PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : มนุษย์ทุกคนเสมอกันด้วยความตาย



Type-7442
8th April 2012, 13:35
http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=356954&d=1215713944


แม้จะยิ่งใหญ่เท่าใด ยศศักดิ์สูงเทียมฟ้าสักเท่าใด มีทรัพสมบัติเท่าใด ก็ต้องตาย

ความตายเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งที่แน่นอนคือสิ่งใดมีเกิดสิ่งนั้นย่อมมีดับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ว่าคนเราหมู่มากในสมัยนี้ ไม่เห็นความจริงข้อนี่ เขาเหล่านั้นย่อมตีอกร่ำไห้ ย่อมเศร้าโศกเสียใจ สำคัญว่ามีผู้ตาย
หากความจริงแล้ว ไม่มีใครตายเลย ที่เกิดขึ้นั้นเป็นเพียง ความเป็นไปของธรรมชาติเท่านั้น

เมื่อคนเราหมู่มากไม่เข้าใจในข้อนี้ เขาเหล่านั้นย่อมปลงใจที่จะคิดถึง , นึกถึง , พูดถึงบ่อยเข้า แก่ผู้ตาย
บ้างก็สร้างที่เผาศพอย่างโ่อ่อ่า วิจิตรตระการตา แต่สิ่งนั้นกลับไม่มีประโยชน ไม่ช่วยให้ผู้ตายดีใจ ฟื้นขึ้น หรือรับรู้ได้อีก
การกระทำเช่นนี้ดูเหมือนว่าทำให้พวกขาห่างไกลสัจธรรมขึ้นไปอีก..

ความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว คนตายมีอยู่ทุกให้เห็นและให้ทราบ แต่พวกเราไม่ได้ตระหนัก
สำคัญตนว่าเรานั้น จักมีตัวตนในอนาคตกาล มีจิตคิดว่าในอนาคตจะทำอย่างนั้นๆจะทำอย่างนี้ๆ หากลืมเสียซึ่งความตาย
ความตาย ไม่เลือกเพศ
ความตาย ไม่เลือกสถานที่ตาย
ความตาย ไม่เลือกสภาพการตาย
ความตาย ไม่เลือกเวลา
ความตาย อายุมาก หรือ อายุน้อย

เมื่อเราหมู่มากห่างไกลจากความตาย คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว
เมื่อความตายเกิดขึ้นแก่คนใกล้ชิดหรือจะเกิดขึ้นกับตนเองก็จะเกิดความทุกข์

// ขอบคุณครับ

OVLENG
8th April 2012, 13:39
ก็จริงของเค้า!!!!~ จะพยามทำทุกวันไห้ดีที่สุด กับพ่อเเม่ คนรัก จะทำอะไรก็รีบทำ ก่อนที่จะไม่มีโอกาส:bye

eswc2011
8th April 2012, 13:45
สุดยอดครับ =/\= ล่อซะผมเกือบปลง

sattawat1979
8th April 2012, 14:40
เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆครับ

ปู่ผมก็เพิ่งตายจากไปด้วยโรคประจำตัว ทำให้ผมปลงขึ้นเยอะ ไม่คิดอยากได้อะไรมากมายเหมือนแต่ก่อนละ ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ซักอย่าง

ปู่ผมเป็นคนจีนขยันทำมาหากิน ค้าขายจนเก็บเงินได้มาก แต่สุดท้ายต้องเอามาใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลและก็รักษาไม่ได้ด้วย น่าเสียดายมากๆ

ตายไปก็เอาไปได้แต่บุญกับบาป ใครที่ฉลาดก็จะทำสะสมบุญไว้เยอะๆครับ จะได้เกิดใหม่ในที่ดีๆ

thetopzrr
8th April 2012, 14:43
ผมเป็น อมตะ จริงๆนะ

~RIP~
8th April 2012, 14:47
ผมเป็น อมตะ จริงๆนะ

อ้าว นึกว่ามีเราคนเดียว
...พอๆ เดี๋ยวไปกันใหญ่ - -

exodus
8th April 2012, 22:31
แล้วช่วงที่มีชีวิตมันไม่มีคุณค่าอะไรเลยงั้นเรอะ

ถ้างั้นผมนั่งแคะขี้มูกไปวันๆ นั่งเกาะผู้หญิงกินจนวันตาย ก็เสมอกันกับคนที่เขาช่วยเหลือสังคม ประพฤติเป็นตัวอย่างที่ดี ขยันอดทน สินะ

Type-7442
8th April 2012, 22:37
แล้วช่วงที่มีชีวิตมันไม่มีคุณค่าอะไรเลยงั้นเรอะ

ถ้างั้นผมนั่งแคะขี้มูกไปวันๆ นั่งเกาะผู้หญิงกินจนวันตาย ก็เสมอกันกับคนที่เขาช่วยเหลือสังคม ประพฤติเป็นตัวอย่างที่ดี ขยันอดทน สินะ

ไม่ใช่เสมอแบบนั้นครับ แบบนั้นเป็นมิจฉาทิฐิ
ที่ผมต้องการจะสื่อคือ คนเราปัจจุบันเห็นวัตถุต่างๆรวมถึงเงิน มีค่ามากกว่าศีลธรรมและความเป็มนุษย์
เพราะเป็นเช่นนี้ สังคมเลยเป็นอย่างที่เ็ห็นครับ

r3zjOkesKA
8th April 2012, 22:43
คิดงี้ก็จบกันประเทศชาติ ทำตัวเองให้ดีเท่าที่ตัวเองทำได้แค่นั้นพอ อย่าไปคิดอะไรในทางลบสิ :rtfm

Type-7442
8th April 2012, 22:50
คิดงี้ก็จบกันประเทศชาติ ทำตัวเองให้ดีเท่าที่ตัวเองทำได้แค่นั้นพอ อย่าไปคิดอะไรในทางลบสิ :rtfm

ไม่ใช่แบบนั้นครับ

ดาไลลามะบอกว่า
“มนุษย์เรานึ้ ยอมสูญเสียสุขภาพเพื่อทำให้ได้เงินมา แล้วต้องยอมสูญเสียเงินตรา เพื่อฟื้นฟูรักษาสุขภาพ แล้วก็เฝ้าเป็นกังวลกับอนาคต จนไม่มีความรื่นรมย์กับปัจจุบัน ผลที่เกิดขึ้นจริงๆ ก็คือ
เขาไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งอยู่กับอนาคต เขาดำเนินชีวิตเสมือนหนึ่งว่าเขาจะไม่มีวันตาย และแล้วเขาก็ตายอย่างไม่เคยมีชีวิตอยู่จริง“

ที่คนเราไม่สามารถพ้นทุกข์ได้เพราะไม่เห็นความจริงนั่นแหละครับ..

Neotridagger
8th April 2012, 23:11
แม้แต่ความตายมนุษย์ก็ยังไม่เสมอภาค....


ความตาย ไม่เลือกเพศ
ความตาย ไม่เลือกสถานที่ตาย
ความตาย ไม่เลือกสภาพการตาย
ความตาย ไม่เลือกเวลา
ความตาย ไม่เลือกอายุมาก หรือ อายุน้อย

แต่ความตาย....เลือกเงิน

คนมีเงิน...ได้สิทธิที่จะตายสบายกว่า และสามารถรั้งให้วาระนั้นมาถึงช้ากว่าคนอื่นๆ


ขำๆนะครับ ไม่ได้จะมาค้าน

เป็นบทความที่เขียนได้ดีครับ:yes3


เคยมีคนกล่าวว่า "งานศพไม่ใช่เรื่องของคนตาย" เจตนาที่แท้จริงของมันไม่ใช่เพื่อให้ของเซ่นไหว้ บทสวด คำอธิษฐานฯลฯ ไปถึงคนตายในสวรรค์-นรกอะไรหรอก

แต่เป็นผลทางจิตวิทยา เพื่อให้ญาติหรือคนที่รู้จักสนิทสนมกับผู้ตายสบายใจขึ้นเท่านั้นเอง ว่าอย่างน้อยตัวเราได้อุทิศอะไรให้คนๆนั้นไปแล้ว

เป็นการอุดช่องโหว่ในความรู้สึกผิดต่อผู้้ตายว่าตอนเขามีชิวิตเรายังทำอะไรให้เขาได้ไม่มากพอ

sattawat1979
8th April 2012, 23:36
เจตนาของ จขกท จะสื่อว่า อย่าประมาทกับชีวิตไงครับ

บางคนใช้ชีวิตเพลิดเพลินราวกับว่าฉันไม่มีวันตาย ฟุ้มเฟื้อเห่อเหิม หยิ่งทะนงตัว ตามใจกิเลสในตัวไม่รู้จบ แต่ก็หนีความตายไม่พ้น

การที่เราระลึกถึงความตายบ้างก็ดีนะครับ มันคอยเตือนสติเรา ไม่ให้ประมาทในการดำเนินชีวิต

ยิ่งคนบวชเป็นพระไม่ต้องพูดถึง ระลึกถึงความตายกันทุกนาทีเลยทีเดียว เค้าเรียกว่า มรณานุสสติ


มีบทกลอนดีๆเกี่ยวกับความตายมาฝากกันครับ

เช้ายังเห็นหน้าอยู่ -------------- สายตาย

สายยังสุขสบาย --------------- บ่ายม้วย

บ่ายยังรื่นเริงกาย ---------------- เย็นดับ ชีพนา

เย็นอยู่หยอกลูกด้วย -------------- ค่ำม้วย อาสัญ


ปล. การระลึกถึงความตายไม่ได้หมายความว่า ท้อแท้กับชีวิต นะครับ มันคนละอย่างกัน

kokore
9th April 2012, 00:10
ปลงเลยตู อืม มันเป็น สัจธรรม