บทความตัวนี้ผมเอามาจากเว็บไซต์ OXCGN นะครับ โดยจะกล่าวถึงปัจจัย 6 อย่างที่อาจทำให้ PS Vita เครื่องเล่นเกมพกพาตัวใหม่ของ Sony อาจไปไม่ถึงเป้าหมายที่ทาง Sony ตั้งไว้ซึ่ง ซึ่ง Sony เองก็ตั้งเป้าให้PS Vita สามารถเป็นได้ทั้งเครื่องเล่นเกมสำหรับ Hardcore Gamer และ Casual Gamer ซึ่งแน่นอนว่าจากการเปิดตัวที่ผ่านมาเจ้า PS Vita ได้โชว์ฟังก์ชั่นเด็ดให้เราได้ดูมากมายอีกทั้งมันยังขุมพลังด้านกราฟฟิคที่ ล้ำหน้า แต่ถึงกระนั้น PS Vita ก็ยังคงมีหลาย ๆ อย่างที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้หรือมันอาจจะเป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวของ Sony อีกครั้งก็เป็นได้ เอาล่ะ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ PS Vita นั้นทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
1. ค่าการลงทุนในการพัฒนาเกม
อย่างที่เราทราบกันว่า PS Vita นั้นสามารถแสดงผมทางด้านกราฟฟิคได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งสามารถแสดงภาพได้ใน ระดับน้อง ๆ PS3 เลยทีเดียว แต่ศักยภาพของเครื่องก็อาจส่งผลเป็นดาบสองคมได้เช่นกันเนื่องจากตัวเครื่อง PS Vita นั้นเน้นในด้านการแสดงผลที่มีประสิทธิภาพสูงดังนั้นการลงทุนในการพัฒนาเกม ๆ หนึ่งเพื่อให้มารองรับกับศักยภาพของ PS Vita จึงสูงขึ้นด้วย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาในด้านอนิเมชั่นของตัวละคร รายละเอียดของฉากต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพของเครื่อง
กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า กับเครื่อง PSP เครื่องเล่นเกมพกพาตัวเก่าของ Sony ในระยะแรก ๆ ที่ออกวางจำหน่ายที่ การพัฒนาเกมเพืื่อลงให้กับเครื่อง PSP นั้นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องเล่นเกมพกพาจากทางฝั่ง คู่แข่งอย่าง NDS ของ Nintendo และไม่คุ้มค่าในการพัฒนาเนื่องจากศักยภาพของฐานผู้เล่นของ Nintendo นั้นเยอะกว่ามาก ซึ่ง NDS นั้นสามารถทำรายได้เป็นกอบเป็ยกำได้มากกว่าทั้งยังใช้ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา เกมไม่มากและไม่จำเป็นต้องใช้ทีมพัฒนาขนาดใหญ่
2. หน้าจอแบบ OLED
[COLOR="#8B4513"]จริง ๆ แล้วเจ้าจอแบบ OLED นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียแต่มันเหมาะสำหรับใช้ในการเล่นเกมจริงหรือ?
จอ OLED (หรือที่เรารู้จักกันว่า AMOLED) นั้นอย่างที่เรารู้กันว่ามันมีความแตกต่างจากจอ LCD หรือ LED แบบดั้งเดิมมากซึ่่งเราคงทราบกันดีว่าจอ LCD นั้นคือ จอที่แสดงผลแบบ (Digital ) โดยภาพที่ปรากฏขึ้นนั้นจะเกิดจากแสงที่ถูกปล่อยออกมาจากหลอดไฟด้านหลังของจอ ภาพ (Black Light) ผ่านชั้นกรองแสง (Polarized filter) แล้ววิ่งไปยังคริสตัลเหลวที่เรียงตัวด้วยกัน 3 เซลล์คือ แสงสีแดง แสงสีเขียว และแสงสีนํ้าเงิน กลายเป็นพิกเซล (Pixel) และทำให้เกิดภาพขึ้นบนหน้าจอ แต่จอ OLED นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ไฟ Black Light ในการส่องจากฉากหลังซึ่งเซลแต่ละเซลบนจอ OLED นั้นสามารถที่จะเป็นต้นกำเนิดแสงได้เอง
นั่นหมายความว่าเมื่อเกิด พื้นที่จอจะแสดงสีดำเกิดขึ้นบนหน้าจอแล้วเซลบนจอ OLED นั้นจะหยุดการเปล่งแสงทำให้บริเวณที่มืดบนจอนั้นมืดสนิทซึ่งทำให้เราได้ภาพ ที่ดูสดใสกว่าจอ LCD และสามารถแสดงผลสีดำได้ถูกต้องที่สุด
แต่ข้อเสียอันใหญ่หลวงของจอแบบ OLED ก็คือการแสดงผลเมื่อออกมากลางแจ้งนั้นตัวจอจะไม่สมารถแสดงผลได้ดีเท่าที่ ควร( และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ Samsung ได้เปลี่ยนจากจอ AMOLED ไปเป็น Super AMOLED ใน Smart Phone ที่ออกมาในรุ่นหลัง ๆ) อีกทั้งมันยังมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้นอีกด้วย
ในขณะที่จอ LCD นั้นยังสามารถแสดงผลกลางแจ้งได้บางโดยแลกมากกับการสะท้อนของแสงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3. เหมือน Smart Phone มากเกินไป
ณ เวลานี้คงไม่ต้องพูดถึงความสำเร็จของตลาดสมาร์ทโฟนกันแล้ว เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดทำให้สมาร์ทโฟนนั้นเป็นอะไรที่เป็นได้ มากกว่าโทรเข้า - โทรออก ถ่ายรูปฟังเพลงและมีทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจน ร่วมถึงด้านการเล่นเกมที่ดีวันดีคืน
ในขณะที่ Nintendo เองก็มีทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์แบบฝาพับ จอสัมผัสสองหน้าจอ ที่ต้องใช้ควบคู่กับปากกา Stylus และ จอ 3 มิติ ไม่ต้องใช้แว่นตาในการดู ซึ่งทางฝั่งของ PS Vita นั้นมันกลับดูเหมือนการเอาสมาร์ทโฟนมาขยายร่าง เพิ่ม D-pad ปุ่มกดและ Analog Stick และ Touch Pad ที่้ด้านหลังตัวเครื่อง
ซึ่งคงจะเป็นการยากที่เกมเมอร์ จะลงทุนซื้อเกมราคา 80 เหรียญในขณะที่พวกเขาสามารถ App จาก App Store ได้ในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งการตลาดของ Sony เองนั้นก็ไม่ชัดเจนว่าจะเน้นเครื่องเล่น PS Vita ไปในทิศทางของ Casual หรือ Main Stream กันแน่
4. ความเหมาะสมของหน่วยความจำ
ดูเหมือน Sony เองจะยังไม่เข็ดหลาบกับฟอร์แมทของแผ่น UMD
อย่างที่ทราบกันว่า PS Vita นั้นจะใช้หน่วยความจำแบบใหม่ที่ทาง Sony ผลิตขึ้นเองซึ่งจะใช้ในการดาวน์โหลดคอนเทนท์ต่างของเกมมาเก็บไว้ในเครื่อง ผิดกับ PSP ที่ยังมี Memory Stick Pro Duos มาใช้ในการเก็บข้อมูล
นั่นแปลว่าแทนที่ Sony จะเลือกใช้หน่วยความจำที่แพร่หลายในวงกว้างอย่าง Micro SD หรือ SD การ์ดชนิดอื่น ๆ นั้นทำให้ Sony สามารถกำหนดราคาของหน่วยความจำของ PS Vita ได้ตามที่ตนเองต้องการโดยไม่ต้องพึ่งผู้ผลิตรายอื่นหรือค่าสิทธิบัตรต่าง ๆ
ซึ่งทำเป็นเรื่องดีสำหรับ Sony แต่อาจจะไม่ดีกับผู้บริโภค
5. ความทนทาน
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าเป็น ห่วงสำหรับดีไซน์ของ PS Vita ที่มีขนาดหน้าจอของตัวเครื่องที่ใหญ่ มีทั้ง Analog Stick ที่ด้านหน้าและ Touch Pad ที่ด้านหลัง ซึ่งดูแล้วสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเครื่องได้มาก
ซึ่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า PS Vita นั้นจะมาพร้อมกับ Gorilla Glass ที่นิยมใช้กับสมาร์ทโฟนเพื่อป้องกันรอยขูดขีดและมีวัสดุที่ใช้ประกอบ ตัวเครื่องที่ทนทานกว่าพลาสติกแบบเครื่องเล่น PSP
6. ศักยภาพของการเล่น Online
การเล่นเกมแบบ Online นั้นแทบจะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้แล้วในสมัยนี้
ในขณะที่ Nintendo ยังต้องให้ผู้เล่นสร้าง Network ของการเล่น Online เอง และ Microsoft ที่ยังไม่อยากมาจับตลาด Handheld (แต่ไม่แน่ Windows Phone 8 อาจมีอะไรให้เราได้ลุ้นกัน) ดังนั้น หนทางสู่ระบบการเล่น Online ของ Sony ก้เหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบเลยทีเดียว
แล้วอะไรที่ต้องกังวล คำตอบก็มีเพียงหนึ่งเดียวคือระบบ Mobile Internet 3G ที่ทาง Sony นำมาใช้นั่นเอง
แม้ในต่างประเทศเองก็ตามการที่ จะใช้สัญญาณ 3G เพื่อมาใช้เชื่อมต่อในการเล่นเกมแบบผู้เล่นหลายคนนั้นยังแทบเป็นไปไม่ได้ได้ เนื่องจาก สัญญาณที่ตัวเครื่องรับไม่แรงพอที่จะทำการเล่นเกมได้โดยไม่มีอาการ lag
ซึ่งการใช้สัญญาณ 3G เมื่อได้ออกไปเล่นข้างนอกนั้นหรือขณะเดินทางปัญหาสัญญาณตกจึงเป็นปัญหาอัน ใหญ่หลวงทำให้เราหลุดจากการติดต่อเมื่อเดินทางผ่านจุดที่เป็นบริเวณอับ สัญญาณนั่นเอง
ข้อมูล: Nc4g/OXCGN
อัพเดทเมื่อ 08-06-2012 13:33 น.
เครดิต : Rakgames.com
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ