เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
10 เห็ดประหลาดของโลก
เห็ดบนโลกมีหลายหลายพันธุ์ บางชนิดเราก็เคยเห็นประจำ ขณะที่บางชนิดเราก็ไม่เคยเห็นมาก่อน และนี้คือ 10 เห็ดที่ไม่เชื่อว่ามันมีอยู่บนโลก ที่ลักษณะรูปร่างของมันนั้นช่างแปลกประหลาดเหลือจะกล่าว
10 Gyromitra esculenta
ภาพที่เห็นเป็นเห็ดที่ชื่อ Gyromitra esculenta เป็นเห็ดสายพันธุ์ False Morels ที่แปลก สายนี้มีหลายชนิด แพร่หลายกระจัดกระจายในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชียบางประเทศ(รวมถึงไทย) ขึ้นในป่าสน โดยรูปร่างของมันจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและพันธุ์ของมัน โดยลักษณะเด่นคือดอกเห็ดเหมือนรูปสมองมนุษย์ที่มีอาการผิดปกติ เป็นลอนและคลื่นคล้ายสมอง หมวกมีสีน้ำตาล ส่วนเห็ดชนิดนี้กินได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาและวิธีการทำ โดยทั่วไปแล้วเห็ดชนิดนี้เป็นพิษ แต่กระนั้นเห็ดชนิดนี้กินกันในสแกนดิเนเวีย ยุโรปตะวันออกตอนบน โดยจะมีคำแนะนำการทำให้ถูกสุขอนามัยและปลอดภัย นิยมทำเป็นซุปและผัด ส่วนในประเทศไทยเรียกเห็ดชนิดว่าเห็ดสมองวัวพบทางภาคเหนือเป็นเห็ดมีพิษร้ายแรง แต่เมื่อทำแห้งหรือต้มสุกทิ้งน้ำไปหลายครั้ง พิษของเห็ดจะหายไป
9 Gymnosporangium juniperi-virginianae
เป็นอันดับเดียวในรายการนี้ไม่ใช่เห็ด แต่เป็นตระกูลเชื้อราเหมือนกัน โดยโรคพืชนี้เรียกว่า “โรคแอปเปิ้ลราสนิม” หรือ ( G. juniperi-virginianae ) เป็นโรคที่พบไม่มากนัก มักพบในฤดูฝนหรือฤดูใบผลิตในชายฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา ในพันธุ์แอปเปิ้ลซีดาน โดยเริ่มแรกเชื้อราจะติดใบ ผลไม้ กิ่งอ่อน โดยหากเป็นผลจะเกิดจุดเล็กๆ สีส้มต่อมาจุดนั้นก็ขยายใหญ่เป็นสีส้มหรือสีแดง ต่อมาก็จุดดังกล่าวจะขยายตัวเป็นตุ่มสปอร์ขนาดใหญ่เหนียวๆ เหมือนเขาสัตว์ สีส้มสดใสจนดูเหมือน “สนิม” เจาะเข้าไปในเนื้อแอปเปิ้ลจนผลแอปเปิลเน่าแห้งตายสีส้มคล้ำ มองภายนอกเหมือนแอปเปิ้ลมีหนามแหลมคม และต่อมาก็เส้นเขาสัตว์นั้นจะขยายใหญ่เป็นเส้นใหญ่ๆ สีเหลืองเหมือนหนวดปลาหมึกคลุมแอปเปิลจนหมด ก่อนที่เชื้อรานี้จะแตกสปอร์ออกปลิวตามลมเพื่อให้แอปเปิ้ลติดเชื้อต่อไป
8 Black Trumpet
Craterellus เป็นสกุลเห็ดที่กินได้พบทั่วไปมีความใกล้ชิดกับสกุล Cantharellus (เห็ดมันปูใหญ่) โดยเห็ดชนิดนี้มีความโดดเด่นคือรูปร่างเหมือนแตร หมวกเห็ดเป็นคลื่น ส่วนเห็ดในภาพคือ Black Trumpet(Craterellus cornucopioides)หรือเห็ดแตรดำที่ตั้งตามกรวยแห่งความอุดมสมบูรณ์ของภูตของอมาลเธียตามตำนานของกรีก โดยเห็ดมีสีเข้มเกือบดำและดูไม่สวยงามนัก แต่รสชาติดีมาก มักพบในขึ้นตามซากใบไม้บนพื้นดินตามป่า
7 Earthstar
เห็ดดาวดิน หรือ Geastrum stipitatus Solms เป็นเห็ดที่พบตามพื้นป่าทั่วไปตามทวีปอเมริกาเหนือหรือประเทศไทยก็มีบ้าง โดยมักขึ้นบนซากเศษขอนไม้ผุทับถมกันหรือเกิดบนขอนไม้ผุ ขึ้นเป็นดอกเดี่ยวอยู่กันเป็นกลุ่ม ดอกเห็ดระยะแก่ผนังด้านนอกดอกเห็ดแตกออกเป็นแฉก มีจำนวนแฉก 6-7 แฉก บริเวณกลางดอกมีลักษณะเป็นก้อนกลมอยู่กลางดอกเห็ด ซึ่งเป็นที่เก็บสปอร์และฟุ้งกระจายตามลมเป็นการกระจายพันธ์ในพื้นที่ใกล้เคียงให้เกิดเป็นเห็ดดอกใหม่
6 Hydnellum peckii
หรือเห็ดฟันเลือด(Bleeding Tooth Fungus เขียนทับศัพท์) เป็นเห็ดที่พบในอเมริกาและยุโรป นอกจากนี้ยังมีรายการการพบประเทศในนอกทวีปยุโรปและอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นอิหร่าน(2008) เกาหลี(2010) หากแต่ปัจจุบันเห็ดจำนวนนี้กำลังลดลงเนื่องจากมลพิษในยุโรปกลาง เห็ดชนิดนี้ชอบขึ้นบนพื้นดินบริเวณต้นสนบนภูเขา มักขึ้นเป็นกลุ่มผสม หรือกระจัดกระจาย รูปร่างของมันเหมือนหมวกหรือฟัน ขอบสาว และมีเม็ดสีเหมือนเลือดออกหรือน้ำเชื่อมผลไม้แดงที่กำลังไหลออก เหมือนขนมเดนมาร์กราดด้วยแยมสตรอเบอรี่ หลายคนรู้จักเห็ดนี้ในฐานะสารกันเลือดแข็ง คุณสมบัติคล้ายเฮปาริน ไม่มีพิษ แต่ไม่นิยมกินเพราะขมมาก นิยมทำให้มันแห้งแล้วทำเป็นยามากกว่า
5 Fungi with flare
กลุ่มเห็ดกระสือ(Mycena sp.) ซึ่งเป็นเห็ดที่เรืองแสงได้ในเวลากลางคืนกระจายเป็นกลุ่มใกล้กันบนขอนไม้เนื้อแข็ง โดยเห็ดเหล่านี้สามารถเรืองแสงได้โดยสาร “ไรโบฟลาวิน” เปลี่ยนพลังงานทางชีวเคมีให้เป็นพลังงานแสง อาจเห็นเป็นสีขาว สีเขียว หรือสีน้ำเงิน หรืออาจเรืองแสงเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น เรืองแสงเฉพาะที่ครีบในเวลาดอกบานเต็มที่เท่านั้น หรือเรืองแสงทุกส่วนยกเว้นสปอร์ ได้แก่ เห็ดฆ้องเขาเขียว (Chlorosplenium aeruginasens) นอกจากนี้ยังมีเห็ดเรืองแสงหลายชนิดที่ยังรอการค้นพบ ล่าสุดมีการพบพันธุ์ใหม่ของเห็ดเหล่านี้ที่ป่าฝนในบราซิล และส่วนมากเห็ดเรืองแสงนี้มักเป็นเห็ดมีพิษ
4 Bird's Nest fungi
เห็ดรังนก หรือเห็ดรังนกกระจอก เป็นเห็ดสายพันธุ์ Nidulariaceae พบในเขตป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง เกิดบนขอนไม้ผุ เกิดดอกเดี่ยวแต่อยู่เป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มหนึ่งพบเป็นจำนวนมากลักษณะดอกเห็ดคล้ายถ้วยหรือรังนกมีไข่เล็กๆ อยู่ข้างใน ซึ่งเป็นโครงสร้างของเห็ดโดยไข่มีรูปร่างกลมสีเทา เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 0.2 มิลิเมตร ขอบปากถ้วยมีความกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ถ้วยสูงจากพื้นประมาณ 1 เซนติเมตร ด้านล่างของขอบถ้วยสอบแคบลงไปเป็นก้านดอกหรือก้นถ้วย ผิวด้านนอกสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมไปด้วยเส้นขนหยาบสั้นๆ ผิวด้านในสีดำหรือเทาอมน้ำตาลหรือสีดำ มีเส้นลายนูนยาวขนานกันจากขอบปากถ้วยลงไปที่โคนก้านดอกและสามารถรับประทานได้
3 Aseroe rubra
เห็ดแสงอาทิตย์(หรือจะเรียกว่าเห็ดดอกไม้ทะเลก็ได้) เห็ดชนิดนี้มีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Aseroe rubraหรือ Stinkornหมายความถึงเชื้อราที่มีกลิ่น เห็ดชนิดนี้มีก้านดอกเห็ดค่อนข้างสั้น สูงเพียง 1-3 เซนติเมตร ดอกเห็ดมีเมือกคล้ายวุ้นบางๆ เคลือบบนผิว ขนาด 5-8 เซนติเมตร และมีแขนเรียวยาวที่มักอยู่เป็นคู่ รวมทั้งหมด 14 อัน คล้ายดาวทะเลหรือดอกไม้ทะเล ยื่นยาวแผ่รัศมีออกไปโดยรอบเป็น 1-2 เท่าของความกว้างของดอกเห็ด ด้านล่างสีขาว ด้านบนสีชมพู บริเวณกลางดอกที่เป็นส่วนเก็บสแอร์มีสีแดงเข้มซึ่งจะแตกปล่อยสปอร์ฟุ้งกระจายออกไป พบได้ทั่วไปในป่าเขตร้อน โดยพบได้ตั้งแต่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ศรีลังกา สุมาตรา ชวา แทสเมเนีย เม็กซิโก และอเมริกาใต้ พบเฉพาะบนพื้นดินในป่าดิบเขาที่ดินมีความชื้นสูง ทั้งยังประกอบด้วยซากผุพังของอินทรียสารจำนวนมากในประเทศไทยเป็นเห็ดหายากพึ่งมีรายการการพบที่เขาใหญ่ในเร็วๆ นี้เอง
2 Shrooms that squiggle and stinks
เห็ดปลาหมึก เป็นเห็ดพื้นเมืองพบในที่ชื้นในทุ่งหญ้า หรือป่าผสมผลัดใบระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายน พบมากในประเทศออสเตเลียและทัสมาเนีย และมีบ้างในยุโรปและอเมริกาเหนือ จุดเด่นคือมันมีรูปร่างเหมือนมือหรือหนวดแยกออกมา 4-7 อัน หนวดมีลักษณะเรียวยาวสีแดงอมชมพู และกลิ่นของมันเหมือนเนื้อเน่าเหม็น ด้วยเหตุนี้มันจึงสามารถเรียกแมลงวันมาตอม เพื่อการแพร่พันธุ์ ได้ เห็ดชนิดนี้สามารถกินได้ แม้จะเหม็นมากก็ตาม ส่วนใหญ่กินเพื่อเอาชีวิตรอดหากอยู่ถิ่นทุรกันดาร หรือหลงป่า (คือไม่มีอะไรจะกินนั้นแหละ) โดยรสชาติจะเหมือนหัวไชเท้า
1 The Devil's Cigar
เห็ดซิการ์ของปีศาจ หรือเห็ดเท็กซัสสตาร์ เป็นเห็ดหายาก(มากๆ) สกุล Chorioactis พบ เพียงสามแห่งในโลก มีรายงานการค้นพบเห็ดนี้ครั้งแรก เมื่อปี 1893 ในเมือง Austin รัฐเท็กซัส (Texas) ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมามีการค้นพบอีก 2 แหล่งที่ประเทศญี่ปุ่นในที่ Miyazaki และ Kochi พบเห็ดชนิดนี้ในขอนไม้โอ๊คที่ตายแล้ว ในบริเวณที่มีความชุ่มชื่น ในช่วงระหว่างฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดู หนาว รูปร่างของเห็ดจะตูมคล้ายซิการ์สีน้ำตาลหรือสีดำมืด แต่เมื่อแก่แล้วแยกตัวออกมีลักษณะเหมือน รูปดาวหรือกลีบดอกไม้บาน 4-7 แฉก นักวิทยาศาสตร์มีข้อสงสัยว่า ทำไมจึงพบเห็ดนี้ได้เพียง 3 แห่ง ในโลก โดยแต่ละที่ห่างไกลกันถึงครึ่งโลก คนละละติจูด โดยมีสมมุติฐานว่า สปอร์ของเห็ดน่าจะถูก หอบลอยไปโดยกระแสอากาศที่เรียกว่า Asia dust
Credit : http://www.toptenthailand.com/display.php?id=3370
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 17 คนที่กล่าวขอบคุณ:
==ToR==, flukezuzayo, humanzolo, jackpot12, kurosagi_diow 2, MiLaT " C " M!Ne, Mustas, nodoka, patcharakon, phathanbo, siamzone, thotsawat555, ToshirO, wittosca, YakuzaCup, yoshi3416, [H]ope
-
ไม่แน่ใจว่าซ้ำป่าว แต่ +1 ก่อน
-
-
อันที่ 7 ดูน่ากลัว ยังไงก็ไม่รู้ 55+
-
-
บางอันมันดูไม่เป็นเห็ดสักนิดอะ
-
-
อยากเห็น เห็ดเรือง แสงอ่ะ
-
-
-
-
ผมชอบอันที่6 กับอันที่ 5 สวยดีครับ
-
-
-
-
ชอบทุกอันเลยครับ ได้ความรู้ไปอีกแล้ว
-
-
7th August 2011 22:39
#10
6 Hydnellum peckii น่ากินอะ
-
-
8th August 2011 02:38
#11
Shrooms that squiggle and stinks
มันพ่นหมึกได้ด้วยป่าวคร้บ 555
-
-
8th August 2011 09:33
#12
-
Tags for this Thread
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules