สวัสดีครับหากผิดหมวดก็ขออภัยด้วยครับใครได้ดูคลิป
ใครดูเเล้วมีความเห็นยังไงครับ ที่ว่าเมื่อ 20 ปีก่อนประเทศไทยก็ไม่แพ้ประเทศเกาหลี
ประเทศไทยติดดับ 2 ที่เป็นประเทศที่เรียนมาที่สุด แต่วัดระดับออกมาติดดับบ๋วยที่สุด
สวัสดีครับหากผิดหมวดก็ขออภัยด้วยครับใครได้ดูคลิป
ใครดูเเล้วมีความเห็นยังไงครับ ที่ว่าเมื่อ 20 ปีก่อนประเทศไทยก็ไม่แพ้ประเทศเกาหลี
ประเทศไทยติดดับ 2 ที่เป็นประเทศที่เรียนมาที่สุด แต่วัดระดับออกมาติดดับบ๋วยที่สุด
เรื่องนี้ผมรู้มานานละ เรียนหนักที่สุดในโลก แต่ผลผลิตทางการศึกษา เอ่อ
การที่เน้นวิชาการมากเกินไป ทำให้เด็กบางคน(หลายคน)ขาด EQ
จากประสบการณ์ที่ผมก็เคยผ่านมา เรียนวันละ 8 คาบ 5 วันรวมเป็น 40 คาบ/อาทิตย์
แต่มี 1 คาบศิลปะ 1 คาบพละศึกษา
เรียนในโรงเรียนยังไม่พอ ต้องไปเรียนพิเศษอีก
ปล. ผมว่าควรเพิ่มวิชาอื่นได้แล้ว เช่นพละ 3 คาบ ศิลปะ 2 ดนตรี 1 เด็กๆมันจะได้ไม่เครียด
ปล2. สักพัก O-Net เพิ่มข้อสอบเป็น 10 ชุด 55555+
ปล3. เชื่อว่าหลายคนรอคอยวิชาศิลปะ/พละ/ดนตรี/คอมพิวเตอร์ กันทั้งนั้น แต่ดันมีคาบละอาทิตย์
การบ้านเยอะ + เด็กขี้เกียจ + วิชาไร้สาระ = โง่
On Da EastSide Of Da LBC
- อาจารย์กั้กความรู้ อยากได้เพิ่มต้องไปเรียนพิเศษ
- ข้อสอบเน้นการท่องจำ มากกว่าคิดวิเคระห์ ( ทำให้เวลาเด็กเจอข้อสอบแปลกๆหรือแตกต่างจากเดิมมักทำไม่ได้ )
- เน้นพัฒนา IQ เกินไปจนเด็กขาด EQ ทั้งที่สองสิ่งนี้จำเป็นต้องไปพัฒนาคู่กันไป
- เด็กๆอายที่ถามตอบอาจารย์ในห้อง ( บางครั้งถามก็โดนเพื่อนล้อทำให้เด็กไม่กล้าถามทั้งๆที่ไม่เข้าใจ )
- ผู้ใหญ่ไทยส่วนมากมองความคิดเด็กเป็นเรื่องไร้สาระและไม่ให้การสนันสนุน ทำให้เด็กที่มีความสามารถที่โดดเด่นบางคนเสียโอกาส ( ลูกชอบศิลปะ วาดรูปเก่ง แต่ดันยัดเยียดให้เป็นหมอ )
- ฯลฯ
การศึกษานี้แหละครับ คือต้นเหตุของเรื่่องวุ่นวายทั้งหมดในประเทศไทย
เป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิต พอผู้สอนทำแบบอย่างที่ไม่ดี เด็กก็เลียนแบบไปกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดีในวันข้างหน้า
แต่ดันพากันไปแก้แต่ที่ปลายเหตุ
ผมอยากให้นำหนังสือเข้าห้องสอบได้ครับเพราะไม่มีหนังสือ ต้องให้ข้าพเจ้าจำทั้งหน้าเข้าไปถึงทำได้
คนที่เรียนไม่เก่ง กลายเป็นคนด้อยในสายตาคนอื่น ทั้งๆที่อาจจะมีด้านโดดเด่นแต่โดนยัดเยียดให้ไปในทางที่ไม่ชอบ
เช่น ชอบ คอมพิวเตอร์โดนบังคับให้ไปกวดวิชา คณิต-วิทย์
กลายเป็นว่าการศึกษาไทยคือ สงครามแย่งที่นั่งในมหาลัยทั้งๆที่การศึกษาคือการพัฒนาคนให้มีความรู้ไปใช้ในชีวิต
แต่ก็เป็นไปตามสายตาผู้ใหญ่ ต้องหมออย่างเดียวนะ ต้องวิศว ต้องเป็นนายร้อย ...
การประสบความสำเร็จ<<<ประสบการณ์<<<ความพยายาม<<<ความอดทน<<<ความเชื่อ<<<ความพ่ายแพ้
ขนาดในกระทู้ยังงดแสดงความเห็นต่างเลย ผมว่าจะเข้ามาอภิปรายซะหน่อย
แต่ถ้าจงใจจะให้ความเห็นมันตามน้ำอย่างเดียวก็เอาเลยครับถ้าคิดว่ามันสามารถทำให้ประเทืองปัญญาได้อะนะ
ปล. ปัญหามันอาจอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดไว้เยอะนะครับ
ง่ายๆคือ มีการจัดคาบเรียนที่เย๊อะเกินไป ไม่ผ่อนคลายเหมือนต่างประเทศ เลยทำให้คาบตอนช่วงบ่ายๆ สมองเกิดการ สป๊าค มึนๆ
ยังไม่รวมชั่วโมงที่เรียนพิเศษอีก = เด็ก ไร้ คุณภาพ ^ ^"
สั้นนะจ๊ะ กาก
ปั้มกระทู้หาพ่อเธอหรือ เห็นเธอตะโกนไม่ได้ปั้มๆ แต่เธอก็ยังจะทำ ปั้มมันแล้วบอกกดพลาด แล้วยังจะมาอิอิ เห็นทีต้องแจ้งแบน7วัน แต่ถ้าไม่เลิกก็ช่างมัน ไม่นานคงโดนถาวร
พูดตามตรงว่าตัวผมคนนึงละน่ะครับที่ให้ความสําคัญกับ จินตนาการ EQ ตัวเองมากกว่า 80% ส่วนเรื่องการเรียนสําหรับผม นั่นถือว่าพอเอาตัวรอดได้ ผมจึงเลือกมาเรียนที่ สายอาชีพ เพราะผมคิดว่า มันเรียนง่ายดีถึงเราอาจจะไม่อยากเป็นในวิชาแผนกสาขาที่เราเลือกก็ตาม แต่ที่ผมเลือกเรียนสายนี้เพราะผมคิดครับว่า การที่เราเอาเวลาว่างมา พัฒนา ความสามารถของตัวเราเองก็คือสิ่งที่ผมชอบได้เรื่อยๆผมมีความสุขครับและเรียนรู้ได้เร็วดี อาทิการวาดรูป ตัดต่อวิดิโอ การรีวิวเกมส์ถือเป็นการฝึกไปในตัวด้วย แทนที่จะมานั่งท่องบทเรียน ผมมาทําอย่างนี้เพื่อความสุขของตนเองและพัฒนา EQ แทน ก็ใจมานนร๊ากกกก~~555+ เอาเป็นว่าผมก็แค่เด็กธรรมดาคนหนึ่งละนะ แต่ผมก็เห็นด้วยกับความคิด ที่ว่าให้ความสําคัญกับ EQ น่ะ ^^ ถึงผมจะรู้น้อยก็ตามแต่ผมชอบคิดเรื่องออกความคิดเห็นแบบนี้มันสนุกดี>< แต่ผู้ใหญ่ชอบคิดว่า ถ้าไม่ตั้งใจเรียน แล้วโตมาจะเป็นอะไร คือในความคิดของผมน่ะ ถ้าเราทําสิ่งที่เราชอบแล้วคิดว่ามันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ด้านใดๆก็ตาม ผมว่าถ้าพัฒนาไปเรื่อยๆมันจะได้มีอาชีพที่ตนชอบ และทํางานอย่างมีความสุขได้ภายในอนาคตอย่างแน่นอนครับ ไม่ใช่ว่า เราเรียนสายสามัญ จําเป็นจะต้องรับ ราชการ ไม่ใช่ว่า เราเรียน สาขาแผนก อิเล็กทรอนิกส์จะต้องซ่อมเครื่องใช้ไฟไฟ้าหรือเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์อย่างเดียว ในทางกลับกัน เราเรียน สายอาชีพ หรือสามัญไปเรื่อยๆถึงจะไม่ตั้งใจเรียน แต่ก็ได้ความรู้มาในเทอมๆ1 ซึ่ง+กับการพัฒนาฝีมือในด้านความสามารถที่มีและชอบอยู่ = ได้ความรู้และไม่มีทุกข์มีอนาคตที่ดีได้เช่นกัน แต่คนส่วนใหญ่มักกังวลจึงปลูกฝังให้ลูกหลานเล่าเรียนจดจําบทเรียนอย่างตั้งใจเพราะกลัวว่าจะโตมาไม่มีงานทําเพียงอย่างเดียว= =" มันก็เลยทําให้เด็กไม่ค่อยมีทางเลือก ถ้าสมมุติตัวผมถูกแม่บังคับให้เรียน สาขาที่แม่ต้องการผมก็เรียน แต่ที่แน่ๆสิ่งที่ผมอยากจะเป้นในอนาคตและผมคิดว่าเป้นได้ถึงแม้จะไม่ตรงกับสาขาที่เรียน ผมว่า ผมไปถึงแน่นอน ผมจึงให้ความสําคัญกับมันตั้งแต่เยาวัยตอนนี้ยังไงละครับ^^
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jengdexinw : 24th November 2012 เมื่อ 21:06