EA ปล่อย Teaser Trailer ของ Need For Speed ภาคใหม่ !!!

http://s20.postimg.org/pdpknmg8d/bar55.jpg

|||| นักซิ่งเตรียม เฮ ได้เเล้ว !!! ||||

http://s20.postimg.org/vh757j6i5/vlc...3h19m00s45.jpg

http://s20.postimg.org/pdpknmg8d/bar55.jpg

วันนี้ (21 พ.ค.) EA ได้ปล่อยตัว Teaser Trailer ของเกม Need For Speed ภาคใหม่ ซึ่งภายในคลิปบอกไว้ด้วยว่า เป็นภาพของตัวเกมจริงๆ (All Footage capture in game) บอกได้เลยว่า กราฟฟิคโหดสุดๆ !!! และตัว Trailer เต็ม จะออกมาภายในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เหล่านักซิ่ง ต้องคอยติดตามข่าวกันต่อไปนะคราบบ !!

http://s20.postimg.org/pdpknmg8d/bar55.jpg

https://www.youtube.com/watch?v=ybZ5...o&sf38228000=1

http://s20.postimg.org/pdpknmg8d/bar55.jpg

แต่งรถได้ ซื้อแน่นอน

ตกใจนึกว่าแข่งรถ6ล้อ บิบแตรซะดังเชียว

เห็นแว๊บๆ Mustang ใช่ป่าวคันขาวน่ะ พี่ชักฟินแล้วสิ :gamer

เหมือนเห็น 240sx เยียดเปียด

อูยยยยยยย ตื่นเติ้ลๆๆๆ

รอๆ อยากได้ความรู้สึกเดิมๆกลับมา ^^

เกมโลกยุคสมัยปัจจุบัน ทำไมเดี๋ยวนี้ชอบใช้เมือง LA จัง

http://i.ytimg.com/vi/MHH8E1pAHvY/maxresdefault.jpg

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ LucifeX

http://i.ytimg.com/vi/MHH8E1pAHvY/maxresdefault.jpg

---

Fanart นะจ้ะ

แต่งรถได้ เพลงโจ๊ะๆ ระบบแบล็คลิส ผมนี่ช๊อบบชอบบบ ป่วนตำรวจได้ ซ่อนได้

ภาคต่อ carbon เด๊ะๆ คิดถึงบอสแต่ละตัวมากๆ ดริฟตกเขา

ถ้าแต่งรถได้นั้นแหละ มันคือ need for speed จริงๆ

สาธุขอความรู้สึกแบบ NFS แบบเดิมคืนมาสู่ปวงชนเทิด

โอ้ว บอกเลย ดูแล้วขนลุก แค่เพลงมานิดๆก็เริ่มเดาๆทางเกมส์ได้ละ :music

ผมคิดว่าน่าจะเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว อุตส่าพักไปตั้ง1ปี ปกติออกปีละภาค คราวนี้เป็นครั้งแรกที่ขอเวลา 2 ปี ดูจากบอดี้รถของโปสเตอร์แล้ว แต่งมาทั้งนั้น

หลายๆคนถามว่าทำไมไม่ทำภาคต่อแบบ underground สักที ปัจจุบัน ค่าลิขสิทธิของแต่งแพงมากครับ บางบริษัทที่ผลิตรถไม่อนุญาติให้นำรถไปแต่ง ปัญหามันมาจากหลายๆอย่างครับ ไม่ใช่ว่ามีเงินจะซื้อได้หมด

แคปเจอร์จากเกมตอน คัทซีน อะดิ่ เทรลเลอร์เวอร์งี้ทุกเกมอะ ออกมาจริงๆมีไม่กี่เกมหรอก ที่สวยจริงๆเหมือนที่เอามาโชว์

(สาธุขอให้สวยจริงๆเหมือนที่โม้ ชอบมากเกมภาพสวยๆ)

หูวววว ได้ฟีลแบบ UG2 เลยครับ คิดถึงจัง 55555

ให้มันจริง:clap

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ lankinpark

ถ้าแต่งรถได้นั้นแหละ มันคือ need for speed จริงๆ

---

จริงๆตระกูล Need For Speed (NFS) ยุคบุกเบิกแต่งรถไม่ได้นะครับ เป็น เกมสไตล์ Casual Racing คือเลือกรถ เลือกสีแล้วเอามาอัดกันเลย ออกภาคแรกในปี 1994 บนเครื่อง 3DO (ลงให้ PC ระบบ DOS ในปี 1995 และ PS1 ในปี 1997) แต่จุดเด่นที่เปน Original ของ NFS คือ "การแข่งบนถนนหลวง" "ตำรวจ" กับ "Supercar" ครับ
(รู้จักค่าย McLaren เพราะเกมนี้แหละครับ:cool:)


ซี่รี่ย์ที่บุกเบิกการแต่งรถจริงๆจังคือ Gran Turismo (GT) เริ่มจำหน่ายปี 1997 Exclusive ให้ PS1 ครับ เป็น Racing Simulator ให้เรารับบทเป็นนักแข่งหน้าใหม่ เก็บตังซื้อรถ แต่งรถ จากรถบ้านค่อยๆกลายเป็นรถสนาม แต่เป็นการแข่งสไตล์ Circuit คือแข่งในสนาม
ถึงซี่รี่ย์ NFS จะทำลงให้กับ PS เหมือนกันแต่ในเวลานั้นสู้ GT ไม่ได้ ด้วยมิติของเกมที่ในเวลานั้น GT ทำออกมาได้ดีกว่ามาก ถ้ายุคนั้นใครทันเล่นตอนออกใหม่ๆ GT เป็นอะไรที่อลังกาลมากจากภาพ 2.5D เป็น 3D Polygon โดยเฉพาะภาค 2 ในปี 1999 สนามแข่งเกือบ 30 สนาม รถมากกว่า 600 คันที่แต่งได้ทุกคัน ถึงจะแค่แต่งอัพเกรดแบบ Step แต่จุดที่สนุกของ GT คือการ เลือกรถ และ จูนรถ รถบางคัน Spec เดิมแรงแต่แต่งแล้วแรงม้าไม่ขึ้น บางคัน Spec เดิมมาห่วยแต่แต่งแล้วเทพ...
(จำได้สมัยก่อนเถียงกับเพื่อนว่าคันไหนวิ่งเร็วสุดในเกม เพื่อนผมมันบอก Suzuki Escudo เพราะมันเล่นตาม Spec เดิมไม่ได้จูน วิ่ง 380 กว่าๆ แต่แรงสุดที่ผมทำได้ในตอนนั้นคือ Toyota GT One Street Version วิ่งได้ 400 กม./ชม. นิดๆไม่ใช้ ActionReplay:gamer)

เกมซีรี่ย์ NFS นี้เพิ่งมาประสบความสำเร็จจริงๆจังๆคือช่วงภาค Underground 1-2 ภาค 1 เริ่มดังเพราะเกาะกระแสหนัง Fast&Furious ภาคแรกในปี 2001 ด้วย (Underground 1 ออกปี 2003) ยุค Peak จริงๆคือภาค 2 เพราะแต่งรถได้จูนได้ + ธีม F&F โดนใจคนมากกว่าเลยติดภาพเป็นเอกลักษณ์ไป ด้วย Gameplay ที่เข้าถึงได้ทุกระดับคน ตั้งแต่คนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถเลยซื้อรถมา ยัดของแต่งแพงๆแล้วเอาไปแข่งก็ได้ หรือ ผู้เล่น Hardcore จะปรับจูนรถเองก็ได้ (วันๆแข่งไม่กี่สนาม นั่ง Dyno รถทั้งวัน สมัยนั้น) แล้วปรับความยากเป็น Hard อีกทั้งเป็นเกมแรกๆที่ทำระบบ Drift ออกมาได้ OK (GT ก็ดริฟได้แต่ต้องจูนเป็น + ขับเป็นซึ่งคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้และในสมัยนั้นการ Drift ยังไม่แพร่หลายจะรู้จักก็แต่พวกบ้ารถญี่ปุ่น หรืออ่าน Initial D ซึ่งสยามอินเตอร์คอมมิค ตีพิมภาษาไทยปี 1998:sweat)และก็อาศัยโมเดลนี้หากินมาจนถึงภาค Carbon

(โดยมี Most Wanted ภาคแรกเข้ามาคั่นกลางเพราะคนเบื่อธีมกลางคืนแล้ว ซึ่งก็นับว่าประสบความสำเร็จแต่ยังไม่เท่า Underground 2 )


ซึ่งต่อหลังๆมา EA พยายามผลักดันให้ NFS เปลี่ยนจาก Casual Racing ไปเป็น Racing Sim.(อาจจะด้วยในตอนนั้นคนเริ่มเบื่อธีม NightClub Racing + หมดมุก)เป็นภาค Prostreet แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากระบบ Physic ของตัวรถที่ เอ่อ..... มันไม่ใช่อ่ะ จนพัตนามาเป็น NFS:Shift ซึ่งก็ยังไม่ใช่อยู่ดี ด้วยความที่ EA เลือกที่จะเก็บความเป็น Casual Racing ไว้คือพยายามทำระบบ Physic มาให้เล่นง่าย(แต่ในความเป็นจริงโคตรยาก อาจจะด้วยEffect กล้องที่แกว่งไปมาจนรู้สึกว่าขับรถให้ไปตรงๆมันยากจริง เหมือนรถจะกินซ้าย กินขวาตลอดเวลา:scare)แต่ดันจั่วหัวว่าเป็น Race Sim. ซึ่งทำให้ผู้เล่น Hardcore ค่อนข้างผิดหวัง

(แต่โดยส่วนตัวผมชอบระบบการแต่งรถ + แต่งลาย Vinyl ภาคนี้นะถึงจะมี Bug บ้างแต่โดย Concept แล้วทำออกมาค่อนข้างดี แต่อย่างที่บอก Physic มันไม่ใช่อ่ะ...:sweat)


ในขณะเดียวกันที่กำลังพัฒนา ProStreet อยู่ EA ก็ยังไม่กล้าที่จะผลักดันให้ NFS ไปทาง Race Sim. เต็มที่ (แหงละ) เลยจัดตั้งทีมคู่ขนาน ให้ทำ NFS ในสไตล์ Casual Racing ต่อไปออกมาเป็น NFS:Undercover ซึ่งดันไปตัดระบบแต่งรถออกซะหมดเลยแป่กไปตามระเบียบ
(ก็เราเคยกินเนื้อหงษ์ใน Underground 2 นี่นา พอมาเจอเนื้อไก่ก็ย่อมไม่อร่อยเหมือนเดิมเป็นธรรมดา:D)

หลังจากที่ EA พยายามค้นหาตัวตนใหม่ให้ NFS แต่ยังหาไม่เจอซักทีและโดนผู้เล่นสับเละเทะไป 4 ภาค(Prostreet,Undercover,Shift,NFS:World) เลยไปดึงทีม Criterion Games ผู้สร้าง Burnout มา Remake Hot Pursuit ในปี 2010 ซึ่งก็พอช่วยกู้สถานการณ์กลับมาได้บ้าง แต่ตัวเกมดันมีกลิ่น Burnout ติดมามากเกินไปจนบางคนตั้งชื่อเล่นให้ว่า Burnout:Hot Pursuit ซะมากกว่า เลยยังไม่ประทับใจแฟนๆเท่าไรนัก และ Remake ภาค Most Wanted ในปี 2012 ก็ออกมาค่อนข้างโอเค สามารถสลัดกลิ่น Burnout ออกไปได้พอสมควรแต่ก็มาแป่กตรงที่ตัวเกมแทบไม่มีมิติเลย

(แข่ง แข่ง หนีตำรวจ แข่ง หนีตำรวจ... วนไปวนมาทั้งเกม:sweat)


ปล.ไม่ได้ว่าอะไร คคห.นี้นะครับ พอดีอ่านผ่านแล้วนึกอยากเล่าสู่กันฟังเลย Quote มาเฉยๆ
ปล2. ค่อนข้างจะอวย GT เลยนะเนี่ย....:o

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ nakuno

ตกใจนึกว่าแข่งรถ6ล้อ บิบแตรซะดังเชียว

เห็นแว๊บๆ Mustang ใช่ป่าวคันขาวน่ะ พี่ชักฟินแล้วสิ :gamer

---

Mustang จริง ๆ ด้วยอ่ะท่าน ผมนี้ขนลุกเลย :gamer:gamer

ลองจับผิด ไม่มีคนอยุ่ในรถ 5555

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ MakeMeMelt

จริงๆตระกูล Need For Speed (NFS) ยุคบุกเบิกแต่งรถไม่ได้นะครับ เป็น เกมสไตล์ Casual Racing คือเลือกรถ เลือกสีแล้วเอามาอัดกันเลย ออกภาคแรกในปี 1994 บนเครื่อง 3DO (ลงให้ PC ระบบ DOS ในปี 1995 และ PS1 ในปี 1997) แต่จุดเด่นที่เปน Original ของ NFS คือ "การแข่งบนถนนหลวง" "ตำรวจ" กับ "Supercar" ครับ
(รู้จักค่าย McLaren เพราะเกมนี้แหละครับ:cool:)


ซี่รี่ย์ที่บุกเบิกการแต่งรถจริงๆจังคือ Gran Turismo (GT) เริ่มจำหน่ายปี 1997 Exclusive ให้ PS1 ครับ เป็น Racing Simulator ให้เรารับบทเป็นนักแข่งหน้าใหม่ เก็บตังซื้อรถ แต่งรถ จากรถบ้านค่อยๆกลายเป็นรถสนาม แต่เป็นการแข่งสไตล์ Circuit คือแข่งในสนาม
ถึงซี่รี่ย์ NFS จะทำลงให้กับ PS เหมือนกันแต่ในเวลานั้นสู้ GT ไม่ได้ ด้วยมิติของเกมที่ในเวลานั้น GT ทำออกมาได้ดีกว่ามาก ถ้ายุคนั้นใครทันเล่นตอนออกใหม่ๆ GT เป็นอะไรที่อลังกาลมากจากภาพ 2.5D เป็น 3D Polygon โดยเฉพาะภาค 2 ในปี 1999 สนามแข่งเกือบ 30 สนาม รถมากกว่า 600 คันที่แต่งได้ทุกคัน ถึงจะแค่แต่งอัพเกรดแบบ Step แต่จุดที่สนุกของ GT คือการ เลือกรถ และ จูนรถ รถบางคัน Spec เดิมแรงแต่แต่งแล้วแรงม้าไม่ขึ้น บางคัน Spec เดิมมาห่วยแต่แต่งแล้วเทพ...
(จำได้สมัยก่อนเถียงกับเพื่อนว่าคันไหนวิ่งเร็วสุดในเกม เพื่อนผมมันบอก Suzuki Escudo เพราะมันเล่นตาม Spec เดิมไม่ได้จูน วิ่ง 380 กว่าๆ แต่แรงสุดที่ผมทำได้ในตอนนั้นคือ Toyota GT One Street Version วิ่งได้ 400 กม./ชม. นิดๆไม่ใช้ ActionReplay:gamer)

เกมซีรี่ย์ NFS นี้เพิ่งมาประสบความสำเร็จจริงๆจังๆคือช่วงภาค Underground 1-2 ภาค 1 เริ่มดังเพราะเกาะกระแสหนัง Fast&Furious ภาคแรกในปี 2001 ด้วย (Underground 1 ออกปี 2003) ยุค Peak จริงๆคือภาค 2 เพราะแต่งรถได้จูนได้ + ธีม F&F โดนใจคนมากกว่าเลยติดภาพเป็นเอกลักษณ์ไป ด้วย Gameplay ที่เข้าถึงได้ทุกระดับคน ตั้งแต่คนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถเลยซื้อรถมา ยัดของแต่งแพงๆแล้วเอาไปแข่งก็ได้ หรือ ผู้เล่น Hardcore จะปรับจูนรถเองก็ได้ (วันๆแข่งไม่กี่สนาม นั่ง Dyno รถทั้งวัน สมัยนั้น) แล้วปรับความยากเป็น Hard อีกทั้งเป็นเกมแรกๆที่ทำระบบ Drift ออกมาได้ OK (GT ก็ดริฟได้แต่ต้องจูนเป็น + ขับเป็นซึ่งคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้และในสมัยนั้นการ Drift ยังไม่แพร่หลายจะรู้จักก็แต่พวกบ้ารถญี่ปุ่น หรืออ่าน Initial D ซึ่งสยามอินเตอร์คอมมิค ตีพิมภาษาไทยปี 1998:sweat)และก็อาศัยโมเดลนี้หากินมาจนถึงภาค Carbon

(โดยมี Most Wanted ภาคแรกเข้ามาคั่นกลางเพราะคนเบื่อธีมกลางคืนแล้ว ซึ่งก็นับว่าประสบความสำเร็จแต่ยังไม่เท่า Underground 2 )


ซึ่งต่อหลังๆมา EA พยายามผลักดันให้ NFS เปลี่ยนจาก Casual Racing ไปเป็น Racing Sim.(อาจจะด้วยในตอนนั้นคนเริ่มเบื่อธีม NightClub Racing + หมดมุก)เป็นภาค Prostreet แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากระบบ Physic ของตัวรถที่ เอ่อ..... มันไม่ใช่อ่ะ จนพัตนามาเป็น NFS:Shift ซึ่งก็ยังไม่ใช่อยู่ดี ด้วยความที่ EA เลือกที่จะเก็บความเป็น Casual Racing ไว้คือพยายามทำระบบ Physic มาให้เล่นง่าย(แต่ในความเป็นจริงโคตรยาก อาจจะด้วยEffect กล้องที่แกว่งไปมาจนรู้สึกว่าขับรถให้ไปตรงๆมันยากจริง เหมือนรถจะกินซ้าย กินขวาตลอดเวลา:scare)แต่ดันจั่วหัวว่าเป็น Race Sim. ซึ่งทำให้ผู้เล่น Hardcore ค่อนข้างผิดหวัง

(แต่โดยส่วนตัวผมชอบระบบการแต่งรถ + แต่งลาย Vinyl ภาคนี้นะถึงจะมี Bug บ้างแต่โดย Concept แล้วทำออกมาค่อนข้างดี แต่อย่างที่บอก Physic มันไม่ใช่อ่ะ...:sweat)


ในขณะเดียวกันที่กำลังพัฒนา ProStreet อยู่ EA ก็ยังไม่กล้าที่จะผลักดันให้ NFS ไปทาง Race Sim. เต็มที่ (แหงละ) เลยจัดตั้งทีมคู่ขนาน ให้ทำ NFS ในสไตล์ Casual Racing ต่อไปออกมาเป็น NFS:Undercover ซึ่งดันไปตัดระบบแต่งรถออกซะหมดเลยแป่กไปตามระเบียบ
(ก็เราเคยกินเนื้อหงษ์ใน Underground 2 นี่นา พอมาเจอเนื้อไก่ก็ย่อมไม่อร่อยเหมือนเดิมเป็นธรรมดา:D)

หลังจากที่ EA พยายามค้นหาตัวตนใหม่ให้ NFS แต่ยังหาไม่เจอซักทีและโดนผู้เล่นสับเละเทะไป 4 ภาค(Prostreet,Undercover,Shift,NFS:World) เลยไปดึงทีม Criterion Games ผู้สร้าง Burnout มา Remake Hot Pursuit ในปี 2010 ซึ่งก็พอช่วยกู้สถานการณ์กลับมาได้บ้าง แต่ตัวเกมดันมีกลิ่น Burnout ติดมามากเกินไปจนบางคนตั้งชื่อเล่นให้ว่า Burnout:Hot Pursuit ซะมากกว่า เลยยังไม่ประทับใจแฟนๆเท่าไรนัก และ Remake ภาค Most Wanted ในปี 2012 ก็ออกมาค่อนข้างโอเค สามารถสลัดกลิ่น Burnout ออกไปได้พอสมควรแต่ก็มาแป่กตรงที่ตัวเกมแทบไม่มีมิติเลย

(แข่ง แข่ง หนีตำรวจ แข่ง หนีตำรวจ... วนไปวนมาทั้งเกม:sweat)


ปล.ไม่ได้ว่าอะไร คคห.นี้นะครับ พอดีอ่านผ่านแล้วนึกอยากเล่าสู่กันฟังเลย Quote มาเฉยๆ
ปล2. ค่อนข้างจะอวย GT เลยนะเนี่ย....:o

---

ถูกต้องเลยครับ ความเป็นNFS มันอยุ่ที่การ แข่งรถ ไม่ใช่แต่งรถ

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ MakeMeMelt

จริงๆตระกูล Need For Speed (NFS) ยุคบุกเบิกแต่งรถไม่ได้นะครับ เป็น เกมสไตล์ Casual Racing คือเลือกรถ เลือกสีแล้วเอามาอัดกันเลย ออกภาคแรกในปี 1994 บนเครื่อง 3DO (ลงให้ PC ระบบ DOS ในปี 1995 และ PS1 ในปี 1997) แต่จุดเด่นที่เปน Original ของ NFS คือ "การแข่งบนถนนหลวง" "ตำรวจ" กับ "Supercar" ครับ
(รู้จักค่าย McLaren เพราะเกมนี้แหละครับ:cool:)


ซี่รี่ย์ที่บุกเบิกการแต่งรถจริงๆจังคือ Gran Turismo (GT) เริ่มจำหน่ายปี 1997 Exclusive ให้ PS1 ครับ เป็น Racing Simulator ให้เรารับบทเป็นนักแข่งหน้าใหม่ เก็บตังซื้อรถ แต่งรถ จากรถบ้านค่อยๆกลายเป็นรถสนาม แต่เป็นการแข่งสไตล์ Circuit คือแข่งในสนาม
ถึงซี่รี่ย์ NFS จะทำลงให้กับ PS เหมือนกันแต่ในเวลานั้นสู้ GT ไม่ได้ ด้วยมิติของเกมที่ในเวลานั้น GT ทำออกมาได้ดีกว่ามาก ถ้ายุคนั้นใครทันเล่นตอนออกใหม่ๆ GT เป็นอะไรที่อลังกาลมากจากภาพ 2.5D เป็น 3D Polygon โดยเฉพาะภาค 2 ในปี 1999 สนามแข่งเกือบ 30 สนาม รถมากกว่า 600 คันที่แต่งได้ทุกคัน ถึงจะแค่แต่งอัพเกรดแบบ Step แต่จุดที่สนุกของ GT คือการ เลือกรถ และ จูนรถ รถบางคัน Spec เดิมแรงแต่แต่งแล้วแรงม้าไม่ขึ้น บางคัน Spec เดิมมาห่วยแต่แต่งแล้วเทพ...
(จำได้สมัยก่อนเถียงกับเพื่อนว่าคันไหนวิ่งเร็วสุดในเกม เพื่อนผมมันบอก Suzuki Escudo เพราะมันเล่นตาม Spec เดิมไม่ได้จูน วิ่ง 380 กว่าๆ แต่แรงสุดที่ผมทำได้ในตอนนั้นคือ Toyota GT One Street Version วิ่งได้ 400 กม./ชม. นิดๆไม่ใช้ ActionReplay:gamer)

เกมซีรี่ย์ NFS นี้เพิ่งมาประสบความสำเร็จจริงๆจังๆคือช่วงภาค Underground 1-2 ภาค 1 เริ่มดังเพราะเกาะกระแสหนัง Fast&Furious ภาคแรกในปี 2001 ด้วย (Underground 1 ออกปี 2003) ยุค Peak จริงๆคือภาค 2 เพราะแต่งรถได้จูนได้ + ธีม F&F โดนใจคนมากกว่าเลยติดภาพเป็นเอกลักษณ์ไป ด้วย Gameplay ที่เข้าถึงได้ทุกระดับคน ตั้งแต่คนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถเลยซื้อรถมา ยัดของแต่งแพงๆแล้วเอาไปแข่งก็ได้ หรือ ผู้เล่น Hardcore จะปรับจูนรถเองก็ได้ (วันๆแข่งไม่กี่สนาม นั่ง Dyno รถทั้งวัน สมัยนั้น) แล้วปรับความยากเป็น Hard อีกทั้งเป็นเกมแรกๆที่ทำระบบ Drift ออกมาได้ OK (GT ก็ดริฟได้แต่ต้องจูนเป็น + ขับเป็นซึ่งคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้และในสมัยนั้นการ Drift ยังไม่แพร่หลายจะรู้จักก็แต่พวกบ้ารถญี่ปุ่น หรืออ่าน Initial D ซึ่งสยามอินเตอร์คอมมิค ตีพิมภาษาไทยปี 1998:sweat)และก็อาศัยโมเดลนี้หากินมาจนถึงภาค Carbon

(โดยมี Most Wanted ภาคแรกเข้ามาคั่นกลางเพราะคนเบื่อธีมกลางคืนแล้ว ซึ่งก็นับว่าประสบความสำเร็จแต่ยังไม่เท่า Underground 2 )


ซึ่งต่อหลังๆมา EA พยายามผลักดันให้ NFS เปลี่ยนจาก Casual Racing ไปเป็น Racing Sim.(อาจจะด้วยในตอนนั้นคนเริ่มเบื่อธีม NightClub Racing + หมดมุก)เป็นภาค Prostreet แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากระบบ Physic ของตัวรถที่ เอ่อ..... มันไม่ใช่อ่ะ จนพัตนามาเป็น NFS:Shift ซึ่งก็ยังไม่ใช่อยู่ดี ด้วยความที่ EA เลือกที่จะเก็บความเป็น Casual Racing ไว้คือพยายามทำระบบ Physic มาให้เล่นง่าย(แต่ในความเป็นจริงโคตรยาก อาจจะด้วยEffect กล้องที่แกว่งไปมาจนรู้สึกว่าขับรถให้ไปตรงๆมันยากจริง เหมือนรถจะกินซ้าย กินขวาตลอดเวลา:scare)แต่ดันจั่วหัวว่าเป็น Race Sim. ซึ่งทำให้ผู้เล่น Hardcore ค่อนข้างผิดหวัง

(แต่โดยส่วนตัวผมชอบระบบการแต่งรถ + แต่งลาย Vinyl ภาคนี้นะถึงจะมี Bug บ้างแต่โดย Concept แล้วทำออกมาค่อนข้างดี แต่อย่างที่บอก Physic มันไม่ใช่อ่ะ...:sweat)


ในขณะเดียวกันที่กำลังพัฒนา ProStreet อยู่ EA ก็ยังไม่กล้าที่จะผลักดันให้ NFS ไปทาง Race Sim. เต็มที่ (แหงละ) เลยจัดตั้งทีมคู่ขนาน ให้ทำ NFS ในสไตล์ Casual Racing ต่อไปออกมาเป็น NFS:Undercover ซึ่งดันไปตัดระบบแต่งรถออกซะหมดเลยแป่กไปตามระเบียบ
(ก็เราเคยกินเนื้อหงษ์ใน Underground 2 นี่นา พอมาเจอเนื้อไก่ก็ย่อมไม่อร่อยเหมือนเดิมเป็นธรรมดา:D)

หลังจากที่ EA พยายามค้นหาตัวตนใหม่ให้ NFS แต่ยังหาไม่เจอซักทีและโดนผู้เล่นสับเละเทะไป 4 ภาค(Prostreet,Undercover,Shift,NFS:World) เลยไปดึงทีม Criterion Games ผู้สร้าง Burnout มา Remake Hot Pursuit ในปี 2010 ซึ่งก็พอช่วยกู้สถานการณ์กลับมาได้บ้าง แต่ตัวเกมดันมีกลิ่น Burnout ติดมามากเกินไปจนบางคนตั้งชื่อเล่นให้ว่า Burnout:Hot Pursuit ซะมากกว่า เลยยังไม่ประทับใจแฟนๆเท่าไรนัก และ Remake ภาค Most Wanted ในปี 2012 ก็ออกมาค่อนข้างโอเค สามารถสลัดกลิ่น Burnout ออกไปได้พอสมควรแต่ก็มาแป่กตรงที่ตัวเกมแทบไม่มีมิติเลย

(แข่ง แข่ง หนีตำรวจ แข่ง หนีตำรวจ... วนไปวนมาทั้งเกม:sweat)


ปล.ไม่ได้ว่าอะไร คคห.นี้นะครับ พอดีอ่านผ่านแล้วนึกอยากเล่าสู่กันฟังเลย Quote มาเฉยๆ
ปล2. ค่อนข้างจะอวย GT เลยนะเนี่ย....:o

---

ผมเห็นด้วยนะ NFS แบบ Original จริงๆ ตั้งแต่ภาค 1-6 (UG 1 คือภาค 7) คือการเอา Super Cars มาอัดกันบนถนนแบบนี่พวกคุณเบื่อกันนี่แหละ ผมเล่นมาตั้งแต่ภาค 3 Hot Pursuit ภาคแรก (ช่วงปี 2001) ตอนนั้น mod รถได้เต็มไปหมด (มีใครร่วมรุ่นกับผมปะนิ 55) แต่ก็ต้องยอมรับว่าการมาของ Underground มันจุด NFS ติดจริงๆจนคนรู้จักกันเยอะขึ้น ผมติดแค่บางภาคน่ะ Hot Pursuit 1 (ภาค 3), Porches Unleashed (ภาค 5), UG2, most Wanted 2005, Carbon, Hot Pursuit 2010 ล่าสุดยังเสียดายภาค Rival ซื้อมาทิ้งห่วยจริงๆ

ผมกลัวว่าการปลดล็อคชิ้นส่วนต่างมันจะหนักๆไปทาง dlc น่ะสิ EA ยุคนี้ซะด้วย

ตอนนี้มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าภาคนี้มันคือการ Reboot อย่างเป็นทางการของซีรี่ย์แข่งรถในตำนานที่จะให้คุณได้คืนสู่เหย้าที่จะได้แต่งรถแล้วนำมาแข่งกันบนถนนหลวงอีกครั้ง โดยในภาคนี้ได้ทีมผู้พัฒนา Ghost Games ที่เคยฝากผลงานเอาไว้อย่าง Need For Speed: Most Wanted, Need For Speed: Rival กับ Need for Speed Shift 2: Unleashed ซึ่งทางผู้พัฒนาได้เผยข้อมูลว่าภาคนี้ใครที่โหยหาการแต่งรถคุณจะได้แต่งรถคันเก่งของคุณแบบไม่เคยสัมผัสภาคไหนมาก่อน บรรยากาศภายในเกมจะเป็นรูปแบบ Open World ที่จะให้คุณได้แข่งรถกันมันส์และเร้าใจมากกว่าภาคไหนๆ ซึ่งทาง Electronic Arts [EA] กับ Ghost Games ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าตัวอย่างเต็มและเกมเพลย์จะโชว์ภายในงานมหกรรมเกมโชว์สุดยิ่งใหญ่ E3 2015 ในวันที่ 16 มิถุนายน เวลา 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดให้ได้ชมกันด้วย

เค้าว่ามางี้ก็น่าจะเฮได้

เหมือนเห็น skyline c10 แวปๆ ไม่รุ้ใช่หรือป่าว ขอรถ retro เยอะๆนะภาคนี้