PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ♪ Guitar Club™ ♪ ชมรมกีต้าร์ [รวมผลคนเล่นกีต้าร์!!]



gunkun444
19th May 2012, 22:55
http://www.rockonmusic.org/resources/Guitar%20Club%20Logo%20for%20Website.JPG
ชมรมคนเล่นกีต้าร์

เกริ่นนำเล็กน้อย
.
.
.

กีตาร์ (อังกฤษ: Guitar) เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง จัดเป็นพวกเครื่องสาย มักจะเล่นด้วยนิ้วมือซ้าย และดีดด้วยนิ้วมือขวาหรือใช้ปิ๊กดีดกีตาร์ เสียงของกีตาร์นั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนของสาย ทำให้เกิดกำทอน (resonance) แก่ตัวกีตาร์และคอกีตาร์

กีตาร์นั้น มีทั้งแบบกีตาร์อะคูสติก และกีตาร์ไฟฟ้า บางตัวก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง กีตาร์มีส่วนตัวเป็นกล่องกำทอน ซึ่งในกีตาร์อะคูสติกจะเจาะเป็นช่อง ส่วนกีตาร์ไฟฟ้ามักจะตัน และมีโพรงในส่วนคอกีตาร์ โดยทั่วไปแล้วส่วนหัวของกีตาร์จะยืดขึ้นไปจากคอ เพื่อใส่ลูกบิดหมุนสายสำหรับปรับเสียง

กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้แพร่หลาย และใช้กับดนตรีหลากหลายสไตล์ นับเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้บรรเลงเดี่ยวอย่างกว้างขวางที่พบเห็นมากที่สุดคือกีตาร์คลาสสิก และยังเป็นเครื่องดนตรีหลักในวงดนตรีประเภทบลูส์ และดนตรีร็อกอีกด้วย กีตาร์สามารถเล่นในยามว่าง หรือ เป็นงานอดิเรก!! ได้ดี

ปกติกีตาร์จะมี 6 สาย แต่แบบ 4- 7- 8- 10- 12- สายก็มีเช่นกัน ผู้ประดิษฐ์กีตาร์จะเรียกว่า luthier

---------------------------------------------------------------------------------------

เครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายกีตาร์เป็นที่นิยมมากว่า 5,000 ปีเป็นอย่างต่ำ โดยเริ่มเป็นที่นิยมในแถบเอเชียกลาง เรียกว่าซิตาร่า (Sitara) เครื่องดนตรีที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกีตาร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบมีอายุ 3,300 ปี เป็นหินสลักของกวีอาณาจักรโบราณฮิตไตต์

คำว่ากีตาร์มาจากภาษาสเปนคำว่า guitarra ซึ่งมาจากภาษากรีกอีกทีคือคำว่า Kithara kithara จากหลายแหล่งที่มาทำให้คำว่ากีตาร์น่าจะมีรากศัพท์มาจากภาษาตระกูลอินโดยูโรเปียน guit- คล้ายกับภาษาสันสกฤต ที่แปลว่า ดนตรี และ -tar หมายถึง คอร์ด หรือ สาย คำว่า qitara เป็นภาษาอาราบิก ใช้เรียก Lute lute ส่วนคำว่า guitarra เกิดขึ้นเมื่อเครื่องดนตรีชนิดนี้ถูกนำมาที่ Iberia (หรือ Iberian Peninsular เป็นคาบสมุทรทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในทวีปยุโรป) โดย Moors

กีตาร์ในยุคปัจจุบัน มาจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า cithara ของชาวโรมัน ซึ่งนำเข้าไปแพร่หลายในอาณาจักรฮิสปาเนีย หรือสเปนโบราณ ประมาณ ค.ศ. 40 จากนั้นเปลี่ยนแปลงรูปแบบจนกลายมาเป็น เครื่องดนตรีที่มี 4 สายเรียกว่า อู๊ด (oud) นำเข้ามาโดยชาวมัวร์ในยุคที่เข้ามาครอบครองคาบสมุทรไอบีเรียน ในศตวรรษที่ 8 ส่วนในยุโรปมีเครื่องดนตรีที่เรียกว่า ลุต (lute) ของชาวสแกนดิเนเวียมี 6 สาย ในสมัย ค.ศ. 800 เป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวไวกิ้ง

ค.ศ. 1200 กีตาร์ 4 สาย มี 2 ประเภท คือ กีตาร่า มอ ริสกา หรือกีตาร์ของชาวมัวร์ มีลักษณะกลม ตัวคอกว้าง มีหลายรู กับกีตาร่า ลาติน่า ซึ่งรูปร่างคล้ายกีตาร์ในปัจจุบัน คือมีรูเดียวและคอแคบ ในศตวรรษที่ 16 เครื่องดนตรีคล้ายกีตาร์ของชาวสเปน ที่เรียกว่าวิฮูเอล่า เป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะใกล้เคียงกับกีตาร์ในปัจจุบัน มีความผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีอู๊ดของชาวอาหรับและลูตของยุโรป แต่ได้รับความนิยมในช่วงสั้น ๆ พบเห็นจนถึงปี 1576

เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่มีรูปลักษณ์เหมือนกีตาร์ในปัจจุบัน เกิดในช่วงยุคปลายของสมัยกลางหรือยุคต้นสมัยเรอเนสซอง (500 กว่าปีที่แล้ว) เป็นช่วงที่มีการใช้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายกันทั่วโลก ในยุคนั้นกีตาร์มีทั้งแบบ 4 และ 5 สาย สำหรับกีตาร์ที่มี 6 สาย ระบุว่ามีขึ้นในปี 1779 เป็นผลงานของนายแกตาโน วินาซเซีย (Gaetano Vinaccia) ในเมืองเนเปิล อิตาลี แต่ก็ถกเถียงกันว่าอาจเป็นของปลอมสำหรับตระกูลวินาซเซียมีชื่อเสียงในการผลิตแมนโดลินมาก่อน

กีตาร์ไฟฟ้าตัวแรกเริ่มผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 20 โดยจอร์จ โบแชมป์ (George Beauchamp) ได้รับสิทธิบัตรในปี 1936 และร่วมกับ ริกเค่นแบ็กเกอร์ (Rickenbacker) ตั้งบริษัท Electro String Instrument ผลิตกีตาร์ไฟฟ้าในช่วงปลายปีทศวรรษที่ 1930 ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1960 จอห์น เลนนอน สมาชิกวงเดอะบีทเทิลส์ใช้กีตาร์ยี่ห้อนี้ ส่งผลให้เครื่องดนตรียี่ห้อนี้มีชื่อเสียงในกลุ่มนักดนตรีในยุคนั้น และในปัจจุบันบริษัทริกเค่นแบ็กเกอร์ เป็นบริษัทผลิตกีตาร์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

---------------------------------------------------------------------------------------



กีตาร์โปร่ง หรือ อะคูสติกกีตาร์


Renaissance guitars
• มีขนาดเล็กกว่ากีตาร์คลาสสิก และให้เสียงที่เบากว่ามาก

Classical guitars
• กีตาร์คลาสสิก ถือเป็นต้นแบบกีตาร์ในยุคปัจจุบัน มีลูกบิดและแกนพันสายเป็นพลาสติก มีคอหรือฟิงเกอร์บอร์ดขนาดใหญ่ประมาณ 2 นิ้ว ลักษณะแบนราบ สายที่1 และ2 เป็นสายไนล่อน

Portuguese guitar
• มี 12 สาย ใช้กับเพลงพื้นเพลงชื่อ Fado ในประเทศโปรตุเกส

Flat-top (steel-string) guitars
• มีขนาดใหญ่กว่ากีตาร์คลาสสิก และเสริมความแข็งแรงที่คอ เพื่อรองรับแรงตึงของสาย ให้เสียงที่ใสและดังกว่า สายที่ใช้ สาย1และ2 มีลักษณะเป็นเส้นลวดเปลือย สายที่3-6 เป็นเส้นลวดและมีขดลวดเล็กๆพันเป็นเกลียวเพื่อเพิ่มขนาดของสาย

Archtop guitars
• ด้านหน้าจะโค้ง โพรงเสียงไม่เป็นช่องกลม สะพานยึดสายด้านล่างมักเป็นแบบหางปลา นิยมใช้เล่นในดนตรีแจ๊ส

Resonator
• หรือ Resophonic หรือ dobro คล้ายกับกีตาร์ Flat-top

12 string guitars
• นิยมใช้ใน folk music, blues และ rock and roll มีสายโลหะ 12 สาย

Russian guitars
• มี 7 สาย พบในรัสเซีย และ บางประเทศที่แยกจากสหภาพโซเวียตเท่านั้น

Acoustic bass guitars
• เป็นกีตาร์เบสในรูปแบบอคูสติก มีสายและเสียงเหมือนกัน โน้ตที่เล่นจะใช้ "กุญแจฟา" ให้เสียงทุ้มต่ำ นุ่มนวล

Tenor guitars
• มี 4 สาย

Harp guitars
• จะมีสาย harp เพิ่มขึ้นมา จากปกติที่มี 6 สาย สาย harp จะให้เสียงต่ำหรือเสียงในช่วงเบส ปกติจะไม่มีฟิงเกอร์บอร์ดหรือเฟร็ต

Guitar battente
• มีขนาดเล็กกว่ากีตาร์คลาสสิก นิยมใช้เล่นกับเครื่องสายอีก 4-5

Ukulele Guitar
• เป็นกีตาร์ ขนาดเล็ก มี 4 สายในปัจจุบันผู้หญิงนิยมเล่น



กีตาร์ไฟฟ้า


แบ่งตามโครงสร้างของลำตัวกีต้าร์ (Body) อาจแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ

กีต้าร์ตัวตัน (Solid Body)
• หมายถึง กีต้าร์ไฟฟ้าปกติที่ลำตัวมีลักษณะตัน ไม่มีการเจาะช่องในลำตัวกีต้าร์เหมือนอย่างกีตาร์โปร่ง หรือ อะคูสติกกีตาร์ แต่บริเวณลำตัวจะมีตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) ขณะที่ดีด เพื่อส่งต่อไปยังเครื่องขยายเสียง (Amplifier) ต่อไป โดยทั่วไป ตัวรับสัญญาณจะมี 2 ประเภท คือ ตัวรับสัญญาณแบบแถวเดี่ยวที่เรียกว่า Single Coil และแบบแถวคู่ที่เรียกว่า Humbucker

กีต้าร์ลำตัวกึ่งโปร่ง (Semi-Hallow Body)
• เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าที่มีลักษณะโครงสร้างส่วนกลางของลำตัวในแนวเดียวกับคอกีต้าร์ มีลักษณะตัน (แต่มีการเจาะช่องเพื่อใส่ตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) เช่นเดียวกับกีต้าร์ตัวตัน) บริเวณส่วนข้างของกีต้าร์มีการเจาะช่อง (Sound Hole) เอาไว้เพื่อให้เกิดการกำทอนของเสียงมากกว่ากีต้าร์ตัวตัน ซึ่งจะให้เสียงที่เป็นอคูสติกมากขึ้น นิยมใช้ในดนตรีแจ๊สหรือบลูส์ เป็นกีต้าร์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อลดเสียงรบกวนที่เรียกว่าFeed back ซึ่งเกิดจากกีต้าร์ไฟฟ้าลำตัวโปร่ง (กล่าวคือ ยังมีเสียงรบกวนบ้างแต่น้อยลงกว่าเดิม)

กีต้าร์ลำตัวโปร่ง (Hallow Body)
• กีต้าร์ไฟฟ้าที่มีการเจาะช่องเอาไว้เพื่อให้เกิดการกำทอนของเสียง (Sound Hole) เช่นเดียวกับกีต้าร์โปร่งหรืออคูสติก และกีต้าร์ลำตัวกึ่งโปร่ง ปกติช่องดังกล่าวมักจะอยู่ด้านข้างของลำตัวกีต้าร์ เนื่องจากบริเวณกลางลำตัวจะมีการใส่ตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) เช่นเดียวกันกับกีต้าร์ตัวตัน ซึ่งผลของการที่มีช่องกำทอนเสียง ทำให้ลักษณะของเนื้อเสียงที่ได้เป็นอคูสติกมากกว่า กีต้าร์ Semi-Hallow Body แต่หากขยายเสียงให้ดังมากจะก่อให้เกิดเสียงรบกวนที่เรียกว่า Feed back กีต้าร์ประเภทนี้มักจะนิยมใช้กับดนตรีแจ๊สหรือบลูส์เป็นส่วนใหญ่
(ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia)
---------------------------------------------------------------------------------------



Guitar Lesson (เครดิตทั้งหมดจาก http://www.folkpeople.com)

1.สอนกีต้าร์ (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1156113&viewfull=1#post1156113)
2.การตั้งสายกีต้าร์ (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1161997&viewfull=1#post1161997)
3.การจับปิคกีต้าร์ (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1162008&viewfull=1#post1162008)
4.การฝึกนิ้วมือซ้าย (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1163540&viewfull=1#post1163540)
5.การจับคอร์ดกีต้าร์ (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1166063&viewfull=1#post1166063)
6.การจับคอร์ดทาบ (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1166074&viewfull=1#post1166074)
7.Power Chord (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1175115&viewfull=1#post1175115)
8.การเกากีต้าร์ (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1175114&viewfull=1#post1175114)
9.การอ่าน TAB (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1185398&viewfull=1#post1185398)
10.Major Scale (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=95292&p=1162025&viewfull=1#post1162025)
11.Major Pentatonic
12.Minor Scale
13.Minor Pentatonic

gunkun444
19th May 2012, 22:55
สอนเล่นกีต้าร์ แนวทางในการหัดเล่นกีตาร์


1. ต้องมีใจรักอยากที่จะเล่น มีความมุ่งมั่นในการฝึก มีศิลปินและแนวดนตรีที่ชอบ เพื่อเป็นแรงผลักดันและกำลังใจในการฝึก

2. ต้องมีกีตาร์เป็นของตัวเอง ถ้าไม่มีกีต้าร์เป็นของตัวเองการฝึกซ้อมก็ทำได้ยาก ทำให้การฝึก ไม่ค่อยต่อเนื่อง การมีกีต้าร์เป็นของตัวเองจะดีที่สุด แนะนำสำหรับคนที่เริ่มหัดเล่นราคาซัก 2500 – 3000 กว่าๆ ก็พอ คุณภาพก็ดีพอใช้ได้เหมาะสำหรับการเริ่มต้น

3. หัดตั้งสายกีต้าร์ ควรรู้ถึงวิธีการตั้งสาย รู้โน้ตของสายเปล่าแต่ละสาย เพราะถ้ากีต้าร์ที่เล่นเสียงเพี้ยน เล่นยังไงก็คงจะไม่เพราะแน่ สำหรับคนที่หัดใหม่ๆการตั้งสายจากการฟังเทียบเสียงคงทำได้ลำบาก เพราะอาจจะฝังแล้วยังแยกเสียงโน้ตไม่ออก ต้องใช้เวลาซักหน่อยเมื่อเล่นไปนานๆคุณก็จะฝังออกเอง แนะนำให้ซื้อเครื่องตั้งสายมาใช้ก่อนแล้วค่อยฝึกตั้งสายด้วยตัวเองควบคู่ไป และเมื่อไหร่ที่เล่นแล้วรู้สึกว่าเสียงมันเพี้ยนๆ ก็ลองหัดตั้งสายไปเลยถ้ายังไม่ได้ก็ใช้เครื่องตั้งสายช่วยไปก่อน ฝึกฟังไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ได้เอง เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา

4. หัดจับคอร์ดง่ายๆ ซัก 3 – 4 คอร์ด ที่พอจะเล่นเป็นเพลง เพราะถ้าคอร์ดที่ฝึกจับอยู่มันเล่นรวมกันไม่เป็นเพลงเมื่อฝึกไปนานๆ จะรู้สึกเบื่อ แต่ถ้าคอร์ดที่หัดจับอยู่สามารถเล่นเป็นเพลงได้ จะทำให้คุณมีกำลังใจในการฝึกต่อไปครับ เมื่อจับคอร์ดได้ซักสามสี่คอร์ดจนคล่องแล้วก็หัดจับคอร์ดอื่น หรือหาเพลงที่คุณชอบที่มีคอร์ดที่คุณยังไม่เคยหัดจับมาเล่น แต่ไม่ควรเป็นคอร์ดที่ยากเกินไป หัดจับคอร์ดครั้งแรกแนะนำ เพลง Zombie มีคอร์ด Em - C - G - D หัดจับคอร์ดเปลี่ยนคอร์ด วนไปเรื่อยๆจนคล่อง และจึงหัดคอร์ดอื่นๆต่อไป หัดเล่นแรกๆยังไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะ หัดจับคอร์ดเปลี่ยนคอร์ดให้คล่องก่อน ดีด ลงๆๆๆๆๆๆ ไปก่อน เรื่องจังหวะการดีดค่อยมาฝึกทีหลัง เพราะถ้ากังวลเรื่องจังหวะจะทำให้การจับคอร์ดเปลี่ยนคอร์ดยากขึึ้นไปอีก การเริ่มต้นต้องค่อยเป็นค่อยๆไปพื้นฐานถือว่าำสำคัญสุดในการต่อยอดต่อไป

5 . หัดเรื่องจังหวะการตีคอร์ด จังหวะการตีคอร์ดของแต่ละเพลงจะไม่เหมือนกัน แต่ลักษณะของการตีคอร์ดโดยมากนั้นจะเป็นการดีดขึ้นลงที่สม่ำเสมอ แต่จังหวะที่ดีดขึ้นหรือลง โดนสายหรือไม่โดนสาย ตรงนี้แหละที่เป็นจังหวะเฉพาะของแต่ละเพลง คุณต้องฟังเพลงบ่อยๆ แล้วจะฟังออกว่าจังหวะการตีคอร์ดเป็นยังไง พูดเหมือนง่ายแต่ต้องใช้เวลาและ ทักษะในการฟัง นานพอควรถึงจะฟังจังหวะดนตรีออก เทคนิคสำคัญคือต้องฟังเพลงบ่อยๆ พยายามฟังแล้วแยกฟังเสียงกีต้าร์ เสียงเบส เสียงกลอง เมื่อสามารถแยกฟังเสียงเครื่องดนตรีต่างๆได้แสดงว่าคุณ มีทักษะในฟังมากขึ้น และยังสามารถใช้ในการแกะเพลงได้ด้วย

6. เมื่อพอจับคอร์ดเปลี่ยนคอร์ดได้คล่อง พอเล่นเป็นเพลงได้นิดหน่อย แล้วค่อยไปฝึกเทคนิคต่างๆต่อไป ตัวอย่างเช่น การฝึกนิ้วมือซ้าย การเกากีต้าร์ การจับPower Chord การไล่สเกล และ เทคนิคลูกเล่นต่างๆต่อไป

Credit : http://www.folkpeople.com/

Petchrio~
19th May 2012, 23:08
เจิมครับ เล่นกีต้าร์เหมือนกัน รักเลย 555

XBOX_PSP
19th May 2012, 23:14
รอ Major Scale อยู่เน้อ *-*

FANG
19th May 2012, 23:38
ดีนะที่มีการฝึกสอนด้วยไม่งั้นผมได้ทิ้ง กีต้าร์ คารอส ไว้เฉยๆแน่

exodus
20th May 2012, 22:39
ขึ้นทฤษฏีจะรอดูว่าร่วงไปกี่ศพ 555+

sentinel12
21st May 2012, 00:31
ขึ้นทฤษฏีจะรอดูว่าร่วงไปกี่ศพ 555+
ไม่น่าต่ำกว่าสิบนะครับ ท่าน 555

SoNy009
21st May 2012, 10:30
ผมไม่ชอบทฤษฏีเลย ไม่ไหวจริงๆ 5555
มั่วเอาตามที่ผมเข้าใจไปวันๆ

giarttiwutza
21st May 2012, 10:32
เรียนมาเค้าสอนค่าอนข้างจะ งง :p
"We love Guitars":heart

gunkun444
21st May 2012, 12:53
การตั้งสายกีตาร์

การตั้งสายกีต้าร์นั้นมีอยู่หลายวิธีแต่ส่วนมากแล้ววิธีที่นิยมใช้กันมากและง่ายคือการตั้งสายโดยการเทียบเสียงของแต่ละสาย การตั้งสายด้วยวิธีนี้จะต้องมีทักษะการฟังเสียงที่ดีในระดับหนึ่งเพื่อที่จะฟังออกว่าเสียงนั้นตรงตามโน้ตหรือยัง สำหรับคนที่เริ่มเล่นในตอนแรกอาจจะยังฟังแล้วแยกเสียงไม่ออก ก็แนะนำใช้เครื่องตั้งสายมาช่วยตั้งไปก่อน และก็พยายามหัดตั้งสายด้วยตนเอง การตั้งสายนั้นถือเป็นทักษะพื้นฐานส่วนหนึ่งที่คนหัดเล่นกีต้าร์ควรจะรู้เป็นอย่างแรก

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/guitar_tuner.gif

การตั้งสายแบบมาตรฐาน ( Standard E ) ที่ชื่อ Standard E เพราะว่าโน้ตของสายแรกเป็นโน้ต E ส่วนโน้ตของสายอื่นจะเป็นดังรูปด้านบนโดยจะเริ่มตั้งจากสาย 1 จนถึงสายที่ 6 ( ตัวอักษรสีเหลื่องในรูปด้านบนคือโน้ตในตำแหน่งที่กด )

การตั้งเสียงของสาย 1 โดยปรับสายจนได้เสียงโน๊ต E ( ถ้าสามารถฟังเสียงของโน๊ตออก ) แต่ถ้ายังฟังเสียงโน้ตไม่ออกก็ไม่เป็นไร ก็ให้ปรับสายให้ตึงพอประมาณไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ( สำหรับคนที่เริ่มหัดเล่นไม่ต้องกังวลเรื่องโน้ตจะตรงหรือไม่ ถ้าเราเล่นหรือซ้อมคนเดียว แต่ถ้าเล่นเป็นวงแล้วส่วนมากก็จะใช้เครื่องตั้งสาย เพื่อความถูกต้องของเสียง และ ทั้งวงจะได้เล่นอยู่ในคีย์เดียวกัน )

การตั้งเสียงของสาย 2 โดยการกดที่ สาย 2 ช่อง 5 เทียบเสียงกับสายเปล่าสาย 1แล้วดีดทั้ง 2 เส้นเทียบกันถ้าระดับเสียงต่ำกว่า สาย 1 ก็ปรับให้สายตึงขึ้น ถ้าระดับเสียงสูงกว่าก็คลายสายให้หย่อนลงจนได้ระดับเสียงเดียวกัน

การตั้งเสียงของสาย 3 โดยการกดที่ สาย 3 ช่อง 4 เทียบเสียงกับสายเปล่าสาย 2 แล้วดีดทั้ง 2 เส้นเทียบกันถ้าระดับเสียงต่ำกว่า สาย 2 ก็ปรับให้สายตึงขึ้น ถ้าระดับเสียงสูงกว่าก็คลายสายให้หย่อนลงจนได้ระดับเสียงเดียวกัน

การตั้งเสียงของสาย 4 โดยการกดที่ สาย 4 ช่อง 5 เทียบเสียงกับสายเปล่าสาย 3 แล้วดีดทั้ง 2 เส้นเทียบกันถ้าระดับเสียงต่ำกว่า สาย 3 ก็ปรับให้สายตึงขึ้น ถ้าระดับเสียงสูงกว่าก็คลายสายให้หย่อนลงจนได้ระดับเสียงเดียวกัน

การตั้งเสียงของสาย 5 โดยการกดที่ สาย 5 ช่อง 5 เทียบเสียงกับสายเปล่าสาย 4 แล้วดีดทั้ง 2 เส้นเทียบกันถ้าระดับเสียงต่ำกว่า สาย 4 ก็ปรับให้สายตึงขึ้น ถ้าระดับเสียงสูงกว่าก็คลายสายให้หย่อนลงจนได้ระดับเสียงเดียวกัน

การตั้งเสียงของสาย 6 โดยการกดที่ สาย 6 ช่อง 5 เทียบเสียงกับสายเปล่าสาย 5 แล้วดีดทั้ง 2 เส้นเทียบกันถ้าระดับเสียงต่ำกว่า สาย 5 ก็ปรับให้สายตึงขึ้น ถ้าระดับเสียงสูงกว่าก็คลายสายให้หย่อนลงจนได้ระดับเสียงเดียวกัน

Credit : http://www.folkpeople.com/

Petchrio~
21st May 2012, 12:56
ผมไม่ชอบทฤษฏีเลย ไม่ไหวจริงๆ 5555
มั่วเอาตามที่ผมเข้าใจไปวันๆ

ไม่ต้องรีบหรอกครับ ทฤษฏี 5555 ขั้นแรกก็ จำโน้ตบนคอก่อน ไม่จำเป็นต้องจำก็ได้ หาให้เป็นก็พอละ และมันจะจำได้ตาม

และพอจำได้ พวก สเกลมันก็จะตามมา ตอนแรกก็ง่ายๆ ไม่ติด # ติด b ตอนหลังๆนี่ 5555 ลำดับแรก ถ้าจำเรียนสเกล อยากให้รู้ไว้เลย มันคือการ จัดกลุ่มตัวโน้ต

เรียงให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ใช่คนไม่รู้อะไร มาไล่ๆ

ไล่เป็นหมดก็จริง แต่มันจะเอาไปทำอะไรไม่ได้ครับ ต้องรู้ว่าสเกลนี้เสียงเป็นยังไง หม่นๆ ใสๆ อะไรแบบนี้ครับ เช่น สเกล C Major เสียงก็จะสนุกๆ โด เร มี ฟา ซอล อะไรอย่างนี้ ถ้าเป็น โด่เลี้ยง

ก็จะมืดๆ ดาร์กๆ อะไรอย่างนี้ แล้วพอเราจะแต่งเพลงแนวนี้ อารมณ์นี้ ก็จะเลือก สเกลถูก และจะแต่งได้ง่าย เพราะถ้าไม่รู้สเกล ก็ต้องสุ่มมั่วๆ เสียเวลาครับ เลอๆ คิดไม่ออกเลย

ปล. ผมก็ไม่เก่งทฤษฎีหรอกครับ แต่ อ. ผมบอกมา ก็กำลังเรียนๆอยู่ ตอนนี้ก็ งูๆ ปลาๆ ฮ่าๆ

มีอะไรก็ถามผมได้เลย รู้ก็รู้ ไม่รู้ก็ ไม่รู้ ไม่ซึน ไปหากูเกิ้ลหรอกครับ 555 ไม่ใช่อะไรผมสงสารคนที่แบบ ไปหาเรียนทฤษฎี ในเน็ต ซึ่งมันอธิบายได้ งง มาก ถ้าถามผมหรือถามคนที่รู้

ก็จะตอบแบบเข้าใจง่ายกว่า

gunkun444
21st May 2012, 12:56
การจับปิคกีต้าร์

ปิคกีต้าร์นั้นมีหลายแบบหลายรูปทรง แต่ที่นิยมใช้กันทั่ว ๆ ไปก็คือ ปิคแบน (flat pick) ที่เห็นกันอยู่ทั่วไปก็จะมีอยู่ 2 ทรงคือ รูป 3 เหลี่ยม แล้วก็ รูปหยดน้ำ มีให้เลือกตามขนาดความหนาของปิค ตั้งแต่ บาง , ปานกลาง และ หนา ส่วนจะเลือกใช้ขนาดไหน ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ในการเล่นตีคอร์ดนั้นแนะนำให้ใช้ปิคแบบบาง เพราะจะเกิดแรงต้านกับสายน้อยเล่นแล้วจะรู้สึกพริ้วไหวไม่สะดุด ส่วนการเล่น Solo นั้นใช้ได้ทุกขนาดขึ้นอยู่กับความชอบความถนัดของแต่ละคน

การจับปิคนั้นให้วางปิคลงด้านบนสันของปลายนิ้วชี้ นิ้วชี้อยู่ในลักษณะงอเข้าหาปลายนิ้วโป้ง แล้วใช้นิ้วโป้งกดทับตัวปิค การจับไม่ได้จับจนแน่นมากให้จับพอกระชับไม่ให้หลุด ปลายปิคเลยออกมาจากนิ้วประมาณ 3-4 มิล ไม่สั้นหรือยาวออกมามากจนเกินไป ปิคต้องอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับสายหรือเกือบจะตั้งฉากกับสาย และเอียงตัวปิคประมาณ 45 องศา เพื่อลดแรงประทะกับสายในขณะดีด ทำให้ดีดได้คล่องและไม่รู้สึกติดขัด


http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickposition.jpg

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickposition2.jpg

Credit : http://www.folkpeople.com/

gunkun444
21st May 2012, 13:03
Major Scale

เมเจอร์ สเกล นั้นเป็นหลักพื้นฐานของสเกลอื่นๆ ทุกสเกลจะสร้างขึ้นมาโดยยึดหลักพื้นฐานโครงสร้างมาจากเมเจอร์สเกล ดังนั้น เมเจอร์สเกลจึงถือเป็นแม่แบบของสเกลอื่นๆ

สเกล ก็คือ กลุ่มของโน๊ตที่เรียงกัน เป็นลำดับขั้น มีการจัดเรียงระดับของเสียงอย่างมีรูปแบบ มีเสียงห่างกันเป็นที่แน่นอน เวลาเล่นกลุ่มโน๊ตนั้นๆ จะได้สำเนียง เป็นแบบๆไป เป็นสำเนียงเฉพาะตัวของสเกลนั้นๆ เช่น สเกล Major (เมเจอร์) จะให้ความรู้สึกที่สนุกสนาน ฟังสบาย สเกล Minor (ไมเนอร์) จะให้ความรู้สึกที่เศร้า เหงา หดหู่...

ความหมายของ OCTAVE คือ โน้ตตัวเดียวกัน ที่เสียงสูงขึ้น หรือต่ำ ลงมา 8 ขั้น เช่น ในเมเจอร์สเกล โน้ตตัวแรก กับ ตัวสุดท้ายจะห่างกัน 1 OCTAVE
โครงสร้างของ Major Scale


http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/major_scale.gif

โครงสร้างของของเมเจอร์สเกลนั้นคือ โน้ตตัวที่ 3 กับ 4 และ 7 กับ 8 จะห่างกันแค่ครึ่งเสียง ส่วนโน้ตตัวอื่นจะห่างกัน 1 เสียงเต็ม

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/tab%20major%20scale.gif

TAB ของ C Major Scale
ลองฝึกไล่สเกลตามแท็บด้านบนดูนะครับ การฝึกไล่สเกลจะเป็นพื้นฐานที่ใช้ในการเล่น Solo การแกะเพลง ทำให้เราเล่นได้คล่องขึ้น และยังสามารถทำให้เราจำโน๊ตหรือรูปแบบการไล่สเกลบนคอกีตาร์ได้...

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/tab%20major%20scale%201.gif

ตำแหน่งโน๊ตบนคอกีต้าร์ ของ C Major Scale ตามแท็บด้านบน

Credit : http://www.folkpeople.com/

iSimilaXi
21st May 2012, 14:41
มีกลุ่มกลองไหมอ่า O_O

ยังไงก็ขอให้กลุ่มมีสมาชิกเยอะๆนะครับ ^_^

gunkun444
21st May 2012, 19:33
การฝึกนิ้วแบบ Symmetrical


การฝึกนิ้วแบบ Symmetrical จะเป็นการเล่นโน้ตที่มีสัดส่วนที่สมดุลเป็นสมมาตร ซึ่งจะใช้เพื่อเป็นการฝึกนิ้วในการโซโล่ ทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมีความพลิ้วไหวคล่องตัว


http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/lessonsymmetrica.gif

แบบฝึกที่ 1 ลองฝึกตาม TAB ด้านบนได้เลยครับ ( มือขวาให้ดีด ลง - ขึ้น - ลง - ขึ้น สลับกันแบบนี้ไปตลอดนะครับเพื่อฝึกการใช้ปิคไปด้วย )

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/lessonsymmetrica2.gif

การฝึกนิ้วแบบ Symmetrical 2
แบบฝึกที่ 2 เป็นการย้อนจากสายที่ 1 ขึ้นมาสาย 6 ตาม TAB ด้านบนครับ การดีดให้ดีดเหมือนแบบฝึกที่ 1

Credit : http://www.folkpeople.com/

SoNy009
21st May 2012, 20:08
พวกนี้ผมพอรู้นะ ผมทำได้ แต่ผมอธิบายไม่ได้ว่ามันเรียกว่าอะไร
ถ้าเรียนรู้คนเดียวไปวันๆอะได้ แต่อธิบายกับคนอื่นไม่เข้าใจ

เพราะผมไม่เคยเรียนมาก่อนเลย ศึกษาเอาด้วยตนเองอย่างเดียว
ครูพักลักจำ

Sendoh0_0
21st May 2012, 20:23
ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง ตั้งสายก็ไม่เป็น แต่ผมเล่นเป็นทุกเพลง เกาได้บางเพลงนะ

(ผมไม่รู้ผมเก่ง)

houkago-teatime
22nd May 2012, 12:58
ชอบเลยกลุ่มแบบนี้ :)

gunkun444
22nd May 2012, 13:42
การจับคอร์ดกีตาร์


การจับคอร์ดนั้นให้นั่งในท่าที่ถนัด ใช้มือกำหลวม ๆ ที่คอกีตาร์ ถ้าเป็นการจับคอร์ดที่ไม่ใช้คอร์ดทาบ จะใช้นิ้วโป้งประคอง ด้านหลังคอกีต้าร์เพื่อให้กระชับมั่นคงและช่วยให้มีแรงกดสายมากขึ้น การจับสายนั้นจะต้องโก่งนิ้วที่จับสายอยู่ พยายามให้ปลายนิ้วที่กดสายตั้งฉากกับฟิงเกอร์บอร์ด มากที่สุด เพราะถ้านิ้วราบไปกับคอกีต้าร์จะทำให้โดนสายอื่นทำให้เสียงบอด ส่วนตำแหน่งการกดให้กดลงในช่องกลางระหว่างเฟร็ต หรือ ค่อนลงมานิดหน่อย แต่นิ้วยังไม่โดนเฟร็ต ถ้านิ้วโดนเฟร็ตขณะกดสายจะทำให้เสียงบอร์ด


การจับคอร์ดกีต้าร์

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/handposition.jpg

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/handposition2.jpg

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/read-chord.gif

คอร์ดพื้นฐาน

การหัดจับคอร์ดกีต้าร์ควรจะหัดจับคอร์ที่ง่ายๆประมาณ2-3คอร์ดก่อนพอเริ่มจับได้2-3คอร์ดแล้วค่อยมาหัดจับคอร์ดอื่นๆต่อไป ลองหัดจับคอร์ดตามด้านล่างนี้ดูนะครับเป็นคอร์ดที่จับได้ไม่ยากมากเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเล่นครับ


http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/Basic-Chord.gif

Credit : http://www.folkpeople.com/

gunkun444
22nd May 2012, 13:45
การจับคอร์ดทาบ (Bar Chord)


การจับคอร์ดทาบนั้นสำหรับคนที่หัดเล่นใหม่ๆแล้ว จะรู้สึกว่าจับยากมากทั้งเจ็บนิ้วไม่มีแรงกด เสียงบอด แต่การจับคอร์ดทาบนั้นมีเทคนิคอยู่นิดเดียว คือ การหักข้อมือลงด้านล่าง แล้วใช้นิ้วโป้งประคองตรงกลางหลังคอกีต้าร์ไว้ แทนการใช้นิ้วโป้งกำคอกีต้าร์แบบการจับคอร์ดธรรมดา แบบนี้จะเป็นการจับที่ถูกวิธี และช่วยให้มีแรงกดสายมากขึ้นทำให้เสียงไม่บอด ส่วนนิ้วที่ใช้กดสายก็พยายามให้ปลายนิ้วตั้งฉากกับสายมากที่สุดไม่ให้ไปโดนสายอื่นเพราะจะทำให้เสียงบอดได้



ลักษณะพิเศษของ คอร์ดทาบ หรือ (Bar Chord)


ลักษณะพิเศษของคอร์ดทาบ ก็คือ คุณสามารถ เลื่อนคอร์ดในลักษณะการจับที่ยังเหมือนเดิม ถอยหลังเข้าหาตัว หรือ เลื่อนไปด้านหน้า แล้วคอร์ดจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคอร์ดหนึ่งโดยที่รูปแบบการจับยังเหมือนเดิม โดยมีหลักอยู่ว่า ถ้าเลื่อนถอยเข้าหาตัว 1 ช่อง (เสียงสูงขึ้น) คอร์ดเดิมที่เล่นอยู่ก็จะติด( # )เช่นคุณจับคอร์ด F แล้วเลื่อนเข้าหาตัว 1 ช่อง คอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็น F# ถ้า 2 ช่องคอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็นคอร์ด G ในทางตรงกันข้าม ถ้าเลื่อนไปด้านหน้าออกห่างตัว 1 ช่อง (เสียงต่ำลง) คอร์ดเดิมที่เล่นอยู่ก็จะติด( b ) เช่นคุณจับคอร์ด B แล้วเลื่อนออกห่างตัว 1 ช่อง คอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็น Bb ถ้าเลื่อนไป 2 ช่องคอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็นคอร์ด A สายเปิด คือไม่ต้องใช้นิ้วชี้ทาบ เพราะตำแหน่งที่ต้องทาบเป็นสะพานรองสาย (Nut) พอดี

ส่วนการเลื่อนคอร์ดว่าเลื่อนกี่ช่องแล้วจะเปลี่ยนเป็นคอร์ดอะไรจะใช้หลักของ Major Scale คือ คอร์ด E กับ F และคอร์ด B กับ C ห่างกัน 1 ช่อง (ครึ่งเสียง) ส่วนคอร์ดอื่น A กับ B , D กับ E , F กับ G ห่างกัน 2 ช่อง (หนึ่งเสียงเต็ม)


รูปตัวอย่างการจับคอร์ดทาบ

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/bar_chord.jpg

หักข้อมือลงด้านล่าง

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/bar_chord2.jpg

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/bar_chord3.jpg

โก่งนิ้วให้ตั้งฉากกับฟิงเกอร์บอร์ด

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/bar_chord4.jpg

Credit : http://www.folkpeople.com/

Aunatix
22nd May 2012, 17:58
ผมเพิ่้งยืมกีต้าร์เพื่อนมาอะครับ
เริ่มยังไงดีอะ

exodus
23rd May 2012, 14:05
ไล่เป็นหมดก็จริง แต่มันจะเอาไปทำอะไรไม่ได้ครับ ต้องรู้ว่าสเกลนี้เสียงเป็นยังไง หม่นๆ ใสๆ อะไรแบบนี้ครับ เช่น สเกล C Major เสียงก็จะสนุกๆ โด เร มี ฟา ซอล อะไรอย่างนี้ ถ้าเป็น โด่เลี้ยง

ก็จะมืดๆ ดาร์กๆ อะไรอย่างนี้ แล้วพอเราจะแต่งเพลงแนวนี้ อารมณ์นี้ ก็จะเลือก สเกลถูก และจะแต่งได้ง่าย เพราะถ้าไม่รู้สเกล ก็ต้องสุ่มมั่วๆ เสียเวลาครับ เลอๆ คิดไม่ออกเลย

ปล. ผมก็ไม่เก่งทฤษฎีหรอกครับ แต่ อ. ผมบอกมา ก็กำลังเรียนๆอยู่ ตอนนี้ก็ งูๆ ปลาๆ ฮ่าๆ

มีอะไรก็ถามผมได้เลย รู้ก็รู้ ไม่รู้ก็ ไม่รู้ ไม่ซึน ไปหากูเกิ้ลหรอกครับ 555 ไม่ใช่อะไรผมสงสารคนที่แบบ ไปหาเรียนทฤษฎี ในเน็ต ซึ่งมันอธิบายได้ งง มาก ถ้าถามผมหรือถามคนที่รู้

ก็จะตอบแบบเข้าใจง่ายกว่า

มันมีช่องโหว่ของการเรียนด้วยตัวเองอยู่ คือ การใช้สเกลแล้วไม่หลงทาง คือโน๊ตมันถูกแหละ ทุกตัวถูกต้องตามกฏบันไดเสียง แต่สร้างสำเนียงที่ต้องการไม่ได้
มันก็เหมือนการขับรถน่ะ คุณรู้หลักการขับรถ ทำยังไงให้วิ่ง ทำยังไงให้หยุด เลี้ยวยังไง แต่คุณไม่รู้เส้นทางที่จะไปถึงจุดหมาย คุณก็ได้แค่ขับไปเรื่อยเปื่อย
หลงไปโผล่ตรงนู้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เพราะฉะนั้น แค่องค์ประกอบอย่างเดียวน่ะ บางทีมันไม่พอไงครับ ความรู้ทางอินเตอร์เน็ตมันก็ได้จุดหนึ่ง มันทำให้คุณรู้ว่าสเกลคืออะไร มีวิธีคิดยังไง แต่วิธีใช้ มันเป็นเรื่องอัตตวิสัย ที่ต้องเรียนจากประสบการณ์ ถ้าคุณมีคนสอน เขาจะไกด์ทางไว้ได้ แต่ถ้าศึกษาเอง คุณก็ต้องอาศัยชั่วโมงบินอย่างยิ่งยวด ซึ่งมันอาจเป็นการเสียเวลา กว่าคุณจะสร้างสำเนียงที่ชัดเจน และเที่ยงตรง คุณก็อาจจะ 30+ เข้าไปแล้ว เพราะเรื่องของการสร้างสำเนียงนั้นมัน "กว้าง" มากอย่างน่ากลัว ไอ้ที่บอกว่า โน๊ตแค่ 7-8 ตัวมันจะสร้างอะไรได้มากมาย ผมว่าเป็นคำพูดที่น่าเอาไปใส่ไหฝังดินจริงๆ ถ้าคุณไม่เคยอยู่ในจุดที่ต้องประพันธ์เมโลดี้ด้วยตัวเอง

Petchrio~
23rd May 2012, 17:14
มันมีช่องโหว่ของการเรียนด้วยตัวเองอยู่ คือ การใช้สเกลแล้วไม่หลงทาง คือโน๊ตมันถูกแหละ ทุกตัวถูกต้องตามกฏบันไดเสียง แต่สร้างสำเนียงที่ต้องการไม่ได้
มันก็เหมือนการขับรถน่ะ คุณรู้หลักการขับรถ ทำยังไงให้วิ่ง ทำยังไงให้หยุด เลี้ยวยังไง แต่คุณไม่รู้เส้นทางที่จะไปถึงจุดหมาย คุณก็ได้แค่ขับไปเรื่อยเปื่อย
หลงไปโผล่ตรงนู้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เพราะฉะนั้น แค่องค์ประกอบอย่างเดียวน่ะ บางทีมันไม่พอไงครับ ความรู้ทางอินเตอร์เน็ตมันก็ได้จุดหนึ่ง มันทำให้คุณรู้ว่าสเกลคืออะไร มีวิธีคิดยังไง แต่วิธีใช้ มันเป็นเรื่องอัตตวิสัย ที่ต้องเรียนจากประสบการณ์ ถ้าคุณมีคนสอน เขาจะไกด์ทางไว้ได้ แต่ถ้าศึกษาเอง คุณก็ต้องอาศัยชั่วโมงบินอย่างยิ่งยวด ซึ่งมันอาจเป็นการเสียเวลา กว่าคุณจะสร้างสำเนียงที่ชัดเจน และเที่ยงตรง คุณก็อาจจะ 30+ เข้าไปแล้ว เพราะเรื่องของการสร้างสำเนียงนั้นมัน "กว้าง" มากอย่างน่ากลัว ไอ้ที่บอกว่า โน๊ตแค่ 7-8 ตัวมันจะสร้างอะไรได้มากมาย ผมว่าเป็นคำพูดที่น่าเอาไปใส่ไหฝังดินจริงๆ ถ้าคุณไม่เคยอยู่ในจุดที่ต้องประพันธ์เมโลดี้ด้วยตัวเอง

ชัดเจน คนนี้ 5555

houkago-teatime
24th May 2012, 11:53
ขอถามปัญหานิดนึงนะครับ เกี่ยวกับ Floyd Rose ครับ

คือผมเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า ยี่ห้อ Washburn แล้วเล่น solo เธอยัง ช่วงท้ายมันต้องดันสาย
แต่ ดันไปดันมา สาย 1 มันหลุด ออกจาก เต๋า (ที่ล็อกสาย)

เลยอยากถามว่า ผมต้องนั่งจูนใหม่ทั้งหมดเลยรึเปล่าครับ ?

aionic
24th May 2012, 12:56
อยากได้คร์อดเพลงเยอะๆๆครับ

gunkun444
24th May 2012, 22:22
Credit จาก อากู๋

http://1.bp.blogspot.com/_NfL3G9J_JlA/TKC-s5WJ3oI/AAAAAAAAAGc/T4iZVvB06-s/s1600/guitar~1.gif (http://1.bp.blogspot.com/_NfL3G9J_JlA/TKC-s5WJ3oI/AAAAAAAAAGc/T4iZVvB06-s/s1600/guitar~1.gif)

http://farm5.static.flickr.com/4008/4327049671_93a8e77ded_o.jpg (http://farm5.static.flickr.com/4008/4327049671_93a8e77ded_o.jpg)

gunkun444
25th May 2012, 14:22
การเกากีต้าร์


การเกากีตาร์หรือที่เรียกว่า picking เป็นสไตล์ในการเล่นกีตาร์อีกแบบที่มีความไพเราะเป็นเอกลักษณ์ แต่ก่อนที่จะฝึกเกากีต้าร์ควรจะต้องฝึกการตีคอร์ดให้คล่องก่อน ทั้งการเปลี่ยนคอร์ดและจังหวะการดีดให้สัมพันธ์กันก่อนนะครับ

การวางมือนั้นมือจะอยู่เหนือสายนิดหน่อย ใช้สันนิ้วโป้งเตะพักไว้ที่สาย 6 เพื่อช่วยพยุง หรืออาจจะใช้นิ้วก้อยเตะที่ตัวกีต้าร์ช่วยพยุงก็ได้ แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน


ลักษณะการวางมือในการเกากีต้าร์

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickingposition.jpg

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickingposition2.jpg

หน้าที่ของแต่ละนิ้ว
นิ้วโป้ง ใช้ในการดีดลง จะใช้ดีดสายเบส Bass ทั้งหมด คือสาย 4 - 5 - 6 - นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง จะใช้ในการเกี่ยวสายขึ้น โดยนิ้วชี้ใช้เกี่ยวสาย 3 นิ้วกลางใช้เกี่ยวสาย 2 นิ้วนางใช้เกี่ยวสาย 1 ตามลำดับส่วนนิ้วก้อยไม่ค่อยได้ใช้ในการเกากีตาร์แต่ก็อาจจะไม่เสมอไปก็แล้วแต่ว่าใครจะพลิกแพลงเล่นดูก็ได้เพราะที่กล่าวมานั้นไม่ได้เป็นกฎตายตัว ว่าจะต้องเล่นตามที่กล่าวมา แต่ในการฝึกนั้นให้ใช้นิ้วตามที่กล่าวไว้ก่อนเพราะการวางนิ้วแบบที่กล่าวมานี้ถือว่าเป็นพื้นฐานที่ในการเกากีต้าร์

การเกากีตาร์มักจะเริ่มด้วยสายเบสก่อน โดยการใช้นิ้วโป้งดีดลง โดยดีดสายที่เป็นโน๊ต Root ของคอร์ด โน๊ต Root คือโน้ตตัวแรกของคอร์ดนั้นๆ เช่น คอร์ด C ก็จะเป็นโน้ต C ก็จะอยู่ที่สาย 5 ก็ดีดสาย 5 ก่อน คอร์ดอื่นๆก็พอจะสรุปได้ดังต่อไปนี้

ถ้าเล่นคอร์ด D, F ให้ดีดสายเบสเส้นที่ 4 (ถ้าคอร์ด F จับแบบทาบให้ดีดสายเบสเส้นที่ 6)

ถ้าเล่นคอร์ด A, B, C ให้ดีดสายเบสเส้นที่ 5

ถ้าเล่นคอร์ด E, G ให้ดีดสายเบสเส้นที่ 6

เมื่อดีดสายเบสแล้วจึงตามด้วยสายอื่นตามมา คือ 3 สายล่างที่เหลือ อย่าลืมว่าต้องใช้นิ้วที่ประจำอยู่ของแต่ละสายให้ถูกต้องตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/righthand.gif

สัญลักษณ์ต่อไปนี้จะใช้ในการฝึกเกากีต้าร์โดยจะใช้ในแบบฝึกต่อจากนี้

- นิ้วโป้ง แทนด้วย T

- นิ้วชี้ แทนด้วย 1

- นิ้วกลาง แทนด้วย 2

- นิ้วนาง แทนด้วย 3

รูปแบบการเกาในแบบต่างๆต่อไปนี้ ให้ฝึกที่ละแบบจนคล่องก่อน แล้วค่อยฝึกแบบต่อๆไป แบบฝึกต่อไปนี้จะเป็นพื้นฐานของการเกากีต้าร์เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหัดเล่น ไม่ยากจนเกินไป ยังมีรูปแบบการเกาอื่นๆ อีกมากมายและไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัวอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินแต่ละคนที่จะแต่งออกมา

การอ่าน TAB ในการฝึกต่อไปนี้จะเป็นแท็บมือขวา โดยจะบอกเลยว่าใช้นิ้วไหนดีดสายไหน โดยจะแทนนิ้วต่างๆด้วยอักษร และ ตัวเลข ตามที่ได้อธิบายไว้ด้านบน


แบบฝึกในการเกากีต้าร์

แบบฝึกที่ 1
http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickinglesson1.gif

แบบฝึกที่ 2
http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickinglesson2.gif

แบบฝึกที่ 3
http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickinglesson3.gif

แบบฝึกที่ 4
http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickinglesson4.gif

แบบฝึกที่ 5
http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickinglesson5.gif

แบบฝึกที่ 6
http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickinglesson6.gif

แบบฝึกที่ 7
http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/pickinglesson7.gif

Credit : http://www.folkpeople.com/

gunkun444
25th May 2012, 14:23
การจับ power chord


power chord นั้น เป็นเป็นคอร์ดที่ให้เสียงหนักแน่นมีพลัง การจับ power chord นั้นจะคล้ายกับการจับคอร์ดทาบมากแต่จะจับน้อยกว่า โดย Power chord นั้นจะจับอยู่ที่ สาย 3 4 5 6
การจับ Power Chord นั้นจับได้สองแบบคือการจับแบบโน๊ตคู่ห้า และ แบบทั้งคู่ห้าและคู่แปด การจับแบบหลังนี้(คู่5และคู่8)จะให้เสียงที่ครบกว่าออกเสียงกลางมากขึ้น ส่วนการนำไปใช้นั้นว่าควรจะจับแบบใหนก็ต้องดูเพลงที่เล่นว่าเป็นแบบใด Power Chord ที่เล่นในเพลงนั้นเล่นเป็นกีต้าร์หลักหรือเล่นเป็นRhythmให้จังหวะเป็นแบ็คกราว์ด ถ้าเล่นเป็น Rhythm ก็ควรจะจับแบบคู่5มากกว่าเพราะจะไม่ออกเสียงกลางมากไม่ทำให้ไปกลบเสียงของกีต้าร์หลัก แต่ถ้าเล่น Power Chord เป็นกีต้าร์หลักก็ควรจะจับแบบที่สอง(แบบคู่5และคู่8)เพราะเสียงจะออกไปทางเสียงกลางชัดเจนมากขึ้นและเสียงจะพุ่งกว่าการจับแบบแรกฟังแล้ว เข้าถึงอารมณ์ของเพลงมากกว่า


http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/power_chord.gif

การเปลี่ยนคอร์ดนั้นสามารถเลื่อนฟอร์มการจับขึ้นลงได้เหมื่อนกับคอร์ดทาบ ตัวอย่างเช่น จับคอร์ด F อยู่ ถ้าเลื่อนเข้ามาหาตัว 1 ช่องก็จะเป็นคอร์ด F#, 2 ช่องก็จะเป็นคอร์ด G
การจับ Power Chord บางคอร์ดที่ต้อง Muted เสียงที่สาย 6 จะใช้นิ้วกลางเตะไว้ที่สายเพื่อไม่ให้เกิดเสียงที่สายนั้น ตัวอย่างการจับคอร์ด C Power Chord ดังรูปด้านล่าง

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/power_chord2.jpg

http://www.folkpeople.com/guitarlesson/pic/power_chord_table.gif

Credit : http://www.folkpeople.com/

gunkun444
27th May 2012, 22:58
การอ่าน Tab



เพื่อนๆ คงจะเคยเห็น TAB กีต้าร์กันมาบ้างแล้วนะครับ TAB กีต้าร์เป็นสื่อการเรียนที่เป็นสากลและแพร่หลาย เพราะเข้าใจง่าย อ่านได้เร็วกว่าการดูโน๊ตบรรทัด 5 เส้น โดยผู้อ่านไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางทฤษฎีดนตรีก็สามารถเข้าใจได้ ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่าน TAB มาก่อน ลองทำความเข้าใจดูนะครับ

http://www.guitarkung.com/Images/basictab.gif

จากรูป เป็นรูปของ Tab กีต้าร์ครับ จะเห็นว่าเป็นเส้นตรง 6 เส้น ด้านซ้ายสุดจะเขียนว่า TAB ไว้เป็นสัญลักษณ์ ทั้ง 6 เส้น จะแทนสายกีต้าร์ทั้ง 6 สาย โดยเส้นบนสุด แทนสายกีต้าร์สายที่ 1 ไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงเส้นที่อยู่ล่างสุด จะแทนสายกีต้าร์สายที่ 6 ครับ ตัวเลขที่อยู่บน TAB แสดงถึงเฟรทที่เราจะต้องกดว่าอยู่เฟรทใด และบนสายใด ตัวอย่างเช่น เลข 7 บน เส้นที่ 3 หมายถึงเราจะต้องกดนิ้วที่เฟรทที่ 7 บนสายกีต้าร์สายที่ 3 นั่นเองครับ

http://www.guitarkung.com/Images/emajortab.gif "เลข 0" หมายถึง ดีดสายเปล่า

ลองหยิบกีต้าร์ขึ้นมาแล้ววางนิ้วตาม TAB ด้านบนดูซิครับ ........

จะสังเกตุได้ว่าการเล่นตาม Tab ด้านบน จะเป็นการดีดพร้อมกันทั้งหมด (ทั้ง 6 สาย) ในลักษณะของการจับคอร์ดนั่นเอง

คุ้นๆมั้ยครับ สำหรับผู้ที่เคยเล่นกีต้าร์ตีคอร์ดมาบ้างแล้วคงร้องอ๋อ... เพราะความจริงมันก็คือ "คอร์ด Emaj" หรือ เรียกสั้นๆว่า "คอร์ด E" นั่นเอง โดยถ้าเป็นสัญลักษณ์การจับคอร์ดก็จะเป็นรูปดังนี้ครับ

http://www.guitarkung.com/Images/E%20Chord.gif

ในรูปแบบของ TAB แล้ว โดยปกติจะไม่มีการบอกนิ้วที่กดในแต่ละสายว่าจะต้องใช้นิ้วใด อ้าว! แล้วอย่างงี้จะรู้ได้อย่างไรล่ะครับ.... อันที่จริงแล้วลักษณะการวางนิ้ว มักจะเป็นไปโดยธรรมชาติ และคำนึงถึงความต่อเนื่องในการเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถฝึกเองได้ไม่อยากครับ

พอเข้าใจกันบ้างแล้วใช่มั้ยครับ แต่ทั้งนี้ ยังมีสัญลักษณ์อื่นๆอีกที่แสดงบน TAB ตามตารางดังนี้ ซึ่ง โดยทั่วไปแล้วเทคนิคที่พบบ่อยๆคือ h (hammer on), p (pull off), / (slide up), \ (slide down), v (vibrato) ครับ และหากต้องการคำอธิบายพร้อมตัวอย่าง TAB ประกอบ ก็คลิ๊กที่สัญญลักษณ์ที่ต้องการได้เลยครับ

• h - hammer on
• p - pull off
• b - bend string up
• r - release bend
• / - slide up
• \ - slide down
• v - vibrato (sometimes written as ~)
• t - right hand tap
• s - legato slide
• S - shift slide
• - natural harmonic
• [n] - artificial harmonic
• n(n) - tapped harmonic
• tr - trill
• T - tap


• TP - trem. picking
• PM - palm muting
• \n/ - tremolo bar dip; n = amount to dip
• \n - tremolo bar down
• n/ - tremolo bar up
• /n\ - tremolo bar inverted dip
• = - hold bend; also acts as connecting device for hammers/pulls
• <> - volume swell (louder/softer)
• x - on rhythm slash represents muted slash
• o - on rhythm slash represents single note slash

Credit : http://www.guitarkung.com

XBOX_PSP
1st June 2012, 22:29
ดันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

gavggame
1st June 2012, 22:36
รออ่านทุกวันนะ อัพเดทๆตลอดละๆ