซีน: 30
ระยะหวังผล: 500 เมตร
รูปร่าง:
http://upic.me/i/to/imagesca20icpz.jpg

Rex
20th March 2012, 12:44
หากจะไม่รบกวนขอเป็นสัญชาติอื่นได้ไหม ถ้าไม่ได้จะเปลี่ยนให้นะ

แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: รีเซีย โมเมนล่า
ชื่อเล่น: เร็กซ์ (ที่จริงนี่คือชื่อกลาง เร็กซ์ รีเซีย เรย์ ทั้งหมดเป็นชื่อเดียวกันนะเออ...)
เพศ: หญิง
อายุ: 25
รูปร่างหน้าตา: สูง 172 หนัก 53 ม่านตาสีดำ-เทา (จะเทาก็เฉพาะแดดแยงตาหรือประมาณแสงจันทร์น่ะนะ) รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนไม่ผอม ผมสีบลอนด์

นิสัยโดยละเอียด:
รีเซียกำเนิดที่ อิตาลี โดยตรงจึงได้รับสัญชาติมาทันที รวมกับสัญชาติของพ่อที่เป็นคนอเมริกา จึงได้ทั้งคู่และพูดได้ทั้ง 2 ภาษาตามแบบฉบับลูกครึ่งมาตรฐาน นิสัยค่อนข้างนิ่ง ไม่เป็นพวกตื่นเกินความจำเป็น แต่ก็มีบ้าง... ชอบคงความโสดเพราะคิดว่าเป็นความอิสระมากกว่า มนุษสัมพันธ์ดีหากได้พบกันหรือคุย

สิ่งที่ชอบ: ชายหาด น้ำทะเล กลางคืน หิ่งห้อย
สิ่งที่เกลี่ยด: ผู้ชายปากมาก(พูดมาก) พวกเรื่องมาก พวกชอบยุยง พวกสมองขี้เลื่อย พวกคิดว่าตัวเองใหญ่(วางท่า)
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: หลับตา....
อื่นๆ: ถ้าจะบรรยายนิสัยในเนื้อเรื่องแนะนำใช้ตัวแดงที่กำกับไว้ครับ จะได้ไม่เป็นปัญหาสำหรับการบรรยายท่าที

แบบฟอร์มอาวุธปืน

ชื่อ: MK11 MOD0 สโคป *8+ขาตั้ง (เน้นเบา)
ขนาดกระสุน: 7.62mm NATO caliber
อัตราการยิง: SemiAuto
ความจุแม็กกาซีน: 10
ระยะหวังผล: 300-1000 meters (Safeshot up tp 650 meters)
รูปร่าง: ตามจริง
ข้อมูลด้านบนตามจริงนะครับ ไม่จำเป็นต้องตัดแต่งอะไรแล้วนะ

LoveSeeker
20th March 2012, 13:13
=อัพเดทข้อมูล=
http://image.ohozaa.com/i/472/F5yqea.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/vXAlSeoQ5ozgqwG4)

สถาบันหลังสงคราม [Post-War Academy]
สถาบันหลังสงครามก่อตั้งขึ้นพร้อมศูนย์แจกจ่ายและช่วยเหลือ เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์แจกจ่ายและช่วยเหลือ สถาบันเปิดสอนในสี่หลักสูตร คือ 1.วิชาทหาร 2.วิชาปกครอง 3.วิชาวิศวกรรม 4.วิชาเกษตรกรรม โดยสอนหลักสูตร4ปี เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชีวิตในโลกยุคหลังสงครามนิวเคลียร์ เพื่อรักษาและฟื้นฟูอารยธรรมมนุษย์

LoveSeeker
20th March 2012, 14:00
ชื่อ:Lanchester MK. ปืนประดิษฐ์ (อันนี้ ปืนจาก WW2)
ขนาดกระสุน:9x19 mm.
อัตราการยิง:Auto 35/100
ความจุแม็กกาซีน: 35 นัด ต่อเเม็กกาซีน
ระยะหวังผล: 85/100 เป็นปืนที่ ใช้ในระยะ หวังผลเเบบไกล มีโอกาสโดนน้อยมาก เหมาะกับการยิงระยะกลาง หรือ ตอดๆ

รูปร่าง: ตามภาพ

อัตตรยิงคือ การลั่นกระสุน มีหน่วยเป็น นัด/นาที เช่น 600 นัด/นาที 1500 นัด/นาที
ระยะหวังผล คือระยะสูงสุดที่เมื่อกระสุนกระทบเป้าหมายยังคงส่งผลกระทบ ทำให้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตใด้ มีหน่วยเป็นเมตร

แก้ไขนะครับ ^^

LoveSeeker
22nd March 2012, 14:24
อัพเดทแฟนเพจ และกระทู้ สาขา2ครับ


จะเยอะไปละเอ็ง = =llll

555+ นิดหน่อยเอง เกือบเปิดสาขา3แล้วเนี่ย :rofl

_TOY_
22nd March 2012, 15:08
จะเยอะไปละเอ็ง = =llll

nakiann123
22nd March 2012, 15:29
เย่ เย่ ปูเสื่อ ปูเสื่อ !

นั่งด้วย นั่งด้วย ~

LoveSeeker
22nd March 2012, 15:31
นั่งด้วย นั่งด้วย ~

:sweat จะนั่งดูกันอย่างเดียวเลยรึนี่ เอาตัวละครมา ตัวละคร ตัวละครของข้า (//ทำเสียงแบบกอลัม)

nakiann123
22nd March 2012, 15:36
:sweat จะนั่งดูกันอย่างเดียวเลยรึนี่ เอาตัวละครมา ตัวละคร ตัวละครของข้า (//ทำเสียงแบบกอลัม)

ชื่อ - สกุล : Andriy Miyanovic Shevchukov (อังเดร มิยาโนวิช เชฟชูคอฟ)

ชื่อเล่น : เชคอฟ

เพศ : ชาย

อายุ : 21 ปี

รูปร่างหน้าตา : หน้าตาดี ผิวขาว ร่างกายกำยำ ผมยาวสีชมพู (เอ่อ =w=) หนวดเคราเกลี้ยงเกลา แต่ดันสักทั้งตัว

นิสัยโดยละเอียด : เป็นคนดี รักเพื่อน เงียบขรึม แต่ร่าเริงตลอดเวลา ชอบลองทำในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ และ บ่อยครั้งประสบผลสำเร็จ

ชอบช่วยเหลือคนอื่น

สิ่งที่ชอบ : สนใจ Desert Eagle เป็นพิเศษ ดนตรี การสัก การสร้างอาวุธด้วยตัวเอง

สิ่งที่เกลียด : การดูถูกเหยียดหยาม การหักหลัง

สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย : มีชื่อขึ้นสู่หน้าประวัติศาสตร์

อื่น ๆ : ไม่ค่อยมีคนรู้ประวัติ ของเชคอฟมากนัก เขาเล่าแค่ว่า เขาเป็นเด็กกำพร้า เขาเติบโตมาในย่านอาชญากรรมร้ายแรงในรัสเซีย และเขามีเลือดนักสู้อยู่เต็มตัว

แบบฟอร์มอาวุธปืน

ชื่อ: Desert Eagle Shevchukov Edition

ขนาดกระสุน : .440 Cor-bon

อัตราการยิง : กึ่งอัตโนมัติ

ความจุแม็กกาซีน : 7

ระยะหวังผล : 50 เมตร

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b1/DesertEagle_50AE.jpg

LoveSeeker
22nd March 2012, 15:41
เดี๋ยวข้าแปะไว้ ขอรับท่าน สมิงกอล =w= ข้าจองไว้ เดี๋ยวข้าสมัคร

ขอชื่อ รัสเซีย ยูเครน หรือยุโรปได้ไหม พอดีไม่ถนัดชื่อไทยแหะ

อนุมัติชื่อรัสเซีย

5day-ago
22nd March 2012, 15:56
ท่านๆแล้วชื่ออังกฤษหรือเมริกาได้ไหมท่าน

LoveSeeker
22nd March 2012, 15:59
ท่านๆแล้วชื่ออังกฤษหรือเมริกาได้ไหมท่าน

ไม่อนุมัติครับ เ้พราะประเทศเหล่านั้นคงไม่เหลือซากแล้ว :sweat

bararasza
22nd March 2012, 16:08
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: ผมว่านำเรื่องมันมีแต่อเมริกา จีน ชื่อจะมาเป็นไทยมันก็ยังไงอยู่ หรือว่าท่านหมายถึงชื่อฝรั่ง แต่พิมพ์เป็นไทย โทนี่ ฮุค
ชื่อเล่น:โทนี่
เพศ:ชาย
อายุ: 28 ปี
รูปร่างหน้าตา:อดีตเป็นทหารที่ถูกสงครามทอดทิ้งให้กลายเป็นบุคคลสูญหายหลังจากเกิดการยิงถล่มนิวเคลียร์ เค้าตื่นขึ้นมาในซากตึก
รูปร่างหน้าตา ผมตั้ง ริมฝีปากเล็ก จมูกโด่ง นัยตาสีฟ้าเข้ม คิ้วดก ผมสีน้ำตาลแดงหัวออกจะเกรียนๆแบบทหาร กามกว้างหน้าผากแคบหัวไม่เถิก
รูปร่างค่อนข้างพอดีไม่ใหญ่ไม่เล็ก หุ่นแบบทหารเกณท์(พิมพ์ผิดขออภัย) ไม่ใช่กล้ามใหญ่เว่อร์เป็นคนที่ไม่มีหน้ามีตาในการทหารเลยเป็นแค่พลทหาร





นิสัยโดยละเอียด:ขี้หวาดระแวงใจปลาซิวก่อนจะถูกเกณท์มาเป็นทหาร เป็นคนทำงานในบาร์ซึ่งไม่ได้มีประสบการณ์อะไรเลยในทางทหาร
ดูเอ๋อๆไปเลยผอมแห้งแรงน้อยแต่โมโหง่าย




สิ่งที่ชอบ:วิดีโอเกม
สิ่งที่เกลี่ยด:แมลงสาป หนู ซากศพ เลือด
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:เอาชีวิตรอดไปวันๆ
อื่นๆ:

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบฟอร์มศัตรู
สำหรับคนที่อยากส่งสัตว์ประหลาดให้เหล่าตัวเอกเชือด โดยสัตว์ประหลาดเปล่านี้ คือระดับทั่วไปนะครับ ไม่ใช่ระดับบอส เพราะอย่างนั้นอย่าครีมาโหดร้ายจนเกินไปล่ะ

ชื่อ: 1.คอว์นตัม
ประเภท: มนุษย์: สัตว์: สัตว์กลายพันธุ์: มนุษย์กลายพันธุ์: หุ่นยนต์:อื่น 1.มนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกรังสีเปลี่ยนพันธุกรรม
ที่อยู่อาศัย :ซากตึกที่มืดๆ เนื่องจาก รังสีได้เปลี่ยนพันธุกรรมทำให้ผิวหนังพวกมันไม่สามารถถูกแสงได้ ผิวบอบบาง
รูปร่างหน้าตา: รูปร่างเหมือนมนุษย์ ที่เหลือแต่กล้ามเนื้อ ไม่มีผิวหนังห่อหุ้ม กล้ามเนื้อล้วนๆๆ(แต่ทรงพลังมากขึ้น) ปลายนิ้วและปลายเท้า แหลมเหลือแต่กระดูก กระดูกแข็งแรงมากขึ้น มีกลิ่นตัวแรง ฟันไม่แหลมคมมากนะ
เส้นผมไม่มาก
ลักษณะนิสัย: กินเนื้ออยู่ที่มืดหลบซ่อน หากอยู่เพียงตัวเดียวจะกลัว หากอยู่เป็นฝูงจะห้าวหาญไม่กลัวตาย

ลักษณะการต่อสู้:โจมตีเป็นหมู่คณะ ขนาดใหญ่มากๆๆ วิ่งได้รวดเร็วเนื่องจากกล้ามเนื้อขาที่ถูกออกแบบจากรังสีมาให้เกินความยืดหยุ่นและแข็งแรงสูง กระโดดลงจากที่สูงได้โดยไม่บาดเจ็บซัก5-10เมตร

อาวุธ:เล็บที่แหลมคม
จุดเด่น:มีกลิ่นตัวแรง หากมีพวกมันอยู่บริเวณนั้น จะได้กลิ่นกลิ่นนี้ทันที กลิ่นอะไรก็ว่าไป-..-

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบฟอร์มอาวุธปืน
สำหรับคนที่อยากให้อาวุธของท่านเข้ามาโลดแล่นอยู่ในนิยายครับ ขอเป็อาวุธปืนนะครับ
ชื่อ:ปืนลูกดอก
ขนาดกระสุน:ลูกดอก
อัตราการยิง:นัดต่อนัด
ความจุแม็กกาซีน:1นัด
ระยะหวังผล:10เมตร
รูปร่าง:หน้าไม้ (ผมคิดไม่ออก ผมว่าในยุคแบบนั้นไม่หน้าจะมีปืนที่สามารถใช้ได้ เพราะ แหม่มขึ้นสนิมหมดแล้ว ยิงไปแตกยิงไประเบิดใส่หน้า ยิงไปขัด แหะๆ)

ขอบคุณครับ พิมพ์แล้วสนุกดีหน้าติดตามครับ

5day-ago
22nd March 2012, 16:09
เอาล่ะเรียบร้อย :o

LoveSeeker
22nd March 2012, 16:12
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: ผมว่านำเรื่องมันมีแต่อเมริกา จีน ชื่อจะมาเป็นไทยมันก็ยังไงอยู่ หรือว่าท่านหมายถึงชื่อฝรั่ง แต่พิมพ์เป็นไทย โทนี่ ฮุค
ชื่อเล่น:โทนี่
เพศ:ชาย
อายุ: 28 ปี
รูปร่างหน้าตา:อดีตเป็นทหารที่ถูกสงครามทอดทิ้งให้กลายเป็นบุคคลสูญหายหลังจากเกิดการยิงถล่มนิวเคลียร์ เค้าตื่นขึ้นมาในซากตึก
รูปร่างหน้าตา ผมตั้ง ริมฝีปากเล็ก จมูกโด่ง นัยตาสีฟ้าเข้ม คิ้วดก ผมสีน้ำตาลแดงหัวออกจะเกรียนๆแบบทหาร กามกว้างหน้าผากแคบหัวไม่เถิก
รูปร่างค่อนข้างพอดีไม่ใหญ่ไม่เล็ก หุ่นแบบทหารเกณท์(พิมพ์ผิดขออภัย) ไม่ใช่กล้ามใหญ่เว่อร์เป็นคนที่ไม่มีหน้ามีตาในการทหารเลยเป็นแค่พลทหาร





นิสัยโดยละเอียด:ขี้หวาดระแวงใจปลาซิวก่อนจะถูกเกณท์มาเป็นทหาร เป็นคนทำงานในบาร์ซึ่งไม่ได้มีประสบการณ์อะไรเลยในทางทหาร
ดูเอ๋อๆไปเลยผอมแห้งแรงน้อยแต่โมโหง่าย




สิ่งที่ชอบ:วิดีโอเกม
สิ่งที่เกลี่ยด:แมลงสาป หนู ซากศพ เลือด
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:เอาชีวิตรอดไปวันๆ
อื่นๆ:

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบฟอร์มศัตรู
สำหรับคนที่อยากส่งสัตว์ประหลาดให้เหล่าตัวเอกเชือด โดยสัตว์ประหลาดเปล่านี้ คือระดับทั่วไปนะครับ ไม่ใช่ระดับบอส เพราะอย่างนั้นอย่าครีมาโหดร้ายจนเกินไปล่ะ

ชื่อ: 1.คอว์นตัม
ประเภท: มนุษย์: สัตว์: สัตว์กลายพันธุ์: มนุษย์กลายพันธุ์: หุ่นยนต์:อื่น 1.มนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกรังสีเปลี่ยนพันธุกรรม
ที่อยู่อาศัย :ซากตึกที่มืดๆ เนื่องจาก รังสีได้เปลี่ยนพันธุกรรมทำให้ผิวหนังพวกมันไม่สามารถถูกแสงได้ ผิวบอบบาง
รูปร่างหน้าตา: รูปร่างเหมือนมนุษย์ ที่เหลือแต่กล้ามเนื้อ ไม่มีผิวหนังห่อหุ้ม กล้ามเนื้อล้วนๆๆ(แต่ทรงพลังมากขึ้น) ปลายนิ้วและปลายเท้า แหลมเหลือแต่กระดูก กระดูกแข็งแรงมากขึ้น มีกลิ่นตัวแรง ฟันไม่แหลมคมมากนะ
เส้นผมไม่มาก
ลักษณะนิสัย: กินเนื้ออยู่ที่มืดหลบซ่อน หากอยู่เพียงตัวเดียวจะกลัว หากอยู่เป็นฝูงจะห้าวหาญไม่กลัวตาย

ลักษณะการต่อสู้:โจมตีเป็นหมู่คณะ ขนาดใหญ่มากๆๆ วิ่งได้รวดเร็วเนื่องจากกล้ามเนื้อขาที่ถูกออกแบบจากรังสีมาให้เกินความยืดหยุ่นและแข็งแรงสูง กระโดดลงจากที่สูงได้โดยไม่บาดเจ็บซัก5-10เมตร

อาวุธ:เล็บที่แหลมคม
จุดเด่น:มีกลิ่นตัวแรง หากมีพวกมันอยู่บริเวณนั้น จะได้กลิ่นกลิ่นนี้ทันที กลิ่นอะไรก็ว่าไป-..-

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แบบฟอร์มอาวุธปืน
สำหรับคนที่อยากให้อาวุธของท่านเข้ามาโลดแล่นอยู่ในนิยายครับ ขอเป็อาวุธปืนนะครับ
ชื่อ:ปืนลูกดอก
ขนาดกระสุน:ลูกดอก
อัตราการยิง:นัดต่อนัด
ความจุแม็กกาซีน:1นัด
ระยะหวังผล:10เมตร
รูปร่าง:หน้าไม้ (ผมคิดไม่ออก ผมว่าในยุคแบบนั้นไม่หน้าจะมีปืนที่สามารถใช้ได้ เพราะ แหม่มขึ้นสนิมหมดแล้ว ยิงไปแตกยิงไประเบิดใส่หน้า ยิงไปขัด แหะๆ)

ขอบคุณครับ พิมพ์แล้วสนุกดีหน้าติดตามครับ


ผมว่านำเรื่องมันมีแต่อเมริกา จีน ชื่อจะมาเป็นไทยมันก็ยังไงอยู่ หรือว่าท่านหมายถึงชื่อฝรั่ง แต่พิมพ์เป็นไทย โทนี่ ฮุค
ชื่อไทยครับ เรื่องเกินในไทย OK! Are we clear soldier!


อดีตเป็นทหารที่ถูกสงครามทอดทิ้งให้กลายเป็นบุคคลสูญหายหลังจากเกิดการยิงถล่มนิวเคลียร์ เค้าตื่นขึ้นมาในซากตึก
สงครามเกิดปี2027 เรื่องเกิดปี2283 ตัวละครไม่เหลืแต่ซากแล้วหรือครับ


ผมคิดไม่ออก ผมว่าในยุคแบบนั้นไม่หน้าจะมีปืนที่สามารถใช้ได้ เพราะ แหม่มขึ้นสนิมหมดแล้ว ยิงไปแตกยิงไประเบิดใส่หน้า ยิงไปขัด แหะๆ
รูปร่างไม่แปลกตามากหรอกครับ คล้ายๆปืนยุคสงครามโลกนั่นแหละครับ เพราะเป็นปืนประดิฐ


ชื่อ-สกุล: ไอราวัณ เหนือท้องนภา
ชื่อเล่น: ไอราวัณ
เพศ: ชาย
อายุ: 20
รูปร่างหน้าตา: ชายหนุ่มทรงโทโมฮ็อค มีหนวดเล็กน้อย เข้มๆ ร่างสูงใหญ่กำยำ

นิสัยโดยละเอียด: เป็นชายหนุ่มเลือดร้อนกล้าหาญแถมระห่ำเกินใคร เป็นคนรักเพื่อนฝูง เกลียดชังเหล่าสัตว์ประหลาด เวลาปฏิบัติภารกิจชอบพูดเรื่อยเปี่อยอยู่คนเดียว เวลาว่างๆเขามักจะสูบบุหรี่โดยให้เหตุผลว่า "เราจะตายวันไหนก็ยังไม่รู้ แต่ไม่ตายด้วยบุหรี่แน่นอน"

สิ่งที่ชอบ: ปรับแต่งปืนของตนเอง
สิ่งที่เกลี่ยด: สัตว์ประหลาด และการทรยศ
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: สูบบุหรี่แล้วยิ้มก่อนตาย (ประมาณคารรอสใน ผีชีวะ 3)
อื่นๆ: -



ตัวนี้เท่าที่ดู ถือว่า Okแล้วครับ




ชื่อ - สกุล : Andriy Miyanovic Shevchukov (อังเดร มิยาโนวิช เชฟชูคอฟ)

ชื่อเล่น : เชคอฟ

เพศ : ชาย

อายุ : 21 ปี

รูปร่างหน้าตา : หน้าตาดี ผิวขาว ร่างกายกำยำ ผมยาวสีชมพู (เอ่อ =w=) หนวดเคราเกลี้ยงเกลา แต่ดันสักทั้งตัว

นิสัยโดยละเอียด : เป็นคนดี รักเพื่อน เงียบขรึม แต่ร่าเริงตลอดเวลา ชอบลองทำในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ และ บ่อยครั้งประสบผลสำเร็จ

ชอบช่วยเหลือคนอื่น

สิ่งที่ชอบ : สนใจ Desert Eagle เป็นพิเศษ ดนตรี การสัก การสร้างอาวุธด้วยตัวเอง

สิ่งที่เกลียด : การดูถูกเหยียดหยาม การหักหลัง

สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย : มีชื่อขึ้นสู่หน้าประวัติศาสตร์

อื่น ๆ : ไม่ค่อยมีคนรู้ประวัติ ของเชคอฟมากนัก เขาเล่าแค่ว่า เขาเป็นเด็กกำพร้า เขาเติบโตมาในย่านอาชญากรรมร้ายแรงในรัสเซีย และเขามีเลือดนักสู้อยู่เต็มตัว


ตัวนี้ไม่มีปัญหาครับ

duchyzaza
22nd March 2012, 16:23
อัตตรยิงคือ การลั่นกระสุน มีหน่วยเป็น นัด/นาที เช่น 600 นัด/นาที 1500 นัด/นาที
ระยะหวังผล คือระยะสูงสุดที่เมื่อกระสุนกระทบเป้าหมายยังคงส่งผลกระทบ ทำให้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตใด้ มีหน่วยเป็นเมตร

แก้ไขนะครับ ^^


เเก้ไขเเล้วจ้า

LoveSeeker
22nd March 2012, 16:25
กดแฟนเพจไว้ด้วยนะครับ เผื่อผมแจ้งข่าวสารบางอย่าง หรืออ่านตัวอย่างของบทต่อไปได้ก่อนใคร

nakiann123
22nd March 2012, 16:32
รบกวนท่าน จขกท. บอกอัตราการยิงปืนให้กระผมด้วย พอดีผมหาไม่เจอ ผมจะได้เอาไป แก้ไขครับผม ~

แล้วก็ ปืนของผมนี่ ที่ใส่ ตัวของผมใช้เองใช่มั้ยครับ ใส่ชื่อซะ จัดเต็มเลย 55555

LoveSeeker
22nd March 2012, 16:35
รบกวนท่าน จขกท. บอกอัตราการยิงปืนให้กระผมด้วย พอดีผมหาไม่เจอ ผมจะได้เอาไป แก้ไขครับผม ~

แล้วก็ ปืนของผมนี่ ที่ใส่ ตัวของผมใช้เองใช่มั้ยครับ ใส่ชื่อซะ จัดเต็มเลย 55555

ปืน ถ้ามีอยู่ในโลกจริง คือจะให้เป็นปืนของตัวละครของท่านครับ
หากเป็นปืนที่ไม่มีในโลก จะเป็นปืนที่ใช้ทั่วๆไปครับ
อีกอย่างครับ เรื่องปืนผมไม่บังคับอะไรมาก ข้อมูลครบเป็นพอครับ
ปล. DE .44 บรรจุได้8นัด+1นัดในลำกล้องนะครับถ้าจำไม่ผิด
ปล.2 มีปัญหาถามในแฟนเพจดีกว่าครับ ถามๆ ตอบๆ เดี๋ยวโดนข้อหาปั้มกระทู้ (ฮา)

http://image.ohozaa.com/i/3f2/AoExdN.jpg (https://www.facebook.com/pages/The-World-After-NightmareFallout-Fiction/397822630229726)

Stormwind
23rd March 2012, 16:08
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: ธวัชชัย ไพรวัลย์
ชื่อเล่น: ตั้ม
เพศ: ชาย
อายุ: 25
รูปร่างหน้าตา:

<a href="http://pic.free.in.th/id/b867c8864e24af47891c10e9ebb9a5d8" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ia/rapin_pisek.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>


นิสัยโดยละเอียด: รูปร่างเล็กและผอมเกร็ง แต่คล่องแคล่วว่องไว ผิวคล้ำและใบหน้าไม่เคยปรากฏรอยยิ้ม มีฝีมือในการยิงปืนและธนูแม่นยำ ผิวหนังภายในเสื้อนั้นลายพร้อยไปด้วยอักขระอาคมที่สักมาจากพระธุดงค์ซึ่งเขาเชื่อว่าทำให้เขาแคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ ชื่นชอบที่จะสูบบุหรี่ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ว่า “แค่เสพเพื่อให้กลิ่นและรสช่วยคลายเครียด”
มีสัญชาติญาณการ ‘ล่า’ สิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ดูเหมือนมีความถนัดในทุกๆด้านแต่ยกเว้นด้านการจีบหญิง ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวขอยอมแพ้ ยามว่างชอบที่จะหยิบเอาสมุดปกหนังขึ้นมาเขียนนิยายที่เกี่ยวกับโรคระบาด หรือง่ายๆคือ ซอมบี้ นั่นเอง




สิ่งที่ชอบ: ทำความสะอาดปืน .460 เวเธอร์บี ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ทวด ‘รพินทร์ ไพรวัลย์’, สูบบุหรี่ ‘มาร์ล โบโร่ แบล๊คเมนทอล’ ซึ่งถือเป็นของหายากและมีแค่ในตลาดมืด, แต่งนิยายที่ไอราวัณแซวว่า “ไม่เคยวางขายซักที”, อยู่เงียบๆคอยจับตามองความเคลื่อนไหวในป่า
สิ่งที่เกลี่ยด: ความเย็นชาของตัวเอง
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: ตามหาขุมสมบัติ “เพชรพระอุมา” ที่มีเรื่องเล่ากันมาเกี่ยวกับประวัติของปู่ทวด
อื่นๆ: สืบเชื้อสายของรพินทร์ ไพรวัลย์ นายพรานผู้เก่งฉกาจแห่งยุคมาโดยตรง ทำให้เขามีสัญชาติญาณการล่าสัตว์ สะกดรอย และหาจุดตายอย่างแม่นยำ และสามารถใช้ปืนไรเฟิล .460 เวเธอร์บี ที่เขาสามารถใช้ได้เพียงผู้เดียว เนื่องจากมีแรงถีบมหาศาลขนาดคนตัวใหญ่ๆยังยอมแพ้ แต่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นตัวของเขานัก เพราะมักอยู่คนเดียวในป่า


ชื่อ: ไรเฟิ่ล .460 เวเธอร์บี แมกนั่ม
ขนาดกระสุน กระสุนชนิด 11.6 มม. (.458 นิ้ว)
ความจุแม็กกาซีน: บรรจุมือแบบไรเฟิ่ลโบราณ

รูปร่าง:
<a href="http://pic.free.in.th/id/c6c42942eb1474e7dca260e53b736ddb" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/is/i2460.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
ปลีกย่อย : ใช้หัวกระสุนในขนาด 500 เกรน ความเร็วของวิถีกระสุนประมาณ 2,600 ฟิต/วินาที เกิดแรงปะทะ 7,507 ฟุต-ปอนด์ หรือประมาณ 4 ตัน

Rex
23rd March 2012, 18:53
ลงตัวละครแล้วนะครับ ขอสัญชาติอื่นนะครับได้ไหมเอ่ย

LoveSeeker
23rd March 2012, 20:04
ลงตัวละครแล้วนะครับ ขอสัญชาติอื่นนะครับได้ไหมเอ่ย

อนุมัติเฉพาะรัสเซียครับ ขอเป็นรัสเซียแท้นะขอรับ งั้นผมขอใช้แค่ตัวแดงนะครับ

Rex
23rd March 2012, 20:52
ได้หมดล่ะ ขอไม่ไทยเหมือนชาวบ้าน

Jomzababin
24th March 2012, 16:28
แล้วจะมาสมัครน่ะท่าน....

Jardet
25th March 2012, 12:59
ชื่อ-สกุล: เจิดจรัส ขจัดภัย
ชื่อเล่น:เพลิง
เพศ:ชาย
อายุ: 19
รูปร่างหน้าตา:
หน้าตาหล่อใช้ได้ ร่ายกายโดยรวมสมส่วน สูง 175 ผมสั้นดำ
นิสัยโดยละเอียด:เป็นคนเฮฮา รักเพื่อนฝูง ไม่ชอบหาเรื่องใส่ตัวแต่ถ้าเห็นใครลำบากเป็นต้องช่วยเสมอ เผ่นอย่างเก่ง ทำอาหารเก่ง อารมณ์ดีตลอดเวลา โกรธยาก






สิ่งที่ชอบ:อาหารอร่อยๆ การผจญภัย
สิ่งที่เกลี่ยด:กลิ่นเลือดและซากศพ(เกลียดแต่ไม่ได้กลัว) คนเลว
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:ช่วยชีวิตคน
อื่นๆ:ชอบใช้ปืนพกคู่(เล็งหัวแบบแม่นบ้างไม่แม่นบ้าง)และมีดสั้น(ย่องเสียบ)

Jardet
25th March 2012, 13:16
สำหรับคนที่อยากส่งสัตว์ประหลาดให้เหล่าตัวเอกเชือด โดยสัตว์ประหลาดเปล่านี้ คือระดับทั่วไปนะครับ ไม่ใช่ระดับบอส เพราะอย่างนั้นอย่าครีมาโหดร้ายจนเกินไปล่ะ

ชื่อ: Worm
ประเภท: สัตว์กลายพันธุ์
ที่อยู่อาศัย เขตทะเลทราย
รูปร่างหน้าตา
เป็นหนอนขนาดยัก แรกเกิดขนาดร่างกายจะประมาณ ยาว1ม. กว้าง 0.45ม. โตเต็มวัยขนาดไม่แน่นอน ขนาดร่างกายจะเพิ่มขึ้นตามอายุปีละ 1เมตร (ยิ่งอายุเยอะยิ่งโหด)
ออกไข่เดือนละ20ฟองและตัวแม่จะใช้เวลาฟักไข่20วันแล้วจึกออกหาอาหารด้วยความหิวสุดๆ ส่วนเนื้อของมัน ย่างแล้วอร่อยใช้ได้

ลักษณะนิสัย ถ้าไม่หิวหรือไม่มีใครไปทำให้มันตื่นจะจำศีลอยู่ใต้ดินโดยจะอยู่รวมกันเป็นฝูงรวมกันฝูงละ2-5ตัว

ลักษณะการต่อสู้จะพุ่งขึ้นฟ้าอย่างแรกจากใต้ดินแล้วพุ่งเข้าหาเหยื่อ

อาวุธ เขี้ยวอันแหลมคม
จุดเด่น เมื่อตัวที่มีขนาดร่างกายใหญ่ยักษ์ขยับจะเกิดความรู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว

nakiann123
25th March 2012, 18:18
จะเริ่มตอนไหนหว่า หึ หึ หึ ~

LoveSeeker
25th March 2012, 18:24
จะเริ่มตอนไหนหว่า หึ หึ หึ ~

ตอนที่เห็นนั่นแหละ หึ หึ หึ~~~ (/me โดนตบ 55+) :p

โดยทั่วไปผมลงเดือนละตอนแค่นั้นแล~~~ 555+

nakiann123
25th March 2012, 19:17
ตอนที่เห็นนั่นแหละ หึ หึ หึ~~~ (/me โดนตบ 55+) :p

โดยทั่วไปผมลงเดือนละตอนแค่นั้นแล~~~ 555+

เดี๋ยวจับย่างซะเลย หึ หึ หึ ~

LoveSeeker
25th March 2012, 20:10
อยากอ่านงั้น....เล่นเกมกันดีกว่า
ให้ทุกคนบอกชื่อปืนในรูป พร้อมประเทศผู้ผลิตครับ
ถ้าตอบถูก ผมลงนิยายให้ทันที มีเวลาให้ถึงวันพรุ้งนี้เวลา1800นาฬิกาขอแค่คำตอบที่ถูกแค่คนเดียวครับ
แต่ถ้าตอบผิด... ^^~~
ผมจะลงนิยายวันที่1เดือนหน้าเวลาประมาณ 1000นาฬิกานะครับ โชคดีครับทุกคน
http://image.ohozaa.com/i/b1d/8brzMy.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/vYgvHigywSjwoxWg)

asalost
25th March 2012, 20:38
ชื่อ-สกุล: นคราช พรีทรอฟ (ลูกครึ่ง ไทย รัชเซีย ชื่อรัชเซียคือ นิโคไล พรีทรอฟ)
ชื่อเล่น:นิค
เพศ:ชาย
อายุ: 35
รูปร่างหน้าตา:ลูกครึ่งไทยรัซเซีย ผิวขาวออกคล้ำแดงนิดๆ ตัวสูง ผมดำสนิดเหมือนคนไทย ตายสีเขียวขุ่นๆ มีเคราเล็กน้อย แต่ตัวชุดรัดรูป ใส่เกราะที่ตัว คล้ายๆกับสายลับ เวลาอ่านหนังสือบางทีก็ใส่แว่น เพราะตาไม่ดีแก่แว้ว 555+

นิสัยโดยละเอียด:มีความเป้นผู้นำสูง มีประสปการ์ณในการรบและแทรกซึม เคยเป็นอดีตสาบลับของรัชเซีย และภาระกิจนี้ถูกส่งมาให้ช่วยเหลือทางประเทศไทย มีความเป็นคุณธรรมสูง แต่เค้าก็ปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น ค่อนข้างเงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว แต่ลุยก็ลุยเป็นทีม บางคนบอกว่าเค้าฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปกว่า 500 คน ทำให้เค้าเป็นคนเก็บตัวเงียบแบบนี้ นิโคไล ชอบบอกกับตัวเองเสมอ ว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่สภาพการ์ณบีบบังคับให้เค้าจ้องหยุดความรุนแรงด้วยการใช้ความรุนแรง นิโคไลไม่ดืมเหล้าและสูบบุหรี่ เค้าแทบจะไม่เค้าสถานเริงรมเลยด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เค้าลืมอดีตและคราบเลือดที่เปื้อนหัวใจของเขาได้

สิ่งที่ชอบ: แกะสลักเศษไม้เป็นรูป กวางทำท่าทางต่างๆ

สิ่งที่เกลี่ยด: คนไม่รักษาคำพูด และ พวกทรยศ ไม่รักพวกพ้อง

สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:อยากกอดเมียและลูกของเค้า แต่ถึงกระนั่นก็ทำไม่ได้เพราะพวกเค้าได้จากไปแล้ว

หนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148 แล้วหัวหน้าหน่วยแทรกซึมข้าศึก

อาวุธที่ใช้คือ FN Five Seven คู่ โดยติดมีดไว้ที่ปากกระบอกทั้งสองข้าง และยังเชี่ยวชาญการใช้มีด(กริด)คู่เป็นอย่างมาก ส่วนปืนอีกชนิดที่ชิบใช้คือปืนจากชาติพ่อของเค้าเอง AK

LoveSeeker
25th March 2012, 20:49
ชื่อ-สกุล: นคราช พรีทรอฟ (ลูกครึ่ง ไทย รัชเซีย ชื่อรัชเซียคือ นิโคไล พรีทรอฟ)
ชื่อเล่น:นิค
เพศ:ชาย
อายุ: 35
รูปร่างหน้าตา:ลูกครึ่งไทยรัซเซีย ผิวขาวออกคล้ำแดงนิดๆ ตัวสูง ผมดำสนิดเหมือนคนไทย ตายสีเขียวขุ่นๆ มีเคราเล็กน้อย แต่ตัวชุดรัดรูป ใส่เกราะที่ตัว คล้ายๆกับสายลับ เวลาอ่านหนังสือบางทีก็ใส่แว่น เพราะตาไม่ดีแก่แว้ว 555+

นิสัยโดยละเอียด:มีความเป้นผู้นำสูง มีประสปการ์ณในการรบและแทรกซึม เคยเป็นอดีตสาบลับของรัชเซีย และภาระกิจนี้ถูกส่งมาให้ช่วยเหลือทางประเทศไทย มีความเป็นคุณธรรมสูง แต่เค้าก็ปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น ค่อนข้างเงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว แต่ลุยก็ลุยเป็นทีม บางคนบอกว่าเค้าฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปกว่า 500 คน ทำให้เค้าเป็นคนเก็บตัวเงียบแบบนี้ นิโคไล ชอบบอกกับตัวเองเสมอ ว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่สภาพการ์ณบีบบังคับให้เค้าจ้องหยุดความรุนแรงด้วยการใช้ความรุนแรง นิโคไลไม่ดืมเหล้าและสูบบุหรี่ เค้าแทบจะไม่เค้าสถานเริงรมเลยด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เค้าลืมอดีตและคราบเลือดที่เปื้อนหัวใจของเขาได้

สิ่งที่ชอบ: แกะสลักเศษไม้เป็นรูป กวางทำท่าทางต่างๆ

สิ่งที่เกลี่ยด: คนไม่รักษาคำพูด และ พวกทรยศ ไม่รักพวกพ้อง

สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:อยากกอดเมียและลูกของเค้า แต่ถึงกระนั่นก็ทำไม่ได้เพราะพวกเค้าได้จากไปแล้ว

หนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148 แล้วหัวหน้าหน่วยแทรกซึมข้าศึก

อาวุธที่ใช้คือ FN Five Seven คู่ โดยติดมีดไว้ที่ปากกระบอกทั้งสองข้าง และยังเชี่ยวชาญการใช้มีด(กริด)คู่เป็นอย่างมาก ส่วนปืนอีกชนิดที่ชิบใช้คือปืนจากชาติพ่อของเค้าเอง AK

ส่วนสี่น้ำเงินมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องครับ ขอเอาออก

ไม่อนุญาติให้ในประวัติมีตำแหน่งทางทหารครับ

ในแบบฟอร์มไม่มีสวนของอาวุธที่ใช้ครับผม

Stormwind
26th March 2012, 10:18
รอ รอ รอ...... รอเธอกลับมา...แต่ไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่

ตอบคำถามเรื่องปืนครับ

ปืนในภาพคือ MK. 777 ผลิตโดยสหรัฐ

รู้มาเท่านี้ ถูกไม่ถูกไม่รู้ครับ แหะๆ

LoveSeeker
26th March 2012, 10:25
http://image.ohozaa.com/i/3e6/mxUq5N.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/vYlee0EGcnBQgFPy)


บทที่1 : วันธรรมดา
มันเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว หลายร้อยปีที่โลกถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของผู้อยู่อาศัย เมื่อมนุษย์มาถึงจุดสูงสุด ก็ย่อมตกลงมาเป็นธรรมดา จากตึกสูงเสียดฟ้า กลายเป็นฝุ่นผงในพริบตา อารยธรรมอันเจริญรุ่งเรืองหายลับไป มนุษย์ก้าวเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง หลายร้อยปีมาแล้วที่มหาระเบิดลูกแรกได้เกิดระเบิด หลายร้อยปีมาแล้วที่มนุษย์ต่อสู้ดิ้นรนอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย ไร้ซึ่งความหวัง จนวันหนึ่ง วันที่กลุ่มคนที่ไร้ชื่อเสียง กลุ่มคนที่แสนธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ แต่โชคชะตาของพวกเขานั้นไม่ธรรมดา เพราะพวกเขา คือความหวังของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ความหวังที่จะช่วยโลกอันบอบช้ำใบนี้

สุริยะ สาดแสงกล้า ชายหนุ่มอายุ19ผู้เพิ่งผ่านหลักสูตรนักเรียนทหารจากสถาบันหลังสงครามมาได้ไม่นาน เขาเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาด้วยนัยน์ตาอันคบกริบและใบหน้าทีได้รูป สุริยะเป็นทหารที่ถูกฝึกมาให้ใช้อาวุธประเภทปืนกลประจำหมู่รบซึ่งเพื่อนๆทุกคนให้การยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ยิงปืนกลประจำหมู่ได้ฉลาดที่สุด เขาได้คะแนนเป็นที่หนึ่งในวิชายิงกดหัว และยิงคุ้มกัน อีกทั้งยังจบจากสถาบันด้วยเกียรตินิยมอีกด้วย

สุริยะหยิบเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวจากเตียงชั้นล่างมาสวมทับเสื้อยืด สุริยะแต่งตัวด้วยกางเกงขายาวสีเขียวเข้มเช่นเดียวกับแจ็คเก็ต ร้องเท้าคอมแบทสีดำไม่ได้รับการดูแลมานานจนไม่มีความเงาวาวเหลือเลยแม้แต่น้อย ซองปืนพกติดอยู่กับเข็มขัดหนังสีดำที่เอวขวา เขายืนอยู่ในห้องที่เขาอาศัยอยู่ร่วมกันกับเพื่อนของเขา ห้องนี้เป็นห้องเล็กๆ เตียงสอยชั้นอยู่ที่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นประตูออกไปยังทางเดิน ใกล้กลับประตูเป็นที่อยู่ของตู้เก็บเสื้อผ้า ซึ่งเขาและเพื่อนแบ่งกันคนล่ะครึ่ง ฝั่งตรงข้ามของตู้เสื้อผ้าคือประตูที่นำไปสู่ห้องน้ำ

สุริยะหยิบปืนพกอัตโนมัติกระบอกหนึ่งขึ้นจากเตียง ใส่ซองกระสุน ปลดค้างไสลด์เพื่อให้กระสุนเข้าสู่ลำกล้อง ขึ้นห้ามไกและลดนกปืน ก่อนจะเก็บปืนเข้าสู่ซองปืนที่เอวขวา “นัดเดทสาวรึไง” เสียงห้าวๆทักจากเตียงชั้นบน เจ้าของเสียงนั้นคือธีระพล คนกล้า เพื่อนที่สนิทที่สุดของสุริยะนั่นเอง ธีระพลเป็นคนตัวสูงพอพอกับสุริยะ แต่เจ้าเนื้อและดูร่างอวบกว่าเล็กน้อย ผมลองทรงนั้นทำให้เขาดูเป็นคนธรรมดา แต่เขานั้นไม่ธรรมดาเลย ธีระพลเป็นคนใจร้อน มุทะลุ ระห่ำ เป็นหนึ่งในพลปืนกลประจำหมู่ที่ดีทีสุด ด้วยความสามารถในการข่มขู่ศัตรู ด้วยเสียงตพะโกนกดด่า และการยิงที่จะยิงจนปืนขัดลำกล้องหรือไม่มีกระสุนให้ยิง

“ใช่” สุริยะตอบสั้นๆก่อนจะเดินไปยังกระจกที่ติดกับประตูหน้าห้องน้ำ

“สิบเอก สุริยะ” พลพูดด้วยน้ำเสียงทีจริงทีเล่น “หน้า พร้อม ผม พร้อม เครื่องแต่งกาย พร้อม ขอการอนุญาตออกเดทครับ”

“ไม่ต้องมาล้อเลียนเลย” สุริยะพูดในขณะที่จัดทรงผมของตนให้เข้าที่ “อยู่บ้านทำตัวดีๆล่ะ อย่าไปเยี่ยวรดกำแพงนะ” เขามองไปยังพลที่กำลังมองหน้าเขา สุริยะตีคิ้วใส่พลก่อนเดินออกจากห้อง ทางเดินภายในอาคารพักอาศัยเต็มไปด้วยประตูห้อง และมีบันใดที่สุดทางเดิน อาคารพักอาศัยเป็นอาคารคอนกรีตห้าชั้น ทุกชั้นเป็นที่พักอาศัยของบุคลากรทางทหาร สุริยะเดินไปตามทางเดิน ก่อนจะลงบันใด เขาและธีระพลอาศัยอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคาร เขาออกจากอาคาร ผ่านทหารยามที่สะพายปืนเล็กยาวจู่โจมสองนาย ก่อนจะมุ่งทางไปทางตะวันตกของศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย

ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย คือศูนย์ที่ถูกตั้งขึ้นโดยรัฐบาลรัสเซีย แค่ละศูนย์จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในเรื่องของอาวุธ กระสุน ยานพาหนะ และยารักษาโรค แต่ว่าในทุกศูนย์ จะมีอำนาจการตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ขึ้นกับใคร แต่ว่าการตัดสินใจจะต้องไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลรัสเซีย

กำแพงสูงสิบสองเมตรตั่งตระหง่านอยู่รอบด้านของศูนย์ ตรงกลางของกำแพงทิศตะวันตกและตะวันออกคือประตูเหล็กกล้าบ้านใหญ่ สูงสิบเมตร หนาสามสิบเซนติเมตร ประตูเปิดปิดด้วยระบบไฮโดรลิค ทหารยามในเครื่องแบบพรางป่าพร้อมอาวุธประจำกายเดินตรวจตาบนกำแพง หอคอยสูงสิบหาเมตรพร้อมปืนกลหนักขนาด20 มิลลิเมตร ตั้งตามกำแพงเป็นระยะ

สุริยะเดินมาจนถึงประตูตะวันตก ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักของเขาไม่มาก เวลาเย็นแบบนี้ ประตูตะวันตกจะมีการสัญจรหนาแน่นมาก เพราะทหารต้องการลงไปยังเขตอยู่อาศัยเพื่อซื้อหาอาหารและของใช้จำเป็น แฟนสาวของเขามารอเขาอยู่ก่อนแล้ว เธอเป็นเด็กน่ารัก ตัวผอมสูง ผมตรงยาวประบ่า นัยน์ตาสีน้ำตาลใต้แว่นสายตากรอบสีเหลี่ยมมองมายังสุริยะด้วยสายตาสบายใจ ริมฝีปากบางๆส่งยิ้มจางๆให้กับเขา เขารีมเดินเข้าไปให้ราตรีกาล แฟนสาวอย่างรวดเร็วพลางยิ้ม ในหัวใจของเขามีเพียงความรู้สึกดีใจอยู่เล็กๆ เพราะเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้พบหน้ากับย่างนี้

“ไง เจ้าหญิง” สุริยะทักแฟนสาวและมองดูชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนที่ดูเข้ากับเธอเป็นอย่างดี “ไม่ได้เจอกันนาน” เหมือนเวลาหยุดลงทางกลางความวุ่นวาย ทั้งสองสบตากัน แม้ว่ามันเป็นเวลาไม่กี่วินาที แต่ก็เหมือนกับนานเป็นปี

“พี่ซันคะ” หญิงสาวเอ่ยเบาๆ “เจ้าหญิงมีอะไรจะบอกค่ะ” เธอจับมือของสุริยะเอาไว้ทั้งสองข้าง “เราเป็นแค่พี่น้องกันเถอะ” ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความว่างเปล่าทันทีที่สิ้นเสียงของเธอ สุริยะไม่เคยคิด ไม่เคยเตรียมใจว่าวันหนึ่ง เธอจะพูดคำนี้ เหมือนดั่งเข็มเป็นล้านๆเล่มทิ่มแทงหัวใจของเขาในคราวเดียว “หนูยังลืมคนเก่าไม่ได้” คำพูดประโยคถัดมาเหมือนช่วยฝังเขาทั้งเป็น “หนูจะกลับไปคืนดีกับกล้าค่ะ” เธอปล่อยมือของสุริยะซึ่งเวลานี้เหมือนดั่งถูกสะกดโดยคำพูดของราตรีกาล เธอหันหลังและเดินผ่านประตูออกไปยังเขตอยู่อาศัย ทิ้งให้สุริยะอยู่คนเดียวกับความคิดที่ว่างเปล่า จิตใจที่เจ็บปวด เขาหันหลังกลับ คิดเพียงว่าจะไป ไปให้ไกลที่สุด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เขาผ่านอาคารพักอาศัย ผ่านศูนย์กระจายข่าว ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าคลังแสง นี่คงเป็นที่แห่งเดียวที่เขาสามารถทำใจให้สงบได้ เขาเดินเข้าไปภายใน ห้องแรกเป็นห้องเล็กๆหลังห้องมีโต๊ะตัวหนึ่งและทหารยามพร้อมอาวุธอีกสองนาย สุริยะเดินผ่านเข้าไปยังห้องถัดไป เขาเลี้ยวซ้ายเดินไปตามทางเดิน จนไปถึงประตูอีกบาน ครั้งนี้มีทหารยามสี่นายเฝ้าอยู่หน้าประตู หนึ่งในนั้นคือนายทหารชุดสีกรมทากพร้อมหมวกแก๊ปลาดตระเวน สุริยะเดินตรงไปหาทหารเหล่านั้นพร้อมนำสมุดเอกสารยืนยันตัวตนออกจากระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต เขายืนมันให้นายทหารก่อนที่นายทหารวัยกลางคนจะพยักหน้าให้เขา เขารับเอกสารคืนและเดินเข้าไปในห้อง

ล็อกเกอร์มากมายเรียงรายอยู่ภายในห้อง แต่ละล็อกเกอร์มีหมายเลขของมัน นับตั้งแต่001 เขาเดินไล่ตามแถวของล็อกเกอร์จนถึงล็อกเกอร์หมายเลข306 เขาไขกุญแจเปิดล็อกเกอร์ เวลานี้จิดใจของเขากำลังคิดฟุ้งซ่านมากมายไม่ว่าจะเป็นความทรงจำเก่าๆ เวลาที่มีความสุข หรือแม้แต่วิธีการที่จะนำเธอกลับมา เบานำปืนกลเบาคาราครอฟ เค-17คอมแพ็คออกมาจากตู้พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด เขาสะพายปืนไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดในมืออีกข้างและเดินไปยังโต๊ะเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้ เขาวางปืนบนโต๊ะ นั่งลงและเริ่มถอดอุปกรณ์ทีละชิ้นจากปืน เขาเริ่มทำความสะอาด เริ่มตั้งแต่ใช้แส่ขัดลำกล้องปืน ปัดฝุ่น เช็ดชิ้นสวนภายใน ลงน้ำมันและสารหล่อลื่น จากนั้นก็ประกอบปืนกลับเข้าที่ เขากระชากลูกเลือนเพื่อตรวจสอบความเรียนร้อยก่อนจะขึ้นห้ามไก

“นั่งด้วยได้ไหม” เสียงใส่ๆเสียงหนึ่งดังจากข้างหลัง สุริยะหันไปมองเจ้าของเสียงอันน่าหลงใหลนั้น นิศารัตน์ แม็คทราวิส หญิงสาวพลแม่นปืน ผู้ที่มีคะแนนสูงสุดในสถาบันหลังสงคราม ตัวของเธอค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหญิงสาวคนอื่น อีกทั้งรูปร่างของเธอนั้นยังดูดีไม่แพ้หญิงสาวคนใด ทั้งส่วนโค้งเว้าหรือหน้าอกหน้าใจ ใบหน้าอันชวนลุ่มหลงบาดใจชายหลายๆคนในศูนย์ ริมฝีปากอิ่มเอิบ เข้ากับสันจมูกที่ได้รูปและนัยน์ตาที่กลมโต ผมสีบรอนซ์ทองถูกมัดรวบไว้ด้านหลัง เธออยู่ในชุดเสื้อแจ๊คเก็ตลายพรางป่า และกางเกงขายาวลายเดียวกัน ร้องเท้าคอมแบ็ทสีดำนั้นไม่มันเงา แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน เข็มขัดของเธอเป็นที่อยู่ของปืนสามกระบอก คือปืนพกอัตโนมัติที่เอวขวา และปืนกลมือสองกระบอกที่หลัง สายสะพายของปืนไรเฟิลซุ่มยิงอัตโนมัติพาดผ่านไหลขวาของเธอ เสื้อของเธอถูกสวมทับด้วยเกราะอ่อนสีกรมทาก บนเวสเต็มไปด้วยกระเป๋าใส่ซองกระสุนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีระเบิดมืออีกสองลูก

“นั่งสิ” สุริยะพูด เธอไม่รอช้าเดิมเขามาหาและว่างปืนไรเฟิลลงบนโต๊ะใกล้สุริยะ

“ฉันจะไปรับกระสุน เอาอะไรไหม”

“5.45 240นัดกับซองกระสุน4ซอง”

“รอนี่นะ”

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เธอก็กลับมาพร้อมลังกระสุน และขวดโคล่าสองขวด เธอวางลังแลโคล่าหนึ่งไว้ตรงหน้าของสุริยะ “เป็นอะไรไปล่ะ หน้าตาเศร้าๆ” เธอถามขณะหยิบกล่องกระสุน 7.62*51มม. ออกจาลัง เปิดกล่อง แทกระสุนออก และยัดกรุสุนใส่ซองกระสุนปืนไรเฟิลของเธฮ

“รู้ดีนะแก” สุริยะตอบพร้อมหยิบของบางอย่างกล่องอุปกรณ์ทำความสะอาดและใส่ลงไปที่ปากซองกระสุนแบบกล่องสี่เหลี่ยมของเขา มันเข้าได้พอดีกับซองกระสุนเขาหยิบเอากระสุนจากในกล่องซึ่งกระสุนถูกใส่กับตับกระสุนเอาไว้แล้ว เขานากระสุนสิบนัดมาทางให้ตรงปากซองกระสุนและกดเข้าไปอย่างแรง กระสุนทั้งสอบนัดเรียงตัวเข้าไปอยู่ในซองกระสุนอย่างง่ายดาย

“เครื่องช่วยบรรจุ” นิศารัตน์พูด “ไปหามาจากไหน”

“กองคาราวาน อาทิตย์ที่แล้ว” สุริยะตอบในขณะที่ยังคงบรรจุกระสุนเข้าซองกระสุนต่อไป “ฉันอกหัก” เขาพูดเสี่ยงเอื่อย

“หา!”นิศารัตน์ร้องขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ “เกิดอะไรขึ้น”

“เธอรักษาสัญญา”สุริยะพูดเสียงเรียบเฉย “เธอจะไม่มีคนใหม่” เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับนิศารัตน์ นัยน์ตาของเขากำลังบอกกับเธอ บอกเธอว่าใจของเขานั้นเจ็บแค่ไหน ปวดร้ายแค่ไหน ท้อแค่ไหน สิ้นหวังแค่ไหน “แต่เธอแค่กลับไปหาคนเก่า”

นิศารัตน์โอบไหล่ของสุริยะ เธอรู้ว่าเวลานี้ไม่มีคำพูดใดที่สามารถปลอบประโลมใจของชายหนุ่มได้ ไม่มีแม้สิ่งใดที่จะทำให้อาการปวดร้าวชายหนุ่มทุเลาลง “แกต้องลืมมันให้ได้นะ” เธอพูด เธอไม่อาจหาคำพูดสวยหรูใดๆมาปลอบใจเขาได้ เธอรู้ รู้จากสายตาของเขา ว่าแผลนั้นลึกเกินกว่าจะที่เธอจะช่วยเยียวยาได้ “แกต้องเดินต่อไป”

“ทำไมโชคชะตาต้องรังแกฉันด้วย” เขาพูดก่อนจะกับไปใส่กระสุนปืนเข้าสู่ซองกระสุนที่สอง นิศารัตน์ล้วงเอาที่เปิดขวดออกมาจากกระเป๋าเวส และเปิดขวดโคล่าให้สุริยะ “ฉันไม่เข้าใจ”

“แกไม่จำเป็นต้องเข้าใจ” เธอพูดและเปิดขวดของเธอ “แต่แกต้องยอมรับมัน”

“แกเคยบอกฉัน ว่าแกชอบคนๆหนึ่ง แต่ว่าคนๆนั้นมีแฟนแล้วใช่ไหม”

“ใช่” นิศารัตน์ตอบและยกขวดขึ้นจรดปาก

“แกทำใจนานรึเปล่า” นิศารัตน์ดื่มโคล่าเข้าไปสอง-สามอึก ก่อนจะตอบเพื่อนของเขา

“จนถึงวันนี้ ฉันยังทำใจไม่ได้เลย” เธอยกขวดขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา และจ้องมองดูมันเหมือนกำลังจ้องดูใบหน้าคนที่เธอรัก “ดื่ม แต่ความเศร้าของเรา” เธอพูดและก็ดื่มโคล่าเหมือนกับดื่มสุราอย่างไรอย่างนั้น แม้ว่าสุริยะอยากจะดื่มเหล้ามากกว่าที่จะดื่มโคล่าก็ตาม แต่เขาจำเป็นต้องมีสติ มีสติในเวลาที่เขาอ่อนแอที่สุด เขายกขวดขึ้นจรดปากและดื่ม เขาดื่มอย่างไม่หยุด ดื่มจนหมดทั้งขวดในคราวเดียว นิศารัตน์มองดูเขาพร้อมกับขำในลำคอ

“ขำอะไรวะแก” สุริยะบรรจุกระสุนซองที่สองจนเสร็จ และเริ่มบรรจุซองที่สาม

“โคล่านะเว้ยไม่ใช่เหล้า ฮา ฮาฮ่า” เธอพูดและวางขวดที่เหลือโคล่าอยู่ครึ่งหนึ่งลงบนโต๊ะ “ค่อยๆดื่มก็ได้” เวลาของการแลกเปลี่ยนความทุกข์และเยียวยาแผลใจของกันและกันก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงประกาศจากเครื่องขยายเสียงดังขึ้น ‘โปรดฟัง ถึงบุคลาการทางทหารทุกคน ที่ไม่มีหน้าที่ประจำกะยาม มีอาวุธหนักอยู่ใกล้ตัว และกำลังอยู่ในบริเวณประตูทิศตะวันออก ไปรายงานตัวกับ พันโทอโลน อลองเกอร์โดยทันที’ สุริยะเร่งความเร็วของการบรรจุกระสุนจนซองกระสุนซองที่สี่ถูกบรรจุจนเต็มอย่างรวดเร็ว

“ฟังดูเหมือนว่าเขาเรียกเรานะ” สุริยะพูดพร้อมใส่ซองกระสุนเข้าตัวปืน และเก็บซองอื่นๆไว้ในกระเป๋าที่ติดเข็มขัดด้านหลัง “ไปกันเถอะ” เขาดึงคันรั้งจนสุดและปล่อยคันรั้ง

“ตกลง” นิศารัตน์พูดและสะพายปืนเล็กยาวของเธอ ทั้งสองลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไปจากคลังแสง ทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานนักในการไปถึงประตูตะวันออก ทหารในเครื่องแบบพรางป่าสองนาย และในเครื่องแบบชุดทำงานเต็มยศหนึ่งนายยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว ชายในเครื่องแบบเต็มยศนั้นเป็นใครไปไม่ได้ เขาคือพันโทอโลน เขาเป็นคนตัวสูง ศีรษะล้าน ร่างกายกำยำ มีรอยแผลเป็นเป็นทางยาวตั้งแต่กลางคิ้วซ้าย ผ่านตา จนไปถึงกลางแก้ม ไม่ว่าสิ่งใดที่สร้างรอบแผลเป็นไว้ มันทำให้ตาข้างซ้ายของเขาบอดด้วย หมวกแก๊ปลาดตระเวน มีเครื่องหมายยศเป็นดาวลายปักสองดวงเรียงกันในแนวนอน อีกสองคนเป็นทหารประจำการธรรมดา ทั้งสองมีเกราะอ่อนสีดำสวมทับอยู่ รวมทั้งยังสวมหมวกกันกระสุนที่คลุมด้วยผ้าลายพรางป่า

“ซัน นิศ”อโลนพูดเมื่อทั้งสองเดินเข้าไปหาพร้อมๆกับที่ทหารนายหนึ่งขับรถเข้ามา รูปร่างของมันดูคล้ายรถจีพอย่างมาก “ไม่นึกว่าจะเป็นพวกเธอ” เขาหันไปกางแผนที่บนฝากระโปรงรถ “พลทหาร นี่ซัน และนิศ” เขาแนะนำทั้งสองให้ทหารประจำการรู้จัก “นักเรียนที่ดีที่สุดในสถาบัน” เขามองดูแผนที่เหมือนกำลังหาบางอย่าง “ซัน ริน นี่ จ่าสิบโท อังเดร มิยาโนวิค เชฟชูคอฟ เรียกว่าเชคอฟก็ได้ เขาเป็นหัวหน้าปฏิบัติการ” เขาพูดและแบมือไปทางเชคอฟ เขาเป็นคนรูปร่างใหญ่ ตัวสูง รอยสักตามตัวดูน่ากลัว ใบหน้าที่ได้รูป สันจมูกที่โดงตามสไตล์ยุโรป มีเพียงผมสีชมพูที่โผล่ออกจากหมวกกันกระสุนเท่านั้นที่ดูขัดกับบุคลิกของเขา “อีกคนคือจ่าสิบตรี ไอราวัณ เหนือท้องนภา ครูสอนวิชาเครื่องยิงลูกระเบิด พวกเธอก็น่าจะรู้จักอยู่แล้วนิ” เขาแนะนำคนที่เหลือ ไอราวัณเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่ไม่ต่างจากเชคอฟ “เรามีสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดี กองคาราวารจากทางเหนือถูกซุ่มโจมตีที่นี่ เขาชี้จุดบนแผนที่ ศัตรูคือโจร ไม่ทราบจำนวนและสังกัด คาดว่ามีอาวุธครบมือรวมถึงยานยนต์หุ้มเกราะ ภารกิจง่ายมาก ฆ่ามัน แล้วคุ้มกันกองคาราวานให้มาถึงที่นี่อย่างปลอดภัย”

“ยานยนต์หุ้มเกราะของเราล่ะครับ” เชคอฟภามขึ้น

“กำลังส่งกำลังบำรุงไปที่ฐานยิงฟีนิกซ์ เราก็เลยเหลือรถเคลื่อนที่เร็วแบบนี้ ผมแนะนำให้พวกคุณออกเดินทางได้แล้ว ผมไม่มั่นใจว่าทหารรับจ้างจะต้านทานพวกโจรได้นานแค่ไหน”

“รับทราบ” ทั้งสี่รับก่อนกระโดดขึ้นรถ โดยสุริยะรับหน้าที่ขับรถ

เขากลับรถและขับผ่านประตูก่อนจะเลี้ยวขวาไปตามถนนสี่เลนส์ รถเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เชคอฟและไอราวัณเตรียมอาวุธของตนเพื่อให้พร้อมกับการปะทะ โดยที่อาวุธของเชคอฟเป็นปืนไรเฟิลรูปร่างเก้งก้างที่ชื่อ คาราครอฟ เออาร์2024 ส่วนของไอราวัณเป็นปืนไรเฟิลโบราณรุ่นเอ็ม4พร้อมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม203 รถเลี้ยวออกจากถนนสี่เลนส์เข้าสู่ถนนใหญ่ สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าหนาทึบที่กลายพันธ์จนมีลำต้นใหญ่กว่าปกติมาก พวกเขาขับไปครูหนึ่งก่อนที่เชคอฟจะบอกให้จอด ทั้งสี่ช่วยกันซ่อนพรางรถก่อนออกเดินเท้า เสียงการยิงต่อสู้กันดังสนั่น

พวกเขาเดินฝ่าเข้าไปในป่าโดยมีเชคอฟเดินนำพวกเขา เสียงปืนสงบลงแล้ว นั่นคือสัญญาณบอกให้พวกเขาเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม เพราะมันเป็นไปได้ว่าทหารรับจ้าถูกจัดการหรือกลุ่มโจรถูกจัดการก็ได้ พวกเขามาถึงจุดที่กองคาราวานถูกโจมตี มันเป็นสามแยก มีเส้นทางคอนกรีตเล็กๆ แยกออกไปจากถนนใหญ่ รถของทหารรับจ้างหงายเอียงอยู่ข้างทางเหมือนถูกชนจนเสียหลักพลิกคว่ำ รถบรรทุกของกองคาราวานกำลังถูกค้นโดยกลุ่มโจรสี่คน ร่างของทหารรับจ้านอนตายเกลือนกลาด บนพื้นเต็มไปด้วยเลือดและปลอกกระสุนปืน พ่อค้าจากกองคาราวานนั่งเรียงแถวกัน พวกเขาถูกังคับให้เอามือวางไว้บนหัว โจรสองคนพร้อมอาวุธปืนพกลูกโม่ยืนคุมพวกเขา อีกสามคนกำลังรวบรวมอาวุธและกระสุน โจรเหล่านี้แต่งตัวด้วยเสื่อ หนังสัตว์และเกราะหนังยางรถ โจรคนหนึ่งที่ประจำในรถหุ้มเกราะสอดส่ายปืนกลเบาที่ติดกับรถไปมา เพื่อเฝ้าระวังการโจมตี แต่ทว่า โจรเหล่านี้ยังขาดความระวังตัว พวกมันทุกคนหันหลังให้กลุ่มของเชคอฟที่หลบอยู่ข้างทาง

“โอเค นี่คือแผน ฉันกับไอจะบักเข้าไปจากทางถนนคอนกรีต” เขาพูดพร้อมวาดรูปสามแยกบนพื้นดิน และเขียนลูกศรแทนการบุกของเขา “ซันนายข้ามไปอีกฝั่ง หามุมเหมาะๆ รู้ใช่ไหมว่าต้องเล็งยังไง”

“ห้ามให้พ่อค้าอยู่ในวิถีกระสุน หรือต้องมีที่กำบังไม่ให้กระสุนไปโดน”

“เยี่ยม นิศ คุณอ้อมไปทางปีก หามุมยิงเหมาะๆ ที่จะส่องพวกมันได้ทุกคน เพราะเมื่อซันเริ่มยิง พวกมันจะหาที่กำบัง คุณต้องอ้อมไปหลังพวกมันแล้วก็เก็บพวกมันซะ”

“รับทาบ”

“เอาล่ะทุกคน เริ่มยิงได้ทันทีที่เห็นรถเกราะคนนั้นระเบิด ไปได้” นิศพยกหน้ารับก่อนแยกตัวเข้าไปในป่า

ชายหนุ่มทั้งสามหันหลังกลับและวิ่งข้ามถนนอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครสังเกตุเห็น สุริยะแยกตัวจาก เชคอฟและไอราวัณไปยังจุดยิงกดหัวของเขา ทหารทั้งสองนายคลานต่ำไปตามหมู่แมกไม้รอบตัวจนมาถึงถนนคอนกรีตที่เหมาะแก่การโจมตี ด้วยการที่สามารถยิงใส่รถหุ้มเกราะได้ และยังมีรถบรรทุกคอยบังกระสุนไม่ให้โดนเหล่าพ่อค้าอีกด้วย ทั้งสองหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่สองต้น ที่มีขนาดใหญ่และหนาพอที่จะป้องกันกระสุนให้พวกเขาได้ “ระยะ” เชคอฟถามขึ้นและนำอุปกรณ์ทรงกระบอกบางอย่างสวมเข้าไปในปากกระบอกปืน

“ห้าสิบ บวกลบห้า” ไอราวัณตอบและบรรจุกระสุนแบบเจาะเกราะเข้าสู่เครื่องยิงลูกระเบิด “พร้อมยิง”

“นายใช้กระสุนอะไร” เชคอฟถามก่อนจะล้วงอะไรระเบิดที่รูปร่างคล้ายจรวดสีแดงออกมาสวมเข้าไปกับอุปกรณ์ที่เขาสวมเข้าไปก่อนหน้า

“ระเบิดแรงสูงสองหน้าที่ (High explosive dual purpose)”

“งั้นนายยิงก่อน ฉันจะยิงซ้ำ”

“ตกลง” ไอราวัณตอบและนั่งคุกเข้าลงข้างๆต้นไม้ ซึ่งเชคอฟก็ทำอย่างเดียวกัน เขากางศูนย์เล็งของเครื่องยิงลูกระเบิดออกมาและเล็งไปยังรถหุ้มเกราะ เขาเหนี่ยวไก เสียง ‘ตับ’ ดังขึ้นจากเครื่องยิงลูกระเบิด ลูกระเบิดลอยตรงเข้าหารถหุ้มเกราะ เปลือกนอกของระเบิดกะเทาะเกราะด้านนอกและทะลุเข้าไปภายในก่อนเกิดระเบิดขึ้น สะเก็ดระเบิดบินสะท้อนกลับไปมาภายในรถ ส่งเสียงดัง คลอกับเสียงร้องอย่างทรมานของพลปืนประจำรถ เชคอฟเหนี่ยวไกทันทีที่เกิดการระเบิด กระสุนปืนไรเฟิลเข้าปะทะตัวจุดชนวนดินของระเบิดที่อยู่ปลายปืน ระเบิดถูกดินขับกระแทกส่งออกไป มันลอยเข้าหารถหุ้มเกราะ แต่ครั้งนี้เป็นระเบิดแรงสูงต่อต้านยานยนต์ มันระเบิดทันทีที่เข้าปะทะ แก๊สร้อนหลังไหลเข้าไปภายในรถหุ้มเกราะ มันละลายทุกอย่างที่อยู่ภายใน ไฟก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและเริ่มไหม้ร่างของพลปืนประจำรถ

สุริยะเหนี่ยวไกปืน กระสุนชุดแรกโบยบินเข้าหากลุ่มโจรที่กำลังรวบรวมอาวุธ คนหนึ่งโดนกระสุนเข้าอย่างจัง อีกสองคนเมื่อรู้ตัวว่าถูกลอบโจมตีจึงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปหลบหลังรถของทหารรับจ้าง สุริยะเปลี่ยนระบบการยิงจากชุดเป็นระบบอัตโนมัติ และเหนี่ยวไกปืนกราดกระสุนไปยังรถของทหารรับจ้างและรถหุ้มเกราะ เหล่าโจรรู้ตำแหน่งของพลปืนกลหนุ่มและหันไปยิงตอบโต้สุริยะ เสียงปืนกลดังแข่งกับเสียงปืนพกและปืนเล็กยาว โจรคนหนึ่งที่คุมตัวพ่อค้าเอาไว้ถูกกระสุนของนิศารัตน์เข้าที่อกและสิ้นใจทันที ก่อนที่คนที่สองจะถูกยิงจนสิ้นใจตามไป
เชคอฟและไอราวัณประทับปืนไรเฟิลเล็งไปยังโจรที่อยู่บนรถบรรทุก ทั้งสองเหนี่ยวไกแทบจะพร้อมกัน กระสุนจากปืนทั้งสองกระบอก เจาะเข้าร่างโจรผู้โชคร้ายจนคอหลุดออกจากร่าง โจรที่เหลืออีกาสองคนรีบกระโดดลงจากรถบรรทุกและหาที่กำบัง

“ใครใช้ให้นายเล็งตัวเดียวกันฉันวะ” ไอราวัณพูด

“เล็งให้พลาดน้อย” เชคอฟตอบและโผออกจากที่กำบัง “ประจัญบาน” เขาร้องตะโกน และวิ่งตรงเข้าไปยังจุดปะทะ ตามมาติดๆด้วยไอราวัณ กระสุนปืนกลเป็นชุดห้าถึงแปดนัดยังคงกระหน่ำกดหัวเหล่าโจรอย่างดุดันจนเชคอฟและไอราวัณไปถึงรถบรรทุก เสียงปืนกลของสุริยะก็หยุดลง เขาหยุดยิง บรรจุกระสุน และเปลี่ยนระบบการยิงเป็นยิงชุดเพื่อหลีกเลี่ยงการยิงพวกเดียวกันเอง

“ลุย” เชคอฟพูดเบาๆและเดินไปตามรถ ไอราวัณก็ทำเช่นเดียวกันแต่เดินไปในทิศทางตรงข้าม ปืนเล็กยาวประทับกับไหล่ในท่าพร้อมยิง สายตามองสอดส่ายหาเป้าหมาย เชคอฟก้อมตัวต่ำและอ้อมหน้ารถบรรทุก โจรสองคนอยู่ในวิถีกระสุนของเขา พวกมันหลบอยู่หลังรถของทหารรับจ้าง และอาจรอดชีวิตได้เพราะว่านิศารัตน์นั้นไม่มีมุมยิง เชคอฟเหนี่ยวไก กระสุนสามนัดเรียงกันออกจากปากกระบอกปืน นัดแรกถูกซอกคอของโจรคนหนึ่ง ส่วนอีกสองนัดก็เจาะเข้ากลางตัวของโจรอีกคนจนหมดสภาพต่อสู้ เสียงของการลั่นกระสุนสี่นัดดังขึ้นจากอีกฝั่งพร้อมกันกับที่เสียงไรเฟิลซุ่มยิงของนิศารัตน์ดังขึ้น “สามคนร่วง” ไอราวัณร้อง “รถบรรทุกเคลียร์” เชคอฟไม่พูดอะไร เขาเดินไปหาโจรที่กำลังนอนดิ้นทุรนทุราย สะพายปืนไรเฟิลไว้ที่ไหลด้านขวา ชักปืนพกอินทรีทะเลทรายออกจากซองปืนและเล็งไปยังโจรคนนั้นก่อนจะเหนี่ยวไกปืน กระสุนเจาะเข้าที่ท้ายทอยของโจร นั่นปลิดชีพเขาโดยทันที เลือดและปลอกกระสุนมากมาย อยู่ตามพื้นถนน กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเขม่าของดินขับลอยอบอวลอยู่ในอากาศ

“พื้นที่เคลียร์” เชคอฟร้อง “รวบรวมอาวุธเก็บกระสุน” สุริยะสะพายปืนกลเบา และเดินออกมาจากป่าด้วยท่าทางสบายๆ แต่มือยังคงอยู่บริเวณด้ามปืนพกของเขา ไม่นานนักนิศารัตน์ก็เดินออกมาจากป่าพร้อมรอยขีดข่วนตามมือและใบหน้า เชคอฟและไอราวัณกลับไปยังที่ซ่อนรถ และทิ้งให้สุระและนิศารัตน์เก็บอาวุธและกระสุนจากศพ เหล่าพ่อค้ารีบขึ้นรถบรรทุกเพื่อตรวจสอบความเสียหายของสินค้า

“ได้ยิงใครบางคนแล้วรู้สึดดีขึ้นไหมล่ะ” นิศารัตน์ถามขึ้นในขณะที่พลิกศพทหารรับจ้างให้นอนหงาย

“ยังหรอก ฉันไม่ได้คะแนนสูงสุดนิ” สุริยะพูดและเหน็บแนมเธอ ซึ่งนั้นทำให้เธอขำออกมาเบาๆ เขาปลดซองกระสุนจากปืนไรเฟิลจู่โจมของทหารรับจ้าง เก็บมันใส่กระเป๋า และกระชากคันรั้งปืน ก่อนจะหักคันรั้งขึ้นเพื่อให้คันรั้งค้าง เขาสอดส่ายสายตาดูภายใน สนิมจำนวนมากเกาะอยู่ตามกลไกต่างๆของตัวปืน กลไกเหล่านั้นแห้งสนิท ไม่มีคราบสารหล่อลื่นเลยแม้แต่หยดเดียว “ฉันว่าปืนพวกนี้ยิงได้ไม่เกินสิบนัดแน่ๆ” เขาบอกนิศารัตน์และเริ่มถอดแยกส่วนประกอบปืน เขาโยนกลไกภายในเข้าไปในป่า และโยนลำกล้องเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถหุ้มเกราะของโจร เขาทำอย่างนั้นกับปืนทุกกระบอกที่เขาเห็นว่าไม่สามารถใช้งานได้ดีนัก “แกดูโจรพวกนี้ไปนะ ฉันจะไปดูรถของทหารรับจ้าง” สุริยะตะโกนบอกนิศารัตน์ที่กำลังพยายามหาทางถอดเสื้อเกราะหนังของโจรคนหนึ่ง เพื่อหาสัญลักษณ์ระบุฝ่าย

“ได้เลย” เธอตอบและใช้มีดกรีดเสื้อหลังจากที่พยายามหาวิธีถอดอยู่นาน เธอกวาดตาหาสัญลักษณ์ตามตัว แต่ก็ไม่พบ เธอลุกขึ้นและพลิกศพให้นอนคว่ำ แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่บนผิวหนังของโจรรายนี้เลย เธอจึงย้ายไปหาที่ศพต่อไป จากนั้นไม่นาน เชคอฟและไอราวัณก็กลับมาพร้อมกับรถ พวกเขาขนอาวุธที่ยังใช้งานได้ กระสุนปืนและน้ำมันเชื้อเพลิงจากรถของทหารรับจ้าง ขึ้นไปไว้บนรถของพวกเขา และนำทางคาราวานกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย

“ไม่มีสัญลักษณ์ระบุฝ่าย” นิศารัตน์บอกเชคอฟระหว่างทางกลับ “ไม่มีบนตัวหรือเสื้อผ้าเลย”

“ภารกิจจบแล้วสาวน้อย ปล่อยวาง”เชคอฟตอบ “เตรียมตัวเขียนรายงานดีกว่าจะมากังวลเรื่องแบบนี้”

“รับทราบค่ะ”

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงศูนย์ “ซัน นิศ เอากระสุนไปเก็บไว้ที่คลังแสง ไอ นายไปกับฉัน ไปรายงานผลการปฏิบัติ” เชคอฟพูดและกระโจนลงจากรถ เดินไปยังศูนย์บังคับการโดยมีไอราวัณตามมาติดๆ เขาผ่านศูนย์ที่ว่างเปล่า มีเพียงทหารยามและทหารที่มีหน้าที่เท่านั้นที่ยังคงอยู่ เขาเข้าไปยังศูนย์บังคับการ ภายในมีเพียงทหารสื่อสารสาวสวยสามนายที่นั่งประจำวิทยุอยู่ ส่วนทหารคนอื่นๆที่มักจะมาเบิกเงินเดือนล่วงหน้าหรือรอรับภารกิจทหารรับจ้างนั้นก็หายไป หน้าบอร์ดงานรับจ้างว่างเปล่า ผิดจากทุกวันที่จะมีทหารอย่างน้อยหนึ่งนายอยู่หน้าบอร์ดนี้เสมอ

“มีภารกิจด่วนรึ” ไอราวัณถามทหารสื่อสาร

“เปล่าค่ะ” คนหนึ่งตอบ ก่อนที่อีกคนจะพูดขึ้นว่า “พันโทอโลนสั่งให้ทุกคนไปเล่นน้ำค่ะ”

“เยี่ยม” เชคอฟและไอราวัณอุทานออกมาพร้อมกัน การเล่นน้ำคือการลงโทษของศูนย์ คิดค้นโดยพันจ่าเอก คาลาสกี้ เรวานอฟ การลงโทษแบบนี้จะใช้เมื่อมีการเรียกทหารไปปฏิบัติการด่วน และมีทหารที่รายงานตัวน้อยกว่าหกนาย ทหารที่เหลือในศูนย์ทุกคน ยกเว้นผู้ที่เข้ากะ หรือผู้ที่มีหน้าที่อื่นอยู่ จะถูกพาไปยังสระน้ำในบริเวณพื้นที่เกษตรกรรมและถูกสั่งให้ลงไปแช่น้ำจนกว่าหน่วยปฏิบัติการจะกลับมา ในกรณีที่หนักที่สุดของปฏิบัติการนี้คือภารกิจส่งการสนับสนุนให้ฐานยิงฟีนิกส์ โดยภารกิจกินเวลาสองวันหนึ่งคืน ทำให้ทหารต้องแช้น้ำอยู่นานถึงสองวัน “ผู้พันโทอยู่ไหม” เชคอฟถามต่อ แต่ทหารสาวไม่ทันได้ตอบ เสียงของอโลนก็ดังมาจากในห้อง “เชิญเลยจ่า” เชคอฟพยักหน้าให้ไอราวัณและเดินเข้าไปในห้องที่ประตูมีป้ายเขียนว่า ‘ผู้บันชาการกองทหารประจำศูนย์เอ5148 พันโท – อโลน อลองเกอร์’

“ผู้พัน” เชคอฟพูด ซึ่งนายพันโทวัยกลางคนตอบกลับทันที “ความเสียหาย”

“ไม่มีความเสียหายครับ”

“ดีมาก ผมขอรายงานบนโต๊ะผม แปดร้อยนาฬิกาพรุ่งนี้เช้า ของคุณด้วย จ่าไอราวัณ”

“ครับท่าน” ทั้งสองรับ “แล้วของอีกสองคนนั้นล่ะครับ”ไอราวัณถาม

“เดี๋ยวผมแจ้งพวกเขาเอง แยกย้าย” อโลนสั่ง จ่าหนุ่มทั้งสองทำความเคารพและกำลังจะเดินจากไปแต่อโลนเรียกพวกเขาไว้ “เดี๋ยว” เขาพูดและลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบซองเอกสารบางอย่างออกมาจากลิ้นชัก ยื่นซองหนึ่งให้เชคอฟ ซองหนึ่งให้ไอราวัณ “เรวานอฟอยากออกไปพจญภัย ฉันเลยจะตั้งหน่วยใหม่ เขาเลือกคนที่เขาต้องการให้เข้าหมู่เดียวกับเขาแล้ว” อโลนหยุดพูดและยื่นหน้าเข้ามาอยู่ระหว่างใบหน้าของสองจ่า “พวกนายโชคร้าย”ทังสองไม่พูดอะไร แต่สีสันบนใบหน้าของเขานั้นหายไปอย่างรวดร็ว


“ฉันอยากอยู่ทีมเดียวกับแก” นิศารัตน์พูดพลังจากที่สุริยะถามถึงสิ่งที่เธออยากทำหลังจากเรียนจบหลักสูตรทหาร “มีแก มีฉัน”เธอพูดต่อ “แกกดหัว ส่วนฉันอ้อมไปหามุมเหมาะๆ จากนั้น เปรี้ยง”
“แกเก็บคะแนนสูงสุด” สุริยะพูด ทั้งสองถือกล่องกระสุนและปืนพกซึ่งเก็บได้จากศพของโจร “จากนั้นเราสองคนก็กลับบ้าน แกเลี้ยงเหล้าฉัน”
“ทำไมฉันต้องเลี้ยงเหล้าแก” ทั้งสองเดินผ่านประตูคลังแสง
“เพราะฉันเป็นคนยิงกดหัวให้แกทำคะแนนสูงสุดไง”
“สิบเอกสุริยะ สิบเอกนิศารัตน์” เสียงห้าวๆดังขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ทั้งสองละสายตาจากใบหน้าของกันและกันไปมองยังเจ้าของเสียง ชายร่างใหญ่วัยสามสิบปียืนอยู่หน้าพวกเขาพร้อมยิ้มด้วยท่าทีสบายๆ เขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตลายพรางป่าและกางเกงขาวายลายเดียวกัน รองเท้าบูทคอมแบทมันเงาสะท้อนกับแสงไฟ หมวกแก็บทรงสูงพร้อมเครื่องหมายยศที่บ่งบอกว่าเขายศพันจ่าเอก พูดและเดินเข้ามาหาพร้อมซองเอกสารสีน้ำตาล นิศารัตน์และสุริยะวางกล่องลงก่อนจะยืนตรงทำความเคารพ

“สวัสดีครับ/ค่ะ พันจ่าเอกเรวานอฟ” ทองสองพูดเสียงดัง

“คุณถูกย้าย” เขาพูดและยื่นซองเอกสารให้ทั้งสอง ขอต้อนรับสู่หมู่เอคโค”

จบบทที่1

ปล. ตอบคำถามถูกครับ เอาตอนใหม่ไปเลย
ปล.2 ขอภัยหากว่ามีคำผิดครับ ผมไม่สันทัดภาษาไทย

Stormwind
26th March 2012, 10:45
โห สาวแว่นเลยเหรอครับเนี่ย แล้วเสื้อเกราะเสื่อกับยางรถยนต์จะโหดไปมั้ยเนีย

By Stormwind

LoveSeeker
26th March 2012, 11:06
โห สาวแว่นเลยเหรอครับเนี่ย แล้วเสื้อเกราะเสื่อกับยางรถยนต์จะโหดไปมั้ยเนีย

By Stormwind

สงสัยพิมพ์ผิด แก้ก่อนๆ

ผิดไป2ที่ แต่ตรง "เสื่อหนังสัตว์ และเกราะยางรถ"นั่นเว้นผิด มันเป็น "เสื่อ หนังสัตว์ และยางรถ" ขอต้อนรับสู่แฟชั่นยุคหลังสงครามนิวเคลียร์

ปล. ขอบใจที่เตือน คนแก่สายตาไม่ค่อยดี =.=

Rex
26th March 2012, 12:50
รออยู่นะนาย :)

asalost
26th March 2012, 13:20
-แก้ใหม่ครับเผื่อจะรับอนุมัติของผม

ชื่อ-สกุล: นิโคไล พรีทรอฟ
ชื่อเล่น:นิค
เพศ:ชาย
อายุ: 35
รูปร่างหน้าตา:ชาวรัซเซีย ผิวขาวออกคล้ำแดงนิดๆ ตัวสูง ผมดำสนิดเหมือนคนไทย ตายสีเขียวขุ่นๆ มีเคราเล็กน้อย แต่ตัวชุดรัดรูป ใส่เกราะที่ตัว คล้ายๆกับสายลับ เวลาอ่านหนังสือบางทีก็ใส่แว่น เพราะตาไม่ดีแก่แว้ว 555+

นิสัยโดยละเอียด:มีความเป้นผู้นำสูง มีประสปการ์ณในการรบและแทรกซึม เคยเป็นอดีตสาบลับของรัชเซีย และภาระกิจนี้ถูกส่งมาให้ช่วยเหลือทางประเทศไทย มีความเป็นคุณธรรมสูง แต่เค้าก็ปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น ค่อนข้างเงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว แต่ลุยก็ลุยเป็นทีม บางคนบอกว่าเค้าฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปกว่า 500 คน ทำให้เค้าเป็นคนเก็บตัวเงียบแบบนี้ นิโคไล ชอบบอกกับตัวเองเสมอ ว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่สภาพการ์ณบีบบังคับให้เค้าจ้องหยุดความรุนแรงด้วยการใช้ความรุนแรง นิโคไลไม่ดืมเหล้าและสูบบุหรี่ เค้าแทบจะไม่เค้าสถานเริงรมเลยด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เค้าลืมอดีตและคราบเลือดที่เปื้อนหัวใจของเขาได้

สิ่งที่ชอบ: แกะสลักเศษไม้เป็นรูป กวางทำท่าทางต่างๆ

สิ่งที่เกลี่ยด: คนไม่รักษาคำพูด และ พวกทรยศ ไม่รักพวกพ้อง

สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:อยากกอดเมียและลูกของเค้า แต่ถึงกระนั่นก็ทำไม่ได้เพราะพวกเค้าได้จากไปแล้ว

หนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148

nakiann123
26th March 2012, 17:00
เวลา แปดร้อย นาฬิกา คืออะไรท่าน :sweat อุๆๆๆ สาวบลอนด์ โอ สาวบลอนด์ อุๆๆๆ ~


แปดโมงเช้าครับ

อ่อครับ

ปล. สาวบลอนด์ โฮกก :sweat

LoveSeeker
26th March 2012, 17:03
เวลา แปดร้อย นาฬิกา คืออะไรท่าน :sweat อุๆๆๆ สาวบลอนด์ โอ สาวบลอนด์ อุๆๆๆ ~

แปดโมงเช้าครับ

maxarmyus
26th March 2012, 19:27
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล:ดิเมียร์ทรี โรมานอฟ (Dimitri romanov)
ชื่อเล่น:คอรส์
เพศ:ชาย
อายุ:24
รูปร่างหน้าตา:หน้าตาดี ผิวขาว ไม่มีหนวดเพราะโกนบ่อย ผมสั้นสีทอง
นิสัยโดยละเอียด:เงียบขรึมเเละจริงจัง(ลูกนายทหารครับ+อดีตอันซับซ้อนที่โหดร้ายของเขา)นิสัยเป็นสุภาพบุรุษ เเต่มีนิสัยใจร้อนเเละเยือกเย็น ตามสถาณการณ์
เป็นคนทีมีพรสวรรค์เรื่องความเเม่นในการยิงปืน เเต่เป็นคนพูดเเต่ความจริงเเต่ชอบพูดกวนบาทาชาวบ้าน(คนสนิท) ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ
พูดเเบบเหตุผล(ส่วนใหญ่)ที่ส่วนน้อยคือเรืองที่ตนเองเจอมา ชอบเขียนบันทึก(ติดนิสัยเรียนทหารปีสุดท้าย)
สิ่งที่ชอบ:อ่านหนังสือ เขียนเเผนที่ยุทธการ(เขียนเล่นไม่เคยใช่จริง) ทำความสะอาดปืนcolt m1911a มรดกสุดท้ายที่พ่อเหลือเอาไว้ ซ้อมยิงปืนเเบบโหดๆ
สิ่งที่เกลี่ยด:บุหรี่ มาเฟีย (สาเหตุที่เพราะทำให้เกลียดเพราะ mafia ของรัสเซียนั้นไปกลาดยิงที่บ้านของครอบครัวไม่เหลือใครเลย)
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:มีชื่อติดในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องรู้จักเขา
อื่นๆ:ประวัติย่อ นักเรียนนายร้อยอันดับ1ของการสอบทั้งหมด สอบเข้าหน่วยspatnazได้ตอนอายุ17สาเหตุคือที่เกิดคดีน้ำสีเลือดที่ดังไปทั่วประเทศตอนเขาอายุ20
เขาได้รับงานไปลอบสังหารชายคนหนึ่งที่เป็นคนขายชาติให้ต่างประเทศเเละเป็นงานเเรกเเละงานสุดท้ายของเขา เพราะคนที่เขาสังหารไปเป็นลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟีย
หลังจากนั้น2สัปดาร์ ตอนนั้นเป็นตอนเย็นหลังจากเขียนรายงานเสร็จก็กลับมาที่บ้านก็พบศพของทุกคนที่อยู่ในบ้าน รวมทั้งเเฟนสาวของเขาด้วย เขาเลยกลายเป็นคนไร้ญาติ
ไม่มีใครเหลือเลย เขาเลยต้องรีบเก็บของเเล้วหนีไปเซฟเฮาส์ของเขาที่ไม่มีใครรู้จัก ช่วงที่เขาหายตัวไปตำรวจให้เป็นบุคคลต้องสงสัย เพราะมีเหตะทะเลาะกับพ่อที่ดันเอาปืนColtไปใช้งานโดยไม่ได้บอก
ที่เป้นสมบัติสุดท้ายของ
บรรพบุรุษที่เหลืออยุ่กับการที่เขาไปหยิบคียการ์ดของพ่อเขาไปด้วยไม่รู้ใช่งานอะไรได้บ้าง
แบบฟอร์มอาวุธปืน

ชื่อ:Colt m1911 a
ขนาดกระสุน:.45 Acp
อัตราการยิง:100ลูกต่อนาทีโดยประมาณ
ความจุแม็กกาซีน:8ลูกรวมที่อยู่ในลำกล้อง
ระยะหวังผล:100เมตร
รูปร่าง:
http://1.bp.blogspot.com/_9QrDmu6PXv4/TIIP2YrHH4I/AAAAAAAAAIQ/Ruvs_ZIaQq0/s1600/1993.jpg

Jomzababin
26th March 2012, 20:49
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: เป็กเอก ชนะสงคราม
ชื่อเล่น:เอก
เพศ:ชาย
อายุ: 26
รูปร่างหน้าตา: สูง 180 น้ำหนัก 68 หน้าตาและทรงผมประมาณในรูปครับผม


[/PHP]http://image.ohozaa.com/i/dc0/MfaLbH.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/vYoEFiO7ZUbLCb84)


นิสัยโดยละเอียด: นิสัย เป็นคนสนุกสนาน เฮฮาปาร์ตี้ไปไหนไปกัน...รักเพื่อน ยามลำบากไม่เคยทิ้งเพื่อน...เข้ากับคนได้ไม่ค่อยดี แต่ถ้าสนิทเมื่อกับใครแล้วจะรู้ว่าไอ้หมอนี้รั่วสุดๆ
ชอบกินขนมขบเคี้ยว ไม่ชอบการบังคับสักเท่าไหร่ จิตใจเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่...แต่เวลาเค้าโกรธขึ้นมาก็จะสติแตกแบบสุดๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังใครเลยทีเดียว


สิ่งที่ชอบ: ชอบขนมขบเคี้ยว ขนมปังต่างๆนาๆ และก็น้ำอัดลม
สิ่งที่เกลี่ยด: เกลียดงู และสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ไม่ชอบพวกเห็นแก่ตัวเห็นแล้วอยากจะต่อย
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: ได้บอกรักคนที่ตนรักเป็นครั้งสุดท้าย...


แบบฟอร์มอาวุธปืน

ชื่อ: Tavor Tar - 21
ขนาดกระสุน:M855/SS109
อัตราการยิง:700-1000 นัด/นาที
ความจุแม็กกาซีน:30 นัด
ระยะหวังผล:960 เมตร
รูปร่าง: ตามรูปครับ

http://image.ohozaa.com/i/229/e1WDCZ.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/vYoEG0Luz8LfRrUs)

hunkacer
28th March 2012, 17:38
ตามมาอ่านแล้วครับผม (โอ้ว!!)

อืมมมม มาถึงก็ดราม่าเลยแฮะ โอ้ม่ายยยย สาวแว่นที่รัก T_T ฉากบู๊ก็มันส์หยดมาก เลยทั้งการอธิบายฉาก และ ความรู้สึก อืม ^^''

แต่มีพิมพ์ผิดประปรายเล็กน้อยอย่าลืมแก้ด้วยนะครับ คำไหนที่พิมพ์ไม่ถูกก็ลองไปเซิจหาใน Google ได้ครับผม

ในส่วนของการอธิบาย ทุกอย่างดีเยี่ยม ผมชอบนะ ชอบมากด้วย เริ่มสงสัยแล้วว่านี่คงไม่ใช่เรื่องแรกของคุณแหงม ๆ ฮ่า ๆ แต่ว่านะ ในการอธิบายการแต่งตัวไม่จำเป็นต้องลงลึกถึงขนาด ใส้เเสื้อสีอะไร พับแขนเสื้อไหม มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อ มันจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อได้ครับ กรณีนี้ใช้การรวบรัดคำให้พอเหมาะพอควรก็ได้ครับจะทำให้ประโยคที่อธิบายนั้นดูสั้น อ่านลื่น และนึภาพตามได้พอดีพอเหมาะครับผม (ตรงจุดนี้จะปรับสไตล์หรือไม่ปรับก็ได้นะครับแล้วแต่สะดวกครับผม ^^'')

อ้อการเว้นบรรทัด อันนี้ผมอ่านแล้วปวดตามากๆ เลยล่ะ เนื่องจากตัวหนังสือมันก้เล็กอยู่แล้ว ก็เลย... หนักเข้าไปอีก = ='' ยังไงก็ลองตรวจสอบอีกทีว่าตรงไหนควรจะเว้นบรรทัดหรือเคาะสเปชบาร์นะครับ จะได้สะดวกตาสบายใจต่อผู้อ่านมากขึ้น ^^''

แต่ยังไงก็ยังเพิ่งเริ่ม เนื้อเรื่องจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้นอีก อันนี้ก็อยู่ที่ความสามารถและข้อมูลของผู้เขียนแล้วล่ะครับ เป็นกำลังใจให้ และจะรออ่านตอนต่อไปครับ สู้ ๆ ^^

EDIT

ถ้าคิดจริงจังกับงานเขียนจริง ๆ ลองเอาไปแปะเว็ปอื่นด้วยก็ได้ครับ แล้วคุณจะได้รับคอมเม้นดี ๆ อย่างแน่นอน ^^

LoveSeeker
28th March 2012, 18:21
ตามมาอ่านแล้วครับผม (โอ้ว!!)

อืมมมม มาถึงก็ดราม่าเลยแฮะ โอ้ม่ายยยย สาวแว่นที่รัก T_T ฉากบู๊ก็มันส์หยดมาก เลยทั้งการอธิบายฉาก และ ความรู้สึก อืม ^^''

แต่มีพิมพ์ผิดประปรายเล็กน้อยอย่าลืมแก้ด้วยนะครับ คำไหนที่พิมพ์ไม่ถูกก็ลองไปเซิจหาใน Google ได้ครับผม

ในส่วนของการอธิบาย ทุกอย่างดีเยี่ยม ผมชอบนะ ชอบมากด้วย เริ่มสงสัยแล้วว่านี่คงไม่ใช่เรื่องแรกของคุณแหงม ๆ ฮ่า ๆ แต่ว่านะ ในการอธิบายการแต่งตัวไม่จำเป็นต้องลงลึกถึงขนาด ใส้เเสื้อสีอะไร พับแขนเสื้อไหม มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อ มันจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อได้ครับ กรณีนี้ใช้การรวบรัดคำให้พอเหมาะพอควรก็ได้ครับจะทำให้ประโยคที่อธิบายนั้นดูสั้น อ่านลื่น และนึภาพตามได้พอดีพอเหมาะครับผม (ตรงจุดนี้จะปรับสไตล์หรือไม่ปรับก็ได้นะครับแล้วแต่สะดวกครับผม ^^'')

อ้อการเว้นบรรทัด อันนี้ผมอ่านแล้วปวดตามากๆ เลยล่ะ เนื่องจากตัวหนังสือมันก้เล็กอยู่แล้ว ก็เลย... หนักเข้าไปอีก = ='' ยังไงก็ลองตรวจสอบอีกทีว่าตรงไหนควรจะเว้นบรรทัดหรือเคาะสเปชบาร์นะครับ จะได้สะดวกตาสบายใจต่อผู้อ่านมากขึ้น ^^''

แต่ยังไงก็ยังเพิ่งเริ่ม เนื้อเรื่องจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้นอีก อันนี้ก็อยู่ที่ความสามารถและข้อมูลของผู้เขียนแล้วล่ะครับ เป็นกำลังใจให้ และจะรออ่านตอนต่อไปครับ สู้ ๆ ^^

EDIT

ถ้าคิดจริงจังกับงานเขียนจริง ๆ ลองเอาไปแปะเว็ปอื่นด้วยก็ได้ครับ แล้วคุณจะได้รับคอมเม้นดี ๆ อย่างแน่นอน ^^

Wilco! จะขอนำความคิดเห็นไปหรับปรุงต่อไปครับ :)

Jomzababin
29th March 2012, 14:55
ตัวผมผ่านรึเปล่าครับ.........

นิยายท่านผมติดตาม มาแทบทุกเรื่องเลยละครับ พูดได้ว่าทุกเรื่องเลยก็ได้....เรื่องนี้ๆ ก็ขอให้ตัวผมได้ออก โรงมั่งเน้อ เรื่องก่อนหน้านี้ ออก ปุบ นิยาย หายปุ๊บ เลยทีเดียว ฮ่าๆ

ViperRKO
29th March 2012, 15:24
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: อาชรนัย วานรทัพ
ชื่อเล่น: โจ
เพศ: ชาย
อายุ: 19
รูปร่างหน้าตา: ประมาณนี้
http://images5.fanpop.com/image/photos/28200000/-zacky-zacky-vengeance-28212834-399-599.jpg




นิสัยโดยละเอียด:เป็นคนรักความสนุกสนานเฮฮา แต่ดูภายนอกเป็นคนขี้เก๊ก รักความสะดวกสะบาย เวลาเมื่อเขาจะพูดออกความเห็นทุกคนต้องรับฟัง เวลาโกรธจะเสียสติ เกลียดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด




สิ่งที่ชอบ: การเห็นคนรอบข้างมีรอยยิ้ม
สิ่งที่เกลี่ยด: เวลาพูดแล้วไม่มีคนฟัง
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: ได้พบคนที่เขารักซึ่งอยู่ห่างกันไกลแสนไกลและบอกรักเธอ :blush

nakiann123
29th March 2012, 16:43
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: อาชรนัย วานรทัพ
ชื่อเล่น: โจ
เพศ: ชาย
อายุ: 19
รูปร่างหน้าตา: ประมาณนี้
http://images5.fanpop.com/image/photos/28200000/-zacky-zacky-vengeance-28212834-399-599.jpg




นิสัยโดยละเอียด:เป็นคนรักความสนุกสนานเฮฮา แต่ดูภายนอกเป็นคนขี้เก๊ก รักความสะดวกสะบาย เวลาเมื่อเขาจะพูดออกความเห็นทุกคนต้องรับฟัง เวลาโกรธจะเสียสติ เกลียดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด




สิ่งที่ชอบ: การเห็นคนรอบข้างมีรอยยิ้ม
สิ่งที่เกลี่ยด: เวลาพูดแล้วไม่มีคนฟัง
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: ได้พบคนที่เขารักซึ่งอยู่ห่างกันไกลแสนไกลและบอกรักเธอ :blush

หะ นี่มัน Zacky Vengeance อุบะ บะ ใช่ไหมนะ เอ ใช่แน่ๆ :sweat

Jomzababin
29th March 2012, 17:34
หะ นี่มัน Zacky Vengeance อุบะ บะ ใช่ไหมนะ เอ ใช่แน่ๆ :sweat

แม่นแท้เหลา...!!!

LoveSeeker
30th March 2012, 18:38
สับตัวละคร!

เจิดจรัส ขจัดภัย ของคุณJardet


ชื่อ-สกุล: เจิดจรัส ขจัดภัย
ชื่อเล่น:เพลิง
เพศ:ชาย
อายุ: 19
รูปร่างหน้าตา:
หน้าตาหล่อใช้ได้ ร่ายกายโดยรวมสมส่วน สูง 175 ผมสั้นดำ
นิสัยโดยละเอียด:เป็นคนเฮฮา รักเพื่อนฝูง ไม่ชอบหาเรื่องใส่ตัวแต่ถ้าเห็นใครลำบากเป็นต้องช่วยเสมอ เผ่นอย่างเก่ง ทำอาหารเก่ง อารมณ์ดีตลอดเวลา โกรธยาก






สิ่งที่ชอบ:อาหารอร่อยๆ การผจญภัย
สิ่งที่เกลี่ยด:กลิ่นเลือดและซากศพ(เกลียดแต่ไม่ได้กลัว) คนเลว
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:ช่วยชีวิตคน
อื่นๆ:ชอบใช้ปืนพกคู่(เล็งหัวแบบแม่นบ้างไม่แม่นบ้าง)และมีดสั้น(ย่องเสียบ)


เหมือนจะมาแบบลวกๆ แต่ก็มาแบบเนื้อๆ OKครับ ผ่าน

นิโคไล พรีทรอฟ ของ asalost

ชื่อ-สกุล: นิโคไล พรีทรอฟ
ชื่อเล่น:นิค
เพศ:ชาย
อายุ: 35
รูปร่างหน้าตา:ชาวรัซเซีย ผิวขาวออกคล้ำแดงนิดๆ ตัวสูง ผมดำสนิดเหมือนคนไทย ตายสีเขียวขุ่นๆ มีเคราเล็กน้อย แต่ตัวชุดรัดรูป ใส่เกราะที่ตัว คล้ายๆกับสายลับ เวลาอ่านหนังสือบางทีก็ใส่แว่น เพราะตาไม่ดีแก่แว้ว 555+

นิสัยโดยละเอียด:มีความเป้นผู้นำสูง มีประสปการ์ณในการรบและแทรกซึม เคยเป็นอดีตสาบลับของรัชเซีย และภาระกิจนี้ถูกส่งมาให้ช่วยเหลือทางประเทศไทย มีความเป็นคุณธรรมสูง แต่เค้าก็ปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น ค่อนข้างเงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว แต่ลุยก็ลุยเป็นทีม บางคนบอกว่าเค้าฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปกว่า 500 คน ทำให้เค้าเป็นคนเก็บตัวเงียบแบบนี้ นิโคไล ชอบบอกกับตัวเองเสมอ ว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่สภาพการ์ณบีบบังคับให้เค้าจ้องหยุดความรุนแรงด้วยการใช้ความรุนแรง นิโคไลไม่ดืมเหล้าและสูบบุหรี่ เค้าแทบจะไม่เค้าสถานเริงรมเลยด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เค้าลืมอดีตและคราบเลือดที่เปื้อนหัวใจของเขาได้

สิ่งที่ชอบ: แกะสลักเศษไม้เป็นรูป กวางทำท่าทางต่างๆ

สิ่งที่เกลี่ยด: คนไม่รักษาคำพูด และ พวกทรยศ ไม่รักพวกพ้อง

สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:อยากกอดเมียและลูกของเค้า แต่ถึงกระนั่นก็ทำไม่ได้เพราะพวกเค้าได้จากไปแล้ว

หนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148

ขอตัดอักษรสีแดงทิ้งครับ ที่เหลือผ่าน

ดิเมียร์ทรี โรมานอฟ ของ maxarmyus


ชื่อ-สกุล:ดิเมียร์ทรี โรมานอฟ (Dimitri romanov)
ชื่อเล่น:คอรส์
เพศ:ชาย
อายุ:24
รูปร่างหน้าตา:หน้าตาดี ผิวขาว ไม่มีหนวดเพราะโกนบ่อย ผมสั้นสีทอง
นิสัยโดยละเอียด:เงียบขรึมเเละจริงจัง(ลูกนายทหารครับ+อดีตอันซับซ้อนที่โหดร้ายของเขา)นิสัยเป็นสุภาพบุรุษ เเต่มีนิสัยใจร้อนเเละเยือกเย็น ตามสถาณการณ์
เป็นคนทีมีพรสวรรค์เรื่องความเเม่นในการยิงปืน เเต่เป็นคนพูดเเต่ความจริงเเต่ชอบพูดกวนบาทาชาวบ้าน(คนสนิท) ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ
พูดเเบบเหตุผล(ส่วนใหญ่)ที่ส่วนน้อยคือเรืองที่ตนเองเจอมา ชอบเขียนบันทึก(ติดนิสัยเรียนทหารปีสุดท้าย)

สิ่งที่ชอบ:อ่านหนังสือ เขียนเเผนที่ยุทธการ(เขียนเล่นไม่เคยใช่จริง) ทำความสะอาดปืนcolt m1911a มรดกสุดท้ายที่พ่อเหลือเอาไว้ ซ้อมยิงปืนเเบบโหดๆ
สิ่งที่เกลี่ยด:บุหรี่ มาเฟีย (สาเหตุที่เพราะทำให้เกลียดเพราะ mafia ของรัสเซียนั้นไปกลาดยิงที่บ้านของครอบครัวไม่เหลือใครเลย)
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:มีชื่อติดในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องรู้จักเขา

อื่นๆ:ประวัติย่อ นักเรียนนายร้อยอันดับ1ของการสอบทั้งหมด สอบเข้าหน่วยspatnazได้ตอนอายุ17สาเหตุคือที่เกิดคดีน้ำสีเลือดที่ดังไปทั่วประเทศตอนเขาอายุ20
เขาได้รับงานไปลอบสังหารชายคนหนึ่งที่เป็นคนขายชาติให้ต่างประเทศเเละเป็นงานเเรกเเละงานสุดท้ายของเขา เพราะคนที่เขาสังหารไปเป็นลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟีย
หลังจากนั้น2สัปดาร์ ตอนนั้นเป็นตอนเย็นหลังจากเขียนรายงานเสร็จก็กลับมาที่บ้านก็พบศพของทุกคนที่อยู่ในบ้าน รวมทั้งเเฟนสาวของเขาด้วย เขาเลยกลายเป็นคนไร้ญาติ
ไม่มีใครเหลือเลย เขาเลยต้องรีบเก็บของเเล้วหนีไปเซฟเฮาส์ของเขาที่ไม่มีใครรู้จัก ช่วงที่เขาหายตัวไปตำรวจให้เป็นบุคคลต้องสงสัย เพราะมีเหตะทะเลาะกับพ่อที่ดันเอาปืนColtไปใช้งานโดยไม่ได้บอก
ที่เป้นสมบัติสุดท้ายของบรรพบุรุษที่เหลืออยุ่กับการที่เขาไปหยิบคียการ์ดของพ่อเขาไปด้วยไม่รู้ใช่งานอะไรได้บ้าง

ประวัติไม่เข้ากับเนื้อเรื่องอย่างแรงครับ คุณเก่งเกินไปครับ นิยายเรื่องนี้ต้องการคนธรรมดาครับผม

เป็กเอก ชนะสงคราม ของ Jomzababin


แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: เป็กเอก ชนะสงคราม
ชื่อเล่น:เอก
เพศ:ชาย
อายุ: 26
รูปร่างหน้าตา: สูง 180 น้ำหนัก 68 หน้าตาและทรงผมประมาณในรูปครับผม

[/PHP]

นิสัยโดยละเอียด: นิสัย เป็นคนสนุกสนาน เฮฮาปาร์ตี้ไปไหนไปกัน...รักเพื่อน ยามลำบากไม่เคยทิ้งเพื่อน...เข้ากับคนได้ไม่ค่อยดี แต่ถ้าสนิทเมื่อกับใครแล้วจะรู้ว่าไอ้หมอนี้รั่วสุดๆ
ชอบกินขนมขบเคี้ยว ไม่ชอบการบังคับสักเท่าไหร่ จิตใจเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่...แต่เวลาเค้าโกรธขึ้นมาก็จะสติแตกแบบสุดๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังใครเลยทีเดียว


สิ่งที่ชอบ: ชอบขนมขบเคี้ยว ขนมปังต่างๆนาๆ และก็น้ำอัดลม
สิ่งที่เกลี่ยด: เกลียดงู และสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ไม่ชอบพวกเห็นแก่ตัวเห็นแล้วอยากจะต่อย
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: ได้บอกรักคนที่ตนรักเป็นครั้งสุดท้าย...


รู้ใจกันอยู่แล้วครับ ผ่านไปโลด!

อัพเดท

บทที่2ได้ 6 หน้าแล้วครับผม ;)

maxarmyus
30th March 2012, 19:36
ชื่อ-สกุล:ดิเมียร์ทรี โรมานอฟ (Dimitri romanov)
ชื่อเล่น:คอรส์
เพศ:ชาย
อายุ:20
รูปร่างหน้าตา:หน้าตาดี ผิวขาว ไม่มีหนวดเพราะโกนบ่อย ผมสั้นสีทอง
นิสัยโดยละเอียด:เงียบขรึมเเละจริงจังนิสัยเป็นสุภาพบุรุษ เเต่มีนิสัยใจร้อนเเละเยือกเย็น ตามสถาณการณ์
เป็นคนทีมีความสามารถความเเม่นในการยิงปืน เเต่เป็นคนพูดเเต่ความจริงเเต่ชอบพูดกวนบาทาชาวบ้าน(คนสนิท)
พูดเเบบเหตุผล(ส่วนใหญ่)
สิ่งที่ชอบ:อ่านหนังสือ ทำความสะอาดปืนcolt m1911a มรดกสุดท้ายที่พ่อเหลือเอาไว้ ซ้อมยิงปืนเเบบโหดๆ
สิ่งที่เกลี่ยด:บุหรี่ ความมืด
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:มีชื่อติดในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องรู้จักเขา
อื่นๆ:ประวัติย่อ อยู่เเถบไซบีเรียตอนเหนือของรัสเซียที่มีเเต่ความลำบาก เเต่มาเรียนที่มอสโก เเเต่ช่วงอายุ17เขาทดสอบเข้าเป็นspatnazอย่างที่พ่อเขาเคยเป็น
เเต่สอบไม่ผ่านโดนครูฝึกซัดเปรี้ยงไม่ทันถึงสิบนาทีน็อคโดนหิ้วออกไปเเล้ว เขานั้นเรียนยิงปืนจากพ่อเขาตั้งเเต่เด็ก เลยชอบยิงปืนตั้งเเต่6-8ปี ทีเหลือพ่อเขาส่งไปเรียนอยู่ในมอสโก
ช่วงปิดเทอมจะไปอยู่ที่บ้านเกิดวันๆขโมยปืนพ่อไปซ้อมมือทุกวันกับ อ่านหนังสือ2เเบบคือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก่อนสงครามนิวเคลียร์กับหนังสือของหลักสุตรการฝึกspatnaz
หนังสือสมัยพระเจ้าเห่าที่พ่อเขาเคยใช่ เเต่เจ้าตัวคนอ่านไม่ค่อยจะเข้าใจว่าอะไรคือstystemaเลยไปลองตอนสอบอันนั้นละเลยโดนซัดเข้าให้
ปล.เปลี่ยนไปเยอะเเล้วครับเหมือนคนละคน ตอนเเรกคิดสด ผมไม่เคยคิดตัวละครครับเเก้ไปบ้างเเล้วนะครับ
ปล.อีกนิด ประวัตินี้คล้ายกับคนที่มีตัวตนในโลกผมไม่ได้ก็อบนะ เเนะนำนะครับสำหรับนิยายที่เป็นเเนวที่คุณเขียน อันที่คล้ายคลึงอยู่คือเรื่อง metro 2033 นิยายกับเกม
นั้นเนื้อเรื่องคล้ายครึงกันถ้านิยายก็มีเเต่เเปลภาษาอังกฤษที่พอเป็นตัวอย่างได้บ้างครับเเปลเอาเองนะครับคนเขียนเป็นคนรัสเซียครับเลยไม่ค่อยมีเเปลภาษาอื่น
http://metro2033.wikidot.com

LoveSeeker
1st April 2012, 08:25
ผมจะเิลิกแต่งนิยายแล้วครับผม ผมอยู่ในวงการนี้มานาน อยากพักแล้ว
เห็นเด็กหลายๆคนเติมโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ผมก็ดีใจมากแล้วครับ ลาก่อนครับทุกคน

ครอบดำสิ>>>>>สุขสันต์วัน April Fool's day!<<<<<<<<

nakiann123
1st April 2012, 15:03
ผมจะเิลิกแต่งนิยายแล้วครับผม ผมอยู่ในวงการนี้มานาน อยากพักแล้ว
เห็นเด็กหลายๆคนเติมโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ผมก็ดีใจมากแล้วครับ ลาก่อนครับทุกคน

ครอบดำสิ>>>>>สุขสันต์วัน April Fool's day!<<<<<<<<

ฮ่าๆ น่าจะเอาลงไปอีกนะท่าน ให้มันได้เลื่อนลงมา นี่มันไม่ลุ้น 5555

Jomzababin
1st April 2012, 15:10
เอ้อนท่าน ตัวผมชื่อ เป็นเอกเน้อ ตอนนั่นพิมพ์ผิดพึ่งเห็น... ฮ่าๆ อันนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับ 1 เมษาน่ะ เรื่องจริงๆ

GIGABom
1st April 2012, 22:40
ผมจะเิลิกแต่งนิยายแล้วครับผม ผมอยู่ในวงการนี้มานาน อยากพักแล้ว
เห็นเด็กหลายๆคนเติมโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ผมก็ดีใจมากแล้วครับ ลาก่อนครับทุกคน

ครอบดำสิ>>>>>สุขสันต์วัน April Fool's day!<<<<<<<<

****ด ผมครอบดำก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอ่าน -0- มันน่าสนใจ 5555

LoveSeeker
17th April 2012, 09:24
ตัวอย่างตอนต่อไป

บทที่2: พี่เลี้ยงเด็ก

“ระวังหลัง” นิสารัตน์ร้องและเล็งไปยังกูลตนหนึ่งที่วิ่งตัดผ่านช่องระหว่างเนินซากปรักหักพังหลังพวกเขา มันวิ่งเร็วเกินกว่าที่นิศจะเล็งยิงมันได้ทัน เสียงฝีเท้าจำนวนมากดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา ไอราวัณบรรจุกระสุนซองใหม่เข้าสู่ปืน และเล็งไปยังช่องระหว่างเนิน เขาเลียริมฝีปาก เสียงการยิงปืนต่างๆ เงียบลงไปในความคิดของเขา มีเพียงเสียงฝีเท้า และเสียงหัวใจที่เต้นรัว ม่านตาของเขาเปิดกว้าง เหงื่อเป็นเม็ดผุดขึ้นตามใบหน้า เขาปรับโหมดการยิงเป็นอัตโนมัติ เสียงฝีเท้าดังขึ้น และเพิ่มความถี่มากขึ้น เศษหินเล็กๆตกลงจากเนินด้วยแรงสั่นสะเทือน

nakiann123
17th April 2012, 12:15
มาแล้ว มาแล้ว รออ่านครับผมม

maxarmyus
17th April 2012, 17:26
สู้ๆครับรออ่านอยู่ครับ:cool:

LoveSeeker
19th April 2012, 10:31
แวะเอาข้อมูลของ "กูล" มาอัพ บนที่2เสร็จแล้ว ขอแก้คำผิดหน่อยแล้วกันครับ พรุ้งนี้น่าจะลงได้


ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย C-120
เขตรับผิดชอบ: ปักกิ่ง ประเทศจีน
วันที่: 12/05/2125
รายงานการค้นพบ
เรื่อง:สิ่งมีชีวิตกลายพันธ์
เรื่องย่อย: Subject H-001 และ Subject H-002
เอกสารที่แนบ: รูปถ่ายภายนอก และรูปถ่ายภายใน



สิ่งมีชีวิตกลายพันธ์ที่มี่ต้นกำเนิดจากมนุษย์ แต่ถูกกัมมันตรังสีจนผิวหนังและระบบในร่ายกายเกิดการเปลี่ยนแปลง มีอายุยืนขึ้น มีความต้องการใช้พลังงานมากขึ้น กินอาหารมากขึ้น และด้วยความต้องการพลังงาน ทำให้ Subject H-0011 และ Subject H-0012 มีรูปร่างสรีระบาง ผอม และคล่องแคล่ว


Subject H-0011: สมองยังคงทำงานเป็นกรติ ยังสามารถพูดคุยโต้ตอบได้ และยังมีความคิดความสามารถทัดเทียมมนุษย์
Subject H-0012: เนื่องด้วยถูกกัมมันตรังสีทำลายสมองส่วนใหญ่ สมองส่วนที่เหลือจึงตอบสนองสัญชาติญาณดิบ คือ กิน และขยายพันธุ์ ชอบอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม และออกล่าพร้อมกันอย่างเป็นระบบ



วิธีการกำจัด: สามารถกาจัดได้โดยการทำลายจุดสำคัญเหมือนเช่นมนุษย์

LoveSeeker
19th April 2012, 16:02
http://image.ohozaa.com/i/584/7A6Dc.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/w1slif4CJw97vuI8)

บทที่2 : พี่เลี้ยงเด็ก
สุริยะและธีระพลเดินลากรถเข็นขนาดใหญ่ไปตามทางเดินระหว่างคลังแสงและโรงรถ บนรถเข็นประกอบด้วยปืนกลหนักขนาด12มิลลิเมตรสองกระบอกและกระสุนอีกหลายกล่อง “ทำไมพลปืนกลต้องมาขนอาวุธแล้วก็ติดตั้งปืนด้วยวะ ?” ธีระพลถามขึ้นในระหว่างที่พวกเขาเดินมาถึงหน้าประตูโรงรถ

“ถ้าพลปืนกลไม่ทำ แล้วใครจะทำ” สุริยะตอบเสียงเรียบๆ โรงรถเป็นอาคารทรงสี่เหลียมผืนผ้า สร้างจากสังกะสีและเศษเหล็ก ภายในเป็นที่เก็บยานพาหนะทุกประเภทของศูนย์ นับแต่รถเคลื่อนที่เร็วไปจนถึงรถถังหลัก ช่องเก็บรถของแต่ละหมู่ถูกแบ่งไว้ด้วยรั้วไม้ต่ำๆ ทั้งสองดึงรถเข็นไปยังเขตของหมู่เอคโค พันจ่าเอกเรวานอฟถือแผ่นคลิปบอร์ดในมือข้างหนึ่ง ถือปากกาในมืออีกข้างและกำลังเดินตรวจสอบรถหุ้มเกราะเบาสภาพใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งถอยมาจากโรงงาน รถทั้งสองจอดอยู่คู่กันในเขตของหมู่เอคโค วิศวกรในชุดหมีสีน้ำตาลสองกำลังเช็คเครื่องยนต์อยู่ใต้รถทั้งสองคน ส่วนอีกคนก็อยู่ในห้องคนขับเพื่อที่จะเร่งเครื่องตามที่วิศวกรใต้ท้องรถสั่งการ

“สวัสดีครับจ่า” พลปืนกลหนุ่มทั้งสองพูดพร้อมทำความเคารพแบบพอเป็นพิธี ซึ่งจ่าวัยกลางคนก็ตอบกลับมาเพียงแค่ว่า “ไง” และกลับไปง่วนกับการเช็คสเปครถหุ้มเกราะ

“ขออนุญาตติดตั้งปืนครับ”

“เชิญ” จ่าตอบห้วนๆ สองหนุ่มดึงรถเข็ญเข้าไปอยู่ระหว่างรถหุ้มเกราะ ทั้งสองปืนขึ้นไปบนรถ และช่วยกันยกปืนน้ำหนักยี่สิบห้ากิโลกรัมขึ้นไปบนหลังคา และเริ่มติดตั้งปืนทังสองกระบอกจนเสร็จ จากนั้นพวกเขาก็เคลื่อนรถเข็ญไปหลังรถ

“สวัสดี” เสียงใสๆที่แสนคุ้นหูของสุริยะดังขึ้นจากหลังรถของทีม2 นั่นไม่ใช่เสียงของใครนอกจากเจ้าหญิงหญิงสาวแฟนเก่าของเขา เขาชายตาไปมองเล็กน้อยและรู้สึกดีมากที่เธอทักธีระพลไม่ใช่เขา เธอคงจะอยู่ในรถหุ้มเกราะและไม่ทันได้สังเกตเห็นเขาแน่ เขารีบใช้เวลาช่วงนี้ยกลังกระสุนขึ้นไปบนรถจนครบสิบลัง และกระโจนขึ้นไป โดยหวังว่ารถจะช่วยซ่อนเขาได้ เสียงของเธอคุยกับธีระพลดังอยู่ใกล้ๆ แต่สุริยะไม่ใส่ใจว่าพวกนั้นคุยอะไรกัน เขานั่งลงบนม้านั่งผ้าใบยาวข้างหนึ่งเปิดกล่องกระสุน ดึงสายกระสุนออกมาและมองหากระสุนที่บิดเบี้ยวหรือไม่มีดินขับ จากนั้นเขาก็คัดมันออกทีล่ะนัด จนเขาคัดมันออกจากทุกกล่อง

เขาปิดกล่องกระสุนกล่องสุดท้ายและพิงไปกับด้านข้างของตัวรถ สายตาของเขาเหลือบไปเห็นหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งที่นั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างห้องคนขับและห้องสัมภาระ มือของสุริยะเลือนไปยังปืนพกของเขา

“ใจเย็นก่อน” หญิงสาวคนนั้นร้อง สีสันหายไปจาใบหน้าของเธออย่างรวดเร็ว นัยน์ตาสีเขียวอ่อนฉายแววหวาดกลัวออกมา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนนะ” เธอพูดเสียงกุกกัก “ฉันแค่อยากผ่านออกไปข้างนอก

“ผมขอโทษ” สุริยะพูด “ผมไม่ได้ตังใจทำให้คุณกลัว ผมแค่ตกใจ” เขาพูดและละมือออกจากปืนของเขา “ผมสิบเอกสุริยะ” เขาแนะนำตัว เธอออกจากห้องคนขับและนั่นบนม้านั้งตรงข้ามกับเขา

“ฉัน อนาสตาเซีย หัวหน้าวิศวกรประจำทีมเอคโค” เธอยื่นมือมาให้สุริยะสัมผัส เธอเป็นหญิงสาวตัวเล็ก รูปร่างผอม จมูกโด่งแบบยุโรป คิ้วเรียวบางดูเข้ากับใบหน้ารูปไข่และนัยน์ตากลมโตของเธอเป็นอย่างดี

“สวัสดีครับ” สุริยะพูดและสัมผัสมือกับเธอ “แล้วรถคันนี้เป็นไงบ้างครับ”

“ที่ฉันบอกได้ก็คือ มันสามารถพาคุณผ่านห่ากระสุนของกลุ่มโจรได้แน่นอนค่ะ แต่ว่าคันนี้ยังมีปัญหาเรื่องระบบท่อเชื้อเพลิง ฉันต้องซ่อมก่อนถึงจะเอาออกไปใช้งานได้”

“งั้นผมคงจะต้องใช้รถแบบเปิดโล่งไปก่อนสินะครับ”

“ถูกต้องค่ะ แต่ว่าฉันคิดว่า คุณคงจะไม่ได้ใช้รถแบบเปิดโล่งหรอก เพราะฉันจะซ่อมเสร็จภายในสอง-สามชั่วโมง” เธอพูดพร้อมยิ้ม

“อ้อครับ ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”



จ่าสิบเอก รีเซีย โมเมนล่า หญิงสาวพลแม่นปืนประจำหมู่เดลต้า-3 เดินเข้ามายังกองบัญชาการที่เต็มไปด้วยทหารมากมาย เธอถอดหมวกกันกระสุน และสยายผมให้เข้าทรง เธอวางหมวกไว้บนเคาท์เตอร์บริการเก็บของและเดินไปเข้าไปยังห้องประชุมที่อยู่ในสุดของกองบัญชากร เธอเปิดประตู นายทหารจำนวนมากมาถึงก่อนแล้ว เธอมองไปตามเก้าอี้เพื่อหาที่ว่าง และเธอก็พบ เธอเดินไปยังที่นั่น และบอกกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ “นั่งด้วยได้ไหม”

“เชิญครับจ่า” เชคอฟพูด และเปิดซองรายละเอียดภารกิจที่ได้รับ

“ได้ข่าวว่านายถูกย้าย” เธอถามแลรับซองเอกสารสีน้ำตาลจากนักเรียนทหารคนหนึ่ง

“ครับ” เขาตอบและเริ่มอ่านเอกสาร “ได้เลือนตำแหน่งด้วย จากพลปืนเล็กยาว เป็นหัวหน้าทีม”

“ยินดีด้วยจ่า” เธอพูดและเริ่มแกะซองเอกสาร “ฉันประจำการมาหกปี ไม่ได้ใกล้เคียงหัวหน้าทีมเลย” เธอพูดและยิ้ม ก่อนที่รอยยิ้มของเธอจะหายไปหลังจากที่ได้อ่านเนื้อความในเอกสาร

“เป็นอะไรไปครับจ่า” เชคอฟถามหลังจากสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ

“ฉันถูกย้าย ไปประจำที่หมู่เอคโค เลือนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม2”

“โอ้ เยี่ยมเลยครับ”เชคอฟพูดและยิ้ม “ขอต้อนรับสู่หมู่เอคโค ครับ”

“นายเป็นหัวหน้าทีม-1 สินะ”เธอพูดและมองดูรายชื่อสมาชิกในหมู่ “ดูแต่ละคนสิ ทหารประจำการ ครูในโรงเรียน เด็กจบใหม่พร้อมเกียรตินิยม วิศวกรอายุไม่ถึงเกณฑ์ พวกบ้าพลัง ใครเป็นผู้บังคับหมู่”

“ฉันเอง” เสียงห้าวๆ ดังขึ้นจากข้างหลังของรีเซีย เสียงต่ำๆนั้นทำให้รีเซียขนลุกเมื่อนึกถึงเจ้าของเสียง เธอลุกขึ้น หันกลับ และทำความเคารพ “สวัสดีค่ะ”

“นั่นไม่จำเป็นแล้วทหาร คุณไม่ใช่เด็กๆแล้ว ไม่ต้องตะเบ๊ะผมก็ได้”

“ค่ะจ่า” เธอพูดและลดมือลง เรวานอฟยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังหน้าห้อง เขาก้าวขึ้นบนเวทีซึ่งสูงจากพื้นประมาณครึ่งฟุต ผนังที่ติดกับเวทีมีแผนที่ขนาดใหญ่แขวนอยู่ “หมวด 5 โปรดฟัง” เขาพูดเสียงดัง ทหารภายในห้องหยุดพูดคุยกันและหันมาฟังจ่าวัยกลางคน “อย่างที่รู้กันว่า หมวด1 และหมวด 2 ถูกส่งไปเสริมในพื้นที่ชายแดนทิศเหนือ ส่วนหมวด 3 และ 4 ก็ประจำอยู่ตามฐานยิงต่างๆ หน้าที่ลาดตระเวนรอบบ่ายจึงของพวกนาย”

“รับทราบ” ทุกคนรับ

“หมู่แอลฟ่าและบราโว่ คุณเป็นหน่วยที่1 ลาดตระเวนทางทิศเหนือ บริเวณชานเมือง โดยคุณจะมีผู้หมวดฟ้าเป็นผู้บังคับหน่วย” เขาพูดและชี้ตำแหน่งบนแผนที่

“หมู่ชาลีและเดลต้า คุณเป็นหน่วยที่2 คุณรับหน้าที่เมืองทิศใต้ คุณมีกัปตันอเมริกาเป็นผู้บังคับหน่วย” เขาพูดและชี้แผนที่

“[เซ็นเซอร์]” หมู่ชาลีและเดลต้าอุทานเสียงดัง กัปตันอเมริกาคือชื่อที่พวกเขาเรียกร้อยตรีหนึ่ง ผู้ที่พาทหารทั้งหมวดหลงทาง และทำภารกิจง่ายๆ ให้ลายเป็นภารกิจที่ยาก

“เอคโค เลี้ยงเด็ก”

“นั่นไง” รีเซียพูดเบาๆ ในขณะที่เชคอฟนวดขมับของเขาเบาๆพร้อมสบถออกมาเป็นภาษารัสเซีย

“มีคำถามไหม” เรวานอฟถามต่อ “แยกย้ายได้” เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้ทหารของเขาถามคำถามเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ทหารทุกคนชินชากันแล้ว รีเซียและเชคอฟลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกจากห้อง

“พี่เลี้ยงเด็ก” เชคอฟพูดในระหว่างที่ทั้งสองเดินไปยังโรงรถ “นึกว่าจะได้หลุดพ้นจากเด็กพวกนี้แล้วเสียอีก” งานพี่เลี้ยงเด็กคืองานคุ้มกันนักเรียนวิชาการปกครองเข้าไปในเขตสีเหลือง ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายจากโจรและสัตว์กลายพันธุ์ ทั้งสองเดินเข้าไปในโรงรถและตรงไปยังเขตของทีมเอคโค ซึ่งสมาชิกคนอื่นๆรออยู่ก่อนแล้ว พวกเขาแต่ล่ะคนแต่งกายในชุดพรางเมืองสีขาว-เทาเขียว-น้ำตาลดำ

“สวัสดี” รีเซียทัก คนอื่นๆ

“ใครครับจ่า”ไอราวัณถามเชคอฟในระหว่างที่กำลังยัดซองกระสุนเข้าสู่กระเป๋าบนเสื้อกันกระสุน

“จ่าสิบเอก รีเซีย โมแมนล่า” เชคอฟพูดและเดินไปยังโต๊ะวางอุปกรณ์ ที่สุริยะและนิศารัตน์กำลังหยิบฉวยน้ำและอาหารใส่กระเป๋าสะพาย “นั่นไม่ต้อง เราไปไม่นาน และจะกลับมาก่อนมื้อเย็น” เรเซียเดินไปยังโต๊ะของทีม2 และมองดูหน้าสมาชิกของทีมทีละคน

“คิดจะแนะนำตัวไหม” เธอพูดและเริ่มเช็คอาวุธของเธอ ลูกทีมมองหน้ากันเหมือนจะผลักความรับผิดชอบ “ไม่เอาน่า สักคนเถอะ” เธอพูดอย่างหัวเสีย และใส่ซองกระสุนเข้าสู่ปืนไรเฟิลซุ่มยิงอัตโนมัติ “นายก่อน” เธอพูดและมองไปทางธีระพล

“สิบเอก ธีรพล คนกล้า ตำแหน่งพลปืนกลประจำทีมครับ” ธีรพลแนะนำตัว เธอหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่ผมทรงโมฮอว์คแสนจะสะดุดตา

“จ่าสิบตรี ไกรษร รัตนชัย ครับ แพทย์สนาม” เธอมองไปยังชายคนสุดท้าย

“สิบเอกอัตนัย วีรยะ” เขาพูดและตรวจปืนไรเฟิลของเขา “เพื่อนๆเรียกผมว่า ไอ้บ้าพลัง”

“ฉันอ่านประวัตินายแล้ว นายบ้าพลังต่อไปได้ตราบใดที่ยังไม่ได้ทำให้ใครตาย เข้าใจรึเปล่า”

“ครับจ่า” เสียงเครื่องยนต์ของรถเคลื่อนที่เร็วตังเข้ามาใกล้พวกเขา พร้อมเสียงตะโกนสั่งหยุดของจ่าเรวานอฟ

“เอคโค-1 เสียใจด้วยที่รถหุ้มเกราะของนายยังไม่พร้อมใช้ ฉันเลยเอารถเคลื่อนที่เร็วที่ดีที่สุดมาให้พวกนาย หวังว่ามันจะทำให้นายรอดตายกลับมาได้” เขาพูดและลงจากรถ “ซึ่งหัวหน้าวิศวกรของทีมเราก็กำลังพยายามซ่อมแซมไอ้ขยะนั่นอย่างเต็มความสามารถ” ยูเลียลงจากรถเคลื่อนที่เร็วและยกลังบางอย่างลงจากหลังรถ

“ไง” เธอทัก ชายหนุ่มเกือบทุกคนในทีมยกเว้นสุริยะมองเธอเป็นตาเดียวในระหว่างที่เธอเดินผ่านพวกเขาไปยังรถหุ้มเกระของทีม-1

“สมาธิ” เรวานอฟพูดเสียงดังทำเอาทุกคนสะดุ้งโหยงและตื่นจากวังวัน “งานง่ายๆ เด็กๆ”เขาพูดและกระชากลูกเลื่อนปืนกลมือของเขา “เข้าไป จัดแนว ถอนกำลัง กลับมากินข้าวเย็น”

“นักเรียนทหารเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ไหมครับจ่า” เชคอฟถามขึ้น

“แน่นอน เพราะฉะนั้น เราปล่อยให้เด็กดูแลกันเอง แล้วเราก็ไปหาสาวๆสวยๆ มาขย้ำเลยเด็กๆ”

“ฮูร่า!” ชายหนุ่มทุกคนร้อง

“ขึ้นรถได้แล้วเด็กๆ” จ่าสั่ง หมู่เอคโคหยิบจับอาวุธและสัมภาระก่อนกระโดนขึ้นรถ “ฉันจะไปกับพวกนักเรียนทหารนะ เชคอฟ นายดูแลหมู่นี้ด้วย”


“ไกรษร นายขับ” รีเซียสั่งและปีนขึ้นรถจากทางประตูช่วยคนขับ “ธีระพล อยู่ข้างบนระวังหัวหายนะหนู”

“หัวหายไม่เป็นไรครับจ่า แต่ไอ้ที่อยู่ข้างล่างหาย ผมตายแน่ครับ” รีเซียขำเล็กน้อย ก่อนดึงประตูให้ปิด ไกรษรติดเครื่องยนต์ เสียงของมันดังกระหึ่ม

“พร้อมลุยครับจ่า” รถของทีม-1เคลื่อนที่ออกจากโรงรถ ตามมาด้วยรถของทีมสอง พวกเขาขับออกจากศูนย์ และเลี้ยวซ้าย ขบวนรถของนักเรียนทหารและนักเรียนปกครองจอดรออยู่ที่ข้างทางแล้ว “ทีมสอง ขึ้นไปนำขบวน ให้ทีมหนึ่งปิดท้าย” เสียงของเรวานอฟดังขึ้นจากวิทยุที่อกขวาของรีเซีย “ความเร็วที่ 50” รถของทีมหนึ่งขับเลียบข้างทางและหยุดลง ปล่อยให้ทีมสองขึ้นไปนำขบวน ที่ประกอบด้วยรถเคลื่อนที่เร็วสี่คัน และรถหุ้มเกราะของนักเรียนปกครอง 1 คัน

“เอาล่ะ เปิดหูเปิดตาไว้นะทุกคน” รีเซียพูดในขณะที่ขบวนรถกำลังเคลื่อนออกจากศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย พวกเขาขับรถผ่านแนวป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้กลายพันธุ์ หญ้ารกสูงเหมาะแก่การซุ่มโจมตี แต่พวกเขาโชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดทั้งการเดินทาง สองข้างทางเปลี่ยนสภาพเป็นบ้านรกร้าง เต็มไปด้วยพืชล้มลุกขึ้นตามผนังบ้านจนเกือบจะคลุมบ้านทั้งหลัง บ้านบางหลังก็ถูกลมพายุพัดหายไปครึ่งหลัง “เลี้ยวซ้ายข้างหน้า” เสียงเรวานอฟสั่งจากทางวิทยุ

“กำลังเลี้ยว” รีเซียรายงานกลับไปในขณะที่ไกรษรเริ่มหักพวงมาลัย บ้านสองข้างทางหนาแน่นมากขึ้น อีกทั้งยังมีสิ่งต่างๆ กระจายบนถนน ไม่ว่าจะเป็นกระป๋อง ไม้ หรือแม้แต่เศษคอนกรีตจากบ้านที่พังทลาย พวกเขาขับหลบหลีกสิ่งเหล่านั้นอย่างช้าๆ ธีรพลเลียริมฝีปากและสอดสายสายตาไปรอบๆ

“สี่สิบ เคพีเอ็ม” เรวานอฟสั่งจากวิทยุ ไกรษรถอนคันเร่งลงเล็กน้อยและยังคงหักหลบส่งกีดขวางต่างๆ พวกเขาผ่านถนนที่ร้างผู้คน “ซากอารยธรรม” ไกรษรพูดกับตัวเองเบาๆ และมองดูบ้านที่พังทลาย พวกเขาเลี้ยวออกจากถนนหลักไปยังถนนสายเล็กๆเพื่อหลบเศษวัสดุที่กีดขวางทาง ก่อนจะกลับเข้าสู้ถนนสี่เลนส์อีกครั้ง

“นั่นไง” ซีเรียพูดและมองไปยังกำแพงสูงหลายเมตรซึ่งสร้างจากสังกะสีและเศษวัสดุต่างๆ “เมืองพรรณพยัคฆ์ แหล่งอารยธรรมหลังสงคราม”

“บ้านป่าเมืองเถื่อน” อัตนัยพูด ประตูสังกะสีถูกเปิดออกจากภายใน ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์หลายคนเดินออกมาพร้อมอาวุธครบมือ ไม่ว่าจะเป็นปืนพก ปืนกลมือ ปืนลูกซอง หรือแม้แต่ปืนกลหนักขนาด12.7ม.ม.ที่ถูกติดตั้งไว้ที่หลังคาบ้านหลังหนึ่งภายในเขตของเมือง หนึ่งในชายฉกรรจ์โบกให้พวกเขาหยุดรถ

“เอคโค-2 เรียก เอคโค” รีเซียเรียกเรวานอฟผ่านทางวิทยุคลื่นสั้นประจำทีม “ยามของเมืองโบกให้หยุดเปลี่ยน” เรวานอฟไม่ตอบอะไร เพียงแต่รถของทีม1เร่งเครื่องแซงขึ้นไปและจอดหน้าชายเหล่านั้น เชคอฟกระโดดลงจากรถ และเดินเข้าไปคุยอะไรบางอย่างกับหัวหน้ายาม ไม่ถึงอึดใจต่อมาสุริยะก็โบกให้พวกเขาผ่านเข้าไป ขบวนรถผ่านประตูเข้าไปในเขตของเมืองพรรณพยัคฆ์ “จอดที่แยกกลางเมือง” เรวานอฟสั่งทางวิทยุ ไกรษรหักพวงมาลัยและจอดรถที่กลางเมือง รถคันถัดไปเลยพวกเขาและจอดเรียงกันเป็นวงกลมก่อนที่รถหุ้มเกราะของนักเรียนทหารจะเข้ามาจอดตรงกลาง “ตามสบายเด็กๆ” เรวานอฟบอกทุกคนผ่านวิทยุ “ฉันจะพานักเรียนพวกนี้ไปพบเจ้าเมือง” เขาพูดและลงจากรถหุ้มเกราะ “อย่าไปไหนไกลละ”

“ลงจากรถ” รีเซียสั่งลูกทีมและเปิดประตูลงจากรถ เธอกดปุ่มบทวิทยุที่อก “ให้ตั้งแนวไหมคะจ่า”

“ไม่จำเป็น” เรวานอฟตอบกลับมา “อย่าอยู่ห่างวิทยุล่ะ ฉันไม่ไว้ใจกัปตันอเมริกา”

“รับทราบ” เธอตอบ เมืองพรรพยัคฆ์คือหนึ่งในสองเมืองที่ตั้งอยู่ในรัศมีสิบกิโลเมตรจากศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เมืองถูกสร้างจากเศษวัสดุต่างๆ รูปทรงของบ้านแต่ละหลังดูแปลกตา บิดเบี้ยว และไม่แข็งแรง ผนังและหลังคาเป็นสังกะสีผุๆ หรือแผ่นไม้บางๆ ประชาชนล้วนแล้วแต่ไร้การศึกษา อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ อยู่ได้โดยการล่าสัตว์ต่างๆ และหาของป่าประทังชีวิต แม้บางครั้งพวกเขาก็เสี่ยงที่จะเดินทางเข้าไปหาอาหารกระป๋องในใจกลางเมืองปรักหักพัง แต่น้อยคนนักที่จะรอดกลับมา เพราะในใจกลางเป็นที่อยู่ของทั้งสัตว์ดุร้าย และสิ่งที่พวกเขาเรียกว่ากูล กูลคือสิ่งมีชีวิตที่เคยเป็นมนุษย์ แต่ได้รับสารกัมมันตรังสีเข้าไป ในช่วงแรก มนุษย์ที่กลายเป็นกูลจะผิวหนังเปื่อยยุ่ย เหมือนกับผีดิบ แต่สมองยังไงใช้งานได้ หากว่ายังคงได้รับสารกัมมันตรังสีต่อไป จะกระทบกับสมองจนสมองตอบสนองต่อสัญชาตญาณดิบ คือล่า และกิน พวกมันกินทุกอย่างที่มีชีวิต เหมือนดังพวกมันเป็นผีดิบซอมบี้ แต่ว่าพวกมันเร็วกว่า คล่องตัวกว่า และบางครั้งก็ทำงานกันเป็นทีม

รีเซียปีนขึ้นไปบนหลังคารถหุ้มเกราะ และใช้กล้องส่องทางไกลมองดูรอบๆ เธอมองไปยังตลาดที่เต็มไปด้วยแผงขายสินค้า เวลานี้แทบจะไม่มีลูกค้าในตลาด อาจะเพราะผู้คนกำลังออกไปนอกกำแพงเพื่อหาอาหาร เธอสอดส่ายกล้องเพื่อหาสิงค้าที่เธอต้องการ แล้วเธอก็พบมัน เธอยิ้มด้วยความดีใจและกระโจนลงจากหลังคารถ “เชคอฟ ดูแลให้แปปนึงนะ จะไปตลาด” เธอพูดแต่ไม่ยอมฟังเสียงตอบกลับของเชคอฟ เธอมุ่งหน้าไปยังตลาด ถอดหมวกกันกระสุนออกมาถือ และตรงไปยังร้านที่เธอหมายตา แม่ค้าชายเมืองส่งยิ้มให้เธอเมื่อเธอหยุดที่หน้าร้าน ใบหน้าของรีเซียเปี่ยมไปด้วยความสุข เธอหยิบลิปสติกแท่งสีชมพูขึ้นมาจากแผง “มีของแบบนี้อีกไหมคะ” แม่ค้ายิ้มและก้มลงไปหยิบกล่องใส่กระสุนสีเขียวขึ้นมายื่นให้รีเซีย รีเซียเปิดกล่องกระสุนออก ภายในเต็มไปด้วยลิปสติก แป้ง แชมพูสระผม และอีกมากมาย รีเซียฉีกยิ้มกว้างและหันไปมองหน้าแม่ค้า

“หมดนี่เท่าไหร่คะ” เธอพูด

“รอเดี๋ยวนะ”แม่ค้าตอบกลับและหันกลับไปหยิบแว่นตามาใส่ “ขอดูกระสุนด้วยค่ะ” รีเซียหยิบซองกระสุนปืนไรเฟิลซุ่มยิงและปืนพกของเธอออกจากกระเป๋าบนเสื้อเวสกันกระสุน

“ใช้ขนาดไหนคะ” รีเซียถาม ซึ่งแม่ค้าก็ชี้ไปยังซองกระสุนปืนพก รีเซียเก็บซองกระสุนไรเฟิลและปลดกระสุนออกจากซองปืนพก แม่ค้าหยิบกระสุนนัดนั้นขึ้นไปดู หมุนมันไปมาสองสามรอบ ก่อนจะหันมาบอกรีเซีย “สิบห้าค่ะ” รีเซียปลดกระสุนออกจากซองจนครบ หยิบเอากล่องเครื่องสำอาง และเดินยิ้มกว้างกลับไปที่รถหุ้มเกราะ เธอเปิดประตูห้องโดยสารและเก็บกล่องนั้นไว้ใต้เก้าอี้ยาว

“ได้อะไรมาเปลี่ยน” เสียงเชคอฟดังขึ้นจากวิทยุ

“เครื่องสำอาง”เธอตอบกลับ เสียงหัวเราะดังขึ้นจากรถของทีมหนึ่งและทีมสอง ธีรพลหัวเราะออกมาอย่างดังและพยายามกลั้นหัวเราะด้วยการซบใบหน้าลงกับปืนกลหนักที่ติดรถ “ขำอะไรกันยะ!” เธอตะโกนไปทางรถของทีมหนึ่ง “ฉันผู้หญิงนะโว้ย”

“ได้ยินแล้ว” เชคอฟพูดผ่านวิทยุ “ลูกทีมฉันคนหนึ่งอยากจะซื้อของต่อจากเธออะ จะมีปัญหาอะไรไหม”

“ไม่มี” เธอตะโกนกลับไปโดยไม่ผ่านวิทยุ ใบหน้าแดงกำด้วยความเขินอาย

“เธอชื่อนิศ พอกลับถึงฐานแล้วเธอจะไปหาที่ห้องนะ เลิกการติดต่อ” เสียงปืนดังขึ้นทันทีหลังจากสิ้นเสียงของเชคอฟ มันดังรัวติดๆกันหลายนัด ตามาด้วยเสียงระเบิด และเสียงปืนเป็นชุดๆ “รีเซีย ตรวจวิทยุด้วยเปลี่ยน”เสียงของเรวานอฟสั่ง เธอทำตามเสียงนั้นอย่างรวงดเร็ว เธอกระโจนขึ้นไปบนห้องโดยสารและโผล่ไปยังห้องคนขับ สีหน้าที่เขินอายได้หายไปแล้วโดยมีสีหน้าที่แสนจะจริงจังเข้ามาแทนที่ “นี่เดลต้า เราถูกโจมตี ย้ำ เราถูกโจมตี ขอคำแนะนำด้วยเปลี่ยน” เสียงของหัวหน้าหมู่เดลต้าดังขึ้นจากวิทยุ “หาทางออกมาทหาร ยังไม่มีความช่วยเหลือในขณะนี้ ชาลีกำลังบุกเข้าห้างสรรพสินค้าเปลี่ยน”

“จ่าเรวานอฟ นี่นีเซีย เดลต้าติดโคลน ย้ำติดโคลนเปลี่ยน”

“กำลังไป” เราวานอฟตอบกลับมาจากวิทยุ เสียงของหมู่เดลต้ายังคงดังจากวิทยุ สอดแทรกด้วยเสียงครางของคนเจ็บ เสียงปืนดังรัวขึ้น เร็วขึ้น อีกทั้งยังมีเสียงระเบิดคลอเป็นพักๆ เรวานอฟปรากฎตัวออกมาจากตรอกเล็กๆและวิ่งมายังรถหุ้มเกราะของทีม2 เขากระโดดขึ้นรถและเข้าไปหาวิทยุอย่างรวดเร็ว “เดลต้า นี่เอคโค่ รายงานด้วยเปลี่ยน”

“จ่า เวลานี้เรากำลังถูกถล่มหนัก คนเจ็บสี่คน รวมถึงผมด้วย เราถูกปิดทางออกบริเวณหน้าโรงพยาบาล ขอกำลังเสริมด่วยด้วย เปลี่ยน” เรวานอฟกางแผนที่และเริ่มคิดแผนการ

“ติดต่อศูนย์”เรวานอฟสั่ง และลงจากรถ “เอคโค-1 เอารถมาตรงนี้” เขาร้องสั่งทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น รีเซียหันกลับไปจัดการกับวิทยุ “นี่เอคโค-2 ศูนย์เอ ตอบด้วยเปลี่ยน”

“ศูนย์เอ ได้ยินแล้ว เอคโค่-2 ว่าไป เปลี่ยน” ทหารสื่อสารตอบเธอ

“หมู่เอคโคขออนุญาตนำกำลังเข้าช่วยเหลือเดลต้าเปลี่ยน” เสียงเครื่องส่งวิทยุเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ทหารสือสารจะส่งคำตอบ “อนุญาต เลิกการติดต่อ”

“จ่า ภารกิจ ไป ย้ำอีกครั้ง ไป” เธอตะโกนบอกเรวานอฟที่กำลังเดินกลับมายังรถ

“ขออาสาสมัครสองทีม” เขาตะโกนเสียงดัง อาสาสมัครหาไม่ยากท่ามกลางนักเรียนทหารแบบนี้ ทุกคนที่อยู่โดยรอบยกมือขึ้นโดยไม่คิดแม้แต่น้อย “ดีมาก ทีม3และ4 ตามฉันมา ที่เหลือรออยู่ที่นี่” เขากระโดดขึ้นรถของเอคโค2และเข้าไปยังที่นั่งผู้ช่วยคนขับ “ไปได้แล้ว”
รถทั้งสี่เคลื่อนตัวออกจากเมืองพรรณพยัคฆ์ พวกเขาไปตามถนนหลายช่องจราจร ก่อนที่รถของทีม-1จะแยกตัวออกไป พวกเขาไปกันต่ออีกเล็กน้อยก่อนที่เรวานอฟจะสั่งให้เลี้ยวลงข้างทางและปรับเครื่องยนต์เป็นโหมดลอบโจมตี ซึ่งในโหมดนี้ เครื่องยนต์จะลดพลังขับเคลื่อนลงครึ่งหนึ่ง และเสียงเครื่องยนต์ที่เบาลงมาก พวกเขาเคลื่อนที่ผ่านทุ่งหญ้ารกสูงที่ถูกทิ้งร้างมาหลายร้อยปี พงหญ้าเหล่านี้สูงกว่าหลังคารถหุ้มเกราะเสียอีก อีกทั้งยังขึ้นอยู่หนาทึบ ทำให้พวกเขาสามารถพรางตัวไปกับพงหญ้าเหล่านี้ได้สบาย พวกเขาเข้าไปใกล้จุดปะทะมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงปืนที่ดังสนั่น คลอกับเสียงระเบิดทำให้เหล่านักเรียนทหารถึงกับหน้าซีดเผือกด้วยความกลัว “ประจำตำแหน่ง”เสียงของเชคอฟดังขึ้นจากวิทยุ ในที่สุดเรวานอฟก็มาถึงจุดปะทะ บ้านสองหลังสภาพค่อนข้างดีอยู่ติดกัน เป็นที่ซุ่มของเหล่าโจร อีกฝากคือโรงพยาบาลที่หมู่เดลต้ากำลังถูกยิงกด

“หาที่กำบัง” เรวานอฟสั่งและลงจากรถและวิ่งไปหลบหลังซากบ้านที่เหลือเพียงกำแพงชั้นแรก ไกรษร อัตนัยและนักเรียนทหารต่างก็เข้าหาที่กำบังและตรวจสอบอาวุธ รีเซียปีนขึ้นไปบนหลังคารถหุ้มเกราะ กางขาทราย หมอบลง “เตรียมระเบิดมือ” เรวานอฟพูด ทหารทุกคนต่างก็ควักระเบิดมือออกมาจากกระเป๋าระเบิด “เอคโค่-2 ลุย” สองทหารหนุ่มแกะสลักระเบิดและโยนเข้าไปในบ้านแต่ล่ะหลัง ระเบิดมือระเบิดขึ้นทันทีที่กระทบกำแพง เสียงของมันดังสนั่น สะเก็ดระเบิดปลิวไปทุกทิศทาง เสียงตะโกนของโจรดังระงม ก่อนที่โจรสองคนจะโผล่ออกหน้าออกมาจากหน้าต่างบ้านแต่ล่ะหลัง “ทีม-3 ระเบิด” นักเรียนทหารทีม 3 เขวี่ยงระเบิดออกไป บ้างก็เข้าไปทางหน้าต่างและเกิดระเบิด บ้างก็ถูกผนังรอบๆหน้าต่างจนระเบิด ไม่กี่อึดใจต่อมา โจรพร้อมปืนกลเบาก็โผล่ออกมายิงพวกเขา “ยิงตามสบาย” เรวานอฟสั่ง เสียงปืนดังขึ้นทันทีที่สิ้นเสียงเขา กระสุนปะทะกับผนังของบ้าน เศษคอนกรีตถูกกะเทาะออกมา เสียงปืนกลหนักคำรามก้องคลอกับสียงปืนไรเฟิลซุ่มยิงของรีเซีย ผนังของบ้านทั้งสองหลังหายไปอย่างรวดเร็วจนเหล่าโจรต้องรีบหาที่กำบัง บ้างก็ถูกปืนกลหนักฉีกแขนขาออกจากร่าง บ้างก็ถูกคมกระสุนปืนของรีเซีย บ้างก็ถูกสะเก็ดของระเบิดมือ “เดลต้าถูกช่วยเหลือแล้ว เปลี่ยน” เสียงของเชคอฟดังขึ้นจากวิทยุ

“ประจัญบาน” เรวานอฟร้องตะโกน ชักมีดออกจากฝัก และวิ่งเข้าไปในบ้าน ตามด้วยนักเรียนทหารพร้อมมีดในมือ การต่อสู้ระยะประชิดเป็นไปด้วยความดุเดือด ต่างฝ่ายต่างพยายามป้องกันตนเองจากอาวุธของอีกฝ่าย เหล่านักเรียนทหาร คงความได้เปรียบเอาไว้ได้ เนื่องจากการฝึกร่างก่าย และการฝึกการต่อสู้ นักเรียนทหารหลบการโขมตีได้อย่างสบายก่อนจะจ้วงแทงเข้าไปที่ร่างของโจร บางคนก็ใช้ปืนพกควบคู่ไปกับมีด เสียงปืน และเสียงร้องดังระงม ก่อนที่จะเงียบลงในเวลาอันสั้น “ทุกคน ตรวจสอบสมาชิก” เรวานอฟสั่งผ่านวิทยุ “ทีม3 ครบครับ” เสียงหัวหน้าทีมรายงานและทรุดตัวลงหนังพิงผนังข้างๆ เรวานอฟ “ทีม4 ครบครับ” หัวหน้าทีมอีกคนรายงานพร้อมถีบโจรคนหนึ่งทะลุประตูหน้าผุๆ ก่อนจะยิงซ้ำด้วยปืนพกอีกหลายนัด

“งานง่ายๆ” ไอราวัณพูดในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกจาจุดปะทะ โดยรถของพวกเขาอยู่รั้งท้ายขบวน “เรวานอฟถึงทุกเอคโค กำลังถอนตัว เลิกการติดต่อ”

“เปิดหูเปิดตาไว้ งานยังไม่จบนะ” เชคอฟพูดและตบไหล่ไอราวัณ ก่อนจะหันไปหานิศารัตน์ ซึ่งกำลังสอดส่ายสายตาไปยังตึกรอบๆ “สิบเอกนิศ เมื่อถึงพรรณพยัคฆ์แล้ว ผมอยากให้คุณควบคุมการ” แต่การสั่งงานของเชคอฟถูกขัดจังหวะด้วยเสียงตะโกนของไอราวัณ

“อาร์พีจี อาร์พีจี!” เขาตะโกนลั่นและหักหลบหัวรบที่กำลังลอยเข้ามา มันกระทบกับถนน และระเบิดห่างพวกเขาไปไม่กี่เมตร สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปทุกทิศทาง สะเก็ดเล็กๆปะทะตามตัวรถ ยางรถสองเส้นระเบิดขึ้นทันทีที่สะเก็ดจากหัวรบแรงสูงสาดสะเก็ด รถเสียการควบคุม และวิ่งเข้าใส่แนวซากคอนกรีตกลางถนน หัวรบลูกที่สองระเบิดใกล้กว่าเดิมมาก แรงระเบิดของรถ ทำให้รถยกตัวสูงขึ้นก่อนจะตะแคงครูดไปกับพื้น จนหยุด เชคอฟและนิศารัตน์ซึ่งไร้สิ่งยึดเกาะปลิวออกไปจากตัวรถ และกระแทกกับพื้นถนน รถหยุดสนิท ไอราวัณและสุริยะนอนกองอยู่ที่พื้นพร้อมแผลถลอก พวกเขาพยายามลุกขึ้น และสะบัดหัวสองสามครั้งเพื่อเรียกสติ เสียงนิศารัตน์ร้องโหยหัวดังเข้าสู้โสตประสาทของสุริยะ เขาพยายามลุกขึ้น พิงรถที่ตะแคงอยู่ และกึ่งวิ่งกึ่งคลานออกไปหานิศารัตน์

“เป็นไงบ้าง” สุริยะพูด ห่ากรุสุนกลุ่มเล็กๆ บินเข้าหาพวกเขา มันเจาะเข้าไปในพื้นถนน และส่งเศษหินและดินขึ้นสู่อากาศ สุริยะไม่รอคำตอบ เขาลากนิศารัตน์เข้าที่กำบังอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ “เชคอฟเป็นไงบ้าง” เขาตะโกนถามไอราวัณที่กำลังจัดเชคอฟให้พิงกับซากรถ

“หมดสติ” ไอราวัณตอบ ดึงคันรั้งปืน และเริ่มยิงตอบโต้เหล่าผู้โจมตี

“แขนซ้าย” นิศารัตน์พูด “มันไม่รู้สึกอะไรเลย” สุริยะปลดเข็มขัดอเนกประสงค์ออกจากคอของเธอ ผูกมันกับแขน และห้อยคอของเธอเอาไว้ เธอเอื้อมมือไปดึงเอาปืนกลมือขนาดเล็กออกจากซองที่หลัง “ขึ้นลำให้ที” เธอบอกสุริยะ “เดี๋ยวดูหลังให้” สุริยะกระชากลูกเลือนปืนจนสุด

“นิศ รายงานจ่าเรวานอฟ” ไอราวัณตะโกน “สุริยะ ช่วยยิงกดหัว ตึกสีแดง ชั้นสอง หน้าต่างสาม จากซ้ายที”

“ทราบ” สุริยะรับ เขาวิ่งออกไปยังแนวเศษซากซีคอนกรีต หมอบลงบนซาก กางขาทราย วางปืนลงบนจุดที่มั่นลง เล็งไปยังจุดที่ไอราวัณบอก ตามด้วยการกราดกระสุนออกไปเป็นชุดๆเพื่อควบคุมกลุ่มกระสุน ไอราวัณเมื่อเห็นอีกฝ่ายถูกยิงกดหัวก็โผล่ออกจากที่กำบัง เล็งเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างประณีต ไปยังหน้าต่าง และเหนี่ยวไก ลูกระเบิดแรงสูงสาดสะเก็ดบินร่อนเข้าไปยังเป้าหมายอย่างที่ตั้งใจ มันระเบิดขึ้น และส่งคนที่อยู่ในรัศมีการระเบิดไปสู่โลกหน้าทั้งหมด

กลุ่มคนจำนวนหนึ่งวิ่งออกมาจากประตูพร้อมอาวุธครบมือ ต่างก็วิ่งเข้าที่กำบังและยิงใส่พวกไอราวัณ สุริยะเปลี่ยนเป้าหมายจากหน้าต่าง เป็นกลุ่มคนเหล่านั้นและเริ่มยิง

“เอคโค1 เรียกเอคโค ทราบแล้วเปลี่ยน” นิศารัตน์เรียกผ่านวิทยุ แต่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา “เอคโค1 เรียกเอคโค ตอบด้วยเปลี่ยน” เสียงการสาดกระสุนของสุริยะสลับดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีเสียงระเบิดดังแทรกเป็นระยะ คลอด้วยเสียงของนิศารัตน์ที่พยายามเรียกกำลังเสริม

“บรรจุ” สุริยะพูดและถอยลงมาหลังเนินคอนกรีต และบรรจุกระสุนปืน “สอง หมด” เขาพูดจำนวนซองกระสุนที่เหลือ

“บรรจุ” ไอราวัณพูด และบรรจุกระสุนระเบิดเข้าไปยังเครื่องยิงลูกระเบิด “นัดสุดท้าย” เขาพูดและตั้งปืนลงกับพื้น ดันปืนให้ทำมุมเอียงเล็กน้อยและเหนี่ยวไกปืน กระสุนลอยข้ามที่กำบังทังหมดที่อยู่ระหว่างเขากับผู้โจมตี และระเบิดขึ้นหลังที่กำบังของพวกนั้นอย่างแม่นยำ

“ตึกซ้าย ชั้นสี่” สุริยะตะโกนและเริ่มกราดกระสุนใส่อีกฝ่ายที่กำลังโผล่ออกมายิงพวกเขาจากตึกอีกตึกหนึ่ง “พวกมันมีมากเกินไป”

“ทราบ” ไอราวัณตอบ “นิศ ปลุกเชคอฟที” ไอราวัณประทับปืนเล็กยาวของตนและเหนี่ยวไก กระสุนเจาะทะลุร่างของผู้โจมตีอย่างแม่นยำ เลือดสีแดงดำกระจายไปตามทิศทางของกระสุน

“กูล!” เขาตะโกนเมื่อเห็นสีของเลือด “พวกกูลติดอาวุธ”

“ระวังหลัง” นิสารัตน์ร้องและเล็งไปยังกูลตนหนึ่งที่วิ่งตัดผ่านช่องระหว่างเนินซากปรักหักพังหลังพวกเขา มันวิ่งเร็วเกินกว่าที่นิศจะเล็งยิงมันได้ทัน เสียงฝีเท้าจำนวนมากดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา ไอราวัณบรรจุกระสุนซองใหม่เข้าสู่ปืน และเล็งไปยังช่องระหว่างเนิน เขาเลียริมฝีปาก เสียงการยิงปืนต่างๆ เงียบลงไปในความคิดของเขา มีเพียงเสียงฝีเท้า และเสียงหัวใจที่เต้นรัว ม่านตาของเขาเปิดกว้าง เหงื่อเป็นเม็ดผุดขึ้นตามใบหน้า เขาปรับโหมดการยิงเป็นอัตโนมัติ เสียงฝีเท้าดังขึ้น และเพิ่มความถี่มากขึ้น เศษหินเล็กๆตกลงจากเนินด้วยแรงสั่นสะเทือน แต่แล้วมันก็หยุดลง ทุกสิ่งตกอยู่ในความเงียบ กูลตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาในช่องระหว่างเนิน ไอราวัณและนิศารัตน์พร้อมใจกันยิงใส่กูลตัวนั้นจนหัวของมันหลุดกระเด็นออกจากร่าง พวกมันบุกเข้ามาทีละตัว ทีละตัว กูลตัวอนึ่งวิ่งเข้ามาหลังจากที่หลายสิบตัวได้กลายเป็นซากศพ แต่ตัวนี้กระดูกแข็งกว่าตัวอื่นเมื่อนิศารัตน์และไอราวัณพร้อมใจกันกระสุนหมด ทั้งสองเหนี่ยวไกปืน แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นนอกจากเข็มแทงชนวนกระทบกับอากาศ

“เวร”ไอราวัณสบถและเปลี่ยนอาวุธจากปืนเล็กยาวไปยังปืนพก เสียงฝีเท้าดังขึ้นอีกครั้ง เหล่ากูลวิ่งข้ามเนินซากปรักหักพังและแยกเป็นสองชุด คือชุดที่จู่โจมไอราวัณ และชุดที่จู่โจมนิศารัตน์

นิศารัตน์ปลดซองกระสุน และบรรจุกระสุนชุดใหม่ด้วยมือข้างที่ยังคงใช้ได้อย่างทุลักทุเล ในขณะที่เหล่ากูลก็ดาหน้าเข้ามาหาเธอ ซึ่งกำลังยิ้มแสยะดูหมิ่นเหล่ากูล พวกมันกระโดดขึ้นและอ้าปากเตรียมขบเลือดเนื้อของผู้โชคร้าย แต่พวกมันพลาดเสียแล้ว กระสุนปืนกลเบาของสุริยะกระหน่ำเหล่ากูลที่อยู่ในที่เปิดโล่ง กระสุนฉีกร่างของกูลออกเป็นชิ้นๆ พื้นถนนถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงดำอย่างรวดเร็ว หัว แขน ขา และเศษเนื้อของกูล แต่ด้วยจำนวนที่มากกว่าของกูล ทำให้กระสุนของเขาหมดอย่างรวดเร็ว

“หมด” สุริยะตะโกน และชักปืนพกออกจากซอง และยิงคุ้มกันสองทหารที่กำลังบรรจุกระสุน กูลสามตัวโผลออกมาจากด้านข้างของสุริยะ และนั่นเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้อยู่แล้ว เขายิงกูลตัวแรก และมือซ้ายเคลื่อนที่ไปยังมีดความยาวเจ็ดนิ้วที่เข็มขัด กระสุนนัดที่สองเจาะเข้าที่หัวของกูล แต่ว่ากระสุนสิบเอ็ดมิลลิเมตรแบบหัวรูมีพลังการทำลายน้อยเกินไปที่จะทำลายสมองส่วนสั่งการของกูลตนนี้ได้ สไลด์ถอยหลังจากตำแหน่งพร้อมปลอกกระสุนที่ถูกคัดออกจากช่องคัดปลอก พร้อมกันกับที่กระสุนนัดถัดไปเข้าสู่รังเพลิง และสไลด์กลับเข้าตำแหน่ง เขาเหนี่ยวไก กระสุนอีกนัดพุ่งทะยานเข้าสู่หัวของกูลอย่างแม่นยำ ระบบของปืนก็ทำหน้าที่ของมันเหมือนดังทุกครั้ง แต่ว่า บางสิ่งไม่ได้เกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญ สิ่งที่จะทำให้อาวุธของเขาทำงานต่อได้ ปืนของเขาไม่คัดปลอกกระสุน สไลด์เคลื่อนถอยหลังจนสุดราง แต่ปลอกกระสุนยังคงอยู่ในลำกล้องขณะที่กระสุนนัดต่อไปพยายามเข้าไปแทนที่ นั่นทำให้ปืนขัดลำ และใช้งานไม่ได้

สุริยะตวัดมีดในมือไปที่คอของกูล หัวของมันหลุดกระเด็นไปไกล ก่อนที่อีกสามตัวตรงเข้ามาหาเขา สุริยะพยายามปลดซองกระสุน แต่นั่นก็ไม่ช่วยอะไร เนื่องจากกระสุนที่ค้างอยู่ที่ปากซองขวางการปลดซองกระสุนไม่ให้ซองกระสุนหลุดออกมาได้ สุริยะยัดปืนพกเข้าไปที่ซองและเปลี่ยนมีดมาไว้ที่มือซ้าย เขาตัดคอกูลตัวแรก หมุนตัวเพื่อเพิ่มแรง และแทงเข้าหัวใจของกูลตัวที่สอง ดึงมีดออกและฟาดฟันไปยังกูลตัวที่สาม แต่กูลตัวนั้นเร็วกว่าเขามาก มันก้มหลบ เบี่ยงตัวออก และกระโดดเขาหวังขย้ำขอของสุริยะจากด้านข้าง สุริยะไม่มีทางเลือกนอกจากยกแขนซ้ายขึ้นป้องกัน มันฝังเขี้ยวลงในผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขา สุริยะแทงมันที่กลางออก แรงจากกรามของกูลค่อยๆหายไป มันปล่อยเขาลง และลงไปนอนแน่นิ่งที่พื้น สุริยะเก็บมีด และชักปืนออกมาทำการแก้ไข แต่มันก็เป็นไปได้ยากมากเมื่อเขามีมือที่ใช้การได้แค่มือเดียว

นิศารัตน์เปลี่ยนซองกระสุนและขิ้นลำปืนโดยการดันคันรั้งกับเข็มขัด ก่อนจะกระหน่ำกระสุนใส่กูลจนหมดแม็กในเวลาไม่กี่อึดใจ เหล่ากูลยังคงดาหน้าเข้ามาโดยไม่เกรงกลัวอะไร เธอวางปืนลงและชักมีดออกมา เธอเสียบขอของกูลสองตัวที่กระโจนเข้ามา และแทงที่อกกูลอีกตัว กูลตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากหลังกูลตัวที่ถูกเธอปลิดชีพ และอ้าปากเตรียมกัดที่จุดตาย เวลานี้ เธอจะป้องกันตัวก็ไม่ได้ เมื่อมีดก็ยังเสียบอยู่ที่กูลอีกตัว มืออีกข้างก็ใช้การไม่ได้อย่างสิ้นเชิง เธอคงได้เพียงแต่รอความตาย “นิศ! ไม่” เสียงของสุริยะดังขึ้น และนั่นคงเป็นเสียงสุดท้ายที่เธอจะได้ยิน เธอหลับตาลง และเริ่มคิดถึงสิ่งต่างๆที่ผ่านมา สิ่งทีเธอเคยทำผิด สิ่งที่เธอยีงไม่ได้ทำ และ การบอกรักคนที่เธอแอบรับ “สุริยะ” เธอพูดพร้อมกับเสียงปืนเล็กยาวที่ดังขึ้น สมองของถูกกระสุนคว้านออกจากกะโหลก ตัวมันปลิวไปตามแรงปืน นิศารัตน์ลืมตาขึ้นและหันไปมองดูผู้ช่วยชีวิต เชคอฟนั่นเอง เขาฟื้นจากการหมดสติได้ทันเวลาพอดี และเริ่มกระหน่ำกระสุนปืนพกอีนทรีทะเลทรายใส่กูลโชคร้าย

สุริยะวิ่งลงจากเนินและเข้าไปหานิศารัตน์ “เป็นไงบ้าง” เขาพูดและลูบผมของเธอ

“ฉันไม่เป็นไร” เธอพูดและยิ้มก่อนที่จะมองดูแขนของชายหนุ่มด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร นิดหน่อยเอง”เขาตอบทั้งๆที่นิศยังไม่ได้ถาม


“เอาล่ะ ไปจากนี่กันดีกว่า” เชคอฟพูดขณะทีบรรจุกระสุนชุดใหม่เข้าไปในปืนพกของเขา และยิงใส่กูลตัวสุดท้ายจนแน่นิง “สุริยะ เธอพานิศถอยกลับไปทางโรงพยาบาล ฉันกับไอจะดูหลังให้” เขาพูดและเก็บปืนพกเข้าซองปืน และเตรียมปืนเล็กยาวของเขา “ไปได้” เขาสั่งก่อนโผล่ออกไปดูดตึกฝั่งตรงข้าม สุริยะไม่รอช้า เขาฉุดนิศารัตน์ให้ลุกขึ้น และประคองกันและกันไปตามเนินซากปรักหักพัง

“ศัตรู” ไอราวัณตะโกนและเริ่มยิง เชคอฟถอนตัวออกจากซากรถ เข้าที่กำบัง และหันกลับไปยิงคุ้มกัน

“ถอย” เชคอฟสั่ง ไอราวัณสอดระเบิดเพลิงเข้าไปตามท่อต่างๆของเครื่องยนต์และแกะสลัก แสงจากการเผาไหมของฟอสฟอรัสสว่างขึ้นและเริ่มส่งความร้อนไปหลอมละลายเครื่่องยนต์ ก่อนจะวิ่งไปหลับยังที่กำบังดถดจากเชคอฟ เขาโผล่ออกไปยิงคุ้มกันและตะโกน “ถอย” เชคอฟวิ่งเลยเข้าไปและหันมายิงคุ้มกันเหมือนครั้งก่อน แต่ครั้งนี้พวกกูลได้ยิงจรวดมาทางพวกเขา มันพุ่งมายังทางที่ไอราวัณจำเป็นต้องผ่าน นั่นทำให้เขาต้องเปลี่ยนเส้นทาง ไอราวัณเลี้ยวหลบการระเบิด และวิ่งไปตามช่องระหว่างเนิน จรวดอีกลูกถูกยิง และตรงมายังไอราวัณ เขาไปต่อก็ไม่ได้ ถอยกลับก็ไม่ได้ โชคยังเข้าข้างที่มีซากกำแพงเตี้ยๆ ที่พอจะให้เขาปลอดภัยจากสะเด็ดระเบิด เข้ากระโดดไปยังกำแพงพร้อมกันกับการระเบิด

เชคอฟเล็งและยิงอย่างประณีตเข้าใส่กูลติดอาวุธที่เหลือจนหมด บรรจุกระสุน และรีบวิ่งไปยังจุดที่เกิดระเบิดเพื่อหาไอราวัณ ฝุ่นควันต่างๆ จางลงไป ไม่เหลือสิ่งใดหลังการระเบิด ไม่มีเศษเนื้อ เสื้อผ้า หรือชิ้นส่วนใดๆนอกจากปืนประจำกายของไอราวัณที่ตกอยู่บนเนิน ไอราวัณเดินไปยังปืน เก็บมันขึ้นมาสะพาย และกลับไปหาลูกทีมที่เหลือ “ไปจากนี่กันก่อนที่พวกมันจะมาเถอะ” เขาพูดและฉุดนิศารัตน์ให้ลุกขึ้น “นายพยุงเธอไป ฉันจะคุ้มกันให้” เขาพูดและมองดูแผลของสุริยะที่เวลานี้ถูกผ้าพันแผลพันไว้แล้วเรียบร้อย “ตามมา”

“แล้วจ่าไอราวัณล่ะคะ” นิศารัตน์ถามขณะที่พาดแขนไปบนคอของเพื่อนหนุ่ม เชคอฟไม่ตอบอะไรเพียงแต่ส่ายหน้า และเดินไปตามทางที่ถอดยาวไปถึงโรงพยาบาล พวกเขาพบกับเรวานอฟที่กลางทาง และถอนกำลังกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย สุริยะและนิศารัตน์ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลโดยทันที




เช้าวันต่อมาเป็นวันที่อากาศสดใส เหมือนฟ้าหลังฝนอย่างไรอย่างนั้น ทุกอย่างเงียบสงบและดูมีความสุขดี โดยเฉพาะกับสุริยะที่นอนทอดกายบนเตียงนุ่มๆ ในห้องสะอาดๆของโรงพยาบาล เครื่องแบบทหารถูกถอดเปลี่ยนเป็นชุดผ้าลูกไม้บางๆ เนื่องจากว่าแขนซ้ายของสุริยะนั้นบานเจ็บหนักจนใช้การไม่ได้ อีกทั้งเข็มแทงไว้ทั้งสองข้าง โดยที่ข้างหนึ่งเป็นน้ำเกลือ และอีกข้างคือยาถอนกัมมันตภาพรังสี นั่นทำให้แขนทั้งสองข้างนั้นแทบจะไร้ประสิทธิภาพ แม้ว่าจะเป็นการตักอาหารคำเล็กๆเข้าปากก็ตาม หลังจากพยายามทนอาการปวดของแขนขวาเพื่อตักอาหารเข้าปากอยู่นาน เขาก็ยอมแพ้ทั้งๆที่ทานได้ไม่กี่คำ

“เฮ้อ” เขาถอนหายใจละก้มลงไปดูดน้ำผ่านหลอด นั่นคงเป็นสิ่งที่เดียวที่ร่างกายเขาคงทำได้ “ทำไมไม่มีนางฟ้ามาป้อนสักหน่อยวะเนี่ย” เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกันนิศารัตน์ที่ปรากฏกาย

“ไง คาวบอย” เธอพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม และนั่งลงข้างสุริยะ “อื่มแล้วเหรอ ยังหมดไม่ถึงครึ่งเลย” เธอถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ก่อนจะเห็นแขนทั้งสองข้างของสุริยะนอนหมดสภาพแน่นิ่งอยู่ข้างกาย เธอขำออกมาเบาๆพลางปิดปาก “แขนเดี้ยง” เธอพูดไปขำไป

“โห่”สุริยะร้องออกมา “ก็เพราะมันเดี้ยงยังไงล่ะ เลยหิวอยู่แบบนี้ไง”
นิศารัตน์หยุดขำแต่รอยยิ้มยังคงแต่งแต้มตามใบหน้าของเธอ “ป้อนก็ได้” เธอพูดและดักอาหารขึ้นมา “อ้าปากเร็วซันนี่” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนพูดกับเด็ก สุริยะก็อ้าปากอย่างว่าง่าย และงับเอาอาหารเข้าไป เขากลืนอาหาร และมองดูแขนของนิศารัตน์

“แล้วแขนแกล่ะ” เธอหันไปมองดูแขนซ้ายที่ถูกเข้าเฝือกเอาไว้

“ข้อมือหักกับไหล่หลุดหนะ อีกไม่นานก็หายแล้ว ห่วงตัวเองเถอะ” แล้วเธอก็ป้อนคำที่สองให้สุริยะ ทั้งคู่คุยกันไป ป้อนกันไป รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของทั้งคู่ หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ และเสียคนที่รู้จักไป ทั้งสองก็คงมีแต่กันและกันเท่านั้น ที่จะรักษาแผลใจให้อีกฝ่ายใด้

“คำสุดท้าย” นิศารัตน์พูดและป้อนสุริยะ “หมดแล้วๆ เก่งจังเลย น้องซันนี่”

“เลิกเรียกแบบนั้นที่เถอะน่า” สุริยะพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เอาล่ะ” เธอพูดและวางช้อนลง ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้สุริยะ “นี่พ่อคาวบอยหนุ่ม”นิศารัตน์พูดและลูบไล้ผมของสุริยะ “ฉันขออะไรอย่างหนึ่งสิ”

“อะไร” สุริยะถาม สายตาของทั้งคู่สอดประสานกัน เหมือนดั่งเวลาหยุดหมุน โลกทั้งใบหายไป เหลือเพียงสองทหารกล้า ที่ต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันและกัน

“ห้ามตายนะ” เธอพูดด้วยเสียงกระซิบ น้ำตารินไหลออกมาโดยไร้การควบคุม “ฉันไม่รู้จะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีเธอ” เธอพูด ตลอดเวลาเธอคิดถึงแต่เรื่องของวันนี้ วันที่เธอจะต้องบอกความจริง ว่าเธอนั้นชอบชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามาตั้งแต่แรกพบ

“นิศ” สุริยะ “ฉันอยากถามอะไรบางอย่าง” เขาพูดและพยายามยกมือขวาขึ้นมา “โอ้ย” แต่เขาก็ทำไม่ได้มากนักเนื่องจากความเจ็บปวดจากผลข้างเขียงของยาถอนพิษ นิศสารัตน์จับมือของเขาไว้ เพราะในใจร้องสั่งเธอว่า เธอไม่อยากให้เขาเจ็บกว่านี้อีกแล้ว เธอไม่อยากให้เขาเป็นอะไรไป เธอต้องการเขา เธอต้องการให้เขาอยู่ข้างกาย “เธอชอบฉันใช่ไหม”

“ใช่” นิศารัตน์ตอบ สุริยะยิ้มและจับมือของเธอไว้แน่น “ฉันชอบแก”

“ขอบใจนะ” สุริยะพูด “สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตฉันอยู่ใกล้แค่นี้ แต่ฉันกลับมองไม่เห็น” เขาพูด ใบหน้าของทั้งคู่ค่อยเข้าหากันโดยที่ทั้งสองต่างไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรลงไป ใบหน้าเข้าใกล้กันมาก มากเสียจนทั้งสองสามารถสัมผัสลมหายใจของกันและกันได้ แล้วริมฝีปากของทั้งคู่ก็สัมผัสกันอย่างแผ่วเบา “เดี๋ยว” เขาพูดและถอยออกมาเล็กน้อย

“ฉันล๊อคประตูแล้ว” นิศารัตน์พูดและยิ้มด้วยสีหน้าเขินอาย ซึ่งนั้นก็ทำให้สุริยะขำออกมา “ฉันไม่ทำพลาดเหมือนในนิยายรักหรอกน่า” เธอจูบหน้าฝากของสุริยะก่อนจะค่อยๆ ถอดเสื้อของเธอ [เนื้อหาถูกตัดเนื่องจากไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18ปี แล้วก็ไม่ต้องPMมาขอนะ ไม่มีให้อ่าน //หัวเราะ] (ไม่มีที่ที่ดีกว่านี้รึไงฟ่ะ ? By stormwimd [Female])(อารมณ์มันพาไป by LoveSeeker)<<< ครอบดำเพื่ออ่าน



ไอราวัณตื่นขึ้นทามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน กลิ่นอับชื้นและเคมีระเบิดฟุ้งไปทั่ว สายตาค่อยๆปรับให้เขากับความมืดอย่างช้าๆ เขาดึงปืนพกออกจากซอง ก่อนจะเปิดไฟฉายที่ติดอยู่กับเสื้อกั๊กกันกระสุน เวลานี้เขาอยู่ภายในอุโมงค์บางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นไว้หลายร้อยปีมาแล้ว เขาหันไปรอบๆเพื่อหาตำแหน่งของเขา แล้วเขาก็พบป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า ‘สถานีรถไฟใต้ดิน แอลเอส ยินดีต้อนรับ’ นั่นทำให้เขารู้ได้เลยว่าเขาตกลงมาในสถานีรถไฟใต้ดิน และเขาจำเป็นต้องหาทางออก เขารีบหันมองรอบๆ และพบว่ามีช่องเล็กๆเหนือหัว ซึ่งนั่นอาจเป็นช่องที่เขาตกลงมา มันคือทางเข้าของสถานีรถไฟใต้ดิน แต่เวลานี้บันใดที่ทอดขึ้นไปบนนั้นก็ได้พังลงไปตามกาลเวลา อีกทั้งช่องนั้นยังอยู่สูงเกินกว่าที่เขาจะปีนขึ้นไปได้ เขามองกลับไปยังอีกทาง ทางที่จะนำเขาเข้าไปลึกในสถานี ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายมากมายเกินกว่าที่ใครต่อใครจะจินตนาการได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาจะเป็นต้องผ่านมันเข้าไป


ขอขอบคุณ Stormwind [Female] ที่มาช่วยตรวจทานและแก้ไขครับ

5day-ago
19th April 2012, 17:38
สนุกมากกกก โอยตาลาย :o

ปล.กะว่าจะอ่านฉากนั้นซะหน่อยเสียดายจัง หุๆๆ

Stormwind
19th April 2012, 17:41
สนุกมากกกก โอยตาลาย :o

ปล.กะว่าจะอ่านฉากนั้นซะหน่อยเสียดายจัง หุๆๆ

ขาหื่นหมายเลข 1 ปรากฏกายยยยย

By Stormwind [Female]

5day-ago
19th April 2012, 17:55
ขาหื่นหมายเลข 1 ปรากฏกายยยยย

By Stormwind [Female]

ม่ายยยยยจริงงงงงง หมายเลข 1 เลยเหรอ โอ้วววว

nakiann123
19th April 2012, 19:12
เพิ่งดูคอนเสิร์ตมา ต้องใช้ตาอย่างมาก และก็ใช้ต่อ 555

Edit : ฉากบู๊มันส์หยด ~

maxarmyus
19th April 2012, 19:40
สนุกมากครับ:)ถอดเสื้อเเล้วทำไรหุหุ:o

Stormwind
20th April 2012, 21:42
ยัยตัวยุ่งของผมไปทำป่วงอะไรรึเปล่าครับเนี่ย? 5555

By Stormwind [Male]

LoveSeeker
21st April 2012, 10:23
ยัยตัวยุ่งของผมไปทำป่วงอะไรรึเปล่าครับเนี่ย? 5555

By Stormwind [Male]

แค่ช่วยแก้คำผิด แล้วก็ จิกกัดเล็กๆน้อยๆ 555+

pug1
22nd April 2012, 23:25
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: กิติคุณ เซอร์ต้า
ชื่อเล่น:กฤษฎิ์
เพศ:ชาย
อายุ: 17
รูปร่างหน้าตา:ส่วนสูงประมาณ 170 เป็นลูกครึ่ง (พ่อเป็นอเมริกา แม่เป็นไทย) ผมสีทอง นัยตาสีดำ ผิวขาว
นิสัยโดยละเอียด:โดยปกติค่อนข้างอยู่คนเดียวและเก็บตัว แต่เวลาอยู่กับเพื่อนฝูงกลับเป็นคนอารมดีและมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง(ถึงแม้บางทีจะค่อนข้างหยิ่งไปหน่อย) เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียชอบความท้าทายและความเสี่ยง(ซึ่งก็มักจะประสบความสำเร็จทุกครัั้ง) และเป็นคนที่รักพ่อมาก หากใครพูดถึง่อเค้าในทางที่ไม่ดีหรือว่าแซวเล่น เค้าจะโกรธทันที
สิ่งที่ชอบ:ฟังเพลง ใส่หูฟังทั้งวัน
สิ่งที่เกลี่ยด:สถานที่ที่แออัด
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:เอาหูฟังมาใส่และฟังเพลง แนวคลาสสิกพร้อมกับตายไปเงียบๆ
อื่นๆ:เค้ามักจะพกหูฟังพร้อมกับ ipod ที่พ่อเค้าซื้อไว้ให้ก่อนที่พ่อเค้าจะตายตอนเค้าอายุได้ 15ปีเสมอ และจะสวมเสื้อแขนยาวสีแดงซึ่งเป็นของพ่อเค้าไว้ตลอด ซึ่งพ่อของเค้าเคยเป็นนักการเมืองดังของอเมริกา ซึ่งภายหลังมีคนพบศพถูกยิงโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนแม่เค้าเป็นหนึ่งในพนักงานที่พัฒนาด้านเทคโนโลยี โดยแม่เค้าไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกแต่ก่อนที่แม่เค้าจะเดินทางไปในที่ที่เค้าไม่รู้จักแม่เค้าได้ทิ้งสร้อยคอไว้ให้เส้นหนึ่ง ตอนอายุ 10 ขวบ หลังจากนั้นเค้าก็ไม่ได้เจอแม่อีกเลย

==ToR==
23rd April 2012, 00:07
มี2ชาปเตอร์เองหรอ กำลังอ่านเพลินเลย

ปล.บางคำก็พิมพ์ตกไปอยู่นะ

LoveSeeker
23rd April 2012, 09:23
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: กิติคุณ เซอร์ต้า
ชื่อเล่น:กฤษฎิ์
เพศ:ชาย
อายุ: 17
รูปร่างหน้าตา:ส่วนสูงประมาณ 170 เป็นลูกครึ่ง (พ่อเป็นอเมริกา แม่เป็นไทย) ผมสีทอง นัยตาสีดำ ผิวขาว
นิสัยโดยละเอียด:โดยปกติค่อนข้างอยู่คนเดียวและเก็บตัว แต่เวลาอยู่กับเพื่อนฝูงกลับเป็นคนอารมดีและมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง(ถึงแม้บางทีจะค่อนข้างหยิ่งไปหน่อย) เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียชอบความท้าทายและความเสี่ยง(ซึ่งก็มักจะประสบความสำเร็จทุกครัั้ง) และเป็นคนที่รักพ่อมาก หากใครพูดถึง่อเค้าในทางที่ไม่ดีหรือว่าแซวเล่น เค้าจะโกรธทันที
สิ่งที่ชอบ:ฟังเพลง ใส่หูฟังทั้งวัน
สิ่งที่เกลี่ยด:สถานที่ที่แออัด
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:เอาหูฟังมาใส่และฟังเพลง แนวคลาสสิกพร้อมกับตายไปเงียบๆ
อื่นๆ:เค้ามักจะพกหูฟังพร้อมกับ ipod ที่พ่อเค้าซื้อไว้ให้ก่อนที่พ่อเค้าจะตายตอนเค้าอายุได้ 15ปีเสมอ และจะสวมเสื้อแขนยาวสีแดงซึ่งเป็นของพ่อเค้าไว้ตลอด ซึ่งพ่อของเค้าเคยเป็นนักการเมืองดังของอเมริกา ซึ่งภายหลังมีคนพบศพถูกยิงโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนแม่เค้าเป็นหนึ่งในพนักงานที่พัฒนาด้านเทคโนโลยี โดยแม่เค้าไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกแต่ก่อนที่แม่เค้าจะเดินทางไปในที่ที่เค้าไม่รู้จักแม่เค้าได้ทิ้งสร้อยคอไว้ให้เส้นหนึ่ง ตอนอายุ 10 ขวบ หลังจากนั้นเค้าก็ไม่ได้เจอแม่อีกเลย

ปิดรับสมัครชั่วคราวครับ


มี2ชาปเตอร์เองหรอ กำลังอ่านเพลินเลย

ปล.บางคำก็พิมพ์ตกไปอยู่นะ

นิยายผมข้อมูลเยอะครับ เลยทำให้พิมพ์ได้ช้า ต้องขอภันด้วย
ส่วนเรื่องการพิมพ์นั้น จะนำไปปรับปรุงครับ ขอบคุณครับ

LoveSeeker
23rd April 2012, 16:57
อัพเดทข้อมูลโครงสร้างทางทหารของ A5148
ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย A5148 มีกองพันที่ 51 เป็นกองทหารประจำศูนย์


กองพันที่51ประกอบด้วย

กองร้อยปืนเล็กที่ 1

ประกอบด้วย หมู่บัญชาการ, 3 หมวดปืนเล็ก และ 1 หมวดปืนครก
กองร้อยปืนเล็กที่ 25

ประกอบด้วย หมู่บัญชาการ, 3 หมวดปืนเล็ก และ 1 หมวดปืนครก
กองร้อยทหารม้าที่ 31

ประกอบดด้วย หมู่บัญชาการ 3หมวดทหารม้ายานเกราะ
กองร้อยยานเกราะที่ 175

ประกอบด้วย หมู่บัญชาการ 2หมวดรถถังหลัก 1หมวดวิศวกรยานเกราะ
ฝูงบินปีกหมุนที่ 5

ประกอบด้วย 2 ฝูงบินเล็กจู่โจม 1ฝูงบินเล็กขนส่ง 1หมวดทหารขนส่งทางอากาศ
กองร้อยเฉพาะกิจ

ประกอบด้วย 5หมวดปืนเล็ก [+Echo squad]


รายละเอียด

หมู่บัญชาการ ประกอบด้วย

ผู้บังคับกองร้อย
จ่ากองร้อย
2พลวิทยุ
พลสังเกตการณ์ส่วนหน้า
หมวดปืนเล็ก ประกอบด้วย

ผู้บังคับหมวด
จ่าประจำหมวด
พลสังเกตการณ์ส่วนหน้า
2แพทย์สนาม
2พลวิทยุ
3หมู่ปืนเล็ก 1หมู่ปืนครก
หมู่ปืนเล็ก ประกอบด้วย

ผู้บังคับหมู่
2ชุดยิง
ชุดยิง ประกอบด้วย

หัวหน้าชุด
พลปืนเล็ก
พลเครื่องยิงลูกระเบิด
พลปืนอัตโนมัติ

หมู่ปืนครก ประกอบด้วย

ผู้บังคับหมู่
3ชุดปืนครก
ชุดปืนครกประกอบด้วย

พลปืน,พลกระสุน
หมวดทหารม้ายานเกราะประกอบด้วย

ยานยนต์บัญชาการ
ผู้บังคับหมวด
จ่าประจำหมวด
พลสังเกตการณ์ส่วนหน้า
2แพทย์สนาม
2พลวิทยุ
4 ยานยนต์หุ้มเกราะเบา [4 BMP-1 (en.wikipedia.org/wiki/BMP-1)]
3ยานยนต์ ประกอบด้วย

พลขับ,พลปืน,ผู้บังคับหมู่ และ2ชุดปืนเล็ก
1ยานยนต์ ประกอบด้วย

พลขับ,พลปืน,ผู้บังคับหมู่ และ 2ชุดปืนครก


หมวดรถถังหลักประกอบด้วย

ยานยนต์บัญชาการ
ผู้บังคับหมวด
จ่าประจำหมวด
พลสังเกตการณ์ส่วนหน้า
2แพทย์สนาม
2พลวิทยุ
2หมวดรถถัง[T-72 (http://en.wikipedia.org/wiki/T-72)3คันต่อหมวด]
1หมวดวิศวกร[ยานยนต์เก็บกู้และวซ่อมแซมBREM-80U (http://www.military-today.com/engineering/brem_80u.htm)3คัน]

ฝูงบินเล็กจู่โจมประกอบด้วย

3เครื่องปีกหมุนจู่โจม [Mil Mi-24 (http://en.wikipedia.org/wiki/Mil_Mi-24)3ลำต่อฝูงบินเล็ก]
3หมู่วิศวกร
ฝูงบินเล็กขนส่งปรดกอบด้วย

3เครื่องปีกหมุนขนส่ง[Mil MI-8 (http://en.wikipedia.org/wiki/Mil_Mi-8)3ลำ]
3หมู่วิศวกร



หมวดทหารขนส่งทางอากาศประกอบด้วย

ผู้บังคับหมวด
จ่าประจำหมวด
พลสังเกตการณ์ส่วนหน้า
2แพทย์สนาม
2พลวิทยุ
3หมู่ปืนเล็ก








โปรดอ่าน: ข้อมูลโครงสร้างต่างๆ ได้ถูกปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของเนื้อเรื่อง ไม่ได้ใช้โครงสร้างในโลกจริงทังหมด

nakiann123
23rd April 2012, 17:30
แนะนิดนึงนะครับ

บันชาการ เปลี่ยนเป็น บัญชาการ แค่นี้ก็ Perfect แล้วครับ

LoveSeeker
23rd April 2012, 18:26
แนะนิดนึงนะครับ

บันชาการ เปลี่ยนเป็น บัญชาการ แค่นี้ก็ Perfect แล้วครับ

Aye aye captain!

maxarmyus
23rd April 2012, 19:30
ผมว่าT-95ดีกว่าครับเพราะRusiaจะผลิตเเล้วต้นเเบบน่าจะเสร็จในปี2013น่าจะประจำการก่อนปี2015ที่สำคัญอาจใช้เเทนรถรุ่นเก่า
t-72อาจหมดประจำการในปี2014ครับ
ส่วนt-90นั้นยังประจำการอยู่ครับเสนอนิดหน่อยครับ

LoveSeeker
23rd April 2012, 20:12
ที่เลือก T-72,BTR-1,Mi-24,Mi-8 เพราะมันมีจำนวนมากพอที่จะแจกจ่ายให้ศูนย์ช่วยแหลือและแจกจ่ายใด้
เช่น T-72 มีเก็บสำรองประมาณ 8,000 คัน ประจำการ 1,200 คัน
BTR-1 ประจำการ 1,500 คัน สำรอง 6,000 คัน

อีกอย่าง ศูนย์ A5148 ก็ไม่ได้ไปรบราฆ่าฟันกับใครที่ไหน เพราะไม่ได้อยู่ในเขตชายแดด จึงเหมาะสมแล้วที่จะT-72 ฯลฯ
เพราะทรัพยากรสำคัญอย่าง T-80 T-90 หรือรุ่นอื่นๆที่กำลังจะตามออกมา ครับ
จริงอยู่ที่ T-90ดีกว่า T-72 แต่มีที่อื่นที่จำเป็นต้องใช้มากกว่า
เหมือนที่ประเทศไทยใช้ M-60 Patton เพราะแหมาะกับสภาพภูมิประเทศนั่นเองครับ
อีกอย่างโลกของยุคหลังสงครามนิวเครียระบบอุตสาหกรรมก็ไม่เหมือนยุคนี้ที่อยากจะทำอะไรก็ทำ
รัฐบาลรัสเซียต้องจัดสรรทรัพยากร ไปทางสาธารณูบโภคด้วยครับ เพราะมีรถถัง ไม่มีประชาชน ก็ไม่มีกองทัพ
ส่วนนี้ผมกลันกรองมาแล้วเรียบร้อยครับ

จบข่าว~~~~


Edit: ประเด็นของการใช้อาวุธ ไม่ใช่ ดีกว่า แต่เป็น เหมาะสมกว่า แค่นั้นเองครับ เท่าที่จำได้ เหมือนว่ากองทัพอสราเอลเคยเอาเครื่องบินใบพัด ไปยิงเครื่องบินเจ็ทตกด้วย //หัวเราะ
Edit2: ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_equipment_of_the_Russian_Ground_Forces
Edit3: T-95 หรือ Object 195 ถูกยกเลิกในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วครับ! จบชีวิต T95 ไปตลอดการ~~~~ แหล่งข้อมูล http://en.wikipedia.org/wiki/T-95

5day-ago
23rd April 2012, 20:24
เอ๊ะ t90 นี่มันรองเท้าฟุตบอลของไนกี้ไม่ใช่เหรอ//เผ่น!!







รับเป็นกระสุนระเบิดแรงสูง กระสุนระเบิดแรงสูงต่อต่านรถถัง กระสุนระเบิดแรงสูงสาดสะเก็ด กระสุนเจาะเกราะทรงตัวด้วยครีบสลัดฝาครอบเอง หรือว่าจะ เป็นน้องแก้มแหม่มดีล่ะ (แอบกัด เจ้าตัวไม่รู็หรอก //หัวเราะ)

อะอันสุดท้าย นั้นมัน.... ฮ่าๆๆๆๆ (//ลงไปนอนหัวเราะบนพื้น)

LoveSeeker
23rd April 2012, 20:27
เอ๊ะ t90 นี่มันรองเท้าฟุตบอลของไนกี้ไม่ใช่เหรอ//เผ่น!!

รับเป็นกระสุนระเบิดแรงสูง กระสุนระเบิดแรงสูงต่อต่านรถถัง กระสุนระเบิดแรงสูงสาดสะเก็ด กระสุนเจาะเกราะทรงตัวด้วยครีบสลัดฝาครอบเอง หรือว่าจะ เป็นน้องแก้มแหม่มดีล่ะ (แอบกัด เจ้าตัวไม่รู็หรอก //หัวเราะ)


อะอันสุดท้าย นั้นมัน.... ฮ่าๆๆๆๆ (//ลงไปนอนหัวเราะบนพื้น)

อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลก!

Stormwind
23rd April 2012, 21:15
รับเป็นกระสุนระเบิดแรงสูง กระสุนระเบิดแรงสูงต่อต่านรถถัง กระสุนระเบิดแรงสูงสาดสะเก็ด กระสุนเจาะเกราะทรงตัวด้วยครีบสลัดฝาครอบเอง หรือว่าจะ เป็นน้องแก้มแหม่มดีล่ะ (แอบกัด เจ้าตัวไม่รู็หรอก //หัวเราะ)



แหม่มไม่อยู่ ล่ะร่าเริงกันเชียวนะ ฮึ่มๆๆๆๆๆๆๆ เห็นนะยะจะบอกให้

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
23rd April 2012, 21:23
แหม่มไม่อยู่ ล่ะร่าเริงกันเชียวนะ ฮึ่มๆๆๆๆๆๆๆ เห็นนะยะจะบอกให้

By Stormwind [Female]

ไอ้เสือ เผ่น!

5day-ago
23rd April 2012, 21:24
ไอ้เสือ เผ่น!

เผ่นด้วยคน!!!

Stormwind
23rd April 2012, 21:41
ย้ากกกกกกกกกกก !!!!!! ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (กราดด้วยกระสุนมินิกัน)

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
23rd April 2012, 21:44
ย้ากกกกกกกกกกก !!!!!! ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (กราดด้วยกระสุนมินิกัน)

By Stormwind [Female]

ไม่โดนหรอก มันเป็นลูก Blank (ปั้มแบบเนี่ยนๆ)

Stormwind
23rd April 2012, 21:46
ไม่โดนหรอก มันเป็นลูก Blank (ปั้มแบบเนี่ยนๆ)

เอา RPG ไปเคี้ยวแทนหมากฝรั่งซะ !!!

By Stormwind [Female]

5day-ago
23rd April 2012, 21:53
เธอคืออาวุธที่ร้ายแรงของโลกจริงๆ!! Oh God~!

LoveSeeker
23rd April 2012, 22:01
แน่นอนที่สุด

LoveSeeker
28th April 2012, 12:22
อัพเดท [นอกเรื่อง]

ล่อเล่นใช่ไหม?

"มีงานวิจัยเกี่ยวกับเคราของทหาร โดยใช้ตัวอย่าง 100นาย
โดยที่ 25นายเป็นหน่วยรบพิเศษ ที่มีเครา 25นายเป็นรบพิเศษที่ไม่มีเครา 25นายเป็นบุคลากรทางทหารที่มีเครา 25นายเป็นบุคลากรทางทหารที่ไม่มีเครา ทั้ง100นายประจำการในอัฟกานิสถาน

ผลสำรวจบอกว่า ทหาร50นายที่มีเครา ไม่มีใครถบาทเจ็บหรือเสียชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว อีกทั้งเครายังสงผลต่อความแม่นยำ และขีดความสามารถในการรบให้เพิ่มมากกว่าทหารที่ไม่มีเครา"

อ้างอิง:http://www.duffelblog.com/2012/04/pentagon-study-finds-beards-directly-proportional-to-combat-effectiveness/?fb_comment_id=fbc_10150715487958286_21882709_10150721319208286#f3327182bc

Rex
28th April 2012, 12:36
มัสแทชชชช....

nakiann123
28th April 2012, 15:47
เงิบเลยทีเดียว เคราเพิ่มความสามารถ

LoveSeeker
28th April 2012, 18:12
เงิบเลยทีเดียว เคราเพิ่มความสามารถ

ทีแรกผมก็ไม่เชื่ออะครับ
ตามไปอ่านที่อ้างอิงถึงกับเงิบเลย

ปล. แล้วก็ชื่อน้ำตาลสักที

nakiann123
28th April 2012, 18:57
ทีแรกผมก็ไม่เชื่ออะครับ
ตามไปอ่านที่อ้างอิงถึงกับเงิบเลย

ปล. แล้วก็ชื่อน้ำตาลสักที

ฮา ฮา ผมเข้ามาก็เห็นเลย สีน้ำตาล

Zaraki Kempaji
28th April 2012, 20:07
ชื่อ: Gosais
ประเภท: สิ่งมีชีวิตกึ่งเทพ
ที่อยู่อาศัย: อวกาศ
รูปร่างหน้าตา : รูปร่างคล้ายมนุษย์มีขนาดใหญ่ สูง 3 เมตร ผิวหนังเป็นโลหะ ใหล่กว้าง แขนยาว กล้ามเป็นมัด

ลักษณะนิสัย : ไม่ชอบยุ่งกับใคร มักจะอยู่โดดเดี่ยว ถ้าหากโดนรบกวนจะโจมตีใส่จนกว่าคู่ต่อสู้จะตาย

ลักษณะการต่อสู้ : ใช้หมัดและร่างกายที่เป็นโลหะ กระแทกหรือทุบ

อาวุธ : ร่างกาย
จุดเด่น : เนื่องจากผิวเป็นโลหะ ทำให้สะท้อนแสง จะอยู่กลมกลืนไปกับสถานที่รกร้างและเป็นหิน

nakiann123
28th April 2012, 20:58
เรื่องนี้มีเทพด้วยเรอะ O_o เห้ย

LoveSeeker
28th April 2012, 22:24
ชื่อ: Gosais
ประเภท: สิ่งมีชีวิตกึ่งเทพ
ที่อยู่อาศัย: อวกาศ
รูปร่างหน้าตา : รูปร่างคล้ายมนุษย์มีขนาดใหญ่ สูง 3 เมตร ผิวหนังเป็นโลหะ ใหล่กว้าง แขนยาว กล้ามเป็นมัด

ลักษณะนิสัย : ไม่ชอบยุ่งกับใคร มักจะอยู่โดดเดี่ยว ถ้าหากโดนรบกวนจะโจมตีใส่จนกว่าคู่ต่อสู้จะตาย

ลักษณะการต่อสู้ : ใช้หมัดและร่างกายที่เป็นโลหะ กระแทกหรือทุบ

อาวุธ : ร่างกาย
จุดเด่น : เนื่องจากผิวเป็นโลหะ ทำให้สะท้อนแสง จะอยู่กลมกลืนไปกับสถานที่รกร้างและเป็นหิน

ไม่รับครับ

LoveSeeker
4th May 2012, 21:06
รู้สึกเหมือนว่า ช่วงนี้ทหาร กับ PMC จะเยอะนะ ว่าปะ =.,=

มันมีกระแสอะไรที่ผมไม่รู้รึเปล่า

Stormwind
4th May 2012, 22:19
รู้สึกเหมือนว่า ช่วงนี้ทหาร กับ PMC จะเยอะนะ ว่าปะ =.,=

มันมีกระแสอะไรที่ผมไม่รู้รึเปล่า

หรือว่าจะอ่านนิยายของผมแล้วมีแรงบันดาลใจครับ 555555

ทีมผสมหน่วยรบพิเศษ รอ.เชิดวุธจอมสบถกับเพื่อนซี้

By Stormwind [male]

LoveSeeker
4th May 2012, 22:22
หรือว่าจะอ่านนิยายของผมแล้วมีแรงบันดาลใจครับ 555555

ทีมผสมหน่วยรบพิเศษ รอ.เชิดวุธจอมสบถกับเพื่อนซี้

By Stormwind [male]

มีสิทย์ เพราะว่าข่าวเกี่ยวกับ PMC ก็ไม่มีอะไรนิ =.,=
เลยสงสัย เอาเหอะๆ รอสับ เรื่องแบบนี้ เราถนัด 55+

Stormwind
4th May 2012, 22:25
มีสิทย์ เพราะว่าข่าวเกี่ยวกับ PMC ก็ไม่มีอะไรนิ =.,=
เลยสงสัย เอาเหอะๆ รอสับ เรื่องแบบนี้ เราถนัด 55+

ยกให้แม่สาวขาลุย แก้มแหม่ม ของผมดีกว่าครับ
เรื่องติๆ ชมๆนี่ผมไม่ค่อยสันทัด แต่ถ้าเรื่องวิชาการ หลักการ ก็พอได้ครับ

By Stormwind [Male]

Alathreon
4th May 2012, 22:39
รู้สึกเหมือนว่า ช่วงนี้ทหาร กับ PMC จะเยอะนะ ว่าปะ =.,=

มันมีกระแสอะไรที่ผมไม่รู้รึเปล่า

คือเรื่อง Heated ผมอยากจะเขียนมานานล่ะครับ บวกกับพึ่งดู Battleship เลยอยากเขียนนิยายแบบระเบิดรัวๆ ยิงกันมั่ว อ่ะครับ

LoveSeeker
4th May 2012, 22:42
คือเรื่อง Heated ผมอยากจะเขียนมานานล่ะครับ บวกกับพึ่งดู Battleship เลยอยากเขียนนิยายแบบระเบิดรัวๆ ยิงกันมั่ว อ่ะครับ

อ้อ


ปล. ผมยังไม่ได้ดูเลย 555+

nakiann123
4th May 2012, 22:49
เข้ามาส่องสอดแนมดู ตอนนี้กระผมปวดหลังเป็นอย่างมาก โอย

Stormwind
4th May 2012, 22:51
อ้อ


ปล. ผมยังไม่ได้ดูเลย 555+

แนะนำให้ดูครับ มันส์มาก แก้มแหม่มยังบอกว่าโหดมันส์ฮาเลยครับ
นานๆทีแกจะชมหนังซักเรื่องนะนั่น

LoveSeeker
4th May 2012, 23:01
แนะนำให้ดูครับ มันส์มาก แก้มแหม่มยังบอกว่าโหดมันส์ฮาเลยครับ
นานๆทีแกจะชมหนังซักเรื่องนะนั่น

มหาภัยชมได้นี่ ไม่ธรรมดา =[]= เดี๋ยวว่างๆไปลอง

Jomzababin
5th May 2012, 11:34
ห่างหายไปนาน พึ่งได้อ่านตอน 2 สนุกอะไรเยี่ยงนี้...มันส์ๆๆๆ

LoveSeeker
12th May 2012, 15:12
บทนำของ บทพิเศษที่1 :รถถังประจัญบาน


ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีจุดเริ่มต้น ความสัมพันธ์ของสามสหายศึกก็อย่าง เรวานอฟ อโลน และ เฟรดโดรอฟเช่นกัน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้น เริ่มต้นในที่ซึ่งไม่มีใครคาดคิด ที่ซึ่งถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในการรบที่โหดร้ายที่สุดสำหรับสถาบันหลังสงคราม นั่นคือ “สงครามวังตะกอ” สงครามที่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับแต่สถาบันถูกก่อตั้ง ความผิดพลาดครั้งนั้นเกิดจากการวางแผนที่ผิดพลาด และการประเมินข้าศึกที่ต่ำกว่าความจริง อีกทั้งนายทหารยังขาดวินัย ขัดคำสั่งเข้าโจมตีก่อนที่กำลังสนับสนุนจะเข้ามาถึง

กองร้อยยานเกราะที่3และ8 ถูกสั่งให้เป็นหัวหอกของการโจมตี โดยมีกองร้อยปืนเล็กอีก3กองร้อยคอยสนับสนุน โดยที่หน่วยข่าวกรองประเมินว่า “กองกำลังปลดปล่อยอิสระ” ไม่มียานยนต์หุ้มเกราะที่สามารถต่อกรกับพวกเข้าได้ แต่พวกเขาผิด กองร้อยยานเกราะ24คันของพวกเขา กลับถูกยานเกราะของกำลังต่อต่านอิสระที่มีมากถึง 40 คันบดขยี้ อีกทั้งกองทหารของฝ่ายตรงข้ามก็มีมากกว่าขนาด 10-1 ทำให้กองพันที่ 1 ถูกบดขยี่จนเหลือเพียงแค่หมวดรถถังเพียงหมวดเดียว และรถถังทั้ง 3 ต้องหาทางป้องกันสะพานซึ่งเป็นปราการสุดท้ายของการป้องกัน สุดท้าย มีรถถังเพียงคันเดียว ที่รอดกลับออกมา


อ่านรอตอนไหม่กันไปก่อนนะ
ปล. ยังไม่ได้แก้คำผิด

5day-ago
13th May 2012, 19:13
ชักจะรอไม่ไหวแล้ววววว

nakiann123
13th May 2012, 19:32
^
^
^
รอ และ ชัก ไปก่อนครับท่าน lolz / เผ่น

LoveSeeker
13th May 2012, 20:07
^
^
^
รอ และ ชัก ไปก่อนครับท่าน lolz / เผ่น

ชักอะไรท่าน พูดให้ครับ ชักดาบ รึชัก....ธง.......

nakiann123
13th May 2012, 20:29
ชักอะไรท่าน พูดให้ครับ ชักดาบ รึชัก....ธง.......

ชักดาบ มายิง ครับท่าน


http://www.youtube.com/watch?v=O1MPhgbWukU

// เงิบ

LoveSeeker
16th May 2012, 13:52
http://www.youtube.com/watch?v=Ljs24S7uvws

เอาT-80โชว์ประสิทธิภาพมายั่วน้ำลายก่อนที่ตอนพิเศษจะออก
555+

LoveSeeker
16th May 2012, 16:55
http://image.ohozaa.com/i/ddf/4gVLqn.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/w4W5qcWOTeW5BHTq)
บทพิเศษที่ 1 : รถถังประจัญบาน

ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีจุดเริ่มต้น ความสัมพันธ์ของสามสหายศึกก็เช่นกัน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้น เริ่มต้นในที่ซึ่งไม่มีใครคาดคิด ที่ซึ่งถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในการรบที่โหดร้ายที่สุดสำหรับสถาบันหลังสงคราม นั่นคือ “สงครามวังตะกอ” สงครามที่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด นับแต่สถาบันถูกก่อตั้ง ความผิดพลาดครั้งนั้นเกิดจากการวางแผนที่ผิดพลาด และการประเมินข้าศึกที่ต่ำกว่าความจริง อีกทั้งนายทหารยังขาดวินัย ขัดคำสั่งเข้าโจมตีก่อนที่กำลังสนับสนุนจะเข้ามาถึง
กองร้อยยานเกราะที่3และ8 ถูกสั่งให้เป็นหัวหอกของการโจมตี โดยมีกองร้อยปืนเล็กอีก3กองร้อยคอยสนับสนุน โดยที่หน่วยข่าวกรองประเมินว่า “กองกำลังปลดปล่อยอิสระ” ไม่มียานยนต์หุ้มเกราะที่สามารถต่อกรกับพวกเข้าได้ แต่พวกเขาผิด กองร้อยยานเกราะ24คันของพวกเขา กลับถูกยานเกราะของกำลังต่อต่านอิสระที่มีมากถึง 40 คันบดขยี้ อีกทั้งกองทหารของฝ่ายตรงข้ามก็มีมากกว่าขนาด 10 - 1 ทำให้กองพันที่ 1 ถูกบดขยี้จนเหลือเพียงแค่หมวดรถถังเพียงหมวดเดียว และรถถังทั้ง 3 ต้องหาทางป้องกันสะพาน ซึ่งเป็นปราการสุดท้ายของการป้องกัน ในที่สุด ก็มีรถถังเพียงคันเดียว ที่รอดกลับออกมา

“เป้าหมาย รถถังข้าศึก สิบนาฬิกา” ร้อยตรี เดนิสกา เฟรดโดรอฟ ตะโกนหลังจากที่มองเห็นรถถังหลักของอีกฝ่าย “ยิง!”

“กำลังไป” เรวานอฟซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งพลปืนร้องและลั่นกระสุนเจาะเกราะออกไปจากปืนหลักขนาด 125มิลลิเมตร เสียงปืนดังสนั่นอยู่รอบรถ ทั้งของฝ่ายเดียวกัน และฝ่ายศัตรู เสียงระเบิดดังขึ้นเป็นครั้งครา คลอไปกับเสียงของวิทยูจากชุดหูฟังของพวกเขา

“เป้าหมาย รถถังข้าศึก สิบสองนาฬิกา” เฟรดโดรอฟร้องขึ้นอีกครั้ง “ยิงเมื่อพร้อม” เครื่องบรรจุกระสุน บรรจุกระสุนเข้าสู้ปืนอย่างรวดเร็ว

“กำลังไป” เรวานอฟตะโกนพร้อมยิงกระสุนปืนนัดที่สอง

“ผู้หมวดครับ” เสียงของพลขับดังขึ้นจากชุดหูฟัง “รถถังบัญชาการถูกยิงระเบิดไปแล้วครับ”

“รับทราบ” เฟรดโดรอฟพูด และหมุนช่องมองไปมองยังตำแหน่งของรถถังบัญชาการประจำกองร้อยของเขาซึ่งเวลานี้กลายเป็นเศษเหล็กครุกรุ่นไปด้วยไฟจากการะเบิดของกระสุนปืน “หมวดสาม กองร้อยแปด” เขาวิทยุเรียกรถถังใต้บังคับบัญชาของเขา “ถอนกำลังด่วน ไปจากที่นี่กัน เปลี่ยน”

“ท่านครับ ทำไมเราไม่รบอยู่ที่นี่ล่ะครับ เปลี่ยน”

“ถ้าเราอยู่ที่นี่ เราก็ตาย ตายแล้วจะสู้ไปทำไม เราต้องถอยไปที่ที่เราได้เปรียบกว่านี้ ทุกคันตามมา เลิกกการติดต่อ” รถถังสามคันหันหลัง และวิ่งออกจากแนวรบที่กำลังถูกกระหน่ำด้วยทั้งกระสุนปืนใหญ่และปืนเล็ก ทหารราบกำลังถูกยิงล้มตาย บ้างก็ถูกระเบิดจนร่างฉีกขาดกระจัดกระจาย รถถังที-80 แต่ละคันกำลังถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเศษเหล็กอย่างรวดเร็ว จากการรุมยิงแบบ 2 ต่อ 1



“เราจะตั้งแนวป้องกันที่อีกฝากของแม่น้ำ” เฟรดโดรอฟพูดในขณะที่กำลังมองดูแผนที่ “ถ้ากำลังเสริมมาไม่ทัน เราจะระเบิดสะพาน” การระเบิดเกิดขึ้นรอบๆรถของพวกเขา โชคดีที่พลปืนประจำรถถังของอีกฝ่ายยิงไม่แม่นยำนัก เฟรดโดรอฟเก็บแผนที่ และเริ่มใช้ช่องมองมองดูรอบๆรถถัง
“มีกลุ่มควันที่สิบนาฬิกาครับผู้หมวด” เสียงของผู้บัญชาการรถถังอีกคันดังขึ้นในชุดหูฟัง เฟรดโดรอฟมองเข้าไปยังกล้องอเนกประสงค์ และเปิดโหมดจับความร้อน แสงสีขาวสว่างรูปร่างรถถังสว่างขึ้นในจอ ท่ามกลางฉากหลังสีขาวคล้ำ
“สกอร์เปียน” เฟรดโดรอฟร้องขึ้นตามด้วยเสียงระเบิดรอบๆรถของเขา “ยิงตามสบาย” เรวานอฟหันป้อมปืนไปยังกลุ่มรถถังทันทีที่ เครื่องบรรจุกระสุนทำหน้าที่ ในขณะที่เรวานอฟกำลังเล็งปืนให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของรถถังทั้งสองฝ่าย เรวานอฟกดปุ่มยิง เสียงการระเบิดของดินขับดังขึ้นสามครั้งติดกัน โดยครั้งแรกดังขึ้นจากรถถังของเฟรดโดรอฟ และครั้งต่อมาดังขึ้นจากรถถังของอื่น กระสุนระเบิดแรงสูงเจาะเกราะฉีกเกราะรถถังสกอร์เปียนของอีกฝ่ายจนกลายเป็นเศษเหล็กในพริบตา สกอร์เปียนคันเดียวที่เหลือเล็งเห็นแล้วว่าไม่สามารถต่อกรกับรถถังทั้ง3คันได้จึงพยายามเร่งความเร็ว

“ท่านครับ อีกคันกำลังหนี” เรวานอฟพูดในขณะที่เครื่องบรรจุกระสุนกำลังบรรจุกระสุน

“ไม่ให้หนีหรอก” เฟรดโดรอฟเปิดฝาครอบในตำแหน่งของเขา และโผล่ออกไปภายนอกรถ เขาขึ้นลำปืนกลหนัก และกระหน่ำยิงใส่รถถังคันสุดท้าย ซึ่งผู้บังคับการรถถังคันอื่นๆก็ทำเช่นกัน ป้อมปืนของรถถังเบาพยายามหันมาทางพวกเขาก่อนจะหยุดลงที่ครึ่งทาง กระสุนเจาะเกราะเพลิงคงจะเจาะเกราะอลูมิเนียมของรถถังสกอร์เปียนเข้าไปฆ่าผู้บังคับการรถและพลปืนแล้ว เหลือแต่เพียงพลขับที่อยู่ส่วนหน้าของรถเท่านั้น

“พร้อมยิง” เรวานอฟพูด เฟรดโดรอฟกลับเข้ามาในป้อมปืน ก่อนจะพยักหน้าให้เรวานอฟ ดินขับระเบิดขึ้น กระสุนระเบิดแรงสูงต่อต้านรถถังทะยานออกจากปากกระบอกปืน และเข้าปะทำกับเพราะที่ยับเยินของสกอร์เปียน มันระเบิดขึ้น เศษซากของรถถังเบากระจัดกระจาย ป้อมปืนลอยขึ้นสูง ก่อนจะตกลงสู่พื้น

“เบอร์สองประจำตำแหน่งนี้ คอยกวาดทหารที่พยายามเข้ามา” เฟรดโดรอฟพูดและชี้จุดบนแผนที่ “เบอร์สาม อยู่ตรงนี้ กำจัดยานยนต์หุ้มเกราะที่พยายามจะจัดการกับเบอร์สอง” เขาชี้อีกจุดให้ผู้บังคับการรถถังดู “ฉันจะอยู่ตรงนี้” เขาชี้ที่จุดหนึ่งริมแม่น้ำ “ถ้าฉันโดนยิง ให้ระเบิดสะพาน แล้วก็ถอยกลับไป ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาชีวิตให้รอด เข้าใจใช่ไหม”

“ครับ” ผู้บังคับการรถถังทั้งสองรอบ

“ไปลุยงานกันได้แล้ว” ทั้งสามแยกย้ายไปยังรถถังของตนเอง พวกเขาเคลื่อนผ่านคอสะพาน และจอดให้พลปืนรถถังกระโดดลงเพื่อตรวจสอบวัตถุระเบิด รถถังทั้งสามเข้าประจำตำแหน่ง รถคันแรกอยู่ในตรอกข้างทาง คอยยิงทหารราบที่ไม่ทันระวังตัว คันที่สองจอดอยู่หลังซากปรักหักพัง มีเพียงส่วนของป้อมปืนเท่านั้นที่อยู่เหนือเนินซากตึก รถถังของเฟรดโดรอฟเข้าไปอยู่ในตึกหลังหนึ่ง ซึ่งผุพังไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังพอจะกำบังสายตาจากข้าศึกได้ พวกเขาจอดอยู่ที่ชั้นล่างสุดของตึก ผนังด้านหลังนั่นหายไปจนหมดแล้ว เหลือเพียงพนังด้านหน้าที่เป็นรูยาว และกว้างพอให้เรวานอฟเล็งยิงได้ มันเป็นจุดที่พรางตัวได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับจุดอื่น แต่ก็เป็นจุดที่อันตรายที่สุดเช่นกัน เพราะจุดนี้ติดริมแม่น้ำ ไม่มีอะไรกำบังพวกเขาเลย อีกทั้งตึกที่เป็นเครื่องพรางตา และที่กำบังเพียงอย่างเดียวก็อยู่มานานหลายร้อยปีแล้ว หากโดนกระสุนระเบิดแรงสูงเข้าไปไม่กี่นัด มันก็อาจจะถล่มลงมาฝังพวกเขาให้ตายทั้งเป็นเลยก็ได้

“ไปกางตาข่ายพรางกัน” เฟรดโดรอฟพูดและปีนออกนอกตัวรถ ตามมาด้วยเรวานอฟ ทั้งสองนำเอาตาข่ายพรางออกมาคลุมรถถังของพวกเขาอย่างรวดเร็วโดยมีพลขับคอยส่องกล้องสอดแนมอยู่ที่ส่วนหน้าของรถ พวกเขาคลุมตาข่ายจนเสร็จ พร้อมๆกันกับที่พลขับตะโกน “มันมาแล้ว” ทั้งสามรีบกลับเข้าประจำตำแหน่งของตนเอง

“เอาล่ะ” เฟรดโดรอฟพูดและมองหาเป้าหมายผ่านกล้องของเขา รถถังหลักของอีกฝ่ายเกือบครึ่งโหลเคลื่อนที่เข้ามาพร้อมกับรถบรรทุกและรถถังเบา “ทุกคันโปรดทราบ มีคนมาเคาะประตูเราแล้ว”

“บรรจุแล้ว” เรวานอฟพูดหลังจากที่เครื่องบรรจุ บรรจุกระสุนเสร็จ

“ยิงตามสบายเลยรอฟ”

“รับทราบ” เรวานอฟเริ่มการเล็งให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ แรงโน้มถ่วง และระยะทาง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร แรงกดดันกำลังกระหน่ำพวกเขาทั้งสาม ต่างคนก็ต่างคิดไปว่า ถ้าพวกเขาถูกพบล่ะ ถ้าพวกเขาถูกกระหน่ำยิงล่ะ ถ้าพวกเขาตายล่ะ ทั้งพี่น้อง ทั้งครอบครัว จะอยู่กันอย่างไร เหงื่อเป็นเม็ดๆผุดปรายขึ้นตามใบหน้าของทุกคน เรวานอฟวางมือบนอุปกรณ์ควบคุมการยิง “กำลังไป” เขายิง กระสุนเจาะเกราะทรงตัวด้วยครีบหางพุ่งออกไปจากปากกระบอกปืน และสลัดฝาครอบออก มันพุ่งเข้าปะทะรถถังหลักคันหนึ่งอย่างแม่นยำ ทำให้รถถังคันนั้นหยุดลงโดยทันที สะเก็ดและความร้อนจาการปะทะคงจะฆ่าลูกเรือทุกคนแล้ว ไม่ถึงวินาทีต่อมา รถถังหลักก็ระเบิดขึ้น ความร้อนคงจะไปทำให้กระสุนของรถถังคันนั้นระเบิดขึ้น รถถังของอีกฝ่ายทุกคันหยุดสนิท และนั่น เป็นสิ่งที่ผิดพลาด เรวานอฟหันปืนไปยังรถถังคันต่อไปที่บัดนี้กลายเป็นเป้านิ่งแล้ว เสียงปืนหลักของรถถังเบอร์สามดังขึ้นตามด้วยการระเบิดของรถถังเบาที่กำลังพยายามจะข้ามสะพาน

“พร้อมยิง” เรวานอฟพูดหลังปืนถูกบรรจุ “กำลังไป” กระสุนนัดที่สองออกจากลำกล้องและปะทะกับรถถังคันและเกิดระเบิดขึ้นตามมา รถถังอีกฝ่ายเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง และเริ่มยิงปืนหลักใส่รถถังหมายเลขสาม

“หมายเลขสาม รายงานเปลี่ยน” เฟรดโดรอฟพูดใส่วิทยุ

“กำลังถูกกระหน่ำยิงครับ แต่ยังพอทนไหว เปลี่ยน”

“รับทราบ เลิกการติดต่อ” เสียงปืนจากรถหมายเลขสามดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นรถบรรทุกทหารที่ระเบิด และลอยขึ้นไปเหนือพื้น รถบรรทุกจอดก่อนที่จะขึ้นสะพาน ทหารราบกระโดดลงจากรถพร้อมอาวุธประจำกายและวิ่งตรงไปยังสะพานข้ามแม่น้ำ

“ทหารราบกำลังข้ามสะพาน ย้ำ ทหารราบกำลังข้ามสะพาน” เสียงของผู้บัง
คับการรถหมายเลขสามดังขึ้นจากชุดหูฟัง รถหมายเลขสามเล็งปืนไปยังกลุ่มทหารราบที่กำลังวิ่งข้ามสะพาน กระสุนระเบิดแรงสูงสาดสะเก็ดทะยานออกไปจากปากกระบอกปืนและระเบิดขึ้นกลางวงของทหารราบ ร่างกายถูกฉีกกลายเป็นเศษเนื้อ สะเก็ดพุ่งทะยานไปทุกทิศ และฆ่าทุกคนที่อยู่ในทางของมัน รถถังคันที่สามถูกเรวานอฟจัดการเป็นที่เรียบร้อย เหมือนดั่งว่าผู้บังคับการรถถังจะอ่อนประสบการณ์จนไม่สังเกตว่าตนเองกำลังถูกลอบยิง จากรถถังของเฟรดโดรอฟ

“ทหารราบข้ามสะพานแล้ว” เสียงของผู้บังคับการรถถังหมายเลขสามดังขึ้น ตามด้วยเสียงของระเบิดแรงสูงสาดสะเก็ด

“คันที่สี่” เรวานอฟพูดหลังจากที่ยิงถูกรถถังอีกคัน “เหลืออีกเจ็ด” เรวานอฟพูด เครื่องบรรจุบรรจุกระสุนเข้าสู่ปืนพร้อมกันกับที่ไฟแดงบนแผงควบคุมการยิงสว่างขึ้น “เจาะเกราะครีบนัดสุดท้าย” เรวานอฟพูดและเล็งปืนของเขา ก่อนจะยิง กระสุนนัดสุดท้ายก็ยังคงทำงานได้ดี มันจัดการรถถังอีกคันจนสิ้นฤทธิ์ “เปลี่ยนเป็นกระสุนระเบิดแรงสูงเจาะเกราะ” เรวานอฟพูดและกดปุ่มบนแผงควบคุมการยิง เครื่องบรรจุเริ่มทำงาน และป้อนกระสุนเข้าไปในปืน

กลุ่มทหารราบตั้งเป็นสองแถวและเดินไปตามสองข้างถนน มุ่งตรงไปหารถถังหมายเลขสามซึ่งกำลังกราดกระสุนปืนกลร่วมแกนใส่ทหารราบเหล่านี้อย่างดุดัน แต่รถถังหมายเลขสามนั้นอยู่สูงเกินกว่าที่จะกดปืนลงมายิงทหารเหล่านี้ได้ “หมายเลขสามไม่มีมุมยิง” ผู้บังคับรถถังพูดตามมาด้วยเสียงระเบิดของกระสุนเจาะเกราะ โชคดีที่มันพลาดเป้าไปไม่กี่เมตร “เรากำลังโดนกระหน่ำยิง ย้ำเรากำลังโดนกระหน่ำยิงเปลี่ยน”

“ทราบแล้ว หมายเลขสาม เรากำลังพยายามจะลดพลังการยิงของข้าศึก ทนเอาไว้ เปลี่ยน” เฟรดโดรอฟตอบและสอดส่องดูกองทหารข้าศึก


“กำลังไป” เรวานอฟร้องแข่งกับเสียงของการจุดระเบิดดินขับ กระสุนเข้าปะทะกับรถถังคันหนึ่ง และระเบิดขึ้นในทันที เปลวไฟลุกท่วมภายนอกของรถถัง รถถังหยุดลงพลประจำรถปีนออกมาจากรถโดยมีไฟคลอกตามร่างกาย ไม่ทันที่พวกเขาจะลงจากรรถถัง มันก็ระเบิดขึ้น ฉีกร้างของพลประจำรถถังเหล่านั้นจนกลายเป็นเศษเนื้อ “อีกหก” เรวานอฟพูดและหันไปดูกระสุนที่เหลือ “ต่อต้านรถถังเหลืออีกแปดนัด สาดสะเก็ดเหลืออีกสิบสองนัด น่าจะพอ” เขาหันกลับมาเล็งปืนทันทีที่เครื่องบรรจุกระสุนบรรจุเสร็จ

“พลปืน เป้าหมาย กลุ่มรถถังสกอร์เปียน สิบสองนาฬิกา” เฟรดโดรอฟพูดขึ้นหลังจากที่เห็นรถถังสกอร์เปี้ยนสี่คันกำลังวิ่งตรงมาหาพวกเขา “ยิงเมื่อพร้อม”

“กำลังไป” เรวานอฟร้อง แต่ทว่า ดินขับของกระสุนระเบิดแรงสูงต่อต้านรถถังไม่ระเบิด พลประจำรถถังทั้งสามคนขนลุกขึ้นมาพร้อมกัน เรวานอฟและเฟรดโดรอฟประสานสายตากันด้วยหน้าตาตื่นกลัว

“ออกจากรถ” เฟรดโดรอฟตะโกน ทั้งสามเปิดฝาครอบของตนและตะเกียกตะกายออกจากตัวรถถังโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ก่อนจะวิ่งกระจัดกระจายเพื่อหาที่กำบัง

“ทหารราบกำลังเข้าสู่พื้นที่ของหมายเลขสอง เปลี่ยน” เสียงของผู้บังคับรถถังคันที่สามดังขึ้นในชุดหูฟัง

“รับทราบแล้ว” ผู้บังคับการรถถังพูด และโผล่ออกไปนอกตัวรถ เขาขึ้นลำปืนกล เล็งตรงไปยังถนน รอให้ทหารราบของอีกฝ่ายโผล่ออกมาและเขาก็ไม่ต้องรอนานนัก ทหารราบวิ่งก้มตัวต่ำ โผล่ออกมาจากมุมตึก พวกเขาไม่รอช้า ทั้งผู้บังคับการและพลปืน ต่างก็ส่งกระสุนปืนเข้าฉีกร่างของทหารอีกฝ่าย “ไปตายซะ ไอ้พวกลูก[เซนเซอร์]” ทหารอีกฝ่ายหันปืนมายิงใส่พวกเขา กระสุนปะทะกับเพราะรถถังก่อนจะกระเด็นกระดอนไปคนล่ะทิศทาง


“ตำแหน่งของหมายเลขสองถูกบุกแล้ว ย้ำตำแหน่งของหมายเลขสองถูกบุกแล้ว เปลี่ยน” เสียงจากวิทยุยังคงดังอยู่ในรถถังที่ว่างเปล่า ลูกเรือทั้งสามต่างกระจัดกระจาย และหลบอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อรอให้แน่ใจว่ากระสุนที่ด้านนั้น จะไม่ระเบิดใส่พวกเขา แต่เรวานอฟรู้ว่ามันไม่มีเวลาแล้ว เขาออกจากที่กำบังโดยไม่สนหลักความปลอดภัย

“รอฟ” เฟรดโดรอฟพยายามตะโกนเรียก “เฮ้!” เรวานอฟไม่สนใจเสียงเรียกนั้น เขาปีนขึ้นไปบนตัวรถ เฟรดโดรอฟออกจากที่กำบังและปีนขึ้นไปตามเรวานอฟที่กำลังนำกระสุนออกจากปืน

“ส่งมาเร็ว” เฟรดโดรอฟพูดและรับกระสุนปืน125มิลลิเมตรจากเรวานอฟ “พลขับประจำตำแหน่ง” เขาตะโกนสั่งและลงจากรถด้วยความระมัดระวัง เขาเลี้ยงลูกปืนด้วยมือและวงแขน เพื่อให้มันอยู่นิ่งที่สุด เขาเดินออกห่างจากรถจนมันใจแล้วว่าแม้กระสุนจะระเบิด รถถังก็ยังคงปลอดภัย เขาวางกระสุนลงพร้อมๆกับที่เรวานอฟยิงปืนหลัก เขาวิ่งอย่างรวดเร็วออกจากระยะของการระเบิด และกลับไปที่รถ


ทหารกองกำลังปลดปล่อยอิสระหมอบคลานเข้าหารถถังหมายเลขสอง ซึ่งไม่สามารถกดปืนลงมายิงทหารเหล่านี้ได้ อีกทั้งผู้บังคับการยังถูกยิงกดหัวจนต้องเข้ามาหลบภายในรถ
“จ่าครับ ทหารข้าศึกกำลังเข้ามาครับ” พลขับรายงานทางอุปกรณ์สื่อสาร ผู้บังคับการและพลปืนมองหน้ากัน และพยักหน้าให้กันและกัน พลปืนบรรจุกระสุนเจาะเกราะเข้าไปในปืนหลัก

“บดมันเลย” ผู้บังคับการรถถังสั่ง พลขับไม่รอช้า เขาเร่งเครื่อง เครื่องยนต์คำรามก้อง เสียงสายพานบดขยี้คอนกรีตดังขึ้นมาจากใต้เท้าของพวกเขา รถถังเคลื่อนทับทหารโชคร้ายหลายคน และบดขยี้พวกเขาจนกลายเป็นเศษเนื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อย รถถังหมายเลขสองโผล่ออกจากมุมตึก เล็งปืนหลักไปยังรถถังของกองกำลังปลดปล่อย และยิง

“เพื่อแผ่นดินแม่” พลปืนร้องตะโกน กระสุนเข้าเป้าอย่างแม่นยำ ก่อนที่รถถังของกองกำลังปลดปล่อยจะรุมกินโต๊ะพวกเขา กระสุนต่อต้านรถถังนัดแรกระเบิดห่างพวกเขาไปหลายเมตร นัดที่สองโดนที่ชั้นสองของตึกฝั่งตรงข้าม นัดที่สามระเบิดใกล้กราบขวาด้านหน้า ทำให้สายพานรถขาด นัดที่สี่ระเบิดที่กลางคัน ส่งสะเก็ดระเบิดและแก๊สร้อนเข้าไปหลอมละลายทุกสิ่งที่อยู่ในป้อมปืน รวมทั้งพลปืนและผู้บังคับการรถถัง และนัดสุดท้ายพลาดเป้าไปโดนตึกริมแม่น้ำ พลขับปีนออกจากรถทันทีที่ถูกยิง แต่ก็ไม่วายถูกทหารราบกระหน่ำยิงจนร่างพรุนไปด้วยคมกระสุนของปืนเล็ก

“เสียหมายเลขสองไปแล้วเปลี่ยน” เฟรดโดรอฟเข้ามายังป้อมปืน ประจำตำแหน่งของตนเอง และสวมอุปกรณ์สื่อสาร

“สองไปแล้ว” เรวานอฟบอกสิ่งที่เขาพลาดไป “สกอร์เปียนพวกนั้นกำลังจะเปิดโปงตำแหน่งของเรานะครับ” เขายิงปืนอีกนัด ทำให้รถถังเบาอีกคันหมดสภาพ สองคันที่เหลือกำลังตรงเข้ามาใกล้พวกเขาด้วยความเร็วสูง “เราต้องเปลี่ยนตำแหน่งแล้วครับท่าน” กระสุนถูกบรรจุ เรวานอฟยิงปืนหลัก แน่นอนว่าฝีมือการเล็งของเรวานอฟยังคงเชื่อใจได้เสมอ มันฉีกเกราะของรถถังสกอร์เปียนและฆ่าทุกคนที่อยู่ภายใน

“ไปยังตำแหน่งของหมายเลขสาม” เฟรดโดรอฟสั่ง “บรรจุกระสุนสาดสะเก็ด”

“รับทราบ” เรวานอฟและพลขับรับพร้อมกัน รถเคลื่อนตัวถอยหลัง หักเลี้ยว ก่อนจะตรงไปยังตำแหน่งของคันที่สาม ไม่กี่อึดใจต่อมา ตึกที่พวกเขาเคยอยู่ก็ถูกกระหน่ำยิงจากรถถังห้าคันที่เหลือของกองกำลังปลดปล่อย

“สกอร์เปียนสี่คันกำลังข้ามสะพาน” ผู้บังคับการรถถังหมายเลขสามรายงาน “เราคงทนได้อีกไม่นานเปลี่ยน พลปืนหยุดการยิงปืนร่วมแกนหันไปยิงปืนหลักใส่เหล่ารถถังเบา “เราคงต้านได้อีกไม่นาน เปลี่ยน”

“ทราบแล้ว เรากำลังไปเสริมเปลี่ยน” เฟรดโดรอฟตอบพลางมองแผนที่

“เราไม่มีกระสุนพอจะจัดการกับรถถังพวกนั้นนะครับ” เรวานอฟพูด “แล้วไหนจะทหารราบอีก”เขาสายหัวอย่างหมดหวัง

“เราต้องทำให้ดีที่สุดรอฟ อย่างน้อยก็ลดจำนวนพวกมันลงก่อนที่กองพันที่51จะมาถึง”

“จะถึงที่หมายในอีกสามวินาที”เสียงของพลขับดังขึ้นในอุปกรณ์สื่อสาร

“กำจัดทหารราบก่อน” เฟรดโดรอฟสั่ง “จากนั้นสกอร์เปียน”

“รถถังเบาเสร็จไปสาม” เสียงของผู้บังคับการรถถังหมายเลขสามดังขึ้นจากชุดหูฟัง รถของเฟรดโดรอฟโผล่ออกจากมุมตึก เล็งปืนไปยังกลุ่มทหารราบ และยิง ร่างและเศษเนื้อกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง ทหารราบของกองกำลังปลดปล่อยร่วมสองโหลกลายเป็นก้องเนื้อเล็กๆในพริบตา

“บรรจุระเบิดแรงสูงต่อต้านรถถัง” เรวานอฟพูดในขณะที่พลขับถอยรถกลับเข้าที่กำบัง

“สกอร์เปียนเสร็จอีกหนึ่ง” กระสุนของรถถังหมายเลขสามฉีกรถถังเบาอีกคันออกเป็นชินๆ และนั่น เป็นกระสุนนัดสุดท้ายของพวกเขา ห่ากระสุนจากปืนของรถถังหลักกระหน่ำเข้าใส่พวกเขา นัดแรกระเบิดหลังพวกเขาห่างไปหลายเมตร สามนัดต่อมาโดนที่ป้อมปืนอย่างแรงจนมันหลุดกระเด็นออกจากตัวรถ ทุกคนในนั้นถูกฆ่ารวมถึงพลขับด้วย

“สาม ไปแล้ว” พลขับตะโกน

“พร้อมยิง” เรวานอฟพูด พลขับเคลื่อนรถออกจากที่กำบัง เรวานอฟเล็งไปยังรถถังเบา และยิง กระสุนระเบิดแรงสูงเข้าเป้า พร้อมๆกับที่กระสุนของอีกฝ่ายปะทะกับรถถังของพวกเขา รถถังเสียการควบคุมและวิ่งเข้าชนซากของรถถังหมายเลขสาม

“ออกไปจากนี้” เฟรโดรอฟตะโกนพร้อมโผล่ออกจากป้อมและใช้ปืนกลยิงคุ้มกันให้ลูกเรือคนอื่นๆออกไปจากรถเรวานอฟปีนออกจากช่องของตนเองพร้อมปืนเล็กยาวประจำกาย และลงไปดูตำแหน่งของพลขับ กระสุนเจาะเกราะนัดนั้นได้ยิงโดนฝาครอบของคนขับอย่างจัง ทำให้ฝาครอบหลุดออกไป อีกทั้งยังสาดสะเก็ดและความร้อนเข้าไปฆ่าพลขับ ที่บัดนี้ร่างท่อนบนได้หายไป เหลือเพียงเครื่องในและร่างกายท่อนล่างเท่านั้น เลือดกระจายเปรอะเต็มห้องควบคุมทั้งหมด ปอด ตับ ไต กระเพาะหาร และลำไส้เรี่ยราดตามพื้น ภาพเหล่านี้ทำให้เรวานอฟเกือบจะอาเจียนออกมา เขากระโดดลงสู้พื้นและหาจุดที่เหมาะที่จะยิงกับทหาราบของอีกฝ่ายโดยมีเฟรโดรอฟตามมาติดๆ

“เราไม่ไหวแน่” เรวานอฟพูดและยิงทหารคนหนึ่งจนแน่นิง

“แค่นี้ก็พอแล้ว” เฟรดโดรอฟพูดและยิงใส่กลุ่มทหารที่กำลังเข้ามา เหล่าทหารหลั่งไหลข้ามสะพานมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ลดละ อีกทั้งรถถังหลักก็เคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เฟรดโดรอฟเขวี้ยงระเบิดมือใส่กลุ่มของทหารราบกองกำลังปลดปล่อยและหลบเข้ามาหลังที่กำบัง เสียงระเบิดดังขึ้นและทุกคนที่อยู่ในระยะสะเก็ดล้วนหมดสภาพต่อสู้ “เราต้องระเบิดสะพาน” เฟรดโดรอฟพูด “ยิงคุ้มกันที” เฟรดโดรอฟกำลังจะโผออกจากที่กำบัง

“ไม่มีทางหรอก”เรวานอฟตอบและดึงเขากลับเข้ามาหลังเนินคอนกรีต “ทั้งกองร้อยกำลังจะข้ามสะพาน เราต้องถอย”

“นี่พันตรีอโลน อลองเกอร์ กองพันที่51 เรียกหน่วยใดก็ได้ของกองพันที่17 ทราบแล้วตอบด้วยเปลี่ยน” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากวิทยุที่ติดอยู่บริเวณหลังรถถัง ที-80 “คุ้มกันด้วย” เฟรดโดรอฟบอกและตรงเข้าไปหาวิทยุ

“นี่คือร้อยตรีเดนิสกา เฟรดโดรอฟ หมวด3กองร้อย8กองพันที่17 ทราบแล้วเปลี่ยน”

“ยินดีที่ได้ยินเสียงคุณ เปลี่ยน”

“ยินดีที่คุณมาเช่นกัน ต้องการการสนับสนุนด่วนมากเปลี่ยน”

“ทราบแล้ว ไฮด์กำลังไป โปรดแจ้งที่อยู่ของคุณ เราจะได้หลีกเลี่ยงการยิงพวกเดียวกันเปลี่ยน”

“เราจะใช้ตัวกำเนิดแสงอินฟาเรดในตำแหน่งที่เราอยู่เปลี่ยน” เสียงของเครื่องบินปีกหมุนเริ่มเข้ามาใกล้

“ทราบแล้ว แล้วพบกัน เลิกการติดต่อ” เฟรดโดรอฟวางวิทยุ และเปิดกล่องหลังรถ หยิบเอาตัวกำเนิดแสงอินฟาเรดออกมา เปิดครื่อง และวางไว้บนซากรถถัง เสียงของเครื่องปีกหมุนดังขึ้นเรื่อยๆ

“เอาล่ะรอฟ ทนไว้อีกนิด” เฟรดโดรอฟพูดและกราดกระสุนใส่ทหารของกองกำลังต่ออ้านที่ดาหน้าเข้ามา และแล้วนกเหล็กก็มาถึง เครื่องเอ็มไอ - 24 สามลำบินโฉบพร้อมกราดศาสตราวุธทุกประเภทเข้าใส่ทหารราบ ไม่ว่าจะเป็นปืนกล ปืนใหญ่อากาศ จรวดนานาชนิด ร่างของทหารถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เลือดและเครื่องในกระจัดกระจาย ถนนและตึกสองข้างทางถูกย้อมไปด้วยเลือด เครื่องปีกหมุนอีกสามลำบินผ่านเมืองไปและยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถังใส่รถถังหลักที่เหลือ อีกทั้งยังกราดกระสุนปืนกลกวาดล้างกองทหารราบที่กำลังถอยหนี รถถังที - 72 และยานยนต์หุ้มเกราะบุกเข้าทางปีกซ้ายกองกำลังต่อต้าน และต้อนทหารที่หวาดกลัวไปทางทะเล ทหารราบของกองพันที่51เดินตามกลุ่มของยานยนต์หุ้มเกราะ และคอยยิงจัดการกับทหารราบที่ไม่ถูกเหล่ายานยนต์จัดการ


เครื่องเอ็มไอ - 8บินเหนือเฟรดโดรอฟและเรวานอฟที่ทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพง ทหารสองหมู่โรยตัวลงมาจากเครื่องปีกหมุน และบุกขึ้นไปตามถนน เพื่อจัดการกับทหารกองกำลังปลดปล่อยอิสระ เครื่องลำที่สองส่งทหารอีกกลุ่มลงสู่พื้น แต่ละคนแยกย้ายกันไปเคลียร์พื้นที่ มีเพียงคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเขา

“ทำได้ดีมากสหาย” อโลนพูด และยื่นมือให้พวกเขาสัมผัส

จบบทพิเศษ : รถถังประจัญบาน

Corrected by Stormwind [male]

LoveSeeker
21st May 2012, 14:51
วันนี้ Dr. POP มาโรงเรียนมธยมที่กระผมจบด้วยนะขอรับ
ว่าแต่ เขาเป็นใครอะ

http://image.ohozaa.com/i/aa1/LAFGkx.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/w5yV8p83rb7qzrDW)

nakiann123
21st May 2012, 15:39
กำลังจะอ่านครับ // ว่าแต่ใครคือ Dr. Pop :sweat

Rex
21st May 2012, 15:45
คนแต่ง ไวท์โรด ครับนิยายเรื่องแรกๆที่แต่งโดยนักเรียนไทย (สมัยนั้น) และเป็นนิยายที่อดีตนายก.... ชื่นชมและยกย่องเป็นตัวอย่าง (มันเขียนไว้หลังเล่ม)

(ส่วนมากคนที่ชอบนิยายจริงๆถึงจะทราบเพราะเป็นยุคบุกเบิกของนิยายประเภทต่างๆในไทยครับ)

LoveSeeker
21st May 2012, 15:52
the white road 10ปีแล้วใช่ไหมครับนิ
//รู้สึกว่าตัวเองชักแก่ 555+

Stormwind
21st May 2012, 16:06
เคยถูกรุ่นใหญ่ในบอร์ดเด็กดีตราหน้าว่าเป็น "ขยะทางนวนิยาย"

แต่ตอนนี้กระทู้นั้นก็ถูกลบไปตามระเบียบ เหตุผลที่โดนด่าคร่าวๆก็คือว่า

เปิดมาพระเอกก็มีพลังพิเศษ เหนือทุกอย่าง
เดาตอนต่อไปได้ ภาษาไม่ค่อยน่าอ่านเท่าไหร่
และอีกหลายๆอย่าง เนื้อเรื่องส่วนมากจะออกไปทางการระบายปัญหาที่ตัวเองได้เจอมา
ปัญหาของคนรอบข้าง เยอะมาก แต่ก็นะ ก็ยังมีแฟนคลับติดตามเยอะแยะ

นานาจิตตัง ใครเคยอ่านก็น่าจะรู้

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
21st May 2012, 16:17
เคยถูกรุ่นใหญ่ในบอร์ดเด็กดีตราหน้าว่าเป็น "ขยะทางนวนิยาย"

แต่ตอนนี้กระทู้นั้นก็ถูกลบไปตามระเบียบ เหตุผลที่โดนด่าคร่าวๆก็คือว่า

เปิดมาพระเอกก็มีพลังพิเศษ เหนือทุกอย่าง
เดาตอนต่อไปได้ ภาษาไม่ค่อยน่าอ่านเท่าไหร่
และอีกหลายๆอย่าง เนื้อเรื่องส่วนมากจะออกไปทางการระบายปัญหาที่ตัวเองได้เจอมา
ปัญหาของคนรอบข้าง เยอะมาก แต่ก็นะ ก็ยังมีแฟนคลับติดตามเยอะแยะ

นานาจิตตัง ใครเคยอ่านก็น่าจะรู้

By Stormwind [Female]

อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่อ่านดู ไม่ใช่นิยายสไตล์พี่อะ 55+
เลยไม่ซื้อมาอ่าน เนื้อเรื่องจริงๆเป็นไงก็ไม่รู้

http://image.ohozaa.com/i/a22/CQAp3A.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/w5zqp8RSflhgZegM)
รองเท้าผม สีเจ็บดีปะ =.,=

Rex
21st May 2012, 17:10
ข้างบนลองเจอ CC ride ของผมแล้วจะเจ็บกว่านี้อีก :victory

LoveSeeker
21st May 2012, 17:21
ข้างบนลองเจอ CC ride ของผมแล้วจะเจ็บกว่านี้อีก :victory
5555+
กำลังจะไปหาเชื่อผูกรองเท้าสีเขียวอ่อนมาเพิ่มความเจ็บอยู่ครับ

Jomzababin
21st May 2012, 22:43
บทพิเศษ มันส์จริงๆ ฮ่าๆ

LoveSeeker
24th May 2012, 19:34
SITREP

รายงานสถานการณ์ เวลานี้ผมอยู่ที่กรุงเทพครับผม
มาโดนรับน้องในมหาวิทยาลัยราชพัฏแห่งหนึ่ง
เหนื่อยครับ 555+
วันนี้ซ้อม บูมคณะแล้วก็บูมเอก เหนื่อยมากครับผม
หากมีอะไรคืบหน้าจะรายงานให้ทราบครับผม
=.,=

Jomzababin
30th May 2012, 20:30
จขกท รุ่นเดียวกับผมรึนี้...ฮ่าๆๆ สู้ๆครับผม

5day-ago
4th June 2012, 18:04
ดันอีกรอบ ตอน3ๆๆๆๆๆๆ

LoveSeeker
7th June 2012, 19:26
SIT-REP

หลังจากได้พักเมื่อแล้วเสร็จการรับน้องเอก
วันนี้ปฐมนิเทศคณะ พบอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว

วันพรุ้งนี้ มีรับน้องคณะ ก่อนที่รับน้องมหาวิทยาลัยจะตามมาในอาทิตย์หน้า

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
L0veSeeker

Rex
7th June 2012, 19:59
โชคดีนะครับ! สมใจอยากหรือเปล่าคณะที่เข้า?

LoveSeeker
8th June 2012, 19:14
โชคดีนะครับ! สมใจอยากหรือเปล่าคณะที่เข้า?

สมใจอยากครับผม
แต่ตอนนี้ชักอยากลาออกไปทำเกษตรทฤษฎีใหม่แล้วสิ
รู้สึกว่ามันอาจจะมีความสุขกว่ามาดิ่นรนเรียนแบบนี้เสียอีก

55555++

LoveSeeker
19th June 2012, 17:21
SIT-REP
เข้าสู่สัปดาห์ที่2ของการเรียน
ยังคงมีการบูมและกิจกรรมาต่างๆบ้างประปราย
กำหนดลงตอนใหม่ยังไม่สามารถกำหนดได้

จบการรายงาน

5day-ago
6th August 2012, 19:08
ดันๆๆ เรื่องนี้ก็หายไปนานเลยนะครับ

LoveSeeker
6th August 2012, 20:14
ดันๆๆ เรื่องนี้ก็หายไปนานเลยนะครับ

ตอนนี้มีปัญหาเกียวกับภาษา (วิชาหลักภาษา) นิดหน่อย (ไม่นิดล่ะสอบวันพุธ) ก็เลยยังไม่ได้พิมพ์นิยายสักเท่าไหร่นัก
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เอิกส์

THE MIZ
7th August 2012, 11:01
แล้วไหน Chapter 3 อ่า มันอยู่ไหน !?

LoveSeeker
15th August 2012, 15:55
บทที่ 3 : การโจมตีที่ห้างสรรพสินค้า
ไอราวัณล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกันกระสุน และหยิบเอาแท่งเรืองแสงยาวครึ่งฟุตออกมา เขาหักมันให้งอและโยนไปตามทางเดิน มันส่องว่างอย่างรวดเร็ว เขายกปืนขึ้นเล็งไปยังแท่งเรื่องแสง นิ้วสอดเข้าโกร่งไกร เตรียมพร้อมยิงทุกสิ่งที่เขามาในระยะการมองเห็น เขานิ่งอยู่อย่างนั้นเกือบสิบนาที จนมั่นใจแล้วว่าไม่มีตัวอะไรอยู่ใกล้ๆ เขาจึงหยิบไฟฉากออกมาติดไว้ใต้ปืนพก เขาเปิดไฟฉาย แสงส่องสว่างเป็นลำ เขาก้าวเดินอย่างเงียบเชียบไปตามทางเดิน เขาเดินผ่านเคาท์เตอร์ขายตั๋ว เดินลงบันใดเลื่อนที่บัดนี้หยุดทำงานและเต็มไปด้วยสนิม เขาหยุดหน้าเครื่องขายอาหารอัตโนมัติ เก็บปืนเข้าซอง และสะเดาะกุญแจปิดกล่องสินเค้า ต้องขอบคุณบรรจุภัณฑ์ยุคปี 2020 ที่สามารถถนอมอาหารได้เป็นร้อยปีโดยไม่บูดเน่า เขาหยิบเอากล่องโลหะสีขาวออกมา เปิดกล่องอย่างเบามือ และหยิบเค้กใส่ปาก ถ้าเชคอฟไม่บอกว่าจะกลับถึงศูนย์ก่อนมื้อเย็น เวลานี้เขาคงมีอาหารพร้อมสรรพแล้ว ไม่ต้องมากินอาหารเหลือๆจากสองร้อยปีก่อนหรอก เขาวางกล่องเปล่าไว้ในเครื่อง ก่อนจะดื่มน้ำจากกระติกของเขา

“ทำไงต่อดีวะเนี่ย” เขาพูดกับตัวเองด้วยเสียงกระซิบที่แผ่วเบา พลางเก็บกระติกน้ำ มองหาอาหารในเครื่อง แต่มันไม่มีอะไรเหลือเลย เขาส่องไฟไปรอบๆห้องโถงขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับรอรถไฟ บรรยากาศภายในโลกใต้ดินแห่งนี้ดูอึมครึมอย่างมาก ตะใคร่น้ำและราสีดำเกาะอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นพื้น เสา หรือแม้แต่ม้านั่งต่างๆ เขาเดินไปยังชานชาลา สองไฟไปยังผนังฝั่งตรงข้ามเพื่อหาป้ายบอกทาง แต่ก็ไม่มีสิ่งใดนอกจากผนังเปล่าๆ เขาถอนหายใจ กระโดดลงไปยังทางรถไฟ เขามองดูทางสองข้าง หากเขาเลือกถูกต้อง เขาจะสามารถออกจากที่นี่ได้โดยการเดินเพียงแค่ 11กิโลเมตร แต่ถ้าหากเขาเลือกผิด เขาต้องเดินไกลว่า40กิโลเมตร เพื่อไปยังชานชาลาถัดไป “โบราณว่า ขวาร้าย ซ้ายดี” เขากระซิบกับตัวเอง “งั้นไปทางขวาแล้วกัน” เขาหันขวาและออกเดิน เขาผ่านขบวนรถไฟที่ถูกจอดทิ้งไว้ ผ่านที่พักอันรกร้างของกลุ่มโจร ผ่านพื้นที่ทิ้งสารเคมีใต้ดิน เกือบชั่วโมงที่เขาเดินด้วย ความอ่อนล้า เขาทิ้งตัวลงนั่งที่จุดหนึ่งในเส้นทางรถไฟอันยาวไกล และเขาเพิ่งจะรู้ตัวว่า เขามาผิดทาง เขาปิดไฟฉายเพื่อประหยัดพลังงานและโยนแท่งเรืองแสงไปรอบๆตัว เขาเหนื่อย และหิว น้ำของเขาเพิ่งจะหมดไปเมื่อไม่นานนี้ และเขาไม่สามารถเดินไปไหนได้ไกลเกินกว่าหนึ่งกิโลเมตรเป็นแน่แท้ เขาซบใบหน้าลงบนแขน พยายามข่มตาหลับ หวังว่าเมื่อตื่นมา คงจะมีใครมาพบเขา และพาเขาออกไปจากที่นี่ แต่มันคงไม่มีทางเป็นไปได้

“จบแล้วสินะ” เขาพูด และเริ่มคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา ช่วงเวลานับแค่เขายังเยาว์ เมื่อครั้งสมัคเข้าเรียนวิชาทหาร ค้นพบจุดเด่นของตนเอง ถูกแต่งตั้งเป็นครูฝึก ก่อนที่จะเข้าประจำการ ความทรงจำทุกอย่าง มันค่อยๆไหลเข้ามาในห้วงความคิดของเขา เขาเริ่มตั้งคำถามว่า ‘ถ้าหากทำอย่างนั้น จะดีกว่าไหม’ เขาเริ่มคิดถึงสิ่งที่เข้าทำผิด ที่เขาต้องการแก้ไข ความเงียบรอบข้างถูกทำลายลงด้วยเสียงร้องของบางสิ่ง เสียง ‘จี๊ด’ ดังขึ้นเบาๆ เสียงนั้นดึงเอาความสนใจของไอราวัณโดยทันที เขาชักปืน เล็ง แล้วเหนี่ยวไก กระสุนปืนพกทะลุหนูตัวหนึ่งไปอย่างแม่นยำ เขาลดปืนลงและมองดูหนู มันดูเหมือนจะเป็นหนูธรรมดา แต่มันไม่หางและมีจมูกปากคล้ายนกแก้ว มันคือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ‘หมูหลุม’นั่นเอง ไอราวัณยิ้มออกมาด้วยความดีใจ หัวใจโลดแล่นเหมือนถูกเติมพลังจนล้น “ถูกทางแล้วสินะ” เขาลุกขึ้นและเริ่มก้าวเดินอีกครั้ง เหล่าหนูหลุมมักจะอยู่ในที่มืดก็จริง แต่ว่ามักจะไม่ห่างจากทางขึ้นสู่ผิวดินเกินกว่าครึ่งกิโลเมตร เขาเดินไปโดยลืมคิดไปว่าหนูหลุมมักจะไม่อยู่ตัวเดียว อีกทั้งหนูหลุมตัวเล็กขนานนี้ มักจะมีแม่อยู่ใกล้ๆเสมอ

เขาเดินไปจนไม่รู้ตัวเลยว่า มีหนูหลุมกำลังวิ่งอยู่ในทางระบายน้ำใต้เท้าเขา แล้วเขาก็ต้องหยุด เสียงฝีเท้าของหนูหลุมจำนวนมากดังขึ้นจากด้านหลังของเขา เขาหันกลับ และเล็งปืนไป พลางเดินถอยไปอย่างช้าๆ หนูหลุมตัวประมาณเท่าลูกหมูโผล่ออกมาจากความมืดมิด เขาไม่รอช้า เหนี่ยวไกลั่นกระสุนใส่หนูตัวนั้นโดยทันที หนูอีกหลายตัวเริ่มโผล่ออกมา แต่ทุกตัวก็ถูกเขาจัดการโดยไม่ยากเย็น เสียงฝีเท่าดังขึ้นมาจากทางที่ไปสู้ทางออกเขาหันกลับ หนูหลุมขนาดตัวพอๆกับหมูป่าสอง-สามโหล กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา พร้อมกับหนูหลุมตัวใหญ่เท่าลูกช้างซึ่งนั้นก็คือแม่ของหนูหลุมเหล่านี้นั่นเอง

“งานงอก” เขาพูดและเริ่มวิ่งหนีหนูกลุ่มเหล่านั้น เขาวิ่งพลางหันกลับไปยิง เขายิงจนกระสุนหมด บรรจุกระสุนชุดใหม่ และยิงต่อ เขาทำอยู่แบบนั้นซ้ำๆ จนเขาสะดุดก้อนคอนกรีตล้มลง เขากลิ้งไปตามพื้น เมื่อตั้งหลักได้ เขาเหนี่ยวไกใส่หนูหลุมอย่างแม่นยำ เขาเหนี่ยวไกใส่ลูกหนูตัวสุดท้าย กระสุนออกจากลำกล้อง และสไลด์ถอยหลังเพื่อคัดปลอกกระสุนออก แต่มันไม่กลับเข้าที่เดิม นั่นหมายความว่ากระสุนของเขาได้หมดลงแล้ว เขาเก็บปืนเข้าซองละชักมีดยาวเจ็ดนิ้วออกมา ตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะพันตูกับแม่ของหนูหลุม ทั้งๆที่ในใจเขารู้ดีว่า เขาไม่มีพลังเหลือที่จะจัดการกับมันเลย

“หลบ” เสียงที่คุ้นหูดังมาจางข้างหลัง ไอราวัณกระโดดหลบตามคำสั่ง ก่อนที่กระสุนนัดหนึ่งจะพุ่งตรงเข้าปะทะหัวของหนูหลุมตัวใหญ่ เขาหันไปมองผู้ช่วยชีวิต และยิ้มที่มุมปาก “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” เขาพูด

เรวานอฟเดินเข้าไปยังศูนย์บัญชาการ ทหารเดินกันขวักไขว่ เขาถอนเสื้อคลุม แขวนไว้ในจุดฝากเสื้อของนายทหาร ถอดหมวก และเดินเข้าไปในห้องของอโลนโดยไม่เคาะประตู

“รู้ไหมถ้านายเป็นคนอื่น ฉันเตะนายแล้ว” อโลนพูด

“มีอะไร” เรวานอฟถามห้วนๆ และนั่งลงที่เก้าอี้บุนวม

“ภารกิจ” อโลนตอบและผลักซองเอกสารข้ามโต๊ะมากให้เรวานอฟ “เขาจะส่งมาอีกหนึ่งกองร้อย เป็นกองร้อยปืนเล็ก”

“แล้ว” เขาถามในระหว่างแกะซองเอกสาร

“เขาต้องการฐานปฏิบัติการใหม่” อโลนตอบ “เขาออกคำสั่งให้ยึดห้างสรรพสินค้า”

“อื่ม ความคิดดี” เรวานอฟพูดไปหัวเราะไป “ได้ฐานยิงใหม่ แล้วก็ได้กำจัดกูลออกจากพื้นที่”

“คำสั่งโจมตีแบบเต็มสเกล รอฟ” อโลนพูด “เรื่องที่สอง หมู่ของนายถูกยกระดับจากกำลังสำรองเป็นหมู่จู่โจมพิเศษ” เขายื่นเอกสารแผนหนึ่งให้เรวานอฟ “หาคนมาแทนลูกทีมที่ไม่พร้อมทำงานซะ ฉันอยากให้นายพร้อมก่อนการโจมตีในสัปดาห์หน้า”

“รับทราบ” เรวานอฟตอบและลุกขึ้น “ฉันขอเอกสารข้อมูลทหารในกองพันด้วยแล้วกัน ฉันจะได้เลือกถูก”

“แกอยากได้อะไรก็ไปเอาเองสิโว้ย” อโลนตอบน้ำเสียงทีจริงทีเล่น “เดี๋ยว” อโลนพูดในขณะที่เรวานอฟกำลังออกจากห้อง “กองร้อยที่มาใหม่ เดนิสเป็นผู้บังคับกองร้อย” เรวานอฟยิ้มออกมาทันทีหลังจากได้ยินชื่อของสหายรวมรบ ที่เคยผ่านสมรภูมิมาด้วยกันมากมาย

“ผู้พันครับ” ทหารคนหนึ่งร้องพร้อมเปิดประตูเข้ามาในห้องด้วยทาที่ร้อนรน ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเป็นเม็ดๆ เขาทำความเคารพสองนายทหารทันทีที่ตั้งหลักได้ “ทหารกองร้อยเฉพาะกิจหมวด5 หมู่เอคโค่ที่สูญหายขณะปฏิบัติหน้าที่ถูกพากลับมาแล้วครับ” อโลนลุกขึ้น หยิบเสื้อคลุมและหมวกมาสวม

“เขาอยู่ไหน”

“โรงพยาบาลครับท่าน”

“พลทหาร”เรวานอฟเรียก “ใครเป็นคนพาหมอนั่นกลับมา”

“เป็นพลเรือนครับ รู้สึกเหมือนว่าจะเป็นนายพราน”

“สงสัยจะเป็นพรานตั้ม หมอนี่ยิงปืนแม่นยังกับลูกปืนมันนำวิถีเลยล่ะ”อโลนพูด “ฉันจะไปโรงพยาบาล แกจะไปไหมจ่า”

“ไม่ล่ะ” เรวานอฟพูดและโบกมือลา “ฉันจะไปหาพลแม่นปืนให้แก”

“พยายามเข้าแล้วกัน”





ธวัชชัยเดินไปตามทางเดินระหว่างร้านค้าแผงลอยในตลาดของศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เขาสะพายกระเปาที่เต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆบนหลัง สะพายปืนเล็กยาวไว้ที่ไหล่ สายตามองไปตามแผงลอยเพื่อหากระสุนหรือสิ่งของจำเป็น เขาเดินตลาดจนครบสามรอบ แต่ก็ไม่พบสิ่งที่เขาต้องการนอกจากกระสุนปืนเล็กยาวของเขาที่ได้มาเพียงนัดเดียว เขาละความพยายามที่จะหากระสุนและเดินเข้าไปนั่งในร้านกาแฟร้านหนึ่ง เคาท์เตอร์ที่ทำจากไม้อยู่ตรงข้ามกับทางเข้า โต๊ะไม้กลมและเก้าอี้ กระจายไปตามจุดต่างๆของร้าน สายไฟที่โยงมาจากแบ็ตเตอรี่ระโยงระยางไปตามเพดาน และต่อเข้ากับหลอดไฟตามจุดต่างๆ ซึ่งกำลังส่องแสงให้ร้านดูสว่างขึ้น เวทีไม้ซึ่งสูงจากพื้นไม่มากอยู่ที่ฝั่งหนึ่งของร้าน นักดนตรีดนตรีสองคนกำลังเกากีตาร์และร้องเพลงขับกล่อมลูกค้าในร้านให้เคลิ้มไปตาท่วงทำนอง ธวัชชัยเดินไปนั่งเก้าอี้ที่เคาท์เตอร์

“รับอะไรดีค่ะ” พนักงานสาวพูด

“กาแฟ เข้มๆ” เขาตอบเสียงเรียบๆ

“ขอดูสิ่งที่จะนำมาแลกก่อนด้วยค่ะ” เธอพูดและยิ้ม มือของเธอเคลื่อนไปยังปืนพกที่อยู่ในซองปืน “ปลอดถัยไว้ก่อนค่ะ”

“ครับ” เขาตอบและวางกระเป๋าบนเคาท์เตอร์ ธวัชชัยล้วงเอาถุงมือหนังสีดำ ที่ไร้รอยตำหนิออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้บาร์เทนเดอร์สาวสวยพิจารณา “พอจะแลกอะไรได้บ้างครับ”

“คุณอยากได้อะไรบ้างล่ะคะ ฉันจะได้แจ้งปริมาณที่คุณจะแลกได้”

“กาแฟ 1แก้ว น้ำ อาหาร ที่อยู่”

“กาแฟ 1แก้ว น้ำเต็มกระติกของคุณ อาหารได้เนื้อย่างและขนมปัง และห้องพักชั้นสองค่ะ”

“ตกลงครับ”

“ขอกระติกน้ำด้วยค่ะ” เธอพูด และยื่นมือมารับกระติกน้ำจากธวัชชัย “เดี๋ยวฉันจันจะจัดการเรื่องกาแฟกับอาหารให้นะคะ โปรดรอสักครู่

“ครับ” เขาตอบพร้อมส่งกระติกน้ำให้เธอ “คุณพอจะรู้ที่หาซื้อบุหรี่ไหมครับ”

“ร้านขายบุหรี่ ที่อีกฝั่งหนึ่งของตลาดค่ะ” เธอพูดและส่งกระติกให้บาร์เทนเดอร์อีกคน ก่อนจะลงมือชงกาแฟ

“ไม่มีที่ผมต้องการครับ”

“งั้นก็ร้านเสบียง ไปตามถนนนี่ล่ะค่ะ”

“ไม่มีเหมือนกันครับ”

“แล้วคุณต้องการแบบไหน ค่ะ เผื่อฉันจะรู้จักคนที่มี” ธวัชชัยล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ และหยิบเอาซองบุหรี่ที่ว่างเปล่า ยื่นให้เธอดู “มาร์ล โบโร่ แบล๊คเมลทอล” เธอพูดหลังจากมองดูซอง “มีคนเดียวในศูนย์นี้ที่มีมันค่ะ”

“เขาเป็นใครครับ แล้วผมจะหาเขาเจอได้ที่ไหน”

บาร์เทนเดอร์สาวกำลังจะตอบแต่เสียงที่ทุ้มห้าวก็ดังมาจากข้างหลังของธวัชชัย “ไม่จำเป็นต้องตามหา เพราะคนๆนั้นจะตามหานายเอง” เรวานอฟเดินเข้ามา และนั่งลงข้างๆ ธวัชชัย “ผมมีสิ่งที่คุณตามหา ทั้งสองอย่าง” เรวานอฟพูดในขณะที่บาร์เทนเดอร์กำลังเสิร์ฟกาแฟให้ตั้ม

“รับอะไรดีค่ะจ่า”

“วอดก้า กับน้ำแข็ง 2ก้อน” เขาตอบ ก่อนจะหยิบเอาซองบุหรี่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ

“ต้องการอะไรแลกเปลี่ยน”

“ฝีมือการยิงปืนของนาย ระยะเวลาหนึ่งเดือน”

“ผมไม่ถนัดงานที่ต้องอยู่ใต้กฎระเบียบ” ธวัชชัยพูดและจิบกาแฟ

“ฉันไม่ได้ให้นายมาอยู่ใต้กฎอะไรนั่นหรอก” เรวานอฟพูด และออกแรงเลือนซองบุหรี่ไปให้ธวัชชัยพิจารณา “นายแค่ยิงสิ่งที่ฉันบอกให้นายยิง” ธวัชชัยหยิบซองบุหรี่ขึ้นมามองดู “หนึ่งซองทันทีที่รับงาน และอีกหนึ่งซอง ทันที่ที่หมดสัญญา”

“แล้วเรื่องกระสุนล่ะ”

“100นัด” เรวานอฟตอบพร้อมยกวอดก้าขึ้นจิบ “ไม่นับกระสุนที่นายใช้ระหว่างงาน”

“นานแค่ไหน”

“หนึ่งเดือนเป็นอย่างช้า หรือจนกว่าพลแม่นปืนของฉันจะพร้อมทำงาน”

“แต่ไม่เกินหนึ่งเดือน” ธวัชชัยถามเพื่อความมั่นใจ

“ไม่เกินหนึ่งเดือน”

“ตกลง” ธวัชชัยตอบพร้อมเก็บบุหรี่ใส่กระเป๋า

“เกด” เรวานอฟเรียกบาร์เทนเดอร์ “เปิดห้องพัก แล้วก็บริการน้ำและอาหารให้ชายคนนี้ ตอลดเวลาหนึ่งเดือน ค่าใช้จ่ายส่งบิลไปให้ พันโทอโลน อลองเกอร์ ใส่ชื่อฉันเป็นคนรับบริการ”

“ได้เลยค่ะจ่า” บาร์เทนเดอร์สาวรับ “วอดก้านี่ด้วยไหมคะ”

“วอดก้าด้วย” เรวานอฟยกวอดก้าขึ้นดืมจนหมด “คุณนายพราน หากผมต้องการคุณ ผมจะแจ้งให้ทราบ แต่ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนนับจากนี้ ผมอยากให้คุณอยู่ในศูนย์ อย่าออกไปไหน”

“ประโยคขอร้อง” ธวัชชัยถาม

“แต่มันเป็นคำสั่ง” เรวานอฟพูดทิ้งท้ายก่อนออกจากร้าน





ล้อของเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่แตะลงบนพื้นทางวิ่งของสนามบิน เสียงของเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขนาดที่หมู่เอคโคทุกคนซึ่งอยู่อีกฝั่งของลานบินถึงกับต้องอุดหู มีเพียงแค่อโลนและเรวานอฟยืนนิ่งไม่ไหวดิงเหมือนดั่งว่ารอบตัวนั้นไม่มีเสียงรบกวนใดๆ เครื่องบนโดยสารขนาดใหญ่หยุดลง สองนายทหารถอดที่อุดหูออก และเดินไปยังเครื่องบินโดยมีหมู่เอคโคตามไปติดๆ หัวเครื่องค่อยๆเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ทหารร่วมร้อยคนยืนเรียงแถวอยู่ภายในห้องสินค้า พวกเขาพร้อมด้วยชุดเครื่องหลัง อาวุธประจำกาย และอุปกรณ์สนามอื่นๆ ถัดเข้าไปภายในเป็นที่อยู่ของรถบรรทุกสองคันซึ่งบนท้ายรถถูกเติมเต็มไปด้วยเต็นท์ อาหาร กระสุนปืน และเครื่องใช้อื่นๆของกองร้อยนี้ กล่องสินเค้ามากมายถูกจัดอย่างเป็นระเบียบรอบๆรถ เหล่าทหารของกองร้อยที่25 ทำความเคารพอโลนและเรวานอฟ ก่อนจะเดินลงจากเครื่องบิน พวกเขาเดินไปตามลานบินเพื่อไปยังจุดตั้งค่ายชั่วคราว โดยมีหมู่เอคโคคอยนำทาง และบรรยายสรุบภารกิจประจำวันของกองร้อยในขณะที่อยู่ในศูนย์

“ไม่ได้เจอกันนาน” อโลนพูดในขณะที่นายทหารร่างสูงใหญ่กำลังเดินลงจากเครื่อง เขาสัมผัสมือกันอโลน ตามด้วยเรวานอฟ “ย้ายมาอยู่กับกองร้อยปืนเล็กแล้วเป็นไงบ้าง”

“ได้อาบน้ำบ่อยกว่าเดิมครับท่าน” เฟรดโดรอฟพูดติดตลก “รู้อย่างนี้สมัครมาอยู่ทหารราบตั้งแต่แรกแล้ว” อโลนและเรวานอฟขำออกมาเบาๆ

“ผมจะให้จ่าเรวานอฟพาชมพื้นที่แถวนี้ก่อนแล้วกัน มันจะเป็นที่พักของพวกคุณไปสักพัก” อโลนพูด และเดินขึ้นไปบนเครื่อง “ส่วนผมขอตัว จัดการกับของพวกนี้ก่อนแล้วกัน” รถบรรทุกสองคันลงจากเครื่อง และขับตามทหารของกองร้อยที่ 25ไป

“เป็นไง อยู่ดีกินดีรึเปล่า”เฟรดโดรอฟถามสหายเก่าในขณะที่ทั้งคู่เดินไปตามลานบิน

“ดีสิ ที่นี่มีทุกอย่าง อาหารสด สาวสวย แล้วก็มีอะไรให้ยิงเยอะแยะ” เรวานอฟตอบ “แล้วนายล่ะ ที่อเมริกาเลวร้ายแค่ไหน”

“นายไม่อยากรู้หรอก”

“ฉันอยาก” เฟรดโดรอฟเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่อง

“มีระเบิดนิวเคลียร์อยู่แทบทุกที่ สัตว์กลายพันธุ์อยู่แทบทุกมุม น่ากลัวที่สุดคือมนุษย์กลายพันธุ์” เขาเล่า “มีตัวหนึ่งสูงเท่าตึกสองชั้นเลยล่ะ มันทำลายรถถังที-72ไปคันหนึ่งกับทหารอีกโหล ก่อนที่พวกเราจะจัดการมันได้ กองพันที่5ที่อยู่หน้าเรา เสียทหารไปเป็นกองร้อยเลยล่ะ โชคดีที่พวกเราอยู่แนวหลัง ก็มีแค่พวกกูลมาเคาะประตูบ้านบ้าง”

“ก็ถือว่าโชคดี”

“วันหนึ่ง เราได้รับคำสั่งให้ออกลาดตระเวน” ทั้งสองเดินมาถึงหอบังคับการบิน และเข้าไปภายใน “ห่างไปจากฐานแค่ห้ากิโลเมตร เราถูกโจรซุ่มโจมตี เสียทหารไปอีกแปดนาย” พวกเขาเดินขึ้นไปตามบันไดวน “สองคืนต่อมาแนวของกองพันที่5แตก มนุษย์กลายพันธุ์บุกเข้ามาถึงแนวรบของกองร้อยเรา เราเสียไปเกือบทั้งกองร้อยเลย โชคดีที่มีหมวดรถถังหลงทางมาช่วยเราไว้” เฟรดโดรอฟพูดและขำออกมาเบาๆ

“แต่นายก็ยังรอด”

“ถูกต้อง”

นายทหารทุกคนที่ไม่ได้ไปประจำการนอกศูนย์มารวมตัวกันที่ห้องวางแผนเพื่อฟังบรรยายสรุปจากพันโทอโลน พวกเขานั่งกระจัดกระจากตามเก้าอี้ แผนที่4ตารางกิโลเมตรรอบๆห้างสรรพสินค้า “ทุกคนมาพร้อมแล้วครับผม” เรวานอฟพูดและเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง

“สุภาพบุรุษ” อโลนพูดขึ้นและเดินขึ้นไปบนเวทีเตี้ยๆ “ขอต้อนรับสู่ปฏิบัติการ ‘โยนของลงรถแล้วเดินไปคิดเงิน’” เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆภายในห้อง ทุกครั้งที่มีปฏิบัติการใดๆส่งมาจากเบื้องบน อโลนมักจะเปลี่ยนชื่อไปเป็นชื่อใหม่ในแนวทางประชดประชัน “นี่คือเป้าหมายของเรา ห้างสรรพสินค้าขนาดกลาง” เขาชี้จุดบนแผนที่ “กองร้อยที่ 25 จะรับหน้าที่โจมตี หมู่เอคโค่จะสนับสนุนการซุ่มยิงและปืนครก” เขาเลื่อนมือลงมาทางใต้ “ปีกหมุนรายงานว่าพบกูลหลายร้อยตัวอยู่ทางใต้ ห่างไปห้ากิโลเมตร กองร้อยที่ 1 หมวดที่2 3 และกองร้อยที่ 25 หมวด 3 ตั้งแนวป้องกันบริเวณนี้ ไม่ให้พวกมันเข้ามาเสริมกำลังได้ คุณจะมีทหารม้ายานเกราะหมวดที่3 ของผู้หมวดหนึ่งฤทัยคอยสนับสนุน” แล้วชายหนุ่มรูปร่างผอมก็ยกมือขึ้นข้างหนึ่งสูงเหนือหัว

“อันที่จริงผมยังไม่ได้เปิดโอกาสให้คุณถามนะผู้หมวด” อโลนพูด และมองหน้าเขาด้วยสายตาเรียบเฉยเหมือนไม่มีเยื่อใย

“ท่านครับ ถ้าหากว่าพวกกูลจากทางใต้ไม่บุกขึ้นมา หมวดของผมจะพลาดการรบนี้นะครับท่าน”

“มันจะบุกขึ้นมาหรือไม่ นั่นไม่ใช่ประเด็น” อโลนตอบ “ประเด็นคือ”เขาตะคอกและทุบลงบนแผนที่ “คุณต้องอยู่ในตำแหน่ง ทำตามแผน ไม่ว่าไอ้พวกลูกกรอกนั่นจะบุกขึ้นมารึเปล่า เข้าใจไหม”

“แต่ว่า” หมวดหนึ่งพยายามจะพูด แต่ก็ไม่วายถูกอโลนตัดบท

“มันจะมีแต่[เซนเซอร์] อะไรกันนักหนาวะ คุณจำเรื่องที่เกิดทางใต้ไม่ได้รึไงผู้หมวด เรื่องที่ทำให้คุณถูกย้ายมาที่นี่ ถ้าคุณยังอยากรบล่ะก็ ผมจะส่งคุณไปที่อเมริกา พอใจไหม” หนึ่งพยายามจะเปล่งเสียงออกมา “หุบปาก” อโลนตะคอก “ใครมีคำถามไหม”

“ไม่ครับ” ทุกคนยกเว้นหนึ่งตอบเป็นเสียงเดียว

“แยกย้ายได้” อโลนพูดและเดินออกจากห้อง ตามด้วยนายทหารคนอื่นๆ เรวานอฟเดินเร่งความเร็วหวังตามอโลนให้ทัน “มีอะไรจ่า” อโลนถามและหยุดเดิน

“จะเป็นอย่างไรถ้างานนี้ไม่สำเร็จ” เรวานอฟถามขึ้นมา ก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปด้วยกัน “โอกาสที่ใครบางคนจะทำผิดแผนมีสูงมากเลยนะ” ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องของอโลน

“ทำไงได้ล่ะ”อโลนพูด “เรามีอะไรก็ต้องใช้เท่าที่มี” เขานั่งลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน “นั่งสิ” เรวานอฟนั่งลงตรงข้ามเขาและกำลังจะพูดบางอย่าง แต่อโลนก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน “ฉันก็ไม่ชอบใจเหมือนนายนั่นแหละ แต่เวลานี้หมอยนั่นเป็นนายทหารคนเดียวที่เหลืออยู่”

“รับทราบ”

“ไปทำงานของนายเถอะ” อโลนพูด “ปล่อยให้ฉันคิดแผนสำรองเอง” เรวานอฟพยักหน้าและลุกขึ้นจากเก้าอี้



เป็นเอกลงจากรถหุ้มเกราะเบาพร้อมอาวุธประจำกายและกล้องส่องทางไกล เสียงปืนและเสียงระเบิดนานาชนิดดังระงม ลูกทีมเอคโคพร้อมอุปกรณ์ครบมือต่างพากันวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าตึก ทหารหมู่1และ2 ของกองร้อยที่25 เข้าประจำอยู่ที่เนินดินตรงกลางถนน พร้อมทำการบุกเข้าไปยังห้ามสรรพสินค้า กระสุนของกูลเข้าปะทะกับแนวเนินดินอย่างดุดัน แต่ก็ไม่มีกระสุนนัดไหนเลยที่สามารถทะลุผ่านเดินดินนั้นได พลปืนกลหนักของกองร้อยที่25ยิงกดหัวเหล่ากูล เพื่อตรึงให้พวกมันอยู่กับที่ เป็นเอกและทีมแม่นปืนแยกกับคนอื่นๆบริเวณทางขึ้นดาดฟ้า เป็นเอกวางปืนประจำกาย ตั้งกล้องอย่างรวดเร็วในขณะที่รีเซีย และธวัชชัยหมอบลงขนาบข้างเขา กระสุนปืนจากฝั่งของกูลแฉลบเนินดินเข้ามาปะทะกับตัวตึกเป็นระยะ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ใครในชุดแม่นปืนตื่นกลัวได้เลย ทั้งสามยังคงจัดการกับอุปกรณ์ของตนเองเหมือนพวกเขาอยู่ในห้องที่เงียบสงบ เป็นเอกตั้งกล้องจนเสร็จและนอนทอดกายลง “เอคโคแอทชวล ทีมแม่นปืนกระจำทตำแหน่ง พร้อมปฏิบัติงานเปลี่ยน”

“เอคโควันเอส นี่เอคโคแอทชวล เริ่มปฏิบัติการได้ เลิกการติดต่อ”

“ลุยงานกันได้แล้วจ่า” รีเซียพูดและประทับปืน

“ครับผม” เป็นเอกมองดูห้างสรรพสินค้าผ่านกล้องของเขา เขากวาดกล้องไปมาเพื่อมองหากูลอาวุธหนัก เขามองหาอย่างรอบคอบ และในที่สุดเข้าก็พบ บังเกอร์พร้อมปืนกลหนักไม่ทราบขนาดอยู่ที่มุมหนึ่งของลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้า กูลสองสามตัวกำลังขนกระสุนไปยังบังเกอร์ “พลปืน-1” เป็นเอกพูด “เป้าหมายพลกระสุน หมวกสีแดง 11นาฬิกา” รีเซียหันปากกระบอกปืนไปตามการชี้เป้าของเป็นเอก และก็เหนี่ยวไก แม้ว่ากูลตัวนั้นจะเคลื่อนที่ค่อนข้าวเร็ว แต่ด้วยระยะใกล้ขนาดนี้ ทำให้การคำนวณความเร็วของกูลและกระสุนไม่ยากนัก กระสุนพุ่งทะลวงเข้าไปยังจุดรวมมวลของกูล ร่างของกูลปลิวตามกระสุนก่อนจะล้มลงไปดิ้นอย่างทุรนทุรายที่พื้น “พลปืน-2 จับตาดูพลปืนกลในบังเกอร์ ตำแหน่ง 11นาฬิกา”

“ผมมีวิธีที่ดีกว่า” ธวัชชัยพูดและบรรจุกระสุนเจาะเกราะเพลิงเข้าไปในปืน เขาเล็ง และเหนี่ยวไก กระสุนทะยานและสัมผัสกับปืนกลหนัก เปลือกนอกของกระสุนถูกะเทาะออกประกายไฟจากฟอสฟอรัสภายในสว่างขึ้นและละลายโครงด้านนอกของปืน แกนโลหะหนักถูกส่งผ่านรูที่ถูกความร้อนเจาะ และเข้าไปทำลายโครงสร้างภายในของปืน “เรียบร้อย” รีเซียและเป็นเอกพร้อมใจมองหน้าธวัชชัยเป็นตาเดียว

“เอาเถอะ ยังไงเราก็มีเรื่องที่จะต้องกังวลน้อยลงไปอีกเรื่องหนึ่งล่ะ”รีเซียพูดและกลับไปทาบกล้องช่วงเล็ง เธอสอดส่ายสายตาของเธอไปตามลานหน้าห้างสรรพสินค้า ตามประตู หน้าต่าง ก่อนจะขึ้นไปบนหลังคา และเธอก็พบบางสิ่ง กูลสามตัวพร้อมวัตถุทรงกระบอกยาวประมาณหนึ่งเมตร รีเซียรู้โดยทันที่ว่านั่นคือเครื่องยิงจรวด ‘เอเอ็กซ์-21’ “เครื่องยิงจรวดสาม หลังคา” เธอพูด “ขอคำสั่งยิง”

เป็นเอกกดปุ่มบนวิทยุ “เอกโคแอทชวล เอคโควันเอสตรวจพบเครื่องยิงลูกระเบิดสาม หลังคา โปรดแนะนำ เปลี่ยน”

“เอคโควันเอส โปรดรอ กำลังส่งผ่านให้ปืนครก” ไม่กี่วินาทีต่อมา ห่ากระสุนปืนครกจากทีมเอคโคก็ร่อนเข้าสู่ตำแหน่งของพลเครื่องยิงลูกระเบิด สะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายเข้าฉีกร่างของกูลแต่ละตัว “แม่นเหมือนจับวาง” รีเซียพูด

“เอคโควันเอส นี่เอคโคแอทชวล โปรดทราบ ขอให้ทำการย้ายจากตำแหน่งปัจจุบันไปยังพืนที่ชั้นหกของตึกปัจจุบัน และเปลี่ยนหน้าที่เป็นเฝ้ามอง” [Overwatch คือการที่หน่วยทหารหน่วยหนึ่งเข้าสู่ตำแหน่งที่สามารถสนับสนุน หรือสอดแนมพื้นที่ให้กับหน่วยอื่นได้ รวมถึงการยิงสนับสนุนให้หน่วยอื่นๆ]

“รับทราบเอคโคแอทชวล เรากำลังไป” เป็นเอกตอบ และเก็บอุปกรณ์

“ตึกนี้มันมีสี่ชั้นไม่ใช่รึไง” รีเซียพูด และพับขาทราย ทั้งสามก้มตัวต่ำไปตามแนวระเบียงที่กำแพงระเบียงผุพังไปตามกาลเวลา เสียงปืนยังดังระงมระคนกับเสียงระเบิดของกระสุนปืนครกและเสียงร้องตะโกนสั่งการของนายทหาร ทั้งสามขึ้นไปบนดาดฟ้าและตรงเข้าไปหาเชคอฟโดยทันที

“ชั้นหกอยู่ที่ไหน”รีเซียถามเชคอฟ ซึ่งเชคอฟก็ตอบเธอโดยการชี้ไปยังแทงค์น้ำโลหะขึ้นสนิมที่มุมหนึ่งของดาดฟ้า “ล้อเล่นรึไงวะ” เธอพูดออกมาและวิ่งตรงไปยังแทงค์น้ำ

“ธวัชชัย” เป็นเอกพูดขณะที่วิ่งตามรีเซีย “ไปหาที่เหมาะๆ แล้วก็ยิงตามสบาย” รีเซียปีนบันใดขึ้นไปยังฝาถังน้ำอย่างรวดเร็ว เธอหมอบและล้วงเอากล้องส่องทางไกลออกมา และส่องไปยังห้างสรรพสินค้าซึ่งเวลานี้กำลังถูกโจมตีอย่างหนัก เป็นเอกหมอบลงข้างๆเธอและเริมติดตั้งกล้อง

“วันนี้เป็นวันของเรา” รีเซียพูดและมองดูเหล่ากูลที่กำลังล้มตายจากคมกระสุน เลือดนองไปทั่วลานจอดรถของห้าง ศพหลายสิบนอนตายเกลื่อนกลาดอย่างน่าเวทนา รีเซียกวาดสายตาจากห้างสรรพสินค้าไปยังแนวป้องกัน ที่อยู่ถัดจากห้าง ทหารของศูนย์อยู่หลังแนวกำบังและแทบไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวนอกจากป้อมปืนของยานยนต์หุ้มเกราะ เสียงสั่งการของชุดบัญชาการดังขึ้นเป็นระยะจากวิทยุ ทหารของกองร้อยที่25ค่อยๆคืบคลานตามแนวกำบังเข้าใกล้ห้างสรรพสินค้า “อีกไม่นานเป้าหมายคงจะถูกยึดแน่นอน” รีเซียพูดและส่องกล้องออกไปยังทุ่งกว้างถัดจากแนวป้องกัน ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ “กูลทางใต้ก็ยังไม่ขยับ”

“นี่เอคโควันเอส ถึงเอคโคแอทชวล โปรดทราบ พบการเคลื่อนไหว ทิศตะวันตก ไม่สามารถระบุฝ่ายได้” เป็นเอกพูดใส่วิทยุโดยที่ไม่ละสายตาจากกล้องของเขา “ยานพาหนะ รถกระบะสี่คัน รถบรรทุกขนาดใหญ่สามคัน เปลี่ยน” เสียงของเครื่องบืนปีกหมุนดังขึ้น และเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ

“ทราบแล้วเปลี่ยน โปรดรอ” เสียงของเรวานอฟตอบกลับมาจากวิทยุ “เอคโควันเอส ผึ้งหลวงกำลังมุ่งหน้าไปหาคุณ รหัสเรียกขาน ลิตเติลบี1-1และลิตเติลบี 1-2 กำลังส่งการสื่อสารผ่านอุปกรณ์ของคุณ”

“นี่ฝูงผึ้งเรียกเอกโควันเอส ทราบแล้วเปลี่ยน”

“นี่เอคโควันเอส เรากำลังคิดถึงเหล็กในของพวกคุณอยู่เลยเปลี่ยน”

“ได้ยินแล้ว เอคโควันเอส เรามาพร้อมเหล็กในเต็มลำ และต้องการที่จะเตะก้นพวกผีเน่า ขอพิกัดของพัสดุให้เราด้วยเปลี่ยน”

“พิกัด 1-2-6-แอลฟ่า เป้าหมายเคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่ของเราด้วยความเร็วสูง เปลี่ยน”

“ทราบแล้ว ไม่ต้องกังวล ผึ้งหลวงมาถึงแล้ว” เครื่องปีกหมุน เอ็มไอแอล เอ็มไอ-24สองลำบินผ่านตึกที่ทีมเอคโคประจำการและตรงไปยังพิกัดที่เป็นเอกส่งให้พวกเขา เครื่องปีกหมุนทั้งสองบินเลยจากจุดที่ขบวนของกูลกำลังเคลื่อนที่ หันเครื่องกลับ ตั้งจมูกเครื่องเป็นแนวเดียวกับขบวนรถ เสียงปืนกลหลายลำกล้องและปืนใหญ่อากาศขนาด 30 ม.ม. คำรามก้อง ตามด้วยเสียงของจรวดที่เข้าปะทะกับพื้นดินเบื้องล่าง การโจมตีใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที พื้นที่ที่อยู่เส้นทางของการยิงกลายเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ดินชั้นล่างถูกระเบิดขึ้นมาอยู่บนผิวดิน “เป้าหมายถูกทำลายแล้ว กำลังบินวนเฝ้ามอง เปลี่ยน”

“ทราบแล้ว ลิตเติลบี โปรดแจ้งเมื่อพบสิ่งผิดปกติ เลิกการติดต่อ”



อโลนยืนมองดูแผนที่บนโต๊ะขนาดใหญ่ ตัวหมากแทนหน่วยต่างๆถูกจัดวางไว้บนนั้น แผนการทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี และอีกไม่นาน ทหารของเขาคงจะบรรลุภารกิจอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่ามีใครสักคนทำผิดแผน “ผู้หมวดหนึ่งฤทัยยังคงนิ่งอยู่ครับผม” ทหารสื่อสารคนหนึ่งรายงาน ในห้องวางแผนเต็มไปด้วยทหารหลายสิบนาย ทหารเกือบหนึ่งโหลนั่งประจำวิทยุสื่อสาร คอยรายงานสถานการณ์ของหน่วยต่างๆให้อโลนได้รู้ ส่วนหนึ่งอยู่ที่โต๊ะแผนที่กลางห้อง คอยจัดตำแหน่งของหมากต่างๆให้ตรงตามความเป็นจริงเสมอ ทหารสองนายพร้อมอาวุธครบมือยืนประจำที่ประตูทางเข้าออก “ทหารหมวด1และ2 กำลังข้ามถนนครับท่าน”

“ทุกอย่างเป็นไปตามแผน” เรวานอฟพูด “แต่คงอีกไม่นาน”

“ใช่”อโลนสนับสนุน “ตอนนี้เจ้าตัวคงจะอยากลุยจนตัวสั่นแล้วมั้ง”

“ท่านครับ” เสียงทหารสือสารคนหนึ่งพูดขึ้น “ชาลีสามขออณุญาติโอบหลังข้าศึกครับ”

“ไม่” อโลนตอบห้วนๆ “ให้เขารักษาตำแหน่งไว้”

“ไม่ทันแล้วครับท่าน” ทหารสื่อสารพูด “เขาออกคำสั่งแล้วครับ”

“ให้ตายสิ!” อโลนอุทานออกมาเสียงดัง “ให้กองร้อยที่25 หมวด 1และ 2 รักษาตำแหน่งไว้ ป้องกันการยิงพวกเดียวกัน”

“ท่านครับ มีรถคันหนึ่งติดอยู่ในโคลนครับผม อีกสามคันที่เหลือกำลังโจมตี” ทหารสื่อสารรายงาน ก่อนที่อีกคนจะพูดด้วยสีหน้าแตกตื่น “ท่านคะ ฝูงผึ้งตรวจพบกูลกำลังบุกมาจากทิศใต้ค่ะ”

“ให้ฝูงผึ้งเข้าจัดการ” อโลนเดินไปยังเครื่องรับ-ส่งวิทยุ “ขอวิทยุให้ผม”เขาบอกทหารสื่อสาร อโลนสวมหูฟังและกดปุ่มพูด “นี่วอร์ลอร์ด เรียกชาลี-3 ผมต้องการให้คุณกลับมาประจำตำแหน่งเดียวนี้”

“ขอปฏิเสธครับผม เรากำลังจะจัดการพวกมันได้อยู่แล้ว พลปืน เป้าหมายสิบนาฬิกา ยิง”

“ผู้หมวด ผมขอสั่งให้คุณกลับเข้าประจำตำแหน่ง” เสียงของทหารสื่อสารคนหนึ่งร้องขึ้นขัดการสั่งการของอโลน

“รถเกราะยิงพวกเดียวกันครับท่าน” ทุกคนในห้องวางแผนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ความเงียบเข้าปกคลุมทุกอย่างนิ่งสนิด แต่ภายในใจของอโลนกลับระอุไปด้วยไฟแห่งความโกรธ

“นี่วอร์ลอร์ด เรียกชาลี-3 ผมขอถอดผู้บังคับการของคุณออกจากตำแหน่งและให้คุณถอยกลับไปประจำตำแหน่งเดียวนี้”



สถาณการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทหารหนึ่งโหลหมดสภาพจากการยิงถูกพวกเดียวกันเอง ทุกอย่างตกอยู่ในความโกลาหล ทหารกองร้อยที่25วิ่งกันขวักไขว่เพื่อยิงคุ้มกันการเคลื่อนย้ายคนเจ็บ เปลสนามหลายเปลถูกกางอย่างรวดเร็ว พวกเขายกตัวคนเจ็บขึ้นเปลและพาออกจากพื้นที่ในขณะที่รถหุ้มเกราะกำลังถอยกลับไปยังแนวรบเดิม เครื่องปีกหมุนเปลี่ยนเส้นทางการบินเข้าโจมตีกูลที่กำลังขึ้นมาจากทางใต้ แม้ว่าเครื่องบินปีกหมุนจะสามารถฆ่ากูลได้ส่วนหนึ่ง แต่มันก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น กูลหลายร้อยตัวยังคงรอดจากทุ่งสังหารและปะทะกับแนวรบ ทหารทุกคนพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ด้วยรถหุ้มเกราะที่เหลือเพียงสามคัน และกระสุนปืนหลักที่มีไม่เพียงพอ ทำให้ทหารราบขาดการสนับสนุนจนต้องถอยออกจากพื้นที่ โชคดีที่นายทหารของกองร้อยที่25ส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึกจากสมรภูมิอเมริกา นั่นทำให้นายทหารชั้นประทวนสามารถควบคุมตัวเลขการสูญเสียไว้ได้ แต่การยิงพวกเดียวกันนั้นก็เป็นความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้



หนึ่งฤทัยเปิดประตูห้องทำงานของอโลน การถูกเรียกพบในเวลาเช้าเช่นนี้คงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เขาคิด “นั่งสิ” เจ้าของห้องพูดและชี้ไปยังเก้าอี้ ร้อยตรีหนุ่มนั่งลง อโลนไม่รีรอที่จะเข้าสู่ประเด็น “คุณถูกย้าย เซ็นเอกสารแล้วไปเก็บของซะ” เขาพูดและโยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะหน้าหมวดหนึ่ง “จากความผิดของคุณที่ขัดขืนคำสั่ง และทำให้เกิดความเสียหายแก่พวกเดียวกัน ตามกฎแล้ว คุณต้องขึ้นศาลทหาร แล้วก็ถูกลดยศ” อโลนชี้แจง “แต่บังเอิญมีตำแหน่งว่างทางเหนือ และเป็นตำแหน่งที่ต้องการด่วนที่สุด”

“หน่วยอะไรหรือครับท่าน” หนึ่งพูดขึ้น

“ส่งกำลังบำรุง” สิ้นเสียงของอโลน หนึ่งฤทัยพยายามที่จะพูดแต่ถูกอโลนขัดขึ้น “จะมีสักครั้งไหมที่คุณจะหุบปาก เซ็นเอกสารแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ถ้าผมไม่ช่วยคุณนะผู้หมวด คุณได้ไปนอนในคุกแล้ว คุณรู้ตัวไหม” เขาพูดเสียงดังลั่น “ผมไม่ได้นอนทั้งคืนก็เพื่อที่จะให้คุณไม่ถูกลดยศ ไม่ได้ขึ้นศาลทหาร ผมขอแค่อย่างเดียว หุบปาก แล้วก็เซ็นเอกสาร” หนึ่งฤทัยไม่พูดอะไร เขาจรดปากกาเซ็นเอกสาร และลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ผมจะออกเดินทางเมื่อไหร่ครับ”

“วันนี้ พันหกร้อยนาฬิกา ไปเก็บของ”

“ครับผม”

หมู่เอคโคนั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตาในห้องวางแผน ไม่ว่าจะเป็นทีม1 ทีม2 หรือแม้แต่สมาชิกชั่วคราวอย่างเป็นเอก และธวัชชัย ไม่นานนัก อโลนและเรวานอฟก็เข้ามาในห้อง “เอคโคทีม” อโลนพูด “พวกคุณมีงานเข้าอีกแล้ว” เรวานอฟกางแผนที่ของห้างสรรพสินค้าขึ้นบนกระดาน “หลังจากที่เราพยายามใช้ทหารเป็นกองร้อยในการโจมตี แต่ไม่สำเร็จ เราก็เลยตัดสินใจส่งพวกคุณเข้าไป” อโลนพูดพร้อมยิ้ม “แต่การที่จะให้พวกคุณเข้าไปหน่วยเดียวมันก็ดูจะโหดร้ายเกินไปหน่อย ผมก็เลยขอแนะนำให้พวกคุณได้รู้จักกับ” เขาผายมือไปทางประตู “ร้อยตรีวาเลนติน่า อิโนมอฟ แห่งช็อคทรูปเปอร์” สาวสวยร่างผอมในเครื่องแบบเต็มยศเดินเข้ามา ทหารหน่วยเอคโค่ลุกขึ้นยืนตรงทำความเคารพอย่างกระฉับกระเฉง

“ตามสบายค่ะ” เธอพูดเสียงเรียบ และรอให้หน่วยเอคโคทุกคนนั่งลงก่อนที่จะเริมบรรยายสรุป “จากการบินวนสอดแนมครั้งล่าสุด เราพบว่ากูลจากทางใต้ได้มาอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าห้าง และจากการคาดการณ์ เราคิดวาจำนวนกูลติดอาวุธเหลือเพียงเล็กน้อย และตั้งอยู่ในตัวห้าง”
เชคอฟชูมือขึ้นเหนือหัว “ผู้หมวดครับ ขออนุญาตถาม” ร้อยตรีวาเลนติน่าก็พยักหน้าเชิงอนุญาต “ครับผม ทำไมเราต้องเสียงกำลังคนและทรัพยากรในการโจมตีสถานที่แห่งนี้ด้วยครับ หาผมเห็นว่าทางด้านยุทธศาสตร์นั้น เราไปทุ่มกำลังโจมตีโรงพยาบาลจะให้ผลดีมากกว่านะครับ”

“จ่า เหตุผลของการโจมตีในครั้งนี้จริงๆแล้วไม่ใช่การยึดพื้นที่” วาเลนติน่าพูดและนั่งลงบนโต๊ะ “กูลทั้งหมดในรัศมี30กิโลเมตร ได้มากกระจุกอยู่ในพื้นที่ตรงจุดนี้”เธอชี้ที่แผนที่ “ถ้าหากเราสามารถกำจัดมันได้ พวกเราจะไม่มีปัญหาเรื่องกูลไปสักพักหนึ่ง หรืออาจจะตลอดไป”
เชคอฟพยักหน้าเบาๆ พร้อมกันกับที่รีเซียพูดขึ้น “แล้วเราต้องทำอะไรบ้างคะ” วาเลนตินายิ้มทันทีที่รีเซียพูดจบ

“พวกคุณรู้จักชุดรบไฟฟ้าคาลาไซคอฟ101 รึเปล่า”

“ค่ะ” รีเซียตอบ

“ชุดเกราะนั้นเป็นชุดรบของช็อคทรูปเปอร์ ทำให้มนุษย์ มีพลังเหนือมนุษย์ แต่ว่ามันมีปัญหาอยู่จุดหนึ่ง ชุดรบนั้นมีขนาดใหญ่ จนทำให้การรบในพื้นที่จำกัดนั้นทำได้ยาก การรบในอาคารจึงเป็นจุดอ่อนของพวกเรา”

“ผู้หมวดต้องการให้พวกผมเข้าเคลียร์อาคารใช่ไหมครับ”

“ถูกต้อง” เธอพูด “ส่วนเรื่องทางเข้า”เธอฉีกยิ้มกว้าง “พวกเราจะจัดการให้เอง”

“เอาล่ะ” เรวานอฟพูดขึ้น “เราจะแบ่งเป็นสองทีม เอคโค-1และเอคโค-เอส เอคโค-1จะประกอบด้วยทหารราบพร้อมอาวุธยิงเร็วทุกนายที่ปฏิบัติงานได้ เอคโค-เอส จะประกอบด้วยพลแม่นปืน โดยเอคโค-เอส จะอยู่ในสถานะเฝ้ามอง ใครที่พร้อมจะปฏิบัติภารกิจ ไปรายงานตัวที่ห้องผมเวลาพันหกร้อยนาฬิกา”
สิ้นเสียงของเรวานอฟ อโลนก็พูดขึ้น “ภารกิจเริ่มพรุ่งนี้เวลาสามร้อยนาฬิกา แยกย้ายได้แล้ว”



แล้วก็เข้าชั่วโมงปฏิบัติการ หน่วยเอคโคและช็อคทรูปเปอร์ เดินทางออกจากศูนย์ทามกลางความมืด ต้องขอบคุณไนท์วิชชั่น กลอกเกิลส์ (Night Vision goggles) ที่ทำให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่น รถหยุดห่างจากจุดหมายราวๆสองกิโลเมตร โดยพวกเขาแยกกันเป็นสองส่วน หน่วยเอคโคและทหารในชุดรบไฟฟ้าสี่นายแยกไปทางหนึ่ง และทหารหน่วยช็อคทรูปเปอร์ในชุดพรางเมืองพร้อมกล่องบางอย่างแยกไปอีกทาง พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการมาถึงพื้นที่ปฏิบัติการ ทีมเอคโคทั้งสองทีมกระจายกำลังเข้าประจำตำแหน่งของตนเอง โดยมีทหารช็อคทรูปเปอร์ทั้งสี่นายอยู่หน้าพวกเขา พวกเขาติดอาวุธครบมือ ทั้งปืนกลหลายลำกล้องที่ดูลำกล้องจะมีขนาดใหญ่กว่าปืนกลหลายลำกล้องทั่วไป กล่องกระสุนขนาดใหญ่พอๆกับบานหน้าต่างติดอยู่ที่หลังของพวกเขา พวกเขาต่างนำอาวุธระยะประชิดติดตัวมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นดาบหรือค้อนสงครามขนาดใหญ่ สีของชุดเกราะถูกทาเป็นลายพรางเมือง ทั้งสี่นั่งคุกเข่าอย่างสงบ และรอเวลาที่พระอาทิตย์จะขึ้น

“เมื่อไหร่” ไอราวัณถามเมื่อพระอาทิตย์เริ่มทอแสง

“ไม่รู้” เชคอฟตอบ “นิศ ขอต้อนรับกลับ” เธอพูดกับนิดศที่ในมือทั้งสองถือปืนกลมือเอาไว้ “ดูแลสาวน้อยด้วย”

“ค่ะ” เธอพูดและมองดูนักข่าวสาวร่างเล็กที่กำลังเตรียมกล้องเพื่อบันทึกภาพการรบของช็อคทรูปเปอร์ เธอกดปุ่มบันทึกภาพ และพูดอะไรบางอย่างกับกล้องด้วยเสียงกระซิบ
เสียงการจุดระเบิดของจรวดดังขึ้น “เริ่มแล้วสิ” เชคอฟพูด

จรวดสองลูกที่ถูกผูกติดด้วยเชื่อกบางอย่างลอยข้ามลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าไป ช็อคทูปเปอร์ทั้งสี่ลุกขึ้น และกระจายกันออกไป “บันทึกภาพไว้ให้ดีล่ะคุณนักข่าว” ไอราวัณพูด เชือกที่ผูกกับจรวดตกลงบนลานจอดรถ หากแต่นั่นไม่ใช่เชือก มีนคือวัตถุระเบิดที่ถูกออกแบบมาใช้เคลียร์เส้นทางจากกับระเบิด มันระเบิดขึ้นทำให้กูลที่อยู่ใกล้ๆตายในทันที ตัวอื่นๆต่างก็สับสน และพยายามหาผู้ที่ยิงจรวด แต่ไม่ทันการ เสียงจากปืนหลายลำกล้องของช็อคทรูปเปอร์ดังขึ้น ปลอกกระสุนสีเขียวสลับแดงถูกคัดออกจากปืนแบบติดๆกัน หัวกระสุนทั้งลูกโดดและลูกปรายบาดลึกเข้าไปในเนื้อของกูล ปืนลูกซองหลายลำกล้องคำรามอย่างต่อเนื่อง กูลต่างก็ล้มลงและสิ้นใจ เสียงปืนสงบลง กูลหลายร้อยตัวที่เคยอยู่ในพื้นที่ถูกกำจัดอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงครึ่งร้อย กระสุนปืนลูกซองหลายลำกล้องหมดลงแล้ว และช็อคทรูปเปอร์ก็ชอบที่จะใช้วิธีแบบโบราณ ปืนและกลองกระสุนถูกปลดลงสู่พื้น ทั้งสี่ชักอาวุธระยะประชิดของพวกเขาออกมา ทั้งสี่วิ่งเข้าใส่กูลพร้อมร้องตะโกน “ฮูเร่” กูลที่ไร้ซึ่งความกลัวคำรามก้อง และวิ่งเข้าปะทะกับช็อคทรูปเปอร์ โดยที่ไม่ร็เลยว่า สิ่งที่พวกมันกำลังต่อกรด้วยนั้น จะพามันไปสู่ความตาย ทหารช็อคทรูปเปอร์ตวัดอาวุธในมือฟาดฟันกูล ด้วยพลังจากชุดรบไฟฟ้า และอาวุธที่ถูกลับคมมาอย่างดี กูลถูกอาวุธตัดเป็นสองท่อนอย่างง่ายดายเหมือนเนยที่ถูกมีดร้อนๆตัดผ่าน กูลที่เหลืออยู่กลายเป็นศพอย่างรวดเร็ว เลือดอาบไปทั่วชุดเกราะของช็อคทรูปเปอร์ เศษซากศพกระจัดกระจาย หัวไปทาง เท้าไปทาง ตัดไตใส้พุงเกลื่อนกลาดทั่วทั้งลานจอดรถ ทหารในชุดรบคนหนึ่งพูดอะไรออกมา ทำให้คนอื่นพลางหัวเราะไปด้วย

“คงต้องใช้เวลาทำความสะอาดสักพัก”เชคอฟพูดและกลับลงมาหลังแนวเนินดิน “เอคโค-1 เคลื่อนพล”เขาสั่ง หมู่เอคโคเคลื่อนตัวเข้าหาห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว และแยกกันไปประจำประตูทางเข้า

“พร้อม” ไกรษรพูดจากประตูอีกฝั่ง เชคอฟพยักหน้าให้ไอราวัณ และตะโกน “บุก”

ประตูถูกเปิดออกโดยแรงระเบิดจากแท่งระเบิด ระเบิดแสงทะยานผ่านเข้าไปภายใน เสียงตะโกนต่างๆนาๆ ดังขึ้นมาจากภายใน ก่อนที่จะถูกทำเงียบด้วยระเบิดแสง หมู่เอคโคเคลื่อนที่เข้าไปในห้อง ปืนประทับบ่า เล็งไปยังทุกอย่างที่เคลื่อนไหว และเหนี่ยวไก กระสุนเป็นชุดๆเจาะร่างกูลติดอาวุธที่ไร้ทางสู้ เอคโคแต่ละคนเคลื่อนตัวไปตามชั้นวางของ ประสานกันอย่างเป็นระบบ เชคอฟเหนี่ยวไกส่งกระสุนปืนเข้าร่างกูลตอนหนึ่ง และเห็นอีกตนหนึ่งที่หางตาของเขา แต่มันก็ถูกจัดการโดยนิศารัตน์ ถึงแม้ว่าจะมีกูลอยู่ภายนอกมากมาย แต่ภายในห้างนั้น จำนวนกูลที่เหลือมีเพียงแค่ไม่ถึงโหล อีกทั้งกว่าครึ่งยังมายืนกันที่หน้าประตู หวังจะยิงสวนพวกเขาเวลาที่พวกเขาบุกเข้ามา แน่นอนว่าพวกมันก็ชะตาขาดเพราะถูกระเบิดแสงทำให้หมดสภาพต่อสู้ กูลที่เหลืออยู่พยายามที่จะหนี แต่ก็ไม่มีที่ให้หนี ไอราวัณส่งกระสุนชุดหนึ่งเข้าปลิดชีพกูลตัวสุดท้ายที่อยู่ภายในห้าง ก่อนที่เอคโคจะกระจายกำลังกันออกไปเป็นคู่เพื่อเคลียร์พื้นที่

“ห้องสินค้าถูกยึด”

“ทางเข้าปลอดภัย”

“ทางหนีไฟถูกยึดแล้ว” เสียงของแต่ละคู่ขานตำแหน่งสำคัญของห้าง เป็นสัญญาณว่าภารกิจของวันนี้ได้จบลงแล้ว “นี่เอคโค-1เรียกเอคโคแอทชวล ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว”

จบบทที่3

Stormwind
15th August 2012, 18:31
สู้เพื่อบุหรี่....ธวัชชัยจงเจริญเถอะพ่อคุณ

by Stormwind [Female]

maxarmyus
15th August 2012, 20:04
สู้เพื่อเงินหรือชื่อเสียงเเละเกียรติยศ เเต่งานนี้มีสู้เพื่อบุหรี่ เจริญเลยครับ

LoveSeeker
17th August 2012, 13:55
ว่าด้วยเรื่องพลแม่นปืน

คนไทยส่วนใหญ่เมือ่ได้ยินคำว่าพลแม่นปืนแล้ว คงจะนึกถึงภาษาอังกฤษที่ว่า Sniper แต่ว่ามีข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้สัมภาษณ์ และบอกว่าหน่วยทหารที่ใช้อาวุธปืนเล็กยาวติดกล้องเล็งนั้นในคลิปวีดีโอที่ดีเอสไอกล่าวถึงนั้น มิใช้ Sniper ทางกระผมจึงไปหาข้อมูล และได้ความว่า

Sniper คือพลแม่นปืนที่ถูกฝึกมาอย่างหนัก และปฏิบัติงานเป็นทีมล่ะ 1-2คน ซึ่งรักษาการมองเห็นและจู่โจมเป้าหมายจากตำแหน่งที่ถูกปกปิด หรืออยู่นอกระยะการตรวจจับของอีกฝ่าย ทีมแม่นปืนทำงานเป็นอิสระ และได้รับการสนับสนุนเล็กน้อยจากหน่วยต้นสังกัด
แต่ที่น่าสนใจ ผมได้พบกันพลแม่นปืนอีกแบบ ซึ่งเรียกว่า Marksman

Marksman คือบุคคนที่มีความสามารถในการยิงอาวุธปืนเล็กยาวได้แม่นยำ และมีหน้าที่ยิงเป้าหมายที่อยู่ในระยะไกล "ความแตกต่างของ Sniper และ Marksman คือ Marksman เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยทหาร(อาจเป็นชุดยิง หรือหมู่) ซึ่งSniper จะทำงานเป็นทีมเดียว หรือร่วมกับSniper คนอื่น โดยบางครั้ง Marksman จะถูกผนวกเข้ากับหมู่รบเมื่อต้องการความแม่นยำในการกำจัดเป้าหมายจากระยะไกล

สรุปคือ Sniper ถูกฝึกมากกว่า ทั้งการพรางตัว Field Craft การแทรกซึม การจารกรรมและการสอดแนม แต่Marksman คือพลแม่นปืนประจำหน่วยรบหนึ่งๆ และดูจากคลิปแล้ว ผมคิดว่าพลแม่นปืนในคลิปน่าจะเป็น Marksman ไม่ใช่ Sniper

ขออภัยหากมีความผิดพลาด

อ้างอิง
Sniper http://en.wikipedia.org/wiki/Sniper
Marksman http://en.wikipedia.org/wiki/Marksman

Jomzababin
17th August 2012, 22:23
มันส์ๆ 555

LoveSeeker
19th September 2012, 19:33
ขาย
ID Stream
มีArma 2 ARMA 2: Operation Arrowhead และ Wargame : European Escalations
900 บาท (+50บาท หากต้องการกล่องของ Wargame)

ID Uplay
มี Ghost recon Future Soldier cและ Anno 2070
900 บาท พร้อมกล่องเกมทั้ง2

เกมกล่อง
The Guild Complete Collection 450บาทรวมค่าจัดส่ง
Sins of Solar Empire Trinity 250 รวมค่าจัดส่ง

LoveSeeker
27th September 2012, 20:13
ความรู้ทางทหาร: เรื่องของ OOHRA! และ HOOAH (อูราห์ และ ฮูอาห์)
ทั้งสองคำพูดเป็นคำพูดของทหารอเมริกัน โดย OOHRA เป็นคำพูดของนาวิกโยธิน แต่ HOOAH เป็นของทหารบก เรามักจะได้พบเห็นคำนี้ตามหนัง หรือนวนิยาย ซึ่งทังสองคำมีความหมายเป็นการตอบรับทราบ หรือแปลได้ทุกสิ่งวกเว้นคำว่าไม่

แหล่งข้อมูล
http://www.soslang.com/search/oohra
http://en.wikipedia.org/wiki/Hooah

nakiann123
18th October 2012, 00:13
ดันหน่อยครับ มู้จะตกแล้ว :sweat

Jomzababin
18th October 2012, 13:47
คิดถึงเรื่องนี้จริงจัง...

KITT
11th November 2012, 11:00
ยังเปิดรับตัวละครเพิ่มมั้ยครับ ?

LoveSeeker
11th November 2012, 11:17
ยังเปิดรับตัวละครเพิ่มมั้ยครับ ?

เปิดครับผม

nakiann123
11th November 2012, 12:52
หายไปนานเลยนะครับ

บอร์ดนิยาย เงียบกริบเลย

Rex
11th November 2012, 14:30
ขึ้นๆ ลงๆ แต่คราวนี้คงลงยาวเลยล่ะ

LoveSeeker
17th November 2012, 10:38
หายไปนานเลยนะครับ

บอร์ดนิยาย เงียบกริบเลย


ขึ้นๆ ลงๆ แต่คราวนี้คงลงยาวเลยล่ะ

ปิดเทอมโดนค่ายของคณะ เปิดเทอมมาโดนซ้อมบาศรี ตามด้วยซ้อมเชียร์กีฬา
อีกยาววววววววววววว เลยล่ะครับ 555+

KITT
20th November 2012, 17:58
เปิดครับผม
งั้น....

ชื่อ:Cobblegrab Stovez (คอบเบิ้ลแกร็บ สโตเวซ)
สัญชาติ:อเมริกัน-รัสเชีย
ชื่อเล่น:เรียก Stovez ก็ได้
อายุ:31
บ้านเกิด:รัสเซีย
เพศ:หญิง
นิสัย:ค่อนข้างเงียบขรึม อัธยาสัยดี
หน้าตา...
http://www.google.co.th/imgres?num=10&hl=th&safe=off&biw=1280&bih=709&tbm=isch&tbnid=2vLpGTDnAd4D0M:&imgrefurl=http://videogamesasart.com/post/1200014551/resident-evil-5-sheva-alomar&docid=uDwvuA-zQrfbgM&imgurl=http://25.media.tumblr.com/tumblr_l9fa4wB4et1qbzf0vo1_500.jpg&w=500&h=281&ei=dWGrUPOoJMHYrQepiYDYAg&zoom=1&iact=hc&vpx=753&vpy=425&dur=1405&hovh=168&hovw=300&tx=94&ty=90&sig=107524399888051803082&page=1&tbnh=133&tbnw=253&start=0&ndsp=20&ved=1t:429,r:18,s:0,i:122

อาวุธประจำกาย:Beretta M93R (Robocop Version)
Caliber:9 mm.
Mag Size:30 Rounds

http://www.google.co.th/imgres?num=10&hl=th&safe=off&biw=1280&bih=709&tbm=isch&tbnid=CuOFsPhsLn1YQM:&imgrefurl=http://www.berettaweb.com/93R/Beretta%252093R%25201.htm&docid=ZmitT1hiYNfykM&imgurl=http://www.berettaweb.com/93R/DSC00004.jpg&w=511&h=283&ei=YWCrUL6UFpDwrQextYHwDQ&zoom=1&iact=hc&vpx=610&vpy=446&dur=4016&hovh=167&hovw=302&tx=135&ty=155&sig=107524399888051803082&page=2&tbnh=135&tbnw=224&start=15&ndsp=25&ved=1t:429,r:22,s:0,i:141

ประวัติ:อตีต K.G.B หญิงผลงานดีฝีมือพระกาฬเรื่องกลบเกลื่อนร่องรอย มีทักษะในการใช้ปืนพกดีกว่าปืนอื่น ๆ โดยเธอโตมาในสถานฝึกหน่วย K.G.B. ที่จะรับฝึกตั้งแต่เด็ก ๆ ตามแนวทางของเธอ แต่พอไปอยู่ได้ประมาณ 3 ปี ก็ต้องประสบกับเรื่องเศร้าโศก ด้วยเนื่องจากพ่อและแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต ช่วงแรก ๆ ที่ได้ข่าว เธอเสียใจมาก แต่ต่อมาเธอก็ทำใจได้เพราะพ่อได้สอนไว้ว่า"มีดี ก็มีเลว มีแพ้ก็มีชนะ มีล้ม ก็มีลุก อย่ายอมแพ้นะลูก ทำมันให้เต็มที่ ลืมอดีตมุ่งสู่ปัจจุบัน" และทุ่มเทสุดตัวทำงานยาวนานถึง 23 ปี แล้วจึงลาออก ปัจจุบันอายุ 31 ปี ไม่ทราบอาชีพ (ขออภัยถ้าประวัติสั้นไป หรือ มีอะไรผิดพลาด เพราะนี่คือข้อมูลทั้งหมดของเธอ)

LoveSeeker
21st November 2012, 21:35
พรุ้งนี้เป็นวันบายศรีของคณะครุศาสตร์แล้ว
จะได้เป็นนักศึกษาครุศาสตร์เต็มตัวแล้วครับ!

LoveSeeker
23rd November 2012, 13:09
http://www.youtube.com/watch?v=lbmT_hY4-3M

ทุกอย่างที่ลงแรงลงใจไป ผลออกมาคุ้มค่ามากครับ
บูมเอกผมเอง เอกการสอนภาษาอังกฤษ ผมก็คนตัวใหญ่ๆอะครับ

KITT
28th November 2012, 14:30
http://www.youtube.com/watch?v=lbmT_hY4-3M

ทุกอย่างที่ลงแรงลงใจไป ผลออกมาคุ้มค่ามากครับ
บูมเอกผมเอง เอกการสอนภาษาอังกฤษ ผมก็คนตัวใหญ่ๆอะครับ

ยินดีด้วยนะครับ
ปล.เมื่อไหร่จะพิจารณาตัวละครที่ผมเสนอเนี่ย นานแล้วนา (ไม่ต้องรีบ)

LoveSeeker
29th November 2012, 13:07
ยินดีด้วยนะครับ
ปล.เมื่อไหร่จะพิจารณาตัวละครที่ผมเสนอเนี่ย นานแล้วนา (ไม่ต้องรีบ)

ไม่ผ่านครับ ไม่ขอสับด้วย ไปอ่าน 9 ข้อในหน้า 1 ใหม่แล้วพิจารณาดีๆครับ
ขอบคุณ

KITT
1st December 2012, 14:12
ไม่ผ่านครับ ไม่ขอสับด้วย ไปอ่าน 9 ข้อในหน้า 1 ใหม่แล้วพิจารณาดีๆครับ
ขอบคุณ

สิ่งที่ชอบ:
สิ่งที่เกลี่ยด:
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:
อื่นๆ:

พวกนี้ไม่มีได้ปะครับ

nakiann123
1st December 2012, 14:55
สิ่งที่ชอบ:
สิ่งที่เกลี่ยด:
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:
อื่นๆ:

พวกนี้ไม่มีได้ปะครับ

ผมขอตอบแทน (นิดๆ)

ผมว่าตัวคุณน่าจะไม่ผ่านตรงที่


อตีต K.G.B หญิงผลงานดีฝีมือพระกาฬ

เรื่องนี้เกิดห่างไกลกับปัจจุบันมากครับ ถ้าจำไม่ผิด

หน่วย K.G.B คงไม่เหลือแม้แต่ซากแล้วมั้งครับ

หรือไม่ก็ ไม่ครบองค์ประกอบกติกาตามหน้าแรกครับ

--------------

ผมขอเพิ่มปืนให้ตัวละครผมอีกซักปืนได้ไหมครับ :sweat

KITT
2nd December 2012, 08:41
ผมขอตอบแทน (นิดๆ)

ผมว่าตัวคุณน่าจะไม่ผ่านตรงที่



เรื่องนี้เกิดห่างไกลกับปัจจุบันมากครับ ถ้าจำไม่ผิด

หน่วย K.G.B คงไม่เหลือแม้แต่ซากแล้วมั้งครับ

หรือไม่ก็ ไม่ครบองค์ประกอบกติกาตามหน้าแรกครับ

--------------

ผมขอเพิ่มปืนให้ตัวละครผมอีกซักปืนได้ไหมครับ :sweat

ขอบคุณครับ

KITT
2nd December 2012, 10:23
ไม่ผ่านครับ ไม่ขอสับด้วย ไปอ่าน 9 ข้อในหน้า 1 ใหม่แล้วพิจารณาดีๆครับ
ขอบคุณ

งั้นเอาใหม่

ชื่อ-สกุล:เจษญา พบดี
ชื่อเล่น:ชานดี้
เพศ:หญิง
อายุ:21
รูปร่างหน้าตา:http://www.google.co.th/imgres?hl=th&safe=off&sa=X&tbo=d&biw=1422&bih=787&tbm=isch&tbnid=mkA2zVEceimGuM:&imgrefurl=http://www.fanpop.com/clubs/resident-evil/images/31112567/title/ada-wong-re6&docid=0fM5s8I1mr2xyM&imgurl=http://images5.fanpop.com/image/photos/31100000/ADA-WONG-RE6-resident-evil-31112567-448-585.jpg&w=448&h=585&ei=Jci6UKSwFsbTrQeM-IGgDQ&zoom=1&iact=hc&vpx=280&vpy=282&dur=216&hovh=256&hovw=195&tx=75&ty=161&sig=107524399888051803082&page=1&tbnh=143&tbnw=112&start=0&ndsp=39&ved=1t:429,r:13,s:0,i:123

นิสัยโดยละเอียด:เป็นคนที่ค่อนข้างเงียบขรึม พูดน้อย แต่อัธยาศัยดี

อาวุธ:Glock 21
ขนาดกระสุน:.45ACP
อัตราการยิง:780 นัดต่อนาที
ความจุแม็กกาซีน:13 นัด
ระยะหวังผล:ประมาณ 175 เมตร
รูปร่าง:http://www.google.co.th/imgres?start=0&num=10&hl=th&safe=off&tbo=d&biw=1422&bih=787&tbm=isch&tbnid=w--L3UqSAM4DbM:&imgrefurl=http://www.theblaze.com/stories/americas-gun-how-did-glock-pistols-become-such-an-icon/g21-gen-4/&docid=MOx2I6gRXWmytM&imgurl=http://www.theblaze.com/wp-content/uploads/2012/01/G21-Gen-4.jpg&w=434&h=289&ei=MMi6UM2JDMSPrgf8z4DABQ&zoom=1&iact=hc&vpx=1104&vpy=434&dur=833&hovh=183&hovw=275&tx=249&ty=136&sig=107524399888051803082&sqi=2&page=1&tbnh=141&tbnw=201&ndsp=30&ved=1t:429,r:21,s:0,i:7

สิ่งที่ชอบ:เพลงคันทรี
สิ่งที่เกลียด: หนูท่อ

nakiann123
3rd December 2012, 23:59
ถึงด้านบน ผมว่าเพลง Heavy Metal ยังพอจะมีอยู่นะ แต่ Justin Bieber คงจะไม่เหลือแม้แต่เศษขี้ฟันแล้วละ =w=

Reaper
12th December 2012, 00:20
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: ภูผา เทพาพิทักษ์
ชื่อเล่น: ดิน
เพศ: ชาย
อายุ: 24
รูปร่างหน้าตา:
http://img132.imageshack.us/img132/8849/dantedmc5240240.jpg (http://imageshack.us/photo/my-images/132/dantedmc5240240.jpg/)

สูง 178 ซม. หนัก 62 กก. สมส่วน กำยำไม่ถึงกับล่ำบึ๊กแต่ไร้ไขมัน เคี้ยวง่ายถ่ายคล่อง

นิสัยโดยละเอียด: รอบคอบ อัธยาศัยดี มีไหวพริบและประสาทสัมผัสดี แต่บางทีเป็นคนใจร้อน (พอใจร้อนแล้วมักจะทำเสียเรื่องหรือไม่ก็ทำอะไรโง่ๆ) ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง ชอบฟังเพลงฮิพฮอพ

สิ่งที่ชอบ: หมากฝรั่งไร้น้ำตาล กับ ผู้หญิง
สิ่งที่เกลี่ยด: แมลงสาบ กับ เกย์
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: หลับตานึกถึงคนที่เป็นที่รักที่จากไปทุกคนแล้วฆ่าตัวตาย
อื่นๆ: ประวัติโตขึ้นมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เมื่อย่างเข้าวัยรุ่นเริ่มคบเพื่อนกลุ่มที่เป็นอันธพาลจบด้วยการทำงานเป็นคนส่งยาเสพติด พอถูกจับตอนอายุ 18 จึงได้รับข้อเสนอให้เป็นสายลับสองหน้าในวงการใต้ดิน คอยหาข่าวอาชญากรส่งให้ตำรวจเพื่อแลกกับอิสระภาพ มีความชำนาญพิเศษในการปลอมตัว แทรกซึม เล็ดลอดหลบหนี (หาข่าว) และต่อสู้ด้วยมือเปล่า (จากสมัยที่เป็นอันธพาล) แต่ใช้ปืนได้ไม่ดีนัก แค่พอใช้เป็นนิดหน่อย

แบบฟอร์มอาวุธปืน
ชื่อ:Beretta M92FS สีเงิน
ขนาดกระสุน:9มม.
อัตราการยิง: 800 นัดต่อนาที
ความจุแม็กกาซีน:15 นัด
ระยะหวังผล: 50 เมตร
รูปร่าง: http://img600.imageshack.us/img600/6262/300pxberetta92fs.gif (http://imageshack.us/photo/my-images/600/300pxberetta92fs.gif/)




ปล. ทันมั้ยอ่ะครับ - -

KITT
26th April 2014, 21:34
.....ม่ายมีคายปาดฝู่นเยย........

ปล.ขอแก้ข้อมูลอาวุธใหม่
อาวุธ:MP5KA4
ขนาดกระสุน:9 MM Para
อัตราการยิง:900 นัดต่อนาที
ความจุแม็กกาซีน:15 นัด
ระยะหวังผล:ประมาณ 75 เมตร
http://img2.wikia.nocookie.net/__cb20121229023649/armyoftwo/images/d/da/Mp5ka4.jpg

KITT
12th May 2014, 07:49
ขอเพิ่มศัตรูครับ

ชื่อ:Jupwolf
ประเภท:เอลี่ยนที่ลักษณะคล้ายมนุษย์
ที่อยู่อาศัย:เดิมอยู่ดาวพฤหัส แล้วมาล่าอาณานิคมบนโลก
รูปร่างหน้าตา : http://www.freakygaming.com/gallery/concept_art/half-life_2/combine_soldier ประมาณนี้

ลักษณะนิสัย : กำจัดพวกที่ไม่ร่วมกับ/ไม่ใช่พวกตนทันที

ลักษณะการต่อสู้ : ใช้อาวุธ

อาวุธ : M41A Pulse Rifle/AKM/หน้าไม้(ฮา)/อื่น ๆ แล้วแต่ที่มีในพื้นที่ (มีมีดประจำตัวทุกคน ชกต่อยเป็นบ้าง)
จุดเด่น :ตั้งฐานที่มั่นค่อนข้างเนียน