PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : เรื่องเล่า เช้าถึงบ่าย



atomza07
26th April 2012, 15:50
เรื่องเล่า เช้า ถึง บ่าย
เมื่อยามเช้าพ่อฉันส่งฉันไปเรียนพิเศษ ระหว่างทางฉันก็เห็น สาววัยทำงาน แหม่ แหล่มๆ จริงๆ แล้วฉันก็นึกถึงเรื่องเก่าๆที่ไม่ค่อยอยากจะคิดถึงมัน ทันใดนั้นเสียงเพลงจากวิทยุในรถก็ดังขึ้น "เกลียดตัวเองที่ลืมช้า มันลืมช้า จดจำอะไรบ้าบอ ยังอยู่กับคำว่าเฝ้ารอ ไม่รู้จะเอาอะไร" ทันใดนั้นฉันคิดในใจ "อะไรกันว่ะ มาเปิดซะถูกที่ถูกเวลาจริงๆ เห้อ".... . . พอมาถึงโรงเรียน ก็เห็นหญิงสาวสเมอฮี ทำฉันให้มีอารมณ์ทั้งคาบ พอวิชาที่ 2 ฉันก็เห็น สาวน้อยโนตม ว้าวว ฉันพยายามสกดกั้นอารมณ์ด้วยการเล่นเกมส์ในการเรียน เพราะคาบนั้นเป็น วิชา Eng ซึ่งฉันก็ไม่ค่อย ชอบ เท่าไหร่ จึงไม่ใส่ใจมาก เวลาล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงตรง ก็เลิกเรียน ฉันเดินออกไปข้างนอก ฉันเห็นสาวๆ เพียบเลย แต่ล่ะนางโอ้วแม่เจ้า สุดยอด หลังจากนั้นฉันก็ไปเล่นเกมส์อยู่ที่ จินดา กับ ลูกพี่ของฉัน พอเล่นเสร็จฉันก็เดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางที่ฉันเดินไปนั้น ฉันก็เดินผ่านร้านขายนม แต่สายตาฉันนั้น จ้องไปที่นมของคนขาย ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตั้งใจดูหรอก ตามันไปเอง บังคับยาก แล้วพอฉันเดินมาถึง 4 แยก ฉันก็เห็นสาวน้อยเด้งดึ๋ง กำลังข้ามถนนไป ฉันก็ดูก่อนข้ามไป เพื่อเก็บรายละเอียด save ลงสมอง เพื่อ load เอาไว้ Fap พอฉันมาถึง รถ ม. ก็ไม่มาซักที ฉันก็ ฆ่า เวลาด้วยการเล่นเกมส์ PSP-3000 ของฉัน แล้วพอฉันนั่งเล่นไปซักพักก็ถอนหายใจแล้วเงยหน้าขึ้นมา ฉันได้ยินเสียงของพวกเธอ บ่น "****กดแล้วยังจะบอกกูอีก" ฉันเห็นเธอคนที่พูดคนนั้น เธอยิ้มได้น่ารักมาก เค้าก็มองหน้าฉัน ตรงที่ฉันนั่งอยู่ด้วยสายตาเวทนาเหมือนเห็นฉันเป็นขอทาน แน่นอน ฉันก็ส่งยิ้มไปให้แต่เค้าก็ดันไม่เห็นแต่ไม่เป็นไร พอรถสาย 7 ผ่านมา ฉันเห็นคนนั่งในรถน่ารักมาก อยากจะขึ้นไปแต่ถ้าฉันขึ้น สาย 7 ไปฉัน จะต้องขึ้นรถอีกคันไปอีกแน่ ระหว่างที่ฉันกำลังลังเลอยู่ว่า จะขึ้นไปดีใหม ฉันมองหน้าของเธอไปด้วย เธอก็มองหน้าฉันกลับมาเช่น และแน่นอน เธออาจจะคิดว่าฉันบ้าก็ได้ เพราะท่านั่งและท่าทางที่ไม่สมกับเป็นผู้ดีเอาซะเลย (แน่่นอนซิ เพราะฉันไม่มีหนิ) ฉันก็ตัดสินใจไม่ขึ้น ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก หลังจากนั้นรถมันก็ผ่านไป เห้อ ก็ทำได้แค่ถอนหายใจล่ะว้า พอฉันเดินออกไปดูว่า รถมาหรือยัง ฉัเห็นสองสาว อยู่ที่ ตู้ ATM กำลังกดเงิน เธอทั้งสองคนน่ารักมาก ดูจากสัดส่วนและน่าอก พวกเธอน่าจะอยู่ ม.4 โดยประมาณ (เป็นข้อมูลเรื่องสัดส่วนเก่า) ฉันคงทำได้แค่มองล่ะมั้ง ก็คงต้องคิดยังงั้นล่ะว่ะ เห้อ แล้วก็ถอนหายใจอีกรอบ เซ็งเป็ด หลังจากนั้นรถก็มาในรถมีแต่คนแก่ และผู้ชาย ชั่งเซ็งจิต ยิ่งนัก เวลานั้น มีคนแก่ขึ้นรถมาฉันพยายามจะช่วยถือของ แต่แกก็ดึงออกไป เพราะคิดว่าฉันจะขโมย เห้อ แต่เค้าก็ไม่ได้คิดอะไรเลย ฉันก็โล่งอกไป แล้วฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะคุยกับพ่อฉัน แล้วก็มี คนนึ่งขึ้นรถมาเป็นผู้หญิง ผมกำลังจะลุกขึ้นยืนแต่พี่ คนที่นั่งอยู่ฝั่งเขยิบไปด้านข้างทำให้นั่งได้ ส่วนฉันก็ได้ยืนขึ้นโทรศัทพ์ ก็ตกรถก็เคลื่อน แต่ดวงดีที่ฉันคว้าโทรศัพท์ไว้ได้ทัน (สรุป ตูทำดีไม่ขึ้นเลยใช่ใหม) ฉันจึงคุยธุระกับพ่อ เสร็จแล้วฉันก็วางหู พอรถแล่นมาจอด ตรงตลาดวาริน ฉันก็มองไปรอบๆทาง เพราะคนขับมันจอดรอ ผู้โดยสารขึ้นรถ ซึ่งก็นานมากฉันจึงโทรไปหาแม่ของฉัน ฉันก็คุยธุระไป เสร็จแล้วก็วางสาย รถก็เริ่มเคลื่อนออกไป... . แล้วรถก็จอดตรง 4แยกไฟแดงอีกทีนึ่ง ฉันเห็นผู้หญิงคนนึ่งน่าตาน่ารักกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ น่าตาของเธอช่างน่ารักเสียจริงทำให้ฉันอยากจะลงไปคุยกับเธอแต่ก็ทำไม่ได้ ฉันแค่หันมองไปที่เธอแล้วเธอก็หันมา ฉันก็ยิ้มให้หน่อยๆ เธอก็ยิ้มตอบกลับมาและยืนมองดูฉันซักพัก แล้วเธอก็เดินจากไป ก็ต้องขอบคุณคนขับรถ ม. อ่ะนะที่จอดรับรอลูกค้าทำให้ฉันได้พบสิ่งดีๆแบบนี้ แต่ก็น่าเสียดายยิ่งนัก ฉันอุทานขึ้นใจ "อีกแล้วเหรอวันนี้ เห้อ" ถอนหายใจอีกรอบกับความเซ็ง ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะพบกับเธออีกซักครั้งนึ่งจังเลย ได้เจอหน้ากันก็ยังดี รถก็เคลื่อนผ่านไป ฉันก็ได้แต่คิดถึงถึงเธอคนนั้น และรถก็เคลื่อนไปเรื่อย ดูสิ่งรอบตัวระหว่างทาง ชั่งช้าเสียจริงทั้งที่วันก่อนๆ มันก็น่าจะเร็วกว่านี้นะ.. . ... ... และแล้วก็มาถึงจุดหมายเสียที ฉันกดกริ่งเพื่อลงรถ แล้วจ่ายเงิน ไปซื้อของ ฉันเห็นอยู่ 2 ร้าน ใกล้ๆ อีกร้านคือร้านประจำ อีกร้านคือ ร้านที่ไม่ค่อยได้เข้าแต่ว่าร้านนั้นใกล้กว่าฉันจึง ไปซื้อ ของ ระหว่างที่ฉันกำลังหยิบน้ำ 2 ขวดอยู่นั้น (อิชิตันรสเก็กฮวย กับ คาลพิสแล็กโตะโซดากระป๋อง) ฉันก็ได้ยินเจ้าของร้านด่าเด็กที่อยู่ข้างหน้า ฉันก็พยายามรีบหยิบมา แล้วในมือแกถือมีดอยู่ (เพราะแกขายอาหารตามสั่งด่้วย) ผมก็รีบมาแล้วถามว่ากี่บาท เจ้าของร้านก็ยื่นมือมา แล้วบอกว่า 50 (จริงๆราคามันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับผมไม่กล้าเถียง เพราะกลัวมีดในมือ) ผมก็รีบจ่ายๆไปโดยไม่ขัดข้อง แล้วแม่ฉันก็มา ฉันจึงขึ้นรถไป แล้วระหว่างทางฉันก็บ่นเรื่องนี้ให้แม่ฟัง สุดท้ายฉันก็พูดว่า "ผมจะไม่มาร้านนี้อีกแล้ว บริการก็แย่ ขายก็แพง ถึงว่าล่ะไม่มีคน" ฉันบ่นอย่างอารมณ์เสีย... .. ... . สุดท้ายก็มาถึงบ้านฉัน ฉันเดินขึ้นมาที่โต๊ะคอมฉัน ดูรูปที่โต๊ะคอม มันเป็นรูปที่ฉันถ่ายคู่กับผูหญิงคนนึ่ง ซึ่งแน่นอนฉันก็แอบชอบเธอมานานมากแล้ว แต่ก็รู้ว่าเราเป็นได้แค่เพื่อนกัน แต่ฉันก็ยังชอบเค้าอยู่ ในใจฉันคิดว่า "ให้ตายซิ พาลทำให้คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าจนได้ เห้อ" แล้วฉันก็เปิดคอม แล้วตั้งใจจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ผ่าน Facebook ของฉัน จบ... .. . .... ... ... .. . . .

ช่วงแรกๆมันอาจจะไร้สาระ นะครับ (ก็เขียนไปตามความเป็นจริงอ่ะ) นี่คือเรื่องจริงของผมครับ แค่อยากเอามาเล่า แล้วถามว่า ถ้าผมเอาไปแต่งนิยายเกริ่นนำประมาณนี้มันจะ โอเคใหมครับ คือจะดัดให้มันเป็น แฟนตาซีนิดๆ ผมไม่รู้จะไป Poem หรือ Main ดี ผมเลยเลือก main มา แต่ไม่รู้ถูกหมวดหรือปล่าวครับ ขอบคุณครับ ปล. เปิดอ่านก็คอมเม้นท์ ผมหน่อยก็ได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าพวกท่านคิดยังไงกันบ้างครับ

Peaza007
26th April 2012, 15:53
ขอ 3 คำ

ยาว มาก ครับ ^^

nakiann123
26th April 2012, 15:54
กดไว้ก่อน ค่อยกลับมาอ่าน 55555 ยาวมาก

Msguzs
26th April 2012, 15:59
โหวผมว่าเรื่องจริงแบบนี้น่าจะสนุกกว่า ดัดเป็นแฟนซีอีกนะครับ

ผมอ่านแล้วสนุกมาก มันดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันก็สนุกจริงๆ เหมือนได้ดูช่วงชีวิตของคนๆนึงเลย

เล่าเรื่องจริงแบบนี้ละสนุกดี มันดูเป็นตำนานกว่านิยาย ทั่วไปจริงๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน 555+

atomza07
26th April 2012, 16:05
โหวผมว่าเรื่องจริงแบบนี้น่าจะสนุกกว่า ดัดเป็นแฟนซีอีกนะครับ

ผมอ่านแล้วสนุกมาก มันดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันก็สนุกจริงๆ เหมือนได้ดูช่วงชีวิตของคนๆนึงเลย

เล่าเรื่องจริงแบบนี้ละสนุกดี มันดูเป็นตำนานกว่านิยาย ทั่วไปจริงๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน 555+

โอ้วขอบคุณมากครับที่ชอบมัน 555 มันเป็นเหตุการณ์ของวันนี้ แหละครับ ก็เลยอยากลองเล่าให้มันออกมาเป็นรูปแบบนี้ดูครับ ไว้วันพรุ่งถ้าผมเจออะไรมา ผมจะลองเอามา โพสต์ดูนะครับ ^^ 555 แต่คงเอามาได้เฉพาะเหตุการณ์ที่มันมีอะไรพิเศษๆล่ะมั้ง เพราะว่าชีวิตประจำวันของผมก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย นอกจากการดู สาวๆแล้ว วิเคราะห์ สัดส่วนแค่นั้นล่ะครับ