การหาจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น
สิ่งสำคัญที่สุดของการเล่นหุ้นก็คือ การตัดสินใจที่จะเข้าซื้อหุ้นสักตัวนึง เคยสงสัยมั๊ยว่า การจะซื้อหุ้นสักตัวนึงนี่ เราจะต้องดูอะไร หรือจะต้องทำอะไรก่อนบ้าง ลองมาทบทวนสิ่งเหล่านี้ดูว่า เราได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะเข้าซื้อหุ้นหรือไม่
http://www.jokergameth.com/stock/20160710-buy0.jpg
1. ดูความเคลื่อนไหวของหุ้นตัวที่อยากจะซื้อมานานหรือยัง ?
ความเคลื่อนไหวที่ว่านี้ก็คือ มีการสังเกตพฤติกรรมของหุ้นตัวที่สนใจมานานขนาดไหน รู้หรือเปล่าว่าราคาเมื่ออาทิตย์ก่อนเป็นเท่าไร ราคาของหุ้นตัวนี้ในอาทิตย์ก่อนเคยขึ้นไปสูงสุดเท่าไร และราคาที่เคยลงไปต่ำสุดเท่าไร (สามารถเช็คดูได้จากเมนู Quote และเลือก by Date) การที่เรารู้ข้อมูลเหล่านี้ จะทำให้รู้แนวโน้มของหุ้นว่า ในช่วงเวลาไหนจึงจะเหมาะสมกับการซื้อหุ้นตัวนี้
http://www.jokergameth.com/stock/20160710-buy2.jpg
ยกตัวอย่างจากภาพด้านบนของหุ้น TASCO หากดูราคาในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาจะรู้ว่า หุ้นตัวนี้มีราคาปิด (Close) ต่ำสุดที่ 26.50 บาท และราคาต่ำสุดที่เคยลงไปถึงก็คือ 26.25 บาท (Low) หากเราจะซื้อหุ้นตัวนี้ในราคาปิดของวันนนี้ที่ 26.50 บาท ก็น่าจะเป็นราคาที่สามารถซื้อได้ เพราะหุ้นตัวนี้มีแนวโน้มของราคาที่ขึ้นไปถึง 28.25 บาท (High) ได้
2. หุ้นตัวนั้นอยู่ในระยะที่เป็นช่วงขาขึ้นหรือไม่ ?
หลายคนอาจสงสัยว่า ขาขึ้นเป็นยังไง หุ้นที่อยู่ในระยะที่เป็นขาขึ้นก็หมายถึง มีแนวโน้มของราคาเพิ่มสูงขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไป เช่นเมื่อเดือนก่อน ราคาอยู่ในช่วง 4.00-4.10 บาท แต่พอถัดมาอีกอาทิตย์นึง หุ้นตัวเดิมมีราคาอยู่ในช่วง 4.40-4.50 บาท และในปัจจุบันราคาอยู่ในประมาณ 4.70-4.80 บาทเป็นต้น หุ้นที่มีลักษณะเช่นนี้คือหุ้นที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
http://www.jokergameth.com/stock/20160710-buy3.jpg
ค่าที่จะบอกเราได้ง่ายๆว่าหุ้นตันนั้นเป็นช่วงขาขึ้นหรือไม่ก็คือ เปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลา 1 อาทิตย์, 1 เดือน และ 3 เดือน จากตัวอย่างหุ้น TASCO จะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3 เดือนที่แล้ว (%Chg 3M) เพิ่มขึ้นถึง 9% แต่ถ้าเทียบกับเดือนที่แล้ว (%Chg 1M) ราคาในวันนี้ลดลงจากเดือนก่อน 3.64% ส่วนราคาเมื่อ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา (%Chg 1W) ราคาก็ลดลง 2.75% เช่นกัน เราอาจจะบอกได้ว่าหุ้น TASCO ในปัจจุบันนี้ ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ (ดูจาก %Chg 3M ที่มากกว่า 1M และ 1W อยู่มาก) แต่ในตอนนี้ ราคามีการย่อตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน และเดือนก่อน อาจจะเป็นการดีหากจะเข้าซื้อในช่วงนี้ เพื่อเก็บสะสม หรืออาจจะรอดูราคาของมันอีกสักระยะ เพราะเรายังไม่รู้ว่า การย่อตัวของหุ้นตัวนี้ จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกหรือไม่ เมื่อเอาข้อมูลนี้ไปรวมกับการพิจารณาข้ออื่น จะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายๆว่า สมควรซื้อหุ้นตัวนี้หรือไม่ ซื้อในราคาที่เท่าไร
3. ราคาที่จะซื้อนั้นเป็นราคาที่ "คิดว่า" ต่ำสุดหรือยัง ?
ต้องเข้าใจก่อนว่า การซื้อหุ้นให้ได้ราคาต่ำที่สุด อาจจะเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะว่าถ้าหุ้นราคาลดลงในขนาดที่ว่า เป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบปีแล้วล่ะก็ นั่นหมายถึงจะต้องมีปัจจัยหรือสาเหตุอะไรสักอย่าง ที่ทำให้ราคาของหุ้นมันตกลงขนาดนั้น การที่จะหวังให้ราคาของหุ้นนั้นตกลงมาให้ต่ำที่สุด เพื่อให้เราสามารถซื้อหุ้นมาได้ จากนั้นราคาของหุ้นก็เพิ่มขึ้นไปทันที ความคิดแบบนี้อาจจะเป็นไปไม่ได้ การซื้อหุ้นที่ดี ควรจะซื้อหุ้นในระยะที่หุ้นนั้นอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ควรหาจังหวะเข้าซื้อในราคาที่ "คิดว่า" ต่ำสุดของวัน หรือต่ำสุดในช่วงสัปดาห์หรือราคาที่เราเห็นว่าเหมาะสมแล้ว
4. มีเหตุการณ์อะไรในอนาคตข้างหน้า(อันใกล้) บ้าง ที่จะทำให้หุ้นตัวนั้นมีแนวโน้มของราคาที่เพิ่มขึ้น ?
นักเล่นเกมที่เข้ามาในวงการหุ้น หรือคนเล่นหุ้นที่มีใจหรือนิสัยเหมือนนักเล่นเกม มักจะมีความรู้สึกว่า การซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งไปแล้ว หวังจะให้หุ้นตัวนั้นมันขึ้นทันทีทันใด หากซื้อหุ้นแล้วราคามันวิ่งแบบนั้นได้ก็ดีไปครับ แต่ส่วนมากมักจะไม่เป็นอย่างนั้น สิ่งที่เราควรมองตอนที่คิดจะซื้อหุ้นก็คือ มีข่าว, ข้อมูล หรือสิ่งต่างๆที่จะเป็นผลบวกต่อหุ้นตัวนั้นหรือไม่ เช่นใกล้ถึงวันจะมีการปันผล, มีการประมูลโครงการใหญ่ๆที่จะทำให้เพิ่มกำไรกับบริษัท หรือแม้แต่ผลประกอบการที่กำลังจะออกในระนะเวลาอันใกล้ที่คาดว่าจะเป็นผลดีต่อหุ้นตัวนั้น ข้อมูลเหล่านี้เป็นแรงเสริมให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น เมื่อเรามีข้อมูลเหล่านี้แล้ว เราจำเป็นต้องหาจังหวะเข้าซื้อ "ก่อน" ที่เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้น
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรจะพิจารณาให้ดีก่อนการเข้าซื้อหุ้น หากทำได้อย่างรอบคอบ เราจะถือหุ้นตัวนั้นได้อย่างสบายใจครับ
