mr.virus
2nd August 2011, 23:52
.::[ เรื่องเล่าจากมหาลัยต่าง ๆ จากรุ่นสู่รุ่น ]::.
http://image.ohozaa.com/i/1ad/sL9cP.jpg
ทั้งหมดที่จะได้อ่านนี้ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อาจเป็นเรื่องจริง ข่าวลือ พูดต่อกันไปกันไปรุ่นสู่รุ่น หรือแม้แต่เรื่องที่แต่งกันสนุก ๆ แล้วดันมีคนเชื่อแล้วเอาไปพูดต่อก็ตาม ผมแนะนำว่าให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ คิดซะว่าอ่านเพื่อความบันเทิงล่ะกัน ด้วยความปราถนาดี
1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
> ตึกอักษรเก่าจัดเลยเรื่องผีเยอะ
> สมัยยังใช้การตึก 2 นิเทศได้เต็มที่นั้น มีเรื่องเล่าว่า หลังสามทุ่มไปถ้าเดินลงบันไดเวียนจะลงมาเจอชั้นสามประมาณสี่ครั้ง
2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
> เคยมีนิสิตซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต (คงจะจริง มานขับยังกะสนามแข่ง)
> ที่วิทยาเขตศรีราชาตรงประตู 1 มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนดึกๆห้ามขับรถไปตรงนั้น
เพราะมีรุ่นพี่จามาเอาวิญญาณไปอีก 4 ดวง (แต่เค้าเอาเฉพาะคนหน้าตาดี)
> ที่วิทยาเขต กำแพงแสนมีหอชายอยู่ตึกนึงที่เค้าว่ากันว่าปิดทั้งชั้น เพราะแม่บ้านถูกฆ่าข่มขืน หมกไว้ในตู้
> ที่วิทยาเขตศรีราชาห้องน้ำที่ตึก EnG ไม่มีกระจก เพราะว่า มีคนเห็นสิ่งลึกลับบ่อยมาก จนต้องเอากระจกออก
> ที่บางเขนตึกแล็บวิทย์ 10 ชั้น มีข่าวว่ามีคนงานตกลงมาตายตอนสร้างตึก (ตึกนี้เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน
เพิ่งเสร็จตอนเรียนอยู่ประมาณปี 3 มั้ง) หลังมีข่าวใหม่ๆ ถ้านั่งเล่นใต้ตึกตอนค่ำๆ จะเห็นคนเลือดโชก
เดินผ่านใต้ตึกตึกเดียวกันที่ห้องน้ำชั้น 3 มีคนเคยเจอผีแม่บ้านในกระจกห้องน้ำบ่อยๆ
> ที่วิทยาเขตศรีราชา หอในตึก 3-4 นมาก เคยมีคนเห้นบ่อยๆ เพราะเปนป่าช้าเก่า
> ที่วิทยาเขตศรีราชา หลวงพ่อเคยมาทำพิธีปัดรังควานที่มอ แต่ท่านบอกว่าที่นี่แรงเกินไป
> ที่วิทยาเขตศรีราชา สักตอน ประมาณตี 2 ให้ออกมาดู ถ้าอยากเห็น.... คนอ้วก
> ที่วิทยาเขตกำแพงแสน เวลาขี่มอไซด์เข้า-ออกนอกม.ตอนกลางคืน พยายามอย่ามองตรงต้นนนทรีข้างทางมากนะ
ถ้าไม่อยากเห็นใครก็ไม่รู้มากวักมือเรียก ได้ข่าวมาว่านนทรีแทบทุกต้นมีประวัติ
> ที่วิทยาเขตกำแพงแสน ใต้ตึกปฐพี เคยเจอนิสิตเป็นกลุ่มเลยมาซ้อมลีด แต่พอมองไปอีกทีก็ไม่เจอแล้ว
แล้วตกลงที่เห็นก็ไม่รู้ว่าใคร(ประสบการณ์ตรง)
> ที่วิทยาเขตกำแพงแสน เวลาซ้อมstuffเชียร์ของคณะช่วงซัมเมอร์ ให้ระวังจะมีใครก็ไม่รู้มานั่งฟังด้วย
> ที่หอใน(หญิง) มีหอๆนึงเคยเป็นโรงพยาบาลสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงคนเดินลากโซ่ตรวน
และห้องน้ำหญิงรวมบางคืนจะมีเสียงคนอาบน้ำอยู่ แต่พอเดินไปดูไม่มีคนเลยซักคน
> หอใน(หญิง) มีตึกใหญ่ 2 ตึก ตึกนึงชั้น 2 เคยมีเด็กตายเนื่องจากเป็นไข้ทับฤดูตอนก่อนปิดซัมเมอร์
พอเปิดเทอมถึงมีคนเพิ่งจะพบศพ เคยมีคนเห็นว่าหลังจากนั้นยังมานั่งซักผ้าที่ห้องน้ำหน้าห้องอยู่เลย
> หอใน (หญิง) อีกตึกนึง แต่ก่อนกระจกเดิมตรงบันไดทางขึ้น(ตอนนี้เปลี่ยนใหม่แล้ว) จะมีเงาคนวูบวาบเสมอๆ
บางครั้งยืนแปรงฟันอยู่ที่อ่างล้างหน้าหน้าห้อง เงยหน้าขึ้นมาก็มีผีทหารยืนอยู่ข้างหลัง.....
3. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
> "ม.เชียงใหม่" เป็นมหาวิทยาลัยเชิงเขา (แล้วมันเรื่องลึกลับยังไงนี่)
> ถ้าขับรถผ่านตึกคณะวิดยาตอนดึกๆ เค้าบอกให้มองขึ้นไปบนตึกจะเจอของดี
> ลิฟต์ตึก SCB 1 คณะวิทยาศาสตร์ "ม.เชียงใหม่" จริงๆ ต้องมีสามตัว แต่มีใช้แค่สอง ลือกันว่า
ลิฟต์ตัวที่สามเคยมีคนตกลงมาตาย(ตอนตึกใกล้เสร็จ)
> หอ 1 หญิง "ม.เชียงใหม่" ในห้องอาบน้ำบางทีก็มีน้ำสีแดงๆ ไหลออกมาจากฝักบัว
(คาดว่ามันน่าจะเป็นน้ำสนิมของแท็งค์น้ำมากกว่า)
> หอสมุดกลาง ของ "ม.เชียงใหม่" ว่ากันว่า ตอนก่อสร้าง เมื่อทำส่วนฐานรากอาคารขุดพบโครงกระดูกเยอะมากๆ
> เคยมีหมีควายหลุดออกมาจากสวนสัตว์วัดฝายหิน จนเจ้าหน้าที่ต้องประกาศให้คนที่พักผ่อนอยู่รอบอ่างเกษตรต้องรีบออกไปทันที
> หอนาฬิกา มช. ถ้าขับรถเวียนซ้ายครบ 3 รอบ จะ....................................โดนรถชน
> ทุกวงเวียนใน มช. มีเรื่องผีกำกับไว้เสมอ เช่น เปรตหอนาฬิกา ขบวนแห่ไร้หัววงเวียนมนุษย์
> ที่ภาควิชาเคมี คณะวิทย์ มีลิฟต์ที่ถูกปิดตายเพราะเคยมีอาจารย์ฝรั่งติดอยู่ในนั้นในวันหยุดยาว
> ที่ภาควิชาชีวะ คณะวิทย์ เคยต้องทำบุญใหญ่ เพราะมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นทุกวัน เช่น เก้าอี้แล็บหมุนเอง
หรือมีเสียงคนเดินบนบันไดตอนเที่ยงคืน มีเงาคนเดินไปมาในเรือนเพาะจำใต้ตึก
จนตอนนั้นไม่มีใครกล้าอยู่ทำงานที่ภาคหลังพระอาทิตย์ตก บางคนว่าเป็นวิญญาณของสัตว์ทดลองมากมายที่ต้องใช้เรียนกัน
> ตำนานผีในคลาสสิคที่สุดของ มช. คือ ป๊อก ป๊อก ครืด
> ผีที่เด็กมช.น่าจะเคยได้ยินบ่อยที่สุดคือ ผีป๊อกครืด (แม้จะจำเรื่องราวได้หรือไม่ได้ก็ตาม)
> หอ 2 ชาย กลางวันดูเหมือนไม่มีอะไร แต่บรรยากาศตอนกลางคืนที่หอนั้น เป็นอะไรที่หลอนจริงๆ
> หลังจากมีเหตุฆาตกรรมบริเวณข้างประตูหน้า ม. ที่หอ 40 ปี เคยมีคนได้ยินเสียงประหลาดในตอนกลางคืน
> หากเดินผ่านอ่างแก้วตอนกลางคืน อาจเห็นตามพุ่มไม้มีขางอกออกมา เรียกกันว่าต้นไม้กินคน
3-1. หอนาฬิกา
> อันเนื่องจากเคยเป็นป่าช้าและลานประหารเก่ามาก่อน
> ทำให้มีเรื่องเล่าเรื่องผีทั้งเก่าและใหม่มากมาย
> เรื่องนี้อยู่ที่หอ นาฬิกาใหญ่ ตรงสี่แยกจากประตูหลังมอ .. เรื่องนี้มีอยู่ว่า . .
> เล่ากันว่าตรงหอนาฬิกา กลางวงเวียน มีเปรต หากไปลองของ อาจโดนดีได้
> วิธีการลองดีคือ ตอนเที่ยงคืน ให้ไปวนรถทวนเข็มที่หอนาฬิกา สามรอบ ( วงเวียนจะเวียนรถตามเข็ม )
> เล่ากันว่า ผู้ที่ลองทำอย่างนั้น ไม่เคยมีใครวนรถทวนเข็มได้ครบสามรอบซักคน
> ผู้มีประสบการณ์เล่าว่า ในขณะที่วนรถอยู่นั้น จะรู้สึกได้ถึงลมที่เย็นผิดปกติ
> แต่วนไปสองรอบก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา เกิดตอนที่จะครบรอบที่สาม
> จู่ ๆ ก็มีเสาสองต้นตั้งขวางถนนอยู่ ทำให้ต้องหักรถหลบรถล้มบ้าง แฉลบบ้างไปตาม
> ๆ กัน ใครอยากรู้ก็ลองดู
> อีกกรณีหนึ่งมีข่าวอยู่บ่อยๆ ว่านักศึกษาที่พักอยู่ในหอพัก ชาย 4 และ หญิง 6
> ฝั่งที่ติดกับหอนาฬิกา> มักได้ยินเสียงแหลม ๆ เล็ก ๆ ดังมาจากทางหอนาฬิกา
> สอบถามแล้วคืนนั้น เด็กสาธิต ไม่มีการทำกิจกรรม
> และคณะวิศวะไม่มีกิจกรรมหรือการก่อสร้างใด ๆ
> และที่สำคัญ บางห้องได้ยิน บางห้องไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ติดกัน ?
3-2 . ห้องสีชมพู
> เรื่องนี้เกิดที่หอหญิง ไม่แน่ใจ ว่า 7 หรือ 4 หรือ 8
> เป็นเรื่องของนักศึกษาหญิงที่เข้ามาพักในหอในแล้วไปมีอะไรกับผู้ชาย
> แล้วเกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา รู้ตัวเอาตอนท้องได้ 4 เดือนแล้วแต่มันยังไม่ป่องออกมา
> จึงปิดเงียบไม่ให้ใครรู้แม้แต่เมท ทำยังไงถึงจะเอาออกได้ พลาดไปแล้ว แต่ไม่อยากเสียอนาคต ไม่มีเงินทำแท้ง
> แฟนไม่รับผิดชอบ ตัดสินใจเอาออกเองในห้องพัก โดยเลือกตอนช่วงที่เพื่อนไม่อยู่ ทำเองคนเดียว
> โดยไม่ทราบวิธีการปรากฎว่าผลร้ายกว่าที่คิดนักศึกษาคนนั้น ตกเลือดตายในห้อง
> เพื่อนมาพบศพตอนเย็น เห็นรอยเลือดกระจัดกระจายติดฝาผนังบ้างก็มี
> หลังจากจัดการเรื่องศพเรียบ ร้อยแล้ว ( รวมถึงทำความสะอาดห้อง )
> โดยที่เมทของคนตายก็ย้ายไปอยู่ ที่อื่น แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด
> เห็นรอยเลือดสีจาง ๆ ติดอยู่ที่ ผนังสีขาวก็เลยให้คนเอาสีขาวมาทาทับ
> วันรุ่งขึ้นเปิดเข้าไปทำความสะอาดรอยเลือดยังมีอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะ ทำยังไง ทั้งขัด ทั้ง ถู หรือทาสีใหม่
> รอยเลือดนี้ก็ยังไม่หายไป จนสุดท้ายทางหอพักจึงต้องนำสีชมพู
> ไปทาทั้งห้องเพื่อไม่ให้เห็นรอยเลือด กลายเป็นห้องสีชมพูตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบัน เป็นห้องเก็บของที่ปิดตาย
> เคยมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดที่ห้องนี้แล้วออกจากห้องไม่ได้> เพราะลูกบิดถูกล๊อค ( ทั้งที่ตัวล๊อคอยู่ในห้อง )
3-3. ห้องน้ำหลอน
> เล่าว่า ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำรวมตอนกลางคืนชั้น 3
> เข้าไปอาบน้ำที่ช่องที่เขากั้นให้อาบน้ำช่องในสุดซักพักได้ยิน
> เสียงคนเดินเข้ามาอาบน้ำในห้องข้างๆ
> ได้ยินเสียงฝักบัว แถมยังมีน้ำกระเซ็นเข้ามาที่ห้องตัวเองอาบอยู่อีกต่างหาก
> แต่ รุ่นน้องอาบน้ำช้า ห้องข้างเลยกลับออกไปก่อน
> พอรุ่นน้องอาบน้ำเสร็จเปิดห้องออกมาก่อนออกก็ต้องเดินผ่านห้องข้างๆ อยู่แล้ว
> เพราะตัวเองอาบห้องในสุด> ไม่มีร่องรอยการอาบน้ำเลย ตรงฝาผนังและ พื้นแห้งสนิท !
> ที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 รุ่นพี่แก่กว่าประมาณ 3 ปี เคยเล่าให้ฟัง กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ ทั้งห้องมีอยู่คนเดียว
> กำลังจะสระผม รู้สึกว่ามีน้ำกระเด็นมาจากห้องข้าง ๆ แต่ไม่มีเสียงน้ำ
> ด้วยความสงสัย จึงหยุดแล้วไปดูห้องข้าง ๆ ก็ไม่เห็นมีน้ำรั่ว
> หรือซึมทั้งฝาและเพดาน เรียบร้อยทุกอย่าง พอเข้าห้องมาจะอาบก็เจอ น้ำกระเซ็นอีก . . คราวนี้ไม่อยู่แล้ว
3-4 . ทุกโค้ง
> สมัยนั้นเวลากลางคืนดอยสุเทพยังไม่ปิดความนิยม ( ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร )
> อย่างหนึ่งก็คือ> เวลาเมา ๆ นักศึกษาทั้งหลายมักจะขับรถขึ้นดอยกันขึ้นไปดูเชียงใหม่ทั้งเมือง
> ตอนกลางคืนมันสวยดี วันหนึ่ง นักศึกษาจากคณะวิศวะสองคนเพิ่งเลิกจากกังสดาล ( แต่ก่อนร้านนี้ฮิตครับ )
> ครึ้มๆขึ้นมาก็เลยขับรถเลยจากทางเข้า กะขึ้นดอยไปชมเมืองเล่น
> คนขับก็ขับไป ข้างหลังคนซ้อนก็นั่งไป เมา ๆ ขึ้นมาคนซ้อนก็เลยหลับ
> สมัยก่อนแปดสิบเปอร์เซ็นต์นักศึกษาขับแมงกะไซค์ไม่ใช่รถยนต์ อย่างทุกวันนี้
> ซักพักหนึ่งคนซ้อนก็ตื่นกำลังเข้าโค้งพอดี เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง แต่คนขับก็ขับเลย ผ่านไป
> ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจัด ก็เลยถามคนขับว่า “ทำไมไม่จอดรถลงไปถามหน่อยล่ะ เผื่อเขามีปัญหาอะไร?”
> คนขับ : กูไม่จอดด้วยหรอกคนนี้เขารอโบกทุกโค้งเลย เจอมาหลายโค้งแล้วเดี๋ยวโค้งหน้าคุณกะกูก็เจอเขาอีกแหละ
3-5. พยาบาลชุดแดง
> เห็นเขาเล่าว่ามีนักศึกษาคนนึงของคณะแพทย์อยู่ทำงานในตึกของฝั่งสวนดอก
> เขาคนนี้ก็ทำงานอยู่จนดึกก็เลยว่าจะลงลิฟต์มาระหว่างที่รอ
> เขาก็ได้ยินเสียงเดิน มาข้างๆเขาก็หันไปมองเห็นพยาบาลคนนึงเดินมา
> เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพยาบาลกับแพทย์ ก็ต้องเจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว
> ระหว่างรอลิฟต์นักศึกษาคนนี้ก็ได้กลิ่นอะไรแปลก ๆ ก็เลยหันไปมอง พยาบาลคนนี้
> ก็ไม่เห็นมีอะไร ซ้ำพยาบาลคนนี้ยังยิ้มให้ ด้วย
> สักพักต่อมาเมื่อเข้าไปในลิฟต์พยาบาลคนนี้ก็ถามว่า มาทำอะรัยดึก ๆ ป่านนี้
> เขาเลยตอบว่ามาศึกษาเรื่องการผ่าตัดภายใน เพราะว่าจะสอบ
> พยาบาลคนนี้เลยบอกว่างั้นให้ฉันช่วยนะนักศึกษาคนนี้ ก็เลยงง
> และเริ่มสังเกตว่าคอของผู้หญิงเริ่มมีเลือด ไหลออกมาจากคอเรื่อยๆ
> เขาตกใจมากพยายามที่จะหนีออกมาจากลิฟต์ แต่ลิฟต์เหมือนค้างหรืออะไรไม่ทราบ
> เลือดไหลนอง ทั่วชุดของนางพยาบาลคนนี้
> แล้วเธอก็เริ่มสอนนักศึกษาแพทย์คนนี้ ตั้งแต่ลำไส้ ปอด สมอง หัวใจ
> พร้อมทั้งควักส่วนต่างๆเหล่านี้ออกมา
> รุ่งขึ้นก็มีคนพบชายคนนี้นอนคาอยู่ทางประตูลิฟต์ที่เปิดปิดอยู่ แล้วเขาก็เอาแต่
> พร่ำเพ้ออย่างคนบ้าว่า ” พยาบาล ชุดแดง พยาบาลชุด แดง ”
3-6 . ลวด
> วงเวียนธรณี-ต้องขอโทษคนที่ผ่านทางนี้เป็นประจำ จุดนี้มีเรื่องเยอะจริง ๆ
> เรื่องนี้นานมาแล้วมีนักศึกษาสองคนกินเหล้าเมากันมา
> พอมาถึง ข้างตึกธรณีคนขี่มองไปทาง ข้างตึกอังกฤษ เห็นคนหัวขาดยืนอยู่
> ตกใจจึงหยุดรถขยี้ตาดูอีกทีแล้วสะกิดถามเพื่อนๆบอกไม่เห็นอะไร
> มองอีกทีก็ไม่มีแล้วหันกลับมาข้างหน้า มีลวดเหล็กเล็ก ๆ ขึงอยู่ระดับคอห่างออกไปเมตรเดียว
3-7. RB แพทย์
> อาคารเรียนรวมแพทย์ มีคนไปอ่านหนังสือกันสองคน พอดึก ๆ ก็ไปซื้อไก่ทอดมา
> กินเสร็จแล้วก็หาที่ล้างมือเจอก้อกน้ำข้างตึกก็ไปล้างมือที่นั่น
> ตอนที่ล้างอยู่เพื่อนอีกคนก็ทำหน้า ตกใจมากแต่ยังไม่พูดอะไร
> คน ที่ทำหน้าตกใจรีบจูงมือเพื่อนกลับมาใต้ตึก แล้วถามว่า รู้มั้ย
> เมื่อกี้เห็นอะไร อีกคนบอก ไม่รู้
> คนนั้นจึงบอกว่าเห็นผมของอีกคนซึ่งผมยาวชี้ขึ้นมากระจุกหนึ่งเหมือนมีคนจับขึ้นมา
> รู้ทีหลังว่าตรงนั้นเป็นที่ล้างศพ...
3-8 . partner-lab ( แลปฟิสิกส์ )
> อันนี้ฟังเค้าเล่ามาอีกทีเป็นเรื่องนาน มาแล้วเราเองก็มาไม่ทัน
> เรื่องมีว่าเมื่อก่อนตอนที่ตึกเก้าชั้นวิดยายังไม่ได้สร้าง
> แลปฟิสิกส์ของเด็กปี 1 ก็ยังทำที่แลปเก่า ( น่าจะเป็นตึกฟิสิกส์ )
> แลปคราวนั้นเป็นแลปเรืองแสง
> คนที่เคยเรียนคงรู้ว่าห้องจะมืดเพราะปิดไฟและเป็นแลปมืดจริงๆ
> เพราะทำช่วงค่ำ นักศึกษาหญิงคนนึงก็เข้าห้องแลปแต่พาร์ทเนอร์แลปยังไม่มา คนอื่น
> ๆ ก็มากันแล้ว เตรียมอุปกรณ์เสร็จ เพื่อนก็มา
> แต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบ
> เหลือบเห็นที่คอมีรอยแผลเป็นทางยาว เธฮจับไหล่เพื่อนถามว่าไปโดน อะไรมา
> เพื่อนเงยหน้าขึ้นมาแล้วหัวหลุดกลิ้งไปกับพื้น ผู้หญิงร้อง
> กรี้ดแล้ววิ่งออกมาสลบตรงระเบียง ฟื้นมามียามกับรุ่นพี่สองสามคน ถามว่าไม่รู้เหรอว่าวันนี้แลปงด
> เพราะเมื่อเช้ามีนักศึกษาในเซครถคว่ำตาย
> เพื่อนเลยไปงานศพช่วงค่ำกันหมด สอบถามชื่อได้ความว่าคือพาร์ทเนอร์แลปของเธอนั่นเอง
> ส่วนคนที่เจอในห้องแลปทุกคนล้วนแต่ไร้ชีวิต
3-9 . ป๊อก...ป๊อก...ครืด..ดดดด..
> เรื่องผีอันดับหนึ่งของ มหาลัยเชียงใหม่ ในแง่ของ ความเศร้า
> ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่สถานที่เกิด คือ หอ 7 หญิง
> ในสมัยที่มช. ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนยังเป็นลูกรัง ถนนหน้าฝนเป็นโคลน
> รถไปมาลำบาก ตอนกลางคืนมืดไม่มีแสงไฟ
> เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3
> ของหอหญิงเจ็ด ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบนักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่
> ประมาณว่านักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้อง
> ตอนหัวค่ำแล้วรูมเมทชวนไปทานข้าว
> แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหวอยากพักผ่อน พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย
> ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อน
> คนที่ไม่สบายก็บอกว่า ยังไงฝากซื้อราดหน้ามาให้ทีละกันกินแล้วจะได้กินยา
> เมทคนนั้นก็บอกว่า ได้ เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับ
> หลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้องคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ
> อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหวเพราะไข้ขึ้น จึงนอน ตอนนอนอยู่นั้น สลึมสลืออยู่ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว
> เพื่อนทำไมยังไม่กลับมาซะที่
> ตกดึก ฝนเริ่มตก นักศึกษาคนนั้นก็ตื่น ขึ้นมาอ่านหนังสือ ต่อ
> ในใจเป็นห่วงเพื่อนเพราะออกไปนานมากยังไม่กลับ
> ซักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่าง
> จากทางบันได " ป๊อก…………ป๊อก………ป๊อก……… ป๊อก……"
> เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันไดดังขึ้นเรื่อย ๆ
> เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา
> และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่
> แล้วเสียงก็เปลี่ยนไป " ครื……..ด……..ครื………..ด…….ค..รื…ด"
> เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรซัก อย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง
> นักศึกษาหญิงเริ่ม เอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว
> แต่ยังเงียบได้ อึดใจนึงก็มีเสียงเคาะห้อง "ก๊อก ก๊อก ก๊อก" แล้วเงียบไป
> นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่ เพื่อนแน่แล้ว
> ถ้างั้นทำไม ไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู
> ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่
> พอเห็นห่อราดหน้า ก็งง แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือ
> ติดฝนเลยฝากคนอื่นเอามาให้
> แต่ทำไมต้องเอามาแขวน ไม่รอเจอกันก่อน จะได้รู้ว่าเป็นใคร แล้วทำไมเดินเร็วจัง
> มีแต่รอยเปียกน้ำ เป็นทางจากบันได … คิดต่างๆ นานา แต่แล้วก็แกะ ห่อราดหน้า ออก
> ทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้ซักพักก็หลับไป
> รุ่งเช้า .. มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว !
> นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ
> ลักษณะศพ สภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก
> อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี
> นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด ( ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหินหรือตลาดต้นพยอม )
> หลังจากทานข้าวเสร็จ ทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว
> โดยเพื่อนฝากซื้อข้าวห่อ คนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ
> แล้วราดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด
> แต่จากที่ฟังกันมา คือหลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
> เพราะว่าไม่สบายและยังหิว
> นำห่อราดหน้าที่ซื้อมาฝากไปส่งให้แต่จะไปส่งยังไง แขนหัก ขาหัก หมดแล้ว
> ลักษณะที่เขาเล่ามาคือเพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบ ถุง
> แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันไดลากตัวเอง ขึ้นมา
> เป็นเสียง"ป๊อก ป๊อก"
> เสียงครืด ที่ได้ยินคือ เสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอย
> เปียกน้ำยาว ติดต่อกัน
> หลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง
> ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่าแต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้าง
> ๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นได้ยินเสียง เหมือนคนกำลังยกของหนัก และลากของหนักจากข้างล่างขึ้นมา
> แล้วทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ มิตรภาพอยู่เหนือความตาย....
4. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
> "สะพานขาว" เป็นสะพานยาวๆ ข้างสระพลาสติก มีเจ้าที่ชื่อ "เจ๊ขาว"
> เป็นผู้หญิงผมยาวๆ ใส่ชุดสีขาว เจ๊แกชอบออกมาทักทายเด็กที่ ขับมอไซด์ ผ่านสะพานตอนดึกๆ
> เค้าเล่ากันว่า อย่ามองจั่วของตึกคณะ ถาปัด ขณะขับรถ เพราะมันจะเกิดอุบัติเหตุ
> ที่ศาลเจ้าพ่อมอดินแดง ไปกลางวันก้หลอนนะ รุ้สึกเหมือนมีคนมองตลอดเวลา
> แล้วก็เซียมซี แม่นมากๆ ถามตอนต้นเทอมว่าเกรดเทอมนี้จะเป้นไง
> ท่านกล่าวว่าจะได้ เอฟ .....เอฟจริงๆ แม่นปานนั้น
5. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
> ม.ธรรมศาสตร์ ต้องมีนักศึกษากระโดดตึกเป็นประจำ ทุกปี (ไม่รู้เป็นอะไร...)
5-1. ลิฟท์แดง
> เรื่องลิฟท์แดงนี่เรื่องเล่าเยอะมาก
> เห็นว่าเมื่อตอนเหตุการณ์เดือนตุลาน่ะค่ะพวกทหารบุกเข้ามาในมหาวิทยาลัย
> แล้วพอลิฟท์ตัวนี้เปิดพวกมันก็กระหน่ำยิง คนในลิฟท์ซึ่ง เป็นอาจารย์และ
> นักศึกษาเสียชีวิตหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์ เมื่อผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นแล้ว
> มหาวิทยาลัยกลับคืนสู่สภาพเดิม มีการบูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่
> ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทีนี้ทำยังไง คราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ออก
> เหมือนจะเป็นการประจานการกระทำอันบ้าเลือดและไม่ยุติธรรม
> จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แล้วก็ได้มีเรื่องเล่าตามมาว่า
> หลังจากที่ลิฟท์ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วนั้น ก็ได้มีการนำกลับมาใช้ตามปกติ
> แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อนักศึกษาหญิงคนนึงกำลังใช้บริการลิฟท์แดงตามลำพัง
> แต่แล้วเมื่อเธอมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง
> หากแต่มีผู้โดยสารลิฟท์ตัวนี้อยู่มาก มายแล้วยังมีอีกหลายครั้งหลายหน
> ที่เหล่านักศึกษาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ของลิฟท์แดงตัวนี้เข้า
> ทำให้มหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนตัวลิฟท์ใหม่
> แต่ว่าประตูลิฟท์แดงที่ถูกถอดออกไปตอนนี้ก็ยังตั้งอยู่ที่ชั้น 4 มาจนถึงทุกวันนี้[/url]
6. มหาวิทยาลัยศิลปากร
> มีเกือบทุกที่เลย ฮือๆ กลัวอ่ะ เช่น ....
> หอพักหญิงมีผีแทบทุกหอแหละ โดยเฉพาะหอเพชรรัตน์สี่กะเพชรรัตน์สองนี่สุดยอด
> หอห้า มีผีจริงๆ
> ลานทรงพล ฮือๆ เห็นแบบว่า รำออกมาเลยทีเดียว
> บ้านจักรยาน(เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว...หมายถึงเค้าเอาที่ไปทำอย่างอื่นนะ
แต่ผีไม่รู้ว่ายังอยู่ป่าว อันนี้สุดๆ ถามคนรุ่นก่อนปี 40 ขึ้นไปได้ทุกคน)
> ตรงบ้านจักรยานเมื่อก่อนจะมีชิงช้าผูกกับต้นไม้สูงๆ ผ่านตอนกลางคืนจะเห็นชิงช้าแกว่เอง
ตอนไม่มีลมอันนี้ เด็กนักศึกษาถึงขั้นบาดเจ็บเลยนะ เพราะเวลาปั่นผ่าน ตรงนี้ มันรีบปั่นไง
แบบหลับหูหลับตาปั่นอ่ะ กลัวผีไง เลยล้มบ้าง อะไรบ้าง ว่ากันไป
> หอทับแก้ว1 เป็นหอชาย เพื่อนผมได้ยินเสียงเหมือนคนเอาเล็บลากตู้ ดังแกรกๆๆ แต่ว่ามันดังมาจากในตู้
http://image.ohozaa.com/i/1ad/sL9cP.jpg
ทั้งหมดที่จะได้อ่านนี้ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อาจเป็นเรื่องจริง ข่าวลือ พูดต่อกันไปกันไปรุ่นสู่รุ่น หรือแม้แต่เรื่องที่แต่งกันสนุก ๆ แล้วดันมีคนเชื่อแล้วเอาไปพูดต่อก็ตาม ผมแนะนำว่าให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ คิดซะว่าอ่านเพื่อความบันเทิงล่ะกัน ด้วยความปราถนาดี
1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
> ตึกอักษรเก่าจัดเลยเรื่องผีเยอะ
> สมัยยังใช้การตึก 2 นิเทศได้เต็มที่นั้น มีเรื่องเล่าว่า หลังสามทุ่มไปถ้าเดินลงบันไดเวียนจะลงมาเจอชั้นสามประมาณสี่ครั้ง
2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
> เคยมีนิสิตซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต (คงจะจริง มานขับยังกะสนามแข่ง)
> ที่วิทยาเขตศรีราชาตรงประตู 1 มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนดึกๆห้ามขับรถไปตรงนั้น
เพราะมีรุ่นพี่จามาเอาวิญญาณไปอีก 4 ดวง (แต่เค้าเอาเฉพาะคนหน้าตาดี)
> ที่วิทยาเขต กำแพงแสนมีหอชายอยู่ตึกนึงที่เค้าว่ากันว่าปิดทั้งชั้น เพราะแม่บ้านถูกฆ่าข่มขืน หมกไว้ในตู้
> ที่วิทยาเขตศรีราชาห้องน้ำที่ตึก EnG ไม่มีกระจก เพราะว่า มีคนเห็นสิ่งลึกลับบ่อยมาก จนต้องเอากระจกออก
> ที่บางเขนตึกแล็บวิทย์ 10 ชั้น มีข่าวว่ามีคนงานตกลงมาตายตอนสร้างตึก (ตึกนี้เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน
เพิ่งเสร็จตอนเรียนอยู่ประมาณปี 3 มั้ง) หลังมีข่าวใหม่ๆ ถ้านั่งเล่นใต้ตึกตอนค่ำๆ จะเห็นคนเลือดโชก
เดินผ่านใต้ตึกตึกเดียวกันที่ห้องน้ำชั้น 3 มีคนเคยเจอผีแม่บ้านในกระจกห้องน้ำบ่อยๆ
> ที่วิทยาเขตศรีราชา หอในตึก 3-4 นมาก เคยมีคนเห้นบ่อยๆ เพราะเปนป่าช้าเก่า
> ที่วิทยาเขตศรีราชา หลวงพ่อเคยมาทำพิธีปัดรังควานที่มอ แต่ท่านบอกว่าที่นี่แรงเกินไป
> ที่วิทยาเขตศรีราชา สักตอน ประมาณตี 2 ให้ออกมาดู ถ้าอยากเห็น.... คนอ้วก
> ที่วิทยาเขตกำแพงแสน เวลาขี่มอไซด์เข้า-ออกนอกม.ตอนกลางคืน พยายามอย่ามองตรงต้นนนทรีข้างทางมากนะ
ถ้าไม่อยากเห็นใครก็ไม่รู้มากวักมือเรียก ได้ข่าวมาว่านนทรีแทบทุกต้นมีประวัติ
> ที่วิทยาเขตกำแพงแสน ใต้ตึกปฐพี เคยเจอนิสิตเป็นกลุ่มเลยมาซ้อมลีด แต่พอมองไปอีกทีก็ไม่เจอแล้ว
แล้วตกลงที่เห็นก็ไม่รู้ว่าใคร(ประสบการณ์ตรง)
> ที่วิทยาเขตกำแพงแสน เวลาซ้อมstuffเชียร์ของคณะช่วงซัมเมอร์ ให้ระวังจะมีใครก็ไม่รู้มานั่งฟังด้วย
> ที่หอใน(หญิง) มีหอๆนึงเคยเป็นโรงพยาบาลสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงคนเดินลากโซ่ตรวน
และห้องน้ำหญิงรวมบางคืนจะมีเสียงคนอาบน้ำอยู่ แต่พอเดินไปดูไม่มีคนเลยซักคน
> หอใน(หญิง) มีตึกใหญ่ 2 ตึก ตึกนึงชั้น 2 เคยมีเด็กตายเนื่องจากเป็นไข้ทับฤดูตอนก่อนปิดซัมเมอร์
พอเปิดเทอมถึงมีคนเพิ่งจะพบศพ เคยมีคนเห็นว่าหลังจากนั้นยังมานั่งซักผ้าที่ห้องน้ำหน้าห้องอยู่เลย
> หอใน (หญิง) อีกตึกนึง แต่ก่อนกระจกเดิมตรงบันไดทางขึ้น(ตอนนี้เปลี่ยนใหม่แล้ว) จะมีเงาคนวูบวาบเสมอๆ
บางครั้งยืนแปรงฟันอยู่ที่อ่างล้างหน้าหน้าห้อง เงยหน้าขึ้นมาก็มีผีทหารยืนอยู่ข้างหลัง.....
3. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
> "ม.เชียงใหม่" เป็นมหาวิทยาลัยเชิงเขา (แล้วมันเรื่องลึกลับยังไงนี่)
> ถ้าขับรถผ่านตึกคณะวิดยาตอนดึกๆ เค้าบอกให้มองขึ้นไปบนตึกจะเจอของดี
> ลิฟต์ตึก SCB 1 คณะวิทยาศาสตร์ "ม.เชียงใหม่" จริงๆ ต้องมีสามตัว แต่มีใช้แค่สอง ลือกันว่า
ลิฟต์ตัวที่สามเคยมีคนตกลงมาตาย(ตอนตึกใกล้เสร็จ)
> หอ 1 หญิง "ม.เชียงใหม่" ในห้องอาบน้ำบางทีก็มีน้ำสีแดงๆ ไหลออกมาจากฝักบัว
(คาดว่ามันน่าจะเป็นน้ำสนิมของแท็งค์น้ำมากกว่า)
> หอสมุดกลาง ของ "ม.เชียงใหม่" ว่ากันว่า ตอนก่อสร้าง เมื่อทำส่วนฐานรากอาคารขุดพบโครงกระดูกเยอะมากๆ
> เคยมีหมีควายหลุดออกมาจากสวนสัตว์วัดฝายหิน จนเจ้าหน้าที่ต้องประกาศให้คนที่พักผ่อนอยู่รอบอ่างเกษตรต้องรีบออกไปทันที
> หอนาฬิกา มช. ถ้าขับรถเวียนซ้ายครบ 3 รอบ จะ....................................โดนรถชน
> ทุกวงเวียนใน มช. มีเรื่องผีกำกับไว้เสมอ เช่น เปรตหอนาฬิกา ขบวนแห่ไร้หัววงเวียนมนุษย์
> ที่ภาควิชาเคมี คณะวิทย์ มีลิฟต์ที่ถูกปิดตายเพราะเคยมีอาจารย์ฝรั่งติดอยู่ในนั้นในวันหยุดยาว
> ที่ภาควิชาชีวะ คณะวิทย์ เคยต้องทำบุญใหญ่ เพราะมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นทุกวัน เช่น เก้าอี้แล็บหมุนเอง
หรือมีเสียงคนเดินบนบันไดตอนเที่ยงคืน มีเงาคนเดินไปมาในเรือนเพาะจำใต้ตึก
จนตอนนั้นไม่มีใครกล้าอยู่ทำงานที่ภาคหลังพระอาทิตย์ตก บางคนว่าเป็นวิญญาณของสัตว์ทดลองมากมายที่ต้องใช้เรียนกัน
> ตำนานผีในคลาสสิคที่สุดของ มช. คือ ป๊อก ป๊อก ครืด
> ผีที่เด็กมช.น่าจะเคยได้ยินบ่อยที่สุดคือ ผีป๊อกครืด (แม้จะจำเรื่องราวได้หรือไม่ได้ก็ตาม)
> หอ 2 ชาย กลางวันดูเหมือนไม่มีอะไร แต่บรรยากาศตอนกลางคืนที่หอนั้น เป็นอะไรที่หลอนจริงๆ
> หลังจากมีเหตุฆาตกรรมบริเวณข้างประตูหน้า ม. ที่หอ 40 ปี เคยมีคนได้ยินเสียงประหลาดในตอนกลางคืน
> หากเดินผ่านอ่างแก้วตอนกลางคืน อาจเห็นตามพุ่มไม้มีขางอกออกมา เรียกกันว่าต้นไม้กินคน
3-1. หอนาฬิกา
> อันเนื่องจากเคยเป็นป่าช้าและลานประหารเก่ามาก่อน
> ทำให้มีเรื่องเล่าเรื่องผีทั้งเก่าและใหม่มากมาย
> เรื่องนี้อยู่ที่หอ นาฬิกาใหญ่ ตรงสี่แยกจากประตูหลังมอ .. เรื่องนี้มีอยู่ว่า . .
> เล่ากันว่าตรงหอนาฬิกา กลางวงเวียน มีเปรต หากไปลองของ อาจโดนดีได้
> วิธีการลองดีคือ ตอนเที่ยงคืน ให้ไปวนรถทวนเข็มที่หอนาฬิกา สามรอบ ( วงเวียนจะเวียนรถตามเข็ม )
> เล่ากันว่า ผู้ที่ลองทำอย่างนั้น ไม่เคยมีใครวนรถทวนเข็มได้ครบสามรอบซักคน
> ผู้มีประสบการณ์เล่าว่า ในขณะที่วนรถอยู่นั้น จะรู้สึกได้ถึงลมที่เย็นผิดปกติ
> แต่วนไปสองรอบก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา เกิดตอนที่จะครบรอบที่สาม
> จู่ ๆ ก็มีเสาสองต้นตั้งขวางถนนอยู่ ทำให้ต้องหักรถหลบรถล้มบ้าง แฉลบบ้างไปตาม
> ๆ กัน ใครอยากรู้ก็ลองดู
> อีกกรณีหนึ่งมีข่าวอยู่บ่อยๆ ว่านักศึกษาที่พักอยู่ในหอพัก ชาย 4 และ หญิง 6
> ฝั่งที่ติดกับหอนาฬิกา> มักได้ยินเสียงแหลม ๆ เล็ก ๆ ดังมาจากทางหอนาฬิกา
> สอบถามแล้วคืนนั้น เด็กสาธิต ไม่มีการทำกิจกรรม
> และคณะวิศวะไม่มีกิจกรรมหรือการก่อสร้างใด ๆ
> และที่สำคัญ บางห้องได้ยิน บางห้องไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ติดกัน ?
3-2 . ห้องสีชมพู
> เรื่องนี้เกิดที่หอหญิง ไม่แน่ใจ ว่า 7 หรือ 4 หรือ 8
> เป็นเรื่องของนักศึกษาหญิงที่เข้ามาพักในหอในแล้วไปมีอะไรกับผู้ชาย
> แล้วเกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา รู้ตัวเอาตอนท้องได้ 4 เดือนแล้วแต่มันยังไม่ป่องออกมา
> จึงปิดเงียบไม่ให้ใครรู้แม้แต่เมท ทำยังไงถึงจะเอาออกได้ พลาดไปแล้ว แต่ไม่อยากเสียอนาคต ไม่มีเงินทำแท้ง
> แฟนไม่รับผิดชอบ ตัดสินใจเอาออกเองในห้องพัก โดยเลือกตอนช่วงที่เพื่อนไม่อยู่ ทำเองคนเดียว
> โดยไม่ทราบวิธีการปรากฎว่าผลร้ายกว่าที่คิดนักศึกษาคนนั้น ตกเลือดตายในห้อง
> เพื่อนมาพบศพตอนเย็น เห็นรอยเลือดกระจัดกระจายติดฝาผนังบ้างก็มี
> หลังจากจัดการเรื่องศพเรียบ ร้อยแล้ว ( รวมถึงทำความสะอาดห้อง )
> โดยที่เมทของคนตายก็ย้ายไปอยู่ ที่อื่น แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด
> เห็นรอยเลือดสีจาง ๆ ติดอยู่ที่ ผนังสีขาวก็เลยให้คนเอาสีขาวมาทาทับ
> วันรุ่งขึ้นเปิดเข้าไปทำความสะอาดรอยเลือดยังมีอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะ ทำยังไง ทั้งขัด ทั้ง ถู หรือทาสีใหม่
> รอยเลือดนี้ก็ยังไม่หายไป จนสุดท้ายทางหอพักจึงต้องนำสีชมพู
> ไปทาทั้งห้องเพื่อไม่ให้เห็นรอยเลือด กลายเป็นห้องสีชมพูตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบัน เป็นห้องเก็บของที่ปิดตาย
> เคยมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดที่ห้องนี้แล้วออกจากห้องไม่ได้> เพราะลูกบิดถูกล๊อค ( ทั้งที่ตัวล๊อคอยู่ในห้อง )
3-3. ห้องน้ำหลอน
> เล่าว่า ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำรวมตอนกลางคืนชั้น 3
> เข้าไปอาบน้ำที่ช่องที่เขากั้นให้อาบน้ำช่องในสุดซักพักได้ยิน
> เสียงคนเดินเข้ามาอาบน้ำในห้องข้างๆ
> ได้ยินเสียงฝักบัว แถมยังมีน้ำกระเซ็นเข้ามาที่ห้องตัวเองอาบอยู่อีกต่างหาก
> แต่ รุ่นน้องอาบน้ำช้า ห้องข้างเลยกลับออกไปก่อน
> พอรุ่นน้องอาบน้ำเสร็จเปิดห้องออกมาก่อนออกก็ต้องเดินผ่านห้องข้างๆ อยู่แล้ว
> เพราะตัวเองอาบห้องในสุด> ไม่มีร่องรอยการอาบน้ำเลย ตรงฝาผนังและ พื้นแห้งสนิท !
> ที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 รุ่นพี่แก่กว่าประมาณ 3 ปี เคยเล่าให้ฟัง กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ ทั้งห้องมีอยู่คนเดียว
> กำลังจะสระผม รู้สึกว่ามีน้ำกระเด็นมาจากห้องข้าง ๆ แต่ไม่มีเสียงน้ำ
> ด้วยความสงสัย จึงหยุดแล้วไปดูห้องข้าง ๆ ก็ไม่เห็นมีน้ำรั่ว
> หรือซึมทั้งฝาและเพดาน เรียบร้อยทุกอย่าง พอเข้าห้องมาจะอาบก็เจอ น้ำกระเซ็นอีก . . คราวนี้ไม่อยู่แล้ว
3-4 . ทุกโค้ง
> สมัยนั้นเวลากลางคืนดอยสุเทพยังไม่ปิดความนิยม ( ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร )
> อย่างหนึ่งก็คือ> เวลาเมา ๆ นักศึกษาทั้งหลายมักจะขับรถขึ้นดอยกันขึ้นไปดูเชียงใหม่ทั้งเมือง
> ตอนกลางคืนมันสวยดี วันหนึ่ง นักศึกษาจากคณะวิศวะสองคนเพิ่งเลิกจากกังสดาล ( แต่ก่อนร้านนี้ฮิตครับ )
> ครึ้มๆขึ้นมาก็เลยขับรถเลยจากทางเข้า กะขึ้นดอยไปชมเมืองเล่น
> คนขับก็ขับไป ข้างหลังคนซ้อนก็นั่งไป เมา ๆ ขึ้นมาคนซ้อนก็เลยหลับ
> สมัยก่อนแปดสิบเปอร์เซ็นต์นักศึกษาขับแมงกะไซค์ไม่ใช่รถยนต์ อย่างทุกวันนี้
> ซักพักหนึ่งคนซ้อนก็ตื่นกำลังเข้าโค้งพอดี เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง แต่คนขับก็ขับเลย ผ่านไป
> ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจัด ก็เลยถามคนขับว่า “ทำไมไม่จอดรถลงไปถามหน่อยล่ะ เผื่อเขามีปัญหาอะไร?”
> คนขับ : กูไม่จอดด้วยหรอกคนนี้เขารอโบกทุกโค้งเลย เจอมาหลายโค้งแล้วเดี๋ยวโค้งหน้าคุณกะกูก็เจอเขาอีกแหละ
3-5. พยาบาลชุดแดง
> เห็นเขาเล่าว่ามีนักศึกษาคนนึงของคณะแพทย์อยู่ทำงานในตึกของฝั่งสวนดอก
> เขาคนนี้ก็ทำงานอยู่จนดึกก็เลยว่าจะลงลิฟต์มาระหว่างที่รอ
> เขาก็ได้ยินเสียงเดิน มาข้างๆเขาก็หันไปมองเห็นพยาบาลคนนึงเดินมา
> เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพยาบาลกับแพทย์ ก็ต้องเจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว
> ระหว่างรอลิฟต์นักศึกษาคนนี้ก็ได้กลิ่นอะไรแปลก ๆ ก็เลยหันไปมอง พยาบาลคนนี้
> ก็ไม่เห็นมีอะไร ซ้ำพยาบาลคนนี้ยังยิ้มให้ ด้วย
> สักพักต่อมาเมื่อเข้าไปในลิฟต์พยาบาลคนนี้ก็ถามว่า มาทำอะรัยดึก ๆ ป่านนี้
> เขาเลยตอบว่ามาศึกษาเรื่องการผ่าตัดภายใน เพราะว่าจะสอบ
> พยาบาลคนนี้เลยบอกว่างั้นให้ฉันช่วยนะนักศึกษาคนนี้ ก็เลยงง
> และเริ่มสังเกตว่าคอของผู้หญิงเริ่มมีเลือด ไหลออกมาจากคอเรื่อยๆ
> เขาตกใจมากพยายามที่จะหนีออกมาจากลิฟต์ แต่ลิฟต์เหมือนค้างหรืออะไรไม่ทราบ
> เลือดไหลนอง ทั่วชุดของนางพยาบาลคนนี้
> แล้วเธอก็เริ่มสอนนักศึกษาแพทย์คนนี้ ตั้งแต่ลำไส้ ปอด สมอง หัวใจ
> พร้อมทั้งควักส่วนต่างๆเหล่านี้ออกมา
> รุ่งขึ้นก็มีคนพบชายคนนี้นอนคาอยู่ทางประตูลิฟต์ที่เปิดปิดอยู่ แล้วเขาก็เอาแต่
> พร่ำเพ้ออย่างคนบ้าว่า ” พยาบาล ชุดแดง พยาบาลชุด แดง ”
3-6 . ลวด
> วงเวียนธรณี-ต้องขอโทษคนที่ผ่านทางนี้เป็นประจำ จุดนี้มีเรื่องเยอะจริง ๆ
> เรื่องนี้นานมาแล้วมีนักศึกษาสองคนกินเหล้าเมากันมา
> พอมาถึง ข้างตึกธรณีคนขี่มองไปทาง ข้างตึกอังกฤษ เห็นคนหัวขาดยืนอยู่
> ตกใจจึงหยุดรถขยี้ตาดูอีกทีแล้วสะกิดถามเพื่อนๆบอกไม่เห็นอะไร
> มองอีกทีก็ไม่มีแล้วหันกลับมาข้างหน้า มีลวดเหล็กเล็ก ๆ ขึงอยู่ระดับคอห่างออกไปเมตรเดียว
3-7. RB แพทย์
> อาคารเรียนรวมแพทย์ มีคนไปอ่านหนังสือกันสองคน พอดึก ๆ ก็ไปซื้อไก่ทอดมา
> กินเสร็จแล้วก็หาที่ล้างมือเจอก้อกน้ำข้างตึกก็ไปล้างมือที่นั่น
> ตอนที่ล้างอยู่เพื่อนอีกคนก็ทำหน้า ตกใจมากแต่ยังไม่พูดอะไร
> คน ที่ทำหน้าตกใจรีบจูงมือเพื่อนกลับมาใต้ตึก แล้วถามว่า รู้มั้ย
> เมื่อกี้เห็นอะไร อีกคนบอก ไม่รู้
> คนนั้นจึงบอกว่าเห็นผมของอีกคนซึ่งผมยาวชี้ขึ้นมากระจุกหนึ่งเหมือนมีคนจับขึ้นมา
> รู้ทีหลังว่าตรงนั้นเป็นที่ล้างศพ...
3-8 . partner-lab ( แลปฟิสิกส์ )
> อันนี้ฟังเค้าเล่ามาอีกทีเป็นเรื่องนาน มาแล้วเราเองก็มาไม่ทัน
> เรื่องมีว่าเมื่อก่อนตอนที่ตึกเก้าชั้นวิดยายังไม่ได้สร้าง
> แลปฟิสิกส์ของเด็กปี 1 ก็ยังทำที่แลปเก่า ( น่าจะเป็นตึกฟิสิกส์ )
> แลปคราวนั้นเป็นแลปเรืองแสง
> คนที่เคยเรียนคงรู้ว่าห้องจะมืดเพราะปิดไฟและเป็นแลปมืดจริงๆ
> เพราะทำช่วงค่ำ นักศึกษาหญิงคนนึงก็เข้าห้องแลปแต่พาร์ทเนอร์แลปยังไม่มา คนอื่น
> ๆ ก็มากันแล้ว เตรียมอุปกรณ์เสร็จ เพื่อนก็มา
> แต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบ
> เหลือบเห็นที่คอมีรอยแผลเป็นทางยาว เธฮจับไหล่เพื่อนถามว่าไปโดน อะไรมา
> เพื่อนเงยหน้าขึ้นมาแล้วหัวหลุดกลิ้งไปกับพื้น ผู้หญิงร้อง
> กรี้ดแล้ววิ่งออกมาสลบตรงระเบียง ฟื้นมามียามกับรุ่นพี่สองสามคน ถามว่าไม่รู้เหรอว่าวันนี้แลปงด
> เพราะเมื่อเช้ามีนักศึกษาในเซครถคว่ำตาย
> เพื่อนเลยไปงานศพช่วงค่ำกันหมด สอบถามชื่อได้ความว่าคือพาร์ทเนอร์แลปของเธอนั่นเอง
> ส่วนคนที่เจอในห้องแลปทุกคนล้วนแต่ไร้ชีวิต
3-9 . ป๊อก...ป๊อก...ครืด..ดดดด..
> เรื่องผีอันดับหนึ่งของ มหาลัยเชียงใหม่ ในแง่ของ ความเศร้า
> ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่สถานที่เกิด คือ หอ 7 หญิง
> ในสมัยที่มช. ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนยังเป็นลูกรัง ถนนหน้าฝนเป็นโคลน
> รถไปมาลำบาก ตอนกลางคืนมืดไม่มีแสงไฟ
> เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาว คู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3
> ของหอหญิงเจ็ด ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบนักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่
> ประมาณว่านักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้อง
> ตอนหัวค่ำแล้วรูมเมทชวนไปทานข้าว
> แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหวอยากพักผ่อน พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย
> ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมาฝากเพื่อน
> คนที่ไม่สบายก็บอกว่า ยังไงฝากซื้อราดหน้ามาให้ทีละกันกินแล้วจะได้กินยา
> เมทคนนั้นก็บอกว่า ได้ เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับ
> หลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้องคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ
> อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหวเพราะไข้ขึ้น จึงนอน ตอนนอนอยู่นั้น สลึมสลืออยู่ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว
> เพื่อนทำไมยังไม่กลับมาซะที่
> ตกดึก ฝนเริ่มตก นักศึกษาคนนั้นก็ตื่น ขึ้นมาอ่านหนังสือ ต่อ
> ในใจเป็นห่วงเพื่อนเพราะออกไปนานมากยังไม่กลับ
> ซักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่าง
> จากทางบันได " ป๊อก…………ป๊อก………ป๊อก……… ป๊อก……"
> เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันไดดังขึ้นเรื่อย ๆ
> เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา
> และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่
> แล้วเสียงก็เปลี่ยนไป " ครื……..ด……..ครื………..ด…….ค..รื…ด"
> เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรซัก อย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง
> นักศึกษาหญิงเริ่ม เอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว
> แต่ยังเงียบได้ อึดใจนึงก็มีเสียงเคาะห้อง "ก๊อก ก๊อก ก๊อก" แล้วเงียบไป
> นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่ เพื่อนแน่แล้ว
> ถ้างั้นทำไม ไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู
> ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่
> พอเห็นห่อราดหน้า ก็งง แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือ
> ติดฝนเลยฝากคนอื่นเอามาให้
> แต่ทำไมต้องเอามาแขวน ไม่รอเจอกันก่อน จะได้รู้ว่าเป็นใคร แล้วทำไมเดินเร็วจัง
> มีแต่รอยเปียกน้ำ เป็นทางจากบันได … คิดต่างๆ นานา แต่แล้วก็แกะ ห่อราดหน้า ออก
> ทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้ซักพักก็หลับไป
> รุ่งเช้า .. มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว !
> นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ
> ลักษณะศพ สภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก
> อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี
> นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด ( ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหินหรือตลาดต้นพยอม )
> หลังจากทานข้าวเสร็จ ทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว
> โดยเพื่อนฝากซื้อข้าวห่อ คนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ
> แล้วราดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด
> แต่จากที่ฟังกันมา คือหลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
> เพราะว่าไม่สบายและยังหิว
> นำห่อราดหน้าที่ซื้อมาฝากไปส่งให้แต่จะไปส่งยังไง แขนหัก ขาหัก หมดแล้ว
> ลักษณะที่เขาเล่ามาคือเพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบ ถุง
> แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันไดลากตัวเอง ขึ้นมา
> เป็นเสียง"ป๊อก ป๊อก"
> เสียงครืด ที่ได้ยินคือ เสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอย
> เปียกน้ำยาว ติดต่อกัน
> หลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง
> ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่าแต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้าง
> ๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นได้ยินเสียง เหมือนคนกำลังยกของหนัก และลากของหนักจากข้างล่างขึ้นมา
> แล้วทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ มิตรภาพอยู่เหนือความตาย....
4. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
> "สะพานขาว" เป็นสะพานยาวๆ ข้างสระพลาสติก มีเจ้าที่ชื่อ "เจ๊ขาว"
> เป็นผู้หญิงผมยาวๆ ใส่ชุดสีขาว เจ๊แกชอบออกมาทักทายเด็กที่ ขับมอไซด์ ผ่านสะพานตอนดึกๆ
> เค้าเล่ากันว่า อย่ามองจั่วของตึกคณะ ถาปัด ขณะขับรถ เพราะมันจะเกิดอุบัติเหตุ
> ที่ศาลเจ้าพ่อมอดินแดง ไปกลางวันก้หลอนนะ รุ้สึกเหมือนมีคนมองตลอดเวลา
> แล้วก็เซียมซี แม่นมากๆ ถามตอนต้นเทอมว่าเกรดเทอมนี้จะเป้นไง
> ท่านกล่าวว่าจะได้ เอฟ .....เอฟจริงๆ แม่นปานนั้น
5. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
> ม.ธรรมศาสตร์ ต้องมีนักศึกษากระโดดตึกเป็นประจำ ทุกปี (ไม่รู้เป็นอะไร...)
5-1. ลิฟท์แดง
> เรื่องลิฟท์แดงนี่เรื่องเล่าเยอะมาก
> เห็นว่าเมื่อตอนเหตุการณ์เดือนตุลาน่ะค่ะพวกทหารบุกเข้ามาในมหาวิทยาลัย
> แล้วพอลิฟท์ตัวนี้เปิดพวกมันก็กระหน่ำยิง คนในลิฟท์ซึ่ง เป็นอาจารย์และ
> นักศึกษาเสียชีวิตหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์ เมื่อผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นแล้ว
> มหาวิทยาลัยกลับคืนสู่สภาพเดิม มีการบูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่
> ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทีนี้ทำยังไง คราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ออก
> เหมือนจะเป็นการประจานการกระทำอันบ้าเลือดและไม่ยุติธรรม
> จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แล้วก็ได้มีเรื่องเล่าตามมาว่า
> หลังจากที่ลิฟท์ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วนั้น ก็ได้มีการนำกลับมาใช้ตามปกติ
> แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อนักศึกษาหญิงคนนึงกำลังใช้บริการลิฟท์แดงตามลำพัง
> แต่แล้วเมื่อเธอมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง
> หากแต่มีผู้โดยสารลิฟท์ตัวนี้อยู่มาก มายแล้วยังมีอีกหลายครั้งหลายหน
> ที่เหล่านักศึกษาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ของลิฟท์แดงตัวนี้เข้า
> ทำให้มหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนตัวลิฟท์ใหม่
> แต่ว่าประตูลิฟท์แดงที่ถูกถอดออกไปตอนนี้ก็ยังตั้งอยู่ที่ชั้น 4 มาจนถึงทุกวันนี้[/url]
6. มหาวิทยาลัยศิลปากร
> มีเกือบทุกที่เลย ฮือๆ กลัวอ่ะ เช่น ....
> หอพักหญิงมีผีแทบทุกหอแหละ โดยเฉพาะหอเพชรรัตน์สี่กะเพชรรัตน์สองนี่สุดยอด
> หอห้า มีผีจริงๆ
> ลานทรงพล ฮือๆ เห็นแบบว่า รำออกมาเลยทีเดียว
> บ้านจักรยาน(เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว...หมายถึงเค้าเอาที่ไปทำอย่างอื่นนะ
แต่ผีไม่รู้ว่ายังอยู่ป่าว อันนี้สุดๆ ถามคนรุ่นก่อนปี 40 ขึ้นไปได้ทุกคน)
> ตรงบ้านจักรยานเมื่อก่อนจะมีชิงช้าผูกกับต้นไม้สูงๆ ผ่านตอนกลางคืนจะเห็นชิงช้าแกว่เอง
ตอนไม่มีลมอันนี้ เด็กนักศึกษาถึงขั้นบาดเจ็บเลยนะ เพราะเวลาปั่นผ่าน ตรงนี้ มันรีบปั่นไง
แบบหลับหูหลับตาปั่นอ่ะ กลัวผีไง เลยล้มบ้าง อะไรบ้าง ว่ากันไป
> หอทับแก้ว1 เป็นหอชาย เพื่อนผมได้ยินเสียงเหมือนคนเอาเล็บลากตู้ ดังแกรกๆๆ แต่ว่ามันดังมาจากในตู้