เดียวกลับมาอ่านน้าาา หลังสอบเสร็จ 555
ขอเนื้อเรื่องภาค6ของ เอด้าด้วยสิ แต่ตอนเปิดตัวเจอแกนี้อะหือแบบว่า...นะ
คือผมไม่มีเวลาเล่นบนps3คือจบ ของลีออนเฮเลน่า คริสเพียซ์ เชอร์รี่เจค ไปแล้ว ลองเล่น เอด้าดูมันยากต้องหนีๆๆกระจุยกระจายเลย + ไม่มีเวลาด้วย
THIS IS SEMPITERNAL!
สรุปเนื้อเรื่อง RESIDENT EVIL 6 : Ada Wong
เปิดตัวภาค 6 ได้ เซ็กซี่ มาก (เล่น จบแล ไวด้วย อาจจะเป็นเพราะว่า ช่วยพวกตัวเอกมากกว่าที่จะไล่ยิงแบบคนอื่น
สายลับสาว(ภาคนี้ไม่ค่อยสาวเท่าไหร่แล้ว แต่หน้ายังเด้งอยู่)ผู้มีเชื้อสายจีน ปรากฏตัวครั้งแรกในภาค2 บทบาทที่น่าจดจำในภาคนั้นก็คือช่วยชีวิตลีออนเอาไว้ ก่อนตายก็ได้มีฉากโรแมนติคคิสกันนิดหน่อย แต่ปรากฏว่าเธอไม่ตาย รอดมาได้ หลังจากนั้นก็จะปรากฏตัวมาพบลีออนเป็นครั้งคราว ยามที่มีภารกิจพาดผ่านเกี่ยวข้องกัน ประวัติของเอด้านั้นล้วนเป็นปริศนา จุดมุ่งหมายก็ไม่รู้แน่ชัด แต่แฟนเกมนี้ก็จัดให้เธออยู่ในประเภทตัวเอกที่เป็นฝ่ายดีละกัน(ประมาณแอนตี้ฮีโร่) บางครั้งเธอก็หลอกใช้ลีออนเพื่อเป้าหมายส่วนตัว แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ลีออนตกอยู่ในอันตรายหากเธอช่วยได้
สรุปแล้วจะเชื่อใจได้หรือไม่ได้ก็ยังน่าสับสนอยู่ เป็นตัวละครที่ไม่ขึ้นกับใคร ไม่มีห่วงหรือภาระหน้าที่ ขึ้นกับตัวเองอย่างแท้จริง มาภาคนี้ก็มาพร้อมกับสีแดงแรงฤทธิ์ประจำตัวและความสุขุมคล่องตัวฉลาดครบเครื่อง อาวุธพิเศษคือหน้าไม้ ทั้งยังมีปืนยิงสลิงสำหรับห้อนโหนโจนทะยานราวกับสไปเดอร์แมน
*ขอบคุณภาพประกอบจาก HassanAlHajry ชาเนลยูทูปที่อัพเดตเกมได้เร็ว เยอะ ชัด มีคุณภาพ ล่าสุดอัพแอสซาซินครีดสามตั้งแต่ต้นยันจบทั้งหมด50พาร์ทภายในสามชั่วโมง ณ วันที่เกมออก สุดยอดจริงๆค่ะคุณพี่
*หากผิดตรงไหนก็บอกกล่าวอันที่ถูก หรือใครอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแง่มุมใด ตามสบายขรั่บ
-----------------------------------
ณ ใจกลางทะเลลึก ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติค หุ่นยนต์ตัวหนึ่งกำลังเปิดประตูเรือดำน้ำขนาดยักษ์ท่ามกลางความมืดใต้ทะเล
เมื่อมันเข้าไปด้านในคนบังคับก็เผยโฉมออกมา เธอคือเอด้านั่นเอง จากนั้นก็จะย้อนอดีตกันเล็กน้อยย้อนไปถึง เหตุผลที่เธอมาที่นี่
ในอดีตไม่นานมานี้ ขณะที่เธอหนีการไล่ตามอยู่ในคฤหาสถ์ เอด้าหลบเข้ามาในห้องแห่งหนึ่ง บนโต๊ะนั้นมีโทรศัพท์รูปลูกบาศก์วางตั้งอยู่อย่างเรียบร้อย ราวกับมีการเตรียมการมาแล้ว และแล้วโทรศัพท์นั้นก็จะดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมา เมื่อกดรับสาย บนโทรศัพท์ก็ปรากฏใบหน้าของคนที่เธอเคยรู้จักขึ้นมา
"ซิมมอนส์?"
"เอด้า หว่อง"
"ไม่เจอกันนานนะ"
"ไม่ค่อยนานเท่าไหร่หรอก นายยังนิสัยขี้เล่นเหมือนเดิมนะ"
"หึๆ นิสัยเดิมมันเปลี่ยนกันยากนะ"
"ต้องการอะไร?"
"ผมได้ข้อมูลสำคัญบางเกี่ยวกับเกี่ยวตัวคุณมา มันน่าจะส่งผลกระทบกับอนาคตของคุณเยอะเชียวล่ะ"
"สนใจมั้ยล่ะว่ามันคืออะไร"
"ไม่เห็นจะอยากรู้สัดนิด"
และแล้วเมื่อวางสาย ซิมมอนส์ก็ส่งข้อมูลแหล่งที่ตั้งของเรือดำน้ำลำหนึ่งมาให้เอด้า เธอครุ่นคิดชั่งใจถึงคำท้าทายของซิมมอนส์ และในที่สุดเธอก็มาถึงเรือลำนั้นจนได้
"ว่าแล้วว่าคุณต้องอดใจไม่ไหว"
"ชั้นมาทีนี่ก็เพราะอยากรู้ว่านายวางแผนอะไรเอาไว้มากกว่า"
"ก็ดีแล้วนี่ เอาเลย"
"ขอบอกไว้ก่อนละกัน ว่าที่เลเวล4น่ะ ต้องอาศัยลายนิ้วมือถึงจะผ่านประตูไปได้ แต่ผมก็จัดการให้มันจำลายนิ้วมือของคุณเอาไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ"
"นายมีลายนิ้วมือของชั้นเหรอ?"
"ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆแล้วสินะ"
"หึๆ มีมากกว่าลายนิ้วมือคุณซะอีก เดี๋ยวคุณก็จะรู้"
"แค่นี้ล่ะ โชคดีนะ"
"ได้เลยซิมมอนส์ มาดูกันหน่อยสิว่านายปิดบังอะไรเอาไว้"
ระหว่างทางจะเจอทหารที่หน้าตาละม้ายคล้ายเอเลี่ยน (อันที่จริงคือจาโวใส่หน้ากาก) ดักเก็บมันไปตามทางเรื่อยๆ แต่แล้วทหารตัวหนึ่งก็จะยิงพลาดไปโดนถังแก๊สระเบิดทำให้น้ำทะลุเข้าเรือมา ก็เลยต้องหนีจากการจมน้ำตายก่อน แล้วก็จะดำมาโผล่ในห้องที่มีเสียงผ่านอินเตอร์คอมถามคำถาม ไม่เช่นนั้นจะไม่เปิดทองออกให้ เอด้าจึงบอกว่าเล่นด้วยก็ได้
"เมื่อหกเดือนที่แล้วคุณทำการทดลองกับมนุษย์ที่ประเทศอีโดเนีย "
"แม้จะเป็นคำสั่งของซิมมอนส์ แต่คุณก็เต็มใจจะทำสิ่งนั้นด้วยตัวเอง"
"คุณจะชดใช้ความผิดนั้นได้อย่างไร"
"ฟังดูน่าสนใจนี่ แต่ควรจะตรวจสอบความถูกต้องบ้างสักนิด"
"ชั้นไม่ได้ทำงานให้ซิมมอนส์"
"ชั้นไม่มีความผิดอะไรต้องชดใช้"
"ชั้นรู้เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับตัวคุณนะ คุณหว่อง"
"ชั้นรู้ว่าคุณต้องการอะไร"
"โลกแห่งความวุ่นวาย"
"ใช่มั้ยล่ะ?"
"ถ้ารู้เรื่องเกี่ยวกับชั้นจริง"
"ก็ไม่เห็นต้องถามยืนยันความมั่นใจเลยนี่นา"
"แต่จะบอกให้ก็ได้ โลกแห่งความวุ่นวายเหรอ ไม่ได้อยู่ในทอปลิสต์ของชั้นหรอกนะ"
"แต่ถ้านั่นจะทำให้ซิมมอนส์เดือดร้อนล่ะก็ ชั้นอาจจะคิดดูอีกที"
"ตอบได้ดี เอาล่ะ คำถามสุดท้าย"
"เดี๋ยวสิ ตาชั้นถามบ้าง"
"แกเป็นใคร?"
"ไม่ใช่หน้าที่ของชั้นที่จะต้องมาตอบคำถามของคุณหรอกนะ เอาล่ะ คำถามสุดท้าย"
"คุณต่อสู้กับอะไร"
"อะไรก็ตามที่มาขวางทางชั้นยังไงล่ะ"
"แล้วไวรัสก็มักจะเป็นหนึ่งในนั้นเสมอ"
"ชั้นชอบคำตอบเธอ"
"เอาล่ะ เธอไปได้แล้ว ซิมมอนส์รอเธออยู่"
"ชั้นจะรอดูว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลายยังไง"
และแล้วเสียงปริศนาหายไป จากนั้นเอด้าจะหนีขึ้นมายังทางออกด้านบน(ด้วยลีลาห้อนโหนยิ่งกว่าทรินีตี้จากเดอะเมตริกซ์)
แล้วซิมมอนส์ก็จะต่อสายเข้ามาอีกครั้ง
"เจออะไรน่าสนใจบ้างมั้ย"
"รายงานเมื่อ6เดือนที่แล้วน่ะนะ"
"ก็คุ้มแล้วนี่นา"
"เป็นอะไรไป"
"ยังไม่เฉลียวใจอีกรึ"
"จะอธิบายให้ฟังก็แล้วกัน"
"พรุ่งนี้ สหรัฐจะถูกโจมตีจากการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ"
"ต่อจากนั้นก็ที่จีน แล้วถัดไป หัวเมืองใหญ่ทั่วโลกก็จะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันหมด"
"ด้วยน้ำมือของ เอด้า หว่อง ผู้นำแห่งนีโออัมเบรลล่าไงล่ะ"
"หึ แล้วนายคิดว่าชั้นจะนั่งบื้ออยู่เฉยๆยอมเป็นแพะรับบาปของนายรึยังไงกัน ซิมมอนส์"
"หาเรื่องใส่ตัวซะแล้ว"
ระหว่างที่ฟังไปเอด้าก็จะปลดล็อคยานกู้ชีพไปด้วย เมื่อวางสายไปก็ทันเวลากับที่น้ำทะเลทะลักท่วมเข้ามาพอดี
เมื่อหนีออกมาได้ เอด้าก็มุ่งหน้าไปที่ห้องวิจัยของซิมมอนส์ซึ่งตั้งอยู่ที่โบถส์ของเมืองทอลล์โอคส์ ระหว่างทางเธอก็ได้เห็นสภาพของเมืองที่กำลังมีผู้ติดเชื้อลุกลามแพร่กระจาย และก็จะแอบเห็นลีออนกับเฮเลน่าด้วย เอด้าตกใจเล็กน้อยที่ลีออนเข้ามาพัวพันกับเรื่องยุ่งๆนี้ด้วย เอด้าได้แต่คิดในใจว่าหวังว่าเธอจะมีกึ๋นพอนะจ๊ะลีออน
จากนั้นก็ต้องฝ่าปริศนาและฝูงซอมบี้หน้าตาโบราณหงำเหงือกในสุสานชั้นใต้ดิน แล้วก็จะเจอเหตุการณ์ที่ลีออนและเฮเลน่ากำลังพยุงเดโบราห์เดิน แต่เดโบราห์ก็ต้านทานไวรัสในร่างไม่ไหวจนกลายร่างเป็นดักแด้ เอด้าที่เห็นแบบนั้นในระยะไกลก็เตรียมประทับหน้าไม้ และส่งลูกดอกไปปักเข้าหัวของปิศาจเดโบราห์ทันทีที่ฟักตัวออกมา
ฉากที่ 2
ลีออนรีบหันมาเผชิญหน้าแต่แล้วเขาก็ตกใจช็อคตาตั้งเมื่อพบว่าเจ้าของลูกดอกคือเอด้า แต่ก็ผิดสังเกตุเล็กน้อยว่าลีออนดูตกใจเกินกว่าที่ควรจะเป็น
"เป็นอะไร? ทำหน้าอย่างกับเห็นผีแน่ะ "
"เอด้า? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?"
ถามแบบนี้จะให้เล่าหมดยังไงล่ะคุณพี่...เอด้าจึงตัดบทไป
"เรื่องมันซับซ้อนน่ะ"
เฮเลน่าที่วิ่งเข้ามาจ่อปืนใส่เอด้าก็ถูกลีออนห้ามไว้ เธอลดปืนลงและทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงและหมดกำลังใจในการสู้ต่อไป ทว่าฝุ่นผงก็ร่วงลงมาจากเพดาน พื้นกำลังจะถล่มลง
"เอาไว้ก่อนแล้วกัน ตอนนี้คงไม่เหมาะที่จะยืนคุยกันเท่าไหร่หรอก"
แต่แล้วเดโบราห์ที่ฟื้นสภาพขึ้นมาก็ทำให้พื้นถล่มลงจนได้ เมื่อตกลงไปข้างล่างเอด้าก็ก็จะส่งแหวนที่ใช้ในการแก้ปริศนาให้ลีออนและบอกว่า อย่าเข้าใจผิดล่ะ(ไม่ใช่แหวนหมั้นนะยะ) เดี๋ยวก็มีประโยชน์เองล่ะ แล้วก็ต้องรับมือกับเดโบราห์ไปด้วยพร้อมๆกับที่ลงไปสู่ชั้นล่าง จนสุดท้ายเมื่อถึงลานโล่ง ก็ต้องสู้กับเดโบราห์อย่างเต็มรูปแบบ เอด้าบอกให้เฮเลน่าตัดใจและส่งให้น้องไปสบายซะเถอะ แต่เฮเลน่าก็ยังทำใจไม่ลง
จนสุดท้ายเมื่อสองพี่น้องลื่นไถลใกล้หล่นขอบเหว เฮเลน่าก็จับมือน้องของเธอเอาไว้และได้เห็นสภาพที่สูญเสียตัวตนของเดโบราห์อย่างใกล้ชิดเต็มสองตา ทำให้เธอตัดสินใจจะปล่อยให้น้องจากไปซะ แล้วเรื่องการแก้แค้นจะเป็นหน้าที่ของเธอเอง
"ชั้นจะจัดการมันแน่...มันต้องชดใช้"
เฮเลน่ากัดฟันพูดทั้งน้ำตาพร้อมนึกถึงเรื่องที่ซิมมอนส์จับน้องเธอมาเป็นตัวประกันบังคับให้เธอต้องร่วมมือในแผนชั่วนี้ด้วย เมื่อเธอเล่าให้ลีออนและเอด้าฟังจบ ลีออนก็จะเปรยขึ้นมาว่าซิมมอนส์ทำไปเพื่ออะไรนะ ส่วนเอด้าที่มีข้อมูลมากกว่าก็เริ่มจะประติดประต่อเรื่องราวได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีเรื่องคาใจเธออยู่บางอย่าง เอด้าจึงขอแยกทางกับลีออนและเฮเลน่าก่อนเพื่อไปยังห้องทดลอง พร้อมกับที่มีโทรศัพท์เข้า ก่อนจะจากไปเธอก็เตือนให้ทั้งคู่ระวังซิมมอนส์ด้วย
แยกจากลีออนมาเสร็จเธอก็รับสาย...
"รู้สึกยังไงบ้างล่ะ หืม"
"นายก็มาหาชั้นสิจะได้เข้าใจเร็วขึ้น สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น"
"หึหึหึ ไม่ล่ะ"
"แต่มีอะไรที่ผมอยากจะให้คุณดูนะ"
"เรื่องสนุกๆอีกล่ะสิ"
"ไม่เชิงหรอกน่า แต่ก็คิดว่าคุณน่าจะได้ประโยชน์จากมันไม่มากก็น้อย"
"ไปที่ห้องทดลองสิ"
ไต่ขึ้นไปจนถึงชั้นบนก็จะมาถึงห้องทดลอง เธอสังเกตุว่าเพิ่งมีคนผ่านมาในห้องนี้เร็วๆนี้ ซึ่งก็คงจะเป็นลีออนนั่นเองที่เข้ามาทางโบถส์ด้านบนในตอนแรก
เอด้ากดเล่นเทปที่วางอยู่ มันฉายภาพการทดลองของโปรเจ็คต์ซี-ไวรัส ดักแด้ที่แตกตัว คายร่างของหญิงสาวออกมา เมื่อร่างทดลองนั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอก็พบว่า..นั่นคือใบหน้าของเธอเอง แล้วก็ได้เห็นภาพของมือที่ใส่แหวนที่นิ้วโป้งลักษณะเดียวกับซิมมอนส์ ก่อนเทปจะจบลง
"....หืม เหมือนชั้นเด๊ะเลยนี่นา"
"มิน่าล่ะ ลีออนถึงได้งงซะขนาดนั้น"
และแล้วสายก็จะเข้าอีกครั้ง...
"ดูเทปสนุกดีมั้ย?"
"แน่นอน นอกจากสนุก ก็ได้รู้เรื่องราวแจ่มแจ้งซะที"
"คุณหมายความว่ายังไง?"
"แหม ถ้าชั้นพูดผิดจะขัดคอก็ได้นะ แต่ไอ้ที่อยู่ในเทปนั่นน่ะ"
"ก็คือเธอเองไม่ใช่รึไง?"
" 'เอด้า' เธอนั่นแหล่ะที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังนีโออัมเบรลล่า"
"ผมไม่เข้าใจ... ว่าคุณพูดถึงอะไร"
"จะบอกอะไรให้นะ ซิมมอนส์ตัวจริงน่ะ ไม่โง่ขนาดแบไต๋ออกมาให้รู้ถึงขนาดนี้หรอกนะ"
"และอีกอย่าง ซิมมอนส์และก็แฟมิลี่ของเขามีหน้าที่ในการควบคุมดูแลโลกใบนี้ให้มันมั่นคงไปในทางที่พวกเขาต้องการ"
"แต่เธอน่ะ"
"ต้องการจะทำลายมัน"
เมื่อแผนการถูกเปิดโปง ก็ไร้ประโยชน์ที่จะต้องปิดบังอีกต่อไป 'เอด้า'อีกคนหนึ่งกล่าวรับข้อกล่าวหาด้วยน้ำเสียงแสนชิงชังที่แท้จริง
"...ใช่แล้ว"
"และโลกทั้งใบ"
"ก็จะโทษแกยังไงล่ะ"
เอด้าวางสายอย่างไร้เยื่อใย ได้เวลาเอาจริงเสียที เธอจัดแจงงัดระเบิดนับถอยหลังออกมาติดตั้งเพื่อทำลายห้องทดลองนี้ทิ้งซะ...
"อยากได้เรื่องสนุกๆสินะ"
"ขอมาก็จัดให้"
"จากเอด้า หว่องตัวจริงนี่แหล่ะ"
เมื่อตั้งทิ้งไว้เสร็จ เอด้าก็เดินทิ้งห้องทดลองนั้นไว้เบื้องหลังพร้อมกับต่อสายถึงซิมมอนส์ตัวจริง
"นั่นใครกันน่ะ"
"เพื่อนเก่าไง ซิมมอนส์"
"เอด้า หว่อง"
"เอด้า!?"
"ขอเข้าเรื่องเลยละกัน"
"ยัยตัวปลอมที่นายฟูมฟักขึ้นมานั่นน่ะ เพิ่งจะเปิดอกคุยกับชั้นเมื่อกี้"
"ว่าหล่อนอยากจะทำลายโลกนี้ทิ้ง"
"ว่าไงนะ!?"
เมื่อส่งข่าวเสร็จเธอก็วางสายทันทีเพราะขี้เกียจจะเสวนามากไปกว่านั้น
การต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มขึ้นแล้ว
"สัญญาณออกตัวเริ่มดังสินะ"
"ดูซิ ว่าใครจะเข้าเส้นชัยคนแรก"
จุดหมายปลายทางสุดท้ายก็คือจีน ที่ๆเอด้าอีกคนหนึ่งวางแผนจะทำลายเมืองใหญ่เป็นอันดับแรก เมื่อไปถึงเอด้าก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากโจโวมือเลื่อยวิปริตทันที...
สู้กันบนทางรถไฟสักพัก เอด้าก็จะชิงจังหวะโหนสลิงหนีไปได้ ขณะที่พี่เลื่อยโดนรถด่วนชนเต็มแสกหน้ากระเด็นหายไป หลังจากนั่งกินลมในรถไฟสักพัก เอด้าก็จะดักฟังสัญญาณของหน่วยBSAAได้ ทำให้รู้ถึงที่อยู่ของเอด้าตัวปลอม จากนั้นก็โหนตัวออกมาเพื่อไปต่อตามทางบนยอดตึก และแล้วเธอก็จะสังเกตุเห็น...
"เชอร์รี่ เบอร์กิ้นส์?"
"ส่วนพ่อหนุ่มนั่นก็คือเจ้าของแอนติบอดี้ต้านไวรัสสินะ"
แต่แล้วก็จะเห็นพี่เลื่อยจอมโหดไปตามรังควานสองคนนั้นแทน
"ท่าทางจะพาตัวป่วนมาด้วย"
"เป็นตัวช่วยให้พวกเด็กๆหน่อยก็คงไม่เสียหายนะ"
แล้วเอด้าก็จะคอยยิงช่วยจากยอดตึก+มุมสูง ช่วยไปก็บ่นไปเล็กน้อย จนในที่สุดเมื่อเชอร์รี่จนมุม ใกล้จะโดนมือเลื่อยสับเป็นหมูบะช่อ เอด้าก็โหนตัวลงไปอุ้มเชอร์รี่มาโยนให้เจคด้วยความรวดเร็ว(เจ๊คะ เจ๊เป็นไบโอนิคคอมมานโดเหรอ โหนน้ำหนักตัวเอง+คนอีกคนด้วยมือข้างเดียว แขมไม่ล่ำเท่าเดอะร็อคไปแล้วเรอะเนี่ย)
เมื่ออยู่บนยอดตึกอีกครั้งเธอก็จะเห็นคริสและเพียร์สกำลังขับรถไล่ล่าเอด้าเก๊อยู่บนทางด่วนพอดี
"งานคืนสู่เหย้าแรคคูนซิตี้รึยังไงกันเนี่ย"
เมื่อเห็นทั้งคริสแล้วเธอก็อดจะคิดแบบนั้นไม่ได้ ดูเหมือนทุกคนที่เคยเกี่ยวข้องกับแรคคูนซิตี้จะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่หมด เอด้ามองส่งท้ายเชอร์รี่และเจคก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยและก็ไปต่อ
"แล้วเจอกันนะจ้ะ"
เมื่อมาถึงตึกที่เอด้าปลอมเข้าไปซ่อนตัวนั้น ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปก็จะได้ยินเสียงเธอพูดโทรศัพท์กับซิมมอนส์ถึงเรื่องความเลวทรามของซิมมอนส์และการแก้แค้นของเธอ ทำเอาเอด้าสงสัยว่าซิมมอนส์ไปสร้างความแค้นอะไรให้เอด้าเก๊ถึงเพียงนั้นนะ และก็จะได้เจอคริสและเพียรส์แป๊บหนึ่ง ทั้งคู่ก็จะตะโกนให้เธอหยุดและพยายามจะจับเธอ (...คริสขาเพียร์สขา เมื่อกี้ยังไล่ไอ้คนเสื้อฟ้าอยู่แล้วทีนี้เสื้อคนละสี แต่งตัวคนละแบบ ไม่สงสัยอะไรบ้างหรือไง ถือคติจับไว้ก่อนสินะ) ทำเอาเอด้าต้องรีบหนี+บ่นว่าเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว แต่ขี้เกียจจะอธิบาย
แล้วในที่สุดก็จะมาถึงห้องที่มีเบาะแส ในหีบที่กลางห้องเมื่อเปิดมาก็พบกับเทปอัดเสียง เป็นเสียงของซิมมอนส์ที่กำลังสั่งการให้นักวิจัยดำเนินงานทดลองสร้าง'เอด้า'ต่อไปอย่างไร้มนุษยธรรม เมื่อล้มเหลวก็หาตัวทดลองใหม่ ตัดต่อพันธุกรรมของผู้คนไปนับไม่ถ้วน
และสุดท้าย ตัวเลือกของซิมมอนส์ก็คือคาร์ล่า....คนสนิทของเขาเอง
เพียงเพราะเหตุผลที่ว่าเธอน่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงแค่นั้นเอง... และเขายังกำชับให้นักวิจัยอย่าแพร่งพรายให้คาร์ล่ารู้ตัวก่อนว่าพวกเขาจะทำอะไร แล้วในที่สุด การทดลองก็เป็นผลสำเร็จ คาร์ล่าที่ถูกทดลองด้วยซีไวรัสเกิดใหม่ออกจากดักแด้ด้วยรูปลักษณ์ของเอด้า...ซิมมอนส์พร่ำพรรณนาอย่างปลาบปลื้มถึงความสมบูรณ์แบบของการทดลอง ถึงแม้เอด้าตัวจริงจะทิ้งเขาไป แต่ตอนนี้เขาก็ได้เอด้ามาเป็นของตัวเองแล้ว
"สุขสันต์วันเกิด.. เอด้า หว่อง"
เมื่อฟังเทปจบและได้ดูเอกสารทั้งหมด เอด้าก็เข้าใจที่มาที่ไปทั้งหมดเสียที ซิมมอนส์หลงใหลในตัวเธอจนทำการทดลองสร้างเธออีกคนขึ้นมาจนเป็นผลสำเร็จ และ คาร์ล่า ราดาเมซ คือตัวตนที่แท้จริงที่อยู่ใต้เปลือกร่างทดลองนั้น แม้เอด้าจะไม่คิดว่าเรื่องที่คาร์ล่าทำลงนั้นไปสมควรให้อภัย แต่เธอก็เริ่มจะเข้าใจถึงเหตุผลของการวางแผนของคาร์ล่าขึ้นมาบ้างแล้ว
ในหีบยังมีมีเบาะแสอีกอย่างคือโมเดลแท่งเหล็กที่สลักไว้ว่า"Quad tower" หรือหอคอยจัตุรัสซึ่งดูเหมือนจะมีหน้าที่แอบแฝงเป็นอุปกรณ์อะไรบางอย่าง หอคอยจัตุรัสเป็นตึกสูงที่สุดที่อยู่ใจกลางเมืองนี้ แต่แล้วเอด้าก็ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ เมื่อวิ่งออกมาดูก็จะจบว่าคาร์ล่าตกลงมาจากยอดตึกกระแทกพื้นเบื้องล่างแหลกเละน่าสังเวชใจ เอด้าจึงวิ่งตามลงไปดูที่พื้นด้านล่าง...
"เพราะความชิงชังซิมมอนส์"
"มันผลักดันให้เธออยากจะทำลายโลกที่แฟมิลี่ของเขาสร้างขึ้นใช่มั้ย"
ร่างของคาร์ล่าที่มีรูปลักษณ์ของเอด้าทอดกายแน่นิ่งไม่ไหวติง แม้ตอนตายยังต้องตายในฐานะของตัวตนที่สร้างขึ้นมา ...
"น่าเสียดายนะ"
"ถ้าเธอคิดวางแผนล้างแค้นแค่เจ้าหมอนั่นคนเดียว"
"ชั้นคงจะช่วยเธออีกแรง"
แต่แล้วร่างที่คิดว่าตายไปแล้วนั้นก็กระตุกและลืมตาเบิกโพลง
"ช่วยชั้นงั้นเรอะ"
"อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย Ada เพราะ! "
ร่างของคาร์ล่าดันทุรังลุกขึ้นยืนแม้นแขนขาจะบิดเบี้ยวผิดรูปเพราะกระดูกที่แตกหัก
"ชั้นนี่แหล่ะ"
"คือเอด้า หว่อง ตัวจริง!!"
"ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น"
"แผนของชั้นไม่ได้ล้มเหลว"
"มันกำลังจะเสร็จสมบูรณ์"
"อึกก.."
ของเหลวสีขาวจำนวนมากไหลออกมาจากร่างกายของเธอปกคลุมไปทั่วบริเวณ
"อีกไม่นาน สังคมนี้ก็จะล่มสลาย"
"หลังจากนั้น รู้มั้ยว่าโลกเราจะเป็นยังไง..."
"ไม่เหลืออะไรเลย!"
"โลกนี้จะกลายเป็นขุมนรก จะมีแต่ความยุ่งเหยิง"
"หึหึหึ"
"และชั้น เอด้า หว่อง"
"ก็จะเป็นราชินีแห่งโลกใบใหม่"
ร่างของคาร์ล่าละลายหายไปในกองของเหลวนั้น และเริ่มก่อตัวใหม่พุ่งเข้าโจมตีเอด้าที่หนีเข้าไปด้านในตึกและปิดประตูได้ทันพอดี
"ไม่อยากจะทำร้ายจิตใจหรอกนะ"
"แต่อย่างเธอ"
"ก็เป็นได้แค่ของเลียนแบบเกรดต่ำเท่านั้นล่ะ" ตอนนี้ ADA พูดโดนใจ เอาไป 100000 คะแนน
"ขอให้ไปสู่สุขคตินะ คาร์ล่า"
เธอกล่าวอำลาคาร์ล่าที่ตัวตนที่แท้จริงเลือนหายไปหมดแล้ว เหลือไว้แต่ความคิดที่เคียดแค้นชิงชังโลกใบนี้
จากนั้นก็จะต้องหนีจากคาร์ล่าที่กลายสภาพไปเป็นเมือกเหลวที่ก่อรูปทรงได้หลากหลายและค่อยๆแทรกซึมผนังเข้ามาโจมตีได้จากทุกด้าน จนเมื่อหนีไปถึงฐานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้แล้วเอด้าก็ไม่ลังเลที่จะบังคับเครื่องมุ่งหน้าไปที่หอคอยจัตุรัสทันที ระหว่างทางก็จะสังเกตุเห็นเครื่องบินของคริสและเพียรส์ที่ออกตัวมาเช่นกัน
"ปล่อยให้พวกนั้นไปสะสางเรื่องของคาร์ล่าแล้วกัน"
"ส่วนชั้นต้องขอไปเคลียร์กับซิมมอนส์ก่อน"[/SIZE]
เมื่อบังคับฮ.เข้ามาถึงในเมืองก็จะเห็นสภาพของเมืองติดเชื้อที่กำลังรุนแรงขึ้นทุกขณะ ขณะที่ขับผ่านนรกบนพื้นเบื้องล่างไปเรื่อยๆ เอด้าก็จะเห็นลีออนที่กำลังเดินโซซัดโซเซประคองเฮเลน่าอยู่
"ลีออน"
"เอาตัวรอดได้เสมอเลยนะ"
และแล้วเอด้าก็จะคอยช่วยยิงคุ้มกันลีออนจากบนเฮลิคอปเตอร์(ถ้าเป็นเรื่องจริง ไอ้กระสุนที่สาดไปไม่ยั้งจากเฮลิคอปเตอร์ เมื่อมีลูกหลงไปโดนลีออนกับเฮเลน่าก็คงทำให้ทั้งคู่ร่างพรุนไปแล้วแน่ๆ แต่ก็นะ เกมก็คือเกม สาดไปเร้ยย) ลีออนที่ได้ข่าวมาจากคริสว่าเอด้าตายไปแล้วก็สับสนไม่น้อย แต่ก็ต้องเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ก่อน เอด้าที่ช่วยยิงก็จะบ่นเล็กน้อย
"นี่ชั้นกลายเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวคุณไปแล้วรึเปล่าหืม? คุณเคเนดี้? แต่ถ้าทำได้ ฉันคงจะดีใจ"
และเมื่อเคลียร์ทางให้ลีออนกับเฮเลน่าได้หมดแล้ว เอด้าก็จะมุ่งหน้าไปยังหอคอยจัตุรัส ระหว่างทางก็จะเจอกับฝูงเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธพร้อมรบยิงขัดขวาง ราวกับไม่ต้องให้มีใครไปยังหอคอยนั้นได้ ยิ่งทำให้เอด้าสงสัยว่าตกลงแล้วคาร์ล่าซ่อนอะไรเอาไว้ที่นั่นกันแน่นะ หลังจากจัดการเหล่าเฮลิคอปเตอร์หมดแล้ว(...นี่ยิ่งกว่าแรมโบ้อีกมั้งเนี่ย คนเดียวกวาดเรียบ) ก็จะมาถึงหอคอยจัตุรัสเสียที ทว่าก็พบกับลีออนที่เผชิญหน้ากับซิมมอนส์อยู่
ซิมมอนส์พยายามก้าวเดินด้วยร่างกายที่สั่นกระตุก เมื่อเอด้าฉายไฟไปที่ตัวเขา ซิมมอนส์ก็ตะคอกออกมาอย่างสุดแค้น
"อั่กกก....!"
"ชั้นรู้...ว่า...แกทำ...อะ..ไร.."
"เอด้า!!!"
"แก...ขัดคำสั่งชั้นน..."
ซิมมอนส์รวบรวมคำพูดอย่างยากลำบากขณะที่ไวรัสในตัวกำลังทำปฏิกริยามากขึ้นเรื่อยๆ
"แก...พาตัวลูกชาย...ขะ..ของเวสเกอร์..ไป..."
"แล้วก็ใช้...เลือด..ของไอ้เด็กเปรตนั่น...!"
"ทำให้ไวรัสรุนแรงขึ้นน.."
ซิมมอนส์เข้าใจแผนการทั้งหมดแล้ว และระบายออกมาด้วยความเคียดแค้นต่อการทรยศของคาร์ล่า โดยไม่รู้ว่าคาร์ล่านั้นตายไปแล้ว ที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือเอด้าตัวจริงต่างหาก
ร่างของเขาแปรสภาพอีกครั้ง กลายเป็นอาวุธชีวภาพขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ และแล้วลีออน เฮเลน่า กับเอด้าก็จะงัดอาวุธทุกอย่างที่มีออกมาถล่มมัน แม้จะหวั่นใจไปกับขนาดร่างกายที่ใหญ่โต แต่สุดท้ายซิมมอนส์ก็ต้านทานพลังสามัคคีของเหล่าตัวเอกไม่ไหวจนล้มลงไป เมื่อปราบได้แล้ว เอด้าก็จะส่งสัญญาณให้ลีออนตามขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้า
ระหว่างเดินทางไปจอดเฮลิคอปเตอร์เธอก็จะทำภารกิจเป็นแม่นางแสนดีช่วยเหลือผู้ตกค้างบนยอดตึกเล็กน้อย และแล้วเมื่อถึงดาดฟ้าเอด้าก็ลงจอด พร้อมกับทิ้งหลักฐานที่มีประโยชน์บางอย่างไว้ให้ลีออน และยังให้ร็อคเก็ตลอนเชอร์ไว้อีก1กระบอกซะด้วย
(สังเกตดีๆ ที่ร็อคเก็ตลอนเชอร์จะมีรอยลิปสติกจุ๊บอยู่ด้วย 555) ลงจากฮ.แล้วหน้าที่ของสปายสาวก็ยังไม่จบ เธอรู้ว่าซิมมอนส์ยังไม่ตาย ถึงเวลาจัดการมันให้สิ้นซากไปเสียที ระหว่างที่ลงมาจากดาดฟ้าก็จะเห็นลีออนและเฮเลน่ากระโดดออกมาจากลิฟต์ที่กำลังระเบิด เอด้ายืนดูอยู่ซักพักจนแน่ใจว่าพวกนั้นปลอดภัยแล้วก็ไปต่อ จนเจอกับซิมมอนส์ที่ยืนรออยู่บนทางเชื่อมระหว่างตึก(ปีนขึ้นมาไวแท้)
"อยากถูกทำโทษเพิ่มรึไง นายนี่เป็นพวกไม่รู้จักพอจริงๆ"
ซิมมอนส์ที่กำลังคุ้มคลั่งก็จะโจมตีใส่ พร้อมด่า+พร่ำเพ้อเป็นชุด... แกมันไม่มีวันเพอร์เฟ็คเท่าเอด้าตัวจริง แต่ชั้นก็สร้างแกขึ้นมา ทุกๆตารางนิ้วของร่างกายของแกเป็นของชั้น แกต้องฟังคำสั่งชั้น เราทั้งคู่ถูกฟ้าลิขิตมาให้ปกครองโลกนี้เคียงข้างกัน อย่าขัดขืนเลย แกอยู่โดยไม่มีชั้นไม่ได้!!
เอด้ารำพึงออกมาว่าแกนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ และชั้นก็ไม่ใช่หุ่นเชิดของแกหรอกนะ สิ่งเดียวที่ชั้นมีเหมือนคาร์ล่าก็คือความเกลียดชังที่มีต่อแกเท่านั้น กระนั้นซิมมอนส์ที่วีนแตกอยู่ก็ไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น อีกฝั่งหนึ่งลีออนและเฮเลน่าที่ปีนมาถึงพื้นระดับเดียวกันอีกฝั่งก็จะช่วยยิงเสริมมาอีกแรง
"ขอบใจสำหรับความพยายามนะ แต่ชั้นดูแลตัวเองได้น่า ลีออน"
สู้ไปสักพัก พื้นก็ทำท่าจะถล่มลง เอด้าจึงโหนตัวหนีขึ้นไปยังทางเชื่อมด้านบนอีกอันหนึ่ง แล้วซิมมอนส์ก็จะเบนความสนใจไปที่ลีออนและเฮเลน่าแทน เอด้าจึงช่วยยิงไม่ให้ซิมมอนส์ไล่กวดลีออนและเฮเลน่าที่กำลังปีนสายสลิงของลิฟต์อยู่
ทว่าเอด้าก็ประมาทไปหน่อย ในขณะที่ยิงช่วยอีกสองคนอยู่นั้น ซิมมอนส์ก็หันมาแว้งกัด กระโจนใส่เอด้า ทำให้เธอกระแทกไปกระแทกพื้นอย่างแรงจนหมดสติไป ลีออนที่เห็นดังนั้นก็กระโจนวิ่งเข้ามาประคองเอด้าไว้ทันที
"เอด้า ได้ยินผมรึเปล่า!"
ลีออนพยายามเรียกเอด้าให้ได้สติคืนมาในขณะที่ซิมมอนส์ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
"ไม่เอาน่า! มันไม่จบแค่นี้หรอก"
"...ออกไปให้พ้นเธอซะลีออน!! แกมันไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของผู้ชายที่คู่ควรกับเธอเลย!"
"มากับชั้นเถอะที่รัก.. เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป!" (ซิมมอนส์ >>> กล้าพูดได้ไงฟ่ะ)
"ข้ามศพชั้นไปก่อนเถอะ"
"...ฟื้นสิ เอด้า"
"ถ้าคุณเป็นเอด้าที่ผมรู้จัก..."
"กับเรื่องแค่นี้ คุณต้องผ่านมันไปได้แน่"
"เราทั้งคู่..."
"ผ่านมันไปด้วยกันได้"
ซิมมอนส์ยิงกระสุนลำแสงสาดเข้าใส่ หมายจะโจมตีคนทั้งสอง แต่ลีออนก็โอบเอด้าเอาไว้และหลังหันเอาตัวบังปกป้องเธอไว้จากกระสุนเหล่านั้น
และเอด้าก็จะได้สติฟื้นขึ้นมา และพยายามชันกายขึ้นเพื่อสู้ต่อไป แม้จะร่างกายบอบช้ำจากการกระแทกพื้น แต่ก็ยังอยากจะพูดล้อเล่นเพื่อให้ลีออนรู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร
"แค่พักสายตาเฉยๆน่า"
"หึ...งีบหลับตอนทำงานเนี่ยไม่ดีเลยนะ"
และแล้วทั้งคู่ก็จะร่วมมือร่วมใจกันจัดการกับซิมมอนส์ โดยมีเฮเลน่า(ที่ถูกลืม)ช่วยยิงมาจากระยะไกล
"น่าจะเห็นแล้วสินะ ซิมมอนส์เป็นพวกทำใจกับการโดนปฏิเสธไม่เป็นน่ะ"
"มีเรื่องในอดีตที่ผมควรจะรู้เพิ่มเติมมั้ยเนี่ย"
"ไม่มีเรื่องที่เป็นสาระหรอกน่า"
และแล้วลีออนก็จะเสียท่า ไถลไปจนเกือบตกขอบแต่ก็จับเอาไว้ได้ ซิมมอนส์จะเดินเข้ามาเหยียบขยี้มือลีออนเอาไว้แล้วบอกให้เค้าร้องขอชีวิต แต่ลีออนก็ปฏิเสธ
"ไม่ใช่ว่าอยากได้อะไรแล้วคนเราก็จะได้เสมอไปนะ ซิมมอนส์"
เอด้าหยิบลูกดอกออกมาแล้วเสียบเข้าเต็มๆที่สีข้างของซิมมอนส์ จากนั้นจึงลากร่างของซิมมอนส์ให้ร่วงหล่นลงไปในกองเพลิง แล้วตนเองก็โหนสลิงหนีไป
"ใกล้ชิดกันนิดหน่อยเป็นการส่งท้ายแล้วกัน"
"นายน่าจะหัดทำใจแล้วไปต่อซะบ้างนะ"
ซิมมอนส์ที่ถูกไฟแผดเผาร้องโหยหวนอยู่ที่เบื้อง เอด้าที่กระโดดลงไปที่ตึกอีกฝั่งหนึ่งมองกลับมาที่ลีออนด้วยสายตาอ่อนโยน ลีออนก็มองตอบเช่นกัน ในแววตาของเขาแฝงไปด้วยความสงสัยจากคำถามมากมายที่เขามีต่อเธอ
"น่ารักจัง"
"คงจะจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยสินะลีออน"
เอด้ากดส่งข้อความจากมือถือไปให้ลีออนแทนคำพูด
"....เห็นเธอสับสนแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ"
จากนั้นเธอก็โบกมือลาแล้วเดินจากไป...โดยไม่หันหลังกลับแม้ลีออนจะเรียกเธอก็ตาม
เดินมาจนถึงห้องทดลองแหล่งสุดท้าย ความลับของการทดลองครั้งสุดท้ายของคาร์ล่า เอด้าใช้โมเดลเห,้กที่เอามาด้วยในการปลดล็อคระบบข้อมูล หน้าจอแสดงผลทำงานขึ้น และเล่นเสียงที่บันทึกเอาไว้ในอดีต
มันเป็นเสียงของคาร์ล่าที่บันทึกไว้ขณะทำการทดลองหลังจากเธอตัดสินใจทรยศซิมมอนส์....
"นี่ก็ล้มเหลว..."
"ไปเอาตัวทดลองใหม่มา"
"มีคนอีกเป็นพันๆให้เลือกใช้ ไปเอามาซะ"
"บอกเขาไปว่าชั้นกำลังยุ่งอยู่ มันใกล้จะสำเร็จแล้ว"
"แกจะขัดคำสั่งชั้นเหรอ"
"หรือว่าจะเป็นแกเอง ที่เป็นคนเลือกชั้นให้เป็นร่างทดลอง"
น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป จากโหด*****มเย็นชากลับกลายเป็นน้ำเสียงที่แฝงความเคียดแค้นชิงชัง
"เปล่า ไม่ใช่นะ! ซิมมอนส์สั่งผมมา อย่า อย่าทำผมเลย อย่า..."
"หึ เชื่อมั้ย?"
"ในตอนนั้น"
"ชั้นก็ขอร้องแบบนี้เหมือนกัน"
"..."
"สำเร็จแล้ว"
"ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของชั้น "
หน้าจอดับลงเมื่อฉายภาพและเสียงที่บันทึกไว้จนหมด เอด้าเดินต่อไปด้านในจนพบกับดักแด้ในหลอดทดลอง มันคือร่างทดลองที่คาร์ล่ากล่าวถึงเมื่อครู่ และแล้วดักแด้ก็จะเริ่มแตกตัวออก มือของสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์เริ่มยื่นออกมา....
"แบบนี้ไม่ใช่แค่น่าสมเพชแล้วล่ะ"
แม้ว่ามันจะยังมีส่วนที่เป็นมนุษย์อยู่ แต่การใช้ชีวิตเป็นเครื่องมือของใครบางคน เป็นแค่ร่างทดลอง ก็ไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้ว
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร มีหน้าตาเหมือนเธอหรือไม่
ไม่ว่ามันจะเคยเป็นใครมาก่อนก็ตาม
แต่เอด้าก็ตัดสินใจจะไม่ปล่อยให้มันได้ออกมาเผชิญโลกภายนอกอีกต่อไป..
"มันเกินขีดจำกัดของมนุษยธรรมไปแล้ว"
เธอกราดยิงใส่ดักแด้ที่กำลังฟักตัวนั้น และส่งกระสุนไปทำลายข้อมูล อุปกรณ์ทั้งหมดในห้องนั้น ยิงจนหมดลูกกระสุนแล้วก็บรรจุมันเข้าไปใหม่ เอด้ายิงต่อไปอย่างยาวนานราวกับมันจะช่วยระบายความโกรธแค้นได้
ในที่สุด...ทุกอย่าก็ถูกทำลาย เปลวไฟเริ่มลามเลียไปยังซากชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆที่เสียหายกระจัดกระจาย
สุดท้าย เอด้าก็มองไปยังภาพของซิมมอนส์และคาร์ล่าที่อยู่บนโต๊ะ... บุคคลทั้งสองที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด ต้นเหตุที่ทำให้ต้องมีคนตายไปมากมาย และหลายๆคนก็สูญเสียบางอย่างไปอย่างที่ไม่อาจจะเอาคืนมาได้อีก เธอโยนโทรศัพท์ลูกบาศก์ใส่ภาพนั้น เธอไม่ต้องต้องการมันอีกแล้ว (เพราะ เธอใช้ Galaxy Note 2 ก็พอใจแล้ว)
และแล้วเอด้าก็เดินจากมา ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังในกองเพลิง และแล้วโทรศัพท์อีกอันของเธอก็จะดังขึ้น...
"มีงานใหม่เหรอ"
เธอเหลือบไปมองเบื้องหลังเป็นครั้งสุดท้าย....
"ได้สิ"
"ตารางงานชั้นเพิ่งจะว่างเดี๋ยวนี้เอง"
THE END. ADA WONG
อีก 1 บท ที่คาดว่า เป็น ภาค 7 (ใครที่เล่นภาค 6 จบ ก็จะมีบทความ 1 ตอนขึ้นมา)
มาเริ่ม เรื่องเลยดีกว่า
ในประเทศที่มีภูมิอากาศแห้งแล้งคล้ายตะวันออกกลาง ในบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง ร่างในชุดคลุมกำลังคุยกับเด็กน้อย..
"เราตกลงกันไว้แล้วใช่มั้ย"
เมื่อได้ยินคำทวงถามเช่นนั้น เด็กชายจึงรีบหยิบแอปเปิ้ลออกมาส่งให้ชายในชุดคลุมทันที
ที่ด้านนอกมีเสียงของสัตว์ประหลาดดังแว่วมา ชายคนนั้นจึงเปิดประตูออกมาประจันหน้ากับเหล่าอาวุธชีวภาพจำนวนมาก..
"คุณจะรักษาคำพูดใช่มั้ย"
เด็กน้อยถามด้วยความกลัว
ชายคนนั้นโยนผ้าคลุมทิ้งไป
เขาคือ เจค มัลเลอร์
เจคกัดแอปเปิ้ลอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะให้คำมั่นกับเด็กน้อย
"สัญญาต้องเป็นสัญญา เจ้าหนู"
-ภาคนี้ได้เห็นบทบาทของเอด้าเยอะมากกว่าภาคเก่าๆ เนื้อหาที่ได้เล่นในมุมมองของเธอก็ลึกซึ้งกว่าภาคที่แล้วมามาก แฟนๆเอด้าก็คงจะถูกใจกัน
-ได้เห็นเอด้าโกรธแบบจริงๆจังๆเป็นครั้งแรก แต่กระนั้นนิสัยโดยรวมก็ถือว่าเป็นตัวละครที่สุขุมเยือกเย็นที่สุดแล้ว ไม่มีเกรียนแตกหรือพลังคุณธรรมพลุ่งพล่านจนตัดสินใจอะไรโง่ๆแบบตัวเอกทั่วไป
-ผลก็คือเวลาดำเนินเรื่องด้วยเอด้าจะไม่ค่อยรู้สึกขัดใจเท่าไหร่ ฉลาดทันตัวร้ายดี เป็นสปายสาวมาดเฉียบนิ่งอย่างแท้จริง
-คนที่ยิงคาร์ล่าก็คือแฟมิลี่ อย่างที่รู้กันในเนื้อเรื่องคือแฟมิลี่นั้นแอบควบคุมแทรกแซงการปกครองโลกนี้มานานเพื่อให้เป็นไปตามทางที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเอง เมื่อรู้ว่าคาร์ล่าทรยศ ก็ส่งคนมาเก็บ (แต่งงๆว่าทำไมมันรู้ช้าจัง - -")
-บทส่งท้ายที่เห็นเจค ทำเพื่อเอื้อไปต่อภาคหน้าแน่นอน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นภาคหลักหรือภาคสปินออฟ
-ซิมมอนส์เป็นคนวางแผนสร้างความวุ่นวายที่ทอลล์โอคส์เพื่อกำจัดประธานาธิบดี แต่เอ๊าท์เบรคที่จีนและอาวุธชีวภาพเฮลอสเป็นแผนของเอด้าที่จะล้างโลก
-ในช่วงแรกหลังจากที่คาร์ล่าออกมาจากดักแด้ในสภาพของเอด้า เธอมีความทรงจำปลอมๆที่ซิมมอนส์ล้างสมองไว้และจงรักภักดีเค้าทุกอย่าง แต่ในใจเธอกลับมีเสียงร่ำร้องว่าให้แก้แค้นๆๆ จนเมื่อเธอได้ความทรงจำเดิมคืนมาและค้นหาความจริงจนพบว่าซิมมอนส์ไม่ได้รักเธอหรือเห็นความสำคัญของเธอเลย คาร์ล่าก็ตัดสินใจทรยศซิมมอนส์
-ตอนแรกกะจะเขียนสรุปพล็อต+ประเด็นที่น่าสนใจ+ฉากประทับใจอีกที แต่ไม่ทำแล้ว กินเวลามากกว่าที่คิด -__-"
เนื้อหาของ RESIDENT EVIL 6 ก็จบลงเพียงเท่านี้ (แปะๆ) ส่วนตัวคิดว่าเป็นภาคที่เนื้อหาครบทุกรสชาติมากที่สุดแล้ว
ยังมีประเด็นที่สนุกน่าสนใจและเนื้อหาบางส่วนที่อยู่ในไฟล์เอกสารที่เก็บในเกม แต่เราก็คงจะไม่เขียนถึงแล้วอย่างที่บอกไป ใครสนใจก็ลองไปอ่านเล่นๆกันดูได้ที่ http://projectumbrella.net/articles/files
อ่านจนปวดตา แล้วเพิ่งถึงภาค 6 เอง โอ๊ยๆ
ผมสงสารคริสอะที่ต้องจากลูกน้องไปฮือๆๆ ทำไมคริสเป็นคนเดียวที่เสียลูกน้องบ้อยบ่อยนะฮือๆๆ
และแจ็คอะ เป็นลูกเวสเกอร์ได้ไงอะไม่เคยเห็นแฟนเวสเกอร์เลยหรือว่าที่ตายไปในภาค5เป็นร่างโคลนนิ่งอะ งงงงงงงง งงเต็มไปหมด
อ่านเอด้าจบไม่ต้องเล่นละ 5555 ทะลุเลย
THIS IS SEMPITERNAL!
อ่านยาวๆ ครับผม ขอบคุณมากค้าบ
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil : 4 ตอนที่ 3 'แผนร้ายของ ออสมุน แซดเลอร์'
หลังจากลีออนสลบไปในท้ายตอนที่แล้ว เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฮันนิแกนก็สามารถติดต่อลีออนได้สำเร็จหลังจากขาดการติดต่อไปกว่า 6 ชั่วโมง ลีออนบอกกับฮันนิแกนว่า ตนเองเริ่มรู้สึกแปลกๆ และอาจจะเพลียมากจนสลบไป ฮันนิแกนสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับที่หัวหน้าหมู่้บ้านพูดไว้เมื่อคราวก่อนหรือเปล่าว่า "มีสายเลือดเดียวกัน" แต่ลีออนบอกปัดฮันนิแกนไปว่าไม่น่าจะเกี่ยว แล้วก็เริ่มภาระกิจต่อไป
ซึ่งระหว่างที่กำลังหาสัญลักษณ์ที่ใช้เปิดประตูโบสถ์ ลีออนก็พบว่า ชาวบ้านบางกลุ่มที่ติดเชื้อไวรัสส่วนใหญ่ เริ่มมีอาการแปลกๆ และกลายร่างส่วนหัวเป็นตัวประหลาดน่าขยะแขยง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากไวรัสพลาก้า ที่เป็นตัวปรสิตควบคุมร่างกายของร่างพาหะ
เมื่อฝ่าดงปรสิตเหล่านั้นมาได้ ลีออนก็สามารถหาสัญลักษณ์ที่ใช้เปิดประตูโบสต์ได้สำเร็จ แต่ระหว่างทางที่จะกลับไปที่โบสถ์นั้น ลีออนกลับถูกขังอยู่ในโซนหนึ่งของหมู่บ้าน ซึ่งที่นั่น ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ปล่อยอสูรยักษ์ เอล ไจกันเต้ (El Gigante = ภาษาเสปนแปลตรงตัวว่า "ยักษ์" ครับ) ออกมาเพื่อจัดการลีออน แต่มันก็อาละวาดฆ่าชาวบ้านตายกันหมดเหมือนกัน โดยระหว่างที่ลีออนกำลังต่อสู้กับมัน ก็มีสุนัขที่ลีออนช่วยไว้แต่แรก ออกมาล่อความสนใจ ทำให้ลีออนสามารถยิงใส่เจ้ายักษ์ใหญ่ และวิ่งเอามีดไปเฉือนปรสิตที่อยู่บนหลังมันได้สำเร็จ
ลีออนรีบรุดหน้าไปยังโบสถ์ทันที และสามารถช่วยแอชลี่ย์ ออกมาได้สำเร็จ จึงติดต่อไปหา ฮันนิแกน ซึ่งฮันนิแกนก็เตรียมจะส่งคอปเตอร์มารับทั้ง 2 คนกลับไป ให้ไปพบกันที่จุดนัดพบ
แต่ระหว่างกำลังหนีออกมาเมื่อผ่านห้องโถงสวดมนตร์ ทั้งสองคนก็พบกับ ออสมุน แซดเลอร์ ผู้นำลัทธิ Los Illuminados แซดเลอร์ ได้บอกกับลีออนและแอชลี่ย์ ว่าเขาได้ฉีดไวรัสพลาก้าเข้าไปในตัวของทั้งคู่ โดยแผนของแซดเลอร์นั้นคือการให้ "บุคคลลึกลับ" ไป ลักพาตัวแอชลี่ย์มาเพื่อฉีดไวรัสเข้าไปในร่างกาย แล้วปล่อยกลับไปเพื่อให้เชื้อโรคระบา่ดไปทั่วอเมริกา ส่วนลีออนนั้น แซดเลอร์ ต้องการจับตัวไปเป็นลูกน้อง จากนั้นแซดเลอร์ก็เรียกลูกสมุนมาหมายจะจับตัวลีออน แต่ลีออนกับแอชลี่ย์ก็กระโดดหนีออกไปทางหน้าต่างได้
ตัดกลับมาที่เอด้า หลังจากถูกยาสลบไปก็ถูกนำตัวมายังแท่นบูชาแห่งหนึ่ง โดยในขณะที่กำลังจะถูกชาวบ้านเอาขวานสับ เอด้่าก็ได้สติแล้วพลิกตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด แม้จะมีแผลซิบๆ ที่ขา ซึ่งเมื่อรอดมาได้ เอด้าก็จัดการกับพวกชาวบ้านและออกตามหาตัวหลุยส์ต่อไป
ส่วนทางลีออนและแอชลีย์หนีมาจนพบกับกระท่อมหลังหนึ่ง ซึ่งฮันนิแกนก็ติดต่อกลับมาอีกครั้ง เพื่อบอกข่าวร้ายกับลีออนว่า คอปเตอร์ที่ส่งมาถูกตัดสัญญาณหายสาบสูญไป คาดว่าน่าจะถูกยิงร่วงไปแล้ว และกำลังจะส่งคอปเตอร์ช่วยเหลือลำใหม่ไปให้ ขอให้ลีออนรีบไปที่จุดนัดพบก่อน แต่ไม่ทันไร ทั้งคู่ก็โดนชาวบ้านล้อมไว้ทุกทิศทาง ทั้งสองจึงรีบเข้าไปหลบในกระท่อม
หลังจากเข้ามาในกระท่อม ก็พบกับ หลุยส์ ที่มาหลบอยู่ที่นี่ก่อนแล้วทั้ง 3 คนยังไม่ทันได้คุยอะไรกันดี พวกชาวบ้านก็พยายามบุกเข้ามาในกระท่อมนั้นกันยกใหญ่ ลีออนสั่งให้แอชลี่ย์วิ่งหนีขึ้นไปบนชั้น 2 ส่วนตนกับหลุยส์อยู่เฝ้าชั้น 1 คอยยิงสกัดพวกชาวบ้านเอาไว้ แต่แล้วก็เริ่มต้านจำนวนไม่ไหว จึงหนีขึ้นไปชั้น 2 เพราะคิดว่าเฝ้าที่บันไดจะง่ายกว่า แต่ทั้ง 2 คิดผิด เพราะพวกชาวบ้านมีต่อบันไดขึ้นมา ซึ่งทั้งลีออนและหลุยส์ก็พยายามต้านกันอย่างสุดความสามารถ จนสุดท้ายอยู่ๆ พวกชาวบ้านก็ถอยกลับไป
จากนั้น หลุยส์ก็ขอตัวออกไปจากกระท่อม บอกกับลีออนว่าเขาลืมอะไรบางอย่างและต้องกลับไปเอา ซึ่งก็สวนทางกับเอด้าที่มาเจอตัวหลุยส์พอดี เอด้าถามหลุยส์ตรงๆ เรื่องตัวอย่างไวรัส แต่หลุยส์ทำเป็นพูดเล่นเฉไฉไปเรื่อยแล้วก็เดินจากไป สุดท้ายเอด้าก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรจากหลุยส์มากนัก
ตัดมาทางลีออนและแอชลี่ย์ หลังจากที่พวกชาวบ้านถอยกลับไปแล้ว ทั้งคู่ก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อไปจนมาถึงโกดังแห่งหนึ่ง ลีออนรู้สึกแปลกๆ จึงสั่งให้แอชลี่ย์ไปหลบอยู่ข้างๆ โกดังก่อน ส่วนลีออนเข้าไปสำรวจคนเดียว
ภายในนั้น ลีออนได้ปะทะกับเมนเดสอีกครั้ง ลีออนถูกเมนเดสจับบีบคอแล้วเหวี่ยงกระแทกกับคานของโกดัง เมนเดส หันไปใช้แรงเหนือมนุษย์ บิดคันโยกประตูมาพันกันเพื่อไม่ให้ลีออนหนีไปได้
เมนเดสกระโดดเตรียมทุบลีออนอีกครั้ง แต่โชคดีที่เขาพลิกตัวหลบได้ซึ่งจุดที่ลีออนกลิ้งหลบไปได้นั้นมีถังน้ำมันอยู่ด้วยลีออนถีบถังน้ำมันให้ล้มลง จนน้ำมันนองไปบริเวณรอบๆ ตัวของเมนเดส จากนั้นลีออนได้ฉวยโอกาสยิงถังระเบิดจนเกิดประกายไฟลุกและระเบิดใส่เมนเดสเข้าไปเต็มๆ แต่ทว่า เมนเดสกลับไม่สะทกสะท้าน มีเพียงเสื้อผ้าของเขาที่ขาดไหม้ไปเท่านั้น
ในตอนนี้เอง ปรสิตในร่างกายของเมนเดสก็เหมือนถูกกระตุ้น ตัวเขาเริ่มกลายร่างเป็นตัวประหลาดสันหลังยาว เข้าโจมตีใส่ลีออน ซึ่งการต่อสู้ก็เป็นไปอย่างดุเดือด แต่ด้วยอาวุธที่ครบมือกว่า ทำให้ลีออนยิงโจมตีใส่เมนเดสจนกระดูกสันหลังขาดครึ่ง
แต่ถึงขนาดนั้น เมนเดสก็ยังไม่ยอมแพ้ แถมเมื่อไม่มีตัวท่อนล่างมาเกะกะแล้ว ทำให้เขาปีนป่ายไปตามขื่อต่างๆ ของโกดังได้รวดเร็วกว่าเดิม แต่ถึงกระนั้นลีออนก็สามารถปราบเมนเดสย้ำแค้นลงได้
ลีออนกลับมารวมกับแอชลี่ย์อิกครั้ง ลีออนนำลูกตาที่ได้จากเมนเดส แสกนผ่านประตู และหลบหนีกลุ่มชาวบ้านที่ไล่ตามมา เข้าไปถึงโซนของปราสาทแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนหมุนคันโยกเพื่อดึงสะพานขึ้นจนพวกชาวบ้านไม่สามารถตามมาได้ และหลบหนีเข้าไปในปราสาทได้สำเร็จ
To Be Continue...
ตอนต่อๆ ไปจะพยายามทำให้เสร็จเร็วกว่านี้นะ เพื่อให้จบช่วงที่ภาค 6 ทันตอนภาค 6 ลง PC พอดี
รออ่าน Resident Evil 4 ตอนที่ 4
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil 4 ตอนที่ 4 : ชะตากรรมของ หลุยส์ เซร่า
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil : 4 ตอนที่ 5 'เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด'
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil : 4 ตอนที่ 6 'กลับสู่อเมริกา'
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: Revelations 'ตอนที่ 1 ใจกลางมหาสมุทร' & 'ตอนที่ 2 ปริศนาทั้งสอง'
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: Revelation ตอนที่ 3 ปีศาจแห่งเวลโทร & ตอนที่ 4 ฝันร้ายหวนคืน
เพิ่งอ่านเสร็จตอนนี้แหละ
Facebook :: Buddy Lord
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: Revelation ตอนที่ 5 ปริศนาซ่อนเร้น & ตอนที่ 6 แมวกับหนู
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: Revelation ตอนที่ 7 ดาวเทียม Regia Solis & ตอนที่ 8 ทุกสิ่งแขวนอยู่บนเส้นด้าย
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: Revelation ตอนที่ 9 ไร้ซึ่งทางหนี & ตอนที่ 10 สายใยที่สับสน
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: Revelation ตอนที่ 11 เปิดเผยความจริง & ตอนที่ 12 จุดจบของราชินี
สรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil: 5 ตอนที่ 1 หลงทางในฝันร้าย
ตอนพิเศษ อวสาน Umbrella
เนื้อเรื่องก่อนภาค 4 (3.5)
หนัง 3D ออนไลน์ Resident Evil: Degeneration ผีชีวะ สงครามปลุกพันธุ์ไวรัสมฤตยู ( 2008 )
หลังจากที่ บริษัทเวชภัณฑ์และอาวุธชีวภาพ Umbrella Corporation ที่ตั้งอยู่ในเมือง แร็กคูน ซิตี้ ล่มสลายลงด้วยคำสั่งจากรัฐบาลให้ยิงจรวดทำลายล้างเมืองเพื่อกำจัดเหล่าผู้ติดเชื้อ t-Virus ให้สิ้นซากในวันที่ 1 ต.ค.ปี1998 หลังจากนั้นในอีก 7 ปีต่อมา ณ สนามบินแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ตอนบ่ายของฤดูใบไม้ร่วงที่ดูเป็นปกติ กลับเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีเครื่องบินพุ่งเข้ามาที่รอผู้โดยสารและมีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะคนหนึ่งปรากฏกายขึ้น ตามมาด้วยการแพร่กระจายเชื้อจนมีผู้กลายเป็นซอมบี้เต็มสนามบิน ขณะที่ตัวเอกของเรื่องเป็นพระเอกหนุ่ม Leon S. Kennedy กับสาว Claire Redfield ทั้งคู่มีเวลาจำกัดแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ในการช่วยเหลือมวลมนุษย์และปฏิบัติภารกิจนี้ให้สำเร็จ
เนื้อเรื่องก่อนภาค 6
หนัง 3D ออนไลน์ Resident Evil: Damnation 2 ผีชีวะ: 2 สงครามดับพันธุ์ไวรัส ( 2012 )]
เจ้าหน้าที่สายลับสหรัฐฯ ลีออน เอส เคนเนดี้ แทรกซึมเข้าไปปฏิบัติการในประเทศเล็กๆเแห่งหนึ่งของยุโรปตะวันออกเพื่อตรวจสอบข่าวลือเกี่ยวกับอาวุธเชื้อโรค.(B.O.W.s).ที่ถูกผลิตเพื่อใช้ในสงคราม แต่หลังจากเข้าไปสืบสวนได้ไม่ทันไรรัฐบาลได้มีคำสั่งให้เขาถอนตัวออกมาทันที แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะค้นหาความจริง ลีออนฝ่าฝืนคำสั่งและ.เดินหน้าเข้าสู่สนามรบเพื่อยุติโศกนาฏกรรมมากมายที่เกิดขึ้นจากอาวุธเชื้อโรคนี้
สุดยอดแฟนพันธุ์แท้
ใกล้ 300 แล้ว
ข้อมูลอย่างโหดเย็นๆกลับมาอ่านต่อ 55555555+
ขอบคุณครับ เอาไว้อ่านเล่นๆ
เยี่ยมเลยครับจะได้เข้าใจขึ้น
ข้อมูลแน่นมากๆครับ
อ่านมันมากครับ
แต่ ภาค 6 นี่ผมสงสารเรื้อกเรื่องของ เฮีย คริส ที่สุดแล้วครับ
ลูกน้องตายหมดเลยครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tanonamnaj : 1st May 2013 เมื่อ 16:06
ปรึกษา พูดคุยได้ที่ Facebook Tanonamnaj หรือ Hi5 Tanonamnaj
ขอเวลา 1 นาที ยืนตรงนี้เงียบ ๆ แล้วมองไปบนฟ้า ลองคิดดูสิว่า ชีวิตมันวิเศษแค่ไหน
สงสารที่สุดก็คงจะเป็น คริส เรดฟิลล์ เพราะว่าต้องเสียคู่หูไป ออกแนวซึ้งๆ T_T
อยากรู้จักก็แอดมา แจ็ค ธันเดอร์
คนหาสุดยอดมากๆครับ ข้อมูลแน่นมากๆ