ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 26
  1. #1
    >>คนรากหญ้า<<
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    5,787
    กล่าวขอบคุณ
    4,413
    ได้รับคำขอบคุณ: 61,000

    การศึกษาไทยตกต่ำแล้วตกต่ำอีก โดยบริษัทเพียร์สัน



    การศึกษาไทยตกต่ำแล้วตกต่ำอีก โดยบริษัทเพียร์สัน






    จากการจัดอันดับประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก ของบริษัทจัดอันดับการศึกษา เพียร์สัน ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 พบว่าประเทศไทยอยู่อันดับที่ 37 ของโลก ถ้าเราอ่านเพียงแค่นี้ก็คงจะไม่รู้สึกตกใจ เพราะในโลกนี้มีอยู่เป็นร้อยๆ ประเทศ แต่ถ้าเราลองตระหนักลงไปอีกว่า แล้วประเทศที่เขาจัดระบบการศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ได้ดีกว่า มีประเทศอะไรบ้าง เราอาจจะเริ่มรู้สึกตกใจเพราะประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียงเราล้วนมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงกว่าเรา และถ้าเราลองศึกษาให้ลึกลงไปอีกเราต้องวิตกกังวลไปมากกว่าที่จะอยู่เฉยๆ ต่อไปได้ เรามาทบทวนผลการจัดอันดับของบริษัท เพียร์สันดูอีกครั้ง

    อันดับที่ 1 ประเทศฟินแลนด์ ที่ 2 เกาหลีใต้ ที่ 3 ฮ่องกง ที่ 4 ญี่ปุ่น ที่ 5 สิงคโปร์ ที่ 6 อังกฤษ ที่ 7 เนเธอร์แลนด์ ที่ 8 นิวซีแลนด์ ที่ 9 สวิตเซอร์แลนด์ ที่ 10 แคนาดา ...... ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 37

    อันดับที่ 2-5 อยู่ในทวีปเอเชีย และบางประเทศเคยยากจนกว่าประเทศไทยมาก่อน แต่เดี๋ยวนี้เราตามเขาไม่ทันแล้ว และเราต้องตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพบว่า หลายประเทศที่มีผลการศึกษาดีกว่าประเทศไทยของเรานั้น ลงทุนงบประมาณทางการศึกษาต่ำกว่าประเทศไทย เมื่อเทียบกับรายการงบประมาณ จีดีพี ของประเทศ หากระบบการศึกษาของไทยเรามีเครื่องมือหมอ (ทางการศึกษา) ที่ดี มีประสิทธิภาพสูง เอามาเอกซเรย์ดู ว่ามีความผิดปกติตรงไหน มีอะไรเกิดขึ้นในระบบการศึกษาไทย เราอาจพบสาเหตุของตัวปัญหาที่ถูกต้อง แต่ที่ผ่านมาเราแก้ปัญหาโดยการทุ่มงบประมาณลงไป ลงไปลงไปๆๆๆ แต่อาการไม่ดีขึ้นมีแต่ทรงกับทรุด

    ท่านผู้อ่านที่เคารพ คนไทยส่วนมาก ส่วนใหญ่เฝ้าดูการศึกษาไทยด้วยความวิตกกังวล โดยเฉพาะผู้ที่มีลูกหลานกำลังเรียนอยู่ในระบบการศึกษาไทย มันตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนเรือไททานิก ที่กำลังจมน้ำลึกลงไปเรื่อยๆ หรือเสมือนอาการคนป่วยหนักที่หมอให้ยาอะไรไปก็ไม่มีอาการดีขึ้น มีแต่อาการทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ คนที่เป็นครู คนที่อยู่ในวงการศึกษา ก็เปรียบเสมือนลูกเรือก้มหน้าก้มตาซ่อมเรือ อุดรูรั่ว ทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่ก็ยังไม่พบว่าอาการทรุดหนักทางคุณภาพการศึกษาจะดีขึ้น กัปตันเรือเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก รัฐมนตรีทางการศึกษาเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก บางคนไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ทางการศึกษาเลย มาบังคับหางเสือเรือให้แล่นตรง ดังนั้น นาวาทางการศึกษาไทยจึงตกอยู่ในวังวน ไร้ทิศทาง ต่างคนต่างขยัน ต่างคนต่างออกแรง แล้วจะหวังให้เรือการศึกษาไปถึงฝั่งได้อย่างไร

    เพื่อนครูที่เคารพรัก ถึงท่านจะขยันจนสุดแรงเกิดอย่างไร หากกัปตันเรือกำหนดเป้าหมาย กำหนดทิศทางผิด หันหัวเรือเข้าต่อสู้กับกระแสคลื่นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างไม่ถูกต้อง ก็เห็นทีว่าเราจะพากันตกต่ำลงไปเรื่อยๆๆๆ จนถึงก้นมหาสมุทร

    กัปตันเรือจะแก้ปัญหาได้ จะต้องมองปัญหาออก ที่มองอนาคตออก มองเห็นปัญหาผ่านเครื่องเอกซเรย์ ทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ คนที่มีสิทธิเลือกกัปตันให้กับประเทศก็คือ นายกรัฐมนตรี มีอำนาจสูงสุดในการแก้ปัญหา และท่านต้องตระหนักรู้ว่าการศึกษาคือเครื่องมือที่พัฒนาประเทศที่แท้จริง หากมีความประสงค์จะกู้วิกฤตทางการศึกษาให้ได้อย่างรวดเร็วจริงจังคือ หากัปตันที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางการศึกษา มายกเครื่อง (overhaul) เปลี่ยนแปลงระบบบางอย่างที่ล้าหลังออกไป นำระบบที่ทันสมัยแบบใหม่เข้ามา ดูตัวอย่างประเทศที่เขาประสบผลสำเร็จมาเป็นต้นแบบ ก็จะแก้ไขได้

    มีครูผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่งบอกรัฐบาลของเขาว่า "การปฏิรูปการศึกษาที่ถูกต้องอยู่ในห้องเรียน อยู่ในระหว่างครูกับนักเรียน" ผมเป็นครูมาตลอดชีวิต เป็นครูสอนเด็กในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษามาตั้งแต่ พ.ศ.2513 ถึง พ.ศ.2521 เวลา 9 ปี เป็นผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา 2522-2545 เป็นเวลา 24 ปี เป็น ผอ.สามัญศึกษาจังหวัด พ.ศ.2546 อยู่ 1 ปี เป็นผู้ตรวจราชการของกระทรวงศึกษาธิการอยู่ 2 ปี เป็น ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา รับผิดชอบการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือระดับปฐมวัย ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ.2527-2552 อยู่ 5 ปี ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี ได้รู้ ได้เห็น ได้จัดการ ได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบ ได้เห็นความสำเร็จ ได้เห็นความล้มเหลวมาตลอด จึงมีความเป็นห่วงต่อคุณภาพการศึกษาไทยเป็นอย่างยิ่ง แม้วันนี้จะเกษียณอายุราชการออกไปแล้ว แต่ความเป็นครูได้ฝังอยู่ในสายเลือด เป็นครูตลอดชีวิต "ครูแก่ไม่เคยตาย Old Soldier Never Die" ผมจึงได้พบทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวในระบบการศึกษาไทย แต่ผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้มีอำนาจเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาได้ เพราะเราเป็นเพียงไม้ปล้องกลาง ย่อมเป็นไปตามต้นไม้หรือปลายไม้จะลากไป แม้ประสบการณ์บางครั้งจะบอกให้รู้ว่ากัปตันเหเรือออกนอกเส้นทางแล้วเดินผิดทางแล้วก็ไม่มีอำนาจพอที่จะไปพลิกกลับหางเสือดึงหัวเรือเข้าสู่เส้นทางได้ ร้องตะโกนก็ไม่ถึงหูกัปตัน ผมรู้ว่าหัวเรือการศึกษาได้ออกนอกเส้นทางมาตั้งแต่ปี 2521 ปีที่ปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา 2521 ประกาศใช้ปี 2522 และมาจมลึกไปถึงปี ประกาศใช้ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 มีผลเมื่อปฏิรูปการศึกษา 2544 เป็นเวลาถึง 20 ปี แม้นักการเมืองนักการศึกษาในกระทรวงศึกษาไทยได้พยายามอีกครั้งเมื่อมีการปฏิรูปการศึกษารอบสอง เมื่อ พ.ศ.2551 จนมาถึงวันนี้ เรายังมืดมน มองยังไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

    คุณภาพผลผลิต คุณภาพคนไทยที่ผ่านเบ้าหลอมทางการศึกษา มีศักยภาพตกต่ำลงเรื่อยๆ อัดฉีดงบประมาณเข้าไปมากเท่าใดก็ไม่มีผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้น ถ้าคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่แข็งพอก็อย่าได้หวังว่าการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจะดีเลิศ สร้างต้นกล้าที่ไม่แข็งแรงแล้วจะหวังต้นไม้ใหญ่ให้ผลผลิตสูงได้อย่างไร

    ท่านผู้อ่านทราบไหมครับว่า เด็กไทยในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอ่านหนังสือไม่เป็น ไม่มีนิสัยรักการอ่าน อ่านหนังสือไม่จบเล่ม ไม่รู้ว่ามีหนังสือน่าอ่านดีๆ ในประเทศไทย หรือหนังสือดีๆ น่าอ่านในโลก แล้วเด็กไทยจะเก่งเข้าสู่ตลาดการแข่งขันได้อย่างไร เด็กไทยจำนวนมากยังขาดนิสัยที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ขาดนิสัยเรียนรู้ตลอดชีวิด ขาดการแสวงหาความรู้ด้วยการอ่าน ขาดการใฝ่รู้ใฝ่เรียน ดังนั้น เด็กไทยที่ไม่มีความอยาก มีสมองที่ว่างเปล่าเดินเข้าไปในห้องสมุด เมื่อเดินกลับออกมาสมองของเขาจึงไม่ได้บรรจุสิ่งใดเข้าไปในสมองเลยเพราะเขาไม่ได้อ่านอะไรเลย ไม่ได้มีเป้าหมายในการเดินเข้าไปในห้องสมุด ไม่ได้มีความอยากรู้อยากเห็น ไม่มีความหิวกระหายที่จะศึกษาค้นคว้า จนเกิดเป็นนิสัยถาวร นิสัยไม่อยากรู้อยากเรียนก็จะตามไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัยไปจนถึงระดับอุดมศึกษา

    ตอไม้ที่ตายแล้วถึงครูจะขยันรดน้ำอย่างไรตอนั้นก็จะไม่งอกเงยเหมือนเด็กไทยที่เรียนภาษาอังกฤษ เรียนจบจากชั้นเรียนกลับถึงบ้านก็ไม่ได้สนใจไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เราจึงสูญเสียเวลารดน้ำไป 6 ปี จบ ป.6 ไป 12 ปี จบ ม.6 ไป 16 ปี จบปริญญาตรี แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราจึงสูญเสียเวลารดน้ำตอไม้ให้งอกเงยนะ

    เด็กไทยเขียนหนังสือไม่เป็น เริ่มต้นจากเขียนหนังสือไม่ถูก อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ โดยปกติเด็กจะอ่านออกเขียนได้เมื่อเรียนอยู่ระดับชั้น ป.2 ถ้าหลุดไปจาก ป.2 แล้วยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ถือว่าเด็กเรียนช้า หรือเด็กผิดปกติ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะพบเด็กผิดปกติอยู่ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามากกว่านี้ถือว่ามีความผิดพลาดในการจัดการศึกษา เด็กทั่วโลกจะมีปัญหามีเด็กผิดปกติใกล้เคียงกัน คือร้อยละ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ภาษาจิตวิทยาเรียกเด็กกลุ่มนี้ว่าเด็กพิการ 9 ประเภท ซึ่งแบ่งเด็กพิการออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่มองเห็นได้ด้วยสายตา เช่น หูหนวก ตาบอด ร่างกายพิการ ฯ และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตา เช่น เด็กสมาธิสั้น เด็กแอลดี เด็กบกพร่องทางสายตา ทางการพูด ทางการได้ยิน ฯ ซึ่งต้องอาศัยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาช่วยดู ช่วยตรวจสอบ แม้แต่ครูเองก็ดูไม่ออกไม่ว่าเด็กที่เรียนช้าเหล่านี้คือเด็กพิการอีกประเภทหนึ่ง ครูบางคนจึงไปพาลเอากับเด็กว่าเป็นเด็กดื้อ เด็กโง่ เด็กเกเร ฯ

    การเขียนหนังสือเป็นทักษะที่ยากยิ่งกว่าทักษะการอ่าน คนที่เขียนหนังสือเป็น เขียนหนังสือได้ดีต้องผ่านการฝึกฝน ต้องมีนิสัยรักการเขียน และต้องเป็นผู้ที่อ่านมามาก การที่จะสามารถเขียนหนังสือได้น่าอ่านได้อย่างมีเหตุมีผล ได้เนื้อหา ได้ใจความตรงตามที่ตนเองต้องการ คนคนนั้นจะต้องเป็นนักอ่านมามาก รู้วิธีการที่นำเสนอได้ดีมีระบบ เป็นขั้นเป็นขั้นเป็นตอน เรียงลำดับได้เหมาสม ทักษะการเขียนต้องผ่านการฝึกฝน เด็กไทยส่วนมากเขียนหนังสือไม่เป็น ประเทศชาติจึงขาดนักประพันธ์ระดับโลกอย่างน่าเสียดาย

    การสร้างนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนไม่ใช่สิ่งที่ครูสอนกันบอกกันในห้องเรียนได้ การสร้างนิสัยอย่างนี้ต้องอาศัยกิจกรรมที่เหมาะสม สร้างแรงจูงใจ กระตุ้นให้เกิดความอยากความหิวกระหาย ให้ผู้เรียนสามารถต่อยอดได้เองหลังจากออกจากห้องเรียนไป ครูต้องจุดแบตเตอรี่ในหัวใจเด็กให้ได้ ให้เขาสามารถเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ ได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องรอครู ทุกหนแห่งคือห้องเรียน แล้วครูจะได้ไม่เหนื่อย โดยธรรมชาติ เด็กไทยก็เหมือนเด็กทั่วโลกคือมีความอยากรู้ อยากเห็น อยากทดลองอยากทำสิ่งใหม่ แต่พอผ่านระบบการศึกษาที่ผิดพลาด พฤติกรรมความอยากมันหายไป มันเพราะอะไร เพราะรอครูจัดให้หรือ เพราะรอพ่อแม่จัดให้หรือ เพราะรอนายจ้างสั่งหรือ ให้คิดเองให้ทำเองทำไม่เป็นคิดไม่เป็นหรือ

    ผู้เขียนเคยไปอบรมในสถาบันพระปกเกล้าซึ่งถือว่าเป็นสถานบันการศึกษาชั้นสูง สองครั้ง สองหลักสูตร หลักสูตรแรกใช้เวลาอบรม 1 เดือน ใช้งบประมาณมาก ใช้วิทยากรระดับสูงจำนวนมาก นั่งเรียนตลอดเวลาเช้าเย็น กลางคืน เรียนหนัก ได้ฟังนักวิชาการ นักการเมือง นักธุรกิจ บรรยายตลอด เราได้ฟัง เราได้ดู เราได้รู้ เราได้เห็น แต่เราไม่ได้อะไรมาเลย จบแล้วไม่นานก็ลืม เพื่อนที่เรียนด้วยกันก็ไม่มีความสนิทสนม

    ในสถาบันเดียวกันนี้ ผมได้เข้าไปเรียนอีกในหลักสูตร หนึ่ง ใช้เวลา 10 วัน กับนักศึกษาอีกคนละกลุ่ม วิทยากรไม่หลากหลายเท่าหลักสูตรแรกการจัดหลักสูตรก็ไม่แน่น ไม่มากมายเท่าหลักสูตรแรก เราฟังบรรยายภาคเช้า ภาคบ่ายทำกิจกรรมจากบทเรียนเมื่อเช้า ตอนเย็นเข้ากลุ่มสร้างความคุ้นเคยแลกเปลี่ยนระหว่างผู้เรียน แล้วนำเสนอหน้าห้องเรียน 5 วันแรกเรียนเช้า บ่ายกิจกรรม พบกลุ่ม ออกแบบงาน 5 วันหลัง นำบทเรียนที่เรียนจาก 5 วันแรกมานำเสนอ แสดงบทบาทสมมุติ มีกิจกรรมให้ผู้เรียนร่วมวางแผน ตัดสินใจ ผู้สอนมีกิจกรรมร่วมกัน นำเสนอบทบาทสมมุติ ให้เวลาแต่ละกลุ่มเตรียมงาน วางแผน นำเสนอ ตลอดระยะเวลา 10 วัน เป็นวันเวลาแห่งการเรียนที่มีความหมาย ทุกคนมีความสุข ทุกคนกระตือรือร้น คนที่เฉื่อยชาแต่แรกกลายเป็นคนกระฉับกระเฉง เรียนหลักสูตร 10 วัน จบมาแล้ว 10 ปี เรายังจำไม่ลืม จำกันได้ เรายังจำภาพประทับใจวันนั้นได้ ทุกคนที่เรียนด้วยกันมีความผูกพันกัน เปรียบเทียบหลักสูตร 10 วัน กับหลักสูตร 1 เดือน ในสถาบันเดียวกับ เราได้รับความรู้ประสบการณ์จากหลักสูตร 10 วันมากมายกว่า หลักสูตร 1 เดือน แม้หลักสูตร 1 เดือน จะจัดให้เต็มที่ หาวิทยากรที่ดีระดับประเทศมาให้ แต่เราก็แทบจะไม่ได้อะไร เราจำกันแทบไม่ได้เลย เราไม่มีความประทับใจในกันและกันเลย มันคือความล้มเหลวที่แม้ผู้จัดจะประสงค์ดีต้องการให้ผู้เรียนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แต่ในที่สุดผู้เรียนแทบไม่ได้รับอะไรเลย ผิดกับหลักสูตร 10 วัน เราได้แทบทุกอย่าง ได้มากกว่าที่ผู้จัดอบรมจะให้เรา เราได้เพื่อนเราได้มิตร เราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ได้ความสนิทสนม ได้รับความไว้วางใจ มองดูการศึกษาไทยทุกวันนี้มันเหมือนหลักสูตร 1 เดือน ที่ผู้จัดอยากให้ผู้เรียนได้รับ แต่ผู้เรียนแทบไม่ได้อะไรเลย แต่หลักสูตร 10 วัน เราผู้เรียนรู้สึกว่าเวลามันสั้น แต่เราประทับใจไม่รู้ลืม นี้คือสิ่งที่เหลืออยู่ของผู้เรียน ทบทวนการจัดการศึกษาไทยได้แล้วหรือยังครับ หรือเราจะรอให้เรือมันจมจนถึงก้นทะเลก่อน แล้วจึงค่อยไปกู้ภายหลัง เรือไททานิก ใช้เวลาเป็น 100 ปี การศึกษาไทยในยุคเทคโนโลยีต้องใช้เวลาขนาดนั้นเชียวหรือ อยากถามประเทศไทย









    อ้างอิงจาก http://campus.sanook.com/1144098/%E0...8%B1%E0%B8%99/
    โดย เพชร เหมือนพันธุ์


  2. #2
    GFAQS SyBer2[BB]
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    935
    กล่าวขอบคุณ
    4,061
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,269
    แปลกเนอะทั้งๆที่กระแสเรื่องนี้ก็มาแรงมากๆๆ เเต่ทำไมยังไม่แก้อะไรเลย

  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    กระทู้
    169
    กล่าวขอบคุณ
    342
    ได้รับคำขอบคุณ: 600
    เหอะๆ...
    TheSunlightHurtMyEyes

  5. #4
    •:•:• Anime Addict •:•:•
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    เพโคปอง
    กระทู้
    4,640
    กล่าวขอบคุณ
    6,661
    ได้รับคำขอบคุณ: 7,813
    ดูข่าวแว๊บๆเมื่อกลางวัน

    เด็กญี่ปุ่น ประเทศที่เจริญด้วยเทคโนโลยี เค้าพาไปเรียนนอกสถานที่ ไปวัด ไปชุมชนต่างๆ เน้นเห็นของจริง ชีวิตจริง ที่จริง

    แต่เด็กไทย โยนแท็บเล็ตให้ แล้วก็โยนภาระให้ครูกับเด็ก

  6. รายชื่อสมาชิกจำนวน 16 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #5
    Nothing
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    1,738
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,050
    ประเทศอื่นเปิดเสรีเต็มที่ อยากใส่ชุดไรไปเรียนก็ได้ ทำมไรก็ได้ แต่ปรเทศไทยก็เนอะ นี้หรือประชาธิปไตย

  8. #6
    ซอมบี้ยาจก
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    เนเซสซาเรียส
    กระทู้
    556
    กล่าวขอบคุณ
    23
    ได้รับคำขอบคุณ: 407
    อย่าเพิ่งแก้นะครับ

    พี่ๆนักการเมืองยังกินไม่อิ่ม

  9. รายชื่อสมาชิกจำนวน 8 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  10. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    ที่อยู่
    MONSANTO
    กระทู้
    447
    กล่าวขอบคุณ
    617
    ได้รับคำขอบคุณ: 304
    อ่านข้อความในกระทู้เนื้อหาแบบนี้ทีไร ก้ออ่ะน่ะ...

  11. #8
    -[S]upremE [D]e [A]cE-
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    ที่อยู่
    GREED ISLAND
    กระทู้
    1,239
    กล่าวขอบคุณ
    1,442
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,446
    อย่าโทษใครเลย ถ้าพวกเรายังกลับบ้านมาแล้วไม่อ่านหนังสือ ไม่เปิดทำการบ้าน จนถึง 5 ทุ่ม หรือ 4 ทุ่ม ก็อย่าไปโทษใครเลย ที่มันตกต่ำ คิดดูดีๆ อย่าไปโทษใคร

  12. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #9
    ScarJO ♥♥#!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    SCARLETT'S HOUSE
    กระทู้
    865
    กล่าวขอบคุณ
    245
    ได้รับคำขอบคุณ: 482
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ matsushiro อ่านกระทู้
    อย่าโทษใครเลย ถ้าพวกเรายังกลับบ้านมาแล้วไม่อ่านหนังสือ ไม่เปิดทำการบ้าน จนถึง 5 ทุ่ม หรือ 4 ทุ่ม ก็อย่าไปโทษใครเลย ที่มันตกต่ำ คิดดูดีๆ อย่าไปโทษใคร
    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ จะโทษ ครู อาจารย์ อย่างเดียวก็คงไม่ถูกนัก เด็กสมัยนี้อย่างว่าแหละครับ แตะต้องไม่ได้ครูจะดุจะสั่งสอน แทบทำไม่ได้เลย พอมีเร่องขึ้นมา พ่อ แม่ ก็พากันมาหิ้วปีก โทษครูอย่างเดียว
    Make everthing as simple as possible, but not more simple.

  14. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    1,971
    กล่าวขอบคุณ
    1,463
    ได้รับคำขอบคุณ: 457
    บ้านเราจะเห่อแทปเล็ตอะไรมากมายนะ ไอครูสอนก็นั่งเล่นไปเล่นเหอะ แล้วก็สั่งเด็กให้เอานิ้วจิ้มเป็น ก-ฮ ส่วนครูก็บันเทิงเริงรมเข้าไป

    นอกจากครูเขาไม่สนใจเด็กที่กำลังเรียนแล้ว เด็กที่เรียนด้วยแบบนี้เรียนไปก็ไม่ได้อะไรด้วย

    สอนเด็กจับดินสอ จับปากกาให้รอดก่อนไหม

  15. #11
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    อุบลราชธานี
    กระทู้
    862
    กล่าวขอบคุณ
    163
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,477
    ผมคนหนึงที่ไม่ชอบส่งงาน แต่ชอบสอบมากกว่านะ ไม่รู้เป็นไร
    ผมคิดดูนะ มันจริงรึป่าว

    เคดิต ครูนวล ชวนอ่าน

    edit :
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ offerre อ่านกระทู้
    บ้านเราจะเห่อแทปเล็ตอะไรมากมายนะ ไอครูสอนก็นั่งเล่นไปเล่นเหอะ แล้วก็สั่งเด็กให้เอานิ้วจิ้มเป็น ก-ฮ ส่วนครูก็บันเทิงเริงรมเข้าไป

    นอกจากครูเขาไม่สนใจเด็กที่กำลังเรียนแล้ว เด็กที่เรียนด้วยแบบนี้เรียนไปก็ไม่ได้อะไรด้วย

    สอนเด็กจับดินสอ จับปากกาให้รอดก่อนไหม
    รร.ผมยังไม่ได้ใช้เลยนะ แทปเล็ตอ่ะ เห็นแต่คน กทม.ใช้กัน
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Price : 19th December 2012 เมื่อ 18:24

  16. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #12
    All my loving...
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    from the new world, in thailand.
    กระทู้
    1,256
    กล่าวขอบคุณ
    2,670
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,930
    Blog Entries
    2
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ rabon อ่านกระทู้
    เอาเหอะ เด็กมันไฝ่รู้กันที่ไหน วันๆเอาแต่ท้วงเรื่องทรงผมว่า "เกรียนแล้วเรียนเก่งมั้ย" ยาวถึงตีนละมันจะเก่งหรอไงฟะ
    (แต่นอกเค้าทำจริงอย่างว่าแหละ ทั้งสถานที่จริงทำจริง แล้วให้เด็กเลือกเรียนเองตามความสนใจด้วย)
    หึหึหึ!!

    ตัวสร้างดราม่ามาอีกแล้ว มาพิมแบบนี้มันรกบอร์ดนะจ๊ะ

  18. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    571
    กล่าวขอบคุณ
    251
    ได้รับคำขอบคุณ: 598
    อย่าโทษแต่การศึกษาเลยตัวเด็กเองก้พอๆกันแหละนะ

  19. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    1,055
    กล่าวขอบคุณ
    660
    ได้รับคำขอบคุณ: 326



    เรียนกับ google ยังดีกว่า

  20. #15
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    229
    กล่าวขอบคุณ
    352
    ได้รับคำขอบคุณ: 157
    Blog Entries
    1
    Tablet ป.1 ก็ไม่ได้มีคุณภาพจะไปสู้ Galaxy ตระกูล note ด้วย แล้ว ยังจะให้เด็ก ฝึกเขียนใน Tablet สมุดก็พอมั้ง
    i7 - 2670QM 2.2 GHz
    Nvidia GT 550M 2 GB

  21. #16
    คิดถึงวันวาน
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพฯ
    กระทู้
    769
    กล่าวขอบคุณ
    870
    ได้รับคำขอบคุณ: 500
    ไม่มีไรเกิดขึ้น

  22. #17
    WE ARE ALL WITNESSES
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    403
    กล่าวขอบคุณ
    357
    ได้รับคำขอบคุณ: 112
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Price อ่านกระทู้
    ผมคนหนึงที่ไม่ชอบส่งงาน แต่ชอบสอบมากกว่านะ ไม่รู้เป็นไร
    ผมคิดดูนะ มันจริงรึป่าว

    เคดิต ครูนวล ชวนอ่าน
    มันก็จริงนะ

  23. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    934
    กล่าวขอบคุณ
    421
    ได้รับคำขอบคุณ: 520
    ที่จริงจะว่าครูอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะผมว่าก็ดูที่นักเรียนด้วยว่ามีความอยากเรียนหนังสือมั้ย ผมเจอแต่พวกที่วันๆเดินเข้าห้องสมุด เข้าทำไม อ่านหนังสือ? ไม่ นอนตากแอร์

  24. #19
    Skyfall
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,449
    กล่าวขอบคุณ
    1,369
    ได้รับคำขอบคุณ: 551
    Blog Entries
    1
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ CanDiiZ อ่านกระทู้
    ดูข่าวแว๊บๆเมื่อกลางวัน

    เด็กญี่ปุ่น ประเทศที่เจริญด้วยเทคโนโลยี เค้าพาไปเรียนนอกสถานที่ ไปวัด ไปชุมชนต่างๆ เน้นเห็นของจริง ชีวิตจริง ที่จริง

    แต่เด็กไทย โยนแท็บเล็ตให้ แล้วก็โยนภาระให้ครูกับเด็ก
    อันนอกสถานที่ผมเห็นด้วยนะ

    แต่ส่วนมากนะ เท่าที่เห็นมาจากเพื่อนจากหลายๆ รร.

    มันชอบหนีอ่ะ ทั้งผู้หญิงผู้ชายเลย --

    แย่กว่านั้นนะ ผมอยู่หอ แล้วคือแบบลงหอมาตอนเช้าจะไป รร.

    สายหน่อยปกติก็ไป8โมงทันเข้าแถว หออยู่ใกล้ๆ

    มันจะมีพวกใส่ชุดนักเรียน ชายหญิงมาเป็นคู่เลย มาเปิดห้อง

    แบบมันอยู่กันทั้งวันเลยไม่ไปเรียน ผมกลับมาก็เจอ คือกุญแจแล้วกลับไปเลย

    ไม่ไหวจริงๆแบบนี้ ผมว่าการศึกษามันขึ้นกับตัวคนคนนั้นด้วย

    แต่ก็อยากให้มันดีขึ้นกว่านี้อ่ะ ทั้งการเรียน ทั้งการกระทำของ นร.ไทย

    เห็นว่าทรงผมเค้าก็แก้แล้วใช่ป่ะ ไว้ผมยาวได้อ่ะ หรือผม มั่วเอง -*-

  25. #20
    Your beautiful is true
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Portland, Oregon
    กระทู้
    1,596
    กล่าวขอบคุณ
    2,117
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,803
    จะบอกอะไรให้นะครับ อาจารย์สมัยนี้เอาแต่ด่านักเรียน ไม่เปิดโอกาสให้นักเรียนพูด คนที่คิดเหตุผลได้แปลกใหม่และหลากหลายอย่างผมไม่มีโอกาสจะำพูดให้ใครเค้าฟังเพียงเพราะอาจารย์ไม่เปิดโอกาส
    ผมจึงต้องมาพูดเรื่องพวกนี้ในอินเทอร์เน็ต ผมเ็ซ็งๆมาก ถึงแม้อาจารย์จะไม่ให้โอกาสผม ผมก็ยังพยายามโต้แย้ง โต้เถียง สุดท้ายให้ผมติดศูนย์ ทุเรศมากๆครับ งานผมก็ส่งครบ สอบก็ได้เยอะตลอด
    แต่ผมติดศูนย์เพียงเพราะอาจารย์เอาอารมณ์จากเรื่องจริงที่ผมพูดมาปนกับเรื่องการให้เกรด ครูสมัยนี้ไม่ต้องจบครู ก็ยังไปสมัครเป็นครูได้ คนที่เรียนครูมา่บางคนก็ไม่มีจริยรรมด้วยซ้ำ แต่คนที่มีสอนได้ตรงใจผมก็มีอยู่เหมือน
    กันแต่ไม่มาก สุดท้ายก็เอาแต่อุดอู้ในห้องแคบๆเหมือนเดิม

  26. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  27. #21
    Skyfall
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,449
    กล่าวขอบคุณ
    1,369
    ได้รับคำขอบคุณ: 551
    Blog Entries
    1
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ xxxlnwjung1 อ่านกระทู้
    จะบอกอะไรให้นะครับ อาจารย์สมัยนี้เอาแต่ด่านักเรียน ไม่เปิดโอกาสให้นักเรียนพูด คนที่คิดเหตุผลได้แปลกใหม่และหลากหลายอย่างผมไม่มีโอกาสจะำพูดให้ใครเค้าฟังเพียงเพราะอาจารย์ไม่เปิดโอกาส
    ผมจึงต้องมาพูดเรื่องพวกนี้ในอินเทอร์เน็ต ผมเ็ซ็งๆมาก ถึงแม้อาจารย์จะไม่ให้โอกาสผม ผมก็ยังพยายามโต้แย้ง โต้เถียง สุดท้ายให้ผมติดศูนย์ ทุเรศมากๆครับ งานผมก็ส่งครบ สอบก็ได้เยอะตลอด
    แต่ผมติดศูนย์เพียงเพราะอาจารย์เอาอารมณ์จากเรื่องจริงที่ผมพูดมาปนกับเรื่องการให้เกรด ครูสมัยนี้ไม่ต้องจบครู ก็ยังไปสมัครเป็นครูได้ คนที่เรียนครูมา่บางคนก็ไม่มีจริยรรมด้วยซ้ำ แต่คนที่มีสอนได้ตรงใจผมก็มีอยู่เหมือน
    กันแต่ไม่มาก สุดท้ายก็เอาแต่อุดอู้ในห้องแคบๆเหมือนเดิม
    บางทีเปิดโอกาสให้ตอบพอเราแย้งไป เพื่อนในห้องมันก็มองเราแปลกๆนะบางทีส่วนมากอ่ะ
    1.คือแบบคนเก่งๆมาตอบงี้แล้วตอบผิด จะกลายเป็นโง่ไปเลย
    2.คือไม่เก่งมาตอบพอถูกก็จะแบบมั่วถูกไรงี้ คือไม่ให้กำลังใจกันอ่ะเป็นเพื่อนกันในห้องแท้ๆ อันนี้เจอบ่อยนะ ม.1-ม.3
    สรุปนะ จะตอบผิดหรือถูก เพื่อมันก็จะมองเราแบบยังไงอ่ะอธิบายไม่ถูก -0- เข้าใจความรู้สึกไหมอ่ะ 555555

    ผมเป็นคนเรียนไม่เก่งนะ ไม่ใช่เรียนไม่เก่งเพราะสมองไม่มี มันไม่มีกำลังใจเรียนเพราะโดนแบบนี้ล่ะ
    เพื่อนบางคนอาจารบางคนก็ปากเสีย ด่ากันแบบไม่ฟังเหตุผลกันเลยจารอ่ะ โคตรเซ้ง -0-

  28. #22
    Game Tester
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,278
    กล่าวขอบคุณ
    192
    ได้รับคำขอบคุณ: 550
    เรื่องนี้ผมว่าเพราะเราเอาแต่โทษระบบการศึกษามันเลยพาเราตกต่ำมากกว่า เอาแต่เปรียบเทียบกันประเทศอื่น
    อย่างเก่งเราก็ได้แค่เท่าเทียมกับประเทศนั้นไม่มีทางได้เป็นที่ 1 สิ่งที่ควรมองคือความคิดมากกว่า แค่รู้จักคิด จัดระบบให้ตัวเอง

    ต่อให้ระบบการศึกษามันดีแค่ไหนก็สู้ความอยากของคนไม่ได้หรอก ความอยากเล่น อยากเที่ยว อยากสนุก
    มันมีมากมายไม่สิ้นสุดความอยากรู้อยากเรียนเทียบไม่ได้เลย

  29. #23
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,357
    กล่าวขอบคุณ
    239
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,106
    ผมเรียนไม่เก่ง ยอมรับว่า เรียนไม่เก่ง เเต่ ก็ไม่ได้ เเปลว่า "โง่" นะ

  30. #24
    ชอบ FAP เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    434
    กล่าวขอบคุณ
    429
    ได้รับคำขอบคุณ: 424




  31. #25
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2012
    กระทู้
    144
    กล่าวขอบคุณ
    27
    ได้รับคำขอบคุณ: 46
    โยนแท๊บเล็ตให้เด็ก ป.1 แล้วมันจะเขียนภาษาไทยได้มั๊ย นักการเมือง****โตด้วยแท๊บเล็ตไงวะ


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top