T : O : P 22
8th April 2012, 16:40
http://1.bp.blogspot.com/-Yua8J-jnIWY/Tm37FseFarI/AAAAAAAABeM/FU0CuzcB-IQ/s320/1_original.jpg
ในท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของมนุษยชาติ ได้มีนักค้นคว้าหลายต่อหลายคนพยายามที่จะค้นหาคำตอบของคำถามที่ว่า “มนุษย์มาจากไหน? ” และหลายครั้งเมื่อเราถามคนทั่วไปว่า “คนมาจากไหน? ” ถ้าเราถามตอบแบบเล่นๆก็คงจะถามตอบว่า...
http://4.bp.blogspot.com/-Z_Kz0O_5R9Q/Tm36YGVNDGI/AAAAAAAABd4/iV5XasAI5vg/s400/09061122015e70fe2b993cc308.jpg
…คนมาจากพ่อของคน ...
แล้วพ่อของคนมาจากไหน?
...มาจากพ่อของคนอีกที
แล้วคน คนแรกมาจากไหน?
...มาจากลิง
แล้วลิงมาจากไหน?
...มาจากพ่อของลิง
แล้วพ่อของลิงมาจากไหน?
...มาจากพ่อของพ่อลิงอีกที
แล้วลิงตัวแรกล่ะมาจากไหน?
...มาจากเซลล์
แล้วเซลล์มาจากไหน?
...มาจากพ่อของเซลล์
แล้วพ่อของเซลล์มาจากไหน?
...มาจากพ่อของพ่อเซลล์อีกที
แล้วเซลล์ตัวแรกมาจากไหน?
เมื่อมาถึงคำถามนี้ คนทั่วไปก็ไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไร บางคนก็ตอบว่า
“ไม่รู้เหมือนกัน” หรืออาจจะตอบว่า “มันเกิดขึ้นเองมั้ง”
http://4.bp.blogspot.com/-b4sdEyJnApg/Tm37LlEwstI/AAAAAAAABeU/SUFB3Sovlpc/s320/4e113.png
หลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบวัคซีนรักษาโรคพิษสุนัขบ้า ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นชัดแล้วว่า ชีวิตไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นเอง แต่ชีวิตจะต้องเกิดจากชีวิตเท่านั้น ซึ่งชาร์ล ดาร์วิน Charles Darwin ผู้เขียนหนังสือ “ที่มาของพันธุกรรม” “The Origin of Species” ในปี 1859
http://2.bp.blogspot.com/-Yv23-KSk0Nk/Tm36YiwHfGI/AAAAAAAABd8/_dmkj3mXj7g/s320/090611220106e41b426e596b63.jpg
ก็มีความคิดเห็นที่เหมือนกันและถ้าจะถามดาร์วินต่อไปว่า “ชีวิตเกิดมาจากไหน?” เขาก็ได้ตอบในหนังสือของเขาเล่มนี้ว่า “ชีวิตนั้นได้ถูกสร้างและออกแบบขึ้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้ง ปวง” (หน้าที่ 458) จากข้อมูลข้างต้นนี้ทำให้เราได้เห็นว่า ชาร์ล ดาร์วิน เองก็เชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างชีวิตขึ้นมา เพียงแต่เขาต้องการอยากจะทราบว่า พระเจ้านั้นสร้างสิ่งมีชีวิตต่างๆหลายรูปแบบจากเซลล์ เซลล์เดียว หรือค่อยๆมีการวิวัฒนาการ โดยเขาได้ศึกษาเกี่ยวกับภาคของสิ่งมีชีวิต และเห็นว่าความคิดในเรื่องเซลล์ที่มีชีวิตเล็กๆ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกนั้น เป็นสิ่งที่จริงในวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นมันน่าจะเป็นไปได้ที่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ มาจากการวิวัฒนาการของเซลล์เล็กๆเหล่านี้
http://1.bp.blogspot.com/-TAa6O81phkg/Tm36ZugqLEI/AAAAAAAABeA/aZBvYjJUhbQ/s320/090611220114d410af37115556.jpg
ดังนั้นเขาจึงพยายามหาข้อมูลจากสิ่งที่ปรากฏในธรรมชาติ เพื่อมาพิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อของเขาในหนังสือเล่มนี้ของเขาเอง ได้อธิบายถึงความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ของเซลล์ที่มีศักยภาพในการต่อสู้ เพื่อมีชีวิตรอดสูงมาก และเมื่อมันอยู่ในสภาพแวดล้อมใดๆ มันก็จะปรับตัวในการสร้างรูปร่างของมันให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนั้นๆ เพื่อให้ชีวิตของมันสามารถดำรงอยู่ได้โดยใช้ระยะเวลาและความบังเอิญในการ สร้างรูปร่างของมัน เขาจึงคิดว่ามนุษย์เราน่าจะมาจากสายพันธุ์ของลิงเอป (ape) โดยการใช้ระยะเวลาหลายล้านปีในการปรับสภาพรูปร่างจนกลายเป็นรูปร่างของ มนุษย์อย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งทฤษฎีนี้คิดว่ามนุษย์ก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ ไม่ได้หยุด ดังนั้นมนุษย์เราในอีกหลายล้านปีข้างหน้าอาจหัวโตขึ้น เพราะใช้สมองมาก และนิ้วมืออาจะเล็กลงเพราะใช้แต่นิ้วชี้ หรือร่างกายภายในอาจจะมีการปรับตัวให้มีชีวิตอยู่ได้แม้ในสภาพที่มีออกซิเจน ในอากาศอยู่น้อยก็ตาม
http://4.bp.blogspot.com/-UbYMOvOpNnM/Tm36WXS7qTI/AAAAAAAABdo/GgP4csrvpw4/s1600/0906112201d6471df94875f240.jpg
และถ้ามีคนถามชาร์ล ดาร์วินว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตมากมายหลายพันธุ์ อะไรเป็นตัวคัดเลือกว่าเซลล์นี้ควรจะเป็นปลาวาฬ เซลล์นี้ควรจะเป็นผีเสื้อ เซลล์นี้ควรจะเป็นแรด เซลล์นี้ควรจะเป็นคน... ซึ่งชาร์ล ดาร์วินได้ตอบว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ก็เพราะผ่านกระบวนการคัดเลือกทางธรรมชาตินั่นเอง ซึ่งถ้าเราจะสรุปข้อสมมติฐานในเรื่องนี้ของดาร์วิน ก็จะสามารถสรุปได้ 3 ประการ แต่ทั้ง 3 ประการนี้ล้วนแต่สามารถมีข้อโต้แย้งได้ทั้งสิ้น
http://4.bp.blogspot.com/-aNqjjDaJQPg/Tm37MnaKC5I/AAAAAAAABeY/whmg0pWtYh8/s400/X10459854-0.jpg
คนมาจากลิงจริงหรือ?
1. การที่เกิดสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆในโลก ก็เพราะสิ่งมีชีวิตต่างๆได้ผ่านกระบวนการปรับตัวทางสภาพแวดล้อม เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย แต่เราจะเห็นได้ว่าทำไมสิ่งมีชีวิตที่ชาร์ล ดาร์วินบอกว่าวิวัฒนาการได้ดีที่สุดคือมนุษย์กลับมีปรากฏการณ์ที่ขัดแย้งกับ ทฤษฎีของเขามากที่สุด เมื่อเราเห็นลูกของสัตว์ต่างๆที่คลอดออกมาใหม่ เราก็จะเห็นว่ามันสามารถที่จะปรับตัวของมันได้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะมี ชีวิตรอด แต่มนุษย์เราเมื่อคลอดออกมาแลวนั้นกลับต้องใช้เวลาหลายปี จึงจะสามารถปรับตัวให้สามารถช่วยตัวเองให้อยู่รอดได้ ดังนั้นการอธิบายเช่นนี้จึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้เชื่อถือได้เลย
2. สิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆอาจจะเกิดมาจากการผสมข้ามพันธุ์แล้วเกิดพันธุ์ใหม่ขึ้น ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่เป็นไปไม่ได้เลย ในความเป็นจริงเมื่อม้าผสมกับลา ก็จะออกมาเป็นล่อ ซึ่งเป็นสัตว์ในสปีชีส์เดียวกัน แต่ล่อที่ออกมานั้นจะเป็นหมัน ทำให้ไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ ทำให้มันไม่สามารถเกิดการผ่าเหล่าได้เลย
http://2.bp.blogspot.com/-7qTpCymyevg/Tm36a-Kp4kI/AAAAAAAABeE/ziw-0OwQNfs/s320/100525202331e1d90965686081.jpg
3. การเกิดสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์นั้น อาจเกิดมาจากการกลายพันธุ์ สมมติฐานนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะวงการแพทย์เองก็รู้ดีว่า การผิดปกติทางพันธุกรรมจะก่อให้เกิดผลในแง่ลบมากกว่าแง่บวก เช่น ถ้าภายในร่างกายเกิดสิ่งผิดปกติ ก็อาจจะกลายเป็นมะเร็ง หรือว่าถ้ามีเด็กเกิดมาแล้วมีอวัยวะโตผิดปกตินั้น ไม่ใช่รูปร่างที่สวยงามเลย แต่เมื่อเราดูสิ่งมีชีวิตต่างๆในโลก เราจะเห็นได้ว่ามันมีรูปร่างที่สวยงามและสมส่วน ซึ่งถ้าจะบอกว่าสิ่งมีชีวิตเกิดจากการออกแบบอย่างยอดเยี่ยมของพระเจ้าซึ่ง เป็นพระผู้สร้าง ก็จะเชื่อได้ง่ายกว่าการที่จะบอกว่ามาจากความบังเอิญ เพราะความบังเอิญคงไม่สามารถสร้างสิ่งสวยงามได้ เช่น ถ้ามีคนบอกว่าบังเอิญ ทำแก้วหล่นแตก แล้วเศษแก้วบังเอิญประกอบกันเป็นภาพโมนาลิซ่า คุณจะเชื่อมั้ย? ...ไม่มีทางครับ! ถึงแม้มันจะตกลงไปเป็นล้านครั้งก็เกิดภาพสวยงามขึ้นโดยบังเอิญไม่ได้หรอก สิ่งที่จะเกิดก็จะมีแต่ความเละเทะ
อีกอย่างวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า หากมีการวิวัฒนาการเกิดขึ้นในระดับของเซลล์ร่างกาย (Somatic cell) เซลล์ชนิดนี้เมื่อเกิดมิวเทชันแล้ว จะไม่สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไป
http://1.bp.blogspot.com/-CxuZwe4l638/Tm36W93SCzI/AAAAAAAABdw/pl9prX5yYnw/s320/0906112206e1c2fc1632db0b53.jpg
จากเหตุผลข้างต้นเราจะเห็นว่าทฤษฎีนี้ มีน้ำหนักน้อยมากและทฤษฎีนี้ยังขาดหลักฐานและข้อมูลอยู่สองประการคือ Missing Link (ซากฟอสซิลของสัตว์ผสมที่กำลังกลายรูปร่าง) และข้อมูลเรื่องของการทำงานของระบบต่างๆในตัวของมนุษย์และสัตว์ ว่าแตกต่างหรือเหมือนกันเพียงไร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของระบบทางเดินของเลือดและการทำงานของ DNA
ชาร์ล ดาร์วิน ได้กล่าวด้วยตัวเขาเองว่า “ ทฤษฎีของข้าพเจ้านั้นไม่ใช่ข้อมูลหรือข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ แต่มันเป็นเพียงความเชื่อหรือความคิดส่วนตัวของข้าพเจ้าเท่านั้น ทฤษฎีนี้ยังขาดข้อพิสูจน์หลายอย่าง ดังนั้นถ้าในอนาคตมีใครที่จะสามารถอธิบายได้ว่า ระบบการทำงานภายในร่างกายของมนุษย์และสัตว์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ เขาค้นนั้นก็จะสามารถลบล้างคำอธิบายเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการของข้าพเจ้าได้ เลย”
และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า Darwin Black Box : The Biochemical to Evolution เขียนโดย Michael J. Behe นักชีววิทยาชาวอเมริกาได้เขย่าวงการทฤษฎีวิวัฒนาการอย่างรุนแรง โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการทำงานของระบบภายในมนุษย์และสัตว์นั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเมื่อบรรดานักชีววิทยาทำการตรวจสอบข้อมูลที่เขานำเสนอ ก็เห็นว่าเป็นจริง
http://1.bp.blogspot.com/-heAAPMo6f2I/Tm36XlVhoKI/AAAAAAAABd0/8E9lWUsPKdg/s1600/0906112206e2b9a3ee7d129e5d.jpg
ส่วนเรื่อง Missing Link นั้น ถ้าสมมติฐานของ ดาร์วิน ที่ว่ามนุษย์เรามีวิวัฒนาการมาจากลิงเป็นเรื่องจริง เราก็น่าจะค้นพบซากของลิงในขณะที่อยู่ในระหว่างกึ่งกลางที่กำลังวิวัฒนาการ เป็นคน (คนผสมลิง) แต่จนแล้วจนรอด จนมาถึงปัจจุบัน โลกนี้ได้ถูกสำรวจแบบแทบพลิกแผ่นดิน ก็ยังไม่มีการค้นพบ Missing Link ที่ว่านี้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่พวกที่เชื่อในทฤษฎีที่ว่าคนมาจากลิงนั้นต่างก็อ้างว่า พวกเขามี Missing Link อยู่หลายชิ้น แต่ในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการพิสูจน์และได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่า ไม่ใช่ Missing Link และบางชิ้นก็ทำออกมาเพื่อตบตาคนทั่วโลก
ดังนั้นในปัจจุบันนี้แนวโน้มของคนตะวันตกไม่ค่อยมีการค้นหาข้อมูลที่จะ มาสนับสนุนทฤษฎีวิวัฒนาการแล้ว และความเชื่อที่ว่าคนมาจากลิงก็ค่อยๆเลือนหายไป
จากข้างต้น เราได้เห็นว่าคำอธิบายทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นไม่ใช่วิทยาศาสตร์เลย เป็นเพียงแค่การตั้งสมมติฐานขึ้นมาเท่านั้น และเป็นสมมติฐานที่มีข้อมูลในการสนับสนุนน้อย และขาดน้ำหนัก ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือเลย “ถ้าเช่นนั้น มนุษย์เรามาจากไหนกันแน่” ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้ก็เหลือเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ มนุษย์มาจากการทรงสร้างของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์เราให้เป็นมนุษย์โดยตรง ไม่ได้วิวัฒนาการเริ่มมาจากเซลล์แล้วรอคอยการวิวัฒนาการหลายล้านปีตามที่ หลายคนเชื่อแต่อย่างใด
ที่มา : http://www.mythland.org/
ในท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของมนุษยชาติ ได้มีนักค้นคว้าหลายต่อหลายคนพยายามที่จะค้นหาคำตอบของคำถามที่ว่า “มนุษย์มาจากไหน? ” และหลายครั้งเมื่อเราถามคนทั่วไปว่า “คนมาจากไหน? ” ถ้าเราถามตอบแบบเล่นๆก็คงจะถามตอบว่า...
http://4.bp.blogspot.com/-Z_Kz0O_5R9Q/Tm36YGVNDGI/AAAAAAAABd4/iV5XasAI5vg/s400/09061122015e70fe2b993cc308.jpg
…คนมาจากพ่อของคน ...
แล้วพ่อของคนมาจากไหน?
...มาจากพ่อของคนอีกที
แล้วคน คนแรกมาจากไหน?
...มาจากลิง
แล้วลิงมาจากไหน?
...มาจากพ่อของลิง
แล้วพ่อของลิงมาจากไหน?
...มาจากพ่อของพ่อลิงอีกที
แล้วลิงตัวแรกล่ะมาจากไหน?
...มาจากเซลล์
แล้วเซลล์มาจากไหน?
...มาจากพ่อของเซลล์
แล้วพ่อของเซลล์มาจากไหน?
...มาจากพ่อของพ่อเซลล์อีกที
แล้วเซลล์ตัวแรกมาจากไหน?
เมื่อมาถึงคำถามนี้ คนทั่วไปก็ไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไร บางคนก็ตอบว่า
“ไม่รู้เหมือนกัน” หรืออาจจะตอบว่า “มันเกิดขึ้นเองมั้ง”
http://4.bp.blogspot.com/-b4sdEyJnApg/Tm37LlEwstI/AAAAAAAABeU/SUFB3Sovlpc/s320/4e113.png
หลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบวัคซีนรักษาโรคพิษสุนัขบ้า ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นชัดแล้วว่า ชีวิตไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นเอง แต่ชีวิตจะต้องเกิดจากชีวิตเท่านั้น ซึ่งชาร์ล ดาร์วิน Charles Darwin ผู้เขียนหนังสือ “ที่มาของพันธุกรรม” “The Origin of Species” ในปี 1859
http://2.bp.blogspot.com/-Yv23-KSk0Nk/Tm36YiwHfGI/AAAAAAAABd8/_dmkj3mXj7g/s320/090611220106e41b426e596b63.jpg
ก็มีความคิดเห็นที่เหมือนกันและถ้าจะถามดาร์วินต่อไปว่า “ชีวิตเกิดมาจากไหน?” เขาก็ได้ตอบในหนังสือของเขาเล่มนี้ว่า “ชีวิตนั้นได้ถูกสร้างและออกแบบขึ้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้ง ปวง” (หน้าที่ 458) จากข้อมูลข้างต้นนี้ทำให้เราได้เห็นว่า ชาร์ล ดาร์วิน เองก็เชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างชีวิตขึ้นมา เพียงแต่เขาต้องการอยากจะทราบว่า พระเจ้านั้นสร้างสิ่งมีชีวิตต่างๆหลายรูปแบบจากเซลล์ เซลล์เดียว หรือค่อยๆมีการวิวัฒนาการ โดยเขาได้ศึกษาเกี่ยวกับภาคของสิ่งมีชีวิต และเห็นว่าความคิดในเรื่องเซลล์ที่มีชีวิตเล็กๆ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกนั้น เป็นสิ่งที่จริงในวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นมันน่าจะเป็นไปได้ที่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ มาจากการวิวัฒนาการของเซลล์เล็กๆเหล่านี้
http://1.bp.blogspot.com/-TAa6O81phkg/Tm36ZugqLEI/AAAAAAAABeA/aZBvYjJUhbQ/s320/090611220114d410af37115556.jpg
ดังนั้นเขาจึงพยายามหาข้อมูลจากสิ่งที่ปรากฏในธรรมชาติ เพื่อมาพิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อของเขาในหนังสือเล่มนี้ของเขาเอง ได้อธิบายถึงความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ของเซลล์ที่มีศักยภาพในการต่อสู้ เพื่อมีชีวิตรอดสูงมาก และเมื่อมันอยู่ในสภาพแวดล้อมใดๆ มันก็จะปรับตัวในการสร้างรูปร่างของมันให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนั้นๆ เพื่อให้ชีวิตของมันสามารถดำรงอยู่ได้โดยใช้ระยะเวลาและความบังเอิญในการ สร้างรูปร่างของมัน เขาจึงคิดว่ามนุษย์เราน่าจะมาจากสายพันธุ์ของลิงเอป (ape) โดยการใช้ระยะเวลาหลายล้านปีในการปรับสภาพรูปร่างจนกลายเป็นรูปร่างของ มนุษย์อย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งทฤษฎีนี้คิดว่ามนุษย์ก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ ไม่ได้หยุด ดังนั้นมนุษย์เราในอีกหลายล้านปีข้างหน้าอาจหัวโตขึ้น เพราะใช้สมองมาก และนิ้วมืออาจะเล็กลงเพราะใช้แต่นิ้วชี้ หรือร่างกายภายในอาจจะมีการปรับตัวให้มีชีวิตอยู่ได้แม้ในสภาพที่มีออกซิเจน ในอากาศอยู่น้อยก็ตาม
http://4.bp.blogspot.com/-UbYMOvOpNnM/Tm36WXS7qTI/AAAAAAAABdo/GgP4csrvpw4/s1600/0906112201d6471df94875f240.jpg
และถ้ามีคนถามชาร์ล ดาร์วินว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตมากมายหลายพันธุ์ อะไรเป็นตัวคัดเลือกว่าเซลล์นี้ควรจะเป็นปลาวาฬ เซลล์นี้ควรจะเป็นผีเสื้อ เซลล์นี้ควรจะเป็นแรด เซลล์นี้ควรจะเป็นคน... ซึ่งชาร์ล ดาร์วินได้ตอบว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ก็เพราะผ่านกระบวนการคัดเลือกทางธรรมชาตินั่นเอง ซึ่งถ้าเราจะสรุปข้อสมมติฐานในเรื่องนี้ของดาร์วิน ก็จะสามารถสรุปได้ 3 ประการ แต่ทั้ง 3 ประการนี้ล้วนแต่สามารถมีข้อโต้แย้งได้ทั้งสิ้น
http://4.bp.blogspot.com/-aNqjjDaJQPg/Tm37MnaKC5I/AAAAAAAABeY/whmg0pWtYh8/s400/X10459854-0.jpg
คนมาจากลิงจริงหรือ?
1. การที่เกิดสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆในโลก ก็เพราะสิ่งมีชีวิตต่างๆได้ผ่านกระบวนการปรับตัวทางสภาพแวดล้อม เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย แต่เราจะเห็นได้ว่าทำไมสิ่งมีชีวิตที่ชาร์ล ดาร์วินบอกว่าวิวัฒนาการได้ดีที่สุดคือมนุษย์กลับมีปรากฏการณ์ที่ขัดแย้งกับ ทฤษฎีของเขามากที่สุด เมื่อเราเห็นลูกของสัตว์ต่างๆที่คลอดออกมาใหม่ เราก็จะเห็นว่ามันสามารถที่จะปรับตัวของมันได้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะมี ชีวิตรอด แต่มนุษย์เราเมื่อคลอดออกมาแลวนั้นกลับต้องใช้เวลาหลายปี จึงจะสามารถปรับตัวให้สามารถช่วยตัวเองให้อยู่รอดได้ ดังนั้นการอธิบายเช่นนี้จึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้เชื่อถือได้เลย
2. สิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆอาจจะเกิดมาจากการผสมข้ามพันธุ์แล้วเกิดพันธุ์ใหม่ขึ้น ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่เป็นไปไม่ได้เลย ในความเป็นจริงเมื่อม้าผสมกับลา ก็จะออกมาเป็นล่อ ซึ่งเป็นสัตว์ในสปีชีส์เดียวกัน แต่ล่อที่ออกมานั้นจะเป็นหมัน ทำให้ไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ ทำให้มันไม่สามารถเกิดการผ่าเหล่าได้เลย
http://2.bp.blogspot.com/-7qTpCymyevg/Tm36a-Kp4kI/AAAAAAAABeE/ziw-0OwQNfs/s320/100525202331e1d90965686081.jpg
3. การเกิดสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์นั้น อาจเกิดมาจากการกลายพันธุ์ สมมติฐานนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะวงการแพทย์เองก็รู้ดีว่า การผิดปกติทางพันธุกรรมจะก่อให้เกิดผลในแง่ลบมากกว่าแง่บวก เช่น ถ้าภายในร่างกายเกิดสิ่งผิดปกติ ก็อาจจะกลายเป็นมะเร็ง หรือว่าถ้ามีเด็กเกิดมาแล้วมีอวัยวะโตผิดปกตินั้น ไม่ใช่รูปร่างที่สวยงามเลย แต่เมื่อเราดูสิ่งมีชีวิตต่างๆในโลก เราจะเห็นได้ว่ามันมีรูปร่างที่สวยงามและสมส่วน ซึ่งถ้าจะบอกว่าสิ่งมีชีวิตเกิดจากการออกแบบอย่างยอดเยี่ยมของพระเจ้าซึ่ง เป็นพระผู้สร้าง ก็จะเชื่อได้ง่ายกว่าการที่จะบอกว่ามาจากความบังเอิญ เพราะความบังเอิญคงไม่สามารถสร้างสิ่งสวยงามได้ เช่น ถ้ามีคนบอกว่าบังเอิญ ทำแก้วหล่นแตก แล้วเศษแก้วบังเอิญประกอบกันเป็นภาพโมนาลิซ่า คุณจะเชื่อมั้ย? ...ไม่มีทางครับ! ถึงแม้มันจะตกลงไปเป็นล้านครั้งก็เกิดภาพสวยงามขึ้นโดยบังเอิญไม่ได้หรอก สิ่งที่จะเกิดก็จะมีแต่ความเละเทะ
อีกอย่างวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า หากมีการวิวัฒนาการเกิดขึ้นในระดับของเซลล์ร่างกาย (Somatic cell) เซลล์ชนิดนี้เมื่อเกิดมิวเทชันแล้ว จะไม่สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไป
http://1.bp.blogspot.com/-CxuZwe4l638/Tm36W93SCzI/AAAAAAAABdw/pl9prX5yYnw/s320/0906112206e1c2fc1632db0b53.jpg
จากเหตุผลข้างต้นเราจะเห็นว่าทฤษฎีนี้ มีน้ำหนักน้อยมากและทฤษฎีนี้ยังขาดหลักฐานและข้อมูลอยู่สองประการคือ Missing Link (ซากฟอสซิลของสัตว์ผสมที่กำลังกลายรูปร่าง) และข้อมูลเรื่องของการทำงานของระบบต่างๆในตัวของมนุษย์และสัตว์ ว่าแตกต่างหรือเหมือนกันเพียงไร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของระบบทางเดินของเลือดและการทำงานของ DNA
ชาร์ล ดาร์วิน ได้กล่าวด้วยตัวเขาเองว่า “ ทฤษฎีของข้าพเจ้านั้นไม่ใช่ข้อมูลหรือข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ แต่มันเป็นเพียงความเชื่อหรือความคิดส่วนตัวของข้าพเจ้าเท่านั้น ทฤษฎีนี้ยังขาดข้อพิสูจน์หลายอย่าง ดังนั้นถ้าในอนาคตมีใครที่จะสามารถอธิบายได้ว่า ระบบการทำงานภายในร่างกายของมนุษย์และสัตว์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ เขาค้นนั้นก็จะสามารถลบล้างคำอธิบายเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการของข้าพเจ้าได้ เลย”
และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า Darwin Black Box : The Biochemical to Evolution เขียนโดย Michael J. Behe นักชีววิทยาชาวอเมริกาได้เขย่าวงการทฤษฎีวิวัฒนาการอย่างรุนแรง โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการทำงานของระบบภายในมนุษย์และสัตว์นั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเมื่อบรรดานักชีววิทยาทำการตรวจสอบข้อมูลที่เขานำเสนอ ก็เห็นว่าเป็นจริง
http://1.bp.blogspot.com/-heAAPMo6f2I/Tm36XlVhoKI/AAAAAAAABd0/8E9lWUsPKdg/s1600/0906112206e2b9a3ee7d129e5d.jpg
ส่วนเรื่อง Missing Link นั้น ถ้าสมมติฐานของ ดาร์วิน ที่ว่ามนุษย์เรามีวิวัฒนาการมาจากลิงเป็นเรื่องจริง เราก็น่าจะค้นพบซากของลิงในขณะที่อยู่ในระหว่างกึ่งกลางที่กำลังวิวัฒนาการ เป็นคน (คนผสมลิง) แต่จนแล้วจนรอด จนมาถึงปัจจุบัน โลกนี้ได้ถูกสำรวจแบบแทบพลิกแผ่นดิน ก็ยังไม่มีการค้นพบ Missing Link ที่ว่านี้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่พวกที่เชื่อในทฤษฎีที่ว่าคนมาจากลิงนั้นต่างก็อ้างว่า พวกเขามี Missing Link อยู่หลายชิ้น แต่ในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการพิสูจน์และได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่า ไม่ใช่ Missing Link และบางชิ้นก็ทำออกมาเพื่อตบตาคนทั่วโลก
ดังนั้นในปัจจุบันนี้แนวโน้มของคนตะวันตกไม่ค่อยมีการค้นหาข้อมูลที่จะ มาสนับสนุนทฤษฎีวิวัฒนาการแล้ว และความเชื่อที่ว่าคนมาจากลิงก็ค่อยๆเลือนหายไป
จากข้างต้น เราได้เห็นว่าคำอธิบายทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นไม่ใช่วิทยาศาสตร์เลย เป็นเพียงแค่การตั้งสมมติฐานขึ้นมาเท่านั้น และเป็นสมมติฐานที่มีข้อมูลในการสนับสนุนน้อย และขาดน้ำหนัก ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือเลย “ถ้าเช่นนั้น มนุษย์เรามาจากไหนกันแน่” ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้ก็เหลือเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ มนุษย์มาจากการทรงสร้างของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์เราให้เป็นมนุษย์โดยตรง ไม่ได้วิวัฒนาการเริ่มมาจากเซลล์แล้วรอคอยการวิวัฒนาการหลายล้านปีตามที่ หลายคนเชื่อแต่อย่างใด
ที่มา : http://www.mythland.org/