ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 5 จากทั้งหมด 5
  1. #1
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    43
    กล่าวขอบคุณ
    2
    ได้รับคำขอบคุณ: 471

    +++ ทะเลสาบแห่งโครงกระดูก

    ทะเลสาบแห่งโครงกระดูก

    รุปคันด์ (Roopkund) เป็นชื่อทะเลสาบธารน้ำแข็ง(glacial lake) ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาบนพื้นที่สูงประมาณ 5,029เมตร( 16,500 feet) ในมุมหนึ่งอันโดดเดี่ยวในพื้นที่อันห่างไกล ของเทือกเขาหิมาลัย ที่ยิ่งใหญ่ของโลก( the greatest mountains of Himalayas )ในเขตรัฐอุตตราขัณฑ์( Uttarakhand )ประเทศอินเดีย


    แผนที่ ทะเลสาบรุปคันด์ รัฐอุตตราขัณฑ์ (Uttarakhand )ประเทศอินเดีย
    ทะเลสาบรุปคันด์;อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาตินันทาเทวี Nanda Devi National Park เชิงเขาหิมาลัย (จุดสีน้ำเงินในแผนที่)


    มีเรื่องราวที่น่าสนใจของทะเลสาบ Roopkund ให้ติดตาม เนื่องจากในปี 1942 เจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้ชาวอังกฤษ (สมัยนั้นอินเดียตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ)ได้พบโครงกระดูกของมนุษย์อยู่ถึง 600 โครง ถูกฝังอยู่ในน้ำแข็ง และบางส่วนลอยอยู่เหนือพื้นน้ำเห็นได้ในช่วงฤดูร้อนหิมะละลาย เลยเรียกกันว่า ทะเลสาบแห่งโครงกระดูก“The skeleton lake” และโครงกระดูกเหล่านั้น จะพบร่องรอยบาดแผล บนศรีษะและหัวไหล่ เหมือนโดนวัตถุตกใส่มาจากด้านบน


    นักวิทยาศาสตร์ ที่สนใจค้นหา ความเป็นมาของโครงกระดูกเหล่านั้น
    แรกเริ่ม......มีการตั้งสมมุติฐานของผู้เชี่ยวชาญ ว่าน่าจะมีการเสียชีวิตจากโรคระบาด(Epidemic )จากเชื้อแบคทีเรีย หรือไม่ก็จากดินถล่ม หรือพายุหิมะแต่สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ยังมีการถกเถียงกันในกลุ่มนักมานุษยวิทยา anthropologists และ นักบรรพชีวินวิทยาpaleontologists ของยุคปัจจุบัน


    และจากการเก็บตัวอย่างโครงกระดูกทดสอบหาคาร์บอน ( carbon dating tests )เมื่อปี1960 ในพบว่าโครงกระดูกเหล่านั้นน่าจะอยู่ในช่วง ศตวรรษที่ 12 – 15....(แต่จากการทดสอบเพิ่มเติมของนักวิทยาศาสตร์ในปี 2004 บอกว่าโครงกระดูกมีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง ศตวรรษที่ 9) และสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นศพของพ่อค้า หรือนักแสวงบุญชาวธิเบต ที่หลงทางในพายุหิมะ blizzard) หรือทำพีธีกรรมฆ่าตัวตาย หรือไม่ก็..เป็นทหารที่พ่ายแพ้ในสงคราม

    ที่เห็นเป็นวงกลมในภาพคือทะเสาบรุปคันด์ ในหน้าหนาวซึ่งหิมะและธารน้ำแข็งจะปกคลุมอยู่หลายเดือน


    พายุหิมะที่เรียกว่า บลิดซาร์ด( blizzard)จะมีกำลังลมแรงตั้งแต่ 56 ก.ม/ช.ม พร้อมกับพัดหิมะปลิวฟุ้งกระจายและทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงจากปกติ 400เมตรและโดยปกติพายุหิมะ blizzard จะเกิดอยู่นานถึง3ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น
    ++พายุหิมะ(blizzard)ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดในประเทศอิหร่าน (The Iran Blizzard )เมื่อปี 1972 ทำให้มีทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 4000 คนจากการถูกหิมะทับถมกันสูงถึง 8 เมตร ฝังร่าง ..
    (ภาพประกอบ.ตัวอย่าง .สภาพบริเวณพื้นที่หลังจากเกิดพายุหิมะ ชนิดบลิดซารด์( blizzard)


    จนกระทั่งมาถึงปี 2004 กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรป และอินเดียจากทีมงานของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิค( The National Geographic Channel )ได้เข้าไปที่ทะเลสาบรุปคันด์ เพื่อขุดกระดูกพร้อมเครื่องประดับ ขึ้นมาหาข้อมูลทางด้านมนุษย์วิทยาเพิ่มเติม และจากการทดสอบดีเอ็นเอ DNA พบว่าโครงกระดูกเหล่านั้นแบ่งออกได้ เป็นสองกลุ่มเนื่องจากความสูงของรูปร่างที่แตกต่างกัน และได้ทำการทดสอบ หาอายุของโครงกระดูกอีกครั้งด้วยวิธี radio carbon dating

    RADIO CARBON เรดิโอคาร์บอน หรือ การหาปริมาณ คาร์บอน-14 การหาอายุด้วยวิธีการนี้ เหมาะสำหรับการใช้ศึกษาหลักฐานที่เป็นอินทรีย์วัตถุที่พบอยู่ร่วมกับวัตถุที่คนในอดีตทำขึ้นเท่าที่นิยมใช้กันอยู่ก็มีไม้ กระดูก หรือ ถ่าน เป็นต้น โดยวัดแสงกัมมันตภาพของคาร์บอนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในอินทรีย์วัตถุ ทำให้สามารถทราบอายุของสิ่งเหล่านั้น เช่นทราบว่ามนุษย์หรือสัตว์ตายมานานเท่าไร ต้นไม้ถูกนำมาใช้งานตั้งแต่เมื่อไร เป็นต้น


    คาร์บอน 14 (C 14 ) ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2483 โดยพบจากผลของการค้นคว้าวิจัยทางด้านปรมณู Institute of Nuclear Studies มหาวิทยาลัยชิคาโก ผู้ที่ค้นพบคือ Dr. Willard F. Libby จากผลการค้นคว้าทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี เมื่อปี พ.ศ.2503


    หลักการในการกำหนดอายุโดยการหาปริมาณคาร์บอน 14 คือ เมื่อรังสี (Cosmic Radiation) ซึ่งเป็นตัวผลิตนิวตรอน ผ่านเข้ามาในบรรยากาศของโลก จึงทำปฏิกิริยากับอะตอมของไนโตรเจน (N-14) ก่อให้เกิดอะตอมของคาร์บอน (C-14) ซึ่งเป็นกัมมันตภาพรังสี (Radioactive) ดังนี้
    N14 + n = C14+ H
    เมื่ออะตอมของคาร์บอน(C-14) เกิดในบรรยากาศรอบ ๆ โลก ก็จะรวมตัวกับออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศ กลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ (CO 2) ปนอยู่ในบรรยากาศรอบโลก เมื่อเป็นเช่นนี้พืชซึ่งต้องใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในการหายใจก็จะรับเอาคาร์บอน-14 เข้าไปด้วย และซึมเข้าไปอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของพืช สัตว์ที่กินพืชก็จะรับเอาปริมาณของคาร์บอน-14 เข้าไป ส่วนมนุษย์ซึ่งกินทั้งสัตว์และพืชก็จะรับเอาปริมาณของคาร์บอน-14 จากการกินสิ่งเหล่านั้น
    ดังนั้นไม่ว่าพืช สัตว์ และมนุษย์จะมีคาร์บอน-14 สะสมอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายหรือต้นทั้งสิ้น และจะเริ่มสะสมไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ เมื่อสิ่งมีชีวิตตายลงก็จะหยุดรับคาร์บอน-14 ปริมาณของคาร์บอน-14 ที่สะสมอยู่จะค่อย ๆ ลดลงในอัตราส่วนที่สม่ำเสมอทุก ๆ 5,568 ปี กล่าวคือคาร์บอน-14 ที่สะสมอยู่ในซากอินทรีย์วัตถุที่ตายแล้วจะลดลงครึ่งหนึ่ง คือเหลือเพียง 1/2 และเมื่อเวลาผ่านไปอีก 5,568 ปี คาร์บอน-14 ที่เหลืออยู่ 1/2 ส่วนนี้จะลดลงไปอีกครั้งหนึ่ง (คือ 1/2 ของ 1/2) จะเหลือเพียง 1/4 ส่วน เวลาต่อไปอีก 5,568 ปี คาร์บอน-14 จะลดลงไปอีกครึ่งหนึ่งของที่เหลือ (คือ 1/2 ของ 1/4) จะเหลืออีกเพียง 1/8 ส่วนเช่นนี้เป็นต้น ระยะเวลา 5,568 ปีที่คาร์บอน-14 ลดลงครึ่งหนึ่งนี้เรียกว่าครึ่งชีวิต (Half - Life)


    และเมื่อมีการทดสอบหาอายุของโครง กระดูกจากทะเลสาบรุปคันด์ กลับพบว่ามีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง ศตวรรษที่ 9 จากการตรวจสอบกะโหลก และกระดูกที่หักพบว่าน่าจะมีสาเหตุการตายอย่างฉับพลัน จากพายุลูกเห็บขนาดใหญ่ (sudden hailstorm.) เท่าลูกเทนนิสที่ตกใส่ เพราะพื้นที่แถบนั้นเปิดโล่งไม่มีที่กำบัง และเกิดหิมะถล่มร่างเหล่านั้นเลยถูกฝังอยู่ใต้น้ำแข็งในเขตทะเลสาบรุสคันด์


    แต่จากตำนานของชาวบ้านแถบนั้น ที่เล่าต่อๆกันมา เชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของ ขบวนแห่ยาตรา‘yatra’ของกษัตริย์ พร้อมบริวารนางรำที่แห่ ทำพีกรรมทางศาสนา แต่ทำให้เทพธิดานันทา เทวี Goddess Nanda ทีสิงสถิตอยุ่บน ยอดเขานันทา เทวี ศักดิ์สิทธิ์(NANDA DEVI )ขุ่นเคืองเลยระบายความโกรธด้วยการก่อให้เกิดพายุหิมะพัดถล่มจนเสียชีวิตทั้งหมด

    ภาพเทพธิดานันทาเทวี( Goddess Nanda )ที่ชาวบ้านเชื่อว่าสิงสถิตอยู่บนยอดเขานันทา เทวี


    ตามความเชื่อของชาวบ้าน นันทา เทวี(Nanda Devi,) เป็นเทพธิดา, ที่ใจดี แต่เวลา ที่โกรธแค้น ชาวบ้านต้องนำแพะและและควาย มาบูชายัญเพื่อชดใช้บาปของพวกเขา

    ทุกๆสิบสองปี..จะมีเทศกาลที่ชื่อว่า Nanda Devi Raj Jat Yatra จะมีบรรดาผุ้เลื่อมใสและศรัทธาร่วมขบวนแห่เดินทางเท้าเปล่ามายังภูเขานันทา เทวี เพื่อทำการสักการะ และขอความเมตตาจากเทพธิดาเพื่อต่ออายุ ให้มีชีวิตยืนยาว


    ยอดเขานันทาเทวี (Nanda Devi) ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนอินเดียและเนปาล ตั้งอยู่ในเขตรัฐรัฐอุตตราขัณฑ์ Uttarakhand, ประเทศ อินเดีย
    เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของอินเดีย รองจากยอดเขากันเจนชุงคา
    ยอดสุงสุดเขานันทาเทวี มีความสูง 7,816 เมตร ตั้งอยู่บริเวณการ์วัล หิมาลัย เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย Himalayas


    ยอดเขานันทาเทวี ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนอินเดียและเนปาล ตั้งอยู่ในเขตรัฐอุตตราขัณฑ์ Uttarakhand, India
    เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของอินเดีย รองจากยอดเขากันเจนชุงคา ยอดเขานันทาเทวี มีความสูง 7,816 เมตร ตั้งอยู่บริเวณการ์วัล หิมาลัย เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย Himalayas
    เขานันทาเทวี(Nanda Devi)เป็นภูเขาาทีมี2ยอด ยอดสุงสุดคือนันทาเทวี ( NANDA DEVI )มีความสูง 7,816 m (25,643 ft)สูงเป็นอันดับ23 ของโลก ส่วนอีกยอดคือนันทาเทวีตะวันออก (Nanda Devi East )สูง7434 เมตร


    อย่างไรก็ตามเหตุผลที่แท้จริงว่า..ทำไมกลุ่มคนเหล่านั้นถึงเดินทางอย่างยากลำบากเข้าไปในเขตทะเลสาบรุปคันด์ที่มีแต่ธารน้ำแข็ง จนก่อให้เกิดการเสียชีวิตมากมาย
    ยังเป็นปริศนา ต่อไปเพราะ ทะเลสาบรุปคันด์ ไม่ได้เป็นเส้นทาง หรือพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และไม่ได้เป็นเส้นทางการค้าที่จะเดินทางต่อไปยังธิเบตแต่อย่างใด.

    (ความเห็นส่วนตัว จขก).แต่เป็นไปได้อาจเข้าทำพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง

    จากภาพ หิมะลาดเอียง ทางลงไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็ง รุปคันด์




    จบแล้วครับ
    ขอบคุณภาพประกอบจาก กูเกิล วิกิพีเดีย
    และข้อมุลที่รวบรวมมาจากเวปต่างๆด้านล่างครับ
    http://www.hottnez.com/roopkund-the-...skeleton-lake/
    http://en.wikipedia.org/wiki/Roopkund
    http://en.wikipedia.org/wiki/Nanda_Devi
    http://www.dehradunyellowpages.com/u...urism/raj.html
    http://nobelprize.org/nobel_prizes/c...libby-bio.html
    http://www.tint.or.th/nkc/nkc5003/nkc5003z.html
    http://www.ipst.ac.th/thaiversion/pu...n14forage.html

    และ jayaus แห่ง www.pantip.com

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 12 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    LEFT BEHIND
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    COLUMBIA CITY
    กระทู้
    470
    กล่าวขอบคุณ
    25
    ได้รับคำขอบคุณ: 159
    เห็นแล้วหนาวขึ้นสมองเลย
    NO GOD OR KING ONLY MAN

  4. #3
    MOTHER FUCKER
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    เจียงฮาย
    กระทู้
    1,735
    กล่าวขอบคุณ
    1,699
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,650
    ถ้าให้ไปอยุ่ที่นั้นนี่ ผมว่าคงหลอนน่าดู น่ากลัวยิ่งกว่าป่าช้าอีก พูดแล้วขนลุก
    SLIPKNOT FAN CLUB

  5. #4
    BaH Keyboardist
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Hell
    กระทู้
    415
    กล่าวขอบคุณ
    566
    ได้รับคำขอบคุณ: 983
    Blog Entries
    1
    จขกท. ขยันอย่างนี้ เป็นกำลังใจให้ครับผม
    วิจารณ์ไม่ว่า ดราม่ากระทู้บิน
    ก่อนพิมพ์ คิดไตร่ตรองให้ดี จะได้ไม่ทะเลาะกัน
    กรุณาใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ผิดนิดหน่อยไม่ว่า แต่อย่าให้มันเกินไป คนเราผิดพลาดกันได้ ส่วนใครจะเตือนก็เตือนดีๆ อย่าไปแขวะ จะได้ไม่ทะเลาะกัน

  6. #5
    NeVel2Min:D
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Hatyai , Songkhla
    กระทู้
    1,405
    กล่าวขอบคุณ
    999
    ได้รับคำขอบคุณ: 476
    เป็นสถานที่ที่หลอนน่าดู
    ???


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top