การฆ่าตัวตาย เป็นการกระทำ"โง่ๆ" จริงหรือ??
1. การฆ่าตัวตาย หลายครั้งเกิดจาก โรค ที่สมองมีความผิดปกติของสารสื่อประสาทที่มีผลต่อ อารมณ์และความคิด ซึ่งหากได้รับการรักษาก็ดีขึ้นได้ เช่น
โรคซึมเศร้า ที่มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์อย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง ซึ่งอาจเป็น ซึมเศร้า หดหู่ หรือ หงุดหงิดกระสับกระส่าย ร่วมกับอาการอื่นๆ ,
โรคจิต ที่มีเสียงหูแว่ว หรือ หวาดระแวง เช่น เสียงสั่งให้ทำร้ายตัวเอง หรือ หวาดกลัวในสิ่งที่สมองคิดไปเอง จนตัดสินใจลาโลก ,
โรคย้ำคิดย้ำทำ ที่สมองสั่งให้คิดซ้ำๆในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเรื่องงาน เรื่องลามกหยาบคาย ฯลฯ ทำให้เครียดที่หยุดคิดไม่ได้ ,
โรค Body dysmorphic disorder ที่ เจ้าตัวจะมองว่า ร่างกายของตัวเองผิดปกติ ซึ่งแม้จะไปปรับแต่งหรือผ่าตัดอย่างไร ก็ยังรู้สึกว่ามีปัญหาจนอาจทำให้คิดสั้นอยากตายได้ ฯลฯ
รวมถึง โรคอีกหลายๆโรคทางจิตเวชที่เป็นเหตุของการฆ่าตัวตาย ฯลฯ
2. การฆ่าตัวตาย หลายครั้งเกิดจาก โรคทางกาย ที่สร้างความทุกข์ทรมานแก่เจ้าตัว เช่น มะเร็งบางชนิด บางระยะ ที่สร้างความเจ็บปวดเรื้อรัง ไม่สามารถบรรเทาด้วยยา และรู้ว่ารักษาไม่หาย , ผู้ป่วยที่ต้องล้างไตสัปดาห์ละสามวัน ส่วนวันที่เหลืออยู่อย่างอ่อนเพลีย ไม่อาจใช้ชีวิตได้เช่นคนทั่วไป ฯลฯ
3. การฆ่าตัวตาย หลายครั้ง ไม่ได้เกิดจากโรค แต่เป็นภาวะที่เจ้าตัวรู้สึกว่า ไม่มีทางออก แม้คนนอกอย่างเราๆจะเห็นว่า มีหนทางช่วยเหลือ แต่ในจุดนั้น เจ้าตัวไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่สามารถหาช่องทางที่จะขอความช่วยเหลือ
เช่น วัยรุ่นวัยเรียน ถูกเพื่อนล้อถูกแกล้งในโรงเรียนจนทนไม่ไหว ถูกกระทำซ้ำๆแล้วไม่มีคนยื่นมือช่วยเหลือ ผู้ใหญ่หลายคนมองว่าพวกเขาอ่อนแอ แทนที่จะมองว่า หลายครั้งปัญหาการรุมแกล้งของเด็กในโรงเรียน มันร้ายแรงมาก แต่เราโตจนหลงลืม และ เด็กก็ไม่ได้เข้มแข็งเหมือนกันทุกคน , หลายคนถูกทารุณกรรมจากคนในครอบครัวซ้ำๆ ถูกตบ ถูกซ้อม คิดว่าตัวเองไม่สามารถออกจากครอบครัวได้เพราะติดขัดเช่น กลัวอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้ไป กลัวออกไปแล้วจะหาที่อยู่ที่กินไม่ได้ สุดท้ายก็เลือกจบชีวิตลง
เมื่อความเข้าใจว่า คนฆ่าตัวตายคือคนโง่ เปลี่ยนเป็น คนฆ่าตัวตาย คือ คนที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ไม่มีคนรู้ ไม่มีคนเข้าใจ
เราจะรู้แต่เนิ่นๆว่าอะไรคือ สัญญาณเตือนที่ควรเข้าไปช่วยเหลือ รู้ว่าอะไรคือสัญญาณอันตรายของคนใกล้ชิดที่ควรรีบจัดการ
เราจะลดปัญหานี้ได้อีกมากมายหลายเท่า เราจะช่วยได้อีกหลายชีวิต โดยไม่ต้องรอให้เป็นหน้าที่ของหมอหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงเพียงอย่างเดียว