เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
เกิดอะไรกันแน่ที่ ทังกัสกา ปริศนากว่าศตวรรษยังคงคาใจ?? เหตุการณ์อุกกาบาตถล่มป่า
ผ่านไป 100 ปี เหตุการณ์อุกกาบาตถล่มป่า “ทังกัสกา” ยังคงเป็นปริศนา และมีคำถามที่คาใจว่าวัตถุที่มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงนี้คืออะไร บ้างก็ตั้งคำถามวัตถุลึกลับดังกล่าวมาจากนอกโลกจริง หรือเป็นวัตถุที่ในโลกของเราเอง ขณะที่นักวิทย์อีกกลุ่มพบทะเลสาบที่เกิดขึ้นหลังเหตุอุกกาบาตถล่มโลก เตรียมสำรวจหาความเชื่อมโยงปีหน้า
ย้อนกลับไป 100 ปีก่อน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2451 เกิดเหตุระเบิดขึ้นใกล้กับแม่น้ำพอดกาเมนนายา ทังกัสกา (Podkamennaya Tunguska River) ด้วยความรุนแรงที่สเปซดอตคอมระบุว่า เทียบเท่าระเบิดทีเอ็นที 10-20 เมกะตัน เรียกได้ว่ารุนแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นกว่า 1,000 เท่าเลยทีเดียว และสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่โดยรอบ 2,150 ตารางกิโลเมตร
ตามรายงานของเอเอฟพี และสเปซเดลี ยังระบุอีกว่า อุกกาบาต มหาภัยนี้เผาผลาญต้นไม้ในป่าแถบไซบีเรียไป 80 ล้านต้น อีกทั้งยังทำให้เกิดความรุนแรงเทียบเท่าแผ่นดินไหว 5 ริกเตอร์ ซึ่งรับรู้ได้ไกลถึงประเทศอังกฤษเลยทีเดียว และเนื่องจากการหมุนของโลก หากอุกกาบาตนี้ตกช้าไป 4 ชั่วโมง 47 นาที จะทำให้เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก อดีตเมืองหลวงของรัสเซียตกเป็นเป้านิ่งและถูกทำลายอย่างย่อยยับทันที
เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการขนานนามตามชื่อแม่น้ำซึ่งอยู่ใกล้สถานที่ เกิดเหตุ ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลก แต่สถานการณ์การเมืองโลกตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 การปฏิวัติรัสเซียไปจนถึงสงครามกลางเมืองต่างๆ ก็ได้เบียดบังความสนใจชาวโลกให้ลืมมันไปเกือบ 20 ปีเลยทีเดียว
กระทั่งเมื่อ 2470 ลีโอนิด กูลิก (Leonid Kulik) ผู้เชี่ยวชาญด้านอุกกาบาตชาวรัสเซียได้นำทีมสำรวจพื้นที่เพื่อค้นหาร่องรอยที่เหลือ แต่เขาก็ล้มเหลวในการค้นหาหลุมที่เกิดจากการชน
หลังจากนั้นทีมสำรวจในอีก 33 ปีก็ยังคงล้มเหลวในการค้นหาหลุมอุกกาบาต นักวิทยาศาสตร์จึงเผชิญกับความลึกลับของเหตุการณ์ทังกัสกาที่สร้างความเสีย มากกว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กลับไม่ทิ้งร่องรอยไว้
อีกทั้งเมื่อทศวรรษก่อน นักวิจัยหลายคนคาดเดาว่า อุกกาบาตที่พุ่งชนโลกนั้นน่าจะมีความกว้างราวๆ 30 เมตร และมีมวล 560,000 ตัน แต่การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ล่าสุดบ่งชี้ว่า อุกกาบาตที่เป็นสาเหตุของความเสียหายใหญ่โตนี้มีขนาดเล็กกว่าที่เคยคาดไว้ มาก
มาร์ก บอสลาฟ (Mark Boslough) นักฟิสิกส์จากห้องปฏิบัติการแซนเดียแห่งสหรัฐฯ ในอัลบูเคอร์คิว (Sandia National Laboratory in Albuquerque) นิวเม็กซิโก พร้อมด้วยคณะระบุว่า อุกกาบาตแห่งทังกัสกานี้น่าจะเล็กกว่าที่เคยคาด 3-4 เท่า และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เมตร
“เมื่อ อุกกาบาตระเบิดหลังจากพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก บอสลาฟและคณะคำนวณว่าจะเกิดก๊าซที่ร้อนยิ่งยวด และมีความเร็วเหนือเสียง ลูกไฟที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุของคลื่นระเบิดที่สร้างความเสียหายรุนแรงกว่าที่ เคยคิดกัน” สเปซดอตคอมรายงานสิ่งที่บอสลาฟและคณะคำนวณได้
บางทฤษฎีว่า การระเบิดในทุ่งทังกัสกานั้นน่าจะเกิดขึ้นจากใต้แผ่นดินนี่เอง โดยโวล์ฟกัง คุนด์ท (Wolfgang Kundt) นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยบอนน์ (University of Bonn) ในเยอรมนี และนักวิทยาศาสตร์บางส่วนแสดงความเห็นว่า เปลวไฟซึ่งสว่างถึงขั้นที่ชาวลอนดอน สามารถอ่านหนังสือในย่ามค่ำคืนได้อย่างสบายๆ นั้นน่าจะเกิดจากการปะทุของก๊าซธรรมชาติในคิมเบอร์ไลต์ (kimberlite) หินภูเขาไฟซึ่งรู้จักกันดีว่าบางครั้งเราอาจพบเพชรในหินชนิดนี้
“อาจ เกิดจากของเหลวภายในโลกซึ่งอยู่ลึกลงไป 3,000 กิโลเมตร ก๊าซธรรมชาติถูกกักเก็บไว้ในรูปของเหลว และเมื่อสัมผัสอากาศก็กลายเป็นก๊าซที่มีปริมาตรเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า แล้วเกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น” คุนด์ทกล่าว และเพื่อสนับสนุนแนวคิดนี้เขาได้อ้างถึงลักษณะของต้นไม้และสารเคมีที่ผิดปกติ
อีกทฤษฎีที่น่าสนใจซึ่งบีบีซีนิวส์รายงานไว้ คือ อุกกาบาตที่ถล่มทังกัสกาอาจเป็นชิ้นส่วนของดาวหางเองเค (Encke) ซึ่งสายธารฝุ่นของดาวหางดวงนี้ ทำให้เกิดฝนดาวตกเบตาทอริดส์ (Beta Taurids) ระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ค.ของทุกปี และเป็นช่วงเดือนใกล้เคียงกับที่เหตุการณ์ทังกัสกา และหากมีหลุมขนาดใหญ่สักแห่งก็จะนำไปสู่ทฤษฎีใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงเหตุการณ์ทังกัสกาได้
อย่างไรก็ดี เมื่อปี 2550 จูเซปเป ลองโก (Giuseppe Longo) และคณะจากมหาวิทยาลัยโบโลญญา (University of Bologna) อิตาลี ระบุว่าพวกเขาอาจพบบางสิ่งที่กูลิกได้พลาดไปเมื่อหลายปีก่อน โดยทะเลสาบเชกโก (Lake Cheko) นั้นไม่เคยปรากฏอยู่ในแผนที่มาก่อนปีที่เกิดเหตุการณ์ทังกัสกาเลย อีกทั้งตำแหน่งของทะเลสาบยังอยู่กึ่งกลางทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่อุกกาบาตลึกลับตกสู่โลก
ตามข้อมูลจาก ดร.ลองโก ระบุว่า สัญญาณเรดาร์นั้นแสดงให้เห็นถึงวัตถุที่มีความหนาแน่นสูงอยู่ก้นทะเลสาบ โดยฝังลึกลงไป 10 เมตร ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของอุกกาบาตที่ถล่มทังกัสกา และทีมของเขาก็เตรียมทำการสำรวจพื้นที่ดังกล่าวในปี 2552 เพื่อหาความเป็นไปได้ในข้อสันนิษฐานดังกล่าว
ปัจจุบันมีข้อทฤษฎีต่อเหตุการณ์มาทังกัสกามากกว่า 20 ข้อ บ้างก็ว่ามาจากจานบินลึกลับ ปฏิสสาร วันสิ้นโลกและหลุมดำ แต่ก็ไม่มีทฤษฎีใดที่มีหลักฐานชี้ชัด ซึ่งเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์จากทั่วรัสเซียก็ได้รวมตัวกันเพื่อถกเถียงเรื่องนี้ในการ ประชุมว่าด้วยเรื่องทังกัสกาโดยเฉพาะ และมีการใช้เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์มากกว่าเทคนิคดั้งเดิม เพื่อหาสาเหตุที่ทำลายพื้นที่ไซบีเรียอันห่างไกล แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ออกมา
CREDIT: http://creatures.igetweb.com/index.p...4&newsid=55069
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
ทุกสิ่งทุกอย่างจะ OK ตอนจ
เกิดอะไรกันแน่ที่ ทังกัสกา ปริศนากว่าศตวรรษยังคงคาใจ??
ถามผมผมจะรู้หรอครับ
** กรุณาเปลี่ยนขนาดของภาพในลายเซ็น **
-
-
ผมแค่แอบตดนิดเดียวเอง ไม่นึกว่าจะเป็นหลุมขนาดนี้
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
ทุกสิ่งทุกอย่างจะ OK ตอนจ
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
nakiann123
ผมแค่แอบตดนิดเดียวเอง ไม่นึกว่าจะเป็นหลุมขนาดนี้
เรปนี้ทำผมนํ้าตาไหล 5555555555555
** กรุณาเปลี่ยนขนาดของภาพในลายเซ็น **
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
nakiann123
ผมแค่แอบตดนิดเดียวเอง ไม่นึกว่าจะเป็นหลุมขนาดนี้
ถ้าแค่ท่านแอบตดแล้วหลุมขนาดนั้น ถ้าท่านปล่อยทองคำ โลกไม่ระเบิดเลยหรอ XD
-
-
เหงื่อผมหล่นไป 1 หยดมันเลยเป็นหลุมแบบนี้
จะล้มสักกี่ครั้ง ก็ต้องลุกขึ้นสู้!!
-
-
ผมปล่อยพลังคลื่นเต่าใส่จอมมารบูไป แต่มันหลบได้ก็เลย....
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
nakiann123
ผมแค่แอบตดนิดเดียวเอง ไม่นึกว่าจะเป็นหลุมขนาดนี้
โอ้ยท่าน แย่งมุกผม
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules