ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 22 จากทั้งหมด 22
  1. #1
    รักแฟนเป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Udon Thani
    กระทู้
    749
    กล่าวขอบคุณ
    1,340
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,934

    Angry อิซเซ ซากาวะ__ มนุษย์กินคน อันดับ 7 ของโลก





    ซา กาวะมีรูปร่างเตี้ยมากสูงไม่เกิน ๕ ฟุต มือเท้ามีขนาดเล็ก เสียงพูดก็แหลมเหมือนผู้หญิง และมีท่าทางกระตุ้งกระติ้งออกไปทางผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย มีแนวโน้มอาจเป็นพวกลักเพศ

    ซา กาวะเป็นเด็กที่ฉลาดมากแต่ร่างกายค่อน ข้างอ่อนแอ ผอม และค่อนข้างกังวลเรื่องส่วนสูงของตนเอง แต่เขาชอบวรรณกรรมซึ่งจากความชอบนี้เองทำให้เขามีความรู้ในภาษาต่างประเทศ หลายภาษา จนสามารถไปเรียนต่อวิชาวรรณคดีอังกฤษที่มหาวิทยาลัยวาโกอย่างสบายและที่ ยุโรปนี้เอง เขาได้เกิดหลงใหลสตรีชาวยุโรปที่รูปร่างสูงกว่าเขาและหลงรักพวกเธออย่างลึก ซึ้งซึ้งจนอยากกินพวกเธอ


    เรนี ฮาร์เทเวล

    ระหว่างที่อิสเซทำการศึกษาที่ "สถาบัน เซนซิแยร์" ในมหานครกรุงปารีส ในปี ค.ศ. ๑๙๘๑

    อิสเซได้ตกหลุมรักนักศึกษาชาวยุโรปคนหนึ่งชื่อเรนี ฮาร์เทเวลท์ ที่นั่งถัดไปในห้องเรียน

    เร นีเป็นสาวสวยชาวยุโรปเหนืออายุ ๒๕ ปี ผมสีบบลอนด์ พูดได้ถึง ๓ ภาษา เธอตั้งเป้าหมายว่าจะเรียนให้จบปริญญาเอกด้านวรรณคดีฝรั่งเศสเพื่อประกอบ อาชีพในอนาคต

    อิสเซหลงรักเธอจนหักห้ามใจไม่ได้ทุกครั้งที่เห็นแขนขาวเนียนของเธอ เรนีเป็นผู้หญิงในฝันของเขา เขาต้องหาทางให้ถึงตัวเธอให้จงได้

    ระยะแรกอิสเซปูทางด้วยการขอให้เรนีสอนภาษาเยอรมันให้เขา โดยเสนอค่าจ้างในราคาสูงๆ เรนียอมรับข้อเสนอนี้

    อิส เซเริ่มแผนการด้วยการเขียนจดหมายสารภาพรักกับเธอ นัดเธอไปดูคอนเสิร์ตและนิทรรศการศิลปะต่างๆ แม้ว่าอิสเซจะตัวเล็กและเดินกระตุ้งกระติ้งแบบผู้หญิงแต่เรนีก็ไม่ได้ รังเกียจที่จะไปไหนมาไหนด้วยกัน จนบางครั้งเรนีก็ชวนอิสเซไปกินน้ำชาบ้านของตัวเอง บางครั้งก็เต้นรำด้วยกัน

    แต่ บางครั้งอิสเซก็มักแสดงพฤติกรรมวิปริตให้เรนีเห็นบ่อยๆ เช่น ครั้งหนึ่งอิสเซเชิญเรนีมาที่อพาร์ทเมนต์เพื่อรับประทานอาหารค่ำ อิสเซให้เรนีอ่านกวีคลาสสิกของเยอรมัน เธอทำตามที่อิสเซต้องการ พอเรนีออกไปแล้วกลับก็พบอิสเซแสดงอารมณ์วิปริตออกมา เขาสูดดมกลิ่นที่เก้าอี้ที่เรนินั่ง ใช้ลิ้นเลียที่ผ้าบุเก้าอี้ พร้อมสบถว่าแม่คุณเอ๋ยฉันจะกินเธอให้อิ่มแปล้ให้จงได้

    เรนีเห็นพฤติกรรมของอิสเซ ดูแล้วน่าขยะแขยงอย่างยิ่ง

    และ แล้ววันนั้นก็มาถึง.....................(จากคำให้การของอิสเซใน เวลาต่อมาบอกว่าเขามีความคิดที่จะฆ่าโสเภณีเพื่อฆ่ากินศพหลายครั้งแล้ว แต่ตัดใจก่อนเพราะทำไม่ลง)


    ขอตัดเข้าสู่ฉากไคลแม็กซ์เลยละกัน


    ๑๑ มิถุนายน ๑๙๘๑ นั่นคือวาระสุดท้ายของเรนี

    อิสเซตัดสินใจฆ่าเรนีเพราะอยากกินเธอ จึงได้ชวนเรนีมาวันเกิดครบรอบ ๓๒ ของเขา

    ที่โต๊ะตัวเตี้ย (โต๊ะโทคัทซึ) นั่งตามสไตล์ญี่ปุ่น ซากาวะแอบปลื้มอยู่เงียบๆ เพราะในใจเขาอยากกินเรนีใจจะขาดแล้ว เมื่อ เรนีมาถึงอิสเซได้ต้อนรับเธอด้วยธรรมเนียมญี่ปุ่นด้วยการให้เรนีนั่งคุกเข่า กับพื้นชงชาให้ดื่มผสมเหล้าลงไปด้วย จากนั้นเขาได้สารภาพรักกับเรนีทันที ขณะที่เรนีกำลังตั้งใจสอนเขา

    เรนีดูท่าทางจะตกใจมาก เนื่องจากรับสถานการณ์ไม่ทัน หล่อนจึงแกล่งตอบกลบเกลื่อนไปว่าเธอคบอิสเซแค่เป็นเพื่อนเท่านั้น ไม่ใช่แบบชู้สาว

    อิส เซเงียบไปพักหนึ่งแล้วผงะจากเรนีเดินไปหยิบ กวีนิพนธ์มาส่งให้เธอ แล้วเอื้อมมือไปกดปุ่มบันทึกเสียงในขณะที่เรนีอ่านกวีนิพนธ์ อิสเซฟังเรนีอ่านกวีนิพนธ์พอใจแล้วจากนั้นก็เดินไปข้างหลัง หยิบปืนเดินกลับมาจากนั้นก็จ่อยิงกลางหลังเรนีหนึ่งนัด เรนีสะดุ้งเฮือกหล่นลงจากเก้าอี้ลงกองอยู่บนพื้นเธอตายทันที อิสเซพูดพล่านกับเรนีเหมือนคนบ้าต่อหน้าศพของเรนี

    อิสเซเริ่มเปลื้อยผ้าออกจากศพของเรนีพบว่ามันยุ่งยากพอสมควร แต่ช่างหัวมันเถอะเพราะตอนนี้เธอเป็นของเขาแล้ว

    อิส เซเดินไปหยิบมีดยาวคมกริบมาเฉือนหัวนมข้างซ้าย กับปลายจมูกของเรนีอย่างชำนาญ จากนั้นเขาเอาปลายจมูกใส่ปากเคี้ยวกินดิบๆ อย่างเอร็ดอร่อย

    ในตอนหนึ่งในหนังสือ "ในหมอก" อิสเซได้บรรยายตอนนี้อย่างกวีนิพนธ์ไว้ว่า

    " ข้าพเจ้า เอามือจับเอวเธอแล้วคิดว่าจะกินส่วนไหนก่อนเป็นอันดับแรก เอาล่ะแก้มก้นขวานี้แหละ กร้วม ข้าพเจ้าอ้าปากกัดลงไปเต็มที่แต่มันเหนียวมากจนฟันกัดไม่เข้า"


    จากนั้นเขาก็เล่าไปฉากๆ ถึงเรื่องไขมันและกล้ามเนื้อ

    " ข้าพเจ้า ใช้มีดจ้วงแทงลงไปร่างของเรนี ไขมันก็ผลุดออกจากบาดแผลที่ฉีกกว้างสีมันเหลืองเหมือนสีเมล็ดข้าวโพดไม่ผิด ข้าพเจ้าดึงออกมาดม ปรากฏว่ามันไม่มีกลิ่นคาวและเหม็นเขียวสักนิด ข้าพเจ้าจึงแลลึกเข้าไปจนถึงเนื้อแดง ตัดเป็นชิ้นพอๆ คำใส่ปากเคี้ยวดิบๆ มันละลายในปากรสชาติคล้ายทูน่าทำซาซิมิในภัตตาคารไม่มีผิด" อิสเซ ง่วนอยู่กับการชำแหละศพของเรนีด้วยมีดปอกสายไฟอันคมกริบมาชำแหละเป็นชิ้นๆ ส่วนหนึ่งเก็บสำรองไว้กิน ส่วนหนึ่งก็ใส่ปากเคี้ยวดิบๆ โดยอาหารจานแรกที่อิสเซทำคือ "เนื้อคนผัดมัสตาร์ค" เขาถ่ายรูปศพที่อันเป็นเศษเนื้อเธอไว้เป็นที่ระลึกก่อนที่จะเปลือกเสื้อผ้า ร่วมรักกับศพอย่างหื่นกระหาย เขาบรรยายฉากนี้อย่างละเอียดลออไว้ว่า

    " ระหว่าง ที่ข้าพเจ้าร่วมรักกับศพของเธอมันเหมือนกับว่าเธอหอบหายใจออกมา ข้าพเจ้าเร่งจังหวะแล้วบอกกับเธอว่า ผมรักเธอที่สุดในโลก โอ้....ว"


    เนื้อที่ ชำแหละไว้อิสเซได้เก็บไว้เพื่อทำอาหาร กินไปพลางฟังเสียงบทกวีที่เรนิอ่านในเทปบันทึกไปพลาง เมื่ออิ่มก็ใช้กางเกงในของเธอซับปากแทนผ้าเช็ดหน้า จากนั้นเดินกลับไปที่ศพเรนี ตัดเต้านมสองข้างไปอบในเตาอบ พอสุกก็เอามากินแชแต่ปรากฏว่าเขาไม่ชอบเพราะมันเหนียวยืดยาด ซึ่งเขาชอบเนื้อต้นขาของเรนีมากกว่า

    เมื่อ อิสเซชำแหละศพจนเหนื่อย หลังจากนั้นเขาก็ลากศพที่ยับเยินไปนอนกอดบนเตียงจนม่อยหลับ โดยเขาตั้งใจว่าจะทำลายหลักฐานในวันรุ่งขึ้นให้หมด

    พอวันรุ่งเช้าเมื่อเขาตื่นนอนก็แทะเนื้อจากท้องแขนไปถึงข้อศอก ช่วงนี้อิสเซเขียนไว้ว่า

    "ไม่รู้น่ะ ว่าทำไมแต่บอกได้คำเดียวว่า อร่อยชะมัด"

    อิส เซยังไม่หายหิว เขาเชือดโน่นเชือดนี้กับอวัยวะส่วนต่างๆ ที่เหลืออยู่แม้แต่ทวารหนักเขาก็คว้านออกมา แล้วยัดใส่ปากเคี้ยวแต่กลิ่นมาสุดทนจนเขาต้องคายออกมา ชิ้นส่วนจากทวารหนักที่เหลือเขาต้องนำไปทอดแต่ก็รับไม่ได้เพราะมันเหม็นสุดๆ เขาจำเป็นต้องเททิ้งถังขยะแล้วแล่ส่วนอื่นๆ ไปกินต่อไป

    เวลา ผ่านไป แมลงวันฝูงใหญ่เริ่มแห่กันมาตอมซากศพอันแหลกเหลว อิสเซเริ่มได้สติว่าศพของเรนีเริ่มส่งกลิ่น เวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์หมดลงแล้ว อิสเซต้องทำลายหลักฐาน

    อิส เซ เริ่มจากใช้ขวานสับร่างของเรนีเป็นท่อนๆ เพื่อจะยัดลงในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ เอาไปทิ้งเพื่อเอาหลักฐานไปทำลาย เขาสับไปก็เกิดอารมณ์เปลี่ยว จึงใช้มือของเรนิมาสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเป็นทาง

    ทำไปกินไป เอาเนื้อจมูกมากินเสียงกรุบกรอบบ้าง เอาริมฝีปากเธอกินบ้าง อิสเซได้บรรยายในตอนนี้ไว้ว่า

    " ข้าพเจ้า อยากกินลิ้นเธอแต่งัดขากรรไกรล่างออกมาไม่ได้ แต่ข้าพเจ้าก็เอามือล้วงผ่านช่องว่างระหว่างฟันเข้าไปจนได้ ที่สุดก็ควักปลายลิ้นออกมา ข้าพเจ้าใช้ใบมีดเฉือนปลายลิ้นของเธอออกแล้วโยนใส่ปากเคี้ยวหน้ากระจกเงา"

    จาก นั้นก็ล้วงเข้าไปคลำอวัยวะภายในซึ่งทำให้เขาปวดแสบปวดร้อนเมื่อไปสัมผัสกับ กรดในกระเพาะอาหารเข้า แต่สุดท้ายก็เอาขวานตัดศีรษะของเรนีออกจากร่าง อิสเซขยุ้มเส้นผมของเรนีไว้ หิ้วหัวของเธอไว้ตรงหน้าอิสเซแล้วบรรยายความรู้สึกตรงนี้ไว้ว่า



    "ตอนนี้แหละที่ได้ประจักษ์ว่าตนเองคือมนุษย์กินคนที่แท้จริง"

    เครดิต : www.dek-d.com


    ดึกสงัดของคืนวันที่ 12 มิถุนายน 1981 ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

    แถวๆ บริเวณที่ทิ้งขยะของริมฝั่งแม่น้ำแซน ซึ่งไม่ห่างจากโบสถ์ นอเตรอะดามมี มากนัก เป็นสถานที่ที่คนไม่ค่อยจะผ่าน หรือเรียกได้ว่าเป็นที่เปลี่ยวลับหูลับตาคน และที่นี่ เป็นจุดรวมของคนเร่ร่อนที่ชาวฝรั่งเศlเรียกว่า "พวกโกซา" มาอาศัยหลับๆ นอนๆและคุ้ยเขี่ยหาเศษขยะเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อ พอได้เงินมาจากการขโมยของหรือทำผิดกกฎหมายบางอย่างก็นำไปซื้อเหล้าขาวราคา ถูกๆ ใส่ขวดน้ำ เดินโซซัดโซเซ บ้างก็พร่ำเพ้อบ้าบอด่าทอไปต่างๆนานาแล้วแต่จะนึกได้ ไม่ยี่หร่าในตัวเองและผู้อื่นที่อยู่ในบริเวณชุมชนนั้นๆพร้อมกับเนื้อตัวที่ สกปรกมอมแมมเหม็นสาบ

    และในคืนนั้นนั่นเอง วันที่12 มิถุนายน 1981 พวกโกซา กลุ่มหนึ่งจะนอนก็นอนไม่หลับ อย่ากระนั้นเลย คุ้ยหาของในกองขยะดีกว่า เผื่อจะได้เจออะไรบางอย่างดีดีตัดหน้าคนอื่น ในขณะที่คนอื่นๆเขานั้น กำลังเมาพับและหลับไปอย่างเมามายไร้สติ

    ทัน ใดนั้น มีเสียงรถแท็กซี่คันหนึ่งแล่นผ่านมา โกซาวัยคะนองผู้นั้นต้องยกมือเข้าปิดป้องที่ใบหน้า กันมิให้แสงสว่างจากไฟส่องหน้ารถเข้ามากระทบตา เขาจึงทำตาหยีๆเพื่อดูสถานการณ์ และแล้วประตูรถแท็กซี่เปิดอ้าออกมา มีหนุ่มเอเซียผู้หนึ่งกำลังค้นกระเป๋าเดินทางใบมหึมาออกจากรถอย่างเร่งรีบ และทุลักทุเล เพราะท่าทางกระเป๋าใบนั้นคงจะหนักเอาการ

    เมื่อหนุ่ม เอเชียนั้นเห็นพวกโกซาก็ตกใจเขาทิ้งกระเป๋านั้นไว้ ก็ปิดประตูรถแท็กซี่ และบึ้งถอยออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทราบว่า เหตุการณ์นั้นได้เข้ามาสู่สายตาของโกซาผู้หนึ่งแล้วและท่ามกลางกองขยะที่ เน่าเหม็น

    หลังจากนั้นมีสองสามีภรรยาคนหนึ่งเดินมาเห็นเหตุการณ์พอดีจึงเดินมาดูบใบใหญ่นั้นพร้อมกับโอซา

    เมื่อฝากระเป๋าถูกเปิดออกทันที่ และทันใดนั้น.......................

    มือ มนุษย์ข้างหนึ่งยืดออกจากซิปกระเป๋ามีคราบเลือดติดกรัง ภายในเป็นศพชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกตัดเป็นท่อนๆ ยัดใส่ลงภายในอย่างประณีต แต่ในเวลาไม่นานชิ้นส่วนเหล่านั้นได้ส่งกลิ่นคาวคลุ้งออกมาจนน่าสะอิด สะเอียน สองสามีภรรยาและพวกโกซาร้องอุทานลั่น ผงะหงายหลังไป ก่อนที่จะตั้งสติได้ และวิ่งแจ้นไปแจ้งความกับตำรวจทันที

    นี่คือคำ ให้การของโคซา และสองสามีภรรยาคู่นั้น ซึ่งหนึ่งชั่วโมงต่อมาหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้พบกระเป๋าเดินทางขนาดมหึมาที่โกซานั้นแจ้งความไว้ ตำรวจได้สอบถามบริษัทแท็กซี่หลายๆแห่ง แล้วก็ได้เบาะแสว่า ในคืนนั้น มีชายชาวเอเซียว่าจ้างให้รถแท็กซี่ให้ช่วยขนของจากอพาร์ทเม้นต์ไปทิ้งที่กอง ขยะริมแม่น้ำแซน

    ในขณะเดียวกันสื่อมวลชนเริ่มทำข่าวคดีนี้อย่างสนุกสนานจนเก้าอี้ผกก.ตำรวจร้อน

    สี่วันต่อมาหลังจากการพบชิ้นส่วนมนุษย์ ตำรวจถือหมายค้นเข้าห้องพักของนักศึกษาชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ชื่อว่า"อิสเซ ซากาวะ"

    เมื่อเปิดประตู ชายเตี้ยร่างผอมออกมาต้อนรับและให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี

    เขาได้ให้รายละเอียดว่า เขาชื่อ อิสเซ ซากาวะ อายุ 32 ปี เป็นลูกชายของเศรษฐีโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

    แนะ นำตัวเสร็จแล้ว เขาก็ทำตนเหมือนไม่มีความผิดอะไร ซากาวะเชิญชวนตำรวจให้เข้ามาในห้อง จัดแจงเสิร์ฟน้ำชาและคาดว่าน่าจะชวนให้รับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันเป็น เพื่อกับเ

    แต่ด้วยการต้อนรับที่อบอุ่น ห้องของเขาที่สะอาดสะอ้าน แต่ทว่า.........

    ยังมีอะไรบางอย่างที่มีกลิ่นอายแห่งความกลัวและขนพองสยองเกล้า



    ที่ ตรงนั้น...โต๊ะอาหาร ตำรวจต่างพากันพะอืดพะอมกับก้อนเนื้อเป็นกองๆ และเครื่องในที่ล้างๆออกมาไว้ในชาม กะละมังตั้งเรียงเป็นแถวเป็นแนว แล้วยังมีหม้อพะโล้ หม้อต้มเค็มวางไว้ข้างๆ

    ถ้ามองเข้าไปในครัวก็จะ มองเห็นสตู ซึ่งกำลังเดือดปุดๆอยู่บนเตา สิ่งเหล่านี้ทำให้ตำรวจที่เข้ามารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างไรไม่รู้ แต่ใจพวกเขาคิดว่า ซากาวะดูท่าทางอบอุ่น ไม่น่าจะวิปริตขนาดนั้นหรอกมั้ง............

    แต่ว่า........ลางสังหรณ์ก็บังเกิดขึ้นจริงๆ เมื่อตำรวจเอื้อมมือเขาไปเปิดตู้เย็น

    ไอเย็นๆของน้ำแข็งระเหยออกมา ม้วนตัวออกมาเป็นวงรี ปรากฏศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่งวางเด่นเป็นสง่าอยู่กลางแสงไฟจ้า

    ศีรษะที่ถูกตัดแค่คอมีผมยาวสีน้ำตาลทอง ใบหน้าที่เคยดูสวย แต่บัดนี้กลับดูสยอง

    ตา ข้างหนึ่งหรี่เกือบปิดสนิท อีกข้างหนึ่งลืมตาครึ่งๆ จมูกแหว่ง เปรอะเลือด และปากถูเฉือนออกมาทำให้เห็นแผงฟันขาวเวอร์เผยอ้าคล้ายกำลังส่งยิ้มออกมาให้ กับผู้ที่จ้องมองเธอ

    "แล้วส่วนที่เหลือมันอยู่ไหน?"ตำรวจผู้ซึ่งถือหมายค้นถามด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน ขณะที่ตำรวจอีกหนึ่งคนเหงื่อไหลออกมาเป็นจุดๆ

    "ผมทานมันไปแล้วครับ"ซากาวะตอบอย่างยิ้มแย้ม ซื่อๆง่ายๆ เมื่อถามถึงเต้านมข้างขวา

    "ปรุง สุกๆอย่างนั้นหรือ!"ตำรวจนายนั้นถามซ้ำอีก เหมือนว่าเขาไม่อยากจะเชื่อในการกระทำของซากาวะ และเหลือเชื่อว่า คนเราจะมีวิธีการทำครัวและเครื่องปรุงวัตถุดิบที่สุดจะวิปริตได้ถึงเพียง นี้

    "ดิบๆครับ ผมจะลองทำดูแบบซาซิมิดู!!!"ซากาวะตอบแล้วหัวเราะ

    "แล่บางๆให้เฉียบ แล้วกินดิบๆ หวานหอม อร่อยยิ่งกว่าปลาแซลมอนซะอีกนะครับ

    เมนู ชวนอ๊วกของเขายังมิได้หมดเพียงเท่านี้ ซากาวะชี้ชวนให้ตำรวจทั้งหลายดู ซุปต้มเค็ม พะโล้เนื้อ สตู และต้มเครื่องในที่เก็บไว้กินกับข้าวสวยๆร้อนๆ

    "แหมๆ.......... ผมไม่อยากเชื่อเลยนะนี่ ผู้หญิงตัวแค่นี้จะนำมาปรุงอาหารได้เยอะขนาดนี้ แถมอร่อยซะด้วย ดูสิ ผมเก็บไว้กินได้หลายๆอาทิตย์แน่ะ"

    ตำรวจและคอ ข่าวอาชญากรรมแทบทุกคนต่างพากันโก่งคอ อาเจียนกันหมด กว่าจะทำใจสืบสวนกันต่อไปได้รายการอาหารทั้งหมดเช่น ต้มเค็ม สตู ซาซิมิเต้านม ทุกรายการถูกถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งศีรษะที่เผยออยู่ในตู้เย็นด้วย

    ภาพทั้งหมดถูกนักข่าวจาก นิตยสาร Photo ถ่ายเก็บเป็นสารคดีเล่มที่พิเศษสุด แต่น่าเสียดาย เพราะวางจำหน่ายเพียงวันเดียว ทางการสั่งให้เก็บออกจากแผงทั้งหมด เพราะว่ามันน่ากลัวเกินเขย่าขวัญเกินกว่าที่ประชาชนจะรับได้



    ------------------------------

    อิส เซสารภาพและเผยรายละเอียดการทำการฆาตกรรมเรนีทุกขั้นตอน ดังที่ปรากฏก่อนหน้านี้ และเขายังสารภาพกับตำรวจด้วยว่าเขามีอาการป่วยทางจิตแต่ไม่ได้ทำการรักษา จริงๆ จังๆ ก่อนหน้าที่จะมาเรียนที่ฝรั่งเศส

    ตำรวจได้นำสำนวนและคำรับสารภาพของอิสเซส่งไปให้อัยการและผู้พิพากษา

    อัยการเคยถามอิสเซว่ากินเนื้อของเหยื่อด้วยเหตุใด มันอร่อยหรือ? คำตอบของซากาวะคือ

    "มันไม่เห็นจะอร่อยตรงไหน ผมฆ่าเธอเพราะอยากกินเธอดูเท่านั้น"

    ผู้ พิพากษาอ่านสำนวนจนไตร่ตรองแล้วก็คำสั่งไม่เปิดศาลพิจารณาคดีเพราะพฤติกรรม ของอิสเซชัดเจนแล้วว่าเป็นคนบ้า แต่ให้นำตัวไปบำบัดในโรงพยาบาลโรงจิต โดยให้จิตแพทย์สามคนทำการตรวจสอบอิสเซเพื่อแน่ใจ จนมีความคิดเห็นตรงกันว่า "รักษาไม่หาย"

    อิศเซ ซากาวะจึงถูกนำตัวไปรักษาในโรงพยาบาลโรคจิต พอล กีโรด์

    ส่วน อากิระ ซากาวะ บิดาของอิสเซ ได้วิ่งเต้นขอให้นำตัวอิสเซารักษาตัวที่โรงพยาบาลโรคจิตมัคสึซาวะแทนที่จะ เป็นพอล กีโรด์ และในขณะเดียวกันด้านผอ.โรงพยาบาลพอล กีโรด์ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล และเชื่อว่าอิสเซไม่บ้า สมควรที่ได้รับโทษติดคุก แต่ด้วยความมุมานะของพ่อของอิสเซทำให้อิสเซได้รับการปล่อยตัวในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1985 หลังใช้ชีวิตในโรงพยาบาลนั้นเพียงแค่ 15 เดือน

    แต่ถึง อย่างไรอิสเซต้องอยู่ในการดูแลของจิตแพทย์อย่างใกล้ชิด จนสามารถออกไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอีกครั้งในอีก 5 ปีต่อมา ทั้งยังสามารถทำพาสปอร์ตไปยังประเทศเยอรมันอีกด้วย

    ..........................................................................................................


    ทุก วันนี้อิสเซ วากาวะ มีความสุขกับการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการตกเป็นเป้าสนใจของสื่อต่างๆ ที่ทำให้เขากลายเป็นดารา ส่วนสาธารณะชนแทนที่จะประฌานกับยกย่องและตั้งฉายาให้เขาว่า "บิดาแห่งการกินคน" รู้สึกอิสเซจะพอใจฉายานี้มากถึงกับหลุดปากว่า "ยอดว่ะ"

    นอก จากนี้อิสเซยังออกรายการทอร์ค โชว์เพื่อพูดประสบการณ์กินคน และได้แสดงภาพยนตร์ลามกที่ผลิตในประเทศอีกหลายเรื่อง(อิจฉาจัง) เมื่อมีเวลาว่างก็เขียนนวนิยายรวม 4 เล่มด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับฆ่ากินศพของเรนีสามารถขายได้กว่า 200,000 เล่มจนพ่อของอิสเซต้องภูมิใจ

    นอกจากนี้ความดังของอิสเซจะปรากฏในรูปแบบสื่อต่างๆ มากมาย เช่น

    วงโรลริ่ง สโตน ได้แต่งเพลงชื่อ "เลือดท่วม" อันเนื่องจากประทับใจการกินคนของอิสเซ

    เรื่องของเขาได้ดัดแปลงเป็นการ์ตูน

    ได้ถ่ายปกเปลือยให้ร้านอาหารชื่อดังในญี่ปุ่น

    เปิด เว็บ ไซท์ ของตัวเอง ให้คนเยี่ยมชมว่าการกินเนื้อคนไม่ใช้เรื่องน่ารังเกียจเดียดฉันแต่อย่างใด พร้อมให้คนไปเยื่ยมชมภาพเขียนรูปก้นของสตรียุโรปให้ดูอย่างเป็นศิลปะ



    อิสเซใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระอยู่อย่างสงบสุขในบ้านเกิด และเป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อตราบชั่วอายุไข

    เครดิต : board.postjung.com

    มันมีรูปประกอบที่ผมไม่สามารถนำมาลงได้ ใครอยากดู ก็พิมว่า "อิซเซ ซากาวะ" คงพอมีให้ดูอยู่บ้าง


  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    175
    กล่าวขอบคุณ
    14
    ได้รับคำขอบคุณ: 44
    ยาวมาก พยายามอ่านอยู่

  3. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    563
    กล่าวขอบคุณ
    430
    ได้รับคำขอบคุณ: 166
    หยึ๋ย เสียว

  4. #4
    MOTHER FUCKER
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    เจียงฮาย
    กระทู้
    1,735
    กล่าวขอบคุณ
    1,699
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,650
    โรคจิตวิปริต
    SLIPKNOT FAN CLUB

  5. #5
    TTM Resistant Comdr.
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Mahoukakumayouri Technology Airforce Military
    กระทู้
    620
    กล่าวขอบคุณ
    162
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,112
    Blog Entries
    2
    อ๊วก! เมนูชวกอ๊วกจริงๆ - -*

  6. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    101
    กล่าวขอบคุณ
    17
    ได้รับคำขอบคุณ: 14
    เคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาพอสมควร แต่อยากเห็นภาพที่ เขาถ่ายตอนที่เขาชำแระเนื้อคนอ่ะนะ
    สถาปัตยกรรม รุ่น14

  7. #7
    เลิกเกรียนแล้วไปเรียนซะ!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    โคโนฮะ
    กระทู้
    1,298
    กล่าวขอบคุณ
    451
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,776
    Blog Entries
    1
    ผมอ่านจบ ตั้งแต่กระทู้ "10 อันดับมนุษย์กินคน" ผมเห็นน่าสนใจดีเลยไปอ่านของไอ้หมอนี่

    เหอๆ สรุปง่ายๆ คือ พ่อเขาเส้นใหญ่ และ รักลูกเกินไปนั้นเอง

    คือ เขามีจิตวิตปริต เป็นคนโรคจิตจิต ชอบสูดดมกลิ่นอะไรเนี่ยละ แล้วพอดีเขาได้มาเรียนต่างประเทศ

    ก็มาเจอกับสาวคนนี้ เขาก็เลยอยากกิน พอกินเสร็จ เขาก็ยอมรับ ตำรวจทุกอย่าง และ เล่าเรื่องราวอย่างสบายใจ (ผมเป็นญาติพี่น้อง เขาผมเอาปืนยิง****ในศาลอ่ะ)

    ติดคุกได้ไม่กี่วัน ก็ถูกปล่อยออกมา ให้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้า ญี่ปุ่น ผิดกัน! พ่อเขาย้ายเขาโรงพยาบาลบ้าที่เขามีเส้น และปล่อยลูกเขาออกมาได้

    ทุกวันนี้เขาก็ใช้ชีวิตปกติ คนที่ญี่ปุ่น ยกย่องให้เขาเป็น บิดาแห่งคนกินคน แถมยังเป็นเหมือนดารา มีคนเชิญไปรายการนู้นนี่ ดังไปกันใหญ่ ซึ่งพ่อ เขา และ ตัวเขาภูิมิใจมาก

    ที่สำคัญได้ไปเล่นหนังโป๊หลายๆเรื่องด้วย

    สรุป จากความคิดผม มันเป็นคนที่ห่วยแตกมาก ไม่สมควรได้เกิดเป็นมนุษย์ ชีวิตอย่างมัน ไม่ได้ตายดีหลอก อย่างเรียก มันว่าคน เหอะ

    มันเป็นสัตว์ประหลาดชนิดนึงดีกว่า ญาติคนที่ถูกฆ่า เขาก็คงอยากจะฆ่ามัน แต่ทำอะไรไม่ได้

    ผมคนนึงจะขอแช่งให้มันไปลงนรก อย่าได้ผุดได้เกิดเลย สัตว์นรกตัวนี้ แค้นครับ ลองคิดดูถ้าหากผู้หญิงคนนั้นเป็นญาติเรา

    แล้วมันทั้งฆ่า ข่มขืน กินเนื้อ เสิอก ได้รับการชื่นชมจากประเทศของมัน เราจะรู้สึกยังไง........................
    "[อย่ารักพ่อเฉพาะวันที่ 5] [อย่ารักแม่เฉพาะวันที่ 12]"

  8. รายชื่อสมาชิกจำนวน 11 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  9. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    984
    กล่าวขอบคุณ
    3,833
    ได้รับคำขอบคุณ: 383
    ไอ้หมอนี้น่ะหรือ เคยเอามาสร้างหนัง หรือ ซีรีย์ตอนหนึ่งเนี้ยแหละจำไม่ได้ แต่พ่อมันก็เก่งเนอะรู้ก่อคดีแบบนี้แล้วยังออกมาเดินเฉย แถมดังอีกตะหากแปลกดีโลกมนุษย์

  10. #9
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Udonthani
    กระทู้
    1,266
    กล่าวขอบคุณ
    497
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,354
    Blog Entries
    2
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ montreepot อ่านกระทู้
    ผมอ่านจบ ตั้งแต่กระทู้ "10 อันดับมนุษย์กินคน" ผมเห็นน่าสนใจดีเลยไปอ่านของไอ้หมอนี่

    เหอๆ สรุปง่ายๆ คือ พ่อเขาเส้นใหญ่ และ รักลูกเกินไปนั้นเอง

    คือ เขามีจิตวิตปริต เป็นคนโรคจิตจิต ชอบสูดดมกลิ่นอะไรเนี่ยละ แล้วพอดีเขาได้มาเรียนต่างประเทศ

    ก็มาเจอกับสาวคนนี้ เขาก็เลยอยากกิน พอกินเสร็จ เขาก็ยอมรับ ตำรวจทุกอย่าง และ เล่าเรื่องราวอย่างสบายใจ (ผมเป็นญาติพี่น้อง เขาผมเอาปืนยิง****ในศาลอ่ะ)

    ติดคุกได้ไม่กี่วัน ก็ถูกปล่อยออกมา ให้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้า ญี่ปุ่น ผิดกัน! พ่อเขาย้ายเขาโรงพยาบาลบ้าที่เขามีเส้น และปล่อยลูกเขาออกมาได้

    ทุกวันนี้เขาก็ใช้ชีวิตปกติ คนที่ญี่ปุ่น ยกย่องให้เขาเป็น บิดาแห่งคนกินคน แถมยังเป็นเหมือนดารา มีคนเชิญไปรายการนู้นนี่ ดังไปกันใหญ่ ซึ่งพ่อ เขา และ ตัวเขาภูิมิใจมาก

    ที่สำคัญได้ไปเล่นหนังโป๊หลายๆเรื่องด้วย

    สรุป จากความคิดผม มันเป็นคนที่ห่วยแตกมาก ไม่สมควรได้เกิดเป็นมนุษย์ ชีวิตอย่างมัน ไม่ได้ตายดีหลอก อย่างเรียก มันว่าคน เหอะ

    มันเป็นสัตว์ประหลาดชนิดนึงดีกว่า ญาติคนที่ถูกฆ่า เขาก็คงอยากจะฆ่ามัน แต่ทำอะไรไม่ได้

    ผมคนนึงจะขอแช่งให้มันไปลงนรก อย่าได้ผุดได้เกิดเลย สัตว์นรกตัวนี้ แค้นครับ ลองคิดดูถ้าหากผู้หญิงคนนั้นเป็นญาติเรา

    แล้วมันทั้งฆ่า ข่มขืน กินเนื้อ เสิอก ได้รับการชื่นชมจากประเทศของมัน เราจะรู้สึกยังไง........................
    คนบนโลกนี้ รู้สึกจะตรรกะเพี้ยน สรุปคือ พ่อใหญ่ ทำไรก็ไม่ผิดเเล้วเจือกดังอีกตะหาก.....เอวัง

  11. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    สุราษฎร์ธานี อ.เกาะสมุย ครับ
    กระทู้
    136
    กล่าวขอบคุณ
    359
    ได้รับคำขอบคุณ: 23
    อ่านจบนี้ สุดๆครับสยองมาก ไอคนกินนี้ โรคจิตชัดๆ
    คุณได้ใช้ Email ปลอม ทำให้มีจดหมายแจ้งเตือนต่างๆ ตีกลับมาเป็นจำนวนมาก เป็นผลทำให้ระบบของเวปไซท์ทำงานหนักขึ้นโดยไม่จำเป็น จึงขอให้คุณเปลี่ยน Email ที่สามารถใช้งานได้จริง หากคุณยังเพิกเฉย จะทำการระงับการใช้งาน ID นี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า :จากผู้ดูแลระบบ

    ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยุ้กับ"ตัวเรา"ว่าจะกำหนดยังไง ~.~"

  12. #11
    ฟิัว~~~~~~~~~~~~~~
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    :D
    กระทู้
    575
    กล่าวขอบคุณ
    7,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,087
    โรคจิตจัด ก็นะพ่อใหญ่
    No Money . , . , . , . No Honey

  13. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    934
    กล่าวขอบคุณ
    421
    ได้รับคำขอบคุณ: 520
    โอีะ อุ๊บ อ้วกกกกกกกกก ' 'Orz' '

  14. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    In the world
    กระทู้
    168
    กล่าวขอบคุณ
    788
    ได้รับคำขอบคุณ: 39
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ montreepot อ่านกระทู้
    ผมอ่านจบ ตั้งแต่กระทู้ "10 อันดับมนุษย์กินคน" ผมเห็นน่าสนใจดีเลยไปอ่านของไอ้หมอนี่

    เหอๆ สรุปง่ายๆ คือ พ่อเขาเส้นใหญ่ และ รักลูกเกินไปนั้นเอง

    คือ เขามีจิตวิตปริต เป็นคนโรคจิตจิต ชอบสูดดมกลิ่นอะไรเนี่ยละ แล้วพอดีเขาได้มาเรียนต่างประเทศ

    ก็มาเจอกับสาวคนนี้ เขาก็เลยอยากกิน พอกินเสร็จ เขาก็ยอมรับ ตำรวจทุกอย่าง และ เล่าเรื่องราวอย่างสบายใจ (ผมเป็นญาติพี่น้อง เขาผมเอาปืนยิง****ในศาลอ่ะ)

    ติดคุกได้ไม่กี่วัน ก็ถูกปล่อยออกมา ให้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้า ญี่ปุ่น ผิดกัน! พ่อเขาย้ายเขาโรงพยาบาลบ้าที่เขามีเส้น และปล่อยลูกเขาออกมาได้

    ทุกวันนี้เขาก็ใช้ชีวิตปกติ คนที่ญี่ปุ่น ยกย่องให้เขาเป็น บิดาแห่งคนกินคน แถมยังเป็นเหมือนดารา มีคนเชิญไปรายการนู้นนี่ ดังไปกันใหญ่ ซึ่งพ่อ เขา และ ตัวเขาภูิมิใจมาก

    ที่สำคัญได้ไปเล่นหนังโป๊หลายๆเรื่องด้วย

    สรุป จากความคิดผม มันเป็นคนที่ห่วยแตกมาก ไม่สมควรได้เกิดเป็นมนุษย์ ชีวิตอย่างมัน ไม่ได้ตายดีหลอก อย่างเรียก มันว่าคน เหอะ

    มันเป็นสัตว์ประหลาดชนิดนึงดีกว่า ญาติคนที่ถูกฆ่า เขาก็คงอยากจะฆ่ามัน แต่ทำอะไรไม่ได้

    ผมคนนึงจะขอแช่งให้มันไปลงนรก อย่าได้ผุดได้เกิดเลย สัตว์นรกตัวนี้ แค้นครับ ลองคิดดูถ้าหากผู้หญิงคนนั้นเป็นญาติเรา

    แล้วมันทั้งฆ่า ข่มขืน กินเนื้อ เสิอก ได้รับการชื่นชมจากประเทศของมัน เราจะรู้สึกยังไง........................

    ถูกใจมากครับ =_=b

  15. #14
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    ที่อยู่
    System of Live operation
    กระทู้
    2,025
    กล่าวขอบคุณ
    2,831
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,021
    โอ้ะะะ น่ากลัววววว

  16. #15
    Taylor Swift' [only]
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    I live in The World :Thailand :Nongchok
    กระทู้
    786
    กล่าวขอบคุณ
    852
    ได้รับคำขอบคุณ: 510
    เห็นหน้าในรูป แล้ว อยากไปเตะก้านคอ จริงๆ ทำหน้า กวนทีนมาก อยากมาคุยกับ Mr.นันยาง จริงๆ

    Taylor Swift | เมี๊ยว เมี๊ยว ^ω^ 

  17. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    340
    กล่าวขอบคุณ
    309
    ได้รับคำขอบคุณ: 256
    อ่านแต่ตัวแดงๆ ได้อารมณ์จริงๆ

  18. #17
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    246
    กล่าวขอบคุณ
    531
    ได้รับคำขอบคุณ: 301
    อ่านแล้วสยอง แต่อยากดูรปแฮะ 55555
    DevilclouD is going to cut you like a cornish game hen...

  19. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    134
    กล่าวขอบคุณ
    139
    ได้รับคำขอบคุณ: 27
    โรคจิต -*-

  20. #19
    Fuck this shit
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ต่างประเทศ
    กระทู้
    1,178
    กล่าวขอบคุณ
    1,809
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,255
    หน้าก็บ่งบอกแล้ว ว่า เ*ย มารับประทาน Teen ตูนิมา

  21. #20
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    JKG
    กระทู้
    337
    กล่าวขอบคุณ
    54
    ได้รับคำขอบคุณ: 744
    เอิ่ม ยาวจัง ขี้เกียจอ่านอ่ะครับ

    แต่รู้ว่าน่ากลัวจริงๆ
    MY PC GAME CENTER
    'กรุณาใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ส่วนรวม'

  22. #21
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    ที่อยู่
    กองพล101
    กระทู้
    997
    กล่าวขอบคุณ
    133
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,806
    โรคจิตขั้นเทพ

  23. #22
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    619
    กล่าวขอบคุณ
    117
    ได้รับคำขอบคุณ: 154
    คนญี่ปุ่นแทนที่จะตระหนักกับพฤติกรรม กลับไปสรรเสริญมันอีก - -*


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top