เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
ปุ๊ ระเบิดขวด ฉายานี้ได้มาทั้งที่ไม่เคยใช้ระเบิดขวดเลยสักครั้งในชีวิต
ภาพหนังสือด้านล่าง ชื่อเรื่อง : เสื้อลายขวาง กับหนังสือเดินทาง 1/2 เล่ม
ผู้เขียน/แปล : ปุ๊ กรุงเกษม
เป็นเรื่องเล่าของ ปุ๊เจิด หรือ ปุ๊ กรุงเกษม
หรือชื่อ-สกุลจริง บรรเจิด กฤษณายุธ
ไท ตรอกงิ้ว ปรายตาผ่านบุหรี่สี่มวนพร้อมทั้งกล่องไม้ขีดในจานสังกะสีใบเล็ก ที่เด็กเสริ์ฟยกมาวางลงบนโต๊ะอย่างไม่แยแส ขณะที่เปี๊ยกบ้านแขกกับเพื่อนหยิบไปจุดสูบโรยควันกรุ่น ช่วงเวลาเดียวกัน วัยรุ่นหนุ่มสาวหกเจ็ดคนที่เพิ่งเข้ามาในร้าน
และนั่งล้อมโต๊ะอยู่อีกมุมหนึ่งก็แย่งกันคุยเรื่องเพลงใหม่ของเฟเปี้ยนกับแฟรงกี้ อะวาล่อน ดังจ๊อกแจ๊กจอแจแซ่แซ่ว
ทันทำให้ไทออกจะหงุดหงิดรำคาญหูอยู่ไม่น้อย เขาขยับจะก้มลงดูดโอเลี้ยงในแก้วตรงหน้าตัวเองแก้เซ็งแต่ก็ต้องชะงักและ
สะดุ้งยึก เมื่อเหลือบเห็นหนุ่มทีนเอจอีกกลุ่มก้าวผ่านหน้าร้านเข้ามาโขยงบะเร่อ อะไรไม่ว่าคนนำหน้าเป็นหัวโจกคือ ปุ๊ ตรอกสาเก ตัวแสบที่ไม่มีใครอยากตอแย เพียงเห็นแว่บเดียวเขาก็รู้ได้ในฉับพลันด้วยสัญชาตญาณว่าคนกลุ่มนี้มาด้วยจุดประสงค์ใด
ไอ้ปุ๊
.
ไทหลุดอุทานตื่นเพริดได้คำเดียว เจ้าถิ่นบางลำภูกับคู่ซี้หล่อ สะพานขาว ก็ทะยานนำเหล่าลิ่วล้อพราดมาถึงโต๊ะ
เปี๊ยก บ้านแขก ซึ่งนั่งตรงข้ามกันเพียงแต่ทันได้หันขวับไปมองหลังมือขวาของปุ๊ก็ตะบันเข้าเต็มกราน
ผัวÐ
เปี๊ยกถึงกับหน้าสะพัดหงายเริ่ด บุหรี่หลุดจากปากปลิวคว้างก่อนที่เจ้าตัวจะพลัดหล่นจากเก้าอี้เอียงสีข้างลงตบพื้นดังพลั่ก
กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่นั่งจ้อกันเรื่องเพลงอยู่อีกโต๊ะแตกฮือ และแล้วก็ตามด้วยเสียงผู้หญิงหวีดร้องกรี๊ดกร๊าดแสบแก้วหู
ไทย ตรอกงิ้ว เด้งผึงออกจากโต๊ะโดยมีเก้าอี้ตัวหนึ่งติดมือกระชับมั่น แต่เพื่อนที่เหลืออีกคนไม่ทันได้ไปไหนไกล
แค่ทะลี่งลุกขึ้นก็เจอกำปั้นของเจ้าถิ่น บางลำพู จ้วงเจ้าตรงปากครึ่งจมูกเต็มเงี่ยงเต็มงา
โชะ.....
บุหรี่ปลิวหวือพร้อมกับเลือดปนน้ำลายกระเซ็นว่อน
พี่แกโครนตึงลงไปหงายเก๋งกับพื้นใกล้ๆ เปี๊ยก บ้านแขก ก่อนที่ทั้งสองจะถูกรวบบาทารุมกระทืบเตะถีบอย่างเมามัน
ทว่า ทันได้ยำกันไม่กี่ตีน ไท ตรอกงิ้ว ก็โลดเข้าไปประเคนเก้าอี้ลงบนหลงไหล่หนึ่งในกลุ่มสุดแรง
โครม
หมอนั่นทำอาการกระตุกทะลึ่งพรวด หลังแอ้หลังแอ่นเซถลา ไทหมุนขวับไปหาอีกคนที่อยู่ใกล้สุด ไม่ใช่ใครอื่น
วัยรุ่นหน้าจืด หล่อ สะพานขาว เก้าอี้ทีเงือดเงื้อขึ้นสูง เหนี่ยวขวับลงไปสุดลิ่มทิ่มประตู
โครม
มันกระหน่ำลงบนท่อนแขนซ้ายของไอ้รุ่นหน้าจืดที่ตวัดขึ้นรับดังสนั่น เสี่ยววินาทีติดต่อกัน หล่อ สะพานขาว ก็ สะอีกสวนเข้าประชิดพร้อมด้วยมีดสั้น อาวุธประจำกายซึ่งฉกออกมาจากที่ซ่อนเขากระแทกปลายมีดแหลมเฉียบ
เข้าตรงชายโครงคนใช้เก้าอี้เป็นเครื่องทุ่นแรงอย่างดุดัน ไทย ตรอกงิ้ว สะดุ้ง เฮือก
โอ๊ยย์ กูถูกแทง
เขาร้องลั่น ก่อนจะปล่อยเก้าอี้หลุดมือล้มลงไปนอนกุมชายโครงซ้ายดิ้นเร่า เลือดแดงฉาดที่ทะลักออกมาชุ่มโชก
ทำให้เสียงหวีดร้องกรี๊ดกร๊าดระเบ็งลั่นขึ้นอีกคำรบหนึ่ง หล่อ สะพานขาว ซึ่งยังกำมีดติดมือหมุนตัวเผ่นอ้าวออกจาก
ร้านสัมพันธ์อย่างไม่รอช้า และโดยมีปุ๊ ตรอกสาเกกับเหล่าลิ้วล้อกรูเกรียวตามหลังเป็นพรวนวัยรุ่นอันตรายทั้งกลุ่ม หายลับไปจากที่เกิดเหตุในชั่วพริบตา
วังบูรพาภิรมย์
ยุคนั้น ย่านนี้ซึ่งเรียกกันสั้นๆว่า วังบูรพา เป็นสถานที่เที่ยวเตร่พักผ่อนหย่อนใจและช้อปปิ้งหนึ่งในจำนวนไม่กี่แห่งของคนกรุง รวมทั้งเหล่าทีนเอจโก๋กี๋ออร์เหลนทุกระดับ เพราะวังบูรพามากมายไปด้วยร้านรวงขายของสารพันห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
ก็ก่อตั้งขึ้นที่นี่เป็นแห่งแรก แถมยังมีโรงภาพยนต์ชั้นหนึ่ง คือ คิงส์แกรนด์ และควีนส์ รวมกันเป็นกระจุกอยู่ถึงสามโรง
และเมื่ออ้อมไปด้านหลังหรือที่เรียกกันว่า หลังวัง นี่เองเป็นที่ตั้งของ ร้าน หรดี แหล่งมั่วสุมสิงสู่ที่บรรดาวัยรุ่นหนุ่มคะนอง มักจะแวะเวียนมาพบปะนั่งละเลียดโอเลี้ยงกันทุกเมื่อเชื่อวัน
บ่ายมากแล้ว ขณะที่ปุ๊ ตรอกสาเก แดง ไบร์เล่ย์ กับไอ้รุ่นหน้าจืด หล่อ สะพานขาว ก้าวลอดใต้กันสาดเข้าไปในร้านซึ่งกำลังว่างคน
หลังจากข้ามสะพานพุทธฯ ไปอาละวาดที่ร้านสัมพันธ์ เล่นงานวัยรุ่นฝั่งธนฯ ซะอ่วมอรทัยทั้งยังเจ็บสาหัสด้วยมีดของหล่ออีกหนึ่ง
หน่อคราวนั้น เจ้าถิ่นบางลำภูก็เลิกคิดที่จะตามราวี ปุ๊ วัดมอญ เขาถือว่าสามารถ เอาคืน ได้ในระดับที่น่าพอใจและก็เตร็ดเตร่
สร้างบารมีอยู่แต่ในฝั่งพระนคร ทั้งสามเลือกนั่งโต๊ะตัวเก่าเจ้าประจำสั่งโอเลี้ยงและบุหรี่ปลีกซึ่งใส่จานสังกะสีมาพร้อมด้วยไม้ขีด
ตามสูตร
แดง ไบร์เล่ย์ ไม่ใช่คนชอบสูบบุหรี่แต่เมื่อปุ๊จุดส่งให้เขาก็รับมาอัดควันเล่นไปเรื่อยเปี่อยสามเกลอนั่งคุยกันเงียบๆอยู่ไม่นานนัก
หนุ่มรุ่นอีกนายหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาชิกร่วมแก๊งระดับลูกแถว ก็เดินเลี้ยวเข้าร้านปราดมาจ่อมก้นลงร่วมโต๊ะและพอเจอหน้า หมอก็มี เรื่อง มาให้
ปุ๊ เมื่อวานเราโดนพวกไอ้เหล็งไล่กระทืบ
เจ้าถิ่นบางลำภูหูผึ่ง ตาลุกวาว ลักษณะนิสัยเขาเป็นหยั่งงี้เอง รู้ว่าสมัครพรรคพวกถูกรังแกเมื่อไหร่เป็นต้องร้อนขึ้นมาเมื่อนั้น
ฝ่ายใดจะผิดถูกยังไงไม่สำคัญ เขาต้องเอาเพื่อนไว้ก่อนทุกงาน ปุ๊ ตรอกสาเก อัดบุหรี่อีกพรืดแล้วทิ้งลงกับพื้นใช้ส้นเกือกขยี้ดับพลาง
แค่นเสียงถาม
ไอ้เหล็งไหนวะ ?
ไอ้เหล็ง นมเย็น เด็กพานขาว
ปุ๊หันขวับมาทางหนุ่มหน้าจืด
พวกนายรึเปล่าวะ?
หล่อสะพานขาวสั่นศรีษะ
ไม่ แค่เคยเห็นหน้ากัน
แปลว่าเล่นได้...
แน่นอน
เจ้าถิ่นบางลำภูหันไปเลิกคิ้วกับไอ้รุ่นคนมาฟ้อง
เอ็งไปถูกไล่กระทืบที่ไหน ?
หมอนั่นทำตาแซ่ว
ก็สะพานขาว มันอยู่กันแถวนั้น
หมายความว่าถ้าจะแก้คืน....
ก็ต้องไปลุยที่นั่¹ หล่อเอ่ยสอ´ พวกไอ้เหล็งมักสุมหัวกันอยู่แถวร้านนาฬิกาข้างๆ นารายณ์ภัณฑ์
พวกมันมีซักเท่าไหร่?
ที่ไล่เหยียบเรามีแค่สามสี่คน .... ลิ่วล้อชั้นลูกแถวตอบอ่อยๆ
แต่ถ้าจะนับรวมทั้งหมดก็เป็นสิบ
งั้น.เอ็งไปตามพวกวัดมหรรณพ์มา ซักเจ็ดแปดคน บอกว่าข้ามีงาน
แค่เจ็ดแปดคน มันจะไหวรื้ออ ?
ไหวสิ ข้า...แดง กะหล่อจะระดมพวกมหานาคมาสมทบอีกส่วนหนึ่ง
อ้อ
เอ็งรีบไปรวบรวมคนก็แล้วกัน ใครมีของอะไรเตรียมมาให้พร้อม
จะเอาด่วนรึเปล่า ?
ด่วนที่สุด
เดี๋ยว ปุ๊กะจะถล่มพวกไอ้เหล็งวันไหน?
วัยรุ่นอันตรายจากตรอกสาเก ก้มลงดูดโอเลี้ยงกลั้วคอเต็มอีกก่อนทิ้งเสียงเฉียบ
วันนี้แหละ
พลบค่ำ
รถประจำทางคันหนึ่งซÖèงวิ่งมาจากทางด้านผ่านฟ้า เคลื่อนเข้าป้ายริมถนนหลานหลวงก่อนถึงย่านสะพานขาวแล้วเบรกเอียด
เด็กหนุ่มกลุ่มใหญ่กว่าสิบนาย กระจายกันลงทางประตูหน้าหลังอย่างรวดเร็ว หัวโจกคนนำทีมไม่ใช่ใครที่ไหน ปุ๊ ตรอกสาเก ซึ่งเคียงข้างด้วยแดง ไบร์เล่ย์ กับนักสู้หน้าจืด หล่อ สะพานขาวพอรถเมล์เร่งเครื่องออกจากป้ายตะบึงผละไปเจ้าถิ่นบางลำภูก็
กวาดตา มองพลพรรคที่ยืนรายเรียงกันสลอนพลางเอ่ยลอยๆ
หวังว่าคงเตรียมของกันมาพร้อมนะ
หลังเสียงเปรยของพี่เอี้อยใหญ่ หลายคนงัดเอาดาบและมีดที่ซุกซ่อนไว้ออกมาโชว์ บางรายมีไม้ดุ้นเหมาะมือหรือไม่ก็สนับทองเหลือ
แต่ไอ้รุ่นนายหนึ่งจากย่านวัดมหรรณพ์แสบกว่าใคร เพราะนอกจากจะพกอีดาบยาวหวิดศอกหมอยังบอกด้วยสีหน้าฉาบรอยยิ้ม
กระหยิ่มลำพอง
เรายังมีของดีอีกอย่างนึง
เอ่ยจบ พ่อยอดชายค่อยๆ ล้วงเอาสิ่งหนึ่งจากในย่ามที่สะพายไหล่ขึ้นมาชูอวด ปรากฏว่ามันเป็นขวดสีชาใบย่อมปิดฝาแน่นสนิท
ปุ๊ ตรอกสาเก ฉวัดตามองแล้วเลิกคิ้ว
ระเบิดขวด ?
ไอ้รุ่นจากวัดมหรรณพ์พยักหน้าหงึก
ใช่ ปุ๊เคยเห็นฤทธิ์เดชของมันรึเปล่าล่ะ
ยังเลย
งั้น..วันนี้ได้ดูแน่
มันร้ายกาจซักแค่ไหนว่ะ?
ไม่รู้เหมือนกัน
อ้าÇ
àราเองก็ไม่เคยใช้ ได้ยินแต่พรรคพวกมันคุยว่าเด็ดสะระตี๋ยิ่งกว่าปืนซะอีก
เออ ขอให้สามราคาคุยเถอะ เก็บไว้ก่อนเดี๋ยวเกิดระเบิดเปรี้ยงปร้างซะตรงนี้จะซวยกันเปล่า
หมอนั่นบรรจงหย่อนขวดหลับคืนลงในย่ามตามคำสั่งโดยไม่อิดเอื้อน ส่วนขาใหญ่เจ้าถิ่นบางลำภู หันไปขมวดคิ้วกับหนุ่มรุ่นหน้าจืด
ร้านนาฬิกาที่ว่าอยู่อีกไกลมั้ย?
หล่อ สะพานขาว วาดมือชี้ป้ายรถเมล์ถัดไปซึ่งอยู่ไกลพอประมาณ แต่ก็มองเห็นได้จากแสงไฟที่สาดออกมาจากร้านค้าตรงนั้น ว่ามีเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งยืนสุมกันอยู่เป็นโขยง
โน่นไง
ปุ๊ ตรอกสาเก หรี่คาดคะเน
ที่เห็นยืนออกันหน้าร้าน คงเป็นพวกไอ้เหล็ง
ก็น่าจะใช่
งั้นไป กันเลย ลุย
พร้อมกับการกระแทกเสียงดุดันคำท้าย ไอ้หนุ่มอันตรายจากตรอกสาเกไหวตัวก้าวพรวดออกนำทันควัน พรพรรคทั้งกลุ่มตบเท้า
ตามติดอย่างกระ*****นกระหือฮีกเหิม เพราะที่เห็นเบื้องหน้าคือสมรภูมิและทุกคนไม่ผิดอะไรกับนักรบคะนองศึก อเวจีเป็นพยาน
วินาทีเลือดหลั่งกำลังจะมาถึงในอีกไม่นานเกินรอวัยรุ่นย่านสะพานขาวหกเจ็ดคนที่ยืนจับกลุ่มกันตรงป้ายรถประจำทางหน้า
ร้านนาฬิกา ก็ใช่ว่าจะไม่สำเหนียกภัยความเคลื่อนไหวของหนุ่มทีนเอจโขยงใหญ่จำนวนไม่น้อยที่ยกขบวนล่องมาตามบาทวิถี
ฝั่งทิศเหนือของถนนหลานหลวง แม้จะยังมองไม่เห็นถนัดชัดเจนเนื่องจากเป็นช่วงหัวค่ำกำลังขมุกขมัวเข้าไต้เข้าไฟแต่มันก็
ทำให้บางคนเริ่มเอะใจไหวระแวงหนึ่งในกลุ่มซึ่งใส่กางเกงขาสั้นสะกิดคนไว้ผมสไตล์เอลวิสปาดชโลมด้วยน้ำมันเหนียว
ยี่ห้อตันโจติ้กหนาเตอะ พลางเอ่ยอย่างหวาดๆ
ข้าว่าไอ้พวกนั้นจะไม่มาดีนะเหล็ง
หมอนั่นแฉลบตามองแผงกองกำลังดำตะคุ่มที่รุกคืบใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วพยักหน้า
ข้าก็รู้สึกแปลกๆ แต่หวังว่าคงไม่เกี่ยวกะเรา
ไม่แน่นะ.งข้าสังหรณ์ชอบกล
ยังไงล่ะ ?
เอ็งลือซะแล้วเรอะ ?
เมื่อวานเราตบโก๋หลังวังคนหนึ่งสะหัวทิ่ม แถมยังไล่กระทืบมันวิ่งเตลิดเปิดโปงรอดตีนไปได้หวุดหวิด ไอ้หมอนั่นข้าคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเคยเห็นเดินกะปุ๊ ตรอกสาเก เจ้าของทรงผมเลียนแบบราชาร็อคแอนด์โรล ผงกศรีษะเนิบช้าพลางพึมพำ
ตัวดังนี่หว่า ข้าไม่เคÂเห็นหน้าค่าตา แต่ก็รู้ว่ามันซ่าอยู่แถวบางลำภู
วัยรุ่นขาสั้นกลอกตามองเด็กหนุ่มกลุ่มนั่นซึ่งยังอยู่ห่างกันไม่กี่สิบเมตร แล้วตวัดเสียงกับคู่สนทนาข้าของฉายา เหล็ง นมเย็น
ไม่ใช่ซ่าธรรมดา มันขาใหญ่เลยละ
อีกฝ่ายเลิกคิ้ว
เอ็งกลัวว่าจะเป็นไอ้ปุ๊จะยกพวกมาแก้คืน ?
ใช่
สะพานขาวถิ่นเรานะ เป็นไปได้รึที่มันจะกล้าล้ำแดน ?
เหล็ คนใส่ขาสั้นทอดเสีย เอ็งคงไม่รู้ว่าไอ้ปุ๊เคยข้ามไปคิดบัญชีกะคู่อริถึงฝั่งธนฯสะพานขาวใกล้แค่นี้ทำไมมันจะมาไม่ได้ ?
ถ้างั¹ ?
กันไว้ดีกว่าแก้ เชื่อเถอะ เกิดมันเป็นอย่างที่ข้าว่าเข้าจริงๆ เดี๋ยวจะแก้ไม่ทัน
เหล็ง นมเย็น เหลียวมองในร้านนาฬิกาซึ่งมีสมมชิกร่วมแก๊งนั่งสุมกันอยู่อีกชุดหนึ่ง ก่อนหันมาเอ่ยเครียดๆ
เอ็งเข้าไปบอำกพวกข้างในให้เตรียมของไว้ผิดนักก็ได็โซ้ยกันแหลกไปข้างนึงละวะ
ไอ้รุ่นขาสั้นไม่ปริปากโต้แย้ง มันหมุนตัวเผ่นเข้าร้านนาฬิกาอย่างไม่โอ้เอ้ และเพียงชั่วอึดใจต่อจากนั้น ปุ๊ ตรอกสาเก แดง ไบร์เล่ย์ และหล่อ สะพานขาว ก็นำขบวนนักสู้วัยคะนอรุกมาถึง พอประจันหน้ากันกลางแสงสว่างที่สาดออกมาจากร้านรวงบริเวณนั้น หล่อก็เหยียดนิ้วชี้หัวโจกวัยรุ่นคุมถิ่นโดยไม่ลังเล
ไอ้นี่แหลÐ
แทบไม่ทันขาดคำท้าย แดง ไบร์เลย์ ก็โลดผึงออกหน้าโผนเข้าใส่พี่เอื้อยประจำถิ่นชนิดที่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งตัว
กำปั้นขวาติดสนับทองเหลืองสี่เงี่ยงแข็งปั๋งเหวี่ยงขวับเข้าหาปากครึ่งจมูกหมายเลาะฟันทั้งแผงให้กระจุย
ÍêÐ
เหล็ง นมเย็น หลุดอุทานตื่นๆ พร้อมทั้งพงะยืดคางหลบด้วยสัญชาตญาณสนับมือเลยพลาดเป้าแต่ก็ไม่ไร้ผล
มันโขกตูมเข้าตรงยอดอก เต็มดอกเต็มดวง
บÔêก...
อัก¡....
คนถูกชกสำลักเสียงสั้นๆ แยกเขี้ยวเบี้ยวปากกระเด้งถอยกรูด พริบตานั้น บรรดานักสู้จากต่างถิ่นภายใต้การนำของ
สามหนุ่มอันตราย ก็ดาหน้าทะยานเข้าลุยปรปักษ์อย่างฮึกเหิม วัยรุ่นสะพานขาวจากในร้านนาฬิกาก็ฉวยมีดไม้
เครื่องทุนแรงประดามี กรูเกรียวออกสมทบกับพวกข้างนอกทันๆกัน ชาวประชาผู้ไม่รู้อิโหนอิเหน่ที่ยืนรอรถเมล์อยู่ใกล้ๆป้ายสี่ห้าคน กระเจิงหนีกันจ้าละหวั่นด้วยความตื่นตระหนกพรั่นพรึง พร้อมทั้งส่งเสียงเอะอะโวยวายกรี๊ดกร๊าดลั่น ขณะเดียวกัน นักบู๊รุ่นเยาว์ทั้ง
สองฝ่ายต่างก็สัประยุทธ์ห้ำหั่นกันด้วยอาวุธของใครของมันอย่างดุเดือดเลือดพล่านทั้งมีดไม้เงื้องัดกวัดแกว่ง ตีแทงปิดป้องโต้ตอบ
ฟาดฟันกันโดยไม่คำนึงถึงเป็นตาย เสียงอาวุธกระทบเป้าผัวะผะบึ้กบั้กเสียงสบถเกรี้ยวกราดและเสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
ดังคละเคล้ากันฟังไม่ได้ศัพท์ รถประจำทางสองคันซึ่งตะบึงข้ามสะพานมาจากยมราชพากันเบรกพรึดเมื่อผ่านที่เกิดเหตุ
แล้วจอดแช่อยู่คนละฟากถนน ผู้โดยสารในรถเฮละโลมาออกันทางแถบขวาชะเง้อชะแง้มองลอดหน้าต่าง สอดส่ายตาจับภาพการต่อสู้ชนิดถึงเลือดถึงเนื้อที่อุบัติขึ้นริมถนนฝั่งตรงข้ามอย่างตื่นระทึกและสนใจใคร่รู้วิสัยไทยแท้
ชอบแห่ดูมันซะทุกเรื่อง บางครั้งขนาดต้องเสี่ยงกะลูกหลงก็ยังยอม ใจรักซะไม่มี ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายสับสนอลหม่าน และบรรยากาศอันดุดัน*****มเกรียม วัยรุ่นเจ้าถิ่นสะพานขาวซึ่งมีการเตรียมพร้อมน้อยกว่า ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเห็นได้ชัด
บางคนถูกตีล้มลุกคลุกคลาน บางรายก็หัวร้างข้างแตก ถูกมีดถูกไม้ได้เลือดกันเป็นระนาวและขณะที่ส่วนใหญ่ทะยอยถอยร่น
เข้าไปในร้านนาฬิกาไอ้รุ่นตัวดีจากย่านวัดมหรรณพ์ก็เงื้อง้าอีดาบไล่ตามอย่างไม่ลดละซึ่งก็คงได้ฟันใครอีกซักฉัวะหากไม่ผลีผลาม
พลาดท่าไปเจอไม้พลองเหวี่ยงสกัดเข้าใต้ข้อศอกไม่จังนักกระนั้นก็ทำเอาดาบหลุดกระเด็นเมื่อไม่มีดาบเป็นอาวุธเด็กหนุ่มก็จำต้องหยุด
รุกไล่แต่ยังไม่เลิกรา เขาล้วงมือลงไปในย่านที่สะพายติดตัว กำเอาขวดสีชาแก่ขึ้นมาแล้วร้องบอกพรรคพวก
เฮ้ย ถอยออกมาก่อน ถอยเรçÇ
ขาดคำ ขวดใบย่อมถูกโยนลอยละลิ่วเข้าไปในร้านอย่างไม่รั้งรอ พริบตาติดต่อกัน เสียงแตกตัวของระเบิดเคมีก็แผดกัมปนาทกึกก้อง
µÙÁ
กลุ่มควันสีขาวหนาทึบ สาดพรวดออกมาจากในร้านนาฬิกา ตามด้วยเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดสาหัสประสานกันระงม
และพอควันจาง ภาพที่ปรากฏในร้านก็คือร่างโชกเลือดของเจ้าถิ่นสะพานขาวหลายนายทอดกายระเกะระกะอยู่กับพื้นที่ซึ่งเกลื่อน
ไปด้วยเศษวัสดุสารพันบิดทุรนทุรายและโอดโอยแข่งกันอึงคะนึงไม่แต่เพียงเท่านั้นหนึ่งในจำนวนพลรบฝ่ายรุกรานก็ยังเจอสะเก็ด
ระเบิดพวกเดียวกันเองบาดเจ็บไม่น้อย ปุ๊ ตรอกสาเก แดง ไบร์เล่ย์ หล่อ สะพานขาวรวมทั้งเหล่าพวกพ้องบริวารถึงกับ
ตะลึงเซ่อไปทั้งเทือก ทุกคนไม่เคยใช้ระเบิดขวด ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าอานุภาพของมันจะรุนแรงร้ายกาจขนาดนี้
เพราะรูปลักษณ์ภายนอกมันเป็นเพียงขวดใบเล็กๆ ไม่น่าจะมีพิษสงอะไรสักเท่าไหร่ที่ไหนได้ตูมเดียวร่วงระเนเป็นโขยง และไม่รู้จะมีใครถึงตายมั่งรึเปล่า? ปุ๊ ตรอกสาเก ตะลึงขึงขังจังงังกับฤทธิ์เดชของระเบิดขวดอยู่ร่วมอึดใจถึงได้สติ
และพร้อมกันนั้นสมองก็สั่งการให้ฉับพลัน
หนี..
เพราะหามีคนตาย ใครก็ตามที่พลาดพลั้งให้ตำรวจจับได้ต้องรับโทษทัณฑ์ขั้นอุกฤษฏ์แน่นอนเขาหันขวับไปทางเพื่อนร่วมแก๊งที่ยัง
พากันยืนเงอะงะ ทำอะรไม่ถูกและตวัดเสียงร้อนรน ทุกคนหนีเร็ว แยกย้ายกันไป ไม่มีใครรอให้เตือนซ้ำเด็กหนุ่มคะนองเลือดทั้ง
กลุ่มกระจายพรึ่บไปคนละทิศ เสียงฝีเท้าควบสุดฤทธิ์เตลิดออกจากที่เกิดเหตุ ดังระรัวแข่งกันสับสนบางส่วนกระโจนลงถนน สับตีนตะบึงตัดข้ามไปยังอีกฟากฝั่งอย่างไม่กริ่งเกรงว่ารถราจะพุ่งชน คนขับเสียอีกที่ต้องตาลีตาเหลือกกระทืบเบรกกันให้วุ่น
ไม่ถึงครึ่งนาที วัยรุ่นฝ่ายรุกรานก็สลายตัวไปจากบริเวณนั้นเรียบวุธ ที่เหลือทิ้งไว้ข้างหลังก็คือซากปลักพังแตกหักแหลกวินาศของ
วัสดุอุปรณ์สารพัดในร้านนาฬิกาซึ่งถูกถล่มทลายด้วยระเบิดเสียหายับเยิน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีร่างโชกเลือดของบรรดาเจ้าถิ่น
สะพานขาวหลายนายนอนดินทุรนทุรายกลิ้งเกลื่อน และมันแย่หนักเข้าไปอีกตรงที่ส่วนใหญ่บาดเจ็บสาหัส
คืนนั้น หล่อ สะพานขาว เผ่นหนีไปกับแดง และอาศัยหลบซ่อนที่บ้านของฝ่ายหลงในตรอกไบร์เล่ย์ ส่วนปุ๊ ตรอกสาเก กับลูกทีมจำนวนหนึ่งแห่กันไปค้างที่บ้านเพื่อนย่านถนนบุญศิริ ซึ่งหากหล่อกับแดง ติดกลุ่มไปด้วยก็เป็นอันว่าเสร็จ
ไม่พ้นมือกฎหมายเด็ดขาด เพราะก่อนรุ่งสางคืนเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กระจายกำลังเข้ารายล้อมบ้านหลังที่
เหล่าวัยรุ่นอันตรายสุมหัวกันซ่อนตัวอยู่ และจับกุมได้ โดยละม่อมทั้งชุด และแน่ละว่าพวกที่ถูกจับทุกคน ย่อมต้องเย็บปากตัวเองแน่นสนิทตามวิสัยลูกผู้ชายเต็มร้อย จะไม่มีการซัดทอดหรือแม้แต่ให้เบาะแสสืบสาวไปถึงตัวเพี่อนฝูงที่ยังไม่ได้โดนรวบมันเป็นกฎเกณฑ์ข้อปฎิบัติที่พวกเขายึดถือกัน
อย่างเหนียวแน่น มั่นคง
แดง ไบร์เล่ย์ หล่อ สะพานขาว กับพวกพ้องร่วมขบวนการอีกส่วนหนึ่ง จึงแคล้วคลาดลอยนวลอยู่ได้โดยปลอดภัย
เช้าวันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์รายวันต่างพาดหัวหน้าหนึ่งเสนอข่าวกันอย่างอึกทึกครึกโครมทุกฉบับรายงานข่าวละเอียดยิบเกี่ยวกับกรณี
วัยรุ่นสองกลุ่ม ก่อเหตุรุนแรงขั้นจราจลเข้าประจัญบานกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านที่สะพานขาวและปิดท้ายด้วยระเบิดขวดซึ่ง
สำแดงอานุภาพร้ายกาจน่าพรั่น และขาดไม่ได้ก็คือภาพถ่ายจองบรรดาเด็กหนุ่มคะนองเลือดที่จนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ
มันถูกตีพิมพ์หราปรากฎโฉมหน้าเป็นที่รู้จักไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปุ๊ ตรอกสาเก หรือที่ชื่อจริงตามทะเบียนสำมะโนครัวว่า
จำเริญ บุญยดิษฐ์ ในฐานะที่เป็นหัวโจกนำขบวนนักบู้ฝ่ายรุกแม้จะไม่ใช่คนใช้ระเบิดร้ายแรงถล่มคู่อริแต่เขาก็ได้ฉายาใหม
จากหนังสือพิมพ์แทนของเดิม นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ไม่ว่าฉบับใดก็เรียกเขาด้วยฉายาเดียวกัน
ปุ๊ ระเบิดขวด
และมันก็กลายเป็นฉายาติดตัวจนกระทั่งวาระสุดท้าย
ทั้งๆที่ปุ๊ไม่เคยใช้ระเบิดขวดแม้แต่ครั้งเดียว
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 22 คนที่กล่าวขอบคุณ:
AC_MILAN, boonlismz, eyazawa2456, fewuio, Hann.H.killer, HearTLockER, hopmbnzatou, kurosagi_diow 2, next 1000 clip, non16455, O'z NEWBIE IN THE H.H., ong30850, paperton, Siraphan, Str3AMuLaR99, thebasic555, titanoon, wachisawit, wanjaiteeruk, wizwiz200, [A]Zrecycle
-
ทุกสิ่งทุกอย่างจะ OK ตอนจ
แค่ระเบิดขวด ทำไมยาวมากครับ กระปู๋ยาว
** กรุณาเปลี่ยนขนาดของภาพในลายเซ็น **
-
-
ก็ยังดีกว่าระเบิดเค้ก 555
-
-
เดียวนี้มีเเต่ ตุ็ด ระเบิดตูด *-*
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 8 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
มีใครอ่านจบบ้างยัง
-
-
อย่างโหด...ขาโจ๋ในตำนาน...นังเลงนักเรียนสมัยนี้ไม่ได้ครึ่งขี้TEEN...ขอโทษที่หยาบคาย
-
-
บู๊ก ระเบิดขวด !! ที่มาคืออันนี้ นี่เอง !!!
ฺ
BEGONE THOTTTTTTTT
-
-
ปุ๊ระเบิดขวด ฉายาี้นี้ได้มาจากการที่ เค้า ระเบิดขวด ฟาดหน้าผู้หญิงที่ด่าเค้าครับ เนื่องจากเค้าไปใช้กำลังกับผู้หญิงคนนั้นแล้วผู้หญิงตบ ปุ๊ไม่ยอมเลย เผลอ ตบด้วยระเบิดขวด
เค้าจึงได้ฉายานี้มา
ดัง ๆก็มี แดงไบเล่ พันหลังวัง จอร์ดเฮาดี้ ดำเอสโซ่ ปุ๊ระเิบิดขวด
-
-
ปุ๊ ตายยังไงอะ ดำ ฆ่า ตายใช่ป่ะ (แย่งคุณ โส คนเดียวกัน)
-
-
เทพศิรินทร์ นนทบุรี
ลูกแม่รำเพย
-
-
= = เคยดูหนัง นะ สนุกดี อืม. . .
i7-3770K:ASRock Z77 pro4:HD 7770 VAPOR-X:Corsair 16 GB1600:XFX 750W
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
hackedsugus
แล้วแต่ปุ๊
ตามใจปุ๊ 555+
-
-
เคยได้ยินแต่เจ๊ปุ๊ระเบิดตูด
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
emmaza
ปุ๊ ตายยังไงอะ ดำ ฆ่า ตายใช่ป่ะ (แย่งคุณ โส คนเดียวกัน)
ปุ๊ ตายเพราะโดน ดำ ยิง ด้วยสาเหตุที่ว่าปุ๊ไปยิงเพื่อนสนิทของดำครับ(อันที่จริงดำไม่ใช่ลูกไล่ปุ๊ แต่สนิทกันในคุกแล้วออกมาด้วยกัน)
เรื่องจริงๆนั้นที่มีปัญหากันระหว่างแดง - ปุ๊ ที่เห็นในหนังนั้น จริงๆ ปุ๊ คนนั้น ไม่ใช่ ปุ๊ ตรอกสาเก แต่เป็นอา ปุ๊ กรุงเกษม ซึ่งเป็นคนละคนกันครับ
ส่วนเปี๊ยก วิสุทธกษัตริย์ ที่เป็นคนเล่าเรื่องนั้น จริงๆแล้วเป็นโก๋ ที่อยู่คนละกลุ่มกันเลย ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เพราะ "เปี๊ยก" ตัวจริงนั้นทุกคนคงรู้จักดี
ก็อาเปี๊ยก พิศาล อัครเศรนี ที่เป็นนักแสดง-ผู้กำกับ ไงครับ
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules