ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 8 จากทั้งหมด 8
  1. #1
    Mesut Ozil
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Ratchaburi
    กระทู้
    1,308
    กล่าวขอบคุณ
    970
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,137
    Blog Entries
    1

    มารู้จักโรคหัวใจดีกว่า

    • หัวใจคนเรามี 4 ห้อง แบ่งซ้าย-ขวาโดยผนังของกล้ามเนื้อหัวใจ และแบ่งเป็นห้องบน-ล่างโดยลิ้นหัวใจ
    • โดยทุกๆ วัน หัวใจจะเต้นประมาณ 100,000 ครั้ง และสูบฉีดเลือดประมาณวันละ 2,000 แกลลอน
    • วงจรการไหลเวียนของเลือด : จะเริ่มจาก หัวใจห้องขวาบนรับเลือดดำจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา เลือดส่วนนี้จะไหลผ่านลิ้นหัวใจไตรคัสปิด (Tricuspid) ไปยังหัวใจห้องขวาล่าง ซึ่งจะบีบตัวตามมาไล่เลือดที่เป็นเลือดดำออกไปฟอกที่ปอด โดยผ่านหลอดเลือดที่เรียกว่า Pulmonary Artery เลือดจะถูกฟอกที่ปอดโดยอาศัยการแลกเปลี่ยน gas ผ่านทางหลอดเลือดเล็กๆ ที่ผนังถุงลมของปอด จากนั้นเลือดที่เป็นเลือดแดงจะไหลมารวมกันที่หลอดเลือดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า Pulmonary Vein เพื่อไหลกลับเข้าสู่หัวใจอีกครั้งที่ห้องซ้ายบน เลือดจะไหลจากห้องซ้ายบนมาห้องซ้ายล่าง โดยผ่านลิ้นหัวใจไมตรัล (Mitral) เมื่อเลือดแดงอยู่ในห้องหัวใจซ้ายล่างแล้วก็พร้อมที่จะถูกฉีดออกไปเลี้ยงร่างกายทางหลอดเลือดแดงใหญ่ Aorta ผ่านลิ้นหัวใจเอออร์ติด (Aortic) เมื่อผ่านส่วนต่างๆ แล้ว เลือดจะกลับสู่หัวใจด้านขวาอีกครั้ง

    โรคลิ้นหัวใจ ที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ ลิ้นหัวใจพิการ รูมาห์ติค ซึ่งเป็นผลจากการติดเชื้อคออักเสบ ลักษณะของการที่เกิด คือ เหนื่อยง่ายเวลาออกกำลัง อ่อนเพลีย ไอเรื้อรังและมักไอเวลากลางคืน ไอแห้ง มีอาการใจสั่น ไอเป็นเลือด เป็นลมไม่รู้สติ เจ็บหน้าอก หลอดเลือดที่คอเต้นแรง ผอมแห้ง มีอาการบวม หอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ การตรวจเอ็คโค่ (Echo) จะช่วยบอกถึงรายละเอียดของความผิดปกติของหัวใจได้

    โรคหลอดเลือดหัวใจ เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบและตันในที่สุด

    โรคกล้ามเนื้อหัวใจ : กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติไม่ว่าจะบีบ หรือคลายตัว กล้ามเนื้อหัวใจหนากว่าปกติ เป็นต้น ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจเสีย เนื่องจากความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษามานาน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วน เนื่องจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรือตัน เป็นต้น

    อาการเจ็บหน้าอกที่เกิดจากโรคหัวใจขาดเลือด

    1. เจ็บแน่นๆ อึดอัดบริเวณกลางหน้าอกอาจจะเป็นด้านซ้ายหรือทั้งสองด้าน และมักจะไม่เป็นด้านขวาด้านเดียว บางรายจะร้าวไปที่แขนซ้ายหรือทั้งสองข้าง หรือจุกแน่นที่คอ บางรายเจ็บบริเวณกรามคล้ายเจ็บฟัน
    2. อาการตามข้อ 1 เกิดขึ้นขณะออกกำลัง เช่น เดินเร็วๆ รีบขึ้นบันได วิ่ง โกรธโมโห อาการดังกล่าวจะดีขึ้นเมื่อหยุดออกกำลัง
    3. ในบางรายที่อาการรุนแรง อาการแน่นหน้าอกอาจเกิดขึ้นในขณะพัก เช่น นั่ง หรือ นอน หลังอาหาร
    4. กรณีที่เกิดหลอดเลือดหัวใจอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน อาการจะรุนแรงมาก อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เหงื่อออกมาก เป็นลม อาการเช่นนี้ยังพบได้ในโรคของหลอดเลือดแดงใหญ่ปริหรือฉีก

    ขาบวม : อาการขาบวมเกิดจากการที่ร่างกายมีเกลือ (โซเดียม) และน้ำคั่งอยู่ในร่างกาย โดยอาจเกิดจากโรคไตขับเกลือไม่ได้ โรคหลอดเลือดดำอุดตัน การไหลเวียนไม่สะดวก ขาดอาหาร โปรตีนในเลือดต่ำ โรคตับ ยาและฮอร์โมนบางชนิด โรคหัวใจ หรือในบางรายอาจไม่พบสาเหตุ การบวมในผู้ป่วยโรคหัวใจเกิดจากการที่หัวใจด้านขวาทำงานลดลง เลือดจากขาไม่สามารถไหลเทเข้าหัวใจด้านขวาได้โดยสะดวก จึงมีเลือดค้างที่ขามากขึ้น

    ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวผิดปกติ เป็นผลมาจากการสะสมของไขมันและแคลเซียมในผนังของหลอดเลือดแดง ภาวะนี้เป็นความเสื่อมของหลอดเลือดที่เกิดขึ้นทั่วร่างกาย ทำให้หลอดเลือดแดงเสียความยืดหยุ่น เกิดการตีบตัน ผลที่ตามมาคือ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ ตัน เกิดอาการเจ็บหน้าอก กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหลอดเลือดเลี้ยงสมองตีบ ทำให้เกิดอัมพาต เป็นต้น

    หากคุณมีโอกาสลองคลำหลอดเลือดแดงหรือชีพจรที่ข้อศอกด้านในหรือข้อมือของผู้สูงอายุจะพบว่า เป็นเส้นแข็งไม่ยืดหยุ่นเหมือนวัยหนุ่มสาว ทั้งนี้เนื่องจากว่าหลอดเลือดแดงเหล่านี้เกิดการเสื่อมสภาพตามอายุ มีไขมันและหินปูน (แคลเซียม) เข้าไปสะสมอยู่ตามผนังของหลอดเลือดแดง ทำให้หลอดเลือดเสียความยืดหยุ่นและแข็ง ซึ่งหินปูนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับปริมาณแคลเซียมในเลือดหรืออาหารที่เรารับประทาน ความจริงแล้วมีหลายปัจจัยที่ทำให้หลอดเลือดแดงเกิดการเสื่อม เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน บุหรี่ เป็นต้น แต่ “ อายุ ” ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากและเราไม่อาจเลี่ยงได้ หลอดเลือดแดงที่เสื่อมนี้จะเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ทั้งหลอดเลือดที่เลี้ยงสมอง หัวใจ ไต ฯลฯ และแน่นอนเมื่อเกิดการเสื่อมก็จะเกิดการตีบตันของหลอดเลือดเล็กๆ ตามมา เป็นผลให้เลือดเลี้ยงสมองลดลง เกิดเนื้อสมองตายเป็นบางส่วน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตาย ไตเสื่อม

    ความดันโลหิตสูง : สาเหตุของการที่ความดันโลหิตสูงพบบ่อยเมื่อมีอายุมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากหลอดเลือดแดงแข็งตัวผิดปกติ บางส่วนเป็นผลจากการที่ไตขาดเลือดไปเลี้ยง การลดความดันโลหิตที่สูงลง ก็จะช่วยลดอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดอัมพาตและลดปัญหาจากโรคหัวใจขาดเลือดด้วย ความดันโลหิตในผู้ใหญ่ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม ควรจะน้อยกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท

    หัวใจเต้นผิดจังหวะ : หัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบได้บ่อย คือ จากห้องบนหรือที่เรียกว่า atrial fibrillation (AF) ชนิดนี้พบได้ในผู้ป่วยโรคปอด โรคหัวใจขาดเลือด โรคลิ้นหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจบางชนิด โรคความดันโลหิตสูง และพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ในผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติชนิดนี้ อาจเกิดลิ่มเลือดเล็กๆ ขึ้นภายในหัวใจ ลิ่มเลือดเล็กๆ เหล่านี้อาจหลุดลอยไปอุดหลอดเลือดเลี้ยงสมองได้ และเป็นต้นเหตุของการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตขึ้น

    ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด : อายุ พันธุกรรม การสูบบุหรี่ ไขมัน โคเลสเตอรอล ความดันโลหิตสูง ความเครียด เบาหวาน ถ้าหากมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดโรคก็มากขึ้นเป็นทวีคูณ
    อาการผิดปกติที่อาจบ่งชี้ว่าเป็นโรคหัวใจ : ซึ่งพบบ่อยจะประกอบไปด้วยอาการเหนื่อยเวลาออกกำลังกาย อาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หรือมีอาการอึดอัดหายใจไม่สะดวกโดยเฉพาะเวลาออกกำลังกาย แต่อาจจะเกิดเวลาที่นั่งพักอยู่ปกติก็ได้ อาการหายใจลำบาก อาการนอนราบแล้วอึดอัดถ้านั่งแล้วจะสบายขึ้น อาการลุกขึ้นมากลางดึกหายใจแรงๆ แล้วจึงนอนต่อไปได้ อาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ อาการเป็นลมหมดสติ

    อาการเจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก อาการนี้จะพบบ่อยในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือตัน เนื่องจากมีไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ อาการเจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอกหายใจอึดอัด เนื่องจากหลอดเลือดหัวใจตีบ จะมีลักษณะเฉพาะคือ จะมีอาการเจ็บหรือแน่นบริเวณกลางหน้าอกเหมือนมีอะไรหนักๆ มาทับไว้ไม่ให้หน้าอกขยายตัว อาการนี้มักจะเป็นเวลาออกกำลังกาย อาการเจ็บหรือแน่นหน้าอกเนื่องจากหลอดเลือดหัวใจตีบมีความรุนแรงต่างๆ กัน บางรายอาการเจ็บมีการร้าวขึ้นไปที่คอ ขึ้นไปที่กรามทั้ง 2 ข้าง ที่ไหล่ทั้ง 2 ข้าง หรืออาจจะเป็นเฉพาะข้างซ้ายข้างเดียวก็ได้ และอาจจะร้าวลงไปที่แขนจนถึงปลายแขนได้ อาการเหล่านี้บางครั้งทำให้แพทย์วินิจฉัยผิดหรือผู้ป่วยอาจเข้าใจว่าเป็นโรคฟันผุจึงไปหาหมอฟัน บางครั้งอาจพบว่าฟันผุจริงบริเวณซี่ใดซี่หนึ่งแล้วทำการถอน แต่อาการเหล่านี้ก็ไม่หายไป ทั้งนี้เพราะอาการเกิดจากโรคหัวใจมิใช่เกิดจากฟันผุแต่พบร่วมกันโดยบังเอิญ

    อาการเจ็บหน้าอกเนื่องจากเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ จะมีอาการเจ็บที่มีลักษณะเหมือนถูกมีดแทงหรือเป็นอาการเจ็บแปลบๆ อาการของเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจะดีขึ้นในท่านั่งและเมื่อเอนตัวไปข้างหน้า แต่อาการเจ็บหน้าอกจะมากขึ้นถ้านอนหรือเมื่อหายใจเข้าแรงๆ ส่วนอาการเจ็บหน้าอกเนื่องจากการปริของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่เอออต้า มักจะมีอาการเจ็บที่รุนแรงมากกว่า ลักษณะเหมือนมีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อภายในและอาจจะเจ็บทะลุไปจนถึงด้านหลังก็ได้

    อาการของภาวะหัวใจล้มเหลว เกิดจากการที่หัวใจทำงานไม่เพียงพอต่อความต้องการของออกซิเจนและอาหารพยาธิสภาพอื่นๆ เช่น ลิ้นหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจตีบหรือโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันระยะสุดท้าย หรืออาจเกิดจากภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรืออาจเกิดจากการให้น้ำทางหลอดเลือดดำอย่างรวดเร็วในผู้ป่วยสูงอายุ หรือพบในผู้ป่วยที่มีไตวายเนื่องจากมีภาวะน้ำเกินในร่างกาย และร่างกายไม่สามารถขับน้ำออกมาได้ อาการจะมีความรุนแรงไม่เท่ากัน โดยเริ่มจากอาการเหนื่อยซึ่งอาจจะเป็นอาการเหนื่อยขณะออกกำลังกายนิดหน่อย หรือเหนื่อยในขณะนั่งพักเฉยๆ ก็ได้แล้วแต่ความรุนแรง ถ้าเป็นมากก็อาจมีอาการนอนราบไม่ลง นอกจากนั้น อาจมีการตื่นขึ้นมาหอบตอนกลางคืน ซึ่งส่วนมากจะพบว่าเมื่อนอนหลับไปแล้ว 3 – 4 ชั่วโมง ต้องตื่นขึ้นมาเนื่องจากมีอาการแน่นอึดอัดในหน้าอก ต้องลุกขึ้นมานั่งแล้วหายใจแรงๆ หลายๆ ครั้ง จากนั้นจึงนอนหลับต่อไปได้ อาการนี้อาจเป็นอาการที่เกิดจากน้ำท่วมปอดซึ่งเกิดจากสาเหตุที่ภาวะหัวใจล้มเหลวนั่นเอง

    อาการใจสั่น หัวใจเต้นรัว หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ : ปกติหัวใจคนเราจะเต้นในจังหวะ 60 – 100 ครั้งต่อนาที

    อาการเป็นลมหมดสติ : อาการเป็นลมหมดสติชั่วคราวแล้วฟื้นขึ้นมาได้เอง เป็นอาการหนึ่งที่อาจจะเป็นอาการของโรคหัวใจได้ โดยเฉพาะในกรณีที่จังหวะการเต้นของหัวใจช้าเกินไป หรือมีจังหวะหยุดนานเกินกว่า 3 วินาที อาจจะทำให้คุณมีอาการเป็นลมหมดสติชั่วคราวแล้วฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ได้เอง เมื่อหัวใจเริ่มเต้นกลับมาปกติเหมือนเดิม อาการเป็นลมหมดสติดังกล่าวนี้เกิดจากหัวใจหยุดเต้นชั่วคราวหรือเต้นช้าไม่เพียงพอที่จะส่งเลือดไปเลี้ยงสมองนั่นเอง

    อาการหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน หากไม่ได้รับการช่วยชีวิตอย่างทันท่วงทีอาจถึงแก่ความตายได้

    อาการแสดง :

    • เท้าบวม : กดบุ๋ม ถ้าสังเกตว่าเท้าบวมขึ้น คุณอาจจะมีภาวะหัวใจล้มเหลวด้านขวา วิธีสังเกตอาการขาบวมกดบุ๋มนั้น ให้กดบริเวณหน้าแข็งไว้ 1 นาที จากนั้นปล่อยมือออก หากพบว่าเป็นรอยบุ๋มตามนิ้วมือที่กดลงไปไม่คืนตัวอย่างรวดเร็วให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายต่อไป
    • เมื่อไปตรวจร่างกายแล้วพบ Chest X-ray ว่ามีขนาดหัวใจโต คุณก็ควรที่จะไปพบแพทย์หัวใจ
    อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน

    คืออาการผิดปกติเบื้องต้นของร่างกาย ที่บ่งชี้ว่าอาจเป็นโรคหัวใจ พบบ่อยในคนทั่วไป ที่คิดว่าตัวเองมีสุขภาพดี ทั้งที่ความจริงอาจเป็นโรคหัวใจในระยะแรกเริ่ม มีดังนี้

    • เหนื่อยเวลาออกกําลังกาย เพราะหัวใจทําหน้าที่ในการสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ขณะที่เราออกกําลังกาย หัวใจจะทํางานหนักมากขึ้น ปกติเวลาที่เราออกกำลังกายไปถึงระดับหนึ่งจะรู้สึกเหนื่อย แต่ในรายของคนที่มีอาการเริ่มต้นของโรคหัวใจ แม้ออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย จะรู้สึกเหนื่อยผิดปกติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดังนั้นหากออกกำลังกาย แล้วรู้สึกเหนื่อยง่ายผิดปกติ อาจเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า คุณอาจเป็นโรคหัวใจ
    • เจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก มักพบบ่อยในคนที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ อาการดังกล่าวจะมีลักษณะเฉพาะคือ รู้สึกเหมือนหายใจอึดอัด และแน่นบริเวณกลางหน้าอก เหมือนมีของหนักทับอยู่ หรือรัดไว้ให้ขยายตัวเวลาหายใจ โดยมากอาการนี้ จะแสดงออกเวลาที่หัวใจต้องทำงานหนัก เช่น ระหว่างการออกกำลังกาย หรือใช้แรงมากๆ เป็นต้น ซึ่ง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่า อาจเป็นโรคหัวใจ
    • ภาวะหัวใจล้มเหลว เกิดจากการที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือด ไปเลี้ยงส่วนต่างของร่างกายได้อย่างเพียงพอ โดยผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเหนื่อย ทั้งที่ออกกำลังกายเพียงนิดหน่อย หรือเหนื่อยทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ ในกรณีที่เป็นมาก อาจทำให้ไม่สามารถนอนราบได้เหมือนปกติ เพราะจะรู้สึกเหนื่อยเวลาหายใจ และอึดอัดตรงหน้าอก นอกจากนั้น อาจมีอาการหอบจนต้องตื่นขึ้นมาหอบกลางดึก อีกด้วย อาการภาวะหัวใจล้มเหลวนี้ หากไม่รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
    • ใจสั่นและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ปกติหัวใจของเราจะเต้นด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอประมาณ 60 -100 ครั้ง/นาที แต่สำหรับคนที่มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจขยับไปถึง150 -250 ครั้ง/นาที ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอนี้ จะทำให้เหนื่อยง่าย ใจสั่น หายใจไม่ทัน
    • เป็นลมหมดสติ คืออีกหนึ่งอาการที่เตือนว่าคุณอาจเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ซึ่งมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นลมหมดสติสูง เนื่องจากจังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ เพราะเซลล์ซึ่งทำหน้าที่ให้จังหวะไฟฟ้าในหัวใจเสื่อมสภาพ ส่งผลให้หัวใจเต้นช้าลง และส่งเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จนทำให้เป็นลมไปชั่วคราวได้ ทั้งนี้ การเป็นลมหมดสติ มักจะเกิดในท่ายืนมากกว่านั่ง ทำให้ขณะล้มลงศีรษะมีโอกาสฟาดพื้น และเกิดการกระทบกระเทือนต่อสมองได้มากกว่า ดังนั้น ใครที่เป็นลมบ่อยๆ ควรรีบไปพบแพทย์
    • หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ในกรณีนี้มักเกิดจากความผิดปกติของเซลล์หัวใจโดยตรง และมักเกิดกับคนปกติที่ไม่มีอาการของโรคหัวใจมาก่อนล่วงหน้า ซึ่งหากมีอาการหัวใจหยุดเต้นกระทันหัน ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็ว อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

    อาการผิดปกติที่สังเกตได้จากร่างกาย

    นอกจากความผิดปกติชนิดเฉียบพลันแล้ว อาการบ่งชี้ที่สังเกตได้จากร่างกายของเราเอง ก็เป็นอีกหนึ่งความผิดปกติที่เตือนให้รู้ว่า คุณอาจเป็นโรคหัวใจ และควรไปพบแพทย์โดยด่วนได้เช่นกัน เป็นต้นว่า

    • ขาหรือเท้าบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกดดูแล้วมีรอยบุ๋มตามนิ้วที่กดลงไป ซึ่งหากเกิดขึ้นกับใคร ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คโดยด่วน เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า เวลานี้ คุณอาจอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลวโดยที่ไม่รู้ตัว
    • ปลายมือ ปลายเท้า และริมฝีปากมีลักษณะเขียวคล้ำ อาการดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ทางเดินของเลือดในหัวใจห้องขวากับห้องซ้ายมีเชื่อมต่อที่ผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการผสมของเลือดแดงกับเลือดดํา และทําให้ปริมาณของออกซิเจนในเลือดมีปริมาณน้อยลง

    อาการผิดปกติที่ตรวจพบขณะตรวจร่างกาย

    การไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถคาดคะเน ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ เช่น ตรวจเลือดแล้วพบว่าเป็นเบาหวาน หรือมีไขมันในเลือดสูง ก็อาจสันนิษฐานได้ว่า มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบได้เช่นกัน

    เอ็กซเรย์พบว่าขนาดของหัวใจโตกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ ลิ้นหัวใจรั่ว และกล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวอ่อนกำลังลง ทำให้ห้องต่างๆ ของหัวใจขยายขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจพบว่ามีความเสี่ยงสูง ไม่ควรนิ่งนอนใจ รีบไปพบแพทย์โดยด่วน

    ป้องกันโรคหัวใจอย่างไรดี

    ข้อมูลที่ได้บอกไปข้างต้น เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า เรามีอัตราเสี่ยงสูงต่อการป่วยเป็นโรคหัวใจเท่านั้น ซึ่งผู้ที่จะวินิจฉัยว่าเราเป็นโรคหัวใจหรือไม่ คือแพทย์โรคหัวใจเท่านั้น ดังนั้นหากพบความผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนดีที่สุด

    สำหรับคนที่หัวใจยังเป็นปกติ เรามีข้อแนะนำในการดูแลหัวใจ (ก่อนสายเกินไป) ดังนี้

    • สังเกตความผิดปกติของตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน เช่น ดูว่าอัตราการเต้นของหัวใจปกติดีหรือไม่ เจ็บหน้าอก ใจสั่น บ่อยๆหรือเปล่า เป็นต้น
    • ออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ สุขภาพจิตแจ่มใสแล้ว ยังช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้นอีกด้วย
    • ดูแลสุขภาพใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ พยายามไม่เครียด รู้จักควบคุมอารมณ์ และพึงระลึกไว้เสมอว่า ความเครียดและความโกรธ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้หัวใจเต้นแรง และทำงานหนักขึ้น
    • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยงดอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งทำให้ความดันโลหิตสูง เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบได้ง่าย หันไปกินอาหารจำพวกแป้งไม่ขัดขาว และผักผลไม้ให้มากขึ้น
    • ควรไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันและรักษาโรคร้ายที่อาจคาดไม่ถึง ซึ่งแฝงเร้นอยู่ในตัวเราตั้งแต่เนิ่นๆ

    Credit : นายแพทย์สุรพันธ์ สิทธิสุข แพทย์จากหน่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด คณะแพทย์ศาสตร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 6 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    Narcos
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    6,408
    กล่าวขอบคุณ
    5,181
    ได้รับคำขอบคุณ: 15,257
    อนิจจา แบทเทิลฟิล ตั้งกระทู้

    ให้ตูรู้ โรคหัวใจ เพื่อไรหนอ

    เห็นมาโพส ฮีลบ่อยๆ โถ่คุณพ่อ

    ก๊อบคุณหมอ จากโรงบาล อ่อแล้วไป

    นึกว่าเขียน ขึ้นเอง เหมือนจะเก่ง

    อยู่ดีๆ เห็นโพสเน้น ฮีลทั้งบอด

    ว่างๆเล่น แบทเทิลฟิล เปเชี่ยลฟอสสส

    ตูจะบอก เป็นกลอน เพื่ออะไร= =

    ลาก่อนนะ บอลบ้า มาโม้เล่น

    เห็นว่าเป็น คนรู้จัก เลยโพสหา

    อ้าวจำผิด เอ็งเป็นใคร จำไม่ได้อาาา 555

    ล้อเล่นน่า ไปแล้วหละ ไม่อยากกวน

  4. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ร้านรับจ้างสารพัด
    กระทู้
    170
    กล่าวขอบคุณ
    93
    ได้รับคำขอบคุณ: 634
    Blog Entries
    5
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ballba อ่านกระทู้
    อนิจจา แบทเทิลฟิล ตั้งกระทู้

    ให้ตูรู้ โรคหัวใจ เพื่อไรหนอ

    เห็นมาโพส ฮีลบ่อยๆ โถ่คุณพ่อ

    ก๊อบคุณหมอ จากโรงบาล อ่อแล้วไป

    นึกว่าเขียน ขึ้นเอง เหมือนจะเก่ง

    อยู่ดีๆ เห็นโพสเน้น ฮีลทั้งบอด

    ว่างๆเล่น แบทเทิลฟิล เปเชี่ยลฟอสสส

    ตูจะบอก เป็นกลอน เพื่ออะไร= =

    ลาก่อนนะ บอลบ้า มาโม้เล่น

    เห็นว่าเป็น คนรู้จัก เลยโพสหา

    อ้าวจำผิด เอ็งเป็นใคร จำไม่ได้อาาา 555

    ล้อเล่นน่า ไปแล้วหละ ไม่อยากกวน
    ชื่อ User ก็แล้วแต่ความชอบของคนสิครับ - -

  6. #4
    Mesut Ozil
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Ratchaburi
    กระทู้
    1,308
    กล่าวขอบคุณ
    970
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,137
    Blog Entries
    1
    พี่ภูมิกวนอ่ะ

  7. #5
    Kill Me Baby
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,443
    กล่าวขอบคุณ
    11,069
    ได้รับคำขอบคุณ: 940
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ballba อ่านกระทู้
    อนิจจา แบทเทิลฟิล ตั้งกระทู้

    ให้ตูรู้ โรคหัวใจ เพื่อไรหนอ

    เห็นมาโพส ฮีลบ่อยๆ โถ่คุณพ่อ

    ก๊อบคุณหมอ จากโรงบาล อ่อแล้วไป

    นึกว่าเขียน ขึ้นเอง เหมือนจะเก่ง

    อยู่ดีๆ เห็นโพสเน้น ฮีลทั้งบอด

    ว่างๆเล่น แบทเทิลฟิล เปเชี่ยลฟอสสส

    ตูจะบอก เป็นกลอน เพื่ออะไร= =

    ลาก่อนนะ บอลบ้า มาโม้เล่น

    เห็นว่าเป็น คนรู้จัก เลยโพสหา

    อ้าวจำผิด เอ็งเป็นใคร จำไม่ได้อาาา 555

    ล้อเล่นน่า ไปแล้วหละ ไม่อยากกวน

    กลอนโคตรเจ๋ง อะ คิดได้ไงวะ โอ้จอร์จ

  8. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Thailand,Bangkok
    กระทู้
    211
    กล่าวขอบคุณ
    1,851
    ได้รับคำขอบคุณ: 133
    อาการ ของผมไม่เห็นมีในที่บอกเลยอะ... แปลกๆแห่ะ

    ผมเวลาเล่นกีฬามากเข้า มันจะเจ็บตรงที่อกซ้ายตลอดแล้วเริ่มเจ็บมากขึ้นพอผ่านไปสัก1-2นาทีก็ดีขึ้น

    ไปตรวจที่ โรงพยาบาล หมอก็บอกว่าหัวใจปกติ แต่ก็บอกว่าอาจเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ

    เพราะเวลาวิ่งทุกครั้งผมจะไม่เหนื่อยเลยเพราะวิ่งแข่งมาตั้งแต่ ป.5 (เหรียญทองนิดๆภูมิใจ 5 5 +)

    จะเป็นแบบเป็นเวลามากไม่รู้ทำไม 2 อาทิตย์ผมจะเจ็บแบบนี้ ทุกครั้ง (มันมาเป็นเวลาเนอะ !)

    ปล. ผมเป็นนักกีฬาบาสครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดขึ้นเพราะซ้อมมากไปรึเปล่าแต่ถึงไม่ซ้อมมันก็เป็นตลอด แต่ผมซ้อมวันหนึ่ง 6-7 ชม. ไม่รู้มากไปป่าว

  9. #7
    Mesut Ozil
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Ratchaburi
    กระทู้
    1,308
    กล่าวขอบคุณ
    970
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,137
    Blog Entries
    1
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ peak5306 อ่านกระทู้
    อาการ ของผมไม่เห็นมีในที่บอกเลยอะ... แปลกๆแห่ะ

    ผมเวลาเล่นกีฬามากเข้า มันจะเจ็บตรงที่อกซ้ายตลอดแล้วเริ่มเจ็บมากขึ้นพอผ่านไปสัก1-2นาทีก็ดีขึ้น

    ไปตรวจที่ โรงพยาบาล หมอก็บอกว่าหัวใจปกติ แต่ก็บอกว่าอาจเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ

    เพราะเวลาวิ่งทุกครั้งผมจะไม่เหนื่อยเลยเพราะวิ่งแข่งมาตั้งแต่ ป.5 (เหรียญทองนิดๆภูมิใจ 5 5 +)

    จะเป็นแบบเป็นเวลามากไม่รู้ทำไม 2 อาทิตย์ผมจะเจ็บแบบนี้ ทุกครั้ง (มันมาเป็นเวลาเนอะ !)

    ปล. ผมเป็นนักกีฬาบาสครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดขึ้นเพราะซ้อมมากไปรึเปล่าแต่ถึงไม่ซ้อมมันก็เป็นตลอด แต่ผมซ้อมวันหนึ่ง 6-7 ชม. ไม่รู้มากไปป่าว
    ลองลดๆดูซิครับ


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top