[กระทู้ออกนอกโลกอีกครั้ง] 20 เรื่องราวสุดทึ่งที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งที่คุณเคยรู้เกี่ยวกับจักรวาล

[SeeU]

20 เรื่องราวสุดทึ่งที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งที่คุณเคยรู้เกี่ยวกับจักรวาล (อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ)


1.) จุดสีแดงขนาดใหญ่ (Great Red Spot) ขนาดกว้าง 40,000 กิโลเมตรบนดาวพฤหัสบดีนั้นเป็นพายุที่หมุนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ปี เมื่อมองจากมุมบนแล้ว เราสามารถที่จะเอาโลกของเราใส่เข้าไปได้มากกว่านั้นถึงสามเท่าเพื่อให้เต็มจุดสีแดงที่เป็นพายุดังกล่าวเลย





2.) แย้งกับความเชื่อของคนทั่วไป จริง ๆ แล้วโลกของเรามีดวงจันทร์มากกว่าหนึ่งดวง Cruithne (ดวงจันทร์ดวงที่สองของโลก) เป็นหนึ่งในหกของดาวเคราะห์น้อยกึ่งดาวเทียมที่หมุนในวงโคจรเดียวกันที่อยู่ใกล้กับโลก




3.) วัตถุขนาดเท่าดาวอังคารเคยพุ่งชนโลกเมื่อ 4.5 พันล้านปีที่ผ่านมา





4.) อุณหภูมิเฉลี่ยของดวงอาทิตย์นั้นอยู่ที่ 9,941 องศาฟาเรนไฮต์





5.) ดวงอาทิตย์มีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 300,000 เท่า





6.) โฟตอนต้องใช้เวลาถึง 170,000 ปีโดยประมาณ ในการเดินทางจากแกนกลางของดวงอาทิตย์มายังพื้นผิวภายนอก





7.) ในทางกลับกัน โฟตอนใช้เวลาเพียงแค่ 8 นาทีในการเดินทางจากแกนกลางโลกมายังพื้นผิวภายนอก




8.) นักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะค้นพบดาวเคราะห์ที่หายไปกว่า 21 ปี ในแสงจ้าของซูเปอร์โนวา





9.) นักบินอวกาศได้ทิ้งกระจกไว้บนพื้นผิวของดวงจันทร์ระหว่างที่ลงจอด นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้กระจกดังกล่าวเพื่อสะท้อนแสงเลเซอร์ไปยังมันไว้ใช้สำหรับวัดระยะที่แน่นอนจากดวงจันทร์มายังโลก




10.) ดวงอาทิตย์เดินทางรอบกาแล็กซีมามากกว่า 100,000 ปีแสงแล้ว นั่นเท่ากับกินเวลาถึง 200 ล้านปีเลยทีเดียว





11.) เราสามารถนำดาวเคราะห์ทั้งหมดในระบบสุริยจักรวาลของเรามาวางลงไปในระหว่างระยะทางระหว่างโลก และดวงจันทร์ได้อย่างพอดี





12.) มีดาวเคราะห์มากกว่าพันดวงถูกค้นพบในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา





13.) ดาวพฤหัสบดีมีขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์อื่น ๆ ในระบบสุริยจักรวาลรวมกันถึงสองเท่าครึ่ง



**ปรากฎการณ์ดวงตาไซคลอป ที่ดวงจันทร์บริวาร "แกนิมีด " (Ganymede) เคลื่อนผ่านดาวพฤหัสที่กล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลจับภาพได้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2014 ที่ผ่านมา



14.) มีมนุษย์เพียงแค่สามคนเท่านั้นที่ตายนอกชั้นบรรยากาศ



**หนึ่งในสามที่รู้จักคือ Vladimir Komarov นักบินของยานอวกาศ "โซยุซ 1" (Soyuz 1) สหภาพโซเวียต เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 เมษายน ปี ค.ศ. 1967

เพิ่มเติมที่ : unigang.com



15.) ดาวอังคารเป็นบ้านของภูเขาโอลิมปัส (Mount Olympus) ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในระบบสุริยจักรวาล โดยมีความสูง 21 กิโลเมตร และกว้าง 60 กิโลเมตร ขนาดของมันพอๆ กันกับประเทศไอร์แลนด์เลยทีเดียว





16.) เนื่องจากไม่มีชั้นบรรยากาศบนดวงจันทร์ รอยเท้าจาก Apollo 11 ในปี 1969 นั้นยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้





17.) หนึ่งช้อนโต๊ะของดาวนิวตรอนจะมีน้ำหนักประมาณ 10 พันล้านตัน





18.) ดวงอาทิตย์คิดเป็น 99.86% ของมวลทั้งหมดในระบบสุริยะของเรา




19.) แกนกลางของดาวฤกษ์มีอุณหภูมิสูงถึง 16 ล้านองศาเซลเซียส เพียงแค่ทรายไม่กี่หยิบมือที่มีความร้อนขนาดนี้สามารถที่จะฆ่ามนุษย์ที่อยู่ห่างออกไป 150 กิโลเมตรได้เลย





20.) คุณสามารถที่จะมองเห็นกาแล็กซีอื่นด้วยตาเปล่า อย่างเช่น กาแล็กซี Andromeda ที่อยู่ไกลออกไป 2.2 ล้านปีแสง



ขอบคุณที่แวะเข้ามารับชม

ที่มา : kiitdoo.com

[GhostGamerTVChannel]

ชอบมากๆเลยฮะ

[~FeaR~]

ข้อ 3 เมื่อโลกโดนชนแล้ว ฟื้นฟูตัวเองได้อย่างไรครับ

ข้อ 11 ผมงงอ่ะครับ ใครช่วยอธิบายได้บ้าง

[macza999]

ข้อ 3 เมื่อโลกโดนชนแล้ว ฟื้นฟูตัวเองได้อย่างไรครับ

ข้อ 11 ผมงงอ่ะครับ ใครช่วยอธิบายได้บ้าง

ข้อ3 โลกเกิดการระเบิด และ ทำให้แมกม่า ใต้พื้นโลกไหลออกมา แต่ต้องใช่เวลา หลายล้านปีกว่าจะ เป็นแผ่นดินใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ข้อ11 ระยะห่าง ระหว่าง โลกไปดวงจันทร์ จะเท่ากับ ระยะ ของดาวทั้งหมดมาเรียงกัน
(ปล. ผมเข้าใจถูกมั้ย)

[romeo007]

ข้อ 3 เมื่อโลกโดนชนแล้ว ฟื้นฟูตัวเองได้อย่างไรครับ

ข้อ 11 ผมงงอ่ะครับ ใครช่วยอธิบายได้บ้าง

ข้อ 3 ถ้าผมจำไม่ผิดน่ะครับ *ย้ำนะครับถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นการชนแบบเฉียดๆไม่ได้โดนเข้าตรงแกนกลางของโลก มันจึงทำให้โลกเอียงแล้วเศษดินอะไรต่างๆที่กระจัดกระจายออกมาจากโลกรวมตัวกันมาเป็นดวงจันทร์อีกทีครับ ซึ่งทำให้โลกมีความเสถียรมากกว่าเดิม และมีเวลา 1 วันเป็น 24 ชม.
ข้อ 11 ไม่รู้เหมือนกันครับ รอท่านอื่นมาตอบ ผมอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ฮ่าๆ

ผิดก็ขออภัยอย่างสูง

[noxx]

Vladimir Komarov คือ วีรบุรุษที่แท้จริงของสหภาพโซเวียต

[sepumma]

17.) หนึ่งช้อนโต๊ะของดาวนิวตรอนจะมีน้ำหนักประมาณ 10 พันล้านตัน

อันนี้ผมว่าสุดยอดมากครับ

[CanDiiZ]

แหม่ น้ำตาจะไหล

สาระทั้งนั้น T-T

[jackiiez]

ข้อ 11 ก็ถ้าเอา ดาวเคราะห์ทุกดวง มาเรียงๆๆๆเข้าแถวแบบติดๆกัน ดาวชนดาว

จะเอามาเรียงได้ทุกดวง ตั้งแต่ พุธศุกร์อังคารพฤหัสเสาร์ โดยยกทั้งหมด มาวางไว้ระหว่าง โลก-ดวงจันทร์ ได้พอดี

ก็จะเป็น โลกพุธศุกร์อังคารพฤหัสเสาร์ดวงจันทร์ ได้พอดี โดยที่ไม่เหลือช่องว่าง และไม่ทับกัน พอดีไง

ประมาณนี้นะ ดาวอาจจะไม่ครบๆ

ถ้าเรียงติดกันได้งี้ ก็นั่งรถไปดวงจันทร์ได้เลยนะนั่น 555555

[HADOKEN]

ข้อสามไม่เฉียดนะครับ แต่เป็นการชนจังๆเลย

ก่อนหน้าการชนครั้งนั้นโลกเราหมุนช้ามากสนามแม่เหล็กก็อ่อนมากเพราะแกนโลกเล็กเกินไป แต่การชนครั้งนั้นทำให้แกนโลกกับดาวเคราะห์หลอมรวมกัน แกนโลกใหญ่ขึ้น ร้อนขึ้น หมุนเร็วขึ้น ทำให้มีสนามแม่เหล็กมากขึ้น ทำให้โลกเป็นโลกแบบทุกวันนี้ และการชนครั้งนั้นทำให้เศษที่เหลือที่ไม่มาหลอมรวมกับโลกเรา ถูกอวกาศกดรวมกันกลายเป็นดวงจันทร์ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งว่าทำไมดาวบริวารของโลกถึงมีขนาดใหญ่มาก จนเหมือนดาวคู่แฝดเมื่อเทียบกับขนาดของโลก ต่างจากดาวบริวารของดาวดวงอื่นๆในระบบสุริยะ

ข้อ 3 เมื่อโลกโดนชนแล้ว ฟื้นฟูตัวเองได้อย่างไรครับ

สมมติมีขันใบหนึ่งและมีน้ำอยู่เต็มขัน น้ำในขันนิ่งสงบ และคุณทดลองโยนหินลงไปในน้ำแรงๆ จะทำให้น้ำกระเพื่อม และบางส่วนกระเซ็นขึ้นมาและร่วงลงไปรวมกับน้ำในขันคืน และบางส่วนก็กระเซ็นออกจากขัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน น้ำในขันก็สงบนิ่งอีกครั้ง

น้ำในขันมีแรงโน้มถ่วงและทำให้อยู่รวมกันในขัน เช่นเดียวกับโลกในช่วงปฐมภูมิ ที่ถูกอวกาศกดให้อยู่รวมกัน เมื่อโลกโดนชน หินและเหล็กก็กระจายออกไปในอวกาศ แต่ก็ถูกแรงกดของอวกาศทำให้กลับมาหลอมรวมกันอีกครั้ง และบางส่วนที่กระจายออกไปไกลมากเกินไปแต่ยังโคจรอยู่รอบโลก ก็ค่อยๆหลอมรวมกันกลายเป็นดวงจันทร์