เรียนนิเทศแล้ว ไส้แห้ง จริงเหรอ ?

[potaepuf]

กลับมาแล้วครับ กับผม PotaePUF คราวนี้ มีปัญหานิดหน่อยครับมาเล่าให้ฟัง

ผมเรียนสาขานิเทศศาสตร์ครับ แต่พี่ชายผมอยากให้ผมไปเรียนด้าน วิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งผมไม่ถนัดเลย (ผมเรียนสายศิลป์)

นี่ขนาดผมจะขึ้นปี 2 จะให้ไปเรียนเพิ่มเกี่ยวกับ วิทยาการคอมฯ ก็ไม่รู้นะครับว่าพี่ชายผม คิดอะไรอยู่

ผมเรียนนิเทศ จบไป เพื่อทำงานด้านวิทยุครับ แพลนไว้ว่าตอน ปี 4 จะไปฝึกงานด้านวิทยุ กับ อสมท อ่ะครับ

พี่ชายผมเลยพูดออกมาว่า "ตรูว่า****ไส้แห้งว่ะ" โห ผมได้ยินอย่างนี้แล้ว ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะผมถนัดที่จะจัดรายการวิทยุ ไม่ได้ถนัดในเรื่องช่างเทคนิคอะไรหรอก (แต่เพื่อนผมอยู่วิทย์คอมครับ ก็พอคุยเรื่องวิทย์คอมให้ฟังบ้าง)

ผมจัดรายการวิทยุชุมชน ในเชียงใหม่ครับ แต่ตอนนี้ คลื่นวิทยุปิดครับ (จากที่เคยคลื่นแทรกตอนนี้ไม่มี)

แล้วชาว JKG ละครับ คิดยังไงกับเรื่องนี้ แล้วที่ว่า เรียนนิเทศแล้วไส้แห้ง จริงหรือ ? ช่วยบอกกันมาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

[Patarathorn]

ไม่มีอาชีพไหนใส้แห้งหรอกครับ เหมือนที่ อ.เฉลิมชัยบอก ที่ใส้แห้งเพราะมันกระจอกเองครับ

[theneddube]

[alonedevil]

ไม่มีอาชีพไหนใส้แห้งหรอกครับ เหมือนที่ อ.เฉลิมชัยบอก ที่ใส้แห้งเพราะมันกระจอกเองครับ

ถูกต้องครับ ผมจบวิศวะที่ไม่ใช่สาขาตลาด หางานยากนะ แต่เป็นเพราะเราเลือกมากเองหละ นิเทศ ถ้าเก่งจริง หรือ ขวนขวาย ไม่ตกงานแน่ๆครับ

[kadajjang7]

เราคนนึงเพิ่งเรียนนิเทศเพิ่งจบมา เชียงใหม่เหมือนกันนะคะ ที่ว่าไส้แห้งนะไม่หรอกนะ อยู่ที่ความสามารถ เราไปได้ไกล
เรียนนิเศสามารถทำงานได้หลายสายรวมไปถึงงานจับฉ่ายเลยละ คือครบสูตรเลย มีตั้ง 4 แขนง ได้เปรียบนะ
อยู่ที่คนเราจะเลือกว่าเราจะเดินเส้นทางไหนยังไง วิชานิเทศศาสตร์มันครอบคลุมทุกอย่างเพียงแต่เราต้องฝึกฝนคิดวิเคราะห์ปวดหัว
เรื่องไส้แห้งไม่หรอกนะ แต่หางานในเชียงใหม่ค่อนข้างยาก ถ้าไม่เก่งจริงๆหรือมีความสามารถก็เป็นไปได้ยากอยุ่ที่ความขยันจ้า

ปล.เราเพิ่งจบมาใหม่ๆ นิเทศเนี้ยะละ กำลังคิดว่าจะออกไปแตะขอบฟ้าในสายงานที่ตัวเองไม่ได้เรียน ฮ่าๆๆ แต่ต้องขอบคุณวิชานิเทศศาสตร์นี้ละที่ทำให้เราได้เรียนรู้และทำงานได้หลากหลาย อันนี้คอนเฟิร์มเลย ตรงๆว่า "ไม่ไส้แห้งเด็ดขาด..อยู่ที่ตัวเรา."

คหสต.นะคะ ^^

[บุรุษฟ้า-ขาว]

เรีอนอะไรที่เราชอบผมว่าจบมาไม่ใส้แห้งครับ
เรียนเต็มที่ ทำงานเต็มที่ สนุกกับมันมีความสุขกับงานที่ทำก็พอแล้วครับ

[markops]

พี่คุณมัน บ้า ไปเชื่อ เขา อยากเรียนไรก็เรียน จบมา
ทำงาน ไม่ตรงสายจบ เยอะไปครับ จบ IT ไปขายไข่ อย่างมี จบ วิทย์คอม ไปขายปลา อย่างไงมี

มันแล้วแต่ความสามารถของคน แล้วก็ขึ้นกับการแข่งขันมัน สูง ขึ้น ยิ่ง ปี 58 เปิดอาเชีย หางานยากเข้าไปอีก
เพราะคนมีความสามารถจากต่างประเทศ อยากมาทำที่ไทยจะตาย

ตอนนี้ผมเรียน IT อยู่
อยากจะไปทำ Graphic Design , System Analysis

ยากอยู่แต่จะลอง

[potaepuf]

พี่คุณมัน บ้า ไปเชื่อ เขา อยากเรียนไรก็เรียน จบมา
ทำงาน ไม่ตรงสายจบ เยอะไปครับ จบ IT ไปขายไข่ อย่างมี จบ วิทย์คอม ไปขายปลา อย่างไงมี

มันแล้วแต่ความสามารถของคน แล้วก็ขึ้นกับการแข่งขันมัน สูง ขึ้น ยิ่ง ปี 58 เปิดอาเชีย หางานยากเข้าไปอีก
เพราะคนมีความสามารถจากต่างประเทศ อยากมาทำที่ไทยจะตาย

ตอนนี้ผมเรียน IT อยู่
อยากจะไปทำ Graphic Design , System Analysis

ยากอยู่แต่จะลอง

รู้สึกว่า คุณจะพูดแรงไปนิดนะครับ 555+

[banzsmart]

ผมว่าถ้าเราจะไส้เเห้งก็เพราะเรียนเอกชนมากกว่าครับค่าเทอมเยอะ ///*-*หลบทีน

ขยันซะอย่างไม่อดตายหรอกครับ

[liger0000]

เรียนสายนี้งานมันล้นแล้วคับ นิเทศส่วนใหญ่ที่เรียนคือ
1.มันง่ายเป็นคณะสำหรับเด็กกิจกรรมของแท้ เน้นกิจกรรมมากกว่าวิชาการ
2.หลายคนเรียนเพราะหวังเข้าวงการบัญเทิง

แต่
1.งานสายบันเทิงเนี้ย โอกาศได้งานมันเหมือนโดนอุกาบาตตกใส่บ้านมากกว่าได้ปริญญาแล้วจะได้งาน หรือไม่ก็ต้องใช้เส้น ใช้เต้ากว่าจะได้เป็นดารา
2.ได้ก็ได้ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ งานหนักเงินน้อย แถมทำงานก็ไม่เป็นเวลำเวลา
3.แต่ที่สำคัญสายงานมันเต็มแล้วคับงานน้อยคนเรียนเยอะ

4คณะ ที่อันตรายถ้าเรียน
นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิเทศศาสตร์ บริหารธุรกิจ

จริงๆจบมาใบปริญญามันก็กระดาษเช็ดตูดอะแหละ สมัยนี้คนทำงานไม่ตรงสายเยอะ เคยได้ยินนะจบนิเทศไปซ่อมจักรยาน สมัยนี้น้อยคณะที่จะจบบมาได้งานตรงสายและได้เงินดีๆ ขนาดวิศวะยังตกงานเลย
ระดับปริญญาเนี้ยบอกตรงๆล้นตลาด

[inmyhate01]

จะไส้แห้งไม่แห้งมันอยู่ที่คุณครับ ถ้ารู้จักไขว่คว้าหาโอกาศให้ตัวเองแอคทีฟตัวเองอยู่เสมอ ไม่ใช่นอนเกาไข่ไปวันๆ ยังไงมันก็มีกินครับ โอกาศมันมีหมดทุกคนแหละครับ ถ้าเรารู้จักเข้าไปหามันเอง ไม่ใช่รอให้มันเข้ามาหาเรา แล้วพวกที่ชอบบอกว่าเรียนคณะนี้ สาขานี้ แล้วจบไปมันจะทำไรกิน ผมว่าไอ่ความคิดแบบนี้มันไร้สาระสิ้นดี เวลาจะทำงานอ่า ถ้าคิดเพียงแค่จะทำเงินให้มากๆเพียงอย่างเดียวชีวิตมันจะมีอะไรนอกจากเป็นเหมือนเครื่องจักรที่วางโปรแกรมเอาไว้เท่านั้น การทำงานที่ดีที่สุด คือทำตามสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขไปกับมัน ถึงแม้ผลตอบแทนที่เป็นค่าของเงินที่ได้มันจะไม่มากนัก แต่มันมีสิ่งตอบแทนที่มีค่ามากกว่าเงินซะอีกว่ะ ก็ไม่รุ้สินะ ผมคิดว่าผมอาจจะคิดไม่เหมือนคนอื่น เพราะพอดีผมเป็นพวกทำด้วยใจรักมากกว่า ทำเพราะต้องการค่าตอบแทนมากๆ

[sattawat1979]

ไม่มีใครไส้แห้งหรอกครับ เวลาขับถ่ายมันก็ต้องผ่านลำไส้ครับ และน้ำจะถูกดูดซึมออกจากกากอาหารกลายเป็นขี้ ก็ที่ลำไส้นี่แหละครับ

ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไส้แห้งครับ การดื่มน้ำมากๆก็ช่วยให้การชับถ่ายดีขึ้นเหมือนกัน

[potaepuf]

ไม่มีใครไส้แห้งหรอกครับ เวลาขับถ่ายมันก็ต้องผ่านลำไส้ครับ และน้ำจะถูกดูดซึมออกจากกากอาหารกลายเป็นขี้ ก็ที่ลำไส้นี่แหละครับ

ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไส้แห้งครับ การดื่มน้ำมากๆก็ช่วยให้การชับถ่ายดีขึ้นเหมือนกัน

รู้สึกว่า จะคนละความหมายนะครับ ไม่รู้ว่า เม้นเพื่อความฮาหรือเปล่า

ไส้แห้ง หมายถึง ทำอาชีพใดแล้วไม่รุ่ง ไม่มีชื่อเสียง อาจประกอบอาชีพได้ไม่เต็มที่

แต่ความหายของคุณ คือ ลำใส้ภายใน มันเกิดอาการแห้ง ไม่มีอาหารหรือน้ำไปดูดซึม โหย คนเราหนอ 555

[sattawat1979]

รู้สึกว่า จะคนละความหมายนะครับ ไม่รู้ว่า เม้นเพื่อความฮาหรือเปล่า

ไส้แห้ง หมายถึง ทำอาชีพใดแล้วไม่รุ่ง ไม่มีชื่อเสียง อาจประกอบอาชีพได้ไม่เต็มที่

แต่ความหายของคุณ คือ ลำใส้ภายใน มันเกิดอาการแห้ง ไม่มีอาหารหรือน้ำไปดูดซึม โหย คนเราหนอ 555

อ้าว เหรอครับ ขอโทษที 555555

[mooshirogane]

เราคนนึงเพิ่งเรียนนิเทศเพิ่งจบมา เชียงใหม่เหมือนกันนะคะ ที่ว่าไส้แห้งนะไม่หรอกนะ อยู่ที่ความสามารถ เราไปได้ไกล
เรียนนิเศสามารถทำงานได้หลายสายรวมไปถึงงานจับฉ่ายเลยละ คือครบสูตรเลย มีตั้ง 4 แขนง ได้เปรียบนะ
อยู่ที่คนเราจะเลือกว่าเราจะเดินเส้นทางไหนยังไง วิชานิเทศศาสตร์มันครอบคลุมทุกอย่างเพียงแต่เราต้องฝึกฝนคิดวิเคราะห์ปวดหัว
เรื่องไส้แห้งไม่หรอกนะ แต่หางานในเชียงใหม่ค่อนข้างยาก ถ้าไม่เก่งจริงๆหรือมีความสามารถก็เป็นไปได้ยากอยุ่ที่ความขยันจ้า

ปล.เราเพิ่งจบมาใหม่ๆ นิเทศเนี้ยะละ กำลังคิดว่าจะออกไปแตะขอบฟ้าในสายงานที่ตัวเองไม่ได้เรียน ฮ่าๆๆ แต่ต้องขอบคุณวิชานิเทศศาสตร์นี้ละที่ทำให้เราได้เรียนรู้และทำงานได้หลากหลาย อันนี้คอนเฟิร์มเลย ตรงๆว่า "ไม่ไส้แห้งเด็ดขาด..อยู่ที่ตัวเรา."

คหสต.นะคะ ^^

เพิ่งจบคณะนิเทศเหมือนกันเลยครับ