kingcesar
31st March 2012, 19:02
เรามาต่อกันที่ข่าวนี้กันดีกว่า
ข่าวนี้เด็ดมากกำลังเป็นประเด็นไปทั่ว Hungary
ประธานาธิบดีปาล ชมิทต์ วัย 69 ปีของฮังการี กำลังเผชิญหน้ากับมรสุมครั้งใหญ่ และถูกกดดันให้ลาออก หลังถูกกล่าวหาว่า "ขโมยคัดลอกผลงาน"
ในส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่ากำลังสั่นคลอนความเป็นเอกภาพของรัฐบาล
รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำฮังการี ได้ยกเลิกกำหนดการทั้งหมดหลังจากถูกกล่าวหา ซึ่งรวมถึงการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของสโลวาเกีย
และการเข้าร่วมงานมอบรางวัลด้านธุรกิจที่ทำเนียบรัฐบาล
จากการไต่สวนโดยมหาวิทยาลัยเซมเมลไวซ์ พบว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ในวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของประธานาธิบดีฮังการีนั้นมีที่มาจากการลอกผลงานวิชาการชิ้นอื่น
ขณะที่นายชมิทต์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันที่จะไม่ลาออกจากตำแหน่งตามข้อเรียกร้อง ด้านนายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์บาน แสดงปฏิกิริยาในเบื้องต้น
โดยแสดงความเห็นผ่านรายการวิทยุว่า เรื่องทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายชมิตท์เองว่าจะทำอย่างไร ไม่มีใครที่จะตัดสินใจได้ดีเท่าเขา
ด้านหนังสือพิมพ์รายวันฝ่ายขวา"แมกยาร์ เน็มเซ็ท" กล่าวเรียกร้องให้เขาลาออก โดยกล่าวว่า นายชมิตท์ไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งอีกต่อไป
ยิ่งเขาอยู่ก็จะยิ่งทำให้ตนเองแย่ลง เพราะสู้อย่างไรเขาก็จะไม่มีวันชนะ เนื่องจากเขาได้ทำลายศรัทธาและความน่าเชื่อถือของสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติลงโดยสิ้นเชิง
มหาวิทยาลัยเซมเมลไวซ์ ได้สืบสวนเรื่องฉาวดังกล่าว หลังจากมีรายงานข่าวเผยแพร่ทางหน้านิตยสารเอชจีวี เมื่อเดือนมกราคม
โดยอธิการบดีของมหาวิทยาลัยกล่าวประณามเรื่องดังกล่าวว่า ละเมิดบรรทัดฐานด้านศาสตร์แห่งความรู้
ด้านสำนักข่าวแห่งชาติเอ็มทีไอ รายงานวานนี้ว่า มหาวิทยาลัยได้เสนอให้มีการถอดถอนวุฒิปริญญาเอกของนายชมิทต์ หลังพบว่ามีความผิดปกติ ซึ่งการตัดสินใจจะมีขึ้นในภายหลัง
นายชมิตท์ ซึ่งเคยเป็นนักกีฬาฟันดาบ 2 เหรียญทองโอลิมปิก ได้ทำวิทยานิพนธ์เมื่อปี 1992 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจบการศึกษาปริญญาเอก
จากมหาวิทยาลัยพลศึกษา ซึ่งต่อมาถูกยุบรวมเข้ากับมหาวิทยาลัยเซมเมลไวซ์ เขาขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2010
ด้านคณะกรรมการมหาวิทยาลัยกล่าวเมื่อวันอังคารว่า ข้อมูลในวิทยานิพนธ์เรื่อง "An analysis of the program of Modern Olympic Games"
หรือ "การวิเคราะห์โปรแกรมการแข่งขันโอลิมปิกยุคใหม่" กว่า 200 หน้า จากจำนวน 215 หน้า มีความคล้ายคลึง"บางส่วน"กับงานวิทยานิพนธ์ชิ้นอื่น
โดยพบว่าเนื้อหา 180 หน้า มีการแปลจากวิทยานิพนธ์ของนักวิจัยชาวฮังกาเรียน ที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส แบบ"คำต่อคำ" โดยอีก 16 หน้า
เป็นการลอกมาจากผู้จัดทำอีกรายหนึ่ง และกล่าวตำหนิมหาวิทยาลัย ที่ขาดความรอบคอบในการพิจารณาว่าเนื้อหาอาจลอกมาจากที่ใด
หรือเตือนเรื่องดังกล่าวให้นายชมิตท์ทราบ โดยรายงานการสอบสวนจำนวน 1,157 หน้า ซึ่งไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะ พบว่ามหาวิทยาลัยพลศึกษา มีความผิด
ในฐานะที่ขาดการตรวจสอบงานชิ้นอื่นที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันในตอนนั้น ที่ทำให้นายชมิทต์เชื่อว่าผลงานของตนเหมาะสมถูกต้องแล้ว
http://www.matichon.co.th/online/2012/03/13331091521333109438l.jpg
http://s1.reutersmedia.net/resources/r/?m=02&d=20120329&t=2&i=588410222&w=460&fh=&fw=&ll=&pl=&r=CBRE
ขอบคุณสำนักข่าวมติชน
เป็นถึงผู้นำประเทศ -*- โธ่เอ๊ย
มีกันได้ทั่วโลกจริงๆนะ เรื่องการปลอมวุฒิ การทุจริตวิทยานิพนธ์เนี่ย
ข่าวนี้เด็ดมากกำลังเป็นประเด็นไปทั่ว Hungary
ประธานาธิบดีปาล ชมิทต์ วัย 69 ปีของฮังการี กำลังเผชิญหน้ากับมรสุมครั้งใหญ่ และถูกกดดันให้ลาออก หลังถูกกล่าวหาว่า "ขโมยคัดลอกผลงาน"
ในส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่ากำลังสั่นคลอนความเป็นเอกภาพของรัฐบาล
รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำฮังการี ได้ยกเลิกกำหนดการทั้งหมดหลังจากถูกกล่าวหา ซึ่งรวมถึงการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของสโลวาเกีย
และการเข้าร่วมงานมอบรางวัลด้านธุรกิจที่ทำเนียบรัฐบาล
จากการไต่สวนโดยมหาวิทยาลัยเซมเมลไวซ์ พบว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ในวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของประธานาธิบดีฮังการีนั้นมีที่มาจากการลอกผลงานวิชาการชิ้นอื่น
ขณะที่นายชมิทต์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันที่จะไม่ลาออกจากตำแหน่งตามข้อเรียกร้อง ด้านนายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์บาน แสดงปฏิกิริยาในเบื้องต้น
โดยแสดงความเห็นผ่านรายการวิทยุว่า เรื่องทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายชมิตท์เองว่าจะทำอย่างไร ไม่มีใครที่จะตัดสินใจได้ดีเท่าเขา
ด้านหนังสือพิมพ์รายวันฝ่ายขวา"แมกยาร์ เน็มเซ็ท" กล่าวเรียกร้องให้เขาลาออก โดยกล่าวว่า นายชมิตท์ไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งอีกต่อไป
ยิ่งเขาอยู่ก็จะยิ่งทำให้ตนเองแย่ลง เพราะสู้อย่างไรเขาก็จะไม่มีวันชนะ เนื่องจากเขาได้ทำลายศรัทธาและความน่าเชื่อถือของสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติลงโดยสิ้นเชิง
มหาวิทยาลัยเซมเมลไวซ์ ได้สืบสวนเรื่องฉาวดังกล่าว หลังจากมีรายงานข่าวเผยแพร่ทางหน้านิตยสารเอชจีวี เมื่อเดือนมกราคม
โดยอธิการบดีของมหาวิทยาลัยกล่าวประณามเรื่องดังกล่าวว่า ละเมิดบรรทัดฐานด้านศาสตร์แห่งความรู้
ด้านสำนักข่าวแห่งชาติเอ็มทีไอ รายงานวานนี้ว่า มหาวิทยาลัยได้เสนอให้มีการถอดถอนวุฒิปริญญาเอกของนายชมิทต์ หลังพบว่ามีความผิดปกติ ซึ่งการตัดสินใจจะมีขึ้นในภายหลัง
นายชมิตท์ ซึ่งเคยเป็นนักกีฬาฟันดาบ 2 เหรียญทองโอลิมปิก ได้ทำวิทยานิพนธ์เมื่อปี 1992 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจบการศึกษาปริญญาเอก
จากมหาวิทยาลัยพลศึกษา ซึ่งต่อมาถูกยุบรวมเข้ากับมหาวิทยาลัยเซมเมลไวซ์ เขาขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2010
ด้านคณะกรรมการมหาวิทยาลัยกล่าวเมื่อวันอังคารว่า ข้อมูลในวิทยานิพนธ์เรื่อง "An analysis of the program of Modern Olympic Games"
หรือ "การวิเคราะห์โปรแกรมการแข่งขันโอลิมปิกยุคใหม่" กว่า 200 หน้า จากจำนวน 215 หน้า มีความคล้ายคลึง"บางส่วน"กับงานวิทยานิพนธ์ชิ้นอื่น
โดยพบว่าเนื้อหา 180 หน้า มีการแปลจากวิทยานิพนธ์ของนักวิจัยชาวฮังกาเรียน ที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส แบบ"คำต่อคำ" โดยอีก 16 หน้า
เป็นการลอกมาจากผู้จัดทำอีกรายหนึ่ง และกล่าวตำหนิมหาวิทยาลัย ที่ขาดความรอบคอบในการพิจารณาว่าเนื้อหาอาจลอกมาจากที่ใด
หรือเตือนเรื่องดังกล่าวให้นายชมิตท์ทราบ โดยรายงานการสอบสวนจำนวน 1,157 หน้า ซึ่งไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะ พบว่ามหาวิทยาลัยพลศึกษา มีความผิด
ในฐานะที่ขาดการตรวจสอบงานชิ้นอื่นที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันในตอนนั้น ที่ทำให้นายชมิทต์เชื่อว่าผลงานของตนเหมาะสมถูกต้องแล้ว
http://www.matichon.co.th/online/2012/03/13331091521333109438l.jpg
http://s1.reutersmedia.net/resources/r/?m=02&d=20120329&t=2&i=588410222&w=460&fh=&fw=&ll=&pl=&r=CBRE
ขอบคุณสำนักข่าวมติชน
เป็นถึงผู้นำประเทศ -*- โธ่เอ๊ย
มีกันได้ทั่วโลกจริงๆนะ เรื่องการปลอมวุฒิ การทุจริตวิทยานิพนธ์เนี่ย