PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : 5 ความลึกลับของโลก ที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ล่วงรู้



~!-!eRo~
1st May 2012, 22:18
โลกคือดาวเคราะห์ที่เรารู้จักดีที่สุด แต่เราก็ยังตอบคำถามเหล่านไม่ได้ ความดันและความร้อนมหาศาลทำให้เราเข้าไปสำรวจภายในโลกไม่ได้ และกาลเวลายาวนานก็แยกเราจากกำเนิดแห่งชีวิต แด่เพราะความลับเหล่านี้คือกุญแจไปสู่ความเข้าใจโลกของเรา นักธรณีวิทยาจึงยังมุ้งค้นหาคำตอบ

ความลับที่ 1 : โลกของเราเป็นหนึ่งเดียวมากแค่ไหน?

โลก คือ โอเอซิสแห่งจักรวาล โลกมีมวล มีชั้นบรรยากาศ น้ำ และปริมาณแสงกับความ ร้อนที่เหมาะสมพอดี ขณะที่เพื่อนบ้านทั้งเจ็ดดวงของเรากลับไร้ชีวิต ถ้าไม่เย็นเยือกก็ ร้อนจี๋แต่โลกเป็นหนังเดียวหรือเปล่า? หรือยังมีดาวเคราะห์อื่นเหมือนโลกอีก

ทฤษฎีที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์รู้ถึงกระบวนการก่อกำเนิดโลกมากขึ้นเรื่อยๆ จากพื้นผิวโลกเป็นดาวเคราะห์หินธรรมดาๆ ที่โคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง เริ่มชัดเจนขึ้นว่าเกิดเหตุการณ์ชุดหนึ่ง ซึ่งทำนายไม่ได้อย่างต่อเนื่องจบก่อให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมต่อกำเนิดของชีวิตขึ้น

อย่างแรก โลกตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ดีเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ และมีอุณหภูมิที่เหมาะสมยิ่งกว่านี้ ดวงจันทร์ที่ค่อนข้างใหญ่ยังสร้างการเหวี่ยงที่คงที่และภูมิอากาศที่ค่อนข้างคงที่ให้ด้วย ขณะที่แก่นโลกขนาดใหญ่ซึ่งเป็นธาตุเหล็กก็ได้สร้างสนามแม่เหล็กขึ้นปกป้องรังสีจากดวงอาทิตย์ และสุดท้ายโลกยังได้รับน้ำปริมาณมากด้วย ทั้งที่ปกติแล้วในระบบสุริยะจะพบน้ำได้ในที่ห่างไกลออกไปกว่านี้คำอธิบายที่แพร่หลายก็คือ โลกถูกอุกกาบาตน้ำแข็งจำนวนมากพุ่งชน แบบจำลองคอมพิวเตอร์ล่าสุดสาธิตให้เห็นว่าดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์รวมกันเหวี่ยงเทหวัตถุขนาดเล็กเข้ามายังดาวเคราะห์ชั้นในอย่างโลกได้

นักวิทยาศาสตร์จะทำอย่างไรต่อไป?

เป็นเรื่องยากที่จะบ่งชี้ว่าโลก เป็นหนึ่งเดียวเพียงใด ถ้าเรายังไม่รู้ว่ามีระบบสุริยะแบบ เดียวกันนี้อยู่มากแค่ไหน นั่นคือ สิ่งที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศเฮอร์เชลในยุโรปได้ เริ่มสำรวจมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2009

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

ความเป็นหนึ่งเดียวของโลกนั้นสำคัญเพราะเป็นตัวตัดสินว่าเราควรทุ่มเทความพยายามใน การค้นหาชีวิตบนดาวดวงอื่นมากเพียงใด

ความลึกลับนี้มีโอกาสคลี่คลายไหม?

เราอาจไม่มีวันรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้โลกถือกำเนิดขึ้นเมื่อกว่า 4,600 ล้านปีก่อน แต่นักวิทยาศาสตร์ก็รู้แล้วว่าควรค้นหาอะไร

โชคช่วยทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสม

โลกดูเหมือนเป็นดาวเคราะห์จากหินที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นโชคชะตา ต่างหากที่ก่อให้เกิดดาวเคราะห์สีเขียวที่มีน้ำและชีวิตดังที่เรารู้จักใน ทุกวันนี้

http://upic.me/i/e8/dn9761-2_800.jpg (http://upic.me/show/35209605)

-ดวงอาทิตย์ อยู่ห่างจากโลก เป็นระยะทางที่เหมาะสมโลกจึงไม่หนาวและไม่ร้อนเกินไปมาตั้งแต่ต้น
-ดวงจันทร์ทำให้การโคจรของโลกมีความเสถียร และทำให้เกิดบ่อน้ำทะเลซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดชีวิต
-แก่นโลก ซึ่งเป็นธาตุเหล็กช่วยรักษาสนามแม่เหล็ก
-ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ เหวี่ยงอุกกาบาต น้ำแข็งขนาดเล็กเข้ามายังโลกในช่วงแรกที่ระบบสุริยะเกิดขึ้น จึงนำน้ำมาสู่โลกของเรา


ความลับที่ 2 : อะไรอยู่ตรงศูนย์กลางโลก?

ภายในของโลก คือ แก่นโลก ที่มีลักษณะเป็นของแข็งที่มีเหลวล้อมรอบ แก่นโลกสำคัญต่อสนามแม่เหล็กมาก จึงสำคัญต่อชีวิตบนโลกด้วย แต่ทำไมโลกจึงมีแก่นพิเศษนี้

ทฤษฎีที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลการสั่นสะเทือนของแผ่นดิน ทฤษฎีทางเคมี และการวัดสนามแม่เหล็กโลก นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าแก่นโลกมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของเส้นผ่านศูนย์กลางโลก นักวิทยาศาสตร์ยังรู้ว่าแก่นโลกประกอบด้วยสองชั้น คือ แก่นชั้นในที่แข็งและแก่นชั้นนอก ที่เป็นของเหลวซึ่งสร้างสนามแม่เหล็กให้กับโลก

นักวิทยาศาสตร์เคยคิดว่าขนาดของแก่นโลกที่ค่อนข้างใหญ่เป็นผลจากข้อเท็จจริงที่ว่าโลกเคยชนกับดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งในยุคแรกๆ ดาวเคราะห์ลองดวงอาจมีสมบัติทางเคมีและองค์ประกอบคร่าวๆ คล้ายกัน แต่ในการชนกันนี้ ธาตุต่างๆ ไม่ได้กระจายตัวสม่ำเสมอ และแทนที่จะกลับสู่อวกาศ แก่น ของดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งซึ่งเป็นเหล็กกลับ “จมสู่ก้นบึ้ง” ของโลกเพราะมีความหนาแน่นสูง แต่ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์การกระจายตัวของไอโซโทปในก้อนหินได้ อย่างแม่นยำมากการกระจายตัวของสารเคมี ในหินแสดงให้เห็นว่าทฤษฎีนี้อาจต้องตกไป

แรกเริ่ม แก่นโลกอาจเป็นของเหลว แต่เมื่ออุณหภูมิลดลง เหล็กตรงแก่นชั้นในก็ ตกผลึก ก่อเกิดเป็นแก่นชั้นในซึ่งยังคงขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์ พบว่าแก่นโลกทางตะวันตกกำลังละลาย แต่ทางตะวันออกแข็งตัวมากขึ้น ดังนั้น แก่นโลก จึงมีความเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่เคยเชื่อกัน

นักวิทยาศาสตร์จะทำอย่างไรต่อไป?

เป็นไปได้ว่าปฏิบัติการดาวเทียมในอนาคตจะให้ข้อมูลที่ดีขึ้น อย่างน้อยก็ข้อมูลเกี่ยวกับแก่นโลกชั้นนอก ดาวเทียมวัดสนามแม่เหล็กได้ตลอดอายุการใช้งาน มันจึงเผยความเปลี่ยนแปลง ในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าเกิดกระบวนการ อะไรในแก่นโลก และเกิดขึ้นเร็วแค่ไหน

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

ก่อนหน้านี้ สนามแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนแปลสูง ขั้วแม่เหล็กสลับกันหลายครั้ง เป็นเรื่อง สำคัญที่จะค้นพบว่าทำไมจึงเกิดขึ้นและเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน หากไร้สนามแม่เหล็ก เราจะ ต้องเผชิญกับรังสีจากนอกโลกปริมาณมหาศาล

ความลึกลับนี้มีโอกาสคลี่คลายไหม?

แม้อุปกรณ์ที่ดีขึ้น เช่น ดาวเทียม คอมพิวเตอร์ และเครื่องวัดความสั่นสะเทือน ทำให้เราเข้าใกล้คำตอบมากขึ้น แต่เราก็อาจไม่มีทางรู้ แน่ว่าอะไรอยู่ตรงใจกลางโลก

โลกของเรามีหลายชั้น

http://upic.me/i/08/earth_layers.jpg (http://upic.me/show/35209616)

โลกของเรา ประกอบด้วยเปลือกนอกที่ค่อนข้างบาง กับแก่นโลกซึ่งมีขนาดใหญ่ โดยปกติเปลือก โลกจะเย็นส่วนแก่นโลกจะร้อนกว่า แต่ก็มีความแตกต่างทางอุณหภูมิและความดันได้มากอยู่ด้วย

ธาตุต่างๆ ทำให้โลกแบ่งเป็นชั้นๆ

http://upic.me/i/1h/3d-periodic-table.jpg (http://upic.me/show/35209866)

โลกของเราแบ่งเป็นหลายชั้นเพราะกระบวนการที่เรียกว่า differentiation ทำให้ธาตุทางเคมีแยกตัวตามความหนา แน่นธาตุหนักและธาตุที่รวมตัวกับธาตุหนักส่วนใหญ่จมลงสู่ศูนย์กลางโลก ส่วนธาตุที่เบากว่าจะลอยตัวขึ้นสู่ชั้นเนื้อโลก

-ธาตุไลโธโฟล์ (lithophile elements) คือธาตุเบาที่รวมตัวกับธาตุเหล็กและตกลงสู่แก่นโลก
-ธาตุโซเดอร์โรโฟล์ (siderophile elements) คือธาตุหนักที่รวมตัวกับเหล็ก ตกลงสู่แก่นโลก
-ธาตุแคลโคไฟล์ (chalcophile elements) รวมตัวกับกำมะถันและตกลงลู่แก่นโลกเป็นส่วนใหญ่

วิวัฒนาการของโลก โลกก่อตัวขึ้นราว 4,600 ล้านปีก่อนและได้เปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด

ความลับที่ 3 : ทวีปเลื่อนเกิดขึ้นมาแต่แรกเริ่มได้อย่างไร?

นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้มานานแล้วว่า แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่สัมพันธ์กับแผ่นอื่น แต่กระบวนการทอยู่เบื้องหลังยังเป็นเรื่องลึกลับ มีอะไรเป็นตัวกระตุ้นการเคลื่อนที่นี้หรือ หรือมันแค่เกิดขึ้นมาเอง

ทฤษฏีที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์

นักวิทยาศาสตร์เชื่อมาตลอดจนถึงเมื่อไม่กี่ปีมานี้ว่า ทวีปเลื่อนเกิดจากแรงขับเคลื่อนในชั้น แมนเทิล โดยแมกมา หินบะซอลต์จากรอยแตกกลางมหาสมุทร ทำให้พื้นทะเลขยายตัว ออก เกิดเป็นแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นที่แยกออกจากกัน โดยการเคลื่อนที่นี้เกิดขึ้นจาก กระแสการพาความร้อนในชั้นแมนเทิล แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีการเคลื่อนไหวในชั้นแมนเทิลมากพอจะทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ทฤษฎีที่ใหม่กว่าและมีข้อมูลกับแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนบ่งชี้ว่าน้ำหนักของแผ่นเปลือกโลก คือ ปัจจัยสำคัญ แผ่นเปลือกโลกไถลไปบนพื้นผิวของแมนเทิล ที่ลาดเอียงเล็กน้อย มันจึงถูกดึงไปโดยน้ำหนัก ของตัวเอง ยิ่งแผ่นเปลือกโลกเก่าแก่ จะยิ่งหนาและเย็นตัวลง น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้แผ่นเปลือกโลกจมลึกลงไปในชั้นแมนเทิล ฐานของแผ่นเปลือกโลกจึงไถลตัวออกจากสันเขา กลางมหาสมุทร ส่วนใหญ่เป็นผลจากแรงโน้มถ่วง ถ้าการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก ไม่ได้มีสาเหตุมาจากกระบวนการในชั้นแมนเทิล แต่เกิดจากน้ำหนักของแผ่นเปลือกโลกเอง เช่น การชนของอุกกาบาต ก็อาจเป็นตัวเริ่มต้น แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์

นักวิทยาศาสตร์จะทำอย่างไรต่อไป?

นักวิทยาศาสตร์ใช้เทคโนโลยีใหม่ทดลอง กับสารจากชั้นแมนเทิลโดยใช้อุณหภูมิและ ความดันที่เหมาะสม จึงจำลองกระบวนการของแมนเทิลได้ และสร้างแบบจำลองสภาพ ภายในโลกขึ้นมาด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

ภูเขาไฟบนโลกส่วนใหญ่และการเกิดแผ่นดินไหว มักปรากฏในบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกมา บรรจบกัน หากรู้กระบวนการที่ทำให้เกิดการ เคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกมากขึ้นก็จะนำ มาใช้ในการพยากรณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติได้

ความลึกลับนี้มีโอกาสคลี่คลายไหม?

นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเข้าไปสังเกตชั้น แมนเทิลได้โดยตรง แต่ความรู้ในสาขานี้เพิ่ม ทวีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
ควานรู้เรื่องการเคลื่อน ตัวของแน่นเปลือกโลกที่มากขึ้น อาจช่วยพยากรณ์การปะทุของ ภูเขาไฟได้ดี OLIVIER GRUNEWALD

http://upic.me/i/oy/30-11-2554-13-49-57.jpg (http://upic.me/show/35210294)

ความลับที่ 4 : ชีวิตบนโลกเกิดขึ้นเมื่อไร?

กำเนิดชีวิตบนโลกอาจถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดนับตั้งแต่เกิดโลกขึ้นมาก็ ได้ แต่ชีวิตเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร และต้องใช้เวลานานแค่ไหน จากช่วงที่เกิดสกาวะเหมาะสมต่อชีวิต จนกระทั่งเกิดชีวิตขึ้นมาจริงๆ บนโลก

ทฤษฎีที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์

บรรพบุรุษร่วมของสิ่งมีชีวิตบนโลกหรือ LUCA มีชีวิตอยู่เมื่อราว 3,500 ล้านปีก่อน LUCA มีคุณสมบัติแห่งชีวิตเหมือนสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันนี้ครบถ้วน เช่น แบ่งเซลล์ได้ และมี รหัสพันธุกรรมที่ใช้ดีเอ็นเอ

ร่องรอยชีวิตเก่าแก่ที่สุดที่ยอมรับกันพบ ที่กองหินซูอา (Isua Formation) ใน กรีนแลนด์ มีอายุราว 3,800 ล้านปี สิ่งที่นักธรณีวิทยาค้นพบไม่ใช่ฟอสซิล แต่เป็น คาร์บอนที่ถูกสิ่งมีชีวิตแปลงสภาพ แล้วต่อมาก็ตกตะกอนอยู่ก้นมหาสมุทร เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร ชีวิตบนโลกอาจเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น แต่หาร่องรอยได้ยากเพราะโลกถูกอุกกาบาต โจมตีอย่างหนัก จนร่องรอยในโลกยุคแรกๆ เมื่อราว 4,000 ล้านปี ก่อนสูญหายไปหมด

มีหลายสิ่งบ่งชี้ว่าสภาพที่เอื้ออำนวยต่อการ มีชีวิตนั้นมีอยู่แล้วตั้งแต่โลกถือกำเนิดขึ้นใหม่ ๆ การค้นพบแร่เซอร์คอน อายุ 4,400 ล้านปี ที่แจ็คฮิลส์ ในออสเตรเลียเป็นข้อพิสูจน์อย่าง ดีว่าเมื่อ 4,400 ล้านปีที่แล้วโลกมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ ทั้งยังน่าจะมีน้ำและชั้นบรรยากาศด้วย ซึ่งก็แปลว่าโลกในยุคนั้นมีสภาพที่เหมาะสมต่อการก่อกำเนิดชีวิตนั่นเอง

นักวิทยาศาสตร์จะทำอย่างไรต่อไป?

นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลองจำลองพัฒนาการ ขั้นแรกเริ่มจากสารเคมีอนินทรีย์มาสู่เซลล์แรกทีมของนาซ่าทีมหนึ่งกล่าวว่า ชีวิตอาจเริ่มต้นด้วยเงื่อนไขแตกต่างจากที่เคยเชื่อกันมาก็ได้ เพราะแบคทีเรียสามารถนำอาร์เซนิคมาใช้แทนฟอสฟอรัสในดีเอ็นเอของมันได้

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

ถ้ารู้ว่าชีวิตบนโลกเกิดขึ้นเมื่อไรและอย่างไร เราจะกำหนดได้ว่าควรค้นหาชีวิตบนดาว เคราะห์แบบใดบ้าง

ความลึกลับมีโอกาสคลี่คลายไหม?

เราคงไม่มีทางรู้แน่ชัดว่าชีวิตกำเนิดขึ้นตอนไหน เพราะการหาอายุทำได้ไม่แม่นยำ และเป็นไปไม่ได้ที่จะล่วงรู้ว่าสิ่งที่ค้นพบนั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดหรือไม่

ชีวิตเกิดขึ้นด้วย 3 ขั้นตอน

ชีวิตเริ่มบนโลกครั้งแรกเมื่อราว 4,000 ล้านปีมาแล้ว โดยน่าจะประกอบด้วย 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

-ธาตุอนินทรีย์ เช่น ไฮโดรเจน แอมโมเนีย และมีเทน ถูกแปลงให้เป็นสารอินทรีย์ การเปลี่ยน รูปนต้องใช้พลังงาน เช่น พลังงานจากฟ้าผ่า
-สารอินทรีย์บางชนิดทำปฏิกิริยากับชนิดอื่นจนกลายเป็นโมเลกุลใหญ่ เช่น อาร์เอ็นเอและโปรตีน ดึกดำบรรพ์ กระบวนการนี้อาจเกิดในแอ่งน้ำ
-สารอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ค่อยๆ ก่อตัวเป็นโครงสร้างเซลล์ยุคแรกเริ่มที่สร้างจากไขมัน เมื่อ เซลล์ต้นแบบเหลานี้เริ่มแบ่งตัว ก็เกิดชีวิตขึ้น

ความลับที่ 5 : อะไรทำให้ภูมิอากาศของโลกเสถียร?

โลกของเรามีภูมิอากาศที่คงที่ไม่เหมือนใครเสมอมา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ล้วนเกิด ขึ้นช้าๆ มีกลไกอะไรที่ทำให้ภูมิอากาศคงที่อย่างนี้

ทฤษฎีที่ดีที่สุดของนักวิทยาศาสตร์

นักวิทยาศาสตร์รู้ถึงกลไกการหมุนเวียนของโลก ซึ่งก็คือกลไกทางภูมิอากาศที่สามารถ เสริมสร้างหรือบั่นทอนตัวเองได้ วัฏจักรคาร์บอนของโลก ซึ่งช่วยรักษาอุณหภูมิให้ คงที่ตลอดประวัติศาสตร์ของโลกถือเป็นกลไกอย่างหนึ่ง การควบคุมอุณหภูมิเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิโลกลดต่ำลง ทำให้ปริมาณฝนลดลงคาร์บอนไดออกไซด์จึงถูกชะล้างออกจากบรรยากาศได้ช้าลง อุณหภูมิจึงสูงขึ้นอีกครั้ง อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ฝนตกมากขึ้น ซึ่งก็จะไปชะล้างคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากบรรยากาศ อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลง

นักวิทยาศาสตร์จะทำอย่างไรต่อไป?

นักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามค้นหาปัจจัยสำคัญๆ ต่อภูมิอากาศยุคใหม่ แบบจำลอง ทางคณิตศาสตร์ของชั้นบรรยากาศและทะเล อาจนำไปปรับใช้กับภูมิอากาศในอดีตได้ด้วย

ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

ความรู้เรื่องภูมิอากาศของโลกสำคัญยิ่งยวด เพราะมนุษย์สัมพันธ์กับภูมิอากาศด้วยตัวเอง

ความลึกลับนี้มีโอกาสคลี่คลายโหม?

มีโอกาสสูง ที่เราจะได้เรียนรู้ว่าระบบภูมิอากาศ ทำงานอย่างไร

ภูมิอากาศของโลกดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเอง

กลไกควบคุมอุณหภูมิบนโลกทำให้เกิดวัฏจักรคาร์บอนไดออกไซด์ส่งผลให้ภูมิอากาศมีความเสถียร

http://upic.me/i/88/30-11-2554-14-06-27.jpg (http://upic.me/show/35210473)

1.ภูเขาไฟปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ออกสู่ชั้นบรรยากาศ
2.คาร์บอนไดออกไซด์ก่อให้เกิด ภาวะโลกร้อน
3.ความร้อนทำให้น้ำในมหาสมุทร ระเหย ฝนจึงตก
4.ฝนมีคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ จึงมี ฤทธิ์เป็นกรด ละลายแร่ธาตุในหินได้
5.แร่ธาตุที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบถูกชะลงสู่แม่น้ำและมหาสมุทร
6.แร่ธาตุตกตะกอน เกิดเป็นหิน ชนิดใหม่ที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบ
7.เมื่อหินนี้ลงสู่ขั้นแมนเทิล จะเกิดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา
8.ภูเขาไฟปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ กลับออกสู่ชั้นบรรยากาศ

จากนิตยสาร SCIENCE

hackedsugus
1st May 2012, 22:19
ค้างคาใจแทน นักวิทยาศาสตร์ สักวันคนหาคำตอบได้

Molotovskill
1st May 2012, 22:24
ชอบครับอ่านเพลินดี

NaZi_BF3
1st May 2012, 22:31
เด๋วกลับมาอ่านๆๆๆ

date kyo
1st May 2012, 22:39
ขอบคุณมากครับช่วงนี้กระทู้ความรู้เยอะดีผมชอบจัง

The_Ngao
18th May 2012, 04:30
Completely Fail

zabaha12
18th May 2012, 07:01
มีแต่เรื่องยุ่งยาก -*- ไม่ปวดหัวกันมั่งไงนักวิทยาศาสตร์เนี่ย

Aultaisen
18th May 2012, 08:28
ชอบ ๆๆๆ
ขอบคุณครับ

Fanta'xd
18th May 2012, 09:41
ชอบ ๆๆๆ
ขอบคุณครับ

MOD มาแน่ะ จขกท.

TAMeAngeL
18th May 2012, 10:09
น่าสนใจมาก เดี๋ยวมาอ่านเพิ่มครับ

JooN18za
18th May 2012, 10:28
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

patty
18th May 2012, 10:44
ผมไม่เข้าใจอ่ะครับ

ninwatza
18th May 2012, 11:08
อยากรู้ มีคนเคยไปเจอใน แก่นโลกแล้วหรอ เห็นที่บอกว่าเป็นเหล็ก ผมว่าอาจจะเป็น On Spark ก็ได้ ฮ่าๆๆ

id_iuoiuo
18th May 2012, 13:25
อยากรู้ มีคนเคยไปเจอใน แก่นโลกแล้วหรอ เห็นที่บอกว่าเป็นเหล็ก ผมว่าอาจจะเป็น On Spark ก็ได้ ฮ่าๆๆ

เขาเรียก All Spark คับ ^^

<^ F i N i X ^>
18th May 2012, 13:48
ความรู้ทั้งนั้นขอบคุณครับ

nazaa
18th May 2012, 18:26
อยากรู้ มีคนเคยไปเจอใน แก่นโลกแล้วหรอ เห็นที่บอกว่าเป็นเหล็ก ผมว่าอาจจะเป็น On Spark ก็ได้ ฮ่าๆๆ
มันคือ เดอะ คิ้ว ครับ

~!-!eRo~
18th May 2012, 18:55
MOD มาแน่ะ จขกท.

ดีใจครับ ฮ่าๆๆ :o