PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [สาธยาย - เสวนา - พาธี] ว่าด้วยเรื่องของ Drama และ สภาวะ ' ตึตนไปก่อนไข้ '



kingcesar
14th April 2012, 19:29
ณ วันนี้ Drama เป็นสิ่งที่เยาวชน และผู้ใหญ่ไทยบางส่วนชอบที่จะเสพติด หรือ ติดตามอ่านกัน การ Drama ใน Webboard / Forum ก็เช่นกัน

เป็นสิ่งที่หลายๆคนชอบ ในบางแห่ง บางเว็ป ก็จะมีกลุ่มผู้หวังดี (หวังดีจริงหรือแอ๊บก็ไม่สามารถล่วงรู้ หรือ ทราบได้) ที่ไม่ประสงค์จะเห็น Drama หรือคนในบอร์ด

ก่อเหตุทะเลาะวิวาททางวาจา / ทาง Keyboard กันให้เสียน้ำใจ จึงออกมาแสดงตัว ประกาศจุดยืน นำวลี "ไม่เอา Drama" , "อย่า Drama กันเลยครับ"

"ต้มมาม่าดีกว่า", หรือ "ดีจัง มี มาม่า มาให้เสพอีกแล้ว" มาให้ผู้ที่กำลังจะตอบกระทู้ที่มีอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น เป็นที่ประจักษ์ แล้วก็เป็นการนำมาสู่การ แจ้งลบ

ทั้งๆที่บางที Drama มันยังไม่บังเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ (บางครั้งแค่เถียงกันแบบมีเหตุผล พิมพ์ข้อความในโพสต์กันยาวนิดยาวหน่อยโดยไม่ได้มีเจตนาจะทะเลาะกัน ก็หาว่า Drama ละ)

แต่ดันทึกทักไปกันเองว่าเกิด Drama ๆ ๆ ๆ แล้วก็แจ้งลบ แต่พอลองย้อนกลับไปดู (อย่างเช่นในกรณีของผมกับ User หนึ่งที่แสดงตนเป็นผู้มีสี เมื่อ 2-3 วันก่อน)

มันดันเป็นแค่การถกเถียงในเชิงวิชาการ และ การหยิบยกหลักของเหตุและผล ขึ้นมาสนธนากันตามประสา เท่านั้นเอง

เห็นได้ชัดว่า คนที่ชอบทึกทักว่า Drama นี้ มีความ Active ที่ไม่ค่อยถูกไม่ควร กระต่ายตื่นตูม เกิดสภาวะ 'ตีตนไปก่อนไข้' ขึ้นในหมู่ User บางกลุ่ม

ที่จะชอบมาโพสต์ตอนคนเริ่มเถียงกันว่าจะ Drama ๆ

(ช่างไม่รู้อะไรเลย สาเหตุที่เขาจะ Drama กันก็เพราะมีบ่างช่างยุมาแบบนี้แหละ แล้วไม่ใช่เขาจะ Drama กับคนที่เขาเถียงด้วยนะ เขาจะ Drama คนที่มา ยุให้ Drama นี่แหละ -*-)

เรื่องยังไม่เกิด ก็รีบตัดสรุป ตัดจบ ตีสรุปซะแล้ว จากนั้นพวกเขาก็ไปแจ้ง Mod ลบกระทู้ ทั้งๆที่ Drama ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดมีเพียงอุปทานหมู่ ของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

แล้วบางที คนที่คุณหาว่าเขาทะเลาะกันอยู่ เขาอาจจะกำลัง แสดงความคิดเห็น อันมีสาระ / เกร็ดน่ารู้ แฝงมาก็ได้ แทนที่จะลองอ่านการเสวนา ของพวกเขาให้จบ

นี่ไม่มีเลย "เอะอะฉันแจ้งลบ ๆ เพราะมันมีแนวโน้มจะขัดแย้ง~ ฉันจึงทำหน้าที่พลเมืองดี แจ้งลบ..."

โดยส่วนตัวผมมีความเห็นว่าการแจ้งลบนี่ บางครั้งไม่ใช่ทางออก/ทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องที่สุดนะครับ

เพราะ พอแจ้ง > แล้วก็โดนลบ > ลบเสร็จ > ไม่มีของที่ระลึก > ไม่มีสิ่งเตือนใจ > ขาดอุทาหรณืสอนใจ

หากเป็นอย่างนี้ มันก็จะหมุนเป็นวงจรมาเรื่อยๆ เพราะเว็ปนี้ มาสมาชิกประชากรแวะเวียนเข้ามาใหม่เรื่อยๆ

:ask เพราะอะไรครับ??

:answer เพราะ มันไม่มี "กรณีศึกษา" เก็บไว้สอนใจไงล่ะครับ

:answer เพราะเห็นไร ที่เริ่มเถียงกันหน่อย ก็จะแจ้งลบ - แจ้งลบ

(บางทีเขาถกกันด้วยปมสาระเชิงลึก โดยปราศจากอารมณ์เข้าแทรก เพื่อหวังจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ

ความรู้ข้อมูลกันแต่กลับถูกมองว่าเป็นการก่อ Drama)

น่าเห็นใจนะครับ อุตส่าห์ถกประเด็น/ปัญหากัน ในพื้นที่สาธารณะแท้ๆ

แทนที่คนอื่นจะได้มาอ่านด้วย กลับถูกลบไปอย่างน่าเสียดาย

จากในหลายๆเหตุการณ์ ทำให้เกิดคำถามในใจผม และสังคม อยู่ 2-3 ข้อ

:ask 1. Drama ในความหมายของคนพวกนี้หมายถึงอะไร? การเถียงกันงั้นหรือ??

:ask 2. การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และการแก้ปัญหาระยะยาว ที่ถูกต้องอย่างแท้จริง คือการแจ้งลบกระทู้ อย่างนั้นหรือ ???

แล้วคุณแน่ใจเหรอ ว่ามันไม่ใช่การแก้ที่ปลายเหตุ????


ถ้าอยากแก้ปัญหาจริงๆ ทำไมไม่ลงโทษที่ผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้องอย่างเดียว จะแจกใบอะไรก็แจก พร้อมเขียนกำกับอะไรไว้ที่ใต้กระทู้ก็ได้นี่ แล้วปล่อยกระทู้ตกไป

ให้กลายเป็น "กรณีศึกษา" ล่ะครับ แถมยังสามารถเป็นอุทาหรณ์สอนใจก็ยังได้ จะได้สำนึกกัน ว่าจะได้ พยายามไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นซ้ำรอยขึ้นอีก

คำถามสุดท้าย :ask "การเมืองเป็นสิ่งต้องห้ามในวงสนทนา ของเยาวชนไทยจริงหรือ?????"

และถ้าหาก เขาพูดคุยถกเถียงกันด้วย สติ, วุฒิภาวะ และ ปัญญา จะต้องถูกห้าม ไม่ให้พูดเรื่องนี้กันเลยหรือ??????

___________________________________________________________

ผมอยากจะขอบอกผ่านกระทู้นี้ ว่า มันควรจะถึงเวลาซะทีครับ ที่คำว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจะเกิดขึ้น

ยอมรับเถอะ ว่า เยาวชนหนีไม่พ้นเรื่องการเมืองหรอกครับ

การบ้านการเมืองเป็นสิ่งที่สมควรจะรับรู้ไว้บ้าง

ไม่ใช่ว่าจะยึดตรรกะที่ว่า "ผมไม่ได้จะเรียนการเมืองนี่ ไม่เห็นต้องสนใจการเมืองเลย"

การเมืองสมัยนี้เป็นสิ่งสำคัญนะครับ หากมัวปิดหู ปิดตา ปิดปากอยู่

เกรงว่า เยาวชนเราจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้เท่าทันโลก

แล้วผมจะบอกไว้อย่างนึง ประเทศเราเป็นประชาธิปไตยนะครับ

จะมามัวบอกว่า การเมืองเป็นเรื่องสกปรก น่าเบื่อ อยู่อย่างนั้น มันไม่ใช่วิสัยนะครับ

ถ้าคุณคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก ทำไมคุณไม่มาช่วยสอดส่อง ตรวจสอบ เช็ค และวิเคราะห์ - ติดตามการทำงานของพวกเขาล่ะครับ

คุณจะได้รู้ ว่าคนไหนดีหรือไม่ดี จะได้ช่วยกันบอกต่อ คนอื่นจะได้ไม่เลือกเข้าสภาไปอีก

แล้วคนที่ชอบบอกว่า "การเมืองมันน่าเบื่อ อย่าไปสนใจเลย ปล่อยให้พวกนักการเมือง หรือพวกคนเฒ่าคนแก่เขาจัดการไปเถอะ"

คนประเภทนี้นี่น่ากลัวนะครับ

เพราะการพูด หรือ การมีวิสัยทัศน์แบบนี้ เท่ากับ ไม่สนใจใยดีประเทศ ขาดจิตสำนึกในประชาธิปไตย ในเมื่อเรามีประชาธิปไตย

ปากบอกว่ารักในระบอบประชาธิปไตยกันไม่ใช่เหรอครับ ทำไมเราไม่มารวมกันใช้ ต้องรอให้เกิดปัญหาขึ้นมาก่อนหรือครับ ถึงจะหันมาสนใจ

เราควรศึกษาไว้บ้าง เพื่อจะได้รับรู้ รับฟัง สิ่งที่นักการเมืองเขาทำกัน

เขาทำอะไร? เขาโกงหรือเปล่า?? เขาพัฒนาประเทศหรือเปล่า??? ฯลฯ

นี่เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเยาวชนที่จะเติบใหญ่ในวันข้างหน้า

เพื่อปฏิรูปประเทศเรา ปฏิรูปสังคมให้น่าอยู่มากขึ้น และพัฒนามากกว่าเดิมครับ


ขอร้องนะครับ อย่าเพิ่งลบกระทู้นี้ อยากให้หลายๆคนได้อ่านกัน :sweat

nevermercy
14th April 2012, 19:33
ผมว่าไม่ให้คุยเรื่องการเมืองเลยมันก็เกินไปนะ เพราะงั้นไงถึงไม่มีคนรุ่นใหม่ไฟเเรงๆที่มีความรู้เกี่ยวกับการเมืองเเน่นๆมาปกครองเเละนำมาซึ่งการพัฒนาในเชิงเด็กรุ่นใหม่
เว็บบอร์ดส่วนใหญ่ ห้ามเเสดงความเห็นเรื่องการเมือง...เพราะอะไร เพราะไม่อยากให้ทะเลาะกัน --* ถ้าคุยกันดีๆจะทะเลาะกันเหรอครับ เเลกเปลี่ยนมุมมองนี่มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับ ก็จะได้รู้ว่าไงว่าทำอะไรผิดไปบ้าง

Type-7442
14th April 2012, 19:36
กระทู้นี่อาจดรา่ม่า 55

sattawat1979
14th April 2012, 20:24
แค่ความเห็นไม่ตรงกัน ไม่ได้เรียกว่าดราม่านะครับ คนเราจะให้มันคิดเหมือนกันหมดได้ไง

แต่เพราะมันมีคนบางจำพวกที่ชอบยุแยงตะแคงรั่ว ชอบเห็นคนอื่นทะเลาะกัน นี่ปัญหามันมาจากคนพวกนี้

ถ้าเราคุยกันแบบมีมารยาทมันก็ไม่เกิดดราม่าหรอกครับ


มันเป็นเรื่องของการเคารพสิทธิส่วนบุคคลครับมันเป็นมารยาททางสังคม ถ้าเราเคารพสิทธิกันและกันก็ไม่เกิดปัญหาครับ

ยกตัวอย่างเรื่องคอมก็ได้ ถ้าเราจะบอกว่าคอมเราดี คอมเราแรง ก็พูดไปครับ ไม่มีใครว่าอะไร

แต่อย่าบอกว่าคอมเราดีกว่าคนนู้น คนนี้ คอมคนอื่นกาก อะไรยังงี้ มันก็เกิดดราม่าครับ เพราะไม่เคารพสิทธิกัน ไม่ให้เกียรติกัน พอจะเข้าใจใช่มั๊ย

==ToR==
14th April 2012, 21:24
กระทู้นี่อาจดรา่ม่า 55
^
^
^
^
จขกท.แบบนี้รึป่าว เป็นจำพวกที่คุณว่า

kingcesar
14th April 2012, 22:29
ผมว่าไม่ให้คุยเรื่องการเมืองเลยมันก็เกินไปนะ เพราะงั้นไงถึงไม่มีคนรุ่นใหม่ไฟเเรงๆที่มีความรู้เกี่ยวกับการเมืองเเน่นๆมาปกครองเเละนำมาซึ่งการพัฒนาในเชิงเด็กรุ่นใหม่
เว็บบอร์ดส่วนใหญ่ ห้ามเเสดงความเห็นเรื่องการเมือง...เพราะอะไร เพราะไม่อยากให้ทะเลาะกัน --* ถ้าคุยกันดีๆจะทะเลาะกันเหรอครับ เเลกเปลี่ยนมุมมองนี่มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับ ก็จะได้รู้ว่าไงว่าทำอะไรผิดไปบ้าง

นั่นสิ อย่างที่ผมบอก หากปิดกั้นทุกอย่างเกี่ยวกับการเมือง บางที มันก็ไม่ใช่ดีอะไรหรอก กลับกัน จะกลายเป็นผลเสียต่อการหาความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของเยาวชนซะมากกว่า

เอาจริงๆ เรื่องการเมืองถ้าคุยกันด้วย วุฒิภาวะและสติล่ะก็ ไม่มีทางที่จะทะเลาะกันหรอก


เห็นด้วยนะครับผม มันก็เป็นเรื่องจริงในสังคมบอร์ดเราๆนี่แหละ คนเรามีหลายประเภทจริงๆ

บางคนก็อารมณ์รุนแรงไปเหมือนผม บางคนก็กระต่ายตื่นตูม บางคนตอบอย่างไม่มีเหตุผล

ไม่ใช่แค่บางคนหรอก มันหลายคนเลยแหละ

แล้วยังรวมไปถึงพวกปั๊มเนียนด้วย

ผมคิดว่าบางทีคนที่มาบอกว่า ระวังดราม่า เนี่ย มันก็แอบมาปัีมเนียนโดยจุดประสงค์นั่นแหละ ไม่ใช่หวังจะมาเตือนหรอก -*-



^
^
^
^
จขกท.แบบนี้รึป่าว เป็นจำพวกที่คุณว่า

ใช่เลยครับ แบบนี้เลย -*- พวกบ่างช่างยุ

_MaximiliaN_
14th April 2012, 22:47
ผมเห็นด้วยครับ ..

บางเรื่อง เราควรเปิดใจ เปิดคุย มากกว่า มาปิดกั้นครับ ..
การปิดกั้น เป็นการแก้ปัญญาให้หมดๆไปเฉพาะช่วงเวลานั้น แต่ไม่ใช่การแก้ที่ต้นเหตุ ..


http://image.ohozaa.com/i/ca9/uPkDf.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/w0QLnFDgCX9UHTqg)

maxninepower
15th April 2012, 03:03
เอาเรื่องแรกก่อนนะ ผมว่า พวกที่ชอบโพสว่า ดราม่าแน่ๆ อะไรพวกนี้นิ

ความเห็นแนวนี้มันเข้าข่ายปั้มซะส่วนใหญ่เลยนะ แบบพอมีคนเริ่มโพส ก็จะคนตามเป็น 2-3 หน้า ถ้าเราเป็นจขกท.เนี่ย เราก็สามารถแจ้งลบ

โพสพวกนี้ได้นะ เนื่องจากไม่ได้มีสาระอะไรที่เกี่ยวข้องกับหัวกระทู้เลย ที่เราได้ตั้งไว้เลย ซึ่งถ้าเราทำแบบนั้น กระทู้เรามันก็ไม่โดนลบหรอก

ผมว่านะ มันต้องคุมกระทู้ตัวเองให้อยู่ด้วยอ่ะครับ ถ้าปล่อยเฉยไว้ไม่ทำอะไรเลย mod เค้ามาเห็นว่ามันกลายเป็นแหล่งปั้มไป เค้าก็ต้อง

ลบกระทู้ไปตามระเบียบ อ่ะ - -


เรื่องที่สอง ทำไมไม่ลงโทษที่ผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้องอย่างเดียว

จริงๆ เมื่อก่อนไม่ค่อยลบบ่อยเท่าปัจจุบันนะ ถ้ามันไม่หนักจริงๆอ่ะ เขาก็จะแค่ล็อคกระทู้เฉยๆ ปัจจุบันผู้ดูแลเหลือน้อยแล้วด้วยแหละ

เดี๋ยวนี้ก็เหลือแค่ พี่หนุ่ยแล้วด้วยมั้ง คนอื่นๆที่มีอำนาจ ส่วนใหญ่ก็ทำงานกัน ไม่ก็แต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว พอเหลือผู้ดูแลคนเดียว

เค้าก็เลยเลือกที่จะลบกระทู้ เป็นการจบปัญหาซะส่วนใหญ่ ถ้าถามว่า แล้วทำไมรับ mod เพิ่ม ผมว่ามันอาจเกี่ยวกับ การที่เมื่อก่อน

เคยมีจำพวกที่รู้จักกับ mod หน่อย ก็เอาอำนาจของ mod ไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองอะไรพวกนี้ พี่เค้าก็เลยไม่ค่อย

อยากรับเพิ่มสักเท่าไรมั้ง แบบไม่ค่อยไว้ใจเท่าไรน่ะ - -


เรื่องที่สาม การเมืองเป็นสิ่งต้องห้ามในวงสนทนา ของเยาวชนไทยจริงหรือ?

ในมารยาทการใช้บอร์ด เท่าที่เห็นรู้สึก ห้ามโพสกระทู้ทางการเมืองเนี้ย จะไม่มีแล้วนะ แต่ส่วนใหญ่ที่โดนลบกันมันคงเพราะจากกระทู้ที่

ถกกันด้วยสาระ มันก็กลายเป็นแหล่งปั้มของ พวกดราม่าๆกันไปซะหมด แต่บางทีกระทู้พอมันถกไป 4-5 หน้า จนมีพวกโพสด่ากันแบบ

หมา ด. ควาย ห. ไม่ก็พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ ที่นี้กระทู้มันก็เดือดสิ ก็เลยโดนเก็บไปตามระเบียบ

______________________________________


จริงๆ ผมว่า เยาวชนสมัยนี้ ชอบทำเหมือนเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวเองอ่ะครับ แบบตอนช่วงมีปัญหากันเรื่อง เขาพระวิหาร กับ กัมพูชา

จำได้ว่ามีพวกโพสประมาณว่า "รบกันเลยๆ ฆ่ามันๆ แต่อย่าให้กระทบถึงพวกเราละกัน" ดูเขาพิมพ์สิ ทุเรศสุดๆอ่ะ คนแบบนี้ - -

kingcesar
15th April 2012, 09:21
เอาเรื่องแรกก่อนนะ ผมว่า พวกที่ชอบโพสว่า ดราม่าแน่ๆ อะไรพวกนี้นิ

ความเห็นแนวนี้มันเข้าข่ายปั้มซะส่วนใหญ่เลยนะ แบบพอมีคนเริ่มโพส ก็จะคนตามเป็น 2-3 หน้า ถ้าเราเป็นจขกท.เนี่ย เราก็สามารถแจ้งลบ

โพสพวกนี้ได้นะ เนื่องจากไม่ได้มีสาระอะไรที่เกี่ยวข้องกับหัวกระทู้เลย ที่เราได้ตั้งไว้เลย ซึ่งถ้าเราทำแบบนั้น กระทู้เรามันก็ไม่โดนลบหรอก

ผมว่านะ มันต้องคุมกระทู้ตัวเองให้อยู่ด้วยอ่ะครับ ถ้าปล่อยเฉยไว้ไม่ทำอะไรเลย mod เค้ามาเห็นว่ามันกลายเป็นแหล่งปั้มไป เค้าก็ต้อง

ลบกระทู้ไปตามระเบียบ อ่ะ - -


เรื่องที่สอง ทำไมไม่ลงโทษที่ผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้องอย่างเดียว

จริงๆ เมื่อก่อนไม่ค่อยลบบ่อยเท่าปัจจุบันนะ ถ้ามันไม่หนักจริงๆอ่ะ เขาก็จะแค่ล็อคกระทู้เฉยๆ ปัจจุบันผู้ดูแลเหลือน้อยแล้วด้วยแหละ

เดี๋ยวนี้ก็เหลือแค่ พี่หนุ่ยแล้วด้วยมั้ง คนอื่นๆที่มีอำนาจ ส่วนใหญ่ก็ทำงานกัน ไม่ก็แต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว พอเหลือผู้ดูแลคนเดียว

เค้าก็เลยเลือกที่จะลบกระทู้ เป็นการจบปัญหาซะส่วนใหญ่ ถ้าถามว่า แล้วทำไมรับ mod เพิ่ม ผมว่ามันอาจเกี่ยวกับ การที่เมื่อก่อน

เคยมีจำพวกที่รู้จักกับ mod หน่อย ก็เอาอำนาจของ mod ไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองอะไรพวกนี้ พี่เค้าก็เลยไม่ค่อย

อยากรับเพิ่มสักเท่าไรมั้ง แบบไม่ค่อยไว้ใจเท่าไรน่ะ - -


เรื่องที่สาม การเมืองเป็นสิ่งต้องห้ามในวงสนทนา ของเยาวชนไทยจริงหรือ?

ในมารยาทการใช้บอร์ด เท่าที่เห็นรู้สึก ห้ามโพสกระทู้ทางการเมืองเนี้ย จะไม่มีแล้วนะ แต่ส่วนใหญ่ที่โดนลบกันมันคงเพราะจากกระทู้ที่

ถกกันด้วยสาระ มันก็กลายเป็นแหล่งปั้มของ พวกดราม่าๆกันไปซะหมด แต่บางทีกระทู้พอมันถกไป 4-5 หน้า จนมีพวกโพสด่ากันแบบ

หมา ด. ควาย ห. ไม่ก็พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ ที่นี้กระทู้มันก็เดือดสิ ก็เลยโดนเก็บไปตามระเบียบ

______________________________________


จริงๆ ผมว่า เยาวชนสมัยนี้ ชอบทำเหมือนเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวเองอ่ะครับ แบบตอนช่วงมีปัญหากันเรื่อง เขาพระวิหาร กับ กัมพูชา

จำได้ว่ามีพวกโพสประมาณว่า "รบกันเลยๆ ฆ่ามันๆ แต่อย่าให้กระทบถึงพวกเราละกัน" ดูเขาพิมพ์สิ ทุเรศสุดๆอ่ะ คนแบบนี้ - -


นั่นแหละครับ พวกที่ชอบมา ตอบกระทู้ว่า ดราม่าๆ จะกินมาม่า ขอต้มมาม่าก่อนนะ กำลังกลิ่นหอม

ไอ้แบบนี้ผมรู้สึกว่ามันมากเกินไป ถ้าอยากจะโพสเตือน ก็เตือนแค่ คน 2 คนก็พอ ไม่ใช่โพสตามๆกันเป็น 10 reply อันนี้มันมากเกินความจำเป็น

แล้วมันจะสร้างความเดือดร้อน บางทีผมกำลังคุยกับคนอื่นในกระทู้ที่ไม่ใช่กระทู้ผม ไอ้พวกนี้ก็มาปั่นเรื่องให้ ดูเหมือนกระทู้จะดูรุนแรง

สุดท้ายผมยังคุยไม่จบ ก็โดนลบกระทู้ซะแล้ว ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดของผมเลย

____________________

เรื่องการดูแลกระทู้ตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่ผมก็ทำ และผมพยายามดีที่สุด ที่จะปกป้องกระทู้ที่ตัวเองตั้งขึ้นมา ไม่ให้ถูกลบ

ผมทั้งเตือน ทั้งบ่น ทั้งตำหนิ พยายามควบคุมอุณหภูมิกระทู้ตัวเองตลอดไม่ให้สูงเกินไป

สำหรับบางคนเมื่อเห็นว่ากระทู้ตัวเองจะ Drama ก็ยอมเป็นผู้แพ้ ลบเนื้อหากระทู้ตัวเอง แล้วก็ทำเป็นเขียนว่า "ขออนุญาตลบกระทู้" บางทีก็แจ้ง Mod ลบกระทู้ตัวเอง -*-

(แต่ผมไม่ใช่คนแบบนี้ ผมปกป้องกระทู้ตัวเองสุดตัว :sweat เพราะผมอุตส่าห์นั่งพิมพ์มา)

____________________

จริงอยู่ที่ว่าเรื่องการเมืองไม่ค่อยได้ห้ามแล้ว แต่ว่า มันจะเกี่ยวเนื่องไปกับข้อที่ว่า "อาจก่อให้เกิดความแตกแยก" น่ะสิครับ

แต่ในกรณีที่ผมเจอเมื่อช่วง 2-3 วันก่อนนี่ยังไม่มีการด่า หมา ควาย หรือ พาดพิงไปถึง King เลยก็โดนลบซะแล้ว -*-

ผมเถียงกันด้วยเหตุผล และสาระ + ข้อมูลที่ตนเองมี ไม่ได้เถียงกันแบบหยาบคายซะหน่อย โดนหมดเลย น่าจะล็อคไว้ก็พอ ไม่น่าลบ

เสียดาย จะได้กลับมาอ่านอีก เป็นเพราะ พวกชอบบ่นดราม่า กับ พวกที่ชอบอ้างว่าเบื่อการเมือง มาปั่นกระทู้เนี่ยแหละ - -

____________________

ใช่ครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้พวกนี้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ ควรจะศึกษาไว้บ้าง

เวลาคนเขาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน จะได้ไม่เป็นใบ้

ผมเห็นหลายครั้งมากครับ

ตั้งแต่เรื่องเขาพระวิหาร, ยาเสพติด, ความขัดแย้งภาคใต้

เด็กพวกนี้จะชอบมาตอบกระทู้ในแนวๆว่า "เอาทหารไปถล่มมันเลยยยย", "ฆ่ามันๆ", "รู้สึกถึงสงคราม เด็กๆอย่างพวกเราอาจจะได้จับปืนไปยิงกับพวกมันให้ตาย"

ผมอ่านแล้วยังรู้สึกว่า... อะไรกัน??? ทำไมเด็กพวกนี้ถึงคิดกันได้แบบนี้ ผมไม่สนหรอกว่า เขาจะพูดเล่น หรือ พูดด้วยความคึกคะนอง

มันก็ไม่สมควร ยุคนี้มันหมดยุคที่ต้องทำสงครามกันแล้ว

มันมีวิธีที่ดีกว่าการทำสงครามตั้งหลายอย่าง

แต่จะเห็นได้ชัดเลยว่า เด็กพวกนี้ได้รับความคิดที่ว่า สงคราม และการยิงกัน คือการแก้ปัญหา ที่ซึมซับมาจากการเล่นเกม FPS แนวทำสงครามต่างๆ

ซึ่งมันไม่เหมือนกับโลกยุคโลกาภิวัตน์อย่างนี้