PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ข้อมูลตัวละครใน The Avengers ว่างๆไม่มีไรทำใครรู้แล้วผ่านได้



wAkie
18th May 2012, 19:53
__________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

http://www.hdwallpapers.in/wallpapers/the_avengers-1920x1080.jpg

จุดเริ่มต้นของ The Avengers

ทีม The Avengers ปรากฏตัวครั้งแรก : ใน The Avengers #1
ผู้ให้กำเนิด : สแตนลี และ แจ็คเบอร์บี้ สองคู่หูคู่บุญของมาร์เวล
ความเป็นมา : โดยที่มานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เดาไม่ได้เพราะว่า ทางค่ายการ์ตูนคู่แข่ง อย่าง DC Comic ออกการ์ตูนรวมดาวซูปเปอร์ฮีโร่ชุดใน Justice League of America ออกมาแล้วประสบความสำเร็จถล่มทลายน่ะสิ (Justice League ออกขายในปี 1960) ในเมื่อมาร์เวลก็มีซูปเปอร์ฮีโร่มากมายเช่นกันจึงจับมารวมตัวกันซะไม่ให้เสียของ และก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันจนมีการ์ตูนชุดที่พัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้ โดยสมาชิกรุ่นบุกเบิกที่ได้ชื่อรุ่นว่า "Earth's Mightiest Heroes" นั้นประกอบไปด้วย Iron Man (โทนี่ สตาร์ค) Ant-Man (ดร.เฮนรี่ พิม) Waps (เจเน็ต แวน ไดน์) Thor และ The Hulk (ดร.บรูซ แบนเนอร์) ส่วนกัปตันอเมริกานั้นมาปรากฏตัวครั้งแรกในเล่มที่ 4 เหล่าเพื่อนร่วมทีมมาเจอเขาติดอยู่ในน้ำแข็ง และเข้าร่วมทีมในภายหลัง การเปลี่ยนแปลงสลับเปลี่ยนของสมาชิกในทีมไปเรื่อยๆ นั้นกลายเป็นจุดเด่นประจำของกลุ่ม โดยมีคำเรียกประจำทีมว่า "Avengers Assemble!" ในทีมมีสมาชิกไม่จำกัดรูปแบบทั้ง มนุษย์ มนุษย์กลายพันธุ์ หุ่นยนต์ เทพเจ้า เอเลี่ยน สิ่งมีชีวิต เหนือธรรมชาติ หรือแม้แต่ตัวร้ายเก่าก็สามารถมาร่วมทีมได้
    เรื่องรามในหนังสือเริ่มขึ้นเมื่อ Loki อยากจะแก้แค้น Thor จึงใช้ภาพลวงตาไปล่อลวง The Hulk ให้มาออกอาละวาดทำลายรางรถไฟ จากนั้นก็ส่งสัญญาณวิทยุปลอมออกไปขอความช่วยเหลือ โดยหวังว่า Thor จะหลงกลแล้วได้มาปะทะกับ The Hulk แต่ว่าคนที่ได้รับสัญญาณนั้นยังมีทั้ง Ant-Man Waps และ Iron Man มาร่วมด้วย เมื่อได้มาเจอหน้ากันอย่างไม่คาดคิดและปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยว่าเป็นแผนการของ Loki ฮีโร่ทั้งหมดก็ร่วมมือกันต่อสู้ Ant-Man เห็นว่าพวกเข้าสู้เข้าขากันเลยเสอนว่าน่าจะรวมทีมกัน และ Waps จึงตั้งชื่อทีมว่า "The Avengers" ด้วยเหตุผลที่ว่ามันได้อารมณ์ดราม่าดี แต่หลังจากนั้นสมาชิกก็เปลี่ยนแทบจะทันที เพราะพอเริ่มต้นฉบับที่สอง Ant-an กลายเป็น Giant-Man และตอนจบเล่มที่สอง The Hulk ก็ขอถอนตัวออกจากทีมเพราะรู้ว่าคนอื่นๆ กลัวในพลังและนิสัยไม่แน่ไม่นอนแบบเขา แต่จากนั้นทีมก็รู้สึกผิดออกตามหา The Hulk ซึ่งนำไปสู่หลักไมล์สำคัญแรกของทีม "The Avengers" นั่นคือการพบ Captain America ซึ่งกลายเป็นหัวหน้าทีมของพวกเขาในเวลาต่อมา Captain America ได้รับตำแหน่งเป็น "สมาชิกรุ่นก่อตั้ง" แทนที่ The Hulk แต่หลังจากนั้นก็มีจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อ Captain America ลาออกและมีสมาชิกใหม่ที่เคยเป็นตัวร้ายเก่าเข้ามา 3 คน ได้แก่ Hakweye , Scarlet Witch , Quicksilver ซึ่งรุ่นนี้แม้จะถูกค่อนแคะว่าไม่ได้มีพลังแกร่งกล้าสามารถเท่ากับรุ่นแรก แต่พวกเขาก็มีวิธีจัดการกับพวกวายร้ายได้ดีเยี่ยม จากนั้น Giant-Man และ Waps ก็กลับเข้ามาร่วมทีมอีกครั้งพร้อมกับ Hercules , Black Knight และ Black Widow
    และนี่คือที่มาของเหล่าสมาชิกที่เราจะได้เห็นในภาพยนต์ แต่ในหนังสือการ์ตูนนั้นสมาชิกยังไม่หยุดแค่นี้ ยังมีรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพเรื่อยๆและอีกหลายตัวก็มีข่าวว่าจะมีโครงสร้างเป็นภาพยนต์ในอนาคต . . จบพอก่อน


http://www.hdwallpapers.in/walls/captain_america_steve_rogers-HD.jpg

Captain America

ปรากฏตัวครั้งแรก : Captain America Comic #1 (มีนาคม 1941)
ผู้ให้กำเนิด : โจ ไซม่อน และ แจ็ค เบอร์บี้
ชื่อยามเป็นมนุษย์เดินดิน : สตีเว่น โรเจอร์
ความเป็นมา : Captain America ถือว่าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ยุคแรกๆของ Marvel ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดก็ว่าได้ ไม่มีใครไม่เคยเห็นซุปเปอร์ฮีโร่ผู้ห่มกายด้วยธงชาติอมริกาและมาพร้อมโล่กำบังสีธงชาติคนนี้ สตีฟ หรือ สตีเว่น โรเจอร์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฏาคม 1920 (วันชาติอเมริกา - ออกแนวรักชาติตั้งแต่เกิด) ณ ย่านแมนฮัตตันฝั่งตะวันออกตอนล่าง เป็นลูกของ โจเซฟ และ ซาร่า โรเจอร์ ผู้อพยพชาวไอริส โดยโจเซฟจากได้ตั้งแต่สตีฟยังเยาว์วัย และเมื่อสตีฟสู่วัยรุ่น โรตปอดบวมก็ได้พรากชีวติของซาร่าห์ไปจากเขาอีก

ความสามารถของ Captain America : แม้จะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แต่ Captain America กลับไม่มีพลังซุปเปอร์ฮีโร่เลยเพราะถึงเซ่รุ่ม Super-Soldier และรังสี Vita จะเปลี่ยนเขาจากชายร่างกายอ่อนแอกลายเป็นมนุษย์ที่มีความสมบูรณ์แบบทุกๆด้านก็ตาม แต่ความแข็งแกร่ง ความคงทน ความเร็ว และความยืดหยุ่นนั้น ล้วนอยู่ในจุดสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะมีได้เท่านั้น หาได้มีพลังเหนือมนุษย์แต่ประการใด
นอกจากความสมบูรณ์แบบด้านร่างกายแล้ว Captain America ยังฝึกฝนทักษะการต่อสู้และการรบ ประกอบกับการที่เขามีความรู้ทางการทหารอยู่มากทำให้เขาเป็นผู้ชำนาญการวางกลยุทธ์และบัญชาการรบ รวมไปถึงทักษะการเอาตัวรอดและการบินอีกด้วย อีกทั้งยังผสมผสานศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนงเช่น ยูโด มวยตะวันตก และยิมนาสติก ให้กลายเป็นศิลปะการต่อสู้เฉพาะตัวได้
นอกจากนี้เขายังฝึกฝนการใช้โล่ที่ไม่สามารถทำลายลงได้ของเขาอยู่หลายปีดีดัก จนสารมารถใช้มันกันการปะทะอย่างฉับพลัน อีกทั้งยังสามารถใช้โล่เขวี้ยงต่างมุมเมอแรงเข้าหาเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักสู้มือเปล่าที่เก่งที่สุดเลยก็ว่าได้



http://www.hdwallpapers.in/walls/iron_man_tony_stark-HD.jpg

Iron Man

ปรากฏตัวครั้งแรก : Tales of Suspense #39 (มีนาคม 1963)
ผู้ให้กำเนิด : สแตนลี , แลลี่ ไลเบอร์ , ดอน เฮ็ด และ แจ็คเบอร์บี้
ชื่อยามเป็นมนุษย์ : แอนโธนี่ เอ็ดเวิร์ด "โทนี่" สตาร์ค
ความเป็นมา : Iron Man หรือ โทนี่ สตาร์ค ถือว่าเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีพลังเหนือมนุษย์ใดๆทั้งสิ้นเมื่อเทียบกับซูปเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ เพราะเขาเป็นเพียงมหาเศรษฐีเพลย์บอย อัจฉริยะด้านวิศวกรรมศาสตร์ ผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่บริเวณหัวใจใยระหว่างที่ถูกลักพาตัวไปบังคับให้สร้างอาวุธทำลายล้างสูง แต่เขากลับสร้างชุดเกราะทรงพลังและหนีออกจากที่คุมขัง ต่อมาเขาจึงใช้ชุดเกราะนี้ปกป้องโลกภายใต้ชื่อ Iron Man อีกทั้งเขายังผลิตอาวุธรวมถึงชุดเกราะจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยภายใต้บริษัทของเขาอย่าง Stark Industries เพื่อใช้ในการต่อกรกับเหล่าอาชญากรอีกด้วย
โทนี่ สตาร์ค ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbee ให้เป็นตัวละครจาก Comic ที่ร่ำรวยที่สุดในขณะเดียวกัน เขาก็ยังได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร BusinessWeek ให้เป็น 1 ใน 10 ตัวละครจาก Comic อเมริกันที่ฉลาดที่สุดอีกด้วย
     แอนโธนี่ เอ็ดเวิร์ด "โทนี่" สตาร์ค เป็นลูกชายของ โฮเวิร์ด สตาร์ค มหาเศรษฐีนักอุตสาหกรรมประธานบริษัท Stark Industries กับ มาเรีย สตาร์ค ซึ่งเกิด ณ ย่านลองไอสฺแลนด์
โทนี่เป็นเด็กอัจฉริยะ เขาเรียนที่ MIT หรือสถาบันเทคโนโลยีแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า เมื่ออายุ 15 ปี และจบออกมาเมื่ออายุ ได้ 21 ปีเท่านั้น หลักจากที่พ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาก็ได้รับมรดกทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว

ความสามารถของ Iron Man : สิ่งที่เรียกว่าหากไม่มีแล้ว Iron Man ก็คงไม่ใช่ Iron Man และเป็นแค่ "โทนี่ สตาร์ค" มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง นั่นคือชุดเกราะอันทรงพลังนั่นเอง ชุดเกราะนี้ทำให้ Iron Man แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ ทั้งยังสามารถเหาะเหินเดินอากาศและมีอาวุธติดตั้งไว้ครบครัน มันถูกคิดค้น ประดิษฐ์ และสวมใส่ด้วยโทนี่เอง แต่ก็มีบางครั้งที่เขามอบหมายหน้าที่ให้กับคนรอบข้างชั่วคราว เช่น เจมส์ โรดส์ เพื่อนสนิท และ แฮโรลด์ โฮแกน โซเฟอร์คู่ใจ รูปลักษณ์ของชุดเกราะยังมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเทห์อีกด้วย จากแรกเริ่มที่เป็นสีเทาหุ่นกระป๋องเชยๆ เปลี่ยนมาเป็นสีทองอร่ามราวกับเพิ่งหลุดมาจากร้านชุบทอง และสุดท้ายคือชุดเกราะสีแดง-ทองสุดเทห์
นอกเหนือจากชุดเกราะแบบใช้งานตามปกติแล้ว โทนี่ยังประดิษฐ์ชุดเกราะไว้ใช้ในโอกาศต่างๆ เช่น ชุดเกราะสำหรับท่องอวกาศ ชุดเกราะสำหรับดำน้ำลึกมากๆ ชุดเกราะสำหรับใช้ล่องหนหรือสอดแนม และชุดเกราะสำหรับโอกาศอื่นๆ อีกร้อยแปด อาทิ ชุดเกราะฮัลค์บัสเตอร์ ที่ใช้ต่อกรกับเจ้ายักษ์เขียวโดยเฉพาะ
อาวุธที่ติดตั้งบนชุดเกราะก็มีหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่ Iron Man ออกปฏิบัติการ แต่อาวุธพื้นฐานนั้นคือลำแสงที่ยิงออกมาจากฝ่ามือผ่านถุงมือเหล็ก และลำแสงจากหน้าอกจากเครื่องสร้างพลังงานไฟฟ้าที่ให้พลังงานกับชุดเกราะทั้งชุดและที่ครอบหัวใจด้วย รวมไปถึงเครื่องยิงสลักที่ยิ่งเป้าหมายอยู่ห่างไกลมากเท่าไหร่ ความเร็วและความแรงในการปะทะก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ปืนยิงพลังแม่เหล็กไฟฟ้า และโล่พลังงานที่ใช้ในการป้องกันตัวซึ่งสามารถควงได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีความสามารถในการยิงลำแสงเยือกแข็งสร้างและควบคุมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ปล่อยคลื่นโซนิคหรือคลื่นเสียง รวมไปถึงการสร้างภาพโฮโลแกรมสามมิติเพื่อใช้ลวงคู่ต่อสู้
หากว่าชุดเกราะคือสิ่งที่ทำให้ Iron Man เป็น Iron Man แล้วอีกสิ่งที่เรียกว่าถ้าขาดไป Iron Man ไม่มีทางถือกำเนิดได้อย่างแน่นอน นั่นคือความอัจฉริยะของ โทนี่ สตาร์ค นักประดิษฐ์ที่เก่งกาจในศาสตร์หลายแขนง เช่น คณิตศาสตร์,ฟิสิกส์,เคมี,คอมพิวเตอร์,และวิศวกรรมศาสตร์ ในระดับเดียวกับ รี๊ดริชาร์ด(หรือมิสเตอร์แฟนทาสติก)จาก Fantastic Four และ บรู๊ซ แบนเนอร์ (The Hulk) เลยทีเดียว จนได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในตัวละครที่ฉลาดที่สุดของ Marvel
เมื่อคราวที่ระบบประสาทของเขาเกิดความเสียหายจนต้องสร้างประสาทเทียมขึ้นมานั้น ผลลัพธ์คือเขากลายเป็นผู้ที่ไวต่อความรู้สึกเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป รวมถึงรับรู้กระบวนการต่างๆในร่างกายได้ในระดับเหนือมนุษย์เช่นกัน
นอกจากนี้เขายังเป็นนักธุรกิจที่ทำให้ผู้คนคล้อยตาม จนสามารถสร้างบริษัทมูลค่าพันล้านได้ ทั้งยังมีความจงรักภักดีและยึดมั่นในคำสั่งที่ตนได้รับ รวมถึงจริยธรรมทางธุรกิจ ใส่ใจในสภาพแวดล้อมและรับผิดชอบในสิ่งที่บริษัทของตนก่อไว้ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้ก็ได้ถ่ายทอดไปยังลูกน้องเขาอีกทีหนึ่ง
โทนี่เป็นผู้ที่มีความตั้งใจสูง ไม่เคยย่อท้อ บ่อยครั้งที่ความล้มเหลวทำให้เขาลุกขึ้นมาแข็งแกร่งกว่าเดิม เช่น ตอนที่เขาไม่สามารถใช้ชุดเกราะของตนได้ เขาก็ไปขอให้ Captain America ช่วยฝึกทักษะการต่อสู้ให้ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังไปขอให้ แฮโรลด์ โฮแกน นักมวยอาชีพ และ เจมส์ โรดส์ นาวิกโยธิน เพื่อนสนิทช่วยฝึกฝนอีกทอดหนึ่งจนกระทั้งเขาสามารถนำไปใช้ได้จริงเมื่อถึงคราวจำเป็น




http://www.hdwallpapers.in/walls/the_hulk_bruce_banner-HD.jpg

Hulk

ปรากฏตัวครั้งแรก : The Incredible Hulk #1 (พฤษภาคม 1962)
ผู้ให้กำเนิด : สแตน ลี และ แจ็ค เบอร์บี้
ชื่อยามเป็นมนุษย์ : บรูซ แบนเนอร์
ความเป็นมา : Hulk หรือ ดร.บรูซ แบบเนอร์ในยามปกติเป็นนักฟิสิกส์ผู้ประสบอุบัติเหตุรังสีแกรมม่าระเบิดระหว่างการทดลอง แม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่โกรธหรือโมโหสุดๆ เขาจะกลายร่างเป็น The Hulk ยักษ์ใหญ่สีเขียว พร้อมอารมณ์ที่ฉุนเฉียวสุดๆโดยสิ่งที่ทำให้ The Hulk แตกต่างจากซูปเปอร์ฮีโร่อื่นๆ คือเขาไม่สามารถเลือกได้ว่าอยากจะเป็น The Hulk เมื่อไหร่ เพียงแค่มีอะไรมาสะกิดอารมณ์อย่างแรง ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์ โกรธ,หวาดกลัว,หรือเศร้าโศกเสียใจ เขาก็พร้อมจะกลายร่างได้ทันที
    ดร.บรูซ แบนเนอร์ จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ได้ทำการทดลองสร้างระเบิดรังสีแกรมม่าให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ณ ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ในรัฐนิวเม็กซิโก ระหว่างที่กำลังสาธิตอยู่นั้น ริค โจนส์ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งได้เข้าไปเตร็ดเตร่อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในบริเวณที่ระเบิดกำลังเดืนถอยหลังบรูซรีบเข้าไปช่วยริค อย่างไม่ห่วงชีวิต แต่เขากลับติดอยู่ในห้องทดลองเสียเอง ทำให้โดนระเบิดรังสีแกรมม่าเข้าไปเต็มๆ แต่เขากลับรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์

ความสามารถของ The Hulk : จากที่ บรูซ แบนเนอร์ โดนรังสีแกรมม่าอาบทั้งร่าง ทำให้เขากลายร่างเป็นยักษ์ร่างเขียว The Hulk "ยิ่งโกรธคลุ้มคลั่งมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีพละกำลังมากขึ้นเท่านั้น" ไม่เพียงแต่พลักำลังเท่านั้น ยังรวมไปถึงความทนทาน, ความอึด และการฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เพิ่มขึ้นผันตรงกับระดับความรุนแรงของอารมณ์อีกด้วย
นอกจากนี้ The Hulk ยังมีความต้านทานต่อการบาดเจ็บและการทำลายล้างทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนระดับแกนดวงอาทิตย์, ระเบิดนิวเคลียร์, หรือแม่แต่ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็ตาม โดยเขาสามารถปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายในสภาวะต่างๆ เช่น สร้างเนื้อเยื่อเพื่อนหายใจใต้น้ำ และความสามารถในการอยู่ในอวกาศโดยปราศจากชุดและอุปกรณ์ต่างๆ ได้เป็นเวลานานๆ อีกทั้งเมื่อได้รับบาดเจ็บ เขายังสามารถสมานแผลได้ทุกรูปแบบให้หายสนิทได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน ขาอันทรงพลังก็ทำให้เข้าก้าวกระโดได้ไกลข้ามทวีปเลยทีเดียว เขายังสามารถต่อต้านการถูกควบคุมทางจิต, แข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อได้รับรังสีเพิ่ม รวมถึงสามารถมองเห็นและสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตจากต่างดาบได้อีกด้วย ที่สำคัญ The Hulk ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในพื้นปฐพีอีกด้วย



http://www.hdwallpapers.in/walls/thor_the_god_of_thunder-HD.jpg



Thor


ปรากฏตัวครั้งแรก : Journey into Mystery #83 (สิงหาคม 1962)
ผู้ให้กำเนิด : สแตน ลี, แลร์ลี่ ลีเบอร์ และ แจ็ค เบอร์บี้ (โดยอ้างอิงจากตัวละครในตำนานของชาวนอร์ส)
ชื่อนามเป็นมนุษย์ : โดนัลด์ เบลค
ความเป็นมา : ธอร์ (Thor)หรือ โดนัลด์ เบลค จริงๆ แล้วมีสถานะเป็นถึงเทพแห่งสายฟ้า แต่ด้วยความผิดที่ได้ก่อเอาไว้ เขาจึงถูก โอดิน บิดาซึ่งเป็นเจ้าแห่งเทพทั้งปวง ยึดเอาพลังและความทรงจำเมื่อครั้งเป็นเทพออกหมดและส่งเขามาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ปกติบนโลก ภายใต้ชื่อใหม่ว่า โดนัลด์ เบลค นักเรียนแพทย์ขาพิการ ก่อนที่เขาจะได้พบตัวตนจริงๆ แล้วตนคืนเทพ และกลายเป็นผู้มีชีวิตสองด้านเยี่ยงซูปเปอร์ฮีโร่ทั่วไปและนั่นคือเป็น โดนัลด์ เบลค ศัลยแพทย์ผู้เก่งกาจและ ธอร์ (Thor) เทพเจ้าสายฟ้า ผู้พิทักษ์โลกจากเหล่าวายร้าย
     Thor ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ โอดิน เจ้าแห่งเทพทั้งปวง ต้องการมีลูกซึ่งมีสถานะเป็นเทพทั้งจากฟากแอสการ์ด หรือ สวรรค์ และฟากมิดการ์ด หรือ โลกมนุษย์ เขาจึงไปเกี้ยว เกอา เทพีแห่งโลกมนุษย์ จนในที่สุดเกอาก็ได้ให้กำเนิด Thor ขึ้นมาในถ้ำเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศนอร์เวย์ ก่อนที่โอดินจะนำ Thor กลับไปให้ ฟลิกกา ภรรยาของเขาเป็นผู้เลี้ยงดู ณ แอสการ์ด Thor เติบโตขึ้นเคียงข้าง Loki น้องชายต่างมารดา ผู้มักจะอิจฉา Thor ซึ่งเป็นลูกรักอยู่เสอม ด้วยความที่ Thor นั้นมีความล้ำเลิศด้านการใช้พลังอีกทั้งยังเป็นที่สนใจของเหล่าทวยเทพ โอดินจึงมอบค้อนมโยเนียร์ให้กับ Thor พร้อมประกาศว่าเขาเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแอสการ์ด

ความสามารถของ Thor : Thor นั้นมีร่างกายที่แข๋งแกร่งทนต่อความเจ็บปวดได้ใยระดับสูงมาก เช่น สามารถทนต่อการถูกยิ่งจรวดใส่, ทนต่อแรงกระแทกสู่พื้นดินจากความสูงในระดับวงโคจรของดวงดาว เป็นต้น อีกทั้งยังมีประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์ด้วย เช่น สามารถติดตามวัตถุที่เร็วกว่าแสงได้, สามารถได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญจากอีกฟากหนึ่งของดาว, ลมหายใจเยี่ยงพายุ, จูบที่สามารถทำให้ผู้หญิงไม่ว่าหน้าไหนอ่อนระทวยได้ รวมไปถึงความเร็ว, ความยืดหยุ่น, ความคล่องตัวในระดับที่มนุษย์ไม่อาจทานเทียบ ความสามารถในการรักษาเยียวยาตัวเองยามบาดเจ็บ และความสามารถในการควบคุมสภาพทางกายภาพของโลกได้เช่นกันนอกจากนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่ Thor รู้สึกกดดัน เขาก็จะเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่งบ้าเลือดที่จะทำให้เขามีความแข็งแรงและพลังเพิ่มขึ้นอีกเป็นสิบเท่าเลยทีเดียว
นอกจานี้ Thor ยังมีความสามารถด้านการต่อสู้ด้วยมือเปล่า รวมถึงการต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นค้อน, ดาบ ,หรือแม้แต่คฑาโดยเขามีของสองสิ่งที่ช่วยในการต่อสู้ นั้นคือ เข็มขัดที่ช่วยเพิ่มพลังและความแข็งแกร่งทาทานให้กับเขาอีกเท่าตัว และค้อนมโยลเนียร์ที่ใช้ควบคุมสภาพลมฟ้าอากาศ, การบิน, การปล่อยตัวและดูดซับพลัง, การสร้างช่องทะลุมิติ, การควบคุมสสารต่างๆ, และการปล่อยสายฟ้าฟาดที่ทีอานุภาพในการต่อสู้ที่รุนแรงมาก นอกจากนี้ค้อนมโยลเนียร์ยังทำให้เขาสามารถเดินทางได้เร็วกว่าเสียงเมื่ออยู่บนโลกมนุษย์และเร็วกว่าแสงเมื่ออยู่ในอวกาศ อีกทั้งเขายังมีรถม้าซึ่งเทียมด้วยแพะขมังเวทย์สองตัวอย่าง ทูชแนชเชอร์ และ ทูชไกรนด์เดอร์ หลังจากที่โอดินเสียงชีวิตลง เขาก็ได้รับพลังและความสามารถทั้งหมดจากพ่อมา ทำให้เขากลายเป็นเทพที่มีอำนาจแก่กล้า ถึงขนาดที่ว่าสร้างดวงจันทร์ขึ้นมาใหม่ได้เลยทีเดียว





http://www.hdwallpapers.in/walls/hawkeye_clint_barton-HD.jpg


Hawkeye

ปรากฏตัวครั้งแรก : Tales of Suspense #57 (1964)
ผู้ให้กำเนิด : สแตน ลี และ ดอน เฮ็ด
ชื่อยามเป้นมนุษย์ธรรมดา : คลินตัน ฟรานซิส บาร์ตัน (เรียกง่ายๆว่า คลิ้นท์)
ความเป็นมา : ยามไม่ได้เป็นซูปเปอร์ฮีโร่ เขาเคยเป็นนักปฏิบัติการนอกกฏหมาย , กบฏสังคม , ผู้หลบหนีการจับกลุม , รับจ๊อบจาก "S.H.I.E.L.D" เป็นครั้งคราว , นักโทษของทางการ , หัวหน้าหน่วนรักษาความปลอดภัย CTE , ติวเตอร์สอนยิงธนู , นักแสดงผาดโผนตามงานคาร์นิวัล , คนงานร้านขายเนื้อ เป็นเยอะจังหวะสาด
     คลินตัน บาร์ตัน หรือ คลิ้น เกิดในเวเวอร์ลีย์, ไอโอวา ในวัยเด็กเขาสุญเสีญพ่อและแม่ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงต้องเข้าไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่อยู่ได้หกปี คลิ้นท์ และ บาร์นี่ย์ น้องชายของเขาก็หนีออกมาได้และเข้าไปทำงานอยู่กับคณะแสดงโชว์ตามงานคาร์นิวัล ในขณะนั้น เดอะ ซอว์ดแมน ที่กำลังเสาะหาเด็กหนุ่มแววดีมาเป็นผู้ช่วยงานเกิดชอบหน่วยก้านของเขา ขณะที่ ทริกช็อต ก็สนใจช่วยสอนเขาด้วย ทำให้คลิ้นท์ได้รับการฝึกฝนจนกลายเป็นนักยิงธนูฝีมือเลิศ ภายหลังคลิ้นท์พบว่า เดอะ ซอว์ดแมนยักยอกเงินจากงานคาร์นิวัล เมื่อเขาไม่ยอมร่วมมือด้วยจึงเกิดการต่อสู้กันผลจบลงที่เขาบาดเจ็บและ๔ุกปล่อยทิ้งให้ตาย โดยที่ เดอะ ซอว์ดแมน หนีไปได้ หลังจากรอดตายมาได้แบบเหลือเชื่อเขาก็ได้ฝึกฝนฝีมือการยิงธนูของเขาจนกลายเป็นดาวเด่นในคณะโชว์ที่เขาแสดงในนาม ฮอว์คอาย (Hawkeye) มือขมังธนู

ความสามารถของ Hawkeye : Hawkeye ไม่มีพลังวิเศษ แต่ตอนที่เป็นโกไลแอธ คลิ้นท์ใช้แก๊สที่คิดค้นโดย แฮงค์ พิม ช่วยขยายส่วนสูงและขนาดร่างกายให้ตัวโตเป็นยักษ์ โดยพละกำลังและความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนด้วย (นอกจากนี้ เขายังสามารถใช้แก๊สนี้ เพื่อลดขนาดร่างกายให้มีขนาดเล็กจิ๋วก็ได้) แต่ความสามารถพิเศษของเขาคือ ความเป็นมือขมังธนูที่แม่นยำและเก่งกาจที่สุดของโลก มือและสายตาเขาทำงานสอดประสาทได้ลงตัวอย่างยิ่ง เขายังผ่านการฝึกฝนขว้างปาอาวุธต่างๆ เช่น มีดบิน, ลูกดอก และบูมเมอแรง เขามีความเป็นนักกีฬาโดนธรรมชาติ ทั้งยังมีทักษะการสู้รบแบบปราศจากอาวุธที่ยอกเยี่ยมอีกด้วย ในวัยเยาว์เขายังเคยฝึกเล่นกายกรรมกลางหาวมาก่อน คลิ้นท์มีอัฉริยะภาพของผู้นำทีมที่ชาญฉลาดและนักงานกลยุทธ์ที่หลักแหลมอยู่ในตัว แม้ว่าบางครั้งจะระห่ำไปบ้าง เขายังเก่งในเรื่องการออกแบบอาวุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาวุธแบบดั้งเดิมที่เขารอบรู้มีหลายอย่าง เช่น ธนู มีดดาบ อาวุธขว้างวิถีโค้งแบบต่างๆคลิ้นท์ยังเป็นคนหนึ่งในสมาชิก The Avengers ที่มีความเชี่ยวชาญและห้าวหาญในการขับขี่อากาศยานต่างๆ ด้วย ส่วนอาวุ๊คู่ใจนั้น ยามที่เขาเป็น Hawkeye เข้าจะใช้ธนูและลูกศร "แบบพิเศษ" ต่างๆ เช่น ศรหัวระเบิด ศรหัว Sonic blast ศรหัวใบเลื่อย ศรแก๊สน้ำตา ศรระเบิดควัน ศรหัวจรวด และ บูมเมอแรง เป็นต้น



http://www.hdwallpapers.in/walls/black_widow_natasha_romanoff-HD.jpg


Black Widow

ปรากฏตัวครั้งแรก : Tales of Suspenes No. 52 (เมษยน 1964)
ผู้ให้กำเนิด : สแตน ลี และ มี ดอน ริโก้ เป็นผู้ปั้นเรื่อง กับ ดอน เฮด เป็นศิลปินวาดภาพ
ชื่อยามเป็นมนุษย์ธรรมดา : นาตาเลีย "นาตาชา" อเลีย นอฟน่า โรมาโนว่า
ความเป็นมา : สายลับโซเวียตที่ได้รับการฝึกฝนทักษะหลายด้าน ทั้งการจารกรรม ศิลปการต่อสู้ และการซุ่มยิงระยะไกล มีชุดแต่งกายที่ติดตั้งอาวุธยุทโะปกรณ์ไฮเทค รวมทั้งกำไลข้อมือคู่ซึ่งสามารถแผ่พลังงานไฟฟ้าสถิตออกมาได้ ที่เธอเรียกมันว่า "วิโดว์สไบท์" (Widow's Bite) ในช่วงภารกิจแรกๆเธอยังไม่มีชุดแต่งกานเฉพาะ แต่จะใช้เครื่องแต่งกายปกติและผ้าคลุมหน้าเท่านั้น
     นาตาชาเกิดในราวปี 1928 ที่สตาลินกราด (ปัจจุบันคือ วอลโกกราด) ประเทศรัสเซีย ฉายาแจ้งเกิดและโด่งดังคือนาม "แบล็ควิโดว์" Black Widow พ่อแม่ของนาตาชาเสียชีวิตในเหตุอัคคีภัยตอนที่เธอยังเด็ก คนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือ อีวานเปโตรวิทช์ ซึ่งต่อมาเขาก็รับเธอเป็นบุตรบุญธรรม (แล้วมาร์เวลก็นำอีวานเข้ามาเป็นตัวละครหนึ่งในซีรี่ส์ของแบล็ควิโดว์เองในยุคปี 1970 มีบทบาทเป็นคู่หูคนสนิทและโซเฟอร์ประจำตัวเธอ โดยไม่มีการกล่าวถึงปูมหลังเรื่องนี้) เรื่องราวในวัยเด็กของนาตาชายังถูกแสดงเป็นภาพย้อนออีตไปในปี 1941 ซึ่งอีวาน, กัปตันอเมริกา และ เจมส์ โลแกน (วูล์ฟเวปร์ลีน) ช่วยชีวิตเธอจากเงื้อมมือของพวกนาซีบนเกาะแห่งหนึ่ง (ที่เป็นดินแดนในจิตนาการของมาร์เวล) ครั้นเมื่อมีการชำระปรับปรุงเรื่องราวในปฐมวัยของเธอ จึงกลายเป็นว่าชีวิตในวัยเด็กของเธอและเด็กหญิงกำพร้าอีกหลายคนอยู่ในความปกครองของหน่วยงานลับของสหภาพโซเวียตฯ ที่ชื่อ โปรแกรมแบล็ควิโดว์ )Black Widow Program) แทนที่จะถูกเลี้ยงโดยอีวาน ดปรโตรวิทช์ ตามลำพัง เธอได้รับการฝึกฝนทักษะการสู้รบและการจารกรรมจากสถาบันใต้ดิน "เรดรูม" (Red Room) หนึ่งในผู้ช่วยฝึกก็คือ วินเทอร์โซลเยอร์ (หรือบัคกี้อดีตเพื่อน สนิท สตีฟ โรเจอร์ (Captain America) ซึ่งตอนนั้นความจำเสื่อและถูกล้างสมอง) ที่นี่เองที่จัดการนำเทคโนโลยีทั้งชีวภาพและทางจิตวิทยามาใช้กับผู้ฝึกฝนเพื่อผลในการ ยืดอายุขัย, ชะลอวัยเยาว์และต้านความชรา รวมทั้งการปรับเปลี่ยนและจัดการวางความทรงจำเทียมให้แบล็ควิโดว์แต่ล่ะคนเพื่อสร้างความจงรักภัคดีต่อหน่วยงาน ลฯล

ควาสามารถของ Black Widow : Black Widow มีสมรรภาพในระดับนักกีฬาและนักยิมนาสติกระดับโลกเป็นผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนง (คาราเต้ ยูโด ไอคิโด้ กังฟู และมวย) เป็นนักแม่นปืน และเป็นผู้มีทักษะในการใช้อาวุธต่างๆ สูงเยี่ยมพอๆ กับการทำงานจารกรรม แถมยังเป็นนักเต้นบัลเลต์ที่เก่งกาจอีกด้วย Black Widow ใช้หลากหลายยุทโธปกรณ์ที่คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์และช่างเทคนิคของโซเวียต ซึ่งต่อมามีการปรับปรุงพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพโดยนักวิทยาศาสตร์และช่างเทคนิคของ "S.H.I.E.L.D" เธอมีกจะสวมกำไลข้อรูปรูปทรงแปลกโดดเด่นแต่พิษสงหลากหลาย ทั้งยิง "วิโดว์ ไบท์" (Widow's Bite) กระแสไฟฟ้าสถิตพลังแรงสูง 30,000 โวลท์ ใส่เป้าหมายในระยะถึง 20 ฟุตได้ ใช้ วิโดว์ ไลน์ (Widow's Line) ปลายตะขอเหล็ก และเครื่องยิงกระสุนลูกปรายแก๊สน้ำตาอีกด้วย พร้อมอีกหลายฟังชั่นที่ทำงานโดยมีเซ็นเซอร์รับสัญญาณจากกล้ามเนื้อข้อมือของเธอ โดยยังมีลูกเล่นใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เข็มขัดที่เธอสวมมีแผ่นดิสก์ติดอยู่หลายแผ่น บางแผ่นสามารถใช้เป็นระเบิดพลาสติกที่มีอานุภาพเทียบเท่า T.N.T ขนาด 4 ปอนด์ ชุดฮีโร่แบบเนื้อที่เธอสวมใส่ผลิดจากใยสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นได้ดี โดยเฉพาะที่นิ้วมือและเท้าจัดทำให้มีปุ่มขนาดอนุภาคจิ๋วๆที่ดูดติดวัสดุได้ดี ช่วยให้เธอยิดเกาะได้แน่นเวลาปีนไต่ผนังและเพดาน Black Widow ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะของร่างกายด้วยเทคโนโลยีชีวิภาพให้ต้านความเสื่อชราและความเจ็บป่วยต่างๆ อีกทั้งสามารถบำบัดฟื้นตัวในอัตราที่ดีกว่าคนปกติอีกด้วย




http://www.upthai.net/pictures/75c30fbc839fca079c4e90ec507f5702.jpg

Nick Fury

ปรากฏตัวครั้งแรก : SERGEANT FURY AND HIS HOWLING COMMANDOS #1 (พฤษภาคม 1963)
ผู้ให้กำเนิด : สแตนลี และ แจ็คเบอร์บี้
ชื่อยามเป็นมนุษย์ธรรมดา : นิโคลัส โจเซฟ ฟิวรี่
ความเป็นมา : ผู้พัน นิโคลัส โจเซฟ "นิค" ฟิวรี่ เป็นวีรบุรุษของกองทัพสหรัฐฯ ในนิยายที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันมาโลดแล่นเป็น "ซูปเปอร์-สปาย" ในอาณาจักรของเมลร์เวล คอมิกส์ คุ้นตากันในภาพชายคาบซิการ์ใบหน้าดุ ที่เป็นผู้นำของน่วยงานความมั่นคงฯ ระดับหัวกะทิของชาติ แรกเริ่มเดิมที บุคลิกของ นิค ฟิวรี่ จะเป็นชายผิวขาว มีผมหงอกแซมที่ขมับ สวมสายคาดศีรษะและแผ่นปิดตาสีดำที่ตาซ้าย มียศเป็นผู้พัน มิได้เป็นชายผิวดำโกนศีรษะอย่างที่เห็นในหนัง Iron Man แต่ก็เป็นเพราะเหตุใดไม่แน่ชัด ทางมาร์เวลได้เปลี่ยนคาแร็คเตอร์ของ นิค ฟิวรี่ มาเป็นลุคแบบ แซมวล แอล แจ็คสัน (โดยเจ้าตัวก็รับรู้และยินยอมด้วย) มาตั้งแต่หนังสือ The Ultimates #1 ครั้นเมื่อนำมาสร้างเป็นหนัง ยังได้มีการเลื่อนยศเป็นนายพลอีกด้วย นิคฟิวรี่ เป็นพี่คนโตในจำนวนบุตรสามคนของ แจ็ค ฟิวรี่ นักบินแห่งกองทัพ สหราชอาณาจักร ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 บุตรชายคนรองคือ จาค๊อบ "เจค" ฟิวรี่ (ต่อมากลายเป็นยอดวายร้าย "สกอร์ปิโอ้") และลูกสาวคนสุดท้องชื่อ ดอว์น หลังจากพ่อเสียชีวิตแล้ว นิคใช้ชีวิตวัยเด็กในนิวยอร์คซิตี้ นครนิวยอร์ค โตขึ้นมาหน่อยเขาก็เป็นนักมวยสมัครเล่นและฝึกยิงปืน ก่อนจะอำลาภูมิลำเนาออกเดินทางผจญไล่ตามความฝัน นิคเข้ารับการฝึกในหน่วยคอมมานโดของอังกฤษในปี 1940 ควาามบ้าบิ่นกล้าท้าความตายของเขาเกิดไปเขาตาผู้หมวด แซมมวล "แฮปปี้แซม" ซอว์เยอร์ เขาจึงดึงตัวนิคให้เข้ามรับใช้หน่วยคอมมานโดอังกฤษโดยส่งนิคไปปฏิบัติการพิเศษที่เนเธอร์แลนด์ ต่อมานิคก็กลับมาเข้าร่วมกับกองทัพของสหรัฐฯ หลังผ่านการฝึกอบรมอีกระยะหนึ่งเขาก็ไปประจำการที่ค่ายในฮาวาย ในช่วงนั้นกองทัพเรือในสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นบุกเข้าโจมตีฐานทัพที่ เพิร์ล ฮาเบอร์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941 นิคร่วมสู้ในตอนนั้นด้วย และเมื่อเกิดการสุญเสียครั้งใหญ่จากเหตุการณ์นี้ เขาสาบานว่าจะแก้แค้นทั้งพวกญี่ปุ่นและพวกนาซีให้จงได้ ฯลฯ

ความสามรถของ Nick Fury : นิค ฟิวรี่ ผ่านการเป็นทหารพลร่ม แรงเยอร์ เชี่ยวชาญเป็นพิเศษเกี่ยวกับยานพาหนะต่างๆ และการก่อวินาศกรรม เขายังสามารถขับเคลื่อนบัญชาการเรือเดินสมุทรทุกขนาดไม่จำกัดน้ำนักได้ มีใบอนุญาติอย่างเป็นทางการ นิคผ่านหลักสูตรการรบพิเศษทั้ง กรีนเบเร่ต์ และ แบล็คเบเร่ต์ อย่างเต็มรูปแบบ เคยเป็นสายลับของ OSS และเจ้าหน้าที่ประสานงานกับ M5 (หน่วยข่าวกรองอังกฤษ) ส่วนที่มาเสริมเขี้ยวเล็บของเราก็คือความถนัดชัดเจนในเชิงมวยและอาวุธ ด้วยดีกรีอดีตแชมป์มวยรุ่นเฮฟวี่เวทของกองทัพ เทควันโดระดับสายดำ และยิวยิตสูสายน้ำตาล อีกทั้งมักจะคอยซ้อมลองเชิงลับฝีมือกับ Captain America อยู่บ่อยๆด้วย ความชราภาพของนิคเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก อันเป็นผลมาจากตัวเซรุ่มอินฟินิตี้ ฟอร์มูล่าที่ฉีดให้เขาโดยศาสตราจารย์เบอร์โธลด์ สเตร์นเบิร์ก ซึ่งเซรุ่มนี้จะให้สรรพคุณไกล้เคัยงกับเซรุ่มซูปเปอร์โซลเยอร์ที่ Captain America ได้รับ นิคถูกฉีดครั้งแรกในช่วงยุคปี 1940 เขายังต้องรับเซรุ่มนี้เป็นประจำอยู่หลายปี แต่มาในระยะหลังเขาเลิกรับการฉีดเซรุ่มนี้ไปแล้ว แม้มันจะช่วยยืดอายุชะลอความชราได้ก็ตามเนื่องจากผลกระทบข้างเคียงที่รุนแรงของมันนั่นเอง กระนั้น ความที่นิคเป็นคนแข็งแรงออกกำลังอย่างนักกีฬาอยู่เสอม ก็ช่วยให้เข้าใช้ชีวิตได้เป็นปกติตามวัยที่เป็นไปตามเวลาจริง ดวงตาข้างซ้ายของนิคที่ได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่ยุตินั้น เขาสุญเสียการมองเห็นไปถึง 95% ถึงแม้จะมีความคิดเห็นจากบางฝ่ายว่าอาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่เขาก็ยังคงทำได้เพียงสวมแผ่นปิดบังดวงตาไว้เท่านั้น ส่วนชุดแต่งกายที่นิคสวมใส่ผลิตจากวัสดุที่เรียกว่าเคฟล่าห์ (Kavlar) หนา 9 ชั้น สามารถทนกับแรงระเบิดและกันกระสุนปืนถึงขนาด .45 ได้ และเสื้อคลุมเป็นเบต้าโคลท (Beta Cloth) สามารถทนไฟและความร้อนสูงได้ถึงอุณหภูมิ 930 องศาเซลเซียส



https://mariannavillafuerte.files.wordpress.com/2012/04/loki-the-avengers-10903-2560x1600.jpg

Loki

ปรากฏตัวครั้งแรก : Venus #6 (สิงหาคม 1967)
ผู้ให้กำเนิด : สแตนลี , แลรลี่ ลีเบอร์, แจ็คเคอร์บี้
ชื่อยามเป็นมนุษย์ : ไม่มี เพราะเป็นหนึ่งในเพทเจ้า
ความเป็นมา : Loki ปรากฏตัวครั้งแรกบนหนังสือการ์ตูนของมาร์เวล ในฐานะหนึ่งในสมาชิกกลุ่มของ "Olympian gods" ที่ถูกเนรเทศไปยังนรก ก่อนที่จะได้รับการปรับปรุงคาแร็คเตอร์ โดยมีพี่น้อง สแตน ลี กับ แลร์ลี่ ลีเบอร์ เป็นคนเขียนเรื่อง และส่งให้ แจ็คเคอร์บี้ เป็นคนวาดออกแบบจนได้ Loki ผู้เป็นน้องชายบุญธรรมขี้อิจฉาของเทพเจ้าสายฟ้า "Thor"
         หลังจากที่ โอดิน กษัตริย์แห่งแอสการ์ด สัีงหาร ลาฟฟี่ ราชาแห่งยังษ์น้ำแข็ง จากนั้น โอดินก็พบกับโลกิ เด็กน้อยชาวยักษย์น้ำแข็งที่มีรูปร่างเหมือนชาวแอสการ์ด ที่ลาฟฟี่ซ่อนไว้ในป้อมปราการ เนื่องจากเขาอับอายที่มีลูกชายลักษณะคล้ายศัตรู โอดินจึงเก็บ Loki ไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ให้เป็นน้องชายของบุตรแท้ๆ ของโอดินอย่าง Thor ในวัยเด็ก Loki เป็นเด็กที่ซุกซนและมีนิสัยอิจฉาพี่ชายของเขาที่มักจะได้รับความรักจากพ่อมากกว่า และเขาได้เริ่มเรียนวิชาเวทย์มนต์ ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้ที่เก่งกาจด้านวิชานี้มากที่สุดในอาณาจักรแอสการ์ดในเวลาต่อมา ในช่วงวัยรุ่น เขาก็ยิ่งรัษยา Thor ยิ่งขึ้น เมื่อเขาล่วงรู้ว่าโอดินเตรียมให้ของขวัญแก่ Thor เป็นค้อน "มโยลเนียร์" หนุ่งในอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในเก้าโลก เมื่อเติบโต เขาได้ใช้พรสวรรค์แห่งการล่อลวง ใช้มันหลอกผู้คนให้ทำตามสิ่งที่เขาต้องการ จนได้รับฉายาว่า "เจ้าแห่งการโกหกและบ่อนทำลาย" ในที่สุดเขาก็ถลำตัวเข้าสู่ด้านมืดแบบเต็มตัว เขาต้องการฆ่าพี่ชาย และ ต้องการครอบครองดินแดนแอสการ์ด โดยพยายามยึดบัลลังก์หลายครั้งและถูกเนรเทศอยู่บ่อยครั้ง ทว่า Loki ไม่เคยละความพยายาม ด้วยความน้่อยเนื้อต่ำใจในชาติกำเนิดของตน

ความสามารถของ Loki : แม้จะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ ทว่าการเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเผ่าพันธุ์ยักษ์น้ำแข็ง ก็ทำให้เขามีสภาพร่างกายที่ทนทานต่ออาการบาดเจ็บได้ มากกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นๆ เขามีอายุยืนยาวและมีภูมิคุ้มกันโรคทุกชนิด แต่พลังที่โดดเด่นของเขาจริงๆ คือ ทักษะการหลอกใช้คนอื่นและการใช้เวทย์มนต์ที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งกาจที่สุดในแอสการ์ด อาทิ สร้างภาพลวงตา , แปลงร่างเป็นสัวต์หรือปลอมตัวเป็ยบุคคลอื่น นอกจากนี้ เขายังเชี่ยวชาญการใช้ดาบ แส้ หรือดอกสามง่ามและใช้ก้อนหินนอร์นเพิ่มพลังเวทย์ของเขา อีกทั้งยังมีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด ทว่าเรามักจะเห็นความหยิ่งทะนง , ความเกลียดชัง , และความกระหายอำนาจของเขาเสัยมากกว่า



http://www.upthai.net/pictures/98220f4d05a836193ff7e8a2b94039a5.png

Spider-Man

ปรากฏตัวครั้งแรก : Amazing Fantasy #15 (สิงหาคม 1962)
ผู้ให้กำเนิด : สแตน ลี และ สตีฟ ดิทโก้
ชื่อยามเป็นมนุษย์เดินดิน : ปีเตอร์ แบนจามิน พาร์กเกอร์
ความเป็นมา : Spider-Man หรือ ปีเตอร์ พารค์เกอร์ ในยามปกติเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการเลี้ยงดูจากลุงเบนและป้าเมย์ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขาดันถูกพิษของแมงมุมอาบกัมมันตภาพรังสี ส่งผลให้่มีความสามารถเหนือมนุษย์เขาจึงได้ประดิษฐ์เครื่องยิงใยเพื่อใช้ในการโหนและยึดเกาะรวมไปถึงใช้จัดการกับเหล่าว้ายด้วย นอกเหนือจากการเป็นซูปเปอร์ฮีโร่ในชุดคอสตูมแล้ว เขาก็เหมือนกับวุยรุ่นทั่วไปที่ต้องผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวตอเพื่อก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ให้ได้
    ปีเตอร์ เบนจามิน พาร์คเกอร์ หรือ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เป็นลูกชายของ ริชาร์ด และ แมรี่ พาร์คเกอร์ สองสามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ทั้งสองถูกฆ่าในระหว่างปฏิบัติงานอันเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาขญกรโฉด Red Skull ปีเตอร์จึงหลายเป็นเด็กกำพร้าโชคดีที่ได้ลุงเบนและป้าเมย์ อุปการะเลี้ยงดูด้วยความรัก เมื่อเติบใหญ่เขากลายเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยป๊อปปูล่านัก ปีเตอร์ออกจะเนิร์ดๆชอบงานอดิเดกเช่นถ่ายรูปและทดลองเคมีอยู่กับบ้านอันเป็นกิจกรรมที่ลุงกับป้าให้การสนับสนุนอย่างดี ด้วยเหตุนี้เขาจึงค่อนข้างโดดเดี่ยวและขี้อาย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็สนใจการเรียน โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ที่เข้าขั้นอัจฉริยะ แม้จะถูกล้อเลียนและกลั่นแกล้งโดยพวกนักเรียนที่ป๊อปปูล่าร์กว่า ณ โรงเรียนมิดทาวน์ไฮสกูล เหตุณ์ที่เปลี่ยนชีวติของปีเตอร์พาร์คเกอร์ไปตลอดกาล คืนวันที่เขาได้ไปนิทรรศการวิทยาศาสตร์ เขาถูกแมงมุมอาบกัมมันตภาพรังสีกัดเอาทำให้เขามีความสามารถพิเศษหลากหลายเหมือนกับแมงมุม รวมถึง ไต่กำแพง , ความแข็งแกร่ง, ความไว, ความคล่องตัว , ประสาทสัมผัสในระดับเหนือมนุษย์ และการหยั่งรู้ถึงภัยที่จเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆได้

ความสามารถของ Spider-Man : สารพิษในตัวแมงมุมเมื่อเจอกับกัมมันตภาพรังสี ทำให้พิษเพิ่มขึ้นอีกมากและให้ให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายของปีเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ส่งผลให้ Spider-Man สามารถฟื้นฟูจากการบาดเจ็บได้รวมเร็วกว่ามนุษย์ปกติ แม้จะยังสู้ของ Wolverine และ The Hulk ไม่ได้ก็ตามที ระบบการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นยังทำให้เขาทนต่อฤธทิ์ของยาหรือสารใดๆที่เข้าสู่ร่างกาย ในขณะเดียวกันก็สามารถฤทธิ์ยาออกได้อย่างรวดเร็วแม้แต่สารพิษที่ทำให้กลายเป็น Vamprie เขาก็สามารถถอนพิษอกกมาได้ แต่สิ่งหนึ่งที Spider-Man ไม่อาจต้านทานได้ คือเครื่องดื่มประเภท แอลกอฮอล์ ซึ่งเขาจะมีความทนทานในระดับเดียวกับมนุษย์เท่านั้น อีกทั้ง Spider-Man ยังไม่อาจต้านทานความเจ็บป่วยจากเชื้อโรค เขามักเป็นไข้หวัดใหญ่บ่อยๆ นอกจากนี้เขายังไวต่อ เอธิลตลอไรด์ ที่เป้นส่วนผสมของยาฆ่าแมลงด้วยเขาสามารถไต่กำแพงได้อย่างสบายๆ ด้วยมือ เท้า หรือจะเป็นแผ่นหลัง เพราะตามปลายนิ้วมือนิ่วเท้าและลำตัวจะมีเส้นขนเล็กๆ ที่เหนียวพอไว้ยึดเกาะ เขายังสามารถไต่พื้นผิวได้ในขณะใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาเกินไป นอกจากนี้เขายังแข็งแรงในระดับเหนือมนุษย์ โดยมาจากความสามารถของแมงมุมทั่วไปที่แบกของหนักกว่าตัได้ถึง 150 เท่า Spider-Man สามารถยกของที่มีน้ำหนักถึง 20-25 ตันได้เลยทีเดียว เขายังวิ่งได้ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์มากๆ เพียงแต่เขาชอบที่จะห้อยโดนด้วยใยแมงมุมมากกว่า ร่างกายของเขามีความคล่องตัวและการตอบสนองสูงมากๆ และเมื่อความไวนี้รวมเข้ากับเซนส์แบบแมงมุมที่หยั่งรู้ถึงภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เขาหลบหลีการต่อสู้ได้ทุกรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่การถูกปืนจ่อหัว เขายังทรงตัวได้ดีไม่ว่าจะอยู่บนพื้นผิวใด เดินบนเส้นลวดด้วยนิ้วเดียว หรือยืนบนกำแพงในท่าขนาดกับพื้นดิน เนื้อเยื้อและเส้นเอ็นของเขานั้นมีความยืดหยุ่นเป็นสองเท่าชองมนุษย์ ส่งผลให่้เขาพริ้วร่างกายได้ทุกท่า (ท่าเยอะ) และความสามารถพิเศษที่ไม่มีซูปเปอร์ฮีโร่คนไหนมี ก็คือเซนส์แบบแมงมุม ที่แม้จะดูเหมือนการหนั่งรู้อนาคต แต่ที่จริงแล้วมันเป็นการตื่นตัวและวิเคราะห์ถึงภัยที่จะเกิดขึ้นด้วยความเร็วสูง ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับเรดาร์ของแดร์เดวิล ที่ช่วยให้คนตาบอดอย่างเขาไปถึงจุดหมายได้โดยไม่ปะทะสิ่งกีดขวางและอันตรายต่างๆ และเซนส์แบบแมงมุมอีกอย่างคือความสามารถในการดักจับคลื่นความถี่วิทยุ ด้วยเหตุนี้เขาจึงสร้างเครื่องมือที่เรียกว่า Spider-Tracers เพื่อถ่ายทอดสัญญาณที่ดักจับได้



http://www.upthai.net/pictures/87b1e7847dc168ac7e70141512b736f4.png

Wolverine

ปรากฏตัวครั้งแรก : The Incredible Hulk #180 (ตุลมคม 1974)
ผู้ให้กำเนิด : เลน เวน, จอห์น โรมิต้า ซีเนียร์, เฮิร์บ ทริมป์
ชื่อยามเป็นมนุษย์เดินดิน : เจมส์ ฮาวเลตต์ หรืออีกชื่อ เจมส์ โลแกน เรียกสั้นว่า โลแกน
ความเป็นมา : ไว้ก่อน

ความสามารถของ Wolverine : Wolverine เป็นมนุษย์กลายพันธุ์สมาชิกทีม X-Men ที่มีลักษณะเหมือนสัตว์ป่า โดเด่นที่กรงเล็บที่แข็งแรงและแหลมคม และมีพลังการรักษาบาดแผลได้ด้วยตัวเอง ราวกับเป็นอมตะ โดยตัวละครนี้มีที่มาจากในช่วงเวลาปี 1974 หนังสือการ์ตูนมาร์เวลกำลังบูมในแคนนาดา รอย โธมัส บรรณาธิการบริหารของมาร์เวล คอมิกส์ในขณะนั้น จึงรีบเร่งให้นักเรียน เลน เวน และ จอห์น โรมิต้า สร้างตัวละครที่มีสัญชาติแคนาดา และมีแรงบันดาลใจจากตัว Wolverine จนกลายออกมาเป็นชายร่างเตี้ยในชุดเหลือง ติดกรงเล็บ ใส่หน้ากากคล้ายแมวก่อนจะมีการพัฒนากลายเป็นมนุษย์มิวแทนต์ มีกรงเล็บงอกมาจากมือ และเข้าร่วมทีม X-Men ตัวละคร Wolverine เป็นตัวละครที่มีลักษณะต่อต้านผู้มีอำนาจ เป็นฮีโร่ประเภทแอนตี้ฮีโร่ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากแฟนการ์ตูน จนเป็นตัวละครตัวเดียวใน X-Men ที่แยกออกไปมีหนังสือรายเดือนของตัวเอง
    ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า เมื่อแรกเริ่ม Wolverine เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีการระบุปูมหลังไว้อย่างชัดเจน ประกอบกับเป็นตัวละครที่ผ่านมือนกเขียนมาหลายคน โดยที่นักเขียนเหล่านั้น ต่างแต่งเสริมเติมเรื่องราวของ Wolverine ในแบบฉบับของตัวเอง จึงทำให้หลายอย่างค่อนข้างสับสนและขัดแย้งกันอยู่เนื่องๆ และในปี 2011 ตัวละคร Wolverine เพิ่งได้รับการเปิดเผยต้นกำเนิดที่แท้จริง โดยเล่าเรื่องราวของ เจมส์ ฮาวเลตต์ เกืดที่ ฮัลเบอร์ต้า แคนาดา ในช่วงกลางยุค 1880 เจมส์เป็น ทายาทขี้โรคในตระกูลฮาวเลตต์ที่ร่ำรวยจากการทำฟาร์ม เขามีเพื่อนสองคนคือ โรส เด็กสาวที่เขามาทำงานในคฤหาสน์ของฮาวเลตต์ และ ด๊อก โลแกน ลูกชายของคนสวน ต่อมาเจมส์พลาดพลั้งเผลอไปฆ่าพ่อของ ด็อก โลแกนอย่างไม่เจนตนา ด้วยกรงเล็บกระดูกที่โผล่งอกออกมาจากมือจากนั้นเจมส์จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่บริติช โคลัมเบีย ทำงานในเหมืองแร่ และเปลี่ยนชื่อเป็น โลแกน หลังจากนั้น โลแกนก็ระหดระเหินเดินไปอยู่ในหลายๆ ที่ อาทิ อาศัยในป่าอยู่ตามลำพังท่ามกลางฝูงหมาป่า , มีหญิงคนรักเป็นชาวอินเดียแดง ซิลเวอร์ ฟอกซ์ (ซึ่งสุดท้าย เธอก็โดน เซเบอร์ทูธ ศัตรูคู่ปรับโลแกน ฆ่าตายในวันเกิดของเขา), ไปฝึกวิทยายุทธ์ในญี่ปุ่นกับอาจารย์ โอกุน และได้พบรักกับสาวญี่ปุ่น อิตสุ จนมีลูกชาย ดาเกน (ที่มีพลังรักษาตัวเองเหมือนกับพ่อ และสร้างความปวดหัวให้กับโลแกนในอนาคต)
     นอกจากจะเป็นนักเดินทางและนักพจญภัย ตะลอนไปในที่ต่างๆ ทั่วโลกในมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เขายังเคยร่วมทีมกับ Captain America ต่อกรกับองค์กร Hydra อันชั่วร้ายอีกทั้งเขายังสวมบทบาทเป็นรั่วของชาติ ร่วมรบในสมรภูมิต่างๆมากมาย เช่น เข้าทีมกับกองทัพทหารพลร่มของแคนาดา บุกหาดนอร์มังดี ในวันดีเดย์ , เป็นสายลับให้ CIA , ก่อนจะถูกคัดเลือกเข้าร้วม Team X แล้วถูกลักพาตัวไปทดลองโครงการ Weapon X ของรัฐบาลแคนาดา โดยโครงการ Weapon X นั้นมีศาสตราจารย์ลึกลับ (ลือกันว่าเป็น "Apocalypse" วายร้ายในมิวแทนต์ใน X-Mex) และ ดร. คอร์นีเลียส เป็นผู้ดำเนินการ โดนนำโลหะ อะดามันเทียม มาอัดใส่ในร่างกายของโลแกนถูกชลออายุทำให้แก่ช้าลง นอกจากนี้เขายังถูกบลความทรงจำ และถูกใส่ความทรงจำปมอๆเข้าไปหลายชุด ที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของ โลแกนไปตลอดกาล
     ˆ หลังจากหลบหนีจากฐานทดลองได้สำเร็จ โลแกนก็มุ่งตรงสู่ป่า ก่อนจะไปพบกับ เจมส์ ฮัดสัน หรือ "Weapon Alpha" นฮีโร่ของแคนาดา เจมส์ให้ที่หลบที่นอ และซักชวนโลแกนเข้าทีม Alpha Flligh จนหลานมาเป็น Wolverine โดยมีภารกิจแรกคือ ไปต่อสู้กับ The Hulk (****) ที่มาเหยียบถิ้นแคนาดาและกำลังฟัดกับ สัตว์ยักษ์ในตำนาน "Wendigo" (เป็นฉากแรกของการปารกฏตัวของ Wolverine บนหนังสือการ์ตูน
    ต่อมา ชาร์ลส์ ซาเวียร์ หัวหน้าเหล่า X-Men ได้รับ Wolverine มาเป็นหนึ่งในสมาชิกทีม X-Men ซึ่งหลังลายเป็น X-Men Wolverine ก็ได้เจอเรื่องราวต่างๆมากมาย อาทิ ถูก แม็กนิโต ดูดอะดามันเทียมจนหมดตัว ก่อนจะพบว่า กรงเล็บของเขาคือกระดูกที่เคลือบด้วยอะดามันเทียม , เข้าร่วมกับทีม The Avengers รุ่นใหม่ "New Avengers" เผชิญหน้ากับลูกชายดาเกนที่ถูกเลี้ยงมาโดย โรมูลัส (มนุษย์สายพันธุ์หมาป่าที่ Wolverine และ เซเบอร์ทูธ อาจจะสืบเชื้อสายมา) จนมีปมเกลียดพ่อ แต่เมื่อดาเกนถูกทำให้หายจากการครอบงำของโรมูลัส ดาเกนก็กลับมาดีกับพ่อแล้วร่วมกันล้างแค้นโรมูลัส ก่อนที่ดาเกนจะทรยศไปเข้าพวกกับกลุ่มคนเลวอีก
     Wolverine ผ่านเหตุการณ์ เคยถูกพวก Hydra ล้างสมอง แล้วถูกสั่งให้ฆ่าเหล่าฮีโร่ จนตายกันเป็นบไม้ร่วง, เคยพบกับ "X23" เด็กสาววัยรุ่นที่เป็นร่างโคลนของ Wolverine จากตัวอย่างเลือดและเนื้อเยื่อในโครงการ Weapon X จนมีกรงเ็ลบและพลังรักษาตัวเหมือนเขา , กระโดดข้ามเวลาไปดูโลแกนตัวแก่ กลายเป็นชาวไร่ หลังจากพวกวายร้ายกำชัยชนะเหนือซูปเปอร์ฮีโร่ , และหนึ่งในเหตุการณ์ที่ลือลั่นที่สุดของเขาคือ เขามีความรักกับสาวี่ปุ่น (ชอบสาวยุ่นนี่หว่า 2 คนและ) อีกคนชื่อ มาริโกะ โยชิดะ เรื่องราวสุดจะรันทด เมื่อมาริโกะถูกพ่อที่เป็นหัวหน้ายากูซ่าจับแต่งงานกับคนอื่น ด้วยเหตุผลทางธุจกิจ จน Wolverine ต้องไปแย่งชิงมาทว่ากลับดูด่าว่าเป็นเหมือนสัตว์ ไม่มีศักดิ์ศรี ( พอจะเดาเรื่องราวของ Wolverine ที่จะถูกมาสร้างเป็นหนังใน The Wolverine 2013 และ)

ความสามรถของ Wolverine : นอกจากเขาจะมีกรงเล็บเคลือบอะดามันเทียมที่สามารถตัดและเฉือนได้เกือบทุกอย่างบนโลก อาการกลายพันธุ์ของเขา ทำให้มีพลังรักษาตัวเองได้ โดยระยะเวลาการเยียมยาอาการบาดเจ็บนั้นมีหลายระดับ (แล้วแต่คนเขียนจะกำหนด) ตั้งแต่หายเป็นปกติในไม่กี่วินาที แม้จะโดนดูดอะดามันเทียมหรือโดนระเบิดนัวเคลียร์ จนตัวเละไปหมด เขาก็ยังฟื้นฟูตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง เขามีพละกำลังมหาศาล , มีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม , มีภูมิคุ้มกันทุกโรคแก่ตัวช้า , เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หลายแบบ , พูดได้หลายภาษา (หนึ่งในนั้นมีภาษาไทยด้วย แต่ได้นิดหน่อย) แฝงตัวเป็นเลิศ รวมทั้งยังเป้นที่ปรึกษาที่ดีให้กับผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า (Jubilee , Rogue , Kitty Pryde และ X23)


Credit : หนังสือการ์ตูนในห้อง
เดียวมาเติมต่อว่างๆ อาจจะมีแถมตัวอื่นๆของ Marvel และ ตัวร้ายเพิ่มเติมถ้ามีคอยากรู้นะ

Hann.H.killer
19th May 2012, 13:31
อยากรู้ความเป็นมาของ Black Widow :pardon

wAkie
19th May 2012, 14:32
อยากรู้ความเป็นมาของ Black Widow :pardon

เดียวอีกซักพักครบทุกตัวและครับ กำลังพิมพอยู่ ^^"

BentSSRU
19th May 2012, 15:23
สู้ๆครับ รออ่านอยู่ครับถ้าได้ครบทุกตัวในMARVELจะดีมากเลย

watcharaphon00789
19th May 2012, 17:03
ผมไม่เคยอ่านหนังสือการ์ตูนสักเล่ม เคยดูแต่หนัง ละเอียดดีครับ ไหนๆก็มาโพล the avengers 2 ไงรบกวน ant-man ด้วยนะครับ อยากรู้เป็นไงมาไง

redfoottttt
19th May 2012, 18:09
โอ้ววว ความรู้ๆ รีบเก็บ

FarrellPete
20th May 2012, 04:16
เพิ่มเยอะๆ เลยนะครับสาระทั้งนั้น

~RIP~
20th May 2012, 05:51
ในเรื่องมี One Above All ด้วยนะ มาแว่บๆเอง - -"

androiduser
20th May 2012, 07:54
ละเอียดมากๆครับ ขอบคุณครับ

Stormwind
20th May 2012, 14:26
สุดยอดครับ

mark10011
20th May 2012, 16:06
ในเรื่องมี One Above All ด้วยนะ มาแว่บๆเอง - -"

One Above All โหดเกินไปครับ -0- เค้ามีพลังระดับนักเขียนเลยนะ นึกจะทำอะไรก็ได้ -*- อยากจะสร้างจักรวาลหรือลบก็ได้ตามใจเค้าแค่เพียงเค้าคิดเท่านั้น - -*

เค้าสามารถหยุดเวลาหรืออะไรก็ได้ตามแต่จินตนาการ แค่เค้าคิดว่าให้ดาวดวงหนึ่งหายไป มันก็จะหายไปในพริบตา - -* โหดมั้ยล่ะ ?

One Above All


จักรวาลมาร์เวล และทุกความเป็นจริง One Above All คือที่สุดของที่สุด

OAA คือพระเจ้าในจักรวาลมาเวล

OAA ถูกจำสับสนกับ OAA อีกคนที่เป็นหัวหน้าของเหล่า Celestail เผ่าพันธ์คอสมิคบีอิ้งบ่อยคร้ง

ถูกกล่าวถึงครั้งแรกจากปากของ Living Tribunal พูดกับ Dr Strange

ปรากฏตัวในรูปหลายๆแบบ เคยปรากฏตัวในรูปของ Stan Lee ด้วย(หรือว่าน้นคือรูปร่างที่แท้จริง???)


ระดับพลัง : ระดับคนแต่งเรื่อง (จะมีอะไรเทพกว่านี้มั้ย นอกจาก บรรณาธิการ)

เครดิต : pantip

cableneo
20th May 2012, 16:47
One Above All โหดเกินไปครับ -0- เค้ามีพลังระดับนักเขียนเลยนะ นึกจะทำอะไรก็ได้ -*- อยากจะสร้างจักรวาลหรือลบก็ได้ตามใจเค้าแค่เพียงเค้าคิดเท่านั้น - -*

เค้าสามารถหยุดเวลาหรืออะไรก็ได้ตามแต่จินตนาการ แค่เค้าคิดว่าให้ดาวดวงหนึ่งหายไป มันก็จะหายไปในพริบตา - -* โหดมั้ยล่ะ ?

One Above All


จักรวาลมาร์เวล และทุกความเป็นจริง One Above All คือที่สุดของที่สุด

OAA คือพระเจ้าในจักรวาลมาเวล

OAA ถูกจำสับสนกับ OAA อีกคนที่เป็นหัวหน้าของเหล่า Celestail เผ่าพันธ์คอสมิคบีอิ้งบ่อยคร้ง

ถูกกล่าวถึงครั้งแรกจากปากของ Living Tribunal พูดกับ Dr Strange

ปรากฏตัวในรูปหลายๆแบบ เคยปรากฏตัวในรูปของ Stan Lee ด้วย(หรือว่าน้นคือรูปร่างที่แท้จริง???)


ระดับพลัง : ระดับคนแต่งเรื่อง (จะมีอะไรเทพกว่านี้มั้ย นอกจาก บรรณาธิการ)

เครดิต : pantip

OAA คือ คนสร้าง marvel นั้นแหละ เห็นโผล่มาบ่อยในคาบของแก ทั้งตอนท้ายในแง่คิด ถ้าเอาแค่เหยียบโลกมนุษย์เทพจริงๆ ก็ sentry ถล่มแอสการ์ด

tatooman007
20th May 2012, 17:31
ขอบคุณครับ ถ้าว่างอีกก็รบกวน เอา Avengers ชุด อื่นๆมาลงด้วย :p

~RIP~
20th May 2012, 20:30
One Above All โหดเกินไปครับ -0- เค้ามีพลังระดับนักเขียนเลยนะ นึกจะทำอะไรก็ได้ -*- อยากจะสร้างจักรวาลหรือลบก็ได้ตามใจเค้าแค่เพียงเค้าคิดเท่านั้น - -*

เค้าสามารถหยุดเวลาหรืออะไรก็ได้ตามแต่จินตนาการ แค่เค้าคิดว่าให้ดาวดวงหนึ่งหายไป มันก็จะหายไปในพริบตา - -* โหดมั้ยล่ะ ?

One Above All


จักรวาลมาร์เวล และทุกความเป็นจริง One Above All คือที่สุดของที่สุด

OAA คือพระเจ้าในจักรวาลมาเวล

OAA ถูกจำสับสนกับ OAA อีกคนที่เป็นหัวหน้าของเหล่า Celestail เผ่าพันธ์คอสมิคบีอิ้งบ่อยคร้ง

ถูกกล่าวถึงครั้งแรกจากปากของ Living Tribunal พูดกับ Dr Strange

ปรากฏตัวในรูปหลายๆแบบ เคยปรากฏตัวในรูปของ Stan Lee ด้วย(หรือว่าน้นคือรูปร่างที่แท้จริง???)


ระดับพลัง : ระดับคนแต่งเรื่อง (จะมีอะไรเทพกว่านี้มั้ย นอกจาก บรรณาธิการ)

เครดิต : pantip

จริงๆครับ ตอนใกล้จบที่นักข่าวไปสัมภาษณ์คนหลายๆคน เห็นสแตนลีกับแจ็คเบอร์บี้(คนหลังไม่แน่ใจ)นั่งอยู่ด้วยกัน พูดอะไรซักอย่างนี่หล่ะ จำไม่ได้ - -"

bostion
20th May 2012, 21:38
One above all เป็นชื่อเรียกอีกชื่อของ Stan lee

ในอเวนเจอร์ ตอนที่นักข่าวไปสัมภาษณ์แกตอนเล่นหมากรุก

ลุงStan lee ทำซึนบอกว่า "มียอดมนุษย์อยู่ในนิวยอร์กเนี่ยนะ ผมไม่ได้กินหญ้านะ"

อันนี้จำแม่น 5555

wAkie
21st May 2012, 18:03
เดียวว่างๆ จะเอามาลงอีก

ไม่ก็เพิ่มข้อมูลของตัวเก่า พิมไปแค่ 2 ย่อหน้าเอง จาก 2-3 หน้า