PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : (Event) เลิกเครียดสักพัก! มาต่อนิยายกันดีกว่า!? (ไม่เข้าใจลองเข้ามา)



Rex
26th March 2012, 22:13
http://image.ohozaa.com/i/bf5/INqeA.jpg

จุดประสงค์ : ช่วงนี้ตัวหัวกับการแต่งนิยาย คิดไม่ออกสักที (สงสัยไฟหมด) เลยจัดกิจกรรมแปลกๆมาเติมเชื้อเพลิงกันหน่อย กิจกรรมที่ไม่ค่อยจะมีสาระสักเท่าไหร่

กิจกกรม : To be Continued (ติดตามตอนต่อไป)

กติกา : ผมจะเริ่มใช้ชื่อตัวละครแทน ID ของแต่ล่ะคนซึ่งหากใครจะเปลี่ยน เช่น คุณห้าวันก่อน (ชื่อยาวมาก+แปลก) ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นคุณไฟฟ์ (ควรจะแทนชื่อให้รู้ว่าใครเป็นใคร ไม่ใช่มาเป็นตัวละครนะเออ...) ต่อจากนั้น>>ผม<< ขอเริ่มคนแรกจะนำตัวละครที่แทน ID นักเขียนนั้นไปแต่งเป็นนิยาย 1 หน้า A4 ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับนิยายของแต่ละท่านก็ได้หรืออะไรก็ได้ที่ฮาๆไม่เครียด จากนั้น>>ผม<< จะทิ้งท้ายเนื้อเรื่องไว้เช่น เมื่อคุณ...เดินมาถึงที่ไหนสักแห่ง...เขาต้องตาค้างเมื่อพบว่าเขาอยู่ที่... (เติมเอาเอง) ส่วนนี้จะเป็นรอยต่อสำหรับนักเขียนท่านต่อไป ซึ่งผมจะอัพเดทวันต่อวันหากใครมาเขียนจะนำมาลงหน้าแรก และ ลงเครดิตไว้อย่างชัดเจน! แค่นี้แหละ


เห็นว่ามีหมวดอื่นมีทายหนัง ทายการ์ตูน ต่อคำ ทายเพลง ทายวีดิโอ ทายนู่น ทายนี่ ไอหมวดเรามันเล็กจิ๋วทำอะไรเช่นนั้นไม่ได้เลยจัดแนวนี้ซะเลย ดีกว่าไปทำอะไรไร้สาระ(ล่ะมั้ง)...

รายชื่อ ID ตัวแทนนักเขียนและเหล่าคนเข้าร่วมนะ...

Rex = เร็กซ์ << เหมือนเดิม...

LoveSeeker = เลิฟคุง

Stormwind = วินด์

5day-ago = ไฟฟ์

GIGABom = กีก้า

pone123 = จ่าซัพ(ม)

ข้างบนนี่มัดมือชก...

ID อื่นๆ ที่อยากจะเข้าร่วมสนุกสนาน

..


เนื้อเรื่อง:


บทที่ 1 โดย:เร็กซ์

ช่วงเวลาเกือบพลบค่ำแสงจากดวงอาทิตย์เริ่มจางหาย ความมืดเข้าครอบคลุม รวมกับสภาพอากาศที่ไม่น่าเป็นใจนักเสียงลมกรรโชกดังโหยหวนจนน่าหวาดผวาเป็นช่วงๆ แสงฟ้าแลบเป็นจังหวะ

“เฮ้ย!...ข่าวบอกพายุจะเข้าน่ะ ลูกเบ้อเริ่มเหิ่มด้วยดิ” เสียงชายในเสื้อยืดลายประทับตรากองทหารกล่าว

“แล้ว?” ชายอีกคนกล่าวอย่างไม่เข้าใจ

“ก็เคเบิลทีวีมันโดนฝนได้ซะที่ไหนเล่า...นี่ก็เป็นบ้านพักตากอากาศห่างจากเมืองไปตั้ง 30 กิโล!” เลิฟคุงสุดโหดกล่าวอย่างอารมณ์บ่จอย

“บ้านมีตั้ง 3 ชั้นของเล่นจะล้นบ้านอยู่แล้ว ไปหาเล่นก่อนไป” วินด์สวนกลับ ขณะที่กำลังนั่งเขียนนิยายบริเวณหน้าต่างติดระเบียง

นี่คือกลุ่มเพื่อนที่มาพักร้อน ณ บ้านพักตากอากาศหวังว่าจะได้อารมณ์ธรรมชาติสุดๆ แต่สุดท้ายกลับมีพายุหนักกำลังย่ำกรายเข้ามา

“เดี๋ยวๆ...จ่าซัพไปไหนของเขาวะ!? บอกออกไปซื้อปลากระป๋องตรงร้านป้าที่หน้าหลอนๆตั้งนานแล้วนะ” วินด์ตะโกนถามเลิฟคุงที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปหาอะไรเล่นอยู่พอดี

“***...ก็..อยู่..กับ..ตู..แล้วตูจะไปรู้ไหมเว้ย ปัดโธ่! บ่จอยเลยอดดูก็อททาเล้นท์...เซ็งเว้ย!” เลิฟคุงเดินขึ้นบันไดต่อไปในอาการเบื่อชีวิต

“ไรวะ!กวนส้นตรีน...หาอะไรดื่มดีกว่า” วินด์ลุกจากเก้าอี้ เดินไปตามทางพื้นไม้อย่างดีของบ้านพัก

“ไม้ทั้งบ้านหลอนตายห่านนน..นน” เขากล่าวพลางเดินระวังไม่ให้ไม้กระทบกันดังอ๊อดแอ๊ด

“เบียร์...เบียร์ๆๆๆๆ...เฮ่ย!มีแต่เบียร์” ขณะที่วินด์กำลังนั่งนับขวดเบียร์อยู่นั้น

“ออดดดด..ดด!” เสียงกริ่งอิเล็กทรอนิคดังขึ้นบริเวณหน้าบ้าน

“เชี่ย!ตกใจหมด” ปฏิกิริยาตื่นกลัวทำงาน วินด์สะดุ้งโหยงไม่ทันได้รู้ตัว

“ออดดด....ดดด” เสียงกริ่งที่กดแช่ดังขึ้นอย่างหนวกหู

“มาแล้วๆ!” วินด์ตะโกนสวนทางบริเวณประตูหน้าบ้านที่ๆควรจะเป็นบริเวณกดกริ่งเรียก

“ออดดด...ดดด” เสียงกริ่งยังคงดังต่อไป เพียงแต่ครั้งนี้วินด์ต้องถึงกับยืนนิ่ง สายตาที่เบิกกว้างกล้ามเนื้อแข็งไปทั้งตัว

“อ..อะไรวะ” เบื้องหน้าคือบริเวณประตูหน้าบ้านที่ว่างเปล่า ขณะที่เสียงกรดกริ่งยังคงดังต่อไปไม่มีสิ้นสุด

“ไอวินด์รับแขกโว้ย!” เสียงเลิฟคุงตะโกนลงมาจากชั้น 3

“ซูดด...ดด” วินด์สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะก้าวขาเดินตรงไปที่ประตู ก้าวแต่ล่ะก้าวนั้นยาวนานนับปีในความรู้สึกของวินด์ เขาค่อยๆยื่นหน้าออกมามองบริเวณช่วงทางขึ้นบันไดขึ้นบ้านที่มีประตูไม้กั้นไว้ ที่ๆกริ่งถูกติดตั้งไว้

“โห!...ไอบ้าเอ้ย!ตกใจแทบตาย” วินด์สบถ ที่มาของเสียงคือกริ่งที่ช็อตโดยไม่ทราบสาเหตุนั่นเอง วินด์รีบเดินไปที่โถงทางเดินเพื่อสับสวิทช์ดับไฟฟ้าบริเวณหน้าบ้าน ทำให้ไฟบางดวงดับลงโดยปริยาย

“ฮู้วว..วว” วินด์เป่าลมลดความเครียดพลางเดินกลับไปหาอะไรดื่มต่อ


ผ่านไป 2 ชั่วโมงเวลาโดยประมาณเกือบๆ 5 ทุ่มกว่า เหล่าผองเพื่อนกำลังนั่งสบายเฉิบในห้องดูหนังขนาดใหญ่

“จ่าซั้ม...เฮ้ยจ่าซัพ จ่าช่วยไปหยิบเบียร์ให้ขวดนึงดิ” ไฟฟ์เรียกร้อง

“โหไอส้นฝ่าเท้า กวนตูเหลือเกินนะ***” จ่าซัพพูดพลางเดินไปหยิบเบียร์จากลังเบียร์ที่พึ่งไปเหมามาได้ไม่นานนี้

"บรรยากาศ*****น่าเล่าเรื่องผีๆว่ะ” จ่าซัพพูด ก่อนจะยื่นขวดเบียร์ให้ไฟฟ์

ที่จริงช่วงอายุแต่ละคนนั้นต่างกันไม่มากจะมีก็จ่าซัพคนเดียวที่ห่างออกไปเยอะหน่อย แต่ไม่รู้ไปคุยอีท่าไหนดันได้มาเป็นเพื่อนเฉย

“เออ ไอเดียบรรเจิดมากจ่า!” เลิฟคุงยกนิ้วกลางให้หนึ่งที

“เฮ้ยผิดนิ้ว” เขายกนิ้วโป้งขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ซ่า...ซ่า” เสียงพายุฝนโหมกระหน่ำซ้ำเติมบ้านพักอย่างไม่ปราณี บรรยากาศในบ้านเงียบลงทันที สายตาแต่ละคนกำลังครุ่นคิดเรื่องผวาหัวใจออกมาประชันกันอย่างสุดความสามารถ

รอบตัวบ้านนั้นมืดจนแทบจะไม่เห็นอะไรเลย เป็นคืนที่มืดจนน่าแปลกไม่มีดวงจันทร์โผล่มาให้เห็น แม้แต่ดาวสักดวงก็ถูกเมฆฝนบดบังจนไร้แสง

ขณะที่เรื่องผีๆถูกเล่าเรื่องแล้วเรื่องเล่า ทันใดนั้นไฟฟ์พูดขึ้น

“เฮ้ย!วินด์***ว่ากริ่งมันช็อตใช่ปะ”

“โหไอเชี่ยตูก็คิดว่าอะไร…เออมันช็อตตูสับสวิทช์ไปแล้ว” วินด์ตอบกลับไป

“ไอเบื๊อก!เร็กซ์มันบอกว่ากริ่งมันมีสวิทช์ในตัว ถ้าไม่ไปสับเดี๋ยวไฟไหลย้อนว้อย” ไฟฟ์เดินไปโบกหัววินด์หนึ่งรอบ

“เชี่ย! แล้วพวก***เล่าเรื่องผีแล้วให้ตูออกไปสับสวิทช์คนเดียวเนี่ยนะ” วินด์กวาดสายตาขุ่นเคืองใส่แต่ละคน

“เออๆ มาตูไปด้วย” เลิฟคุงพูดขึ้น ก่อนจะเดินไปคว้าเสื้อกันฝนใส่

“หยิบไฟฉายมาด้วย” เลิฟคุงหันกลับไปบอกวินด์

“โอเค! ลุยเว้ย” วินด์กับเลิฟคุงก้าวเท้าออกจากบ้านไปตรงไปที่กระท่อมหลังเล็กที่เป็นศูนย์กลางของเบรกเกอร์ควบคุมไฟภายนอกของบ้าน

“จะว่าไปเร็กซ์บอกว่ามันจะมาถึงเมื่อชั่วโมงก่อนแล้วนะ เห็นว่าล้อยางแตกเลยเปลี่ยนเองอยู่ ไม่น่าเกิน 30 นาทีนิหว่า มันก็เก่งเรื่องแคะๆแงะๆ” เลิฟคุงชวนวินด์พูดคุยพลางกวาดไฟฉายไปมา ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำจนภาพเบื้องหน้าเป็นสีขาวจางๆ

“เออ...แปลกว่ะ....แต่ไม่รู้มันคิดยังไงซื้อบ้านตากอากาศบนเขาสูงๆเนี่ย” วินด์ตอบ ขณะพยายามเอามือป้องบริเวณฮู้ดกันฝนไม่ให้ปลิวย้อนกลับ

“นั่นไงเจอล่ะ กระท่อม” เลิฟคุงชี้นิ้วไปทางขวา

“พายุโคตรหนักเลยลูกนี้” เลิฟคุงบ่นขณะถอดเสื้อกันฝนออกเมื่อเข้ามาถึงกระท่อมควบคุมไฟแล้ว

“ส่องไฟหน่อย” เขากวักมือเรียกวินด์มาช่วย

“หม้อแปลง...ไฟนอกบ้าน...โคมไฟระเบียง...นี่ไง กริ่ง” เลิฟคุงสับสวิทช์ปิดทางเดินไฟทันที แต่ก่อนจะเตรียมตัวเดินออกตจากกระท่อมไปเขาเหลือบเห็นบางอย่างที่ดูไม่ปกติอย่างแรง

“เฮ้ย!เดี๋ยวๆ ส่องไฟมาทางนี้หน่อย” เลิฟคุงเริ่มมองตามสายไฟที่ควบคุมกริ่ง

“ไอเชี่ย! งานเข้าแล้ว!” เลิฟคุงสบถอย่างหวาดผวา “ทำไมวะ!” วินด์ก็ผวาตามๆกันไป

“ไอห่า! สายไฟมันถูกตัดโว้ย!”

ติดตามชมตอนต่อไปโดยนักเขียน: StormWind ในฐานะของ วินด์ ในเรื่อง


บทที่ 2 โดย: StormWind

ทันทีที่เพ่งสังเกตุทำเอาสายตาเปิกกว้างด้วยความแปลกใจ

“ส่องไฟหน่อย” เมื่อเห็นว่าเพื่อนซี้ปึ๊กกำลังเหม่อลอยเขาจึงเน้นเสียงอีกเล็กน้อย

“บอกให้ส่องไฟไงวะ!”

เขาทำตามอย่างว่าง่ายทำให้วินด์ยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่เมื่อพินิจรอยที่สายไฟถูกตัด ดูเป็นรอยขาดสะบั้นราวกับถูกสับด้วยอะไรบางอย่าง.......

“ไม่ได้การล่ะ ไอ่เลิฟคุง รีบไปหาไอ่พวกนั้นเถอะ” พร้อมออกแรงมือตบหัวช่วยกระตุ้นเลิฟคุงหนักๆ

“***ไปเถอะ เดี๋ยวกูต่อสายไฟเอง” เลิฟคุงพูดพร้อมกับคลำหัวป้อยๆ

ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักลงมากระทบกับหลังคา และบรรยากาศเย็นๆนั้น ทำให้ทั้งสามคนเริ่มนึกครึ้มอะไรบางอย่างขึ้นมา

“ปิดไฟเถอะว่ะ แล้วจุดเทียนเอา” พูดจบ จ่าซัพก็ลุกขึ้นมาเปิดกล่องที่เก็บเทียนแล้วยกมาวางไว้ตรงหน้าของทุกคน นั่นทำให้ทุกคนล้อมวงกันมาฟังเรื่องเล่า ส่วนไฟฟ์ที่อยู่ใกล้ไฟที่สุดนั้นก็รู้งาน
รีบลุกไปปิดไฟแล้วกลับมานั่งทันที

“ใครจะเริ่มก่อน?” เร็กซ์เอ่ยถามพลางควักซิปโป้ออกมาจุดไฟต่อไส้ให้เทียน

สายตาของทุกคนจ้องกันเป็นมันประกาย ในหัวเริ่มคิดเรื่องสยองที่เขาได้เคยเจอมากับตัว ก่อนจะมีผู้กล้าพูดขึ้นมาก่อน

“ให้จ่าซั่ม” เป็นไฟฟ์นั่นเอง

แต่เจ้าตัวก็รีบพูดขัดขึ้นมาทันทีทันใด

“เฮ้ยๆๆๆๆ ของดีต้องเอาไว้ตอนสุดท้ายเว้ย เอ็งนั่นแหละ ไอ่ไฟฟ์ เล่าก่อนเลย” การตัดสินใจนั้นก็ลงเอยด้วยการพยักหน้าของเร็กซ์นั่นทำให้เขาจำยอมอย่างมีเหตุผล

“ง่า....ก็ได้ ตั้งใจฟังดีๆนะ”


“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผมเอง ผมได้เดินทางไปปฏิบัติงาน ณ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นการเดินทางออกจากบ้านครั้งแรก ก่อนไปผมได้ให้พนักงานที่นั้นหาบ้านเช่าให้ เมื่อผมเดินทางไปถึงเจ้าของบ้านบอกว่าบ้านยังไม่ได้ทำความสะอาด ต้องทำเอง พวกผมก็ตกลงกันว่ารับผิดชอบคนละห้อง เมื่อผมเลือกห้องที่ต้องการได้แล้ว ก็เปิดประตูเข้าไปทำความสะอาด ภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า ธูปที่ปักอยู่เต็มห้อง คราบน้ำตาเทียน รวมไปถึงร่องรอยที่ปรากฎอยูในห้องทำให้ผมขนลุกซู่เลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เราจำเป็นต้องอยู่ทำให้ผมไม่ได้คิดอะไร ทำความสะอาด ปัดกวาด ก่อนนอนผมก็กราบพระเป็นประจำทุกวันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยความคะนองทำให้ผมไม่รู้สึกอะไร แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นกับผมจนได้ ครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนมีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวเนื้อดำแดง เปิดประตูห้องผมเข้ามาทั้ง ๆ ที่ผมล๊อคประตูเรียบร้อยก่อนนอน แล้วพูดด้วยเสียงดังกังวาลว่า ฝากดูแลบ้านด้วยต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้านน้ำแห้งขอดแล้ว เติมน้ำด้วย ผมสะดุ้งตื่นแน่นอนผมรีบออกไปดูต้นไม้ ผมแทบเป็นลม ต้นไม้นั้นน้ำแห้งขอดจริงอย่างที่บอก ผมเล่าให้พี่ข้างห้องฟัง ก็ต้องแปลกใจอีกครั้งหนึ่งเมื่อพี่เขาบอกว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงเหมือนคน เดินลากโซ่หรืออะไรหนัก ๆ เสียงดังครืด ๆ ๆ แล้วก็มาหยุดที่หน้าห้องผม แล้วเสียงก็หายไป สักพักได้ยินเหมือนเสียงเดินออกจากห้องผมไปด้านหลังบ้านที่เป็นห้องเก็บของ ผมสอบถามจากชาวบ้านข้างเคียงได้ความว่า บ้านหลังนี้เดิมเจ้าของเป็นตำรวจเมื่อท่านเสียชีวิต ได้นำศพฝังหรือเผาไม่ทราบได้ในบริเวณสวนข้าง ๆ บ้าน ซึ่งห้องที่ท่านอยู่คือห้องผมและสวนก็อยู่ด้านข้างกับห้องพักของผม ผมรีบตื่นเช้าไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ท่าน เรื่องนี้อยากบอกว่าก่อนที่เราจะเข้าไปอยู่ในห้องพัก ควรสืบประวัติของห้องให้ดีก่อนที่คุณจะเจอกับสิ่งที่ผมได้เจอ”



“โอ้โห.....ดีไม่เป็นผีทหารนะนั่น” เร็กซ์เอ่ยขึ้นมาพลางมองไปทางจ่าซัพด้วยสายตาแปลกๆ แต่ก่อนที่เจ้าตัวจะทันได้ทำอะไรนั้นก็ปรากฏเสียงแปลกๆดังขึ้น ทำเอาทุกคนต้องเงียบไปตามๆกัน

ครืดดดด ครืดดดด ครืดดดดดด!!!!

แต่ไม่นานเสียงปริศนานี้ก็เงียบลงไปเหลือเพียงเสียงของสายฝนที่ยังคงตกลงมาไม่ขาดสาย

“มาๆ เล่าต่อๆ ตาแกแล้ว ไอ่เร็กซ์” ไฟฟ์ที่เล่าจบไปใช้ศอกถองสีข้างเพื่อนรักให้เล่า แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าตัว

“ไม่ดีกว่าว่ะ ของกูเด็ดกว่า ขอเล่าตอนท้ายแล้วกัน ให้จ่าซั่มเล่าก่อน”

“เฮ้ย จ่าซัพเว้ย” จ่าซัพตอบพร้อมกับนึกเรื่องสุดสยองไว้ในใจแล้วยิ้มกริ่ม งานนี้พวก***ได้สยองสมใจแน่!

เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อลายพรางแล้วหญิงเอากล่องบุหรี่สีเขียวออกมาแล้วจุดไฟ อัดควัณเล็กน้อย

“แล้วจ่าจะจุดบุหรี่ทำไมวะเนี่ย? ทำร้ายคนทางอ้อมเรอะ!!” เป็นเต้ที่พูดขึ้นมาก่อนเร็กซ์

แต่เจ้าตัวก็ส่ายหน้าบางๆแล้วให้คำตอบว่า “สร้างบรรยากาศเว้ย”

“เคยได้ยินเรื่อง ‘สมิงพราย กับ ควายธนู’ มั้ย? นั่นแหละ ข้าจะเล่าให้ฟัง”



“วัวธนู หรือบางแห่งเรียกว่า ควายธนู เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะมีควายมากกว่า เป็นเครื่องรางโบราณของคนในภูมิภาคนี้อีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมสร้างสืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตเป็นเครื่องรางที่จำเป็นของพรานป่าที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวพันกับผืนป่าในสมัยที่ยังอุดมสมบูรณ์”

จ่าซัพนิ่งไปสักพักปล่อยให้กลิ่นของบุหรี่นั้นลอยไปแตะกับจมูกของแต่ละคน สีหน้าและแววตาของเขานั้นดูจริงจังต่างกับปกตินัก แล้วจึงพูดต่อ


“ไม่มีประวัติการสร้างที่แน่นอนนักว่าเริ่มตั้งแต่สมั ยใด แต่ก็พบเห็นกันตามบ้านชาวชนบททั่วไป เล่ากันว่า นอกจากนิยมใช้พกพาติดตัวเข้าป่าล่าสัตว์คนดีมีวิชาอาคมยังสร้างวัวธนูไว้รับคุณไสยที่ถูกส่งมาลองดีจากคนมีวิชาอาคมต่างถิ่น
เมื่อเป็นเด็กข้าเคยเห็นควายปั้นปิดทองบนหิ้งพระของปู่ด้วยความสงสัยจึงถามว่า
“ทำไมปู่เอารูปไอ้หลาง(ควายคู่ทุกข์คู่ยากของปู่)มาบูชาหรือปู่นับถือควายซะแล้ว”
“ไม่ใช่รูปไอ้หลางโว้ยนี่เป็นควายธนูของกายสิทธิ์อย่าไปถูกต้องเป็นเด็ดขาด”
“ทำไมถูกไม่ได้มันอยู่บ้านเราแท้ๆไม่เห็นมีธนูสักอัน”
“ถูกแล้วมันจะเข้าตัวเอาจุกแน่นท้องตายไม่มีใครช่วยได้จะบอกให้ห้ามเป็นคำขาดเข้าใจไหม”

ข้าโชคดีอยู่อย่างมีลุง อา ตา ปู่ ที่ใจดีน่ารัก ไม่มีใครรำคาญความช่างซักช่างถามของข้า และจะอธิบายเล่าให้ฟังด้วยความเมตตาเสมอ ราวกับจะรู้ว่าหลานรักจะได้เอามาเล่าหากินในอนาคต ปู่เล่าว่าควายธนูตัวนี้เป็นสมบัติตกทอดมาจากทวดอีกท ีหนึ่ง พร้อมกับห้ามผมถามว่าทวดเอามาจากไหน เพราะแกไม่คิดว่าจะมีหลานช่างซักช่างถามเลยไม่ได้ถามเผื่อไว้เอาเป็นว่าฟังเฉยๆ

ควายธนูตัวนี้เคยช่วยชีวิตทวดและเพื่อนที่เป็นพรานป่าไว้หลายหน ครั้งหนึ่งทวดเข้าป่ากับเพื่อนบ้าน 2 คน ทำห้างดักยิงสัตว์ที่มากินดินโป่งในป่าลึกแถบเมืองกาญจน์ เรียกกันว่าซุ่มโป่ง ดินโป่งเป็นดินเค็มที่สัตว์จำพวกเนื้อ เก้ง กวาง หรือกระทิงป่า ชอบมากิน พวกพรานมักจะมาดักยิงที่นี่ ทวดกับเพื่อนผูกห้างอยู่บนคาคบไม้สูงเพื่อป้องกันตัว เองให้พ้นภัยจากสัตว์ร้าย เช่น เสือ สาง ผมอดไม่ได้ถามปู่ว่าเสือนั้นเคยรู้จัก แต่สางนั้นตัวแบบไหนหรือ แกบอกว่ามันร้ายกว่าเสือมากนัก เพราะสางเป็นผีวิญญาณร้ายของเสือ เรียกกันว่า เสือสมิง มันสามารถแปลงกายเป็นคนได้ และมักจะแปลงเป็นคนที่พรานบนห้างรู้จัก หรือไม่ก็แปลงเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยงาม มากวักมือเรียกให้ลงจากห้าง ถ้าพรานป่าคนใดหลงกล หรือว่าหลงความสวย ก็จะถูกเสือสมิงทำร้ายเอาถึงตายได้ ปู่เล่าว่าเสือสมิงคือเสือที่กินคนมามากจนวิญญาณคนที ่ตายสิงสู่อยู่ในร่าง กลายเป็นวิญญาณร้าย สามารถแปลงเป็นคนได้ แต่ไม่ได้เกิดจากวิชาอาคม เป็นเพียงการอิงอาศัยกันอย่างลงตัวของเสือและวิญญาณผู้ตายเท่านั้น วันนั้นหลังจากทวดเปลี่ยนเวรให้เพื่อนเฝ้าและงีบหลับ ไป โดยนอนหนุนย่ามที่มีควายธนูและของขลังต่างๆ อยู่ ทวดรู้สึกว่าควายธนูในย่ามมีอาการเคลื่อนไหว จึงตื่นขึ้น มองไม่เห็นเพื่อนจึงคว้าปืนมามองลงไปด้านล่าง พลันสายตาก็เห็นเพื่อนกำลังไต่พะองเดินไปหาหญิงสาวคน หนึ่ง ในมือเธอมีถือห่อผ้า ทวดตัดสินใจยิงไปที่ห่อผ้าก่อนที่เพื่อนจะเดินไปถึง ทันใดนั้นหญิงสาวก็กลายร่างเป็นเสือกระโจนหนีเข้าป่า เพื่อนทวดวิ่งไต่ขึ้นพะองอย่างรวดเร็ว รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่เสือสมิงไม่ได้หายไปไกลนัก ยังคงวนเวียนคำรามขู่อยู่รอบห้างๆ ได้กลิ่นสาบเสือโชยมาเป็นระยะ ทวดเห็นไม่ได้การจึงหยิบควายธนูมาจากในย่าม ท่องคาถาปลุกและปล่อยไป ทันใดนั้นวัวเล็กที่ทำจากดินศักดิ์สิทธิ์พอคลั่งก็กล ายเป็นตัวใหญ่มหึมา พุ่งลงจากห้างดุจธนูออกจากแล่งเข้าห้ำหั่นกับเสือสมิ งอย่างอาจหาญ เสียงการต่อสู้ดังลั่นป่า ในที่สุดเป็นเสียงเสือร้องบาดเจ็บอย่างโหยหวน รุ่งเช้าทวดลงมาตรวจดูบริเวณนั้นเห็นร่องรอยการต่อสู้ราบเป็นแปลง พร้อมกับเสือตัวใหญ่นอนตายไส้ทะลัก ถูกขวิดพรุนไปทั้งตัวถัดไปเห็นควายธนูตัวเก่งยืนอยู่อย่างสง่า ”

“เรื่องของข้าก็จบลงแล้ว ตาแกล่ะ ไอ้เร็กซ์”

“โหเฮ้ย ! เล่าอะไรของเอ็งเนี่ย ไอ่จ่าซั่ม ไม่เห็นมีผีเผอซักกะตัว เอาๆๆๆ จะเล่าเรื่องต่อแล้วก็ได้วะ พูดจบชายหนุ่มจึงกระดกเบียร์ที่ยังคงเย็นเจี๊ยบเข้าปากหลายอึกใหญ่ๆ ก่อนจะเช็ดปากแล้วพูด


“วันนี้วันศุกร์ 13 ใช่มั้ย....ข้าจะเล่าเรื่องนี้แหละ”


แต่ในความสุขของทั้งสามคนนั้นกลับมีความทุกข์ของคนสองคนอยู่แทนที่

หนทางที่เขาวิ่งมานั้นถูกบดบังไปด้วยสายฝนที่ลงถี่ยิบจนแทบไม่ให้โอกาสลืมหูลืมตา


“ไอ่ห่าเอ้ย ไปทางไหนวะเนี่ย?” วินด์สบถพร้อมเอามือป้องหน้าเพื่อป้องกันฝนกระทบกับดวงตา สายตาก็สอดส่ายไปหาหนทางเบื้องหน้าในระหว่างรอเลิฟคุงที่มัวสาละวนกับการต่อสายไฟใหม่ในกระท่อม และเขาก็พลันไปสะดุดตากับเงาอะไรบางอย่าง ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน...............



“รู้จักเจสันมั้ย?” เร็กซ์ที่กำลังจะเล่าเรื่องได้ถามทุกๆคน

“เจสัน ยัง เหรอวะ?” จ่าซัพรีบตอบมาทันที แต่คนถามก็ส่ายหน้าแสถงถึงคำว่าไม่ใช่

“เจสัน โรเบิร์ต กองหน้าแบล็คเบิร์นรึเปล่าวะ?” ไฟฟ์ตอบแบบแทบจะไม่คิดอะไรซึ่งก็โดนจ่าซัพโบกหัวไป 1ทีตามระเบียบ

“เจสัน วอร์ฮีส เว้ย เจสันศุกร์ 13 ไง”

“อ๋อ”

“ฆาตกร เจสัน วอร์ฮีส์ ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์”

“อ่าว แล้วเอามาทำไมในเมื่อมันเป็นภาพยนตร์” ไฟฟ์พูดขัดอีก เร็กซ์มองไปทางจ่าซัพ เหมือนเขาจะรู้งานจึงซัดเข้าไปอีกทีที่หัวเน้นๆ


“ เจสัน วอฮีร์ เป็นเด็กพิการ หน้าตาน่าเกลียด โดนเพื่อนแกล้งจนจมน้ำตาย เหตุการณ์ เริ่มต้นที่แคมป์คริสตัล เลค ที่ซึ่งเคยมีคนถูกฆ่าตายเมื่อนานมาแล้วจนแคมป์ต้องปิดไป แล้วหลายปีต่อมา เจ้าของก็อยากจะเปิดมันอีกครั้ง จึงมีการจ้างวัยรุ่นหนุ่มสาวมากมายมาช่วยกันปรับปรุงแคมป์ให้พร้อมสำหรับการ เปิดใหม่ ในวันศุกรที่ 13... ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างได้ปลุกให้เจสันตื่นขึ้นมาแล้วการฆ่าก็เริ่มต้นขึ้น กลุ่มวัยรุ่นคะนองถูกฆ่าโดยอาวุธต่างๆ นาๆ เช่นโดยขวาน และเครื่องมือทำสวนชนิดต่างๆ ฉากการฆ่านับว่าโหดทีเดียว แทงกันจะๆ เฉาะกันสดๆ ที่สำคัญ....มีข่าวว่าคนพวกนั้นตายกันจริงๆซะด้วยสิ”
ทันทีที่เร็กซ์เงียบเสียงปุ๊บ จ่าซัพก็ถามขึ้นมาทันที

“คิดว่ามันจะมีจริงๆเหรอวะ กับไอ่ที่มาจากหนังเนี่ย?”

ก่อนที่เขาจะตอบนั้น ได้ยกเบียร์ขึ้นกระดกอีกครั้งแล้วค่อยๆพูด “เพื่อนของผมตายที่ทะเลสาบนั่น”

คำพูดของเขาทำเอาบรรยากาศ เงียบลงไปแม้แต่ไฟฟ์ที่ดูสนุกสนามตลอดเวลาก็พลอยเงียบไปด้วย จนกระทั่งมีแสงฟ้าแลบเกิดขึ้น และเสียงฝีเท้าหนักๆย่ำโคลนอยู่ข้างล่าง
ทันใดนั้นพวกเขาก็คิดในเรื่องเดียวกันและแทบจะลุกออกไปในทันที

“ไอ่เชี่ยวินด์ ไอ่เลิฟคุง”

ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายนั้น สายตาของเขาพลันไปเห็นร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าบ้าน ผมสีดำของเธอยาวปรกหน้าตาจนดูไม่ออกว่าเป็นใคร และตอนที่เขาเผลอเดินออกไปนั่นเองก็มีร่างสูงร่างหนึ่งเดินมุ่งตรงไปทางกระท่อมที่เลิฟคุงกำลังสาละวนต่อสายไฟอยู่


“ต้องพันแน่นกว่านี้ เทปพันสายไฟก็ไม่มี บัดซบเอ้ย!” เลิฟคุงสบถอย่างหัวเสีย ปากก็บ่นไป มือก็พันผ้าเข้ากับสายไฟที่ขาดสะบั้น และไม่กี่อึดใจประตูกระท่อมก็เปิดออกช้าๆ

แอ้ด !!!

“ไอ่เชี่ยวินด์ ไปไหนมาวะ?” เขาหันหน้าไปคุยกับเพื่อนรักแต่......สิ่งที่เขาเห็น...นั่นมันไม่ใช่เพื่อนรักเขานี่หว่า !!!

เพราะสิ่งที่เขายืนประจันหน้าอยู่นั้นเป็นชายร่างสูงใหญ่ สวมใส่เสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่ง มือถือมีดโบวี่ขนาดเขื่องๆไว้ในมือส่วนมืออีกข้างนั้นเป็นโซ่ยาวที่จับไปด้วยตะไคร่
ใบหน้าสวมหน้ากากซึ่งยากจะคาดเดาใบหน้า


“เฮ้ย เจสัน มราซ !!!!! (Jason Mraz คนแต่ง I’m yours)

พูดได้เพียงแค่นั้นมีดในมือของสิ่งที่เร็กซ์เล่ามาก็ได้ฟาดลงมาที่ร่างของเลิฟคุงทันที

ฉวะ!!!

เขายกมือขึ้นป้องกัน แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรนั่นก็เพราะ......

มีหญิงสาวผู้หนึ่งยกมีดขึ้นเสียบตัวของมัน เธอผู้นั้นตะโกนสั่งเลิฟคุงพร้อมกระตุ้นสติไปในตัว

“มีคนสง(ส่ง)เรามาช้วย(ช่วย)นาย ถ่า(ถ้า)ยังไม่ยากตาย ถึงแม๋(แม้)เราจะไม่ใช่เพือน(เพื่อน)กัน เราชือ(ชื่อ) มาซากิ ฮิรุมิ ตอนนี่อย่างวิ้ง(วิ่ง)หนี ตั้งสติ รวบนิ่ว(นิ้ว)ไว้ เอาสายไฟจ่า(จ่อ)มันเลย” (สำเนียงแบบ มาซากิ ฮิรุมิ)

ตอนแรกเขาก็ก้กะจะมีสติอยู่หรอก แต่พอฟังเสียงของเธอและรูปร่างของเธอ และข้อมูลที่เขาเคยได้รัยนั้นแทบทำเอาเขากุมขมับเลยทีเดียว


ชื่อสกุล มาซากิ ฮิรูมิ
2.อายุ 28 ส่วนสูง 200 สัดสวน 35 30 32 เพศ หญิง
สัญชาติ ไทย ยุ้น
3.นิสัย เรือยๆสบายๆ ไร้แก้นสาน ไม่ชอบการใช้กำลังและมักจะช้วยเหลือพวกพ้อง
และภายหลังจะช่วยเหลือ ตัวเอก เพราะเธอจะเลิกเป็น มาเฟีย
และจะเป็นกำลังของตำหรวจในภายหลัง

บัดซบสิ้นดี! สูง 200 เซนติเมตร นี่มันเปรตแล้วโว้ย !!!!

ติดตามชมตอนต่อไปโดยนักเขียน: LoveSeeker ในฐานะของ เลิฟคุง ในเรื่อง

บทที่ 3 โดย:เลิฟคุง

เลิฟถอนหายใจและล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุม “มัวห๋า(หา) อะไรเล้า(ล่ะ) ช้อท(ช็อต)มันเร็วๆสิ” เธอพูดต่อด้วยสำเนียงเน่อๆของเธอ เลิฟไม่สนใจเพียงแต่หาสิ่งที่เขาต้องการ

“เจอแล้ว” เขาพูดและล้วงเอาบางอย่างที่เหมือนเท็ปเล็ทออกมา “Character Editor” เขาพูดและยิ้ม ก่อนรัวปุ่มบนแท็ปเล็ท ฮิรูมิถูกแรงบางอย่างยกขึ้นจากพื้น แขนสองข้างถูกดึงจากกัน เวลานี้เธอลอยอยู่ในท่าเหมือนถูกตรงกางเขน “เอาล่ะ” เขาพูดและเอาแท็ปเล็ทใส่กระเป๋า “ดูสิ เริ่มจากตรงไหนดี” ชายร่างใหญ่ภายใต้หน้ากากฮอกกี้มองเขาด้วยท่าทางคนงง

“เฮ้ย เจสัน นายคิดว่าเริ่มจากตรงไหนดี” เขามองเลิฟและเอามือวางบนหัวของตัวเอง

“ส่วนสูง” เจสันไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้า

“ตกลง” เขาพูดและล้วงเอาวัตถุกลมๆจากกระเป๋ามาสวมที่นิ้ว และเอาอันที่ใหญ่ที่สุดวางไว้ใต้เท้าของฮิรูมิ ภาพฮาโลกราฟเป็นตารางโผล่ขึ้นมาหลังฮิรูมิ แสงสีเขียวเริ่มสแกทเธอซ้ำๆจากซ้ายไปขวา รูปจำลองแบบฮาโลกราฟ เลิฟเริ่มหมุนแบบจำลองฮาโลกราฟ ซึ่งตวฮิรูมีก็หมุนตาม

“เครื่องมือแก้ไข” เขาพูด “เอาล่ะ ผู้หญิง 200 ซม. ไม่น่ารักเลยสักนิด เขาพูดและบีบแบบจำลองของเธอจนมีความสูงลดลง “หน้าอกใหญ่ไปว่ะ มันไม่โลลิ” เขาขยายภาพบริเวณอก และนำเข็มจากเสื้อคลุมออกมาจิ้มที่หน้าอกของฮาโลกราฟจนแฟบลง “บั้นท้ายใหญ่ไป” เขาพูดและบีบบริเวณสะโพกของฮาโลกราฟ “เรียบร้อย” วัตถุทรงกลมที่ใต้เท้าของฮิรูมิพ่นควันออกมาจนไม่มีใครเห็นอะไร

“แค็ก แค๊ก แค็ก” เสียงของใครบางคนไอดังขึ้นภายในกลุ่มควัน ควันค่อยๆจางหาย เผยให้เห็นฮิรูมิในอุดมคติของเลิฟคุง ผู้ซึ่งสูงเพียง 149 ซม. หน้าอกแบบราบ ตะโพกไม่ผาย “แบบนี้ค่อยโลลิหน่อย” เขาพูดและหันไปหาเจสัน “จริงไหม เจ...” คำพูดของเขาถูกหยุดเมื่อเจสันไม่ได้อยู่ที่ที่เคยอยู่

“งานเข้า” เขาพูดเบาๆ เขารู้สึกบางอย่าง บางอย่างอยู่ข้างหลัง

“ระวังหลัง” ฮิรูมิพูด แต่อโลนไวกว่าเจสันมาก เขาล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมและชักเอาของทรงกระบอกออกมา เขากดปุ่มบนนั้น ลำแสงสีแดงพุ่งออกจาวัตถุนั้นยาวประมาณเมตร เขาฟาดลำแสงนั้นใสกลางตัวของเจสันจนตัวของเจสันขาดเป็นสองท่อน “ฝันดี” เขาพูดส่งท้าย “ไอ้วินด์ เอ็งหายไปไหนวะ” เขาตะโกน และเดินออกไปจากกระท่อมอย่างหัวเสีย ทิ้งให้ฮิรูมิเวอร์ชันโลลิตา คอมเพล็กซ์อยู่ในกระท้อมเพียงลำพัง

“ไอ้วินด์” เสียงของเลิฟคุงเรียกเขามาจากด้านหลัง เขาละสายตาจากหญิงสาวในสายฝนมองไปยังเลิฟ “ทำหอกอะไรวะ ทำไม่มีดูหลังให้ข้า”

“เออ...”วินด์อึกอักและส่องไฟฉายไปยังจุดที่เขาเห็นหญิงสาวผมยาว “ไม่รู้สิวะ เหมือนเห็นบางอย่าง”

“อะไรวะ” เลิฟถามและเก็บไลท์เซเบอร์เข้าไปในเสื้อคลุม

“ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว”

“แล้วแกจะรอให้ปอดบวมรึไง เข้าบ้านเถอะ”

“ตกลง” วินด์พูด แต่ในใจเขายังคงคิดถึงเรื่องของหญิงสาวคนนั้น ทั้งสองเดินเข้าบ้าน ถอดเสื้อคลุมฝน และนำไฟฉายวางไว้บนโต๊ะ และเปิดไฟ ชายหนุ่มสามคนในบ้านหลับตาลงพร้อมขยี่ตาหนีจากแสงจ้า เสียงบางอย่างดังขึ้นเบาๆจากเสื้อคลุมของเลิฟ

“ปิดไฟหา(เซ็นเซอร์)พวกเอ็งหรอวะ” วินด์พูดแบบหัวเสียก่อนจะนั่งลงบนโซฟา ก่อนหยิบเบียร์ขึ้นมาโยนให้เลิฟ

“ขอบใจ” เลิฟไม่รอช้าเปิดดื่มอย่างรวดเร็ว เขามองไปทางเร็กซ์ด้วยความแปลกใจ ทั้งๆที่รถของเขายางแตกอยู่ เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร “เร็กซ์ แกมาไงวะ รถยางแตกไม่ใช่หรอ” เสียงของอุปกรณ์ในเสื้อเชิร์ตของเขา

“ก็แค่ วิทยุบอกยานเอนเตอร์ไพรซ์ให้บีมข้ามาที่บ้านนี่” เร็กซ์ตอบ “เสียงโทรศัพท์แกรึเปล่าเลิฟ”

“นั่นสิ”จ่าซัพพูด

“ของฉันไม่ใช่เสียงนี้นะจ่า” เขาตอบ

“ฉันว่ามาจากตัวแกนั่นแหละ” ไฟฟ์พูดพร้อมจิบเบียร์ เลิฟขมวดคิ้วและล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเชิร์ต

“อ๋อ” เขาพูดพร้อมมองดูอุปกรณ์รูปร่างสี่เหลี่ยมเล็กๆของเขา “เครื่องตรวจจับผี”

“อ้อ แสดงว่ามันเจอผีสินะ” วินด์พูดพร้อมเปิดกระป๋องน้ำอัดลม

“ถูก” เลิฟพูดและกดปุ่มบางอย่างเพื่อปรับตัวรับสัญญาณ “แล้วก็ เรียบร้อย” เขาพูดก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“ผีอยู่ไหนล่ะ” จ่าซัพถาม

“เร็กซ์” เลิฟพูด ทุกคนหันไปมองเร็กซ์และขยับออกห่างเร็กซย์อย่างลนลานจนโซฟาหงาย ทั้งวินด์ จ่าซัพ และวินด์ต่างก็มายืนข้างเลิฟ

“ข้าไม่ใช่ผี” เร็กซ์พูดพร้อมลุกจาโซฟา

“ข้ารู้เร็กซ์”วินด์พูด

“เออ แล้วเอ็งจะหนีไปหา(เซ็นเซอร์)อะไรวะ” เร็กซ์ตะโกน

“เร็กซ์ เอ็งฟังข้านะ” จ่าซัพพูด

“ข้าไม่ฟังโว้ย” เร็กซ์ร้องพร้อมเขวี่ยงกระป๋องเบียร์ลงพื้น

“เร็กซ์” เลิฟพูด

“วะ”

“ผีอยู่ข้างหลังเอ็ง” วินด์พูด เร็กซ์หันหลังกลับ แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาทำให้เขาชะงัก ใบหน้าขาวซีด นัยน์ตาสีแดงฉาน พร้อมชุดกระโปรงสีแดงสด ผมยาวตรงสรวยยาวถึงตะโพก

“นายหลบฉันไม่ได้หรอก” เธอพูดออกมา

“ก็ไม่ได้จะหลบ”เร็กซ์พูด “แค่จะหนี” เร็กซ์หันหลังมาหาพวกวินด์ “ไปก่อนนะ” เขาพูดและเดินอย่างเร็วเข้าไปในห้องครัว

“แอลมา เวดด์”ไฟฟ์พูดชื่อของตัวละครในเกม F.E.A.R.

“กระจายกำลัง”จ่าซัพพูด และทุกคนก็กระจัดกระจายไปคนละทิศทาง


บทที่ 4 โดย:5 day-ago

ทุกต่างกระจายไปคนละทิศคนละทาง แอลม่าเองก็ไม่รอช้า ร่างของเธอค่อยๆหายไปในอากาศ ดูเหมือนว่าเธอจะเล็งใครไว้สักคน

ไฟฟ์กำลังวิ่งออกไปหน้าบ้านโดยไม่สนว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน แต่แม้ฝีเท้าของเขาจะเร็วแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่อาจหนีแอลม่าได้พ้น

“เฮ้ย ขี้โกงงงง” ไฟฟ์ร้องลั่น แถมขาขวาของเขาดันไปสะดุดก้อนหินจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้่น

“นายรู้จักชื่อฉัน…” เธอพูดออกมา พร้อมกับส่งสายตาสีแดงฉานมาทางไฟฟ์ “นายต้องเป็นลูกฉันแน่”

“เฮ้ยยยย ไม่มีทางงง ใครก็ได้ช่วยกูด้วย!!” ไฟฟ์ตะโกนลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือจากใครก็ได้

“เฮ้ยยย แกทำอะไรเพื่อนข้าฟะ” วินด์วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง และสไลด์เสียบขาของแอลม่า จนเธอล้มลงไป

“เผ่น!!” ทั้งคู่ตะโกนออกมาพร้อมกัน พวกเขาวิ่งออกมาจากบริเวณนั้นได้นิดหน่อย เพราะทั้งคู่ได้พบกับผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง สวมแว่น ท่าทางดูโหดร้าย

"กะแก้มแหม่ม!!" วินด์พูดออกมาด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง!

ทางด้านเร็กซ์ ดูเหมือนว่าเขาจะหนีออกไปได้ไกลพอสมควร แต่เขาต้องตกใจเมื่อต้องพบกับ…

“เฮ้ย มาซากิ ฮิรูมิ” เขาร้องลั่น “ทำไมกลายเป็นนี้ฟะ”

“นี๋(นี้)นาย เอาเร๋า(เรา)ลงไปหนอย(หน่อย)” เธอกำลังลอยอยู่กลางอากาศจากฝีมือของเลิพคุง แต่ทว่า

“อะ…” เร็กซ์ชะงักไป เมื่อแอลม่ามายืนอยู่ตรงหน้าเขา “อาม่าาา!!”

เธอยื่นแขนซ้ายของเธอมาจับไหล่ของเร็กซ์ “นายไม่รอดแน่…”

“ต้องรอดสิฟะ ข้าน่ะต้องไปกอบกู้จักรวาลจากผู้รีเปอร์นะเฟ้ย!!” เร็กซ์กล่าวออกมาอย่างห้าวหาญ แต่ขาองเขานั้น สั่นยิ่งกว่าอะไรอีก

“อ่อ จา(จาก)เกม วินนิ่ง ช่าย(ใช่)ปะ” ฮิรูมิที่กำลังลอยพูดออกมา เร็กซ์ได้ยินเข้าจึงใช้ขาซ้ายเตะแอลม่า จนร่วงไปกองอยู่บนพื้น และใช้หมัดขาต่อยไปที่หน้าของมาซากิ ฮิรูมิ อย่างแรง

“แมส เอฟเฟคเฟ้ยยัยบ้า”

“เชี่ยแม้ง โหดกับผู้หญิง” จ่าซัพตะโกนลั่น “เตะแอลม่าคว่ำ ต่อยหน้ามาซากิ ฮิรูมิ…”

“เฮ้ย เอ็งก็อยู่เหรอเนี้ย!” เร็กซ์หน้าซีดไปเล็กน้อย หลังจากที่มีคนมาเห็นวีรกรรมของตัวเขาเอง

จ่าซัพโดนโบกไปหนึ่งดอกจากเลิพคุง

“เอ็งก็ไปว่าเขา…” เลิพคุงนิ่งไปซักพัก จากนั้นทั้งจ่าซัพและเลิพคุงก็ฮาแตกออกมา “ฮ่าๆๆๆ โหดกับผู้หญิง ฮ่าๆๆๆๆ”

“หนอยย พวกแกกก” เร็กซ์โมโหเลือดขึ้นหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาเห็นอะไรบางอย่าง จึงหันหลังและวิ่งตรงไปด้วยความเร็ว

“ฮ่าๆๆ สงสัยจะอายน่ะ ฮ่าๆๆ” เลิพคุงยังคงหัวเราะต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่า…

“เฮ้ จ่า…” เขาหันมามองข้างหลัง และเจอผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสีฟ้า นั่งอยู่บนม้านั่งในสวนหลังบ้านท่ามกลางฝนที่ตกหนักมากถึงมากที่สุด สีหน้าและสายตาของเขาเต็มไปด้วยความหื่น… “ยาราไนก๊ะ!”

“จ๊ากกกก เชี่ยแล้วกู…” เลิพคุงร้องลั่น ดูเหมือนว่าเขาใกล้จะได้ค้นพบสัจธรรมแห่งชีวิต

“เฮ้ย จ่าซัพหายไปไหนฟะเนี้ย!!” เลิพหันไปดูอีกที ก็พบว่า จ่าซัพได้วิ่งตามเร็กซ์ไปแล้ววว จากนั้นเลิพคุงก็วิ่งตามสองคนนั้นไปโดยไม่สนว่าอากาศจะหนาวเย็นจากฝนแค่ไหน “เฮ้ยรอด้วยยยย”

บทที่ 5 โดย: ท่านหญิง StormWind

สายตาของชายหนุ่มเบิกกว้าง ความคิดทุกอย่างดับวูบลงไป ไม่สนใจแม้กระทั่งเพื่อนรักที่โกยอ้าวไปด้วยความเร็วจนแทบจะทิ้งเขาไว้แล้ว

“กะ...แก้มแหม่ม!” นั่นเป็นคำพูดเดียวที่หลุดมาจากปากของวินด์

หญิงสาวยิ้มอย่างหาความหมายไม่ได้ ผมยาวเป็นมันปลาบเมื่อมีฟ้าแลบปรากฏขึ้น บรรยากาศรอบกายดูคุกรุ่นขึ้นตรงข้ามกับความเย็นของสายฝนที่ตอนนี้เริ่มจะสร่างซาลงบ้างแล้ว

“แหม่มมาทำตามสัญญา......” หญิงสาวพูดเสียงยานคาง ชุดเดรสสีดำที่เธอสวมใส่นั้นช่วยปลุกบรรยากาศหลอนประสาทได้ดีขึ้นเป็นอักโข เธอนิ่งไปสักพักจึงพูดอีกครั้งด้วยประโยคเดิม

“แหม่มมาทำตามสัญญา”

เมื่อตาสีเหล็กประสานกับดวงตาหม่นหมองของหญิงสาวนั้น ภาพเก่าๆเริ่มย้อนกลับมาในมโนความคิดของชายหนุ่ม


“เราจะรักกันตลอดไป” ชายหนุ่มนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักของหญิงสาวหน้าตาน่ารัก สวมแว่นสีฟ้าสดใส ซึ่งหญิงสาวเองก็ยิ้มบางๆ พลางลูบหัวชายหนุ่มที่เธอรัก

เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนกระทั่งเธอก็ได้เอ่ยขึ้นมา

“ถ้าพี่ทิ้งแหม่ม แหม่มจะเป็นผีมาเอาพี่ไปด้วย” เธอพูดแบบนั้นซึ่งชายหนุ่มก็รับคำอย่างง่ายดาย

“ครับ แต่ว่า....ไม่มีทางหรอกนะ”


นั่นคือสิ่งที่ปรากฏในความคิดของชายหนุ่มพร้อมกับสติที่ดับวูบลงไป.....อาจจะตลอดกาล


ส่วนทางฝ่ายสามคนที่วิ่งหนีไปนั้นเมื่อเห็นว่าได้ระยะทางที่ไกลพอสมควรแล้วจึงเริ่มวางแผนขั้นต่อไปท่ามกลางสายฝน

“เฮ้ย เอาไงดีฟะ? ไอ่วินด์ กับ ไอ่ ไฟฟ์ มันหนีกันไปคนละทางอ่ะ?” เร็กซ์เอ่ยถามด้วยเสียงหอบ ตอนนี้เสื้อผ้าของทุกคนนั้นเปียกหมดแล้ว ไม่เหลือส่วนใดที่แห้งเลย และเริ่มรู้สึกแย่ไปพร้อมๆกันด้วย

“นั่นดิ เอาไงดี? หรือจะเรียก ‘ผู้ชายคนนั้น’ ?” ทันทีที่เลิฟคุงพูดชื่อนี้ออกมาทุกคนถึงกับหน้าถอดสี.... จะเอาจริงเหรอวะเนี่ย?

“ไม่ดีมั้ง ? จ่าล่ะ ว่าไง?” เร็กซ์โบ้ยไปให้จ่าซัพซึ่งเขาก็ล้วงเอา ‘ของ’ ที่ใช้เรียกชายคนนั้นออกมาทันที

“ไม่มีทางเลือก” จ่าซัพพูดพร้อมกับบรรจุกระสุนเข้าไปในกระบอกปืนที่ใช้ในการเรียกชายปริศนาอย่างใจเย็น

พลางจ้องมองสายฝนแล้วพูดเบาๆ “ขอให้ใช้ได้ทีเท๊อะ พ่อเจ้าประคุณ”

ปัง !
ทันทีที่กระสุนออกจากรังเพลิงนั้นมันก็เปล่งแสงออกมาตามหน้าที่ แสงไฟพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าเป็นประกายเจิดจ้า แสงนั้นช่วยทำให้ ‘ชายผู้นั้น’ มองเห็นชัดเจน ไม่มีใครใช้กระสุนส่องแสงพร่ำเพรื่อแน่ๆ

เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบจัดเตรียมสัมภาระให้พร้อมแล้วรีบไปยังที่ที่ต้องการความช่วยเหลือทันที



ด้านเต้ที่เตลิดวิ่งเข้าไปในป่าลึกจนเหนื่อยแล้วก็ทรุดกายลงนั่งกับโคลนแฉะๆแล้วพึมพำขึ้นมา

“วินด์ ***ว่ามันจะตามเรามามั้ยวะ?”

................เงียบ ไม่มีเสียงตอบจากเพื่อนรัก เมื่อเขาหันไปก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า ทำเอาหัวใจของเขาหายวาบลงไปกองที่ตาตุ่ม...... ไอ้วินด์หายไป !!

ไวเท่าความคิด ร่างกายของเขารีบกระโจนย้อนกลับไปยังทิศทางที่จากมาซึ่งเขาจำได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าขาจะล้าสักแค่ไหน จะเปียกปอนสักเท่าไหร่ แต่เขาต้องเอาเพื่อนรักกลับมาด้วยให้ได้

แต่เมื่อไปถึง เขาก็ต้องตกใจถึงขีดสุดและรีบหลบเข้าข้างทางทันที

เพราะตรงเบื้องหน้าของเขามีหญิงสาวในชุดกระโปรงสีแดงสด...แอลมา นั่นเอง!

เธอยืนหันหลังให้เขาราวกับกำลังเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง และเขาลองค่อยๆเขยิบกายไปข้างหน้าเพื่อหาต้นตอและก็พบกับหญิงสาวในชุดเดรสสีดำยืนคร่อมร่างของวินด์อยู่

“เอามันมาให้ชั้น มันจะต้องเป็นเหยื่อคืนนี้ของชั้น” แอลมาพูดพลางส่งสายตาอาฆาตดุเดือดไปให้สาวชุดดำ นั่นคือแก้มแหม่มที่ตั้มเคยพูดถึงบ่อยๆนั่นเอง

ว่าแต่...เธอมาที่นี่ได้ยังไงในเมื่อมันเป็นความลับในหมู่เพื่อน หรือว่า.......เธอจะ....!!!

แก้มแหม่มในชุดดำเองก็ไม่ยอมแพ้ เธอสูดลมหายใจเข้าแล้วตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังก้องกรีดป่า

“อย่า ยุ่ง กับ ผัว กู !!!”

สิ้นเสียงของเธอนั้นแอลมาก็หายไปราวกับฝันไป

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเงียบสงบลงแล้วหญิงสาวจึงก้มตัวลงลูบหัวชายหนุ่มเบาๆก่อนจะก้มลงจูบนุ่มนวลเป็นเวลาเนิ่นนาน หลังจากนั้นเธอจึงกระซิบข้างหูชายผู้กำลังสลบเหมือดเบาๆว่า

“แหม่มทำกับคนที่แหม่มรักมากๆไม่ลงหรอกนะ ตอนนี้พี่ไฟฟ์มาแล้ว หวังว่าพี่แกจะดูแลที่รักของแหม่มได้นะคะ”

พูดจบเธอก็ทรุดกายลงเพื่อหอมแก้มวินด์อีกครั้ง แล้วพูดต่อ “ดูแลตัวเองดีๆนะคะที่รักของแหม่ม”

เธอผุดลุกขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากบริเวณนั้น....แต่โชคร้ายที่เธอเดินเข้ามาเฉียดกรายใกล้ไฟฟ์มากเหลือเกิน เขาได้เพียงแต่หลับตาปี๋ภาวนาอย่าให้ผีสาวเห็นเขาเลย

และเมื่อไฟฟ์ลืมตาขึ้นมา ร่างบางก็อันตรธานหายไปเสียแล้ว



ตัดมาทางด้านของเลิฟคุง เร็กซ์ และ จ่าซัพที่ยิงพลุสัญญาณขอความช่วยเหลือไปนั้นไม่นานก็มีแสงปรากฏขึ้นมาจากถนนสายเล็กๆ แสงนั้นช่วยฉายให้เห็นถึงเงาของชายศีรษะโล้นเลี่ยนเดินมาอย่างแช่มช้า

ท่วงท่าสง่างามราวเพิ่งสึกมาก็ไม่มีผิด ท่าเดินนั้นทำเอาเลิฟคุงต้องอ้าปากค้าง ทำเอาเร็กซ์ต้องหลุดปากพูด

“หลวงพี่กีก้ามาช่วยเราแล้ว”

แต่ไม่กี่อึดใจนั้นก็มีเสียงตะโกนล้งเล้งเป็นภาษาชาวเขาขึ้นมาจากด้านหลังซึ่งจ่าซัพที่คุ้นชินกับคนชายแดนนั้นฟังเข้าใจเป็นอย่างดี แปลได้คร่าวๆคือ

“***จะบังทางรถทำไมฟะ ถนนก็แคบ ฝนก็ตก กูจะกลับบ้าน!!!”

บทที่ 6 โดย: เร็กซ์อีกครั้ง

ค่ำคืนนี้อีกยาว น่าแปลกนักเหตุการณ์ไม่คาดฝันผ่านพรึบไปราวกับลมพายุที่กำลังอัดกระหน่ำบ้านไม้หลังโตนี้

“เดี๋ยวๆๆ...นี่พวกแกจะบอกว่าเจอทั้ง ผี เกย์!? เจสัน มราซ...แล้วก็ อาม่า เนี่ยนะ” กีก้าซึ่งตอนนี้สึกเป็นที่เรียบร้อยโดยไม่ทราบสาเหตุกล่าวเนืองๆช้าๆได้ใจความ

“เออดิ!” ทั้งหมดตอบเป็นเสียงเดียวกัน ขณะที่เสื้อยังเปียกโชกด้วยน้ำฝน เช่นกระนั้นก็ยังไร้ซึ่งวี่แววผู้กล้าคนแรกที่จะขึ้นบันไดใช้ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด ทั้งหมดนั่งล้อมวงอยู่กลางบ้านอีกครั้ง โดยมีสมาชิกเพิ่มมาอีกคน

“แล้วไหนพวก***บอกว่าเจอไอเกย์โฉดโหดกระโดดแทงไงวะ!? แล้วมันหายไปไหน” ไฟฟ์หันควับ ฉายแววตาความอยากร้อยากเห็นเป็นลำแสงไปที่ จ่าซัพ เลิฟคุง รวมถึงเร็กซ์

“เฮ่ยๆๆ! ไม่ต้องมามองตูเลยไอสาด” เร็กซ์ตะโกนใส่ไฟฟ์ทันที ที่สายตาแห่งจินตนาการเริ่มทำงาน

“ก็แค่...อยากรู้ว่า...ช่วงล่างพวกเอ็งยังอยู่ครบเว้ย!” ไฟฟ์ท้วงขึ้น

“เออว่ะ! *****หายไปเฉยวิ่งไปวิ่งมาสงสัยหลงทางไปซั่มคนแถวแนวไหล่เขาล่ะมั้ง” จ่าซัพเอ่ยแทรก

“เหตุการณ์ยังกับหนังอะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนี้วะ โทรศัพท์บ้านไม่มีสัญญาณ บ้านบนเขาห่างไกลความเจริญ พายุฝนลูกใหญ่เข้าทั้งที่ไม่เกิดขึ้นมาเป็นชาติล่ะ เซ็งเป็ด...” เลิฟคุงนั่งเกาหัวหงิกๆ ขณะนั่งเปลือยเหลือกางเกงขาสั้นตัวเดียว

“เปรี้ยง..งง!” เสียงฟ้าผ่าลงไม่ไกลจากตัวบ้านนัก ส่งเสียงดังสนั่นราวกับบ้านกำลังสั่นสะเทือน

“ไอเชี่ย!” จ่าซัพตะโกนหลุดปาก

“เห็นอะไรแว่บๆปะตรงนั้นน่ะ” กีก้าชี้ไปบริเวณปลายยอดต้นสนสูงตระหง่าน

“เฮ่ย!? ไหนวะ..หลอกปะเนี่ย” เร็กซ์กล่าวลอยๆ

“นั่นไงไม่เห็นหรืองไงอะไรมันขยับตรงยอด ไม่เหมือนใบไม้เลยว่ะ” กีก้าย้ำอีกรอบขณะจับทิศทางหัวของเลิฟคุงที่นั่งข้างๆให้ตรงไปกับแนวสายตาของตน

“เออๆๆๆ! เห็นล่ะ อะไรอีกวะนั่น” เลิฟคุงพูดขึ้น ปลายยอดต้นสนเริ่มเปล่งประกายแสงสายตาทุกคู่จ้องมองมันราวกับอยู่ในภวังค์

“เฮ่ยๆๆๆ! เป็นไรกันวะ” วินด์เขย่าเพื่อนในวง แต่ไร้ซึ่งปฏิกิริยาโต้ตอบ

“เปรี้ยงง..งง!” แสงฝ่าผ่าสว่างจ้าจนแทบจะไม่เห็นอะไรเบื้องหน้า วินด์ได้แต่ยกมือป้องหน้าไว้อย่างสุดสามารถ

“เกิดอะไรขึ้นวะ!” รู้ตัวอีกทีวินด์ยืนอยู่กลางป่าที่เต็มไปด้วยหิมะ หิมะสีขาวโพลนรวมถึงต้นไม้ที่แห้งกร้านจำนวนมาก ไร้ซึ่งใบแม้แต่ใบเดียว

“ตายๆๆๆๆ! นี่กูหลอนจิตปะวะ” วินด์เอ่ยอยู่คนเดียว น่าแปลกที่ไม่มีแม้แต่แสงจากอาทิตย์ แต่ทุกอย่างกับสว่างในตัวมันเอง ดูน่าขนลุกพิลึก

“แล้วเสื้อผ้า...เปลี่ยนได้ยังไง” วินด์มองไปรอบตัวที่ตอนนี้เป็นชุดกันหนาวหนา พร้อมฮู้ดขนสัตว์ด้านหลัง เหมือนกับประสาททั้ง 5 เริ่มทำงานอีกครั้ง ความเย็นยะเยือกทิ่มแทงไปตามรูขุมขนของวินด์อย่างรวดเร็ว เขารีบยกฮู้ดขึ้นคลุมใบหน้าทันที

“เฮ้ย! เร็กซ์!” วินด์เหลือยเห็นเพื่อนที่กำลังย่ำไปๆมาๆบริเวณตรงข้าม

“อ่าวเฮ่ย!” เสียงเร็กซ์ตะโกนย้อนกลับมา ไม่รอช้าวินด์ดีดตัวออกจากพื้นหิมะหนาทันที

“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะ ไม่เข้าใจเลยว่ะ” เร็กซ์เอ่ยคำถามแรกที่สมควรแก่การหาคำตอบ

“ ตูมม...มม” เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขัดบทสนทนาของทั้งคู่ พื้นเริ่มสั่นอย่างรุนแรง

“กูบอก***แล้ว!ว่าอย่าซื้อบ้านบนภูเขาว้อย!!” วินด์ตะโกนขณะมือทั้ง 2 ข้างกอดกับต้นไม้อย่างแน่นสุดความสามารถ

“ไอห่านน! นี่มันไม่ใช่ภูเขาแล้วเว้ย นี่มันป่าหิมะ! เข้าใจไหมป่าหิมะว้อย! สโนว์ไวท์อะเคยดูป่าว...ววะ!!” เร็กซ์ตะโกนสวนกลับมา

จบเสียงตะโกนแรงสั่นสะเทือนจึงหยุดลงตาม

“ได้เวลาเลิกไร้สาระ แล้วไปตามหาพวกที่เหลือแล้วกลับบ้านกัน ไม่ว่ามันจะกลับทางไหนก็ตาม” เร็กซ์เอ่ยพร้อมเดินนำหน้าไปอย่างมาดพระเอกสุดเท่มหากาฬเกินใคร....

“เท่ตายเลย***” เสียงกระซิบดังขึ้นเบาๆจากคู่หู....

"ได้ยินนะสาด" ...

nakiann123
26th March 2012, 23:11
นั่งรอ ปูเสื่อ เย่ เย่ (ก้นด้านอีกแบ้ว)

ผมว่า ต่อกันคนละวรรคดีไหม มันจะได้ออกทะเลไวๆ :sweat

5day-ago
27th March 2012, 00:19
โอ้ววว น่าสนใจ ผมขอชื่อตามท่านเลย จำง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ไฟฟ์!!

ปล.ฮาแตกตอน "คุณห้าวันก่อน" :rofl


นั่งรอ ปูเสื่อ เย่ เย่ (ก้นด้านอีกแบ้ว)

ผมว่า ต่อกันคนละวรรคดีไหม มันจะได้ออกทะเลไวๆ :sweat

ผมว่าอย่างงี้ก็มีโอกาสออกทะเลสูงอยู่นะ ฮ่าๆๆๆ :rofl

LoveSeeker
27th March 2012, 10:07
ชอบที่ท่านเร็กซ์เรียกผม่า เลิฟคุงอะ เอา "เลิฟคุง"

Stormwind
27th March 2012, 10:11
ผมเอา วินด์ ดีกว่าครับ

น่าจะโอเค พี่ว่าไงครับ?

pone123
27th March 2012, 10:51
งั้นผมก็เป็น จ่าซัพ อ่ะนะ

Rex
27th March 2012, 12:48
โอเค เยี่ยมเลย!


PS. ผมอาจจะใช้ชื่อ ID ของผู้อ่านบางคนด้วยนะ มาเสริมแต่งในเรื่อสักหน่อย

pone123
27th March 2012, 12:54
โอเค เยี่ยมเลย!


PS. ผมอาจจะใช้ชื่อ ID ของผู้อ่านบางคนด้วยนะ มาเสริมแต่งในเรื่อสักหน่อย

เดี่ยวนะท่านเร็ก ไอ้ตัว(ม)ด้านหลังนี่มันอะไรอ่ะ

Rex
27th March 2012, 13:34
เดี่ยวนะท่านเร็ก ไอ้ตัว(ม)ด้านหลังนี่มันอะไรอ่ะ

...จ่าซัม เอ้ย จ่าซัพ ครับ ล้อเล่นน่ะ ฮาๆ เดี๋ยวรออ่านแล้วจะเข้าใจ ฮาา:giveheart

Rex
27th March 2012, 13:41
อัพเดทแล้วนะครับ ที่จริงเกิน A4 ก็ได้นะเข้าใจว่ามันต่อเนื่องเท่าไหร่ก็ได้เลยดีกว่าถ้าอยากให้สนุกๆ

ใครจะเขียนต่อโปรดบอกนะครับ

Stormwind
27th March 2012, 18:40
ตอนต่อไปขอผมจัดการเองครับ

จะจัดแบบสยองๆฮาๆให้ครับ แล้วจะเอาตัวละครไม่คาดฝันมาอีกซักตัว

By Stormwind

Rex
27th March 2012, 19:24
ตามนั้นครับ

pone123
27th March 2012, 19:31
เยสจ่ามาแรกๆเลย 555555

ใช้วิธีการระบุชื่อคนแต่งคนต่อไปหรอครับ

saphira
27th March 2012, 19:50
เออถ้าเราขอไม่ถึง 1 หน่า A4 ด้ไหมอ่ะเผือ จะแอบมาแจม

Rex
27th March 2012, 20:16
ถ้า มาซากิ ฮิรูมิ ไม่มารวมถึงการสะกดคำให้ถูกต้อง ก็ได้นะฮ้าฟฟฟฟ <<แบ๊ว

saphira
27th March 2012, 21:40
ถ้า มาซากิ ฮิรูมิ ไม่มารวมถึงการสะกดคำให้ถูกต้อง ก็ได้นะฮ้าฟฟฟฟ <<แบ๊ว

หมายความว่าไงฟร่ะ ถ้าเรือสะกดคำละก็ เราสง ต้นฉบับให้นายช้วยแก้คำผิดได้ไหมอ่ะ

LoveSeeker
27th March 2012, 22:30
ถ้า มาซากิ ฮิรูมิ ไม่มารวมถึงการสะกดคำให้ถูกต้อง ก็ได้นะฮ้าฟฟฟฟ <<แบ๊ว

Critical damage!

Stormwind
27th March 2012, 22:59
โอ้ไม่นะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

Oh My god what the helll !!!!!!!!!!!!!!!!

GIGABom
28th March 2012, 13:47
อ้อ ท่านเรกซ์ ไม่ได้มาเยี่ยมนาน ผมขอชื่อเป็น กิก้า แล้วกัน ฮ่าๆๆ

LoveSeeker
28th March 2012, 16:13
อ่านแล้วเกือบตกเก้าอี้ =..= ฮามาก!

Stormwind
28th March 2012, 17:40
ทันทีที่เพ่งสังเกตุทำเอาสายตาเปิกกว้างด้วยความแปลกใจ

“ส่องไฟหน่อย” เมื่อเห็นว่าเพื่อนซี้ปึ๊กกำลังเหม่อลอยเขาจึงเน้นเสียงอีกเล็กน้อย

“บอกให้ส่องไฟไงวะ!”

เขาทำตามอย่างว่าง่ายทำให้วินด์ยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่เมื่อพินิจรอยที่สายไฟถูกตัด ดูเป็นรอยขาดสะบั้นราวกับถูกสับด้วยอะไรบางอย่าง.......

“ไม่ได้การล่ะ ไอ่เลิฟคุง รีบไปหาไอ่พวกนั้นเถอะ” พร้อมออกแรงมือตบหัวช่วยกระตุ้นเลิฟคุงหนักๆ

“***ไปเถอะ เดี๋ยวกูต่อสายไฟเอง” เลิฟคุงพูดพร้อมกับคลำหัวป้อยๆ


ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักลงมากระทบกับหลังคา และบรรยากาศเย็นๆนั้น ทำให้ทั้งสามคนเริ่มนึกครึ้มอะไรบางอย่างขึ้นมา

“ปิดไฟเถอะว่ะ แล้วจุดเทียนเอา” พูดจบ จ่าซัพก็ลุกขึ้นมาเปิดกล่องที่เก็บเทียนแล้วยกมาวางไว้ตรงหน้าของทุกคน นั่นทำให้ทุกคนล้อมวงกันมาฟังเรื่องเล่า ส่วนไฟฟ์ที่อยู่ใกล้ไฟที่สุดนั้นก็รู้งาน
รีบลุกไปปิดไฟแล้วกลับมานั่งทันที

“ใครจะเริ่มก่อน?” เร็กซ์เอ่ยถามพลางควักซิปโป้ออกมาจุดไฟต่อไส้ให้เทียน

สายตาของทุกคนจ้องกันเป็นมันประกาย ในหัวเริ่มคิดเรื่องสยองที่เขาได้เคยเจอมากับตัว ก่อนจะมีผู้กล้าพูดขึ้นมาก่อน

“ให้จ่าซั่ม” เป็นไฟฟ์นั่นเอง

แต่เจ้าตัวก็รีบพูดขัดขึ้นมาทันทีทันใด

“เฮ้ยๆๆๆๆ ของดีต้องเอาไว้ตอนสุดท้ายเว้ย เอ็งนั่นแหละ ไอ่ไฟฟ์ เล่าก่อนเลย” การตัดสินใจนั้นก็ลงเอยด้วยการพยักหน้าของเร็กซ์นั่นทำให้เขาจำยอมอย่างมีเหตุผล

“ง่า....ก็ได้ ตั้งใจฟังดีๆนะ”


“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผมเอง ผมได้เดินทางไปปฏิบัติงาน ณ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นการเดินทางออกจากบ้านครั้งแรก ก่อนไปผมได้ให้พนักงานที่นั้นหาบ้านเช่าให้ เมื่อผมเดินทางไปถึงเจ้าของบ้านบอกว่าบ้านยังไม่ได้ทำความสะอาด ต้องทำเอง พวกผมก็ตกลงกันว่ารับผิดชอบคนละห้อง เมื่อผมเลือกห้องที่ต้องการได้แล้ว ก็เปิดประตูเข้าไปทำความสะอาด ภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า ธูปที่ปักอยู่เต็มห้อง คราบน้ำตาเทียน รวมไปถึงร่องรอยที่ปรากฎอยูในห้องทำให้ผมขนลุกซู่เลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เราจำเป็นต้องอยู่ทำให้ผมไม่ได้คิดอะไร ทำความสะอาด ปัดกวาด ก่อนนอนผมก็กราบพระเป็นประจำทุกวันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยความคะนองทำให้ผมไม่รู้สึกอะไร แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นกับผมจนได้ ครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนมีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวเนื้อดำแดง เปิดประตูห้องผมเข้ามาทั้ง ๆ ที่ผมล๊อคประตูเรียบร้อยก่อนนอน แล้วพูดด้วยเสียงดังกังวาลว่า ฝากดูแลบ้านด้วยต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้านน้ำแห้งขอดแล้ว เติมน้ำด้วย ผมสะดุ้งตื่นแน่นอนผมรีบออกไปดูต้นไม้ ผมแทบเป็นลม ต้นไม้นั้นน้ำแห้งขอดจริงอย่างที่บอก ผมเล่าให้พี่ข้างห้องฟัง ก็ต้องแปลกใจอีกครั้งหนึ่งเมื่อพี่เขาบอกว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงเหมือนคน เดินลากโซ่หรืออะไรหนัก ๆ เสียงดังครืด ๆ ๆ แล้วก็มาหยุดที่หน้าห้องผม แล้วเสียงก็หายไป สักพักได้ยินเหมือนเสียงเดินออกจากห้องผมไปด้านหลังบ้านที่เป็นห้องเก็บของ ผมสอบถามจากชาวบ้านข้างเคียงได้ความว่า บ้านหลังนี้เดิมเจ้าของเป็นตำรวจเมื่อท่านเสียชีวิต ได้นำศพฝังหรือเผาไม่ทราบได้ในบริเวณสวนข้าง ๆ บ้าน ซึ่งห้องที่ท่านอยู่คือห้องผมและสวนก็อยู่ด้านข้างกับห้องพักของผม ผมรีบตื่นเช้าไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ท่าน เรื่องนี้อยากบอกว่าก่อนที่เราจะเข้าไปอยู่ในห้องพัก ควรสืบประวัติของห้องให้ดีก่อนที่คุณจะเจอกับสิ่งที่ผมได้เจอ”


“โอ้โห.....ดีไม่เป็นผีทหารนะนั่น” เร็กซ์เอ่ยขึ้นมาพลางมองไปทางจ่าซัพด้วยสายตาแปลกๆ แต่ก่อนที่เจ้าตัวจะทันได้ทำอะไรนั้นก็ปรากฏเสียงแปลกๆดังขึ้น ทำเอาทุกคนต้องเงียบไปตามๆกัน

ครืดดดด ครืดดดด ครืดดดดดด!!!!

แต่ไม่นานเสียงปริศนานี้ก็เงียบลงไปเหลือเพียงเสียงของสายฝนที่ยังคงตกลงมาไม่ขาดสาย

“มาๆ เล่าต่อๆ ตาแกแล้ว ไอ่เร็กซ์” ไฟฟ์ที่เล่าจบไปใช้ศอกถองสีข้างเพื่อนรักให้เล่า แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าตัว

“ไม่ดีกว่าว่ะ ของกูเด็ดกว่า ขอเล่าตอนท้ายแล้วกัน ให้จ่าซั่มเล่าก่อน”

“เฮ้ย จ่าซัพเว้ย” จ่าซัพตอบพร้อมกับนึกเรื่องสุดสยองไว้ในใจแล้วยิ้มกริ่ม งานนี้พวก***ได้สยองสมใจแน่!

เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อลายพรางแล้วหญิงเอากล่องบุหรี่สีเขียวออกมาแล้วจุดไฟ อัดควัณเล็กน้อย

“แล้วจ่าจะจุดบุหรี่ทำไมวะเนี่ย? ทำร้ายคนทางอ้อมเรอะ!!” เป็นเต้ที่พูดขึ้นมาก่อนเร็กซ์

แต่เจ้าตัวก็ส่ายหน้าบางๆแล้วให้คำตอบว่า “สร้างบรรยากาศเว้ย”

“เคยได้ยินเรื่อง ‘สมิงพราย กับ ควายธนู’ มั้ย? นั่นแหละ ข้าจะเล่าให้ฟัง”




“วัวธนู หรือบางแห่งเรียกว่า ควายธนู เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะมีควายมากกว่า เป็นเครื่องรางโบราณของคนในภูมิภาคนี้อีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมสร้างสืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตเป็นเครื่องรางที่จำเป็นของพรานป่าที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวพันกับผืนป่าในสมัยที่ยังอุดมสมบูรณ์”

จ่าซัพนิ่งไปสักพักปล่อยให้กลิ่นของบุหรี่นั้นลอยไปแตะกับจมูกของแต่ละคน สีหน้าและแววตาของเขานั้นดูจริงจังต่างกับปกตินัก แล้วจึงพูดต่อ


“ไม่มีประวัติการสร้างที่แน่นอนนักว่าเริ่มตั้งแต่สมั ยใด แต่ก็พบเห็นกันตามบ้านชาวชนบททั่วไป เล่ากันว่า นอกจากนิยมใช้พกพาติดตัวเข้าป่าล่าสัตว์คนดีมีวิชาอาคมยังสร้างวัวธนูไว้รับคุณไสยที่ถูกส่งมาลองดีจากคนมีวิชาอาคมต่างถิ่น
เมื่อเป็นเด็กข้าเคยเห็นควายปั้นปิดทองบนหิ้งพระของปู่ด้วยความสงสัยจึงถามว่า
“ทำไมปู่เอารูปไอ้หลาง(ควายคู่ทุกข์คู่ยากของปู่)มาบูชาหรือปู่นับถือควายซะแล้ว”
“ไม่ใช่รูปไอ้หลางโว้ยนี่เป็นควายธนูของกายสิทธิ์อย่าไปถูกต้องเป็นเด็ดขาด”
“ทำไมถูกไม่ได้มันอยู่บ้านเราแท้ๆไม่เห็นมีธนูสักอัน”
“ถูกแล้วมันจะเข้าตัวเอาจุกแน่นท้องตายไม่มีใครช่วยได้จะบอกให้ห้ามเป็นคำขาดเข้าใจไหม”

ข้าโชคดีอยู่อย่างมีลุง อา ตา ปู่ ที่ใจดีน่ารัก ไม่มีใครรำคาญความช่างซักช่างถามของข้า และจะอธิบายเล่าให้ฟังด้วยความเมตตาเสมอ ราวกับจะรู้ว่าหลานรักจะได้เอามาเล่าหากินในอนาคต ปู่เล่าว่าควายธนูตัวนี้เป็นสมบัติตกทอดมาจากทวดอีกท ีหนึ่ง พร้อมกับห้ามผมถามว่าทวดเอามาจากไหน เพราะแกไม่คิดว่าจะมีหลานช่างซักช่างถามเลยไม่ได้ถามเผื่อไว้เอาเป็นว่าฟังเฉยๆ

ควายธนูตัวนี้เคยช่วยชีวิตทวดและเพื่อนที่เป็นพรานป่าไว้หลายหน ครั้งหนึ่งทวดเข้าป่ากับเพื่อนบ้าน 2 คน ทำห้างดักยิงสัตว์ที่มากินดินโป่งในป่าลึกแถบเมืองกาญจน์ เรียกกันว่าซุ่มโป่ง ดินโป่งเป็นดินเค็มที่สัตว์จำพวกเนื้อ เก้ง กวาง หรือกระทิงป่า ชอบมากิน พวกพรานมักจะมาดักยิงที่นี่ ทวดกับเพื่อนผูกห้างอยู่บนคาคบไม้สูงเพื่อป้องกันตัว เองให้พ้นภัยจากสัตว์ร้าย เช่น เสือ สาง ผมอดไม่ได้ถามปู่ว่าเสือนั้นเคยรู้จัก แต่สางนั้นตัวแบบไหนหรือ แกบอกว่ามันร้ายกว่าเสือมากนัก เพราะสางเป็นผีวิญญาณร้ายของเสือ เรียกกันว่า เสือสมิง มันสามารถแปลงกายเป็นคนได้ และมักจะแปลงเป็นคนที่พรานบนห้างรู้จัก หรือไม่ก็แปลงเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยงาม มากวักมือเรียกให้ลงจากห้าง ถ้าพรานป่าคนใดหลงกล หรือว่าหลงความสวย ก็จะถูกเสือสมิงทำร้ายเอาถึงตายได้ ปู่เล่าว่าเสือสมิงคือเสือที่กินคนมามากจนวิญญาณคนที ่ตายสิงสู่อยู่ในร่าง กลายเป็นวิญญาณร้าย สามารถแปลงเป็นคนได้ แต่ไม่ได้เกิดจากวิชาอาคม เป็นเพียงการอิงอาศัยกันอย่างลงตัวของเสือและวิญญาณผู้ตายเท่านั้น วันนั้นหลังจากทวดเปลี่ยนเวรให้เพื่อนเฝ้าและงีบหลับ ไป โดยนอนหนุนย่ามที่มีควายธนูและของขลังต่างๆ อยู่ ทวดรู้สึกว่าควายธนูในย่ามมีอาการเคลื่อนไหว จึงตื่นขึ้น มองไม่เห็นเพื่อนจึงคว้าปืนมามองลงไปด้านล่าง พลันสายตาก็เห็นเพื่อนกำลังไต่พะองเดินไปหาหญิงสาวคน หนึ่ง ในมือเธอมีถือห่อผ้า ทวดตัดสินใจยิงไปที่ห่อผ้าก่อนที่เพื่อนจะเดินไปถึง ทันใดนั้นหญิงสาวก็กลายร่างเป็นเสือกระโจนหนีเข้าป่า เพื่อนทวดวิ่งไต่ขึ้นพะองอย่างรวดเร็ว รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่เสือสมิงไม่ได้หายไปไกลนัก ยังคงวนเวียนคำรามขู่อยู่รอบห้างๆ ได้กลิ่นสาบเสือโชยมาเป็นระยะ ทวดเห็นไม่ได้การจึงหยิบควายธนูมาจากในย่าม ท่องคาถาปลุกและปล่อยไป ทันใดนั้นวัวเล็กที่ทำจากดินศักดิ์สิทธิ์พอคลั่งก็กล ายเป็นตัวใหญ่มหึมา พุ่งลงจากห้างดุจธนูออกจากแล่งเข้าห้ำหั่นกับเสือสมิ งอย่างอาจหาญ เสียงการต่อสู้ดังลั่นป่า ในที่สุดเป็นเสียงเสือร้องบาดเจ็บอย่างโหยหวน รุ่งเช้าทวดลงมาตรวจดูบริเวณนั้นเห็นร่องรอยการต่อสู้ราบเป็นแปลง พร้อมกับเสือตัวใหญ่นอนตายไส้ทะลัก ถูกขวิดพรุนไปทั้งตัวถัดไปเห็นควายธนูตัวเก่งยืนอยู่อย่างสง่า ”

“เรื่องของข้าก็จบลงแล้ว ตาแกล่ะ ไอ้เร็กซ์”

“โหเฮ้ย ! เล่าอะไรของเอ็งเนี่ย ไอ่จ่าซั่ม ไม่เห็นมีผีเผอซักกะตัว เอาๆๆๆ จะเล่าเรื่องต่อแล้วก็ได้วะ พูดจบชายหนุ่มจึงกระดกเบียร์ที่ยังคงเย็นเจี๊ยบเข้าปากหลายอึกใหญ่ๆ ก่อนจะเช็ดปากแล้วพูด


“วันนี้วันศุกร์ 13 ใช่มั้ย....ข้าจะเล่าเรื่องนี้แหละ”


แต่ในความสุขของทั้งสามคนนั้นกลับมีความทุกข์ของคนสองคนอยู่แทนที่

หนทางที่เขาวิ่งมานั้นถูกบดบังไปด้วยสายฝนที่ลงถี่ยิบจนแทบไม่ให้โอกาสลืมหูลืมตา


“ไอ่ห่าเอ้ย ไปทางไหนวะเนี่ย?” วินด์สบถพร้อมเอามือป้องหน้าเพื่อป้องกันฝนกระทบกับดวงตา สายตาก็สอดส่ายไปหาหนทางเบื้องหน้าในระหว่างรอเลิฟคุงที่มัวสาละวนกับการต่อสายไฟใหม่ในกระท่อม และเขาก็พลันไปสะดุดตากับเงาอะไรบางอย่าง ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน...............



“รู้จักเจสันมั้ย?” เร็กซ์ที่กำลังจะเล่าเรื่องได้ถามทุกๆคน

“เจสัน ยัง เหรอวะ?” จ่าซัพรีบตอบมาทันที แต่คนถามก็ส่ายหน้าแสถงถึงคำว่าไม่ใช่

“เจสัน โรเบิร์ต กองหน้าแบล็คเบิร์นรึเปล่าวะ?” ไฟฟ์ตอบแบบแทบจะไม่คิดอะไรซึ่งก็โดนจ่าซัพโบกหัวไป 1ทีตามระเบียบ

“เจสัน วอร์ฮีส เว้ย เจสันศุกร์ 13 ไง”

“อ๋อ”

“ฆาตกร เจสัน วอร์ฮีส์ ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์”

“อ่าว แล้วเอามาทำไมในเมื่อมันเป็นภาพยนตร์” ไฟฟ์พูดขัดอีก เร็กซ์มองไปทางจ่าซัพ เหมือนเขาจะรู้งานจึงซัดเข้าไปอีกทีที่หัวเน้นๆ


“ เจสัน วอฮีร์ เป็นเด็กพิการ หน้าตาน่าเกลียด โดนเพื่อนแกล้งจนจมน้ำตาย เหตุการณ์ เริ่มต้นที่แคมป์คริสตัล เลค ที่ซึ่งเคยมีคนถูกฆ่าตายเมื่อนานมาแล้วจนแคมป์ต้องปิดไป แล้วหลายปีต่อมา เจ้าของก็อยากจะเปิดมันอีกครั้ง จึงมีการจ้างวัยรุ่นหนุ่มสาวมากมายมาช่วยกันปรับปรุงแคมป์ให้พร้อมสำหรับการ เปิดใหม่ ในวันศุกรที่ 13... ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างได้ปลุกให้เจสันตื่นขึ้นมาแล้วการฆ่าก็เริ่มต้นขึ้น กลุ่มวัยรุ่นคะนองถูกฆ่าโดยอาวุธต่างๆ นาๆ เช่นโดยขวาน และเครื่องมือทำสวนชนิดต่างๆ ฉากการฆ่านับว่าโหดทีเดียว แทงกันจะๆ เฉาะกันสดๆ ที่สำคัญ....มีข่าวว่าคนพวกนั้นตายกันจริงๆซะด้วยสิ”

ทันทีที่เร็กซ์เงียบเสียงปุ๊บ จ่าซัพก็ถามขึ้นมาทันที

“คิดว่ามันจะมีจริงๆเหรอวะ กับไอ่ที่มาจากหนังเนี่ย?”

ก่อนที่เขาจะตอบนั้น ได้ยกเบียร์ขึ้นกระดกอีกครั้งแล้วค่อยๆพูด “เพื่อนของผมตายที่ทะเลสาบนั่น”

คำพูดของเขาทำเอาบรรยากาศ เงียบลงไปแม้แต่ไฟฟ์ที่ดูสนุกสนามตลอดเวลาก็พลอยเงียบไปด้วย จนกระทั่งมีแสงฟ้าแลบเกิดขึ้น และเสียงฝีเท้าหนักๆย่ำโคลนอยู่ข้างล่าง
ทันใดนั้นพวกเขาก็คิดในเรื่องเดียวกันและแทบจะลุกออกไปในทันที

“ไอ่เชี่ยวินด์ ไอ่เลิฟคุง”


ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายนั้น สายตาของเขาพลันไปเห็นร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าบ้าน ผมสีดำของเธอยาวปรกหน้าตาจนดูไม่ออกว่าเป็นใคร และตอนที่เขาเผลอเดินออกไปนั่นเองก็มีร่างสูงร่างหนึ่งเดินมุ่งตรงไปทางกระท่อมที่เลิฟคุงกำลังสาละวนต่อสายไฟอยู่


“ต้องพันแน่นกว่านี้ เทปพันสายไฟก็ไม่มี บัดซบเอ้ย!” เลิฟคุงสบถอย่างหัวเสีย ปากก็บ่นไป มือก็พันผ้าเข้ากับสายไฟที่ขาดสะบั้น และไม่กี่อึดใจประตูกระท่อมก็เปิดออกช้าๆ

แอ้ด !!!

“ไอ่เชี่ยวินด์ ไปไหนมาวะ?” เขาหันหน้าไปคุยกับเพื่อนรักแต่......สิ่งที่เขาเห็น...นั่นมันไม่ใช่เพื่อนรักเขานี่หว่า !!!

เพราะสิ่งที่เขายืนประจันหน้าอยู่นั้นเป็นชายร่างสูงใหญ่ สวมใส่เสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่ง มือถือมีดโบวี่ขนาดเขื่องๆไว้ในมือส่วนมืออีกข้างนั้นเป็นโซ่ยาวที่จับไปด้วยตะไคร่
ใบหน้าสวมหน้ากากซึ่งยากจะคาดเดาใบหน้า


“เฮ้ย เจสัน มราซ !!!!! (Jason Mraz คนแต่ง I’m yours)

พูดได้เพียงแค่นั้นมีดในมือของสิ่งที่เร็กซ์เล่ามาก็ได้ฟาดลงมาที่ร่างของเลิฟคุงทันที

ฉวะ!!!

เขายกมือขึ้นป้องกัน แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรนั่นก็เพราะ......

มีหญิงสาวผู้หนึ่งยกมีดขึ้นเสียบตัวของมัน เธอผู้นั้นตะโกนสั่งเลิฟคุงพร้อมกระตุ้นสติไปในตัว

“มีคนสง(ส่ง)เรามาช้วย(ช่วย)นาย ถ่า(ถ้า)ยังไม่ยากตาย ถึงแม๋(แม้)เราจะไม่ใช่เพือน(เพื่อน)กัน เราชือ(ชื่อ) มาซากิ ฮิรุมิ ตอนนี่อย่างวิ้ง(วิ่ง)หนี ตั้งสติ รวบนิ่ว(นิ้ว)ไว้ เอาสายไฟจ่า(จ่อ)มันเลย” (สำเนียงแบบ มาซากิ ฮิรุมิ)

ตอนแรกเขาก็ก้กะจะมีสติอยู่หรอก แต่พอฟังเสียงของเธอและรูปร่างของเธอ และข้อมูลที่เขาเคยได้รัยนั้นแทบทำเอาเขากุมขมับเลยทีเดียว


ชื่อสกุล มาซากิ ฮิรูมิ
2.อายุ 28 ส่วนสูง 200 สัดสวน 35 30 32 เพศ หญิง
สัญชาติ ไทย ยุ้น
3.นิสัย เรือยๆสบายๆ ไร้แก้นสาน ไม่ชอบการใช้กำลังและมักจะช้วยเหลือพวกพ้อง
และภายหลังจะช่วยเหลือ ตัวเอก เพราะเธอจะเลิกเป็น มาเฟีย
และจะเป็นกำลังของตำหรวจในภายหลัง

บัดซบสิ้นดี! สูง 200 เซนติเมตร นี่มันเปรตแล้วโว้ย !!!!


ตอนต่อไปใครจะต่อดีครับ????

Stormwind
28th March 2012, 17:42
ลองอ่านไปเรื่อยๆครับ แล้วจะเข้าใจถึงสัจธรรม

By Stormwind

nakiann123
28th March 2012, 18:01
การเขียนต้องมี Subtitle ระบุด้วยแหะ ~ 5555

Stormwind
28th March 2012, 18:08
การเขียนต้องมี Subtitle ระบุด้วยแหะ ~ 5555

กลัวอ่านไม่เข้าใจครับ

pone123
28th March 2012, 18:15
แง เอาชื่อผมไปล้อซะเสียเลยอ่ะ

จ่าซั่ม

Rex
28th March 2012, 18:30
บอกหน่อยนะว่าผมมาถึงตอนไหน เพราะตามเรื่องผมติดเปลี่ยนล้ออยู่นะ..........

ฮาจ่าซั่มโคตรๆ ฮาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา++++

เดี๋ยวๆๆ แล้วเต้เขาโผล่มาจากไหน... เต้=ไฟฟ์ เรอะ หรือยังไร อ่านแล้วตกใจ!คิดว่าเล่นมุก

แก้อีกรอบ *****โคตรฮาเลยครับบบบบบบบบบบบบบบ โอ้ยปวดท้องโคตรๆ นี่ไม่ได้โม้ ไม่รู้ผมเส้นตื้นป่าวนะ ฮาโพดๆๆๆๆๆ

LoveSeeker
28th March 2012, 18:33
ขอรับช่วงต่อครับ~~~~~

Rex
28th March 2012, 18:37
****ดด... นี่มันเปรตชัดๆ!

ps. ผมแก้หน้าแรกให้แล้วนะ ใส่เนื้อเรื่อง+จัดตัวหนาและแก้โค้ดนิดหน่อย แล้วก็ให้เครดิตไว้ตัวเบ่อเริ่มเหิ่มหากาฬ

5day-ago
28th March 2012, 19:33
ถ้ามันจะฮาขนาดนี้นะ 55555555

แถมมี มาซากิ ฮิรูมิ มาแจมด้วย 55555 กระทืบ Like แรงๆ


ปล.เดี๋ยวผมต่อท่าน LoveSeeker เอง ^^

pone123
28th March 2012, 19:47
ผมกลายเป็นตัวตลกซะแล้วหรอเนี่ย

LoveSeeker
28th March 2012, 19:52
ถ้ามันจะฮาขนาดนี้นะ 55555555

แถมมี มาซากิ ฮิรูมิ มาแจมด้วย 55555 กระทืบ Like แรงๆ


ปล.เดี๋ยวผมต่อท่าน LoveSeeker เอง ^^

55+ จัดไปท่าน


ผมกลายเป็นตัวตลกซะแล้วหรอเนี่ย
ไม่หรอกท่าน คนบอร์ดนี้เขา Very fucking goddamn Friendly เลยล่ะครับ เล่นกันแบบนี้เป็นธรรมดาครับ ^^~~~ อย่าเครี่ยดๆๆ

saphira
28th March 2012, 19:55
ฌ เฮ้ยๆๆ จะเผา จะแซวก็เอากันพองามซิ นี่อะไร เล่นซะ:sweat

Stormwind
28th March 2012, 19:55
ผมกลายเป็นตัวตลกซะแล้วหรอเนี่ย

ใจเย็นน่าครับ เดี๋ยวรอตอนของคุณจ่าซัพ ค่อยแกล้งพวกผมก็ได้นี่นา

ปล. มัน มา แล้ว !!!!!

LoveSeeker
28th March 2012, 20:07
ตอนที่3 By เลิฟคุง

เลิฟถอนหายใจและล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุม “มัวห๋า(หา) อะไรเล้า(ล่ะ) ช้อท(ช็อต)มันเร็วๆสิ” เธอพูดต่อด้วยสำเนียงเน่อๆของเธอ เลิฟไม่สนใจเพียงแต่หาสิ่งที่เขาต้องการ

“เจอแล้ว” เขาพูดและล้วงเอาบางอย่างที่เหมือนเท็ปเล็ทออกมา “Character Editor” เขาพูดและยิ้ม ก่อนรัวปุ่มบนแท็ปเล็ท ฮิรูมิถูกแรงบางอย่างยกขึ้นจากพื้น แขนสองข้างถูกดึงจากกัน เวลานี้เธอลอยอยู่ในท่าเหมือนถูกตรงกางเขน “เอาล่ะ” เขาพูดและเอาแท็ปเล็ทใส่กระเป๋า “ดูสิ เริ่มจากตรงไหนดี” ชายร่างใหญ่ภายใต้หน้ากากฮอกกี้มองเขาด้วยท่าทางคนงง

“เฮ้ย เจสัน นายคิดว่าเริ่มจากตรงไหนดี” เขามองเลิฟและเอามือวางบนหัวของตัวเอง

“ส่วนสูง” เจสันไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้า

“ตกลง” เขาพูดและล้วงเอาวัตถุกลมๆจากกระเป๋ามาสวมที่นิ้ว และเอาอันที่ใหญ่ที่สุดวางไว้ใต้เท้าของฮิรูมิ ภาพฮาโลกราฟเป็นตารางโผล่ขึ้นมาหลังฮิรูมิ แสงสีเขียวเริ่มสแกทเธอซ้ำๆจากซ้ายไปขวา รูปจำลองแบบฮาโลกราฟ เลิฟเริ่มหมุนแบบจำลองฮาโลกราฟ ซึ่งตวฮิรูมีก็หมุนตาม

“เครื่องมือแก้ไข” เขาพูด “เอาล่ะ ผู้หญิง 200 ซม. ไม่น่ารักเลยสักนิด เขาพูดและบีบแบบจำลองของเธอจนมีความสูงลดลง “หน้าอกใหญ่ไปว่ะ มันไม่โลลิ” เขาขยายภาพบริเวณอก และนำเข็มจากเสื้อคลุมออกมาจิ้มที่หน้าอกของฮาโลกราฟจนแฟบลง “บั้นท้ายใหญ่ไป” เขาพูดและบีบบริเวณสะโพกของฮาโลกราฟ “เรียบร้อย” วัตถุทรงกลมที่ใต้เท้าของฮิรูมิพ่นควันออกมาจนไม่มีใครเห็นอะไร

“แค็ก แค๊ก แค็ก” เสียงของใครบางคนไอดังขึ้นภายในกลุ่มควัน ควันค่อยๆจางหาย เผยให้เห็นฮิรูมิในอุดมคติของเลิฟคุง ผู้ซึ่งสูงเพียง 149 ซม. หน้าอกแบบราบ ตะโพกไม่ผาย “แบบนี้ค่อยโลลิหน่อย” เขาพูดและหันไปหาเจสัน “จริงไหม เจ...” คำพูดของเขาถูกหยุดเมื่อเจสันไม่ได้อยู่ที่ที่เคยอยู่

“งานเข้า” เขาพูดเบาๆ เขารู้สึกบางอย่าง บางอย่างอยู่ข้างหลัง

“ระวังหลัง” ฮิรูมิพูด แต่เลิฟไวกว่าเจสันมาก เขาล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมและชักเอาของทรงกระบอกออกมา เขากดปุ่มบนนั้น ลำแสงสีแดงพุ่งออกจาวัตถุนั้นยาวประมาณเมตร เขาฟาดลำแสงนั้นใสกลางตัวของเจสันจนตัวของเจสันขาดเป็นสองท่อน “ฝันดี” เขาพูดส่งท้าย “ไอ้วินด์ เอ็งหายไปไหนวะ” เขาตะโกน และเดินออกไปจากกระท่อมอย่างหัวเสีย ทิ้งให้ฮิรูมิเวอร์ชันโลลิตา คอมเพล็กซ์อยู่ในกระท้อมเพียงลำพัง

“ไอ้วินด์” เสียงของเลิฟคุงเรียกเขามาจากด้านหลัง เขาละสายตาจากหญิงสาวในสายฝนมองไปยังเลิฟ “ทำหอกอะไรวะ ทำไม่มีดูหลังให้ข้า”

“เออ...”วินด์อึกอักและส่องไฟฉายไปยังจุดที่เขาเห็นหญิงสาวผมยาว “ไม่รู้สิวะ เหมือนเห็นบางอย่าง”

“อะไรวะ” เลิฟถามและเก็บไลท์เซเบอร์เข้าไปในเสื้อคลุม

“ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว”

“แล้วแกจะรอให้ปอดบวมรึไง เข้าบ้านเถอะ”

“ตกลง” วินด์พูด แต่ในใจเขายังคงคิดถึงเรื่องของหญิงสาวคนนั้น ทั้งสองเดินเข้าบ้าน ถอดเสื้อคลุมฝน และนำไฟฉายวางไว้บนโต๊ะ และเปิดไฟ ชายหนุ่มสามคนในบ้านหลับตาลงพร้อมขยี่ตาหนีจากแสงจ้า เสียงบางอย่างดังขึ้นเบาๆจากเสื้อคลุมของเลิฟ

“ปิดไฟหา(เซ็นเซอร์)พวกเอ็งหรอวะ” วินด์พูดแบบหัวเสียก่อนจะนั่งลงบนโซฟา ก่อนหยิบเบียร์ขึ้นมาโยนให้เลิฟ

“ขอบใจ” เลิฟไม่รอช้าเปิดดื่มอย่างรวดเร็ว เขามองไปทางเร็กซ์ด้วยความแปลกใจ ทั้งๆที่รถของเขายางแตกอยู่ เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร “เร็กซ์ แกมาไงวะ รถยางแตกไม่ใช่หรอ” เสียงของอุปกรณ์ในเสื้อเชิร์ตของเขา

“ก็แค่ วิทยุบอกยานเอนเตอร์ไพรซ์ให้บีมข้ามาที่บ้านนี่” เร็กซ์ตอบ “เสียงโทรศัพท์แกรึเปล่าเลิฟ”

“นั่นสิ”จ่าซัพพูด

“ของฉันไม่ใช่เสียงนี้นะจ่า” เขาตอบ

“ฉันว่ามาจากตัวแกนั่นแหละ” ไฟฟ์พูดพร้อมจิบเบียร์ เลิฟขมวดคิ้วและล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเชิร์ต

“อ๋อ” เขาพูดพร้อมมองดูอุปกรณ์รูปร่างสี่เหลี่ยมเล็กๆของเขา “เครื่องตรวจจับผี”

“อ้อ แสดงว่ามันเจอผีสินะ” วินด์พูดพร้อมเปิดกระป๋องน้ำอัดลม

“ถูก” เลิฟพูดและกดปุ่มบางอย่างเพื่อปรับตัวรับสัญญาณ “แล้วก็ เรียบร้อย” เขาพูดก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“ผีอยู่ไหนล่ะ” จ่าซัพถาม

“เร็กซ์” เลิฟพูด ทุกคนหันไปมองเร็กซ์และขยับออกห่างเร็กซย์อย่างลนลานจนโซฟาหงาย ทั้งวินด์ จ่าซัพ และวินด์ต่างก็มายืนข้างเลิฟ

“ข้าไม่ใช่ผี” เร็กซ์พูดพร้อมลุกจาโซฟา

“ข้ารู้เร็กซ์”วินด์พูด

“เออ แล้วเอ็งจะหนีไปหา(เซ็นเซอร์)อะไรวะ” เร็กซ์ตะโกน

“เร็กซ์ เอ็งฟังข้านะ” จ่าซัพพูด

“ข้าไม่ฟังโว้ย” เร็กซ์ร้องพร้อมเขวี่ยงกระป๋องเบียร์ลงพื้น

“เร็กซ์” เลิฟพูด

“วะ”

“ผีอยู่ข้างหลังเอ็ง” วินด์พูด เร็กซ์หันหลังกลับ แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาทำให้เขาชะงัก ใบหน้าขาวซีด นัยน์ตาสีแดงฉาน พร้อมชุดกระโปรงสีแดงสด ผมยาวตรงสรวยยาวถึงตะโพก

“นายหลบฉันไม่ได้หรอก” เธอพูดออกมา

“ก็ไม่ได้จะหลบ”เร็กซ์พูด “แค่จะหนี” เร็กซ์หันหลังมาหาพวกวินด์ “ไปก่อนนะ” เขาพูดและเดินอย่างเร็วเข้าไปในห้องครัว

“แอลมา เวดด์”ไฟฟ์พูดชื่อของตัวละครในเกม F.E.A.R.

“กระจายกำลัง”จ่าซัพพูด และทุกคนก็กระจัดกระจายไปคนละทิศทาง


โปรดติดตามตอนต่อไป....

ปล. ขออภัยหากแกล้งใครแรงไปหน่อย =..= แค่รับมุกมาจากคนก่อน 555555+

ปล.2 อ้อๆ ลืมๆ ข้อมูลของ แอลมา เวดด์ครับ http://fear.wikia.com/wiki/Alma_Wade
ปล.3 ยังไม่ได้เช็คคำผิด

GIGABom
28th March 2012, 20:09
งานนี้ผมขอไปนั่งทำใจ ต่อนิยายตอนเช้าๆ ดีกว่านะครับ -0- พอดีผมเป็นคนขวัญอ่อน อ่านแค่ 1 คิดไป 10 หลอนไป 100 TT^TT ขอไปนั่งอัพนิยายเก่าแก่ของตัวเองก่อนครับ เดี๋ยวผมจะมาสนุกด้วยย :D

Rex
28th March 2012, 20:12
ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ rep แรกที่เป็นเนื้อหาด้วยนะ ..... ฮาาา
(ล่างสุด)

5day-ago
28th March 2012, 20:14
เอาล่ะ ผมต่อละกัน ^^

Rex
28th March 2012, 20:24
ได้ทุกคนครับ! เดี๋ยวๆมาอีกคน อโลนมาจากไหนว่ะนั่น!!!!!!! ผมงงไปหมดแล้ว ตอนแรกคุณเต้โผล่มาแว่บนึง ตอนนี้อโลนมาแว่บนึง หรือผมตาฝาดแว้ะ...

pone123
28th March 2012, 20:34
ไอ้ตอนสุดท้ายนี่ ถ้าเป็นผมผมจะบอกว่า " สลายโตก " แล้วผมมักจะวิ่งคนแรก =w=

5day-ago
28th March 2012, 20:57
ทุกต่างกระจายไปคนละทิศคนละทาง แอลม่าเองก็ไม่รอช้า ร่างของเธอค่อยๆหายไปในอากาศ ดูเหมือนว่าเธอจะเล็งใครไว้สักคน

ไฟฟ์กำลังวิ่งออกไปหน้าบ้านโดยไม่สนว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน แต่แม้ฝีเท้าของเขาจะเร็วแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่อาจหนีแอลม่าได้พ้น

“เฮ้ย ขี้โกงงงง” ไฟฟ์ร้องลั่น แถมขาขวาของเขาดันไปสะดุดก้อนหินจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้่น

“นายรู้จักชื่อฉัน…” เธอพูดออกมา พร้อมกับส่งสายตาสีแดงฉานมาทางไฟฟ์ “นายต้องเป็นลูกฉันแน่”

“เฮ้ยยยย ไม่มีทางงง ใครก็ได้ช่วยกูด้วย!!” ไฟฟ์ตะโกนลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือจากใครก็ได้

“เฮ้ยยย แกทำอะไรเพื่อนข้าฟะ” วินด์วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง และสไลด์เสียบขาของแอลม่า จนเธอล้มลงไป

“เผ่น!!” ทั้งคู่ตะโกนออกมาพร้อมกัน พวกเขาวิ่งออกมาจากบริเวณนั้นได้นิดหน่อย เพราะทั้งคู่ได้พบกับผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง สวมแว่น ท่าทางดูโหดร้าย

"กะแก้มแหม่ม!!" วินด์พูดออกมาด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง!

ทางด้านเร็กซ์ ดูเหมือนว่าเขาจะหนีออกไปได้ไกลพอสมควร แต่เขาต้องตกใจเมื่อต้องพบกับ…

“เฮ้ย มาซากิ ฮิรูมิ” เขาร้องลั่น “ทำไมกลายเป็นนี้ฟะ”

“นี(นี้)นาย เอาเร(เรา)ลงไปหนอย(หน่อย)” เธอกำลังลอยอยู่กลางอากาศจากฝีมือของเลิพคุง แต่ทว่า

“อะ…” เร็กซ์ชะงักไป เมื่อแอลม่ามายืนอยู่ตรงหน้าเขา “อาม่าาา!!”

เธอยื่นแขนซ้ายของเธอมาจับไหล่ของเร็กซ์ “นายไม่รอดแน่…”

“ต้องรอดสิฟะ ข้าน่ะต้องไปกอบกู้จักรวาลจากผู้รีเปอร์นะเฟ้ย!!” เร็กซ์กล่าวออกมาอย่างห้าวหาญ แต่ขาองเขานั้น สั่นยิ่งกว่าอะไรอีก

“อ่อ จา(จาก)เกม วินนิ่ง ช่าย(ใช่)ปะ” ฮิรูมิที่กำลังลอยพูดออกมา เร็กซ์ได้ยินเข้าจึงใช้ขาซ้ายเตะแอลม่า จนร่วงไปกองอยู่บนพื้น และใช้หมัดขาต่อยไปที่หน้าของมาซากิ ฮิรูมิ อย่างแรง

“แมส เอฟเฟคเฟ้ยยัยบ้า”

“เชี่ยแม้ง โหดกับผู้หญิง” จ่าซัพตะโกนลั่น “เตะแอลม่าคว่ำ ต่อยหน้ามาซากิ ฮิรูมิ…”

“เฮ้ย เอ็งก็อยู่เหรอเนี้ย!” เร็กซ์หน้าซีดไปเล็กน้อย หลังจากที่มีคนมาเห็นวีรกรรมของตัวเขาเอง

จ่าซัพโดนโบกไปหนึ่งดอกจากเลิพคุง

“เอ็งก็ไปว่าเขา…” เลิพคุงนิ่งไปซักพัก จากนั้นทั้งจ่าซัพและเลิพคุงก็ฮาแตกออกมา “ฮ่าๆๆๆ โหดกับผู้หญิง ฮ่าๆๆๆๆ”

“หนอยย พวกแกกก” เร็กซ์โมโหเลือดขึ้นหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาเห็นอะไรบางอย่าง จึงหันหลังและวิ่งตรงไปด้วยความเร็ว

“ฮ่าๆๆ สงสัยจะอายน่ะ ฮ่าๆๆ” เลิพคุงยังคงหัวเราะต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่า…

“เฮ้ จ่า…” เขาหันมามองข้างหลัง และเจอผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสีฟ้า นั่งอยู่บนม้านั่งในสวนหลังบ้านท่ามกลางฝนที่ตกหนักมากถึงมากที่สุด สีหน้าและสายตาของเขาเต็มไปด้วยความหื่น… “ยาราไนก๊ะ!”

“จ๊ากกกก เชี่ยแล้วกู…” เลิพคุงร้องลั่น ดูเหมือนว่าเขาใกล้จะได้ค้นพบสัจธรรมแห่งชีวิต

“เฮ้ย จ่าซัพหายไปไหนฟะเนี้ย!!” เลิพหันไปดูอีกที ก็พบว่า จ่าซัพได้วิ่งตามเร็กซ์ไปแล้ววว จากนั้นเลิพคุงก็วิ่งตามสองคนนั้นไปโดยไม่สนว่าอากาศจะหนาวเย็นจากฝนแค่ไหน “เฮ้ยรอด้วยยยย”

โปรติดตามตอนต่อไป........

ปล.ผมแก้ไขแล้วนะครับ ยอมรับจากใจ ลืมธีมหลักไปนิดนิด ^^

Rex
28th March 2012, 21:01
ฮาาๆๆๆ อย่าลืมธีมเรื่องหลักด้วยนะ ว่ายังเป็นช่วงกลางคืน+ฝนตกหนัก ให้ feel Alan wake

Stormwind
28th March 2012, 21:20
เมื่ออาเบะโผล่ออกมา......ใครจะมารับช่วงต่อเนี่ยครับ?

By Stormwind

pone123
28th March 2012, 21:22
ขำมากเลย นิยายเรื่องนี้ จากที่ว่ามันจะมาน่ากลัว กลายเป็นนิยายตลกไปซะแล้ว 555

5day-ago
28th March 2012, 21:27
เอ่อ ผมขอเเก้ไขนิดหนึ่งครับผม ตอนแรกๆ

pone123
28th March 2012, 21:35
รอต่อไปว่าใครจะสานต่อ

Stormwind
28th March 2012, 21:37
'มัน' มา อีก แล้ว !!!!!

Rex
28th March 2012, 22:19
พูดตรงๆ ฮาจริงๆ ไม่คิดว่าการรวมตัวอย่างไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อนจะลงตัวได้ขนาดนี้ ฮาๆๆ ใครอยากจะสานต่อครับ ช่วยคงรักษาธีมหลักเรื่องด้วยนะ ยิ่งคุณสื่อมากเท่าไหร่คนอ่านก็รับรู้มากเท่านั้นล่ะ!

ธีมหลัก : กลางคืนประมาณเกือบเที่ยงคืนล่ะ ดูจากการดำเนิน พายุฝนหนัก(มาก) กลางเขา ไกลเมือง กลุ่มเพื่อน นอกนั้นจัดมาให้หมดครับ!

pone123
28th March 2012, 22:23
รอคนสานต่อ =w=

5day-ago
28th March 2012, 22:38
เอาล่ะ! เหล่าคนแก่ๆ เอ้ย คนเก่าๆแต่งกันหมด ถึงเวลาของคนใหม่ๆบ้างแล้ววว :)

nakiann123
28th March 2012, 22:45
ผมอ่านอย่างเดียว ~ :sweat

Stormwind
28th March 2012, 22:48
อยากให้ไปแนวไหนต่อดีล่ะครับ เดี๋ยวผมจะเอากลับไปแนวนั้นเอง จะได้แต่งกันง่ายๆหน่อย

ปล. ถ้าไม่มีคนจะเอาต่ออ่ะนะ

saphira
28th March 2012, 22:54
..........

pone123
28th March 2012, 23:38
อะไรกันเนี่ยครับ ท่านพี่เกรียงไกร =*=

nakiann123
29th March 2012, 01:08
ให้ผมรับ จ๊อบ เป็นนักแก้คำผิดให้ไหม :sweat

อ่านละงง

Stormwind
29th March 2012, 01:52
http://www.picza.net/save/20120329vIvdvIZdZdxI332450_sv1/pic/2012_03_29-032-20120329vIvdvIZdZdxI332450.jpg (http://www.picza.net/show.php?id=20120329vIvdvIZdZdxI332450)
Thanks: ฝากรูป (http://www.picza.net)

ตามรูปครับ

nakiann123
29th March 2012, 02:27
http://www.picza.net/save/20120329vIvdvIZdZdxI332450_sv1/pic/2012_03_29-032-20120329vIvdvIZdZdxI332450.jpg (http://www.picza.net/show.php?id=20120329vIvdvIZdZdxI332450)
Thanks: ฝากรูป (http://www.picza.net)

ตามรูปครับ

เก่าสุดๆเลยท่าน PLATOON 55555

LoveSeeker
29th March 2012, 06:43
ได้ทุกคนครับ! เดี๋ยวๆมาอีกคน อโลนมาจากไหนว่ะนั่น!!!!!!! ผมงงไปหมดแล้ว ตอนแรกคุณเต้โผล่มาแว่บนึง ตอนนี้อโลนมาแว่บนึง หรือผมตาฝาดแว้ะ...

อย่างที่บอก ผมยังไม่ได้ตรวจสอบคำผิด =..= มันติดมือ


http://www.picza.net/save/20120329vIvdvIZdZdxI332450_sv1/pic/2012_03_29-032-20120329vIvdvIZdZdxI332450.jpg (http://www.picza.net/show.php?id=20120329vIvdvIZdZdxI332450)
Thanks: ฝากรูป (http://www.picza.net)
Direct Hit

http://image.ohozaa.com/i/2da/hM1MEI.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/vYI53mVaE2Dpmdq0)
แถมๆ

Rex
29th March 2012, 09:28
กูก็อ่านไม่ออก ...กกกกกก

นี่มัน! ภาษามายันต์โบราณชัดๆ!

ps. ไม่นับนะนายคนนั้นโปรดไปแต่งใหม่หรือลาออกเลยก็ได้นะ แค่ความพยายามจะกดแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดยังไม่พยายาม แล้วจะทำไรได้ครับ?

นักเขียนท่านอื่นต่อจากคุณ 5 day-ago นะ

ผมก็ไม่ได้มีอคติกับคุณหรอกนะ ไม่ได้เกลียดหรืออะไรหรอก แต่มันรับไม่ได้น่ะ คือ แบบ....มันอธิบายออกมาไม่ได้้้.......

LoveSeeker
29th March 2012, 09:55
กูก็อ่านไม่ออก ...กกกกกก

นี่มัน! ภาษามายันต์โบราณชัดๆ!

ps. ไม่นับนะนายคนนั้นโปรดไปแต่งใหม่หรือลาออกเลยก็ได้นะ แค่ความพยายามจะกดแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดยังไม่พยายาม แล้วจะทำไรได้ครับ?

นักเขียนท่านอื่นต่อจากคุณ 5 day-ago นะ

ผมก็ไม่ได้มีอคติกับคุณหรอกนะ ไม่ได้เกลียดหรืออะไรหรอก แต่มันรับไม่ได้น่ะ คือ แบบ....มันอธิบายออกมาไม่ได้้้.......

ท่านเร็กซ์ เดี๋ยวผมบอกเองครับ

1.การเว้นวรรค์ของคุณอะ มันแย่มากครับ แย่จนผมอ่านแล้วปวดหัว เหมือนคุณไม่ตั้งใจพิมพ์
2.ภาษาครับ คำผิดครับ ไอ้คำตกหล่นผมไม่ว่าหรอก ผมก็เป็น แต่ไอ้บางคำนี่ไม่นาผิดนี่สิ ดันผิด
แค่นี่แหละ ผมเปล่าอคติเหมือนกันนะครับ เพียงแค่ผมรับไม่ได้จริงๆ ปรับปรุงตัวนะครับ

ปล. มีแต่เกรียนเท่านั้นที่จะใช้กระทู้นี้ดราม่า

Stormwind
29th March 2012, 11:26
จะกะมาออกโรงเฉพาะกิจอยู่แล้วเชียว

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
29th March 2012, 11:31
จะกะมาออกโรงเฉพาะกิจอยู่แล้วเชียว

By Stormwind [Female]


เฮ้ย! มาไงเนี่ย =..=

Stormwind
29th March 2012, 11:39
ไมรู้ดิพี่ พี่ตั้มมายืนรอหน้าบ้านตั้งแต่เมื่อคืนละเนี่ย ความอดทนสูงจริงๆ
สงสัยคงต้องกลับไปชวยแต่งนิยายแล้วมั้ง 55555


By Stormwind [Female]

LoveSeeker
29th March 2012, 14:59
ไมรู้ดิพี่ พี่ตั้มมายืนรอหน้าบ้านตั้งแต่เมื่อคืนละเนี่ย ความอดทนสูงจริงๆ
สงสัยคงต้องกลับไปชวยแต่งนิยายแล้วมั้ง 55555


By Stormwind [Female]


กลับมาแล้ว...จริงๆ หรอ เฮ้ย เอาปืนใหญ่มายิงฉลองงงง!

saphira
29th March 2012, 19:13
ให้ผมรับ จ๊อบ เป็นนักแก้คำผิดให้ไหม :sweat

อ่านละงง


จัดไปครับ ผม

Stormwind
29th March 2012, 19:20
ให้ตายสิ เดี๋ยวจัดการต่อเอง ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแหม่มจูนเรื่องให้

By Stormwind [Female]

5day-ago
29th March 2012, 20:00
ให้ตายสิ เดี๋ยวจัดการต่อเอง ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแหม่มจูนเรื่องให้

By Stormwind [Female]

นางร้าย เอ๊ย นางฟ้ามาโปรด.........

pone123
29th March 2012, 20:07
หวังว่าพี่แม่มคงไม่ทำให้จ่าซัพยิ่งกว่าเดิมนะ = =

Stormwind
29th March 2012, 20:27
แต่แล้ว....เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่มังกรไฟคาดคิด เมื่อปีศาจผู้เป็นอมตะแห่งทะเลสาบคริสตัลหันหลังกลับมาแล้วขว้างโซ่ขนาดเท่าท่อนแขนเข้าพันคอยาวๆของมัน บีบเกร็งกล้ามเนื้อมือแล้วออกแรงกระชาก

ด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลของมันทำให้สัตว์ในตำนานถึงกับปลิวมาตามแรงกระแทก ซึ่งมันได้เงื้อมีดโบวี่รออยู่แล้ว เมื่อเข้าใกล้ได้ที่มันก็ใช้มีดสับเข้าที่คออย่างจัง แต่ด้วยมังกรมีเกล็ด
ทำให้มีดนั้นไม่สามารถตัดคอมังกรขาดได้ มันจึงกระชากดาบออกมาเสือกแทงเข้าที่คาง ดาบใหญ่นั้นทะลุออกทางเบ้าตาขวาของสัตว์วิเศษ แค่นั้นยังไม่สาแก่ใจของมัน
มันจับใบดาบแล้วดึงดาบสวนทางกับดวงตา แล้วใช้มือข้างที่ว่างควักเข้าที่ดวงตาข้างซ้าย ออกแรงกระชาก ลูกตาทั้งก้อนก็หลุดออกมาจากเบ้าราวกับกระชากรากหญ้าอ่อนจากพื้นดิน

หลังจากนั้นปีศาจอมตะได้เสือกมือเข้าควานหาเส้นเลือดใหญ่ที่คอมังกร.....เมื่อเจอแล้วจึงกระชากออกหยาดโลหิตพุ่งออกมาราวกับน้ำพุมันบีบเส้นเลือดแล้วหันมาทางร่างกายของมัน
เลือดจำนวนมหาศาลพุ่งเข้าดับเพลิงที่ติดอยู่ตามร่างกาย

หลังจากจัดการมังกรเสร็จ มันก็หันหน้ามาทางชายหนุ่มผู้ถือ Character editor แล้วเดินบึ่งเข้าไปหา

เขายังคงยืนเบิกตาค้างด้วยความหวาดกลัวต่อภาพการสังหารโหดเบื้องหน้าแต่สติก็กลับมาในเวลาไม่นาน เขาจึงทิ้ง Character editor แล้ววิ่งหนี แต่แล้วเจสันก็ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด
นั่นคือขว้างมีดโบวี่ออกไปเสียงทะลุหัวของชายหนุ่มเคราะห์ร้ายราวกับใช้มีดเสียบแอ็ปเปิ้ล เขายังคงเบิกตากว้าง และล้มลงสิ้นใจอยู่ตรงนั้น

เมื่อไม่มีใครอยู่ในนั้นนอกจากร่างไร้สติของเลิฟคุง ปีศาจผู้อาฆาตได้เดินตรงรี่เข้าไปหยิบ Character editor ขึ้นมาอย่างสงสัย มือเปื้อนเลือดทั้งสองข้างนั้นเลื่อนปุ่มไปอย่างสงสัย และมือก็ไปโดนปุ่ม Back to last select. นั่นคือการทำให้ข้อมูลทุกอย่างย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ (ในแบบที่เลิฟคุงเลือกไว้) เมื่อไม่เห็นมีอะไรปรากฏขึ้น มันเผลอกดปุ่ม Save ทำให้มาซากิ ฮิรุมิ ต้องกลายเป็นแบบนั้นไปชั่วชีวิต ไม่มีอะไรปรากฏอีกเช่นเคย มันจึงหัก Character editor ทิ้งแล้วเดินจากไปอย่างไม่ใยดี



จากนั้นไม่นานนัก ทางฝ่ายเร็กซ์ที่กำลังจะถูก ดุ้นใหญ่ๆ ของมังกรกระทำชำเรานั้น ก็ปรากฏเงาสายใหญ่ยืนทอดกายอยู่หน้าถ้ำ ร่างนั้นเดินแต่ละย่างก้าวส่งเสียง ครืดดด ครืดดด ครืดดดด ไปด้วย เมื่อมังกรหันมาดูก็พบกับชายสวมหมวก ใบหน้าเละเทะ นิ้วมือทั้งสิบนั้นสวมปลอกเหล็กที่กำลังใช้ครูดกับผนังถ้ำจนเป็นประกายไฟ พลางเดินเข้ามาอย่างแช่มช้า

“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ฝันร้าย.....”

ฝ่ายเร็กซ์ที่เห็นนั้นก็ตกใจสุดขีดยิ่งกว่าอะไรในชีวิต ปากก็หลุดพูดออกมา

“****ดดดด เฟร็ดดี้ ครูเกอรส์”

“ใช่แล้ว... ข้าคือ เฟร็ดดี้ ครูเกอรส์ ฝันร้ายแห่งถนน เอล์ม สตรีท”

พูดจบปีศาจกินฝันก็วิ่งเข้าหามังกร นิ้วทั้งสิบกางออกราวกับคลี่พัด เมื่อเข้าระยะแล้วมังกรจึงพ่นไฟออกมา แต่เมื่อเปลวเพลิงสิ้นสุดลงไปแล้วกลับไม่พบร่างของ ปีศาจฆาตรกรโรคจิต
มันจึงเหลียวไป มา อย่างสับสน แต่ก็ต้องขวัญเสียเมื่อได้ยินเสียงยานคางมาจากด้านบน

“มองหาอะไรจ๊ะ ? ไอ้หนู??” สิ้นเสียงนั้นเฟร็ดดี้ก็ทิ้งตัวลงมาจากผนังลงสู่หัวของมังกรอย่างแม่นยำ แล้วใช้กรงเล็บจิกเข้าไปที่หนังศีรษะแล้วจะชากออก !

หนังหัวของมันถูกลอกออกอย่างง่ายดายราวกับลอกหนังไก่ย่างเลยทีเดียว มังกรส่งเสียงร้องโหยหวนแต่กระนั้นก็ยังคงไม่สะใจ มันใช้กรงเล็บเปิดหน้าท้องของมังกรออก
แล้วคว้าเอาเครื่องในออกมาเป็นกะพรวนจากนั้นก็โยนลงไปที่หุบเหวเบื้องล่าง แล้วผลักร่างมังกรให้เซออกไปพิงผนังทางด้านข้าง

“ปีนไปตามลำไส้นิ้สิ ไอ้หนุ่มน้อย เจ้ายังไม่ถึงเวลาที่ข้าจะฆ่าเจ้าหรอกนะ”


ฝ่ายของไฟฟ์เองก็ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเช่นกัน เมื่อจนมุมในห้องน้ำแล้ว หนำซ้ำเบื้องหน้าของเขายังมี บร๊ะศาสดายืนอยู่ตรงหน้าอีกต่างหาก

“จะเล่นอะไรกับนายก่อนดีนะ ยาราไนก้า ~” ชายในชุดแหวกอกสีฟ้านั้นกล่าวอย่างอารมณ์ดีพลางขุดคุ้ยเครื่องเล่นที่ไม่รู้ว่าไปเก็บมาจากไหนเยอะแยะ อาทิเช่น ดิลโด้ ไข่สั่น อวัยวะปลอม
และต่างๆนาๆทำเอาเขาต้องถอยกรูดหลังชนกำแพงทันที และเมื่อเลือกได้แล้วมันก็หันหน้ามาประจันหน้ากับชายหนุ่มทันที แววตาไม่ต่างอะไรกับฆาตรกรฆ่าข่มขืนเลยแม้แต่น้อย

ไฟฟ์พยายามควานหาอะไรก็ตามที่พอจะใช้เป็นอาวุธได้ แต่แล้วสวรรค์ก็ส่งอาวุธเทพมาโปรด นั่นคือสายไฟเก่าที่ติดตั้งอย่างลวกๆ ที่กระชากออกมาก็จะมีกระแสไฟฟ้าออกมาทันที เขายิ้มอย่างสะใจ พร้อมๆกับที่ ทาคาคาสึ อาเบะ ค่อยๆถอดเสื้อผ้าออก เผยให้เห็นถึงความ ‘ใหญ่’ ที่ผิดมนุษย์มนา และเมื่อมันเดินเข้าใกล้จนได้ระยะแล้ว เต้จึงกระชากสายไฟออกมาแล้วจี้ไปที่จุดสำคัญศาสดาทันที ร่างใหญ่นั้นถูกกระแสไฟฟ้าจนชักกระตุกๆ เขาเห็นดังนั้นจึงยิ้มอย่างสะใจ แล้วรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วโดยทิ้งอาเบะให้ถูกไฟช๊อดอย่างนั้น


ส่วนทางวินด์นั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าสาวแว่นสุดสวย ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มจะอ่อยลงเรื่อยๆ

“แหม่ม...แหม่มมาทำอะไรที่นี่?” ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่เชื่อสายตาอาจเพราะสายฝน หรืออุปาทานอาจทำให้เขาเข้าใจผิดก็เป็นได้

“แหม่มมาทำตามสัญญา......” เธอนิ่งไปซักพักแล้วพูดต่อด้วยเสียงเย็นยะเยียบ

“สัญญา...... เราจะรักกันตลอดไป”

เขายืนนิ่ง อย่างงุนงงแล้วพูดตอบ “พี่ก็รักแหม่มคนเดียวนี่นา”

หญิงสาวตะคอกกลับมาอย่างฉุนเฉียวจนสายลมนั้นพุ่งวาบมาปะทะกับใบหน้าของเขาอย่างจัง

“Fus Ro Dah !!!!”

และชายในชุดลายพรางก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากสภาวะฝันและสลบไสล

“นี่มันที่ไหนวะเนี่ย? ฝนยังไม่หยุดอีกเหรอ?” จ่าซัพลืมตาขึ้นมองภูมิประเทศ ซ้าย ขวา แล้วก็จำขึ้นได้ว่า เราวิ่งแล้วลื่นหัวกระแทกกับพื้นจนสลบไป และฉับพลัน

เขาก็ต้องดีใจจนแทบจะโห่ร้องออกมา

“ไอ้เร็กซ์!”

เขาเห็นเร็กซ์เพื่อนรักของเขานั่นเองที่กำลังปีนลงมาจากหน้าผาสูงชัน เมื่อลงมาเสร็จเร็กซ์ก็รีบวิ่งเข้ามาหาจ่าซัพเองเช่นกัน

“โห....ไอ่จ่า......” ชายหนุ่มเผลอร้องไห้อย่างลืมอายจนจ่าต้องรีบลูบหัวปลอบ แต่เขาก็ยังคงพูดผสมกับร้องไห้อย่างไม่หยุดปาก

“เฟร็ดดี้ เฟร็ดดี้ เฟร็ดดี้!!!”

จ่าซัพเองก็ งง แตก แต่ก็ฝืนพูดปลอบไปว่า “เอาน่า ไม่เป็นไรๆ ข้าอยู่ทั้งคนนะเว้ย ป่ะ ไปหาพวกเรากันเถอะ”

เสร็จแล้วจ้า ^^ หวังว่าการ Come back ครั้งนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังนะคะ
ธีมตอนนี้ยังคงเป็นฝนตก และรถเสียนะคะ แต่เพิ่มมาอีกนิดนึงสำหรับคนต่อไป นั่นคือการรวมตัวของเพื่อนๆ

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
29th March 2012, 20:52
....ยังโหดเหมือนเดิม ^^~~~ คิดถึงจัง

Rex
29th March 2012, 20:56
.....................จบบบบบบบบบบบบบบบบบ

Stormwind
29th March 2012, 21:04
รอดูว่าเค้าจะว่ายังไง เพราะตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังดูกระทู้นี้อยู่เจ้าค่ะ

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
29th March 2012, 21:12
เฮ้ยไรวะ! พึ่งจับใจความเรื่องของ Saphira ได้ olo กวนตรีนปะครับ เล่นมุกแบบนี้*****ทุเรศ HIA HIA เลยนะทุเรศว่ะ เขาเอามาแบบขำๆว้อย ไม่ได้ให้แต่งจริง เห็นแล้วขึ้นนน..นนน ฮา...เม...ฮา...เม ผิดเรื่อง.... โหชื่อ ID ผมป่นปี้หมดยังดีนะมีคนแก้เรื่องให้ ทุเรศมากๆๆๆ

ไอ แซบฮีร่า !!ตูขอประกาศสงครามเว้ย อยู่สงบสุขตั้งนาน

พันธมิตรขอเข้าร่วมสงคราม

saphira
29th March 2012, 21:19
อ่าวก็มี คนบอกว่า ค่อยแกล่้งพวกนายทีหลังได้ไง รั้รก็แค่ ซ้อมๆ นะครับ



หลังจากที่ เจสันได้สังหาร มังกรลงได้และไฟที่แผดเผาร่างกายของเจสันนั้นก็หายไปแล้วและทำการรี
มูฟ ข้อมูลกลับไปก่อนหน้านี้ โดยที่มันก็ยังไม่รู้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ่้นกับตนเองเลยว่า เลือดมังกร
นั้นสามาธทำให้ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่จะใช้กระสุนยิงก็จะไม่ทำให้เกิดบาดแผล และเขาก็ได้
เดินหาเหยื่อรายต่อไป สวนเลิฟคุงนั้นก็ยังหมดสติ อยู่ตรงนั้นข้างๆ ศฟของ ชายหนุ่ม และมังกร

ตัดมาทางด้านของจ่้าซัฟและ เร็กซ์คุง นั้นก็เดินตามหา เพื้อนๆ ถำกลางสายฝนที่กำลัง
เริ่มซา ลงแล้ว นั้น บน หัวพวกเขาทั้ง 2 มีเงา ของ เฟร็ดดี้ ยืนมองพวกเขาอยู่อย่าง
เย็นชา

อีกด้านนึง ที่เมือง เดลิงซิลตี้ พวกนักวิทยาศาสตร์กำลังค้นว้าอะไรบางอย่างอยู่
และก็มี นักวิทยาศาสตร์คนนึงผู้ที่ สวมสูท ดำทั้งชุด สั่งการว่า" เปิดโปรแกรม G ใวรัส สงไปที่หุบเขานึง"
และบอกต่อไปอีกว่า
" หลังจาก ผ่้านไป 4 ชัวโมง เปิดโปรแกรม ไซเบอร์ T และ หลังจากนั้น 1 ชัวโมง
เปิดโปรแกรม เนเมซิล และให้สงแยกพิกัด เป็น รูป 3 เหลียม "เมือสิ้นเสียงการสังการของชายคนนั้น
เสียงตอบรับพร้อมๆกันว่า
" ทราบแล้วครับ " และ พวกเขาก็เปิดโปรแกรม G ใวรัสและสงไปยัง บ้านพักตากอากาศที่พวก ของจ่า ซัพและ เร็กซ์อยู่


ตัดมาที่พวกของแหม่ม ซึงกำลังเข้าสู่ อารมณ์สุทรี ก็เกิดเสียง ระเบิดใกล้ๆ แถวๆ ซากบ้านพักตากอากาศ
ก็ปรากฎ ร่้างของชายคนนึง ซึง แขนซ้านโตจนผิดปรกติและมีดวงตาสีแดงกรอกไปมาตรงแขนระหว่างหัวไหล
และข้อศอก และมีกงเล็บถึง 5 เล็บ ร้องตะโกน ว่า"เชออออออรี่~~~~ "ร้องอันโหยหวน
ของอสูร G ก็เดินจากจุดนันแตก็ดั เห็น เลิฟคุงที่คินสิตขั้นมาพอดีก็จะเอ๋กับ G ใวรัส ทำให้เขาหน้าซีดเลยค่อยๆคลานถ่อยหลัง
และลุกขึ้นยืนและโกยอ้าวอย่างไร้จุดหมาบและปากก็ตะโกนว่า "ช่วยด้วยโว้ยยยยยยยย "
ทางด้านแหม่มกับตั้ม นั้นก็วิ้งมาตามเสียงก็เจอกับเลิฟคุงพอดี และยังไม่ทันจะถามก็เห็น อสูร จีเดินตามหลังมา
ตัด จากจุดนี้ไปอีก 300เมตรบนโคดหินก้อนนึงปรากฑชาย คนนึงซึงสวมเสือสุึภาพสีฟ้าทั้งชุด
ยืนเป้า ขลุ่ยมองดูดวงจันทร์ที่กำลังขึ้นสู่จุดสูงสุด อยู่โดยที่มี เจ้ามังกรน้อยเกาะไหล ขวาอยู่ ในใจก็ ร้องหา คนๆนึงอยู่

" พี่ชาย ตอนนี้บนนั้นเป็นยังไงมั้ง พวกนางฟ้า สวยดีไหม รอก่อนนะครับ ตอนนี้ผมกำลังตามหาคนๆนึงอยู้่"
และเมือเพลงจบ เขาก็หยิบจี้ห้อยคอ ขึ้นมาเปิดดู ปรากฑ รูป ของแหม่ม และฮิรูมิ น้อง สาวและพี่สาวต่างมารดาและก็เป่าขลุ้ย
ด้วยเพลงเดิมซ้ำไปมาอยู่อีกหลายรอบ
ขญะนี้ เวลา ย่างเข้า 23.30 นาทีแล้ว อากาศที่เคยมีฝนตกหนักบัดนี้ฝนเริ่มโปยปรายลงแล้ว นั้น

อีกฝ้ากนึงของภูเขาหลัง บ้านพักตากอากาศ ปีศาจ ทั้ง 2 เฟร็ดดี้ ครูเกอร์ ที่ร่างกายอาบเลือดมังกรมา เหมือนกับเจสัน ที่ใช้เลือดมังกร ในการดับไฟก็ ดันมาจะเอ๋ กันพอดี

สงละต้นฉบับ ลองแก้คำผิดแล้วไม่รู้มี อันไหนตกอีกไหม น้า
ปล2 มีคนบอกมาเองนะว่า ให้แกล้งได้เต็มที่เลยนะครันั้นแค่ ซ้อมมือเท่านั้น

Rex
29th March 2012, 21:19
จบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

saphira
29th March 2012, 21:24
เอ้ออ เราขอโทษแล้วกัน แกล้งกันพองามใช้ไหวครับ

Stormwind
29th March 2012, 21:28
มานั่งอ่านเรื่องราวทั้งหมดเป็นรอบที่ 6 ก็มาคิดได้ว่า เรื่องทั้งหมดมันออกทะเลตั้งแต่มีมังกรละนะ
ก็อุตส่าห์ฆ่ามังกร ดึงกลับมาให้แล้วแบบนี้ คงไม่ไหวแล้วมั้ง?
รึอยากลองของคะ?

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
29th March 2012, 21:32
เจสันมันเดี้ยงตั้งแต่โดนไลท์เซเบอร์แล้วมั้ง

pone123
29th March 2012, 21:33
ใจเย็นน่าครับ อย่ามีเรื่องกัยเลยน่า คนบอร์ดเดียวกันนะครับ ใจเย็นๆกันก่อนน่า

saphira
29th March 2012, 21:34
มานั่งอ่านเรื่องราวทั้งหมดเป็นรอบที่ 6 ก็มาคิดได้ว่า เรื่องทั้งหมดมันออกทะเลตั้งแต่มีมังกรละนะ
ก็อุตส่าห์ฆ่ามังกร ดึงกลับมาให้แล้วแบบนี้ คงไม่ไหวแล้วมั้ง?
รึอยากลองของคะ?

By Stormwind [Female]

ของอะไรอ่ะ จัดมาได้เต็มที่เลยครับ ตอนแรกแปลความหมายว่า ค่อยแกล่งพวกผมดกก็ได้ผิดเลยจัดไป แบบนั้นนะครับ
แล้วใครจะต่อของเราละนี่

pone123
29th March 2012, 21:38
ของอะไรอ่ะ จัดมาได้เต็มที่เลยครับ ตอนแรกแปลความหมายว่า ค่อยแกล่งพวกผมดกก็ได้ผิดเลยจัดไป แบบนั้นนะครับ
แล้วใครจะต่อของเราละนี่

เอาน่าครับ ปล่อยให้มันจบๆไปเถอะนะครับ มาเริ่มกันต่อเถอะน่า อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยนะครับ

5day-ago
29th March 2012, 21:40
อ้า ไม่อยู่แปปเดียวจะมีมาม่าแหละ พอแล้วล่ะครับ

LoveSeeker
29th March 2012, 21:40
ของอะไรอ่ะ จัดมาได้เต็มที่เลยครับ ตอนแรกแปลความหมายว่า ค่อยแกล่งพวกผมดกก็ได้ผิดเลยจัดไป แบบนั้นนะครับ
แล้วใครจะต่อของเราละนี่

ไม่ต่้อครับ เพราะ ออกทะเล
มันก็ฮาอยู่หรอกนะ ตอนนี้ไฟฟ์แต่งอะ แต่พอคุณแต่งนี่ ผมว่ามุขมันแรงไปมาก อ่านก็อ่านลำบาก เหมือนต้องการอะไรบางอย่าง

อยากให้ย้อนกลับไปแต่งต่อจากของ ไฟฟ์ครับผม


อ่าวก็มี คนบอกว่า ค่อยแกล่้งพวกนายทีหลังได้ไง รั้รก็แค่ ซ้อมๆ นะครับ



หลังจากที่ เจสันได้สังหาร มังกรลงได้และไฟที่แผดเผาร่างกายของเจสันนั้นก็หายไปแล้วและทำการรี
มูฟ ข้อมูลกลับไปก่อนหน้านี้ โดยที่มันก็ยังไม่รู้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ่้นกับตนเองเลยว่า เลือดมังกร
นั้นสามาธทำให้ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่จะใช้กระสุนยิงก็จะไม่ทำให้เกิดบาดแผล และเขาก็ได้
เดินหาเหยื่อรายต่อไป สวนเลิฟคุงนั้นก็ยังหมดสติ อยู่ตรงนั้นข้างๆ ศฟของ ชายหนุ่ม และมังกร

ตัดมาทางด้านของจ่้าซัฟและ เร็กซ์คุง นั้นก็เดินตามหา เพื้อนๆ ถำกลางสายฝนที่กำลัง
เริ่มซา ลงแล้ว นั้น บน หัวพวกเขาทั้ง 2 มีเงา ของ เฟร็ดดี้ ยืนมองพวกเขาอยู่อย่าง
เย็นชา

อีกด้านนึง ที่เมือง เดลิงซิลตี้ พวกนักวิทยาศาสตร์กำลังค้นว้าอะไรบางอย่างอยู่
และก็มี นักวิทยาศาสตร์คนนึงผู้ที่ สวมสูท ดำทั้งชุด สั่งการว่า" เปิดโปรแกรม G ใวรัส สงไปที่หุบเขานึง"
และบอกต่อไปอีกว่า
" หลังจาก ผ่้านไป 4 ชัวโมง เปิดโปรแกรม ไซเบอร์ T และ หลังจากนั้น 1 ชัวโมง
เปิดโปรแกรม เนเมซิล และให้สงแยกพิกัด เป็น รูป 3 เหลียม "เมือสิ้นเสียงการสังการของชายคนนั้น
เสียงตอบรับพร้อมๆกันว่า
" ทราบแล้วครับ " และ พวกเขาก็เปิดโปรแกรม G ใวรัสและสงไปยัง บ้านพักตากอากาศที่พวก ของจ่า ซัพและ เร็กซ์อยู่


ตัดมาที่พวกของแหม่ม ซึงกำลังเข้าสู่ อารมณ์สุทรี ก็เกิดเสียง ระเบิดใกล้ๆ แถวๆ ซากบ้านพักตากอากาศ
ก็ปรากฎ ร่้างของชายคนนึง ซึง แขนซ้านโตจนผิดปรกติและมีดวงตาสีแดงกรอกไปมาตรงแขนระหว่างหัวไหล
และข้อศอก และมีกงเล็บถึง 5 เล็บ ร้องตะโกน ว่า"เชออออออรี่~~~~ "ร้องอันโหยหวน
ของอสูร G ก็เดินจากจุดนันแตก็ดั เห็น เลิฟคุงที่คินสิตขั้นมาพอดีก็จะเอ๋กับ G ใวรัส ทำให้เขาหน้าซีดเลยค่อยๆคลานถ่อยหลัง
และลุกขึ้นยืนและโกยอ้าวอย่างไร้จุดหมาบและปากก็ตะโกนว่า "ช่วยด้วยโว้ยยยยยยยย "
ทางด้านแหม่มกับตั้ม นั้นก็วิ้งมาตามเสียงก็เจอกับเลิฟคุงพอดี และยังไม่ทันจะถามก็เห็น อสูร จีเดินตามหลังมา
ตัด จากจุดนี้ไปอีก 300เมตรบนโคดหินก้อนนึงปรากฑชาย คนนึงซึงสวมเสือสุึภาพสีฟ้าทั้งชุด
ยืนเป้า ขลุ่ยมองดูดวงจันทร์ที่กำลังขึ้นสู่จุดสูงสุด อยู่โดยที่มี เจ้ามังกรน้อยเกาะไหล ขวาอยู่ ในใจก็ ร้องหา คนๆนึงอยู่

" พี่ชาย ตอนนี้บนนั้นเป็นยังไงมั้ง พวกนางฟ้า สวยดีไหม รอก่อนนะครับ ตอนนี้ผมกำลังตามหาคนๆนึงอยู้่"
และเมือเพลงจบ เขาก็หยิบจี้ห้อยคอ ขึ้นมาเปิดดู ปรากฑ รูป ของแหม่ม และฮิรูมิ น้อง สาวและพี่สาวต่างมารดาและก็เป่าขลุ้ย
ด้วยเพลงเดิมซ้ำไปมาอยู่อีกหลายรอบ
ขญะนี้ เวลา ย่างเข้า 23.30 นาทีแล้ว อากาศที่เคยมีฝนตกหนักบัดนี้ฝนเริ่มโปยปรายลงแล้ว นั้น

อีกฝ้ากนึงของภูเขาหลัง บ้านพักตากอากาศ ปีศาจ ทั้ง 2 เฟร็ดดี้ ครูเกอร์ ที่ร่างกายอาบเลือดมังกรมา เหมือนกับเจสัน ที่ใช้เลือดมังกร ในการดับไฟก็ ดันมาจะเอ๋ กันพอดี

สงละต้นฉบับ ลองแก้คำผิดแล้วไม่รู้มี อันไหนตกอีกไหม น้า
ปล2 มีคนบอกมาเองนะว่า ให้แกล้งได้เต็มที่เลยนะครันั้นแค่ ซ้อมมือเท่านั้น

แกล้ง แต่แกล้งแบบไม่รู้เวลาสถานที่ครับ คุณทำตัวไม่ถูก เขาใจไหมครับ อย่างที่บอกว่ามุขแรงมากไป แทนที่จะแกล้งอะไรพอเป็นพิธี แต่นี่แกล้งอันแบบ เหมือนประจานกันมากกว่า
อย่างที่บอก ของStormwind ยังไม่ออกทะเลนะ ผมเองที่พาออกทะเล แต่ผมก็ส่งเรื่องกลับเข้าฝั่งให้แล้วด้วย แล้ว5Day-ago ก็ทำได้ดีครับ แต่ปัญหาคือของคุณ
ธีมหลักของเรื่องคือ ฝนตก บ้านกลางเขา และถูกตัดขาด แต่คุณดันพาตัวละครไปทั่ว อีกทั้งยังเล่นไวรัสอะไรอีก แนวหลักที่พวกเราต้องการคือแนวสยองขวัญ แค่นี้คุณก็ผิดแนวแล้วครับ

ไม่ต้องมาเถียงนะครับ กลับไปอ่านใหม่แล้วคิดดีๆ แค่นั้นแหละ

saphira
29th March 2012, 21:47
ก็แต่งแทรกจากของเราไปก็ได้ครับ เพราะ คนที่โพสคนแรกเขาก็ต้องการให้ออกทะเลอยู่แล้วครับ

nakiann123
29th March 2012, 21:49
เย็นไว้ครับท่านทั้งหลาย :sweat

LoveSeeker
29th March 2012, 21:58
เย็นไว้ครับท่านทั้งหลาย :sweat

อย่าเครียดกับพวกผมเลยครับ มันเป็นเรื่องเก่าที่ไม่ยอมจบสักที เรื่องความขัดแย้งเก่าๆนะครับ


สุดท้ายก็ต้องชักดาบออกจาฝักสินะ :(

saphira
29th March 2012, 22:02
ไม่ต่้อครับ เพราะ ออกทะเล
มันก็ฮาอยู่หรอกนะ ตอนนี้ไฟฟ์แต่งอะ แต่พอคุณแต่งนี่ ผมว่ามุขมันแรงไปมาก อ่านก็อ่านลำบาก เหมือนต้องการอะไรบางอย่าง

อยากให้ย้อนกลับไปแต่งต่อจากของ ไฟฟ์ครับผม

แกล้ง แต่แกล้งแบบไม่รู้เวลาสถานที่ครับ คุณทำตัวไม่ถูก เขาใจไหมครับ อย่างที่บอกว่ามุขแรงมากไป แทนที่จะแกล้งอะไรพอเป็นพิธี แต่นี่แกล้งอันแบบ เหมือนประจานกันมากกว่า
อย่างที่บอก ของStormwind ยังไม่ออกทะเลนะ ผมเองที่พาออกทะเล แต่ผมก็ส่งเรื่องกลับเข้าฝั่งให้แล้วด้วย แล้ว5Day-ago ก็ทำได้ดีครับ แต่ปัญหาคือของคุณ
ธีมหลักของเรื่องคือ ฝนตก บ้านกลางเขา และถูกตัดขาด แต่คุณดันพาตัวละครไปทั่ว อีกทั้งยังเล่นไวรัสอะไรอีก แนวหลักที่พวกเราต้องการคือแนวสยองขวัญ แค่นี้คุณก็ผิดแนวแล้วครับ

ไม่ต้องมาเถียงนะครับ กลับไปอ่านใหม่แล้วคิดดีๆ แค่นั้นแหละ


เราไม่เถียงหรอกครับ เพราะนั้นเราก็บอกแล้วว่าแค่ต้นฉบับ นะครับ

pone123
29th March 2012, 22:03
อย่าเครียดกับพวกผมเลยครับ มันเป็นเรื่องเก่าที่ไม่ยอมจบสักที เรื่องความขัดแย้งเก่าๆนะครับ


สุดท้ายก็ต้องชักดาบออกจาฝักสินะ :(

อย่าเลยน่าครับ เดินเรื่องต่อเถอะผมขอล่ะ ยังมีคนแต่งที่เขาอยากให้มันดำเนินต่อนะครับ อย่ามีเรื่องกันเลย

LoveSeeker
29th March 2012, 22:06
เฮ้อ....ให้ตายสิ!
กลับไปเริ่มจากของไฟฟ์ดีกว่าครับ มันมากเกินไปแล้ว

Rex
29th March 2012, 22:07
โอเค ผมว่าเดี๋ยวคงพบทางสว่างเองแหละครับ บางครั้งคนเราก็เข้าใจยาก / เมื่อก่อนผมก็ทำตัวงี่เง่า(ชีวิตจริง) แล้วก็เห็นทางสว่างขึ้นมาเฉยๆ แบบเข้าใจพระธรรมประมาณนั้นมั้ง

มันอยู่ที่เวลา แต่เวลาคุณจะจบก่อนจะแก้ไขทันหรือเปล่าอันนี้แล้วแต่นะ คุณอาจคิดว่าแค่ในบอร์ดทำตัวแปลกๆยังไงก็ได้ แต่มันก็เหมือนซึมซับน่ะคุณอาจกระทำบางอย่างโดยไม่ทันรู้ตัวเหมือนทำในบอร์ดนี้ สุดท้ายอาจจะลงท้ายด้วยบทเรียนแย่ๆก็ได้นะ

คือผมก็ไม่ได้ศรัทธาเรื่องอะไรแนวนี้หรอกนะ แค่พยายามบอกกล่าวให้เข้าใจ


อามิตตตาาาพุทธธธธ.....เกี่ยวตรงไหน..

LoveSeeker
29th March 2012, 22:08
โอเค ผมว่าเดี๋ยวคงพบทางสว่างเองแหละครับ บางครั้งคนเราก็เข้าใจยาก / เมื่อก่อนผมก็ทำตัวงี่เง่า(ชีวิตจริง) แล้วก็เห็นทางสว่างขึ้นมาเฉยๆ แบบเข้าใจพระธรรมประมาณนั้นมั้ง

มันอยู่ที่เวลา แต่เวลาคุณจะจบก่อนจะแก้ไขทันหรือเปล่าอันนี้แล้วแต่นะ คุณอาจคิดว่าแค่ในบอร์ดทำตัวแปลกๆยังไงก็ได้ แต่มันก็เหมือนซึมซับน่ะคุณอาจกระทำบางอย่างโดยไม่ทันรู้ตัวเหมือนทำในบอร์ดนี้ สุดท้ายอาจจะลงท้ายด้วยบทเรียนแย่ๆก็ได้นะ

คือผมก็ไม่ได้ศรัทธาเรื่องอะไรแนวนี้หรอกนะ แค่พยายามบอกกล่าวให้เข้าใจ


อามิตตตาาาพุทธธธธ.....เกี่ยวตรงไหน..

สาธุ~~~ เอาเป็นว่ากลับไปเริ่มจากของ 5Day-Ago เถอะครับ มันไปไกลเกินไปแล้ว

5day-ago
29th March 2012, 22:11
ใช่ๆ ผมว่าไกลเกินไปแล้ว เดี๋ยวมาม่าจะเต็มกระทู้เอา

"ถึงเวลาที่เราต้องยุติเรื่องต่างๆ แล้วก้าวไปข้างหน้า~"

LoveSeeker
29th March 2012, 22:13
ใช่ๆ ผมว่าไกลเกินไปแล้ว เดี๋ยวมาม่าจะเต็มกระทู้เอา

"ถึงเวลาที่เราต้องยุติเรื่องต่างๆลง แล้วก้าวไปข้างหน้า~"

นั่นสิเห็นด้วย

Stormwind
29th March 2012, 22:13
เอาไงก็เอากัน ยังไงก็ได้

By Stormwind [Female]

Rex
29th March 2012, 22:17
ต่อจากคุณไฟฟ์ใหม่ล่ะกันง่ายสุด เพราะจุดแตกหักมันอยู่ตรงนั้นน่ะฮ้าฟฟฟฟ

LoveSeeker
29th March 2012, 22:24
ช่วยกันพิจารณาหน่อยแล้วกัน
1.เห็นควรว่ากลับไปเริ่มจากของคุณ 5Day-Ago
2.เห็นควรว่าให้ตัดตัวละครฮิรูมิ ออกจากEvent นี้ เนื่องจากเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง โดยที่เนื้อหาใดที่ลงไปแล้วก็ให้คงเอาไว้ แต่ไม่ให้มีการกล่าวถึงตัวละคร ฮิรูมิ ในบนต่อๆไป
3.เห็นควรให้ขึ้น saphira เป็นแบล็กลิสต์ในอีเวนท์นี้ เนื่องจากเป็นผู้พาออกทะเล และความหัวดื้อของเขา

ใครเห็นหรืออยากแก้ไข โพสต์ครับ

อันนี้ให้ช่วยกันพิจารณานะครับ ไม่ใช่ประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะฉะนั้น อย่าดราม่าครับ

Rex
29th March 2012, 22:28
ก็หาทางตัดจบก็ได้นะ หมายถึงตัดจบตัวละครด้วยเหตุการณ์อะไรก็ได้ เพราะเป็นกึ่งตัวละครเสริมให้ฮาๆ เฉยๆ :)

saphira
29th March 2012, 22:29
ก็หาทางตัดจบก็ได้นะ หมายถึงตัดจบตัวละครด้วยเหตุการณ์อะไรก็ได้ เพราะเป็นกึ่งตัวละครเสริมให้ฮาๆ เฉยๆ :)

กำลังต้องการพอดี เพราะ แรกๆอ่านมา ยังคิดเลยว่าทำไมไม่ฆ่าไปเลย ละแบบนั้นนะ

ปล ชื่อก็บอกว่าอย่าเครียด ทำไมมีคนเครียดละนั้น

nakiann123
29th March 2012, 22:35
ยังไงก็ได้ครับ ผมคือ ผู้อ่าน ไม่ว่าผู้เขียนจะไปทางไหน ผมอ่านได้เสมอ ~

Rex
29th March 2012, 22:41
งั้นมาเริ่มนับใหม่กันนะ โอเคพอกันได้สักที หมวดเราก็เล็กจะแย่อยู่แล้ว ถ้าแตกคอคงไม่เวิร์ค อีกอย่างผมว่าคุณ Saphira คงรู้ซึ้งถึงรสพระธรรมไปหน่อยล่ะครับ

saphira
29th March 2012, 22:44
งั้นมาเริ่มนับใหม่กันนะ โอเคพอกันได้สักที หมวดเราก็เล็กจะแย่อยู่แล้ว ถ้าแตกคอคงไม่เวิร์ค อีกอย่างผมว่าคุณ Saphira คงรู้ซึ้งถึงรสพระธรรมไปหน่อยล่ะครับ

รู้สึกเฉยๆ ครับ แต่ที่หนักใจคือ เอาตัวละครเรามาเล่นจนเสียหายแบบนั้น เป็นใครก็เคืองทั้งนั้นละครับ :sweat

Rex
29th March 2012, 22:51
เอาเถอะ สงสัยเข้าใจผมสื่อไปอีกแบบ

Stormwind
29th March 2012, 22:56
จริงๆแล้วอ่ะนะ แหม่มลองถามพี่ตั้มดูแล้ว พี่ตั้มบอกว่า จะลองมาประชุมกันอีกทีนึง ว่าจะเอายังไง แต่อยากให้แค่เจอเจสัน แล้วมาซากิ ฮิรุมิ ก็มาลากไป เรื่องเจสันก็จบ
แล้วทุกคนก็กลับไปที่ในบ้าน ไปเล่าเรื่องใหม่

แต่มันมีอะไรออกทะเลไปเยอะแยะมากมายเลย 5555

By Stormwind [Female]

saphira
29th March 2012, 22:59
จริงๆแล้วอ่ะนะ แหม่มลองถามพี่ตั้มดูแล้ว พี่ตั้มบอกว่า จะลองมาประชุมกันอีกทีนึง ว่าจะเอายังไง แต่อยากให้แค่เจอเจสัน แล้วมาซากิ ฮิรุมิ ก็มาลากไป เรื่องเจสันก็จบ
แล้วทุกคนก็กลับไปที่ในบ้าน ไปเล่าเรื่องใหม่

แต่มันมีอะไรออกทะเลไปเยอะแยะมากมายเลย 5555

By Stormwind [Female]

เราว่านับ 1 ใหม่หมดเลยดีกว่าไหม ครับ และค่อยๆพาออกทะเลไปก็ได้ ครับ เพราะอันนี้นะออกทะเลตั้งแรก เจสันกับฮิรูมิโผล่ออกมาแล้วนะครับ

Stormwind
29th March 2012, 23:00
ส่วนเรื่องมาซากิ ฮิรุมิ นั้น ก็แค่อยากแสดงออกมาตรงๆ ให้ได้รู้
ว่าการสร้างตัวละครของคุณนั้นมันเว่อร์เกินจริง แบบมากๆ เลย มันเป็นสิ่งที่คนแต่งนิยายรับไม่ค่อยจะได้อ่ะนะ
ลองคิดดู ว่ามีตัวละครเหนือมนุษย์มนาออกมาจากเรื่อง ผู้หญิงสูง 200 ซม. ตอนโกรธจะแปลงร่างเป็นมังกร บลาๆ เป็นผบ. กองทัพอากาศ โอ้บร๊ะ
มันเป็นอะไรที่เวอร์ไปหน่อย อยากให้ลองอ่านนิยายแล้วปรับปรุงก็เท่านั้นเอง


ปล. แล้วไม่ได้อ่านเหรอคะ ว่าจะมีแขกรับเชิญโผล่ออกมา??

By Stormwind [Female]

taone1414
29th March 2012, 23:14
เอ่อ คือไม่ได้จะเข้าข้างใครนะครับแต่ผมเห็นด้วยกัน ท่าน LoveSeeker ท่าน Rex ท่าน Stormwind

ด้วยนะครับ คือไม่ได้อยากจะมามาม่านะครับ คือถ้าเอาตรงๆนะ ก็อย่างที่ผมบอกแหละครับ

ผมคิดว่าเริ่มใหม่หนะครับดีที่สุด :) (มาช้าไปเกือบ 1 ชม เลยทีเดียว)

saphira
29th March 2012, 23:15
เอ่อ คือไม่ได้จะเข้าข้างใครนะครับแต่ผมเห็นด้วยกัน ท่าน LoveSeeker ท่าน Rex ท่าน Stormwind

ด้วยนะครับ คือไม่ได้อยากจะมามาม่านะครับ คือถ้าเอาตรงๆนะ ก็อย่างที่ผมบอกแหละครับ

ผมคิดว่าเริ่มใหม่หนะครับดีที่สุด :) (มาช้าไปเกือบ 1 ชม เลยทีเดียว)

อันนี้ก็เห็นด้วยนะครับ เอาตอนก่้อน ฮิรูมิกับเจสัน ออกมาดีกว่าครับ






ส่วนเรื่องมาซากิ ฮิรุมิ นั้น ก็แค่อยากแสดงออกมาตรงๆ ให้ได้รู้
ว่าการสร้างตัวละครของคุณนั้นมันเว่อร์เกินจริง แบบมากๆ เลย มันเป็นสิ่งที่คนแต่งนิยายรับไม่ค่อยจะได้อ่ะนะ
ลองคิดดู ว่ามีตัวละครเหนือมนุษย์มนาออกมาจากเรื่อง ผู้หญิงสูง 200 ซม. ตอนโกรธจะแปลงร่างเป็นมังกร บลาๆ เป็นผบ. กองทัพอากาศ โอ้บร๊ะ
มันเป็นอะไรที่เวอร์ไปหน่อย อยากให้ลองอ่านนิยายแล้วปรับปรุงก็เท่านั้นเอง


ปล. แล้วไม่ได้อ่านเหรอคะ ว่าจะมีแขกรับเชิญโผล่ออกมา??

By Stormwind [Female]

อันนั้นเราก็ รู้นะครับ เพราะ เรืองสวนสูง เราจะปรับ ไปตามนิยายที่สมัครไปนะครับ
ถ้าเป็นแนวแฟนตาซี บาทีก็ต้องมี สูงเกินความจำเป็นอยู่มั้งนะครับ
และที่แน่ๆ ญ ที่สูง 210 ก็มีตัวตนจริงๆ ในโลกความเป็นจริงด้วยนะครับ

และ อีกอย่าง อยากจะบอกคือ นิยายเรืองนี้สามารธแต่งให้ ตัวละครของตนเองไปแกล้ง หรือช้วยใครก็ได้ตามความคิดของแต่ละคน
และถ้าไปแกล่งใครแล้วก็ต้องยอมรับ ด้วยว่า จะต้องโดนหนักกว่านี้ แน่นอนครับล

ตามแบบของ กรรมนะครับถ้าใช้ต้นแล้วก็ต้องใช้ดอกเบียด้วยครัย
เรืองที่แล้วๆมาเราก็ขอโทษไปแล้ว ที่เล่นหนักมือไป นะ และที่เราบอกรู้สึกเฉยๆ นั้นก็คือ ไม่รับรู้ทุกข์ และ ความสุข ครับ เอาแบบสายกลางเลยดีกว่า
จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน ทั้ง 2ฝ่ายในภายหลัง อันนี้เราว่าเริ่ม ตั้งแต่ก่อนที่ เจสันกับฮิรูมิออก มาดีกว่านะครับไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด และค่อยๆออกทะเลดีกว่าเนือเรืองขะได้สนุกและคลายเครียด ครับ

nakiann123
29th March 2012, 23:27
พัก ฟังเพลงกันก่อนดีกว่าครับผม เครียดกันมาเยอะ ~



http://www.youtube.com/watch?v=SmM0653YvXU&list=FLHVNivtOCc8eU-cATaXo2MQ&index=33&feature=plpp_video

LoveSeeker
30th March 2012, 07:25
อันนั้นเราก็ รู้นะครับ เพราะ เรืองสวนสูง เราจะปรับ ไปตามนิยายที่สมัครไปนะครับ
ถ้าเป็นแนวแฟนตาซี บาทีก็ต้องมี สูงเกินความจำเป็นอยู่มั้งนะครับ
และที่แน่ๆ ญ ที่สูง 210 ก็มีตัวตนจริงๆ ในโลกความเป็นจริงด้วยนะครับ

และ อีกอย่าง อยากจะบอกคือ นิยายเรืองนี้สามารธแต่งให้ ตัวละครของตนเองไปแกล้ง หรือช้วยใครก็ได้ตามความคิดของแต่ละคน
และถ้าไปแกล่งใครแล้วก็ต้องยอมรับ ด้วยว่า จะต้องโดนหนักกว่านี้ แน่นอนครับล

ตามแบบของ กรรมนะครับถ้าใช้ต้นแล้วก็ต้องใช้ดอกเบียด้วยครัย
เรืองที่แล้วๆมาเราก็ขอโทษไปแล้ว ที่เล่นหนักมือไป นะ และที่เราบอกรู้สึกเฉยๆ นั้นก็คือ ไม่รับรู้ทุกข์ และ ความสุข ครับ เอาแบบสายกลางเลยดีกว่า
จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน ทั้ง 2ฝ่ายในภายหลัง อันนี้เราว่าเริ่ม ตั้งแต่ก่อนที่ เจสันกับฮิรูมิออก มาดีกว่านะครับไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด และค่อยๆออกทะเลดีกว่าเนือเรืองขะได้สนุกและคลายเครียด ครับ

ความคิดแบบเด็กๆ ผมจะไม่พูดอะไรแล้ว เพราะผมว่า ผมพูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ หรือคุณไม่พยายามทำความเข้าใจก็ไม่ทราบ


แล้วท่านเร็กซ์จะให้เริ่มตรงไหนละนิ

Stormwind
30th March 2012, 10:29
ต่อจากของไฟฟ์เลย อืม.....อันนี้ก็โอเคนะคะ

By Stormwind [Female]

LoveSeeker
30th March 2012, 11:42
เหวออ เข้ามีอีกทีกระทู้ก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว ประชากรบอร์ด Writer ก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมายเหมือนบอร์ดอื่น

เอาเป็นว่า ลืมไปก่อน -0-


http://www.youtube.com/watch?v=uISW480-PCw


http://www.youtube.com/watch?v=pcTu2A1chag

๊ลืมไม่ลง~~~

Stormwind
30th March 2012, 16:38
พรุ่งนี้มาแต่งตอนต่อไปนะคะ วันนี้ขอนั่งคิดเรื่องนิยาย TKM ก่อน

By Stormwind [Female]

saphira
30th March 2012, 19:15
พรุ่งนี้มาแต่งตอนต่อไปนะคะ วันนี้ขอนั่งคิดเรื่องนิยาย TKM ก่อน

By Stormwind [Female]

ลบมาซาิกิออกจากเรืองนี้ไปเลย ถ้าดูโดยรวมๆนะ เลิฟ คุงนั้นละ เริ่มก่อน นะครับทำในสิงที่สังคม เขา
ประนามกันนะครับ

ปล เราไม่มีสิทธิ์จะเอาผิดใคร แต่ถ้าดูๆ ละก็ผิดทั้งคู้นั้นนะครับ

nakiann123
30th March 2012, 20:09
เห้อ ~


http://www.youtube.com/watch?v=G_yK0xOZgro

LoveSeeker
30th March 2012, 20:34
ลบมาซาิกิออกจากเรืองนี้ไปเลย ถ้าดูโดยรวมๆนะ เลิฟ คุงนั้นละ เริ่มก่อน นะครับทำในสิงที่สังคม เขา
ประนามกันนะครับ

ปล เราไม่มีสิทธิ์จะเอาผิดใคร แต่ถ้าดูๆ ละก็ผิดทั้งคู้นั้นนะครับ

ผมยังไม่ได้เอาตัวละครคุณไปถูกปู้ยี่ปูยำเลยนะครับผม ผมแค่ปรับขนาด ถ้าคุณแต่งกล้วแกล้งผมคืนคงไม่เป็นไร แต่แต่งแล้วออกทะเลนิ ก็คิดเองนะครับ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครแกล้งใคร
เพราะเราแกล้งกันขำๆอยู่แล้ว แต่คุณดันพาเรื่องออกทะเลไงครับ อย่าหลงประเด็นสิ คุณก็พูดเหมือนว่ามีสมองนั่นแหละ ทั้งๆที่ดูๆแล้วคุณก็ไม่น่าจะมีสักเท่าไหร่

แค่ประเด็นที่คุยกันคุณยังหลงประเด็นเลย คุณทำให้เสียธีมหลัก ซึ่งก็คือ บ้านพัก ฝนตก และถูกตัดขาด แล้วนี่อะไร คุณเอามังกรมาจากไหน แล้วพาออกจากบ้านพักทำไม
แล้วฟังนะ ผมแกล้งตัวละครของคุณ แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเมมของคุณเลย แต่คุณนั่นแหละ ที่คิดว่าผมแกล้งเมมของคุณ สมองอะ ใช้หน่อยครับ ไม่ใช้มีไว้กันหู

เก็บดาบ!

แล้วโปรดอย่าเรียกผมว่าเลิฟคุง คุณไม่ได้สนิทกับผมถึงขนาดนั้น

nakiann123
30th March 2012, 20:43
ผมยังไม่ได้เอาตัวละครคุณไปถูกปู้ยี่ปูยำเลยนะครับผม ผมแค่ปรับขนาด ถ้าคุณแต่งกล้วแกล้งผมคืนคงไม่เป็นไร แต่แต่งแล้วออกทะเลนิ ก็คิดเองนะครับ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครแกล้งใคร
เพราะเราแกล้งกันขำๆอยู่แล้ว แต่คุณดันพาเรื่องออกทะเลไงครับ อย่าหลงประเด็นสิ คุณก็พูดเหมือนว่ามีสมองนั่นแหละ ทั้งๆที่ดูๆแล้วคุณก็ไม่น่าจะมีสักเท่าไหร่

แค่ประเด็นที่คุยกันคุณยังหลงประเด็นเลย คุณทำให้เสียธีมหลัก ซึ่งก็คือ บ้านพัก ฝนตก และถูกตัดขาด แล้วนี่อะไร คุณเอามังกรมาจากไหน แล้วพาออกจากบ้านพักทำไม
แล้วฟังนะ ผมแกล้งตัวละครของคุณ แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเมมของคุณเลย แต่คุณนั่นแหละ ที่คิดว่าผมแกล้งเมมของคุณ สมองอะ ใช้หน่อยครับ ไม่ใช้มีไว้กันหู

เก็บดาบ!

แล้วโปรดอย่าเรียกผมว่าเลิฟคุง คุณไม่ได้สนิทกับผมถึงขนาดนั้น

อย่าหาว่าผม อย่างนู้น อย่างนี้เลยนะครับท่าน

http://www.green.in.th/files/melting-ice.jpg

ค่อย ๆ คุยกันเถอะครับผม

LoveSeeker
30th March 2012, 20:45
อย่าหาว่าผม อย่างนู้น อย่างนี้เลยนะครับท่าน

http://www.green.in.th/files/melting-ice.jpg

ค่อย ๆ คุยกันเถอะครับผม

หนาวไปแล้วท่าน :sweat

saphira
30th March 2012, 20:45
ผมยังไม่ได้เอาตัวละครคุณไปถูกปู้ยี่ปูยำเลยนะครับผม ผมแค่ปรับขนาด ถ้าคุณแต่งกล้วแกล้งผมคืนคงไม่เป็นไร แต่แต่งแล้วออกทะเลนิ ก็คิดเองนะครับ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครแกล้งใคร
เพราะเราแกล้งกันขำๆอยู่แล้ว แต่คุณดันพาเรื่องออกทะเลไงครับ อย่าหลงประเด็นสิ คุณก็พูดเหมือนว่ามีสมองนั่นแหละ ทั้งๆที่ดูๆแล้วคุณก็ไม่น่าจะมีสักเท่าไหร่

แค่ประเด็นที่คุยกันคุณยังหลงประเด็นเลย คุณทำให้เสียธีมหลัก ซึ่งก็คือ บ้านพัก ฝนตก และถูกตัดขาด แล้วนี่อะไร คุณเอามังกรมาจากไหน แล้วพาออกจากบ้านพักทำไม
แล้วฟังนะ ผมแกล้งตัวละครของคุณ แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเมมของคุณเลย แต่คุณนั่นแหละ ที่คิดว่าผมแกล้งเมมของคุณ สมองอะ ใช้หน่อยครับ ไม่ใช้มีไว้กันหู

เก็บดาบ!

แล้วโปรดอย่าเรียกผมว่าเลิฟคุง คุณไม่ได้สนิทกับผมถึงขนาดนั้น

ตกลงจบกันเท่านี้แล้วกัน


คิดว่าหน้าจะพาให้เรืองนี้ค่อยๆ ออกทะเลย ดีไหมละ

LoveSeeker
30th March 2012, 20:48
ตกลงจบกันเท่านี้แล้วกัน


คิดว่าหน้าจะพาให้เรืองนี้ค่อยๆ ออกทะเลย ดีไหมละ

คิดว่าน่าจะพาให้เรืองนี้ค่อยๆ ออกทะเลย ดีไหมละ

taone1414
30th March 2012, 21:11
อย่าหาว่าผม อย่างนู้น อย่างนี้เลยนะครับท่าน

ผมว่าลบกระทู้แล้วเริ่มต้นใหม่ดีกว่านะครับเพราะตอนนี้มันเป็นกระทู้มาม่าไปแล้ว

อีกอย่างสำหรับผมนะผมขอไม่ออกความเห็นแต่อยากจะขอบอกอย่างหนึ่งครับ ผมไม่คิดว่ากระทู้บอร์ดนิยายไม่น่าจะเอามาทำมาม่าแบบนี้นะครับ

แต่ผมว่าใครผิดก็น่าจะยอมรับไปแล้วเริ่มต้นใหม่นะครับ :rose

(ผมไม่ได้มีอคติกับทุกคนนะครับ แต่อยากจะพูดจากใจจริง)

http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRMKzxH0ebVBxtbVC47ZgNWFs-35Sw5up21eGKmNkTOApBHd0fTqQ

LoveSeeker
30th March 2012, 21:18
อย่าหาว่าผม อย่างนู้น อย่างนี้เลยนะครับท่าน

ผมว่าลบกระทู้แล้วเริ่มต้นใหม่ดีกว่านะครับเพราะตอนนี้มันเป็นกระทู้มาม่าไปแล้ว

อีกอย่างสำหรับผมนะผมขอไม่ออกความเห็นแต่อยากจะขอบอกอย่างหนึ่งครับ ผมไม่คิดว่ากระทู้บอร์ดนิยายไม่น่าจะเอามาทำมาม่าแบบนี้นะครับ

แต่ผมว่าใครผิดก็น่าจะยอมรับไปแล้วเริ่มต้นใหม่นะครับ :rose

(ผมไม่ได้มีอคติกับทุกคนนะครับ แต่อยากจะพูดจากใจจริง)

http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRMKzxH0ebVBxtbVC47ZgNWFs-35Sw5up21eGKmNkTOApBHd0fTqQ

ไม้ต้องลบหรอกครับ :) เก็บไว้เตือนใครหลายๆคน รวมทั้งผมด้วย
แล้วอีกอย่าง น้องแหม่มก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวพรุ้งนี้จะมาแต่งต่อ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติแล้วครับ (มั้ง)

5day-ago
30th March 2012, 21:24
อ่ะ เอาไปฟังกันจะได้ตกเก้าิีอี้กัน ^^ แก้เครียดๆ


http://www.youtube.com/watch?v=9-XmZIk2vMA&feature=share

nakiann123
30th March 2012, 21:25
http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRMKzxH0ebVBxtbVC47ZgNWFs-35Sw5up21eGKmNkTOApBHd0fTqQ

แมวมันน่าดีดตาจริงๆ นะท่านซัน :sweat ลองสัก แป๊ะ นึงละ ****ช๊อคแน่ไอ้แมวเอ๋ย อย่าได้มาทำใส่ตูเชียว 5555 ~

LoveSeeker
30th March 2012, 21:26
แมวมันน่าดีดตาจริงๆ นะท่านซัน :sweat ลองสัก แป๊ะ นึงละ ****ช๊อคแน่ไอ้แมวเอ๋ย อย่าได้มาทำใส่ตูเชียว 5555 ~

น่าควักลูกตาไปย่างกิน.....(เอิ่ม คงไม่ใช่แล้ว)


ลองดูก็ได้ครับท่าน แบ่งกัน คนละข้าง 5555 ~

OK จัดไป

nakiann123
30th March 2012, 21:32
น่าควักลูกตาไปย่างกิน.....(เอิ่ม คงไม่ใช่แล้ว)

ลองดูก็ได้ครับท่าน แบ่งกัน คนละข้าง 5555 ~

Rex
30th March 2012, 23:54
รออ่านบทต่อไป ยกย่องเลยว่าบทที่เล่นมุก เจสัย มราซ นี่ฮาจริงๆสำหรับผม ปวดท้องเลยทีเดียว ของคุณไฟฟ์ก็ตรง อาม่า สงสัยผมจะเส้นตื้นขอดเกินไป...:)

Stormwind
1st April 2012, 20:23
สเมิฟ ๆๆๆ SmurfsTV

สนใจเป็นตัวละครในนี้มั้ย?


ปล. มาเป็นเหอะ ไม่งั้นเรื่องเดินต่อไม่ได้
By Stormwind [Female]

Stormwind
1st April 2012, 21:53
สายตาของชายหนุ่มเบิกกว้าง ความคิดทุกอย่างดับวูบลงไป ไม่สนใจแม้กระทั่งเพื่อนรักที่โกยอ้าวไปด้วยความเร็วจนแทบจะทิ้งเขาไว้แล้ว

“กะ...แก้มแหม่ม!” นั่นเป็นคำพูดเดียวที่หลุดมาจากปากของวินด์

หญิงสาวยิ้มอย่างหาความหมายไม่ได้ ผมยาวเป็นมันปลาบเมื่อมีฟ้าแลบปรากฏขึ้น บรรยากาศรอบกายดูคุกรุ่นขึ้นตรงข้ามกับความเย็นของสายฝนที่ตอนนี้เริ่มจะสร่างซาลงบ้างแล้ว

“แหม่มมาทำตามสัญญา......” หญิงสาวพูดเสียงยานคาง ชุดเดรสสีดำที่เธอสวมใส่นั้นช่วยปลุกบรรยากาศหลอนประสาทได้ดีขึ้นเป็นอักโข เธอนิ่งไปสักพักจึงพูดอีกครั้งด้วยประโยคเดิม

“แหม่มมาทำตามสัญญา”

เมื่อตาสีเหล็กประสานกับดวงตาหม่นหมองของหญิงสาวนั้น ภาพเก่าๆเริ่มย้อนกลับมาในมโนความคิดของชายหนุ่ม


“เราจะรักกันตลอดไป” ชายหนุ่มนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักของหญิงสาวหน้าตาน่ารัก สวมแว่นสีฟ้าสดใส ซึ่งหญิงสาวเองก็ยิ้มบางๆ พลางลูบหัวชายหนุ่มที่เธอรัก

เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนกระทั่งเธอก็ได้เอ่ยขึ้นมา

“ถ้าพี่ทิ้งแหม่ม แหม่มจะเป็นผีมาเอาพี่ไปด้วย” เธอพูดแบบนั้นซึ่งชายหนุ่มก็รับคำอย่างง่ายดาย

“ครับ แต่ว่า....ไม่มีทางหรอกนะ”


นั่นคือสิ่งที่ปรากฏในความคิดของชายหนุ่มพร้อมกับสติที่ดับวูบลงไป.....อาจจะตลอดกาล



ส่วนทางฝ่ายสามคนที่วิ่งหนีไปนั้นเมื่อเห็นว่าได้ระยะทางที่ไกลพอสมควรแล้วจึงเริ่มวางแผนขั้นต่อไปท่ามกลางสายฝน

“เฮ้ย เอาไงดีฟะ? ไอ่วินด์ กับ ไอ่ ไฟฟ์ มันหนีกันไปคนละทางอ่ะ?” เร็กซ์เอ่ยถามด้วยเสียงหอบ ตอนนี้เสื้อผ้าของทุกคนนั้นเปียกหมดแล้ว ไม่เหลือส่วนใดที่แห้งเลย และเริ่มรู้สึกแย่ไปพร้อมๆกันด้วย

“นั่นดิ เอาไงดี? หรือจะเรียก ‘ผู้ชายคนนั้น’ ?” ทันทีที่เลิฟคุงพูดชื่อนี้ออกมาทุกคนถึงกับหน้าถอดสี.... จะเอาจริงเหรอวะเนี่ย?

“ไม่ดีมั้ง ? จ่าล่ะ ว่าไง?” เร็กซ์โบ้ยไปให้จ่าซัพซึ่งเขาก็ล้วงเอา ‘ของ’ ที่ใช้เรียกชายคนนั้นออกมาทันที

“ไม่มีทางเลือก” จ่าซัพพูดพร้อมกับบรรจุกระสุนเข้าไปในกระบอกปืนที่ใช้ในการเรียกชายปริศนาอย่างใจเย็น

พลางจ้องมองสายฝนแล้วพูดเบาๆ “ขอให้ใช้ได้ทีเท๊อะ พ่อเจ้าประคุณ”

ปัง !
ทันทีที่กระสุนออกจากรังเพลิงนั้นมันก็เปล่งแสงออกมาตามหน้าที่ แสงไฟพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าเป็นประกายเจิดจ้า แสงนั้นช่วยทำให้ ‘ชายผู้นั้น’ มองเห็นชัดเจน ไม่มีใครใช้กระสุนส่องแสงพร่ำเพรื่อแน่ๆ

เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบจัดเตรียมสัมภาระให้พร้อมแล้วรีบไปยังที่ที่ต้องการความช่วยเหลือทันที



ด้านเต้ที่เตลิดวิ่งเข้าไปในป่าลึกจนเหนื่อยแล้วก็ทรุดกายลงนั่งกับโคลนแฉะๆแล้วพึมพำขึ้นมา

“วินด์ ***ว่ามันจะตามเรามามั้ยวะ?”

................เงียบ ไม่มีเสียงตอบจากเพื่อนรัก เมื่อเขาหันไปก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า ทำเอาหัวใจของเขาหายวาบลงไปกองที่ตาตุ่ม...... ไอ้วินด์หายไป !!

ไวเท่าความคิด ร่างกายของเขารีบกระโจนย้อนกลับไปยังทิศทางที่จากมาซึ่งเขาจำได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าขาจะล้าสักแค่ไหน จะเปียกปอนสักเท่าไหร่ แต่เขาต้องเอาเพื่อนรักกลับมาด้วยให้ได้

แต่เมื่อไปถึง เขาก็ต้องตกใจถึงขีดสุดและรีบหลบเข้าข้างทางทันที

เพราะตรงเบื้องหน้าของเขามีหญิงสาวในชุดกระโปรงสีแดงสด...แอลมา นั่นเอง!

เธอยืนหันหลังให้เขาราวกับกำลังเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง และเขาลองค่อยๆเขยิบกายไปข้างหน้าเพื่อหาต้นตอและก็พบกับหญิงสาวในชุดเดรสสีดำยืนคร่อมร่างของวินด์อยู่

“เอามันมาให้ชั้น มันจะต้องเป็นเหยื่อคืนนี้ของชั้น” แอลมาพูดพลางส่งสายตาอาฆาตดุเดือดไปให้สาวชุดดำ นั่นคือแก้มแหม่มที่ตั้มเคยพูดถึงบ่อยๆนั่นเอง

ว่าแต่...เธอมาที่นี่ได้ยังไงในเมื่อมันเป็นความลับในหมู่เพื่อน หรือว่า.......เธอจะ....!!!

แก้มแหม่มในชุดดำเองก็ไม่ยอมแพ้ เธอสูดลมหายใจเข้าแล้วตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังก้องกรีดป่า

“อย่า ยุ่ง กับ ผัว กู !!!”

สิ้นเสียงของเธอนั้นแอลมาก็หายไปราวกับฝันไป

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเงียบสงบลงแล้วหญิงสาวจึงก้มตัวลงลูบหัวชายหนุ่มเบาๆก่อนจะก้มลงจูบนุ่มนวลเป็นเวลาเนิ่นนาน หลังจากนั้นเธอจึงกระซิบข้างหูชายผู้กำลังสลบเหมือดเบาๆว่า

“แหม่มทำกับคนที่แหม่มรักมากๆไม่ลงหรอกนะ ตอนนี้พี่ไฟฟ์มาแล้ว หวังว่าพี่แกจะดูแลที่รักของแหม่มได้นะคะ”

พูดจบเธอก็ทรุดกายลงเพื่อหอมแก้มวินด์อีกครั้ง แล้วพูดต่อ “ดูแลตัวเองดีๆนะคะที่รักของแหม่ม”

เธอผุดลุกขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากบริเวณนั้น....แต่โชคร้ายที่เธอเดินเข้ามาเฉียดกรายใกล้ไฟฟ์มากเหลือเกิน เขาได้เพียงแต่หลับตาปี๋ภาวนาอย่าให้ผีสาวเห็นเขาเลย

และเมื่อไฟฟ์ลืมตาขึ้นมา ร่างบางก็อันตรธานหายไปเสียแล้ว



ตัดมาทางด้านของเลิฟคุง เร็กซ์ และ จ่าซัพที่ยิงพลุสัญญาณขอความช่วยเหลือไปนั้นไม่นานก็มีแสงปรากฏขึ้นมาจากถนนสายเล็กๆ แสงนั้นช่วยฉายให้เห็นถึงเงาของชายศีรษะโล้นเลี่ยนเดินมาอย่างแช่มช้า

ท่วงท่าสง่างามราวเพิ่งสึกมาก็ไม่มีผิด ท่าเดินนั้นทำเอาเลิฟคุงต้องอ้าปากค้าง ทำเอาเร็กซ์ต้องหลุดปากพูด

“หลวงพี่กีก้ามาช่วยเราแล้ว”

แต่ไม่กี่อึดใจนั้นก็มีเสียงตะโกนล้งเล้งเป็นภาษาชาวเขาขึ้นมาจากด้านหลังซึ่งจ่าซัพที่คุ้นชินกับคนชายแดนนั้นฟังเข้าใจเป็นอย่างดี แปลได้คร่าวๆคือ

“***จะบังทางรถทำไมฟะ ถนนก็แคบ ฝนก็ตก กูจะกลับบ้าน!!!”


จบตอน

ธีม : ยังคงเอาบรรยากาศของฝนตกไว้นะคะ แต่จะสอดแทรกเรื่องโคลนเข้ามาด้วย และตัวละครใหม่ที่ชื่อ หลวงพี่จีจ้า เอ้ย หลวงพี่กีก้า ข้อมูลคือพี่แกเพิ่งสึกมาค่ะ แล้วปลูกบ้านแถวๆนั้น
ที่สำคัญคือเป็นคนแนะนำให้ห้าหนุ่มมาพักที่นี่ด้วยค่ะ ที่เหลือก็แต่งได้ตามสบายนะคะ

By Stormwind [Female]

Stormwind
1st April 2012, 21:54
ตอนใหม่ลงแล้วนะเจ้าค่ะ ปล. อ่านไปเรื่อยๆแล้วอย่าโวยวายว่าภาษาไม่สุภาพนะ เพราะเวลาผู้หญิงหึงนี่แรงแบบนี้จริงๆ

By Stormwind [Female]

pone123
1st April 2012, 22:01
ทำไมบทเราตอนนี่ไม่ฮาแล้ว 5555

บทนี่ดูเหมือนจะดูเหมือนจะเน้นแรงนะเนี่ย -.-

Rex
1st April 2012, 22:03
ฮากีก้าอะ เหอะๆ

GIGABom
1st April 2012, 22:38
โอ้โห ไม่ได้มาดูนานกลายเป็นหลวงพี่กีก้าไปซะแล้ววว 55555

Rex
1st April 2012, 22:45
อัพเดทครับ ขอเปลี่ยนช่วงรอยต่อหน่อยจะได้เล่นมุกได้ง่ายกว่าเดิมสำหรับท่านต่อไป บทที่ 5-6 อัพเดทที่หน้าแรกนะครับ!!

Stormwind
3rd April 2012, 15:31
ใครจะแต่งต่อเอ่ย???

Rex
3rd April 2012, 15:37
รออยู่เหมือนกัน ไม่รีบ..