ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 27
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    สวรรค์
    กระทู้
    410
    กล่าวขอบคุณ
    712
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,464

    ภาพแห่งประวัติศาสตร์ที่ชาวโลกไม่เคยลืม (มีสาระไม่เหมือนอันก่อนๆ)




  2. #2
    ป้อ คิง หยัง...
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    หัวใจ
    กระทู้
    509
    กล่าวขอบคุณ
    389
    ได้รับคำขอบคุณ: 675
    การประกาศชัยชนะสงครามของโซเวียต หรือเปล่าหว่า แต่คล้ายๆในเกมส์ COD ภาคแรกเลย ใครเล่นก็จะรู้ ฉากสุดท้ายอะ ^^.

  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    บนเตียงนอน
    กระทู้
    254
    กล่าวขอบคุณ
    10
    ได้รับคำขอบคุณ: 277
    กรุงเบอร์ลินใช่มั้ยครับ

  5. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #4
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    37
    กล่าวขอบคุณ
    54
    ได้รับคำขอบคุณ: 105
    เป็น ด่านสุดท้ายของ เกมส์ call of duty world at war
    ใช่หรือเปล่า น่าจะจำไม่ผิดนะ

  7. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  8. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    401
    กล่าวขอบคุณ
    314
    ได้รับคำขอบคุณ: 528
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ myarm อ่านกระทู้
    เป็น ด่านสุดท้ายของ เกมส์ call of duty world at war
    ใช่หรือเปล่า น่าจะจำไม่ผิดนะ
    ใช่เลยครับ คิดถึงปู่ Reznov กะป๋า Dimitri จัง

  9. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  10. #6
    Hip-Hop Takeover!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    .InDaWorld.
    กระทู้
    894
    กล่าวขอบคุณ
    363
    ได้รับคำขอบคุณ: 915
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Instinger_Zone อ่านกระทู้
    ใช่เลยครับ คิดถึงปู่ Reznov กะป๋า Dimitri จัง
    คิดเหมือนกันหมดเลย ฮาๆๆๆ

    On Da EastSide Of Da LBC

  11. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  12. #7
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    97
    กล่าวขอบคุณ
    123
    ได้รับคำขอบคุณ: 15
    RIP reznov ไปดีซะแล้ว *^*

  13. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    625
    กล่าวขอบคุณ
    1,727
    ได้รับคำขอบคุณ: 321
    มันมีแต่ภาค 2 ล่ะนี่นา

  15. #9
    นักแปลอนิเมะ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ค่ายอนิเมะ Akiraz-FS
    กระทู้
    1,516
    กล่าวขอบคุณ
    1,504
    ได้รับคำขอบคุณ: 757
    ดูแล้วนึกถึง world at war เลย ตอนจะไปปักธง

  16. #10
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    64
    กล่าวขอบคุณ
    33
    ได้รับคำขอบคุณ: 9
    ตอนนั้นจำได้ผมเล่นCODภาคแรกจนจบทำให้ใจอยากเป็นทหารเรยอะ

    ปล.ภาคแรกหนุกมาก

  17. #11
    SONE AND PANDA
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,045
    กล่าวขอบคุณ
    426
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,822
    ประวัติศาสตร์สงครามโลก อืมๆ น่าสนใจ น่ะครับ

  18. #12
    สมาชิกใหม่
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    อ่อ เป็นรูปที่ทหารโซเวียต โบกธงหน้า สภาเมืองเบอลิน ครับ หลังจากยึดเบอลินได้ ^^

  19. #13
    Apple Store Thailand
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    363
    กล่าวขอบคุณ
    146
    ได้รับคำขอบคุณ: 146
    เคยีวกับค้อนRED ALERTเป่าวะ555

  20. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    ที่อยู่
    ว่าว
    กระทู้
    322
    กล่าวขอบคุณ
    112
    ได้รับคำขอบคุณ: 487
    ไฮต์ ฮิตเลอร์
    Intel Core I5 2500k+ RAM KingstonHyberX 4gb 2*2 GTX 560 TI Top

  21. #15
    Yeah Toast! xD
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Inside The Waffle
    กระทู้
    990
    กล่าวขอบคุณ
    1,785
    ได้รับคำขอบคุณ: 997
    เห็นเเล้วอยากกลับไปเล่นCOD -.,-

    ขออนุญาติเซฟรูปนะคะ สวยดี *0*

  22. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    108
    กล่าวขอบคุณ
    158
    ได้รับคำขอบคุณ: 77
    งั้น! ชายที่โบกธงในภาพก็คือ Dimitri นะสิ!

  23. #17
    Ǥu Ja Pai Ħai Sud ₭ob ₣ah
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,108
    กล่าวขอบคุณ
    2,945
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,272
    ภาพแห่งประวัติศาสตร์
    —• ผม เพื่อน ตุ้ม •—

  24. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Chiang mai
    กระทู้
    385
    กล่าวขอบคุณ
    458
    ได้รับคำขอบคุณ: 449
    รูปที่แฝงไปด้วยความหมายที่มากมาย

  25. #19
    Everything is Connected
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    534
    กล่าวขอบคุณ
    1,255
    ได้รับคำขอบคุณ: 343
    เมืองที่เป็นเเบ็คกราวน์ไม่เหลือ
    I'm watching on You

  26. #20
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    493
    กล่าวขอบคุณ
    6
    ได้รับคำขอบคุณ: 189
    โค้นล้มนาซี -0-

  27. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    783
    กล่าวขอบคุณ
    2,731
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,352
    Spetsnaz จงเจริญ ฮูๆๆๆ!!!
    "IGNITE THE REVOLUTION"

  28. #22
    ҳ̸Ҳ̸ҳ ҳ̸Ҳ̸ҳ ҳ̸Ҳ̸ҳ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,378
    กล่าวขอบคุณ
    14,834
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,727
    นอกเรื่องกันแล้ว

  29. #23
    ไม่ค่อยว่าง...
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่ไหนก็ไม่รู้
    กระทู้
    1,009
    กล่าวขอบคุณ
    1,499
    ได้รับคำขอบคุณ: 626
    Blog Entries
    1
    ภาพนี้คือภาพในตำนานและคือภาพที่แสดงชัยชนะของโซเวียดในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่ใช่ว่าสงครามจะจบ 100 % นะ

  30. #24
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    250
    กล่าวขอบคุณ
    144
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,198
    ภาพนี้ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่สำคัญภาพหนึ่งของโลก มันเป็นภาพทหารกองทัพแดงของโซเวียตนำธงโซเวียตขึ้นไปปักที่เหนืออาคารรัฐสภาเยอรมนีในปี 1945 ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์การปิดฉากของอาณาจักรที่ 3 ตามแนวคิดของฮิตเลอร์ หลังจากที่ทหารโซเวียตรุกเข้ากรุงเบอร์ลินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

    แม้ในยุคนั้นจะไม่มีเทคนิคการตกแต่งภาพที่นำสมัยแบบในปัจจุบัน แต่เบื้องหลังการตกแต่งภาพนี้ ก็มีเบื้องหลังเบื้องลึกมากยิ่งกว่าการใช้โปรแกรมโฟโต้ช็อปแบบในยุคของเราหลายเท่านัก

    ภาพเหล่านี้ถ่ายเอาไว้โดยเยฟเกนี่ คาลเดย์ ช่างภาพชาวโซเวียต และภาพนี้ก็เป็นภาพที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขามากที่สุดตลอดชีวิตการทำงานเป็นช่างภาพ มันได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่เป็นครั้งแรกในนิตยสาร “ อากาหยก “ ของโซเวียตเมื่อ 13 พฤษภาคม 1945

    เหตุการณ์ที่ทหารกองทัพแดงนำธงไปปักไว้ที่เหนืออาคารรัฐสภาเยอรมนีนั้นเกิดขึ้นจริง แต่ช่วงนั้นไม่มีธง มีแต่ผ้าขาดๆสีแดง และไม่มีใครเอากล้องไปถ่ายการนำธงไปปักไว้ด้วย

    เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 30 เมษายน 1945 เมื่อทหารโซเวียตชื่อ มิคาอิล มินิน วัย 23 ปี ซึ่งเป็นทหารโซเวียตคนแรก ที่บุกเข้ามาในอาคารรัฐสภา สามารถขึ้นไปถึงรูปปั้นหักๆเหนืออาคาร และนำธงแดงไปเสียบไว้ที่รูปปั้นดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนมืด เวลาประมาณ 4 ทุ่ม 40 นาที จากความมืด ประกอบกับการรบที่ติดพันจึงไม่สามารถถ่ายรูปออกมาได้

    และในวันถัดมา ธงดังกล่าวก็ถูกทหารเยอรมันที่ยังปักหลักสู้อยู่ในอาคาร ปลดลงมา แต่ในที่สุด ฝ่ายโซเวียต ก็ยึดอาคารหลังนี้ และกรุงเบอร์ลินได้อย่างเด็ดขาด


    มินินเล่าว่า สตาลินมีคำสั่งว่ากองทัพแดงจะต้องนำธงไปปักไว้ที่เหนืออาคารหลังนี้ไม่ช้าไปกว่าวันที่ 1 พฤษภาคม 1945 ซึ่งเป็นวันแรงงานสากล หนึ่งในวันที่โซเวียตให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทางผู้บังคับบัญชาของมินิน ก็สั่งการมาว่าจะต้องเอาผ้าสีแดงไปปักไว้บนอาคาร เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะในสงคราม

    แต่ช่วงที่จะต้องบุกเข้าไปข้างในอาคาร ขวัญกำลังใจของทหารโซเวียตไม่ค่อยดี เพราะช่วงนั้นโซเวียตชนะสงครามอย่างแน่นอนแล้ว ไม่มีใครอยากตายตอนที่กำลังจะชนะ แม้ว่าจะมีการเสนอตำแหน่งอันทรงเกียรติอย่างวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียตให้ก็ตาม ขณะที่อาคารหลังนี้ยังมีการป้องกันแน่นหนา และไม่น่าจะยึดได้ด้วยอาวุธขนาดเล็ก

    เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทางผู้บังคับบัญชาจึงตัดสินใจให้บุกในช่วงกลางดึก และมินินต้องเป็นคนรับผิดชอบในการนำหมวดหมู่ของเขาทำการบุก

    เมื่อพวกเขาบุกเข้าไปที่ประตู ก็เจอกับการตอบโต้อย่างหนักจากทหารที่อยู่ข้างใน ระหว่างนั้นมีทหารคนหนึ่งจำได้ว่ามีต้นไม้ล้มอยู่ต้นหนึ่งใกล้ๆกัน พวกเขาก็เลยไปนำมันมาใช้เป็นเกราะกำบัง จนสามารถเข้าไปในอาคาร และขึ้นไปถึงหลังคาอาคารได้ แต่พวกเขาไม่มีธง แต่พอดีแถวนั้นว่ามีเสาไม้อยู่ท่อนหนึ่งกับผ้าสีแดงขาดๆ ก็เลยนำมันมาทำเป็นธง และปักเข้ากับรูปปั้นที่พังเสียหาย

    แต่ในที่สุด วันที่ 2 พฤษภาคม 1945 คาลเดย์ ยอดช่างภาพก็ปีนขึ้นไปบนหลังคาของอาคารรัฐสภาเพื่อถ่ายรูปทหารโซเวียตเอาธงมาปักไว้ที่เหนืออาคารรัฐสภาอีกครั้ง แต่งานนี้มินิน ผู้สร้างประวัติศาสตร์ไม่ได้ถูกเลือกมา แต่คนที่ถูกเลือกมาเป็นคนปักธงก็คือทหารชื่อเมลิตอน กันตาเรีย ซึ่งเป็นคนเชื้อสายจอร์เจีย เช่นเดียวกับสตาลิน ผู้นำโซเวียตในยุคนั้น (งานนี้เลือกมาเป็นพิเศษ เพื่อทำให้ผู้นำโซเวียตพอใจ) ส่วนอีกนายเป็นคนเชื้อสายรัสเซียชื่อ มิคาอิล เยกอรอฟ (ผมเข้าใจว่า ทั้งสองคงจะผลัดกันขึ้นไปเป็นนายแบบในการปักธง)

    มีรายงานว่า หลังจากที่ถ่ายออกมาแล้ว มีการปรับแต่งภาพนี้เพื่อปกปิดหลักฐานเรื่องการลักขโมยทรัพย์สินของที่นี่โดยทหารโซเวียต และในเวอร์ชั่นต่อๆมา มีการเพิ่มควันไฟเข้าไปด้วย ขณะที่ธงชาติก็ถูกเปลี่ยนให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม

    และเรื่องนี้ก็ทำให้วีรกรรมของมินินไม่ได้รับการตอบแทน จนกระทั่งในอีก 50 ปีถัดมาเมื่อประธานาธิบดีบอริส เยลซิน ได้ประกาศเกียรติคุณของเขาอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

    และเมื่อเยอรมนีทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 มินินก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในฉากด้วย มินินเสียชีวิตเมื่อต้นปีนี้นี่เอง

    ส่วนทหาร 2 นายที่ขึ้นไปปักธงในภาพ ได้รับการเชิดชูเกียรติในระดับสูงสุดของประเทศหลังจบสงครามไม่นาน โดยพวกเขาได้รับตำแหน่งวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต

    สำหรับชะตากรรมของตัวช่างภาพเองก็พลิกผันไม่น้อยหน้าทหารทั้ง 3 นาย

    คาลเดย์ เกิดเมื่อปี 1917 ในครอบครัวชาวยิวยูเครน เขาชอบการถ่ายภาพมาตั้งแต่เล็กๆ และกล้องถ่ายรูปตัวแรก เขาก็ทำมันขึ้นมาเองตอนอายุ 13 โดยใช้เลนส์จากแว่นตาของยาย พออายุ 19 เขาก็ทำงานเป็นช่างภาพให้กับสำนักข่าวทาสส์ของทางการโซเวียต คาลเดย์ได้เป็นประจักษ์พยานเหตุการณ์สำคัญของศตวรษที่ 20 มากมาย และเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้ทำหน้าที่เป็นช่างภาพสงคราม เขาออกไปยังแนวหน้ากับทหารเพื่อถ่ายภาพ เขาไปถ่ายภาพทั้งที่โรมาเนีย ยูโกสลาเวีย ฮังการี ออสเตรีย และเยอรมนี เมื่อทหารโซเวียตเข้าไปปลดปล่อยประเทศเหล่านี้จากนาซี

    เขาจบชีวิตช่างภาพสงครามด้วยการไปถ่ายภาพการพิจารณาคดีอาชญากรสงครามที่นูเรมแบร์ก คาลเดย์บอกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า “ ผมเคยถ่ายภาพความชั่วร้ายที่พวกฟาสต์ซิสต์นำมายังสหภาพโซเวียต และตอนนี้ผมก็กำลังถ่ายการแก้แค้น “

    หลังสงครามเลิก เขายังทำงานอยู่กับทาสส์จนปี 1949 ก็ถูกให้ออกเพราะกระแสต่อต้านยิว ทำให้เขาต้องไปทำงานเป็นช่างภาพอิสระนานหลายปี พอถึงปี 1959 ก็ได้เข้ามาทำงานกับหนังสือพิมพ์ ปราฟด้า ของพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต แต่ก็ทำมาจนถึงปี 1970 ก็ถูกให้ออกอีกเพราะภูมิหลังด้านการเป็นยิวของเขา

    ภาพของคาลเดย์ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของความเป็นสารคดีและศิลปะ คาลเดย์บอกว่าเขาชอบตกแต่งภาพถ่ายเพื่อเสริมความสำคัญและความแข็งแกร่งของเหตุการณ์ในภาพ ขณะเดียวกันเขาก็ยังชอบใส่ความเห็นส่วนตัวของเขาลงไปในคำบรรยายใต้ภาพหลายภาพด้วย ซึ่งข้อความมากมายก็ได้บอกเล่าความเกี่ยวข้องของเขากับภาพนั้น และความเห็นเหล่านั้นหลายความเห็น ก็แสดงถึงอารมณ์ขันของเขา


    คาลเดย์เสียชีวิตในปี 1997


    เครดิต http://www.oknation.net/blog/print.php?id=341024

  31. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  32. #25
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    ที่อยู่
    Thailand
    กระทู้
    479
    กล่าวขอบคุณ
    932
    ได้รับคำขอบคุณ: 660
    ภาพนะสาระ แต่น้าเช สาระกว่าแย่งซีนกันเห็นๆ 555


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top