เกริ่นก่อนว่า ช่วงนี้ลัทธิธรรมกายได้เข้ามาครอบครองวงการข้าราชการไทย
โดยมีการส่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และชั้นกลางไปฝึกปฏิบัติธรรม(ล้างสมองในความคิดผม)
โดยการส่งไปต้องไปเกือบทุกคน ไม่มียกเว้น
พ่อและแม่ผมคนไม่ชอบธรรมกายอยู่แล้ว
ซึ่งแม่ผมโดนส่งไปปฏิบัติธรรมก่อนแบบไม่เต็มใจซึ่งแม่ผมเป็นคนแน่วแน่อยู่แล้วของที่ไม่ชอบก็ไม่คิดจะหันไปชอบ
มาถึงคราวพ่อผม ซึ่งพ่อผมเป็นคนสนใจเรื่องราวการปฏิบัติธรรมอยู่เป็นทุนเดิม บวกกับพ่อผมเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตำแหน่งสูง เลยโดนเป่าหูเต็มที่
เชื่อมั้ยว่าจากที่พ่อผมไม่ชอบธรรมกาย พอกลับมากลายเป็นว่าเทิดทูนคำสอนของธรรมกายมากทีเดียว
ทั้งเรื่องสตีฟจ๊อป ทั้งเรื่องให้รีบทำบุญชาตินี้เยอะๆจะได้มีใช้ชาติหน้า
พ่อผมเชื่อหมด แถมธรรมกายยังจะแต่งตั้งพ่อผมให้เป็นวิทยากรประจำลัทธิอีกด้วย ซึ่งพ่อผมไม่มีท่าทีปฏิเสธ
ผมกลัวจริงๆว่าพ่อผมจะถลำลึกเกินไปกว่านี้ เพราะผมเคยเห็นตัวอย่างจากญาติผมและญาติเพื่อนๆที่มาหมดตัวเอาในวัยเกษียน
เงินบำนงบำนาญ เงินบำเน็จบริจาคไปไม่มีเหลือ หมดตัวไม่มีเงินมารักษาโรคในวัยชรา อ้างว่าเค้าบริจาคมากตอนนี้ได้บุญเยอะ
ทั้งที่ตอนนี้ต้องมาทนทุกข์กับโรคประจำตัวที่ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อยา
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าผมต้องไปอยู่ต่างประเทศหลายปีนานๆกลับมาที หมายความว่าจะไม่มีคนมาคอยขัดคอพ่อผมไปหลายปีแม่ผมก็ไม่กล้าขัดคอพ่อด้วย
ส่วนน้องชายผมก็...ช่างมันเหอะ พ่อผมฮิตอะไรซักอย่างจะฮิตอย่างจริงจังแต่ฮิตได้ไม่นาน(ไม่เกิน2ปี)ก็จะเริ่มเบื่อ แต่2ปีมันก็มากพอที่จะทำให้ถลำลึกได้
เอาเป็นว่าจะพูดหรือจะทำยังไงดีให้พ่อผมเข้าใจ