PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ประวัติศาสตร์ ข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญของโปแลนด์



pone123
26th May 2012, 18:26
วันที่ 1 สิงหาคม คศ.1944 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เรียกว่า Warsaw Uprising ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่กลุ่มกองกำลังใต้ดิน(ปาติสัน)ในวอร์ซอร์ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับทหารเยอรมันที่เข้าครอบครองโปแลนด์อยู่ ตั้งแต่ปี คศ. 1939 กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลพลัดถิ่นที่อยู่อังกฤษ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มปาติสันก็เป็นคนรุ่นใหม่ มีทั้งเด็กอายุตั้งแต่ 7-8 ขวบ ไปจนถึง อายุ 20 ต้นๆ ทั้งชายและหญิง

พวกเขาเข้าต่อสู้กับเยอรมันด้วยอาวุธที่มีอานุภาพแค่ขี้่ปะติ๋วของกองกำลังเยอรมัน อาวุธที่มีก็แค่ปืนยาว ระเบิดน้อยหน่า ปืนสั้น ส่วนอาวุธของเยอรมันก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะถือว่า ณ ขณะนั้น เยอรมันนีเป็นประเทศเดียวที่มีความพร้อมด้านอาวุธ และ่ทันสมัยที่สุด ในสงครามโลกครั้งที่ 2

ส่วนทหารฝ่ายสัมพันธมิตรชาติอื่นที่มีฐานทัพอยู่ที่ทางตอนเหนือของอิตาลี ก็ได้ส่งเครื่องบินลำเลียงอาวุธ ยา อาหาร มาโปรยลงที่วอร์ซอร์ ขอบอกว่า นักบินที่จะบินมาโปรยอาวุธ อาหาร ยา เหล่านี้ เป็นนักบินที่อาสาสมัครมาทั้งสิ้น เนื่องจาก ใครที่บินมาก็ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงสูงว่าอาจโดนสอยร่วงไปซะก่อน เพราะต้องบินผ่านน่านฟ้าของออสเตรียและเชค ซึ่งเยอรมันเข้าครอบครองอยู่ ตอนแรกฝ่ายสัมพันธมิตรได้ขอเจรจาบินผ่านน่านฟ้าที่อยู่ในความครอบครองของรัสเซีย แต่รัสเซียไม่ยอม ก็เลยไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะรู้ว่าบินมาเพื่อตาย แต่ก็ต้องมาเพราะอย่างน้อย ความตายก็จะได้ทำประโยชน์ช่วยเหล่ากองกำลังใต้ดินที่กำลังต่อสู้ด้วยใจหาญกล้า แต่ในที่สุด ปฏิบัติการนี้ก็ได้ถูกยกเลิกไปเพราะได้สูญเสียเครื่องบินเป็นจำนวนมาก(คนไม่ห่วง ห่วงเครื่องบินมากกว่าน้ออ)

ถามว่า ทำไมกองกำลังปาติสันถึงได้ตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อสู้ในวันนั้น คำตอบก็คือว่า ขณะนั้น ประมาณกลางเดือนกรกฏาคม ทหารฝั่งรัสเซียได้ยกทัพเข้ามาจนประชิดแม่น้ำวิสวาฝั่งตะวันออกแล้ว ทีนี้ โปแลนด์ก็รู้ดีว่า ถ้าไม่สู้กับเยอรมันตอนนั้น รัสเซียก็จะเข้ามาสู้กับเยอรมันเอง และโปแลนด์ก็จะต้องตกเป็นของรัสเซียโดยปริยาย ซึ่ง ก็รู้กันนะคะว่ารัสเซียปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ โปแลนด์ไม่อยากอยู่ใต้อาณานิคมของคอมมิวนิสต์ค่ะ ก็เลยคิดกันว่า เอ้า สู้ตอนนี้ อาจมีโอกาสชนะ โปแลนด์อาจจะไม่เสียอิสรภาพให้ประเทศอื่นอีกต่อไป หรือถ้าแพ้ ก็ขอให้แพ้อย่างมีศักดิ์ศรี

ฝ่ายกองทัพรัสเซียก็ได้รับคำสั่งจากสตาลินที่อยู่มอสโคโน่น ว่า ให้หยุดทัพรออยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำวิสวา ไม่ต้องเคลื่อนทัพต่อ เพราะรัสเซียคิดว่า ปล่อยให้โปแลนด์สู้กับเยอรมันไป ยังไงโปแลนด์ก็ไม่มีทางชนะแน่นอน ยังไงรัสเซียก็เป็นเสือนอนกิน ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้เยอรมันฆ่าผู้นำทางความคิดและผู้นำด้านกำลังชาวโปแลนด์ไป เมื่อรัสเซียเข้าครอบครองโปแลนด์แล้วจะได้ปกครองได้ง่ายๆ(รัสเซียมั่นใจว่ารัสเซียจะชนะเยอรมันแน่นอน)

ในกองทัพของรัสเซียนี้ ได้มีทหารชาวโปแลนด์ซึ่งแตกทัพไป เพราะเยอรมันบุกตั้งแต่ตอนปี 1939 อยู่ด้วย ทหารเหล่านี้อยากข้ามฝั่งแม่น้ำวิสวามาช่วยกลุ่มปาติสัน รัสเซียก็ไม่ห้าม แต่ก็ไม่ช่วย ดังนั้นทหารที่กำลังข้ามแม่น้ำมาก็โดนทหารเยอรมันยิงตายซะส่วนใหญ่

ในที่สุด กองกำลังปาติสัน ก็ไม่สามารถต่อสู้กับเยอรมันได้ แต่ก็สามารถต้านทางได้ถึง 63 วัน ในที่สุด ก็มีคำสั่งจากรัฐบาลพลัดถิ่นที่อยู่อังกฤษให้กลุ่มปาติสันยกธงขาวยอมแพ้ หลังจากนั้นเยอรมันก็ปฏิบัติการ Clean วอร์ซอร์ โดยใช้กลุ่มทหารที่โหดร้ายที่สุด คือพวกทหารกลุ่มหนึ่งชาวยูเครนที่มีความเกลียดชนชาติชาติโปลิชอย่างรุนแรง และใช้ทั้งกลุ่มนักโทษที่พ้นโทษมา โดยปฏิบัติการ Clean วันแรกคือ ให้ฆ่า้กลุ่มปาติสันทั้งหมด ซึ่งเหล่าปาติสันและพลเมืองก็โดนฆ่าไปหลายชีวิต ถึงแม้จะยกธงขาวแล้วก็ตาม หลังจากนั้นก็ยกเลิกคำสั่งใหม่ให้จับกลุ่มปาติสันไปไว้ที่แค้มป์ทางภาคเหนือของเยอรมันนี ส่วนพลเมืองทั่วไปก็ให้ออกจากตัวเมืองทั้งหมด จะไปไหนก็ช่าง แล้วทหารเยอรมันก็จัดการทำลายอาคารบ้านเรือนทั้งหมด ทั้งเผา ทั้งระเบิดมิให้เหลือซาก เผาแม้กระทั่งโรงพยาบาลที่มีคนป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหนีออกได้ทัน เผาทั้งเป็น เผาแม้กระทั่งทหารชาวเยอรมันด้วยกันที่ได้รับบาดเจ็บและถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาล ของชาวโปลิช เพราะเขาถือว่า คนที่รักษาตัวในโรงพยาบาลของชาวโปลิชนั้นไม่มีเกียรติ์ สมควรตาย ว่าซั่น...ไอ้หยา โหดแท้น้อ

ดังนั้น เมื่อเวลา 5 โมงเย็น (ซึ่งเป็นเวลาที่ปาติสันเริ่มปฏิบัติการ) ของวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี ทุกเมืองทั่วประเทศก็จะเปิดหวอเป็นเวลา 1 นาที เพื่อให้ทุกคนหยุดระลึกถึงวันนั้น

และทุกๆปี วอร์ซอร์จะจัดงานรำลึกวันนี้อย่างสมเกียรติ์ โดยเฉพาะ เมื่อปี 2004 เป็นวันที่ปฏิบัติการนี้ครบรอบ 60 ปี ได้เชิญนายกรัฐมนตรีของเยอรมันนีมาด้วย โดยนายกรัฐมนตรีของเยอรมัน ได้กล่าวขอโทษต่อชาวโปแลนด์ทั้งหลาย โดยในขณะที่กล่าวไป ท่านก็ร้องไห้ไปด้วย ...บางคนอาจจะสงสัยว่าร้องทำไมหว่า ก็อยากให้เข้าใจตรงนี้เลยนะคะว่า คนเยอรมันสมัยนี้ เขาไม่ได้ชื่นชมหรือภูมิใจกับสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาที่ทำแบบนั้น พวกเขาจะรู้สึกละอายเมื่อกล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่สอง จะมีก็แค่กลุ่มที่เป็นนาซีเท่านั้นที่ภูมิใจกับการปฏิบัติการของทหารนาซีเยอรมัน

ส่วนชาวโปแลนด์ก็คงได้แค่พูดว่า FORGIVE BUT NEVER FORGET ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

สัญลักษณ์ของกลุ่มกองกำลังใต้ดิน

http://www.ladyinter.com/uploads/1343/Polska_walcz_ca_flaga.jpg

ปลอกแขน ใช้ติดเป็นสัญลักษณ์ในขณะที่กลุ่มปาติสันปฏิบัติการ

http://www.ladyinter.com/uploads/1343/398140_65-lat-temu--takie-opaski-widnialy-na-prawym-ramieniu-tych-co-walczyli---eksponat-w-muzeum-powstania-warszawskiego-.jpg

ภาพหญิงสาวชาวโปแลนด์ที่ร่วมปฏิบัติการกู้ชาติด้วย

http://www.ladyinter.com/uploads/1343/Kummmant-Skotnicka_Powstani.jpg

ภาพความสูญเสีย

http://www.ladyinter.com/uploads/1343/lokajski_02-2.jpg

รูปปั้นอนุสรณ์ของยุวชนทหารที่พลีชีพเพื่อชาติ อันนี้ทุกคนที่ไปเที่ยววอร์ซอร์ตรงกำแพงเมืองเก่าน่าจะได้เห็นกันแล้วทุกคน

นี่เป็นภาพเหตุการณ์จริงทั้งหมด ส่วนเพลงประกอบเป็นของวง Sabaton ซึ่งเป็นวงดนตรีชาวสวีเดน ซึ่งเมื่อได้รู้ประวัติศาสตร์โปแลนด์แล้วก็เกิดความซาบซึ้งใจ ถึงกับแต่งเพลงหลายเพลงเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ทีเีกี่ยวโปแลนด์หลายเพลงเชียวค่ะ หลังจากนั้นก็ได้รับความนิยมไปหลายประเทศ มีคอนเสิร์ตที่โปแลนด์ รวมทั้งเยอรมันก็เชิญให้ไปออกคอนเสิร์ตที่เยอรมันนีด้วย


http://www.youtube.com/watch?v=ovlvjOoTi7s&feature=player_embedded


http://www.youtube.com/watch?v=Y7dRBmMsevk&feature=player_embedded

ที่มา http://www.ladyinter.com/forum_posts.asp?TID=7779

pone123
26th May 2012, 21:47
ทำไมไม่มีคนมาเม้นกันเลยเนี่ย -.-

theoverhang
30th May 2012, 08:24
ดันให้ครับ สาระทั้งนั้นเลย อัพเกรดสมองได้อีกเยอะ

peamchery
30th May 2012, 09:51
God bless you all

http://luongtamconggiao.files.wordpress.com/2011/10/artimage_428707_3197420_201102021829971.gif