ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 72 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 12341252 ... หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 26 ถึง 50 จากทั้งหมด 1777
  1. #26
    We are X [TH]
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    [Club]~Metal Zone
    กระทู้
    535
    กล่าวขอบคุณ
    668
    ได้รับคำขอบคุณ: 418
    ประวัติ Avenged Sevenfold ( A7X )


    เอเวนเจดเซเวนโฟลด์ Avenged sevenfold (A7X) ได้ก่อตั้งวงขึ้นเมื่อปี 1999 โดยมีอัลบั้มแรกชื่อว่า Sounding the Seventh Trumpet โดยอัลบั้มนี้ได้เกิดขึ้น ตั้งแต่สมาชิกทั้งหมดของวงนั้นยังอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น ได้ออกวางขายกัับสังกัด Good Life Recordings หลังจากนั้น Synyster Gates ได้เข้ามาร่วมกับทางวงและทำ การอัดเสียงเพลง To End The Rapture ใหม่โดยมี Gates เล่นในเพลงนี้ด้วย และได้ วางขายโดย Hopeless Records จากนั้นอัลบั้มต่อมามีชื่อว่า Waking the Fallen ซึ่งยังอยู่กับ Hopeless Records
    เช่นเดิม อัลบั้มนี้มาแรงจนได้รับคำชมเป็นอย่างมาก จากนิตยสารโรลลิงสโตน หลังจากนั้นไม่นานเอเวนเจด เซเวนโฟลด์ ( A7X ) ก็ได้เซ็นสัญญากับ Warner Bros. Records.

    City of Evil อัลบั้มที่ 3 ที่กำหนดออกวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 June 2005 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแนวเพลงจากเดิมที่เป็นแบบ Metal Core. ซึ่ง M.Shadows เลือกที่จะไม่ร้องแบบ Scream ( ตะโกนร้อง , คำรามเสียงแหบๆ เหมือนกับ 2 อัลบั้มแรกที่เคยทำ นั่นก็คืออัลบั้ม Sounding the seventh trumpet และ Waking the fallen นั่นเอง. เพราะ Shadows มีปัญหาเส้นเลือดแตกในลำคอและต่อมาต้องเข้า รับการผ่าตัดช่วยเหลือให้ดีขึ้น เค้าจึงบอกว่าจุดนี้ที่ทำให้เค้าต้องเปลี่ยน สไตล์ การร้องของเค้าเอง.

    ใน DVD All Excess โปรดิวเซอร์ของวงในอัลบั้มที่ 2 และ 3 “Mudrock” ได้บอกไว้ว่าตั้งแต่ก่อนที่จะมีการทำอัลบั้ม Waking the fallen นั้น M.Shadows ได้พูดคุยกับเขาไว้แล้วว่าต้องการที่จะให้อัลบั้มนี้ใช้การอัดเสียงแบบ Scream ครึ่งนึง ร้องปกติครึ่งนึง และอัลบั้มต่อไปจะไม่ใช้เสียงร้องแบบ Scream (City of Evil) แต่ว่าภายหลัง Shadows ก็ฝึกร้อง Scream ได้ดีขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ที่เค้าต้องเข้ารับการผ่าตัด และยังได้รู้มาช่วยฝึกด้านการใช้เสียงให้ด้วย นั่นคือ “Ron Anderson” ผู้ซึ่งเคยทำงานร่วมกับศิลปินมากมาย อย่างเช่น กลุ่ม Various Artists จาก Axl Rose / Kylie Minogue / Chris Cornell / My Chemical Romance.

    ในปี 2006 Avenged Sevenfold ได้ออกทัวร์ที่อเมริกา, อังกฤษ, ยุโรป, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

    ในปี 2007 ได้ออกอัลบัมชื่อเดียวกับวง AVENGED SEVENFOLD เพลงเด่นๆของอัลบัมชุดนี้ก็มี Critical Acclaim , Dear God , Little Piece Of Heaven และมีการทัวร์ในแถบเอเชียด้วย คือประเทศอินโดนีเซีย, สิงค์โปร์,ญี่ปุ่น,รวมทั้งไทย ด้วย

    ปี 2008 ก็ได้ออกอัลบัม Live in the LBC & Diamonds in the Rough
    ในปี 2009 ได้เกิดเหตุการณ์ ช็อค แฟนๆเพลง A7X อย่างไม่ทันตั้งตัว
    เมื่อ The ReV หรือ Jimmy Owen Sullivan กพบเป็นศพอยู่ในบ้านพักย่านฮันทิงตั้น บีช แคลิฟอร์เนีย ในเวลาบ่ายโมงของวันที่ 28 ธันวาคม 2009 ก่อนการออกอัลบัมใหม่ Nightmare แต่พวกเขาก็ยังยืนหยัดที่จะทำอัลบั้มใหม่ให้เสร็จต่อไป ซึ่งนั่นคือสปิริตของวงที่ยอดเยี่ยมมาก และอย่างที่แฟนๆทราบกันดีก็คือ เฮียพอร์ตนอยแห่ง Dream Theater จะมาช่วยตีกลองให้กับอัลบั้มใหม่นี้ด้วย ซึ่งแกเองก็รู้สึกยินดีอย่างมากที่จะได้มาร่วมงานกับวง เพราะเดอะเรฟ (และอาจจะทั้งวง) ก็มีเฮียแกเป็นไอดอลมาเนิ่นนานแล้ว โดยก่อนหน้าที่อัลบั้มเต็มจะออกในไม่กี่วันข้างหน้า

    อัลบั้มนี้เปรียบได้กับอัลบั้มสุดท้ายที่พวกเขาได้ทำกับเดอะเรฟ เพราะว่าก่อนตายนั้น เขาก็ได้ทิ้งเสียงร้อง ไลน์กลอง รวมถึงเพลง Fiction ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายที่เขาเขียนให้กับวง โดยเพลงนี้เขาเล่นเปียโนเองด้วย ส่วนแขกรับเชิญพิเศษอีกคนในอัลบั้มนอกจากเฮียพอร์ตนอยในตำแหน่งกลองก็คือ ไบรอัน เฮเนอร์ ซีเนียร์ มือกีต้าร์ผู้เป็นพ่อของ Synyster Gates นั่นเอง โดยแกจะมาเล่นให้ในเพลง So Far Away ที่ลูกชายตัวเองเขียนให้กับเพื่อนร่วมวงอย่างจิมมี่ (เดอะเรฟ) นั่นเอง ส่วนการมาของเฮียพอร์ตนอยในคราวนี้ก็อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงทิศทางดนตรี ของวงมากนัก เพราะแนวทางของพวกเขายังคงเป็นเฮฟวี่เมทัลสมัยใหม่อันเป็นลายเซนต์ของวงเช่น เดิม


    ประวัติสมาชิก



    M.Shadow
    M. Shadows ชื่อจริงคือ Matt Charles Sanders เกิดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 1981 ตำแหน่งร้องนำ กับวง America hard rock / Heavy Metal นามว่า Avenged Sevenfold เค้ามาจาก Huntington Beach , California แต่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ Orange Country. ตอนที่เค้ายังเด็ก เค้าร่วมงานกับ 2-3 วง Punk Bands กับสมาชิก A7X อีกคน นั่นก็คือ Zacky Vengeance ในช่วงอัลบั้มแรกเพลงส่วนใหญ่จะค่อนข้างหนัก ใช้เสียงว๊ากในเพลงเป็นส่วนใหญ่ จึงยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้างแต่แล้วในที่สุดพวกเค้าเริ่มเป็นที่ล่ำลือแพร่หลาย
    ตั้งแต่ี่ที่ Shadow ได้ให้สัมภาษณกับนิตยสาร Revolver ว่าเส้นเสียงของเค้ามีปัญหา(เส้นเลือดในลำคอแตก)จึงจำเป็นจะต้องเปลี่ยนสไตล์ของเพลงของพวกเค้า. การที่จะรักษาเส้นเสียงนี้ให้ดีขึ้น Shadows จะต้องไม่ใช้เสียง (แบบ Scream)หรือการว๊ากนั่นเอง อย่างน้อย 5 ปี !


    Synyster Gates
    Synyster Gates หรือ Brian Elwin Haner, Jr. เกิดเมื่อวันที่ July 7 , 1981 ได้เข้ามา
    ร่วมกับ A7X ในปี 2001 หลังจากที่วงใด้ปล่อย อัลบั้มแรกของวง Sounding the Seventh Trumpet ไปแล้วโดยเข้ามาเล่นในตำแหน่งกีตาร์รี๊ดพ่อของเขา Brian Haner Srเป็นนักดนตรี และได้ถูกขอให้ไปเล่นเพลงในเวอร์ชั่นอคูสติกของอัลบั้มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Sidewinde ใน อัลบั้มCity of Evil Synyster Gates ตอนเปนเด็ก ได้เข้าเรียนที่Ocean View High School ณ Huntington Beach, California ต่อจากนั้นก้อได้ เข้าเรียนที่ Musicians Institute ใน Hollywood Synyster Gates เป็นกีต้าร์ระดับแนวหน้าของ โลกในยุคนี้เลยทเดียว ฝีมือของเขานั้น ถือว่าีเข้าขั้นเทพ!!


    Zacky Vengeance
    Zacky Vengeance หรือ Zachary James Baker เป็นมือกีตาร์ของA7Xเล่นมือซ้ายด้วย เขาเกิดที่ Orange County แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1981 ในวัยเด็กๆพ่อแม่ ได้ส่งเค้าอยู่ที่ อียิป กับ นิวยอร์คมาหลาย ปี แต่พ่อแม่เค้าก้อพากลับมาอยู่ที่ Orange County เค้าได้เข้าเรียนประถมใน ร.ร. รัฐบาล แต่ต่อมาได้ย้ายไปที่ Huntington Beach High ทำให้เค้าได้พบกับ Matt Sanders หรือ M.Shadows, Jimmy Sullivan หรือ The Rev และ Brian Haner Jr หรือ Synyster Gates


    The Rev
    The Rev เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์1981 เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับ M.Shadows แต่ว่าถูกไล่ ออกไปตอน ป.2!! อัลบั้มแรกของเค้าออกมาเมื่อเค้าอายุ 18 ปี นอกจากจะอยู่กับ A7X แล้วเค้ายังมี Side Project ชื่อว่าวงPinkly Smooth กับ Synyster Gates อีกด้วย และเปนส่วนๆหนึ่งของวง Surf Punk ชื่อว่า Ballistico. และเขายังเคยเปนมือกลองให้แก่วง สกาชื่อว่า Suburban Legends และ Justin Sane มือเบสเก่าก้อยังเคยอยุ่ในวงนั้นด้วย The Rev นั้นเปนชื่อย่อมาจาก The ReverendTholomew Plague


    Johnny Christ
    Johnny Christ หรือชื่อจริงๆว่า Jonathan Lewis Seward เกิดวันที่ 18/11/1984 เปนมือเบสคนที่สามของวงหลังจาก Dameon Ash and Justin Sane มือเบส2คนที่แล้วลาออกไปโดยได้เริ่มมาเล่นกับ A7X ในอัลบั้ม Waking the fallen. Christ นั้นมักจะขึ้นชื่อในผมทรงโมฮอวก์ ซึ่งไม่นานมานี้ เขาได้โกนออก และย้อมเปนสีบลอนด์และดำ จาก สี ขาว เขียว และ แดง Johnny เปนสมาชิกวงที่อายุน้อยที่สุดและเตี้ยที่สุด Johnny เปนน้องชายของเพื่อนที่โรงเรียนของ Synyster Gates โดยเค้าจำได้ว่า ตอนอยู่ไฮสคูลนั้น ได้ถูก Syn กับ The Rev แกล้งตลอด หลังจากนั้น เมื่อ A7X ได้ถูกตั้งขึ้นมา เค้ามักจะเดินมาที่โรงรถที่วงจะซ้อม กันและพยายามที่จะทำให้คนอื่นในวง ประทับใจในทักษะการเล่นเบสของเขา


    ปล.เอาประวัติมาช่วยๆลงให้ หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่คุณอิิคคิวไม่มากก็น้อย แล้วจะได้เป็นความรู้แก่สมาชิกทุกท่านด้วยครับ
    ปล2.สมาชิกก็ช่วยๆหาเพลงที่ตัวเองชอบมาลงๆกันนะครับ อยากให้คลับเราคึกคักเหมือนเมื่อก่อน ^^
    ปล3.Credit:http://pil2atez.110mb.com/link.html
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย panseeme : 16th July 2011 เมื่อ 00:12


  2. #27
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Avenged Sevenfold acadamy
    กระทู้
    44
    กล่าวขอบคุณ
    33
    ได้รับคำขอบคุณ: 94
    ชื่อเล่น ชื่อ Atom ครับ (ชื่อเหมือนผู้หญิงเลยใช่ปะ = =)
    อายุ 14 ครับ
    แนวเพลงMetal ที่ชอบ - Groove metal, metalcore,Hard Rock,thrash metal,alternative metal,Heavy metal,Death metal
    วงที่ชอบ Avenged Sevenfold,Lamb of God,Trivium,Disturbed,Cannibal Corpse,BMTH,Iron maiden,Slipknot,The the red jumpsuit apparatus
    เพลงที่ชอบ >>ชอบ A7X ทุกเพลงเลยครับ<<,Laid to rest - LOG,I cum blood - Cannibal,before i forget - slipknot,In waves - Trivium และอีกมากมาย
    email atom_and_evil@hotmail.com
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย SynZacky : 13th July 2011 เมื่อ 22:03
    Groove Metal : #18
    [Club]~Metal Zone

  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #28
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,810
    กล่าวขอบคุณ
    282
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,736
    วันนี้ 1 ทุ่มตรง มีงาน 80's Heavy Metal ที่ Rock Pub โดยวงที่ขึ้นเล่นมีวงคัฟเวอร์มากมาย รวมถึงศิลปินรับเชิญตัวเอ้ระดับท็อปๆของเมืองไทยมาแจมกันมากมายครับ
    งานนี้เป็นงานอุ่นเครื่องก่อนที่ Loudness จะมา Live ที่เมืองไทยในวันที่ 27 เดือนนี้ ส่วนบัตรผ่านประตูไม่เสียครับ งานนี้เข้าฟรี



    ปลายเดือนนี้คงได้ไปดู Loudness

  5. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #29
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Horizon
    กระทู้
    214
    กล่าวขอบคุณ
    1,023
    ได้รับคำขอบคุณ: 171



    คนเยอะมาก ๆ ครับ
    " Death is a promise, and your life is a Fucking Lie.

  7. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  8. #30
    จอมโจร 1412 แห่ง JKG
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    691
    กล่าวขอบคุณ
    15
    ได้รับคำขอบคุณ: 943
    Eye set to kill จะมาเมืองไทยหรือเปล่าครับ เห็นมีทัวร์เอเชียอยู่

  9. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  10. #31
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    121
    กล่าวขอบคุณ
    18
    ได้รับคำขอบคุณ: 93
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ A.Wetzel@AA! อ่านกระทู้



    คนเยอะมาก ๆ ครับ
    ใช่ครับ ยิ่งตอน Rock am Ring นี่คนเยอะมาก อยากไปสักครั้ง ช่วยแปะครับ ผมแฟน Metallica อยู่แล้ว ฟังเมทัลเพราะวงนี้ ! ป๋าเจมส์สุดยอด





    Master of Puppets สองอันนี้คุณเจ๋งมากครับ ยิ่งตอน Seattle ยิ่งสุดยอด ป๋าเจมส์ทุ่มจริงๆ !

    อีกอัน Enter Sandman ที่ Tushino Airfield Moscow '91 ครับ ผมว่าอันนี้เป็น Enter Sandman ที่เจ๋งที่สุดเท่าที่เคยดูมา



    Metallica Rules!
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย A's`Strike : 14th July 2011 เมื่อ 22:45

  11. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  12. #32
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    24
    กล่าวขอบคุณ
    13
    ได้รับคำขอบคุณ: 45
    กลับ มาเยี่ยม บอร์ด MZ อีกครั้ง

    รู้สึกว่า ตอนนี้จะกลายเป็นกระทู้พูดคุยกันธรรมดาซะแล้ว

    อยากให้ทุกคน ช่วยๆกัน โพสข้อความ ความรู้ หรือประวัติวงดนตรีอะไรต่างๆอีกครั้งครับ

    กระทู้เราจะได้มีข้อมูลเกี่ยวกับเพลงเมทัลบ้าง (สำหรับเด็กใหม่ที่พึ่งหัดฟัง) อิอิ

  13. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #33
    We are X [TH]
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    [Club]~Metal Zone
    กระทู้
    535
    กล่าวขอบคุณ
    668
    ได้รับคำขอบคุณ: 418
    ประวัติ 9 หน้ากากผี ~[Slipknot]~



    Iowa ซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม "แปลกแยกไม่มีใครเสมือน." รัฐแห่งการเกษตรกรรม ซึ่งตั้งแต่ที่ Rock ’n Roll จรัสแสงในช่วงยุค50’s รัฐนี้ก็ไม่มีนักดนตรีระดับพระกาฬโผล่ขึ้นมาในสารบบดนตรี การให้ฉายาแก่นักดนตรีจากชื่อรัฐไม่เป็นที่ถกเถียงว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตามเก้ามนุษย์หน้ากากจาก Des Moines ก็เข้าไปประดับในวงการดนตรีกับหน้ากากที่ทำขึ้นเองและการรุกเร้ารีบร้อนผสมผสานแนวดนตรีกับการสำรอกอันรุนแรงในแนว L.A. neo metal, hiphop, และ Downtuned screeching horror ล้วนแล้วแต่อยู่เหนือความคาดหมายเช่นเดียวกับแนวของเรื่อง Clock work Orange (นวนิยายแนววิทยาศาสตร์ ที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เป็นเนื้อหาที่เด็กวัยสิบห้าปีทำสิ่งที่ทารุณโหด*****ม ขอไม่พูดลงลึกถึงรายละเอียด)


    คุณเคยคิดถึงเกี่ยวกับวงดนตรีฮาร์คอร์เมทั่ลที่หนักหน่วงผนวกซาวด์อันรกหูที่มีกำเนิดมาจาก "the middle of nowhere" กันบ้างไหมว่าจะมีซาวด์เช่นไร? “ความรุนแรงอันบ้าคลั่ง” เพิ่งจะเริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเท่านั้น


    0,1,2,3,4,5,6,7, และ 8 คือเลขประจำตัวของเหล่ายอดมนุษย์ เอ๊ย! มนุษย์หน้ากาก (ชื่อจริงในภาคของมนุษย์ปุถุชนทั่วไปเรียงตามหมายเลขคือดังนี้ ดีเจประจำวง ซิด วิลสัน, โคตรมือกลองร่างลูกหมา โจอี้ จอร์ดิสัน, จอมเกเรพอล เกรย์ในตำแหน่งมือเบส, เพอร์คัสชั่นจมูกยาวคริส เฟน, มือกีตาร์ร่างโย่งเจมส์ รู้ท, แซมเพลอร์เคลก โจนส์, ตัวตลกจอมบงการชอว์น คลาฮาน, มือกีต้าร์หมีควายมิก ทอมสัน, และคอรี่ เทย์เลอร์รับบทแผดเสียงคำรามตามลำดับ)


    แต่ละคนมิเพียงแค่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ และตัวเลขที่น่าสยองพองเกล้าขนหัวลุกเป็นที่สุดแล้ว แต่มาพร้อมกับพรสวรรค์อันอุกอาจในการกระทำชำเราบรรเลงบรรลัยเครื่องดนตรีของแต่ละคนผสมผสาน และขัดแย้งในภาคดนตรีของเก้ามนุษย์หน้ากาก ผู้ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นพระเจ้าและผู้ทำลายล้างของวงการโมเดิร์น เฮฟวี่ นี่คือ Slipknot และตอนนี้ด้วยอุปกรณ์และพรสวรรค์ที่พวกเขามีนั้น ณ เวลานี้โลกเราไม่มีทางเลือกใดๆแล้วเพราะการมาถึงของโคตรวงจากนรก Slipknot และคุณต้องตัดสินใจแล้วว่าจะรับมือกับมันอย่างไร


    ฟอร์มวงกันในตอนครึ่งหลังปี1995 ทางวงได้ผ่านพ้นความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงสมาชิกดั้งเดิมและนี่ก็เป็นการมาถึง ซึ่งพวกเขาได้อธิบายไว้ว่าเป็น “กลุ่มครอบครัว” ทุกๆคนเป็นชาว Iowans ขนานแท้ ด้วยความที่ไม่ยะโสอวดดีและสถานที่ที่ลงตัวของพวกเขานั้น ทำให้ทางวงมีระยะห่างเรื่องเวลาเต็มที่ในการแก้ไขจุดผิดพลาดของความหนักกะโหลกป่วนโสตประสาทให้แจ่มแจ๋วและหนักแน่นยิ่งขึ้น ทางวงบันทึกเสียงและเผยแพร่อัลบั้มใต้ดินชุดแรกออกมาให้ผืนภิภพสะเทือนที่ชื่อ Mate Feed Kill Repeat


    ในปี 1996 ในจำนวนจำกัด 1000 ชุดและชื่อเสียงของพวกเขาก็เสมือนกับลูกบอลที่ยิ่งหมุนยิ่งแรงไม่เคยหยุด ตั้งแต่ที่ดึงดูดความสนใจค่ายเพลงต่างๆ แต่สุดท้ายแล้ว Slipknot ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับค่าย Roadrunner ค่ายเพลง IAM RECORDSของโปรดิวเซอร์ผู้โด่งดัง รอส โรบินสัน ในปี 1997 และเดินทางไปบันทึกเสียงอัลบั้มบนดินชุดแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับวง Slipknot ที่ Indigo Ranch สตูดิโอใน L.A. กับโรบินสัน จากการระรัวเร็วรวดในบทเพลง Sic และ unforgiving bludgeon (ผู้แปลตึ๊บเลย) ของเพลง Surfacing ไปสู่ท่วงทำนองในแบบของ Sublime


    ในเพลง Wait and Bleed และจังหวะขับเคลื่อนมนต์สะกดในเพลง Prosthetics บทสรุปสุดท้ายก็คือ 13 บทเพลงที่กอปรด้วยตัวอักษรแห่งความรักและความเกลียดชังไปสู่โลกภายนอก การทัวร์ที่จะบังเกิดตามมาได้รับการให้คำมั่นสัญญาว่า "จะไม่เหมือนเยี่ยงใครหน้าไหน จงเชื่อในสิ่งที่จะได้เห็น." ชอว์น กล่าวเช่นนั้น และนั่นคือคำชี้แจงโต้งๆถึงสิ่งที่จะมีปรากฏบนเวที


    จนกระทั่งคุณได้สดับสรรพเสียงที่พวกเขาสร้างขึ้น แม้อาจจะดูไร้สาระที่มีสมาชิกอยู่ในวงถึงเก้าหน่อ แต่หัวหน้าคณะอย่างชอว์นก็อ้างว่า มันไม่มีทางอื่นแล้วนี่หว่าพวก “เมื่อ3ปีก่อนน่ะพวกเราต้องดูแลเรื่องตารางการฝึกฝนอย่างเข้มงวด ทุกคนต้องตรงต่อเวลาและต้องอยู่ที่นั่นตลอด และพวกเราก็ต้องซ้อมกันเป็นหมู่คณะ
    เพลงของพวกเรามันขึ้นอยู่กับทุกคน คือถ้าขาดใครซักคนหรือแม้แต่ DJ ก็ตาม เพลงๆนั้นก็คงไม่ใช่เพลงของเราเพราะหากไม่มีใครคนใดคนหนึ่งมันก็เหมือนกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในตัวเพลงหายไปมันหายไปจริงๆทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเสนอข้อคิดเห็น แม้แค่เพียงจุดเล็กๆที่จะเพิ่มมนต์ดำลงไปในตัวเพลง”


    แม้ว่าจะมีภาพลักษณ์อันโดดเด่นในฐานะศิลปินแต่ทางวงก็ไม่เคยที่จะให้ภาพลักษณ์นั้นโดดเด่นกว่าตัวบทเพลง “พวกเราไม่เคยสวมชุดเหียกๆนี่แล้วพยายามทำให้คนเข้าหาหรอกเว้ย” มือกลองร่างลูกหมากล่าว เราทำไปก็เพราะ หลังจากถูกเหยียดหยามอย่างไม่ลดละ สำหรับการพยายามที่จะเล่นดนตรีหรือทำอะไรก็ตามใน Des Moines ไม่มีใครให้ฟักคุณหรอก ไม่มีใครมาใส่ใจอะไรทั้งนั้น ดังนั้นเราจึงไม่ไปใส่ใจกับชื่อหรือว่าหน้าตาของพวกเราหรอก เราใส่ใจเฉพาะตัวดนตรีและเพลงของเรา ดนตรีและเสียงเพลงคือสิ่งสำคัญที่สุด แม้ว่าเราจะมีชุดหมีใหญ่กับหน้ากาก และเหตุผลบางประการที่เจ๋งจั๋งหนับที่เราต้องใส่มันต่อๆไป ก็เพราะว่ามันได้กลายเป็นโลโก้ของเราไปแล้วเว้ย”


    และตอนนี้หน้ากากนั้นเป็นเครื่องหมายการค้าของพวกเขาทั้งเก้าไปเสียแล้ว และมันคงยากแสนเข็ญที่จะให้พวกเขาปราศจากมันไป ชอว์นกล่าวว่า “หน้ากากคือมีส่วนช่วยเพิ่มลักษณะเฉพาะตัวของพวกเรา ทุกๆคนแยกแยะการกระทำกับความบ้าคลั่งออกจากกัน และพวกเราก็คอยปรับเปลี่ยนหน้ากากของพวกเราอยู่ตลอดเวลา มันเป็นอะไรที่สุดยอดรื่นเริงบรรเทิงจิตในเวลาที่เราใส่หน้ากากเป็นชั่วโมงๆ แล้วถอดมันออกหลังจากนั้น คุณเอ๊ย สิ่งแรกที่พวกเราจะสบถออกมาคือ “พระเจ้า…แ***ผ่อนคลายฉิบ!” แต่ก็นะ พวกเราก็จะสวมมันกลับแล้วเดินไปรอบๆหลังจากการแสดงสิ้นสุดลง“ และการนำเสนอภาพลักษณ์แสงสีและเวทีก็เปลี่ยนแปลงด้วยตลอดเวลามีเพียงสิ่งเดียวที่คงเดิม


    นั่นคือดนตรีของพวกเขา “อั๊วคิดว่าสิ่งต่างๆ ใน Slipknot จะเปลี่ยนแปลงไปเสมอเพราะเราเติบโตขึ้นในทุกปี กับสิ่งที่คุณเปลี่ยนแปลงไปและบางสิ่งที่ Slipknot นั้นก้าวเดินเพื่อทำมันตลอดเวลา” มาดูเกี่ยวกับตัวเลขที่พวกเขาแปะไว้บนแขนเสื้อชุดหมีใหญ่กัน ตัวเลขเหล่านี้เป็นเลขแห่งความโชคดีของพวกเขา และมีความหมายความสำคัญกับแต่ละคนอย่างมากด้วย เมื่อพวกเขาเลือกมันแล้ว “ทุกๆ คนก็จะตกอยู่ในห้วงแห่งตัวเลข” ชอว์นกล่าว “มันไม่มีใครซักคนมานั่งเถียงกันเรื่องตัวเลขหรอกเพราะมันประสาทเกินว่ะ”


    ต้องขอบคุณ รอส โรบินสัน ผู้ล่ำสันที่คอยดูแลอยู่เบื้องหลังในงานของ Slipknot, มุมองของทางวง ประสบความสำเร็จ ชอว์นรู้สึกว่าโรบินสันนี่แหล่ะคือแรงกระตุ้นและผลักดันอันเยี่ยมยอดในการทำอัลบั้มของวงให้สำเร็จ “พวกเรามันวงโคตรของโคตรวงสุดโฉดและมันก็ยากมากๆ ที่หาใครซักคนที่กล้าจะย่างก้าวเข้ามาสู่อาณาจักรสุดป่าเถื่อนในเวลาที่เราเล่นกันเป็นหมู่คณะ” และ รอสก็พาเราไปสู่ห้องอัดเสียงและก็ตั้งเป้าหมายทะลุกลางปล้องขึ้นมา ตัวเขาเองก็ทำตามเป้าหมายนั้น เขาตื่นไปที่ห้องอัดเสียงตั้งใจทำงานทุกวันจนประสบผลสำเร็จ ดังนั้นเขาคือคนที่ทำให้อัลบั้มของเราเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา


    เมื่อค่าย Reps และ Robinson เดินทางมาชมความสุดยอดในการแสดงสดของวงที่ Des Moines หลังจบโชว์สมาชิกแต่ละคนเลือกที่จะมุ่งไปยังคลับเปลื้องผ้าในเมืองมากกว่าจะเอนเตอร์เทนผู้ชม ภายหลังจากที่เจ้าบ้านกล่าวทักทายแขกเสร็จทางวงก็ถูกเผาจนเกรียม และตอนนี้ก็ไม่มีใครในวงต้องการจะย่างก้าวเข้าไปในคลับเปลื้องผ้านั้นอีกเลย “ไอ้คลับโป๊เฮงซวยเอ้ย! มันบัดซบมากที่จะพาใครไปที่คลับกระจอกๆอย่างนั้น เรามีอย่างอื่นที่ต้องทำมากกว่าเว้ย” ความ “เหียก” ก็บรรจุในกล่องเล็กๆโก้เก๋นามว่า Slipknot เสียงอันไม่ลงรอยกันของ “ความแปลกแยกไม่มีใครเสมอเหมือน” ภูมิประเทศที่ Slipknot อาจจะเป็นได้ทั้งตัวตลกหรือจอมราชัณย์ในสายตาของทุกคน
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย panseeme : 15th July 2011 เมื่อ 23:24

  15. รายชื่อสมาชิกจำนวน 10 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  16. #34
    Idiot!!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    601
    กล่าวขอบคุณ
    74
    ได้รับคำขอบคุณ: 325
    ชื่อเล่น - พอร์ช
    อายุ - 19
    แนวเพลง Metal ที่ชอบ - Post Hardcore , Alternative Rock, Nu Metal , Death Metal , Metalcore

    วงที่ชอบ - A day to the remember , Close your eyes , Eyes set to kill , Story of the year , Ramallah , System of a down , Slipknot , Bring me the Horizon , UnderOath , Dragonfoce Drowing pool , bullet for my valentine

    เพลงที่ชอบ - a day to the remember - Downfall of us all , Have Faith to me , Since u been gone , All i want , i'm made of wax , if it mean a lot to you
    Close Your eye - Song for Broken , something need to change
    Eyes Set to kill - Darling , Broken Frame , Reach , Height , Violent kiss
    Story of the year - Untill the day i die , Anthem of our dying , In the shadow , Wake up , Take me back , I don't care anymore , The Antidote , Sidewalk , Terrifield , I'm alive
    Ramallah - Days of Revenge
    System of a down - Chop seuy , BYOB , Lonely day , Prison song , Toxic City
    Slipknot - before i Forget , Psychosocials , Dead memories , Snuff , Sulfur , Surfacing , Wait and bleed
    Bring me The Horizon - Chelsea Smile‏ , Pray for plagues , Blessing with A Curse
    Underoath - ทุกเพลง ทุกอัลบั้ม ยกเว้น Lost in the Sound of Separation กับ Disambiguation
    Dragon Force - Through the fire and flame , Heros of our time , Operation ground and pound , Trail of broken hearts
    Drowning pools - Bodies , Sinner
    Bullet for my valentine - All These Things I Hate , Tears don't fall ,Your Betrayal,Fever


    email - porsche12_@hotmail.com

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ chayatorn อ่านกระทู้
    Eye set to kill จะมาเมืองไทยหรือเปล่าครับ เห็นมีทัวร์เอเชียอยู่
    มาไปแล้ว กลับไปแล้วครับ ><



    _________________

    ประวัติวง Eyes Set to Kill



    Eyes Set to kill (หรือชื่อย่อ ESTK) วง post-hardcore ,Metalcore จาก Arizona โดย สองพี่น้อง Alexia และ Anissa Rodriguez ร่วมกันกับนักร้องคนเก่าของวง Lindsey Vogt ได้ร่วมกันตั้งวงในช่วงปี2004

    ในช่วงปี 2006 ทางวงได้เพิ่มสมาชิกวงเ้ข้ามาอีก 3 คนคือ Alex Torres มือกีตาร์ (ปัจจุบัน ได้ย้ายไป วง Alesana แล้ว), Brandon Anderson (นักร้องนำ และ มือ Synth ปัจจุบันไม่ทราบว่าอยู่วงอะไร)และ Brett Litzler มือกลอง

    ต่อมา Lindsey Vogt ได้ขอแยกตัวออกไปในช่วงกลางของปี 2007 เพื่อทำ โปรเจ็ค เดี่ยว ชื่อ "The Taro Sound" ซึ่งหลังจาก Lindsey แยกตัวไป Alexia จึง รับบทเป็นนักร้องนำไปพร้อมกับ เล่นกีตาร์ด้วย ซึ่งในช่วงนี้ Alex Torres ได้แยกตัวไปอยู่วง Metalcore นาม Greeley Estates ซึ่งก็ได้ Greg Kerwin มาร่วมวงแทน

    ต่อมาในอัลบั้ม ที่ 3 Brandon Anderson นักร้องนำ ของวง ได้แยกตัวออกไปเนื่องจากปัญหาเรื่องของเสียงของเขา ทั้งนี้ วงก็ได้นักร้องนำคนใหม่เข้ามาชื่อ Cisko Miranda และทำอัลบั้มต่อไป

    ต่อมาในอัลบั้มล่าสุด ทางวงได้ปล่อย Single แรกออกมาชื่อ "The Secrets Between" ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sentinel12 : 15th July 2011 เมื่อ 23:37

  17. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  18. #35
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    182
    กล่าวขอบคุณ
    460
    ได้รับคำขอบคุณ: 41






    ASKING ALEXANDRIA

    Introduction

    Asking Alexandria เป็นวงเมทัลคอร์สัญชาติสหราชอาณาจักร มาจากเมือง York เขตยอร์คเชียร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 โดย Ben Bruce ซึ่งเป็นมือกีต้าร์ลีดของวงได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าๆหลังจากที่เขาเดินทางกลับอังกฤษซึ่งก่อนหน้านั้นเขาพักอาศัยอยู่ที่ดูไบ สมาชิกของวงในปัจจุบันนั้นประกอบไปด้วย

    Ben Bruce - Lead Guitar
    Danny Worsnop- Lead Vocal
    Cameron Liddell-Rhythm Guitar
    Sam Bettley-Bass Guitar
    James Cassells-Drums and Percussions


    History

    Asking Alexandria มีจุดเริ่มต้นจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่งมือกีต้าร์ Ben Bruce เริ่มก่อตั้งวงและออกผลงานอัลบั้มเต็ม 1 ชุดกับสมาชิกในวงภายใต้ชื่อวงว่า Asking Alexandria ต่อมาไม่นานนักก็มีการยุบวง โดย Bruce ได้ออกมาแถลงในวันต่อมาว่า วง Asking Alexandria นั้นจะเหลือแต่เพียงชื่อ ดังนั้นจะไม่มีการออกทัวร์แต่อย่างใด
    ในปี 2008 Bruce ได้เดินทางกลับอังกฤษ โดยปล่อยให้สมาชิกคนอื่นๆในวงยังอยู่ในดูไบต่อไป อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น Bruce ยังไม่ได้วางแผนอะไรเกี่ยวกับอาชีพนักดนตรีของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตัดสินใจเริ่มต้นกับสมาชิกใหม่ภายใต้ชื่อวง Asking Alexandria เช่นเดิม โดย Bruce ได้เปิดเผยว่า ตัวเขาเองเป็นผู้หนึ่งที่คิดชื่อนี้ขึ้นมาและเขายังคงชื่นชอบชื่อและความหมายนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อวง Asking Alexandria ต่อไป และเขายังเน้นย้ำอีกว่า วง Asking Alexandria ในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่วงเดียวกับที่แต่ง The Irony of Your Perfection ดังนั้นพวกเขาจึงแตกต่างกันถึงแม้ว่าจะมีจุึดเชื่อมโยงของวงที่คล้ายกันอยู่บ้างก็ตาม แต่คำแถลงดังกล่าวก็ยังคงสร้างความสงสัยให้กับบรรดาแฟนเพลงทั้งหลายอยู่ดี
    นับแต่ทางวงก่อตั้งในปี 2008 พวกเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงสมาชิกเพียงไม่กี่คนซึ่งได้เปลี่ยนแปลงจากสมาชิกวง 6 คนเป็น 5 คนโดย Ryan Binns ได้ลาออกจากวงไป รวมทั้งมือเบส Joe Lancaster ที่ลาออกไปเมื่อเดือนมกราคม 2009 โดยได้ Sam Bettley โดยทาง Lancaster ได้ขึ้นเล่นร่วมกับวงในการแสดงสดครั้งสุดท้ายของเขาที่งาน Fibers ในเมืองยอร์ค เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2009 หลังจากนั้นทางวงก็ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อทำการโปรโมตผลงานของพวกเขารวมไปถึงการเตรียมตัวเพื่อบันทึกเสียงในงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาด้วย
    หลังจากที่ใช้เวลาในการออกทัวร์ตลอดปี 2008 จนถึงช่วงต้นปี 2009 แล้วนั้น พวกเขาก็เริ่มบันทึกเสียงผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขา โดยเริ่มบันทึกตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2009 ที่ The Foundation Recording Studios ในเมือง Connersville รัฐอินเดียน่า สหรับอเมริกา โดยมีโปรดิวเซอร์ที่ชื่อ Joey Sturgis โดยพวกเขาได้สังกัดอยู่กับค่าย Sumerian Records และในวันที่ 15 กันยายน 2009 พวกเขาก็ได้ปล่อยผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาออกสู่หูของประชาชน โดยอัลบั้มชุดนี้มีชื่อว่า Stand Up and Scream จากนั้นพวกเขาได้ทำการออกทัวร์ในอเมริการ่วมกับวงดังๆมากมายเช่น Alesana , Enter Shikari , The Bled and Evergreen Terrace เป็นต้น

    วันที่ 22 ธันวาคม 2009 ทางวงได้ประกาศว่าพวกเขากำลังเริ่มต้นที่จะทำสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 ในเดือนมกราคม 2010 โดยพวกเขาได้ประกาศว่าจะเริ่มเข้าสตูดิโอกันในเดือนกันยายนโดยยังมือโปรดิวเซอร์คนเดิมคือ Joey Sturgis ทางวงได้ยืนยันผ่านการสัมภาษณ์ทาง Shred News ว่า อัลบั้มชุดที่สองนี้จะวางแผงราวๆต้นปี 2011 และจะมีทั้งสิ้น 12 เพลง
    ในเดือนมีนาคม Asking Alexandria ได้มุ่งหน้าไปกับการออกทัวร์รายการ Attack Attack! ซึ่งเป็นการทัวร์ในแถบอเมริกาเหนือก่อนที่จะจบทัวร์นี้ในเดือนเมษายน หลังจากนั้นพวกเขาจะออกทัวร์ยุโรปรวมถึงการทัวร์ยิ่งใหญ่ประจำปีในรายการ Groezrock Festival ด้วย
    เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2011 ที่ผ่านมา ทางวงได้วางแผลอัลบั้ม EP ที่มีชื่อว่า Stepped Up and Scratched ซึ่งเป็น Remixed Album
    ล่าสุดทางวงได้ออกมาประกาศแล้วว่า สตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของพวกเขาที่ชื่อ Reckless and Relentless จะวางจำหน่ายในวันที่ 5 เมษายน 2011นี้ครับ

    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lional = Messi : 16th July 2011 เมื่อ 00:16
    AskinG AlexAndriA

  19. รายชื่อสมาชิกจำนวน 7 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  20. #36
    We are X [TH]
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    [Club]~Metal Zone
    กระทู้
    535
    กล่าวขอบคุณ
    668
    ได้รับคำขอบคุณ: 418
    ประวัติ LimpBizkit



    Limp Bizkit เป็นวงนูเมทัลสัญชาติอเมริกัน จากเมืองแจ็กสันวิลล์ ฟลอริดา สมาชิกปัจจุบันคือ เฟร็ด เดิสต์ นักร้องนำ, แซม ริเวอร์ส มือเบส , จอห์น อ็อตโต มือกลอง เทอร์รี บัลซาโม มือกีตาร์และเทิร์นเทเบิล ส่วนมือกีตาร์เดิม เวส บอร์แลนด์ ออกจากวงในปี 2001 หลังจากออกอัลบั้ม 3 ชุด และแทนโดยไมค์ สมิธ ในการออกผลงานชุดที่ 4 Results May Vary แล้วบอร์แลนด์เข้ามาร่วมวงอีกครั้งในชุด The Unquestionable Truth (Part 1) และออกอีกครั้งในปี 2006 เพื่อทำงานร่วมกับวงอื่น วงมียอดขายอัลบั้ม 33 ล้านชุดทั่วโลก


    ค่ายฟลิพเร็คคอร์ดส ซึ่งเป็นค่ายอินดี้ต้นสังกัดของ ลิมป์บิซกิต จ่ายเงินจ้างให้สถานีวิทยุแห่งหนี่ง เล่นซิงเกิ้ลเพลงแรกของ ลิมป์บิซกิต ชื่อ Counterfeit หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์สลงข่าวเรื่องนี้ แม้จะเป็นข่าวไม่ดี แต่ข่าวก็คือข่าว ลิมป์บิซกิต จึงเริ่มเป็นที่รู้จัก ต่อมาลิมป์บิซกิต ออกซิงเกิ้ลใหม่ เป็นการนำเพลง Faith ของจอร์จ ไมเคิลที่โด่งดังในยุคทศวรรษ 80 มาทำใหม่

    ลิมป์บิซกิต เป็นวงแร็พคอร์ ที่นำแนวดนตรีเมทัล พั้งค์ ฮิพฮ็อพ มาผสมผสานกัน พวกเขา มาจากเมืองแจ็คสันวิลล์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของวง Molly Hatchet, Lynyrd Skynyrd และ 38 Special คุณสมบัติของ ลิมป์บิซกิต ตรงตามแบบฉบับวงร็อค กล่าวคือ ทำเพลงที่ทำให้แฟนเพลงตกใจด้วยความเต็มใจ และยินดีอย่างยิ่ง ทั้งยังมีการแสดงคอนเสิร์ตแบบแหวกแนวด้วย

    เฟร็ด เดิร์สท ช่างสักผู้กลายมาเป็นนักร้องนำของ ลิมป์บิซกิต ตั้งวงขึ้นร่วมกับแซม ริเวอร์ส เพื่อนเก่าซึ่งรับตำแหน่งมือเบสของวง ต่อมา แซมพาจอห์น อ็อตโต้ ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นมือกลองวงแจ๊ซมาเข้าวงด้วย หลังจากนั้น ทางวงก็ได้ตัวเวส บอร์แลนด์ มือกีต้าร์ แล้วทั้งสี่ก็กลายเป็นสมาชิก ลิมป์บิซกิต ยุคบุกเบิก

    ทั้งสี่เห็นพ้องกันว่า ควรจะตั้งชื่อวงว่า ลิมป์บิซกิต แต่แม้จะมีวงเรียบร้อยแล้ว ทางวงยังมีอุปสรรคอีกประการหนึ่งคือ การทำให้คนรู้จักวงดนตรีของพวกเขา เฟร็ด เดิร์สทแก้ปัญหานี้โดยใช้อาชีพรับสักร่างกายของเขาเป็นเครื่องมือ ว่ากันว่าหลังจาก ลิมป์บิซกิต ตั้งวงได้ไม่นาน วง Korn ได้ไปแสดงคอนเสิร์ตที่แจ็คสันวิลล์ หลังแสดงเสร็จ ฟีลดี้ มือเบส กับเฮ้ด มือกีต้าร์วง Korn ได้ไปที่บ้านของเฟร็ดเพื่อให้เขาสักให้ โชคเข้าข้างเฟร็ด เพราะฟีลดี้กับเฮ้ดกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขา เมื่อวง Korn มาแจ็คสันวิลล์อีกครั้ง เฟร็ดจึงเอาเทปตัวอย่างของ ลิมป์บิซกิต ให้ฟีลดี้กับเฮ้ดไปและทาง Korn ก็สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะส่งเทปต่อไปให้รอส โรบินสัน โปรดิวเซอร์ของวง รอส โรบินสันชอบผลงานของ ลิมป์บิซกิต มาก นับแต่นั้นมาลิมป์บิซกิต ก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการเพลง และได้แสดงคอนเสิร์ตกับ House of Pain และ The Deftones

    ในปี 1995 ลิมป์บิซกิต ได้ตัวสมาชิกคนที่ 5 ซึ่งเป็นคนสุดท้ายคือดีเจเลธัล นักประดิษฐ์เสียงจากเทิร์นเทเบิ้ลจากวง House of Pain เมื่อได้ดีเจเลธัลมา LIMP BIZKIT ก็มีแนวเพลงใหม่เข้ามาผสมผสานด้วยคือ แนวฮิพฮ็อพแบบแปลก ๆ เพราะการสแครชแผ่นของดีเจเลธัล ไม่ใช่การสแครชแผ่นพื้น ๆ แบบดีเจทั่วไป

    ลิมป์บิซกิตได้ข้อเสนอจากค่ายเพลงทั่วอเมริกา แต่ทางวงตัดสินใจเซ็นสัญญากับค่ายอินดี้ชื่อว่า ฟลิพเรคคอร์ดส แล้วออกอัลบั้มแรกชื่อว่า Three Dollar Bill Y'all$ ในปี 1997 หลังออกอัลบั้มลิมป์บิซกิตออกทัวร์โปรโมตอัลบั้มอย่างหนัก การแสดงคอนเสิร์ตของลิมป์บิซกิตมีอะไรพิสดารเสมอ ครั้งหนึ่ง เฟร็ด เดิร์สท นักร้องนำออกจากห้องน้ำขนาดใหญ่บนเวที ท่ามกลางฉากที่ได้รับอิทธิพลจากหนังไซไฟ แถมยังมีนักเต้นเบรคแด๊นซ์อยู่โดยรอบด้วย การแสดงคอนเสิร์ตแบบนี้ทำให้ ลิมป์บิซกิต ได้แฟนเพลงกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น แต่ก็นำความอื้อฉาวมาด้วย โดยเฉพาะเมื่อ ลิมป์บิซกิต นำเพลง Faith ของจอร์จ ไมเคิลมาทำใหม่ ในช่วงที่จอร์จตกเป็นข่าวถูกจับกุมในห้องน้ำ เพราะทำอนาจารพอดี

    Significant Other อัลบั้มชุดที่ 2 ของลิมป์บิซกิต ออกขายในวันที่ 22 มิถุนายน 1999 และทำยอดขายได้ถึง 5 แสนชุดในสัปดาห์แรก งานชุดนี้มีศิลปินดังมาร่วมงานมากมาย เช่น ดีเจพรีเมียร์จากวง Gangstarr จอน เดวิสจาก Korn สก็อต ไวแลนด์จาก Stone Temple Pilots และเม็ทธอดแมนจาก Wu Tang Clan ด้วย (แม้แต่แม่ของเฟร็ด เดิร์สทยังมีภาพอยู่บนปกอัลบั้มด้วย)

    อัลบั้มใหม่ของ ลิมป์บิซกิตจะออกมาในเดือนสิงหาคมนี้ ใช้ชื่อ Chocolate Starfish and the Hotdog Flavored Water โดยมีเพลง Take A Look Around ที่เป็นเพลงธีมของหนังเรื่อง Mission Impossible II หรือ M:I-2 รวมอยู่ด้วย

    ชื่อวง ลิมป์บิซกิต เป็นชื่อที่เขียนให้เพี้ยนไปจากตัวสะกดจริง เช่นเดียวกับการสะกดชื่อวง Led Zeppelin ที่มาของชื่อวงมาจาก คำพูดของเพื่อนคนหนึ่งของเฟร็ด ที่พูดถึงเฟร็ดว่า "His brain was like a limp biscuit" (เฟร็ดเป็นคนสมองทึบ) แต่แทนที่เฟร็ดจะโกรธ เขากลับชอบ และเอาคำนี้มาใช้เป็นชื่อวง

    ลิมป์บิซกิต จ่ายใต้โต๊ะให้สถานีวิทยุแห่งหนึ่ง เปิดซิงเกิ้ล Counterfeit ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกของวง ในรายการพิเศษของเอ็มทีวี เฟร็ดกล่าวว่าสมัยที่ ลิมป์บิซกิต ยังไม่มีใครรู้จัก (ในปี 1998) ทางวงได้จ่ายเงินให้สถานีวิทยุ KUFO ในโคโลราโด้ให้เล่นซิงเกิ้ลเพลง Couterfeit ประมาณ 5000 เหรียญ ต่อการเล่น 5 ครั้งใน 5 สัปดาห์ เฟร็ดบอกว่า การทำอย่างนี้ได้ผลดีมาก

    ปัจจุบันลิมป์บิซกิตได้กำลังผลิตอัลบั้มใหม่ในรอบ 5 ปีให้หลังจากอัลบั้ม The Unquestionable Truth (Part 1) และในอัลบั้มนี้มีชื่อว่า "Gold Cobra" และจะปล่อยในภายใต้ค่าย"Polydor/Interscope"ในเครือ Universal Music Group


    สมาชิก

    Fred Durst
    Sam Rivers
    John Otto
    DJ Lethal
    Wes Borland

    ผลงาน

    * Three Dollar Bill, Yall$ (1997)
    * Significant Other (1999)
    * Chocolate Starfish and the Hot Dog Flavored Water (2000)
    * Results May Vary (2003)
    * The Unquestionable Truth (Part 1) (2005)
    * "Gold Cobra


    Credit:http://www.soccersuck.com/soccer/vie...er=asc&start=0
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย panseeme : 16th July 2011 เมื่อ 00:21

  21. รายชื่อสมาชิกจำนวน 8 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  22. #37
    Damn
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Bangkok Rock Tower
    กระทู้
    390
    กล่าวขอบคุณ
    2,581
    ได้รับคำขอบคุณ: 154
    โอ้ว กลับมาแล้วผม เนม ครับ Hard Rock

    ชื่อเล่น เนม
    แนว Hardrock,Metalcore,Nu Metal,Rock,Indie Rock,Pop Rock,Heavy Metal ขอฉายา Hardrock ครับ
    วงที่ชอบ Avenged Svenfold,Slipknot,Asking Alexandria,Metalica,Patera,Morterhead,9mm Parabellumt Bullet,Fall of troy, L'Arc~en~Ciel,Radwimps,Queen of The Stone age,Queen,Wolfmother,Slur,Fall out boy,Gun's n Rose's,Nickel Black,Breaking Benjamin,Story of the year,
    30 Seconds to mars,Suicide Silent,DMC,Rage Against The Machine อีกเยอะครับจำไม่หมด = ="
    เพลงที่ชอบ [9mm parabellum bullet]-Supernova,Colde Edge,The world,Punishment,The Revolutionnary,Black Market Blues,
    Discommunication [Avenged Sevenfold]Afterlife,Burried alive [System of a down]- BYOB,Chop suey [Slipknot]-Before i forget,Killing name [Rage Against The Machine]-Killimg in the name,Bull on parade
    Email มีของผมแล้วนะครับ เผื่อลืมครับ name_love147@hotmail.com
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ace_killer21 : 16th July 2011 เมื่อ 01:42

  23. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  24. #38
    Senior Uploader
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    379
    กล่าวขอบคุณ
    79
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,352
    Blog Entries
    13
    Gu Rock \m/

  25. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  26. #39
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    185
    กล่าวขอบคุณ
    120
    ได้รับคำขอบคุณ: 418
    ผมชาว บูลทัล ครับ

  27. #40
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Denver, Colorado, United States
    กระทู้
    2,270
    กล่าวขอบคุณ
    3,027
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,922
    Blog Entries
    1
    ใครจะไปบ้าง อยากได้เสื่อ - -


  28. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  29. #41
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    86
    กล่าวขอบคุณ
    206
    ได้รับคำขอบคุณ: 20
    ชื่อเล่น-บุ๋น
    อายุ-16ย่าง17
    แนวเพลง- trash metal/heavy metal/nu metal/death metal/progressive
    วงที่ชอบ- metallica/protest the hero/slipknot/linkin park/dezember
    เพลงที่ชอบ- the end of the line/the judas kiss/blood meat/wretch/psychosocial
    email- boon_retrorian@hotmail.com

  30. #42
    We are X [TH]
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    [Club]~Metal Zone
    กระทู้
    535
    กล่าวขอบคุณ
    668
    ได้รับคำขอบคุณ: 418
    Legend of Solo [DRAGONFORCE]



    ประวัติวง DragonForce ก่อตั้งวง เมื่อเดือนกันยายน ปี 1999 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นการรวมตัวของ Herman Li มือกีตาร์ชาวฮ่องกง,Sam Totman มือกีตาร์ชาวอังกฤษ, ZP Theart นักร้องนำชาวแอฟรีกาใต้และ Steve Scott เป็นมือเบส

    โดยตั้งชื่อวงครั้งแรกว่า Dragonheart มีอัลบัมเดโมออกมา 1 ชุดในปี 2000 ใช่ชื่อว่า “Valley of the Damned”บรรจุ 5 เพลง ซึ่งได้แก่ Valley of the Damned, Revelations,Starfire, Black Winter Night และ Disciples of Babylonโดยที่พวกเขาใช้ทุนของตนเองลงขันทำขึ้น หลังจากนั้นในปีถัดมามือเบสก็ลาออกไป พร้อมกับได้ Didier Almouzni มือกลองชาวฝรั่งเศสและมือคีย์บอร์ดชาวยูเครน Vadim Pruzhanov เข้ามาเสริมทัพ


    มาจนในเดือนธันวาคมปี 2001 เปลี่ยนชื่อมาเป็น Dragonforceจนถึงปัจจุบันพวกเขาจัดเป็นวงที่ได้รับอิทธิพลมาจากวงจากฝั่งยุโรปอย่างHelloween, Gamma Ray และ Stratovarius มาแบบเต็มๆจัดเป็นวงที่เล่นสไตล์เมโลดิกเพาเวอร์ไฟแรงที่น่าจับตาที่สุดในช่วงนี้

    Herman Li จัดเป็นมือกีตาร์หนุ่มที่ฝีไม้ลายมือเข้าขั้นมหากาฬยิ่งได้คู่หูอย่าง Sam Totman ที่เข้าขากันได้ดีมาตลอดทำให้อัลบัมเต็มชุดแรกที่เซ็นกับสังกัด Noise Records
    พวกเขานำชื่ออัลบัมเดแรกของวงกลับมาใช้อีก รวมทั้งนำเอา 5 แทร็กเดิมมาบันทึกเสียงใหม่อีกครั้งเพลงเปิดตัวอย่างเพลง Valley of the Damned เต็มไปด้วยเทคนิคของการโซโลกีตาร์ที่หวือหวาและน่าหลงใหลและ Black Winter Night ก็เต็มไปด้วยพลังขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมของดนตรีเพาเวอร์เมตัลเน้นเมโลดี

    หลังจากประสบความสำเร็จจากการออกทัวร์ที่งาน Sweden Rock Festivalพวกเขาได้มือเบสอย่าง Adrian Lambert เข้ามาเสริมทัพยิ่งทำให้ขุมกำลังของ Dragonforce เข้มแข็งมากขึ้นแม้จะออกผลงานเป็นอัลบัมแรก แต่ทั้งชื่อเสียงและฝีมือทางดนตรีของวงกำลังเป็นที่ยอมรับในหมู่ชาวเมตัลทั่วยุโรปอย่างกว้างขวาง

    ต่อมาในอัลบัม Sonic Firestorm ในปี 2004แทร็กสำคัญอย่าง My Spirit will go on, Fury of the Storm ยังคงครองใจแฟนเพลงสายเมโลดิกเพาเวอร์ พร้อมกับตารางทัวร์ที่ยาวเป็นหางว่าวนอกจากนี้คำชมจากนิตยสารต่างๆ ยังชื่นชมพวกเขาอยู่บ้างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น

    Kerrang!, Metal Hammer, Burrn!, Classic Rock, Lords of Metal เป็นต้น

    ล่าสุดพวกเขามาประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในอัลบัมที่ 3 ที่ชื่อ Inhuman Rampage ในปี 2006พวกเขามีส่วนอย่างมากในการทำงานในห้องอัดระบบเสียงชั้นเยี่ยม บวกกับฝีมือที่พัฒนาขึ้นหลายเท่าตัวนักแต่พวกเขาต้องสูญเสียมือเบสอีกครั้ง แล้วผู้ที่เข้ามาแทนในตำแหน่งเมือเบสที่ว่างลงก็คือ Frederic Leclercq อดีตมือกีตาร์ของวง Heavenly สายเลือดฝรั่งเศส มารับหน้าที่อย่างเต็มตัวซึ่งก็สามารถเติมเต็มในส่วนของการแสดงสดได้เป็นอย่างดี มือกีตาร์ของวงทั้ง Sam และ Herman ทั้งสองได้รับรางวัล “Best Shredder” จากงาน Metal Hammer Golden Gods 2005นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นมือกีตาร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากGuitar World’s Readers Poll 2007 ซึ่งได้คะแนนโหวตถึง 70%ทั้งสาขา “Best Metal”, “Best Riff” และ “Best Shredders” พวกเขากวาดมาเรียบล่าสุดรางวัล “Best Guitar Solo” จากเพลง Through the Fire and Flamesโดยการโหวตของนิตยสาร Total Guitar ปีนี้ก็เป็นของพวกเขา ปี 2007

    Herman เริ่มต้นการโชว์และการสร้างชื่อได้เป็นอย่างดีกับการเป็นแขกพิเศษที่ได้ขึ้น ร่วมแจมกีตาร์กับมือกีตาร์ระดับเทพอย่าง Steve Vaiในงาน The Ibanez Jem/RG model 20th Anniversary Show ที่เมืองฮอลลีย์วูด ในคาลิฟอร์เนียก่อนหน้านี้ลีเองก็เคยร่วมแจมบนเวทีเดียวกับมือกีตาร์ระดับตำนานอีกหลายคนอาทิ Jo Satriani, Paul Gilbert, Tony MacAlpine และ Andy Timmons มาแล้ว


    ถือว่า Dragonforce เป็นวงเพาเวอร์เมตัลอนาคตไกลแล้ว ในเรื่องของมือกีตาร์พวกเขายังฉายแววการเป็นกีตาร์ฮีโร่อีกด้วย
    Credit : http://www.soccersuck.com/soccer/vie...er=asc&start=0
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย panseeme : 20th July 2011 เมื่อ 15:13

  31. รายชื่อสมาชิกจำนวน 7 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  32. #43
    Idiot!!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    601
    กล่าวขอบคุณ
    74
    ได้รับคำขอบคุณ: 325
    System of a Down วง Armenian-American ผู้ยิ่งใหญ่



    System of a Down, หรือที่รู้จักในชื่อย่อนามว่า SOAD หรือเรียกสั้นๆ ว่า System พวกเขาทั้งสี่ คือวง Alternative Nu-Metal เชื้อสาย Armenia - American จากทางตอนใต้ของ แคริฟอเนีย


    วงSystem of a down ได้่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี คศ. 1994.จากการรวมตัวของ Serj Tankian ร้องนำ Daron Malakian มือกีตาร์และร้อง Shavo Odadjian มือเบส และ John Dolmayan มือกลอง

    โดยเพลง ส่วนใหญ่ของ System นั้น จะสื่อไปถึงเหตุการณ์ Armenian Genocide เมื่อปี 1915 ซึ่งเป็นการสังหารหมู่ชาว Armenian ที่น่าสยดสยอง

    ชื่อของวงนั้น มีที่มาจากบทกลอนของ Daron ที่ชื่อ Victims Of A Down ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็น System Of A Down

    วงSystem of a down นั้นประสบความสำเร็จ จากอัลบั้ม เพียง 5 อัลบั้ม และ อัลบั้ม พิเศษ อีกหนึ่ง อัลบั้ม (Steal this album!)


    แนวทางดนตรีของพวกเขานั้น เป็นที่น่าัจับตามอง เนื่องจาก ผสมผสาน แนวเพลงพื้นเมืองของ Armenian เข้าไปกับ แนวดนตรี Rock อย่างเข้ากันเป็นอย่างดี

    พวกเขานั้น เคยเข้าร่วม การประกวดรางวัล Grammy Awards หลายครั้ง และเคยได้รางวัล Best Hard Rock Performance ในปี 2006 จากเพลง BYOB

    แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้แยกย้ายกันไปทำ สิ่งที่พวกเขาอยากทำกัน Serj ได้ทำอัลบั้มเดี่ยว John และ Daron ไปทำอัลบั้ม ชื่อ Scar on Broadways ส่วน Shavo ก็ทำร้านขายของเล่น ??

    ถึงเช่นนั้น จิตวิญญาณ Rocker ของพวกเขาก็ยังโชติช่วง ล่าสุดพวกเขาได้กลับมารวมวง กันอีกครั้งและ เริ่มออกทัวห์ คอนเสิร์ต ตามต่างประเทศ พร้อมกับได้รับการตอบรับ อย่างล้นหลาม!!!!


    ประวัติการออกอัลบั้ม Credit : http://grando.0indy.com/blog/view.php?No=98

    System Of A Down ออกอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก ที่มีชื่อว่า System Of A Down ในปี 1998

    ปี 2001 อัลบั้มชุดต่อมา Toxicity เปิดตัวด้วยการขึ้น อันดับหนึ่ง ชาร์ต ของอเมริกาและแคนาดา

    ปี 2002 System Of A Down วางแผงอัลบั้มที่มีชื่อว่า Steal This Album! เพื่อประชดพวกที่ชอบก็อปปี้เพลงทาง Internet เพลงทุกเพลงในอัลบั้มนี้ เป็นเพลงที่อัดพร้อมกันกับ Toxicity แต่ไม่ได้ถูกเลือกให้อยู่ใน Toxicity พูดง่ายๆก็คือ เป็นเพลงที่เหลือ จากอัลบั้มที่แล้วนั่นเอง

    ในปี 2005 System Of A Down ออกอัลบั้มคู่คือ Mezmerize และ Hypnotize ซึ่งทั้งสองอัลบั้มวางแผงห่างกัน 6 เดือน มีเพลงสุดฮิตอย่าง B.Y.O.B. จาก Mezmerize ซึ่งได้รับรางวัล Grammy สาขา Best Hard Rock Performance ในปี 2006

    ในปี 2007 เพลง Lonely Day จากอัลบั้ม Hypnotize เข้าชิงรางวัล Grammy ในสาขาเดียวกัน แต่พลาดไปอย่างน่าเสียดาย

    ในปีเดียวกัน Serj Tankian นักร้องนำของวง ออกอัลบั้มเดี่ยวชื่อว่า Elect The Dead ซึ่งเขาทำเองแทบจะทุกอย่างในอัลบั้มนี้ ไม่ว่าจะ Produce, แต่งเพลง และเล่นดนตรี


  33. รายชื่อสมาชิกจำนวน 6 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  34. #44
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    126
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 74
    ไม่ได้เข้ามาหลายวัน เจิมสะหน่อย

  35. #45
    ป่วนบอร์ด รุ่นที่ 2 ,,P1
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    เรือซันนี่
    กระทู้
    361
    กล่าวขอบคุณ
    1,227
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,413
    Blog Entries
    1
    มาเป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ
    One Piece !!


  36. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  37. #46
    We are X [TH]
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    [Club]~Metal Zone
    กระทู้
    535
    กล่าวขอบคุณ
    668
    ได้รับคำขอบคุณ: 418
    Suicide Silence



    Suicide Silence (ซูไซด์ ไซเลนซ์) คือวงลูกผสมระหว่างดนตรีเดธเมตัลกับดนตรีประเภทเมตัลคอร์ จึงทำให้ดนตรีของพวกเขาถูกเรียกขึ้นมาอีกแบบในกลุ่มผู้ฟังยุคใหม่ง่าเป็น “Deathcore (เดธคอร์)” มันจะก่ำกึ่งอยู่ระหว่างเดธเมตัลเสียมากกว่า แต่บางครั้งก็ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของวงกระแส ไม่แปลกใจที่พวกเขามันทัวร์ได้ทั้งวงเดธเมตัล และบางงานอาจจะทัวร์สนับสนุนให้กับวงเมตัลคอร์

    เด็กหนุ่ม 5 ชีวิตจากเมืองคาลิฟอร์เนีย ตั้งวงครั้งแรกในปี 2002 สมาชิกล่าสุดประกอบด้วยChris Garza (กีตาร์), Mitch Lucker (ร้องนำ), Mike Bodkins (เบส), Mark Heylmun (กีตาร์), Alex Lopez (กลอง) พวกเขาเคยออกเดโมเทปมาก่อนหน้านี้แล้ว ถึง 2 ชุด โดยเป็นการลงทุนทำกันเอง ต่อมาอีพีชุดแรกก็เกิดขึ้นโดยมีสังกัด Third Degree Records เป็นต้นสังกัดแรก พวกเขามาโด่งดังจนเตะตาสังกัดใหญ่อย่าง Century Media เข้าด้วยสปริตอัลบัมกับวง Downtown Massacre ในปี 2006 เป็นงานที่สร้างชื่อให้กับวงค่อนข้างมาก


    สมาชิก

    Mitch Lucker
    Mark Heylmun
    Chris Garza
    Alex Lopez
    Dan Kenny


    อัลบั้ม

    * The Cleansing (2007)
    * No Time to Bleed (2009)

    EP

    * Suicide Silence EP (2005)
    * Green Monster (2008)
    * Wake Up (2009)

  38. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  39. #47
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 11
    ชื่อเล่น : โม่
    อายุ : 14
    แนวที่ชอบ : Metalcore , Heavy Metal , Screamo , Power Metal , Death Metal
    วงที่ชอบ : BMTH , BFMV , Suicide Silence , A7X , As I Lay Dying , Slipknot , Dragonforce , Edguy และอื่นๆ
    เพลงที่ชอบ : เยอะ
    E - Mail = memoderator@hotmail.com

  40. #48
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Denver, Colorado, United States
    กระทู้
    2,270
    กล่าวขอบคุณ
    3,027
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,922
    Blog Entries
    1

  41. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  42. #49
    ชอบปล้ำกระทู้
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    420
    กล่าวขอบคุณ
    146
    ได้รับคำขอบคุณ: 583
    ชื่อเล่น - Bank
    อายุ - 15
    แนวเพลง Metal ที่ชอบ - Heavy Metal
    วงที่ชอบ - ebola
    เพลงที่ชอบ - กรง
    email - hadeat2009@hotmail.com

  43. #50
    You are .......!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    X
    กระทู้
    393
    กล่าวขอบคุณ
    48
    ได้รับคำขอบคุณ: 233
    taiji อดีตสมาชิกมือเบส X JAPAN เสียชีวิตแล้วครับ

    เสียใจอย่างสุดซึ้ง

    R.I.P.



    จาก http://www.47news.jp/news/flashnews/ และ http://www.sponichi.co.jp/entertainm...001230160.html

    ข้อความจาก รูกิ GazettE จาก ทวิตเตอร์

    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Philia : 17th July 2011 เมื่อ 21:08

  44. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:



 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top