สแควร์เอนิกส์สานต่อ "True Crime: Hong Kong" ฟื้นจากหลุม
สองบริษัทยักษ์ใหญ่สแควร์เอนิกส์และแอคติวิชันบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการสานต่อเกม "True Crime: Hong Kong" ที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้า โดยสแควร์เอนิกส์จะซื้อไปเพื่อพัฒนาและจัดจำหน่ายต่อ แต่ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นแทน
"True Crime: Hong Kong" เป็นภาคต่อลำดับที่สามของซีรีย์ทรูไครม์ เกมแอคชันอาชญากรรมภายในเมืองแบบเปิดกว้างให้อิสระผู้เล่นตัดสินใจกระทำสิ่งต่างๆเอง โดยสองภาคแรกเป็นผลงานของสตูดิโอ Luxoflux วางขายบนเครื่องคอนโซลรุ่นก่อนหน้าและพีซี ส่วนภาคใหม่นี้เปลี่ยนทีมงานผู้สร้างเป็น United Front Games แทน
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 "เอริก เฮิร์ชเบิร์ก" ซีอีโอของแอคติวิชันได้ประกาศยกเลิกภาคต่ออันนี้ไปโดยให้เหตุผลว่าตัวเกมยังทำออกมาได้ไม่ดีพอ จากเป้าหมายเดิมที่พวกเขาต้องการสร้างเกมระดับแกรนเธฟออโต 4 แบบรุนแรงน้อยกว่า ตอบรับกับนโยบายของนายใหญ่แอคติวิชัน "บ๊อบบี โคติก" ซึ่งมองว่าเกมรุ่นปัจจุบันต้องมีคุณภาพระดับสุดยอดเท่านั้นจึงจะขายได้ในตลาด
ล่าสุด ทางแอคติวิชันได้บรรลุข้อตกลงที่จะขายเกมนี้ให้กับค่ายสแควร์เอนิกส์ โดยมีบริษัทสาขาลอนดอนทีมงาน Eidos เก่ารับหน้าที่ดูแลต่อ ซึ่งเฮิร์ชเบิร์กมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีกับทุกฝ่าย ให้สแควร์เอนิกส์ได้ผลประโยชน์จากเงินลงทุนที่ทางแอคติวิชันทุ่มไปก่อนหน้า ขณะที่ United Front Games ก็ได้ทำงานต่อไปตามที่คิดไว้ ส่วนนักเล่นก็จะมีโอกาสได้สัมผัสเกมจริงๆ
อย่างไรก็ตาม แม้จะขายตัวเกมไปแต่ทางแอคติวิชันยังคงเก็บลิขสิทธิ์ชื่อซีรีย์ True Crime ไว้กับตัว ส่งผลให้ทางสแควร์เอนิกส์ต้องไปเปลี่ยนชื่อเกมใหม่เอง เช่นเดียวกับกำหนดวันขายและเครื่องที่ลง ซึ่งทั้งหมดยังไม่สามารถกำหนดได้
นับว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางค่ายแอคติวิชันต้องส่งเกมให้ค่ายอื่นไปพัฒนาหรือจัดจำหน่ายต่อ โดยก่อนหน้าก็มีเกมบริษัทกำจัดผี "โกสต์บัสเตอร์" (Ghostbusters) ในปี 2009 ที่มีค่ายอาตาริเป็นผู้รับช่วง และเกมแอคชันดนตรีร็อค "บรูทัล เลเจนด์" (Brutal Legend) ที่ค่ายอิเลคโทรนิกอาร์ตมาคว้าไป
